วินาทีแรกที่รถมาจอด หลังจากพรีมนั่งเอามือจิกเข้าหากันจนเจ็บมาตลอดทางนั้น ความรู้สึกถัดมาต่อจากนั้นคือ .... หัวใจเธอเต้นแรงมาก...
" ที่นี่..มันที่ไหนคะ.."
ในขณะเสียงถามดังขึ้น คนถามยังก้มหน้าอยู่เลย เพราะภาพตรงหน้าที่เธอเห็นมันเป็นตึกคอนโดของคนพามาชัดๆ
" ที่ๆเราจะดูดาวกันไงล่ะคะ "
" ไม่ใช่ห้องพี่หรอกเหรอคะ "
" หืม.." ก่อนคำถามนี้ของพรีมจะถูกขัดด้วยเสียงปิดเครื่องยนต์ และปลดเข็มขัดนิรภัย " ดูได้ค่ะ มองออกไปจากดาดฟ้าของตึกนี้ "
" เหรอคะ.."
ถึงแม้ว่าคำบอกเล่าของเขาจะน่านับถือ หรือมีเปอร์เซ็นเชื่อได้สักเท่าไหร่ เพราะรอยยิ้มเสมือนความจริงใจที่เขานั้นหยิบยื่นให้ทุกครั้งที่พูด ทว่า.. พรีมก็ยังคงถามใจตัวเองเหมือนเดิมอยู่ดี
...ทำไมแกไม่ทำตามหน้าที่ควรจะทำฮะ...
แค่กินข้าวให้จบเมื่อครู่ ก็คงไม่ต้องมานั่งกดดันอยู่แบบนี้แล้ว
...นี่แกแพ้ความหล่อเขาจริงๆ อย่างที่ขิมเคยว่าไว้ใช่ไหม...
" ครับผม.. โอเค ลงเลย "
ก่อนจะรู้ตัวว่าความคิดตัวเองนั้น หมดความหมายไปก็ตอนที่รัลโด้เดินมาเปิดประตูให้ พร้อมประคองเธอเดิน ซึ่งนั่นแน่นอนว่า เธอจะไม่มีสิทธิ์ปลีกตัวออกมาได้อีก จนกระทั่งมาถึงห้องของเขา รัลโด้ผ่ายมือเชื้อเชิญอีกครั้ง
" เชิญคร้าบคนสวย.."
พรีมที่เหมือนจะลังเลในตอนแรก ถึงกับเบิกตากว้าง
... ห้องสวยชะมัด...
มีประโยคนี้เผยออกมาจากสมอง พร้อมเท้าเธอก้าวเข้าไป
" ค่ะ ^^"
ก่อนจะมาสะดุ้งเล็กน้อย ก็ตอนที่ประตูถูกปิดลง
" เดี๋ยวน้องพรีมนั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ พี่ขอไปเตรียมกล้องแปปนึง "
" ได้ค่ะ "
ก่อนก้นงอนของเจ้าหล่อนจะถูกจัดให้นั่งอยู่บนโซฟานั่น โดยที่รัลโด้เดินหายเข้าไปอีกห้องหนึ่ง
...สิบนาทีต่อมา..
" รอนานไหมครับ "
" ไม่ค่ะ ^^ "
รัลโด้เดินออกมาพร้อมกระเป๋าสะพายสีดำ ในขณะที่อีกมือถือกระป๋องน้ำอัดลม ก่อนจะยื่นให้พรีม
" อะ มีแค่นี้ล่ะค่ะในตู้ยินพี่ อยู่คนเดียวเลยซื้อแต่ของตัวเอง ไว้วันหน้าน้องพรีมมีโอกาสมาที่นี่อีก พี่จะซื้อน้ำผลไม้มาไว้ให้นะ "
" เอ่อ.."
" ^^ "
นับว่ารัลโด้เป็นผู้ชายที่อันตรายมากคนนึงเลยทีเดียว
ความฉลาดเป็นกรดในเรื่องหลอกผู้หญิงก็ยิ่งมีมากไปใหญ่ ในขณะที่เขานำน้ำอัดลมมาให้แทนที่จะเป็นน้ำส้มคั้นอย่างเช่นในละครนั้น ทว่ากลับไม่ใช่เลย นั่นเพราะเขาต้องการไม่ให้เหยื่อมีโอกาสมาลอบสงสัยเขา บวกกับรอยยิ้มและคำพูดที่ซื่อตรงเสมือนจริงใจนั้น ยิ่งทวีคูณความเชื่อเข้าไปอีก เลยไม่แปลกที่พรีมเลือกจะรับมันมา และดื่มซะหมดกระป๋องเพราะความเกรงใจ
... ซึ่งเธอจะไม่มีทางรู้เลยว่า ในอนาคตข้างหน้าของเธอกำลังจะหายไปแล้ว...
" จุ จุ จุ นมน่ากินเป็นบ้าเลยว่ะ "
" กูก่อน "
" อะไรวะ "
" เอาอีกแล้วนะมึง คราวก่อนกูเคาะประตูตั้งนาน เอานานชิบเป๋ง "
" เหอะ เหอะ ช่วยไม่ได้ ถ้าของมันดี กูก็ต้องเบิ้ลสิวะ "
" โหย..ไอ้โด้!"
" ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ต้องเป็นกูคนแรก มึงถอดเสื้อน้องเขาดิ้ "
เสียงทุ้มกระหึ่มของผู้ชาย ดังกึกก้องไปทั่วห้อง พรีมขมวดคิ้วงัวเงียจนกระทั่งตื่น ก่อนจะเบิกตาโตกับภาพนี้
" อะไรกันคะ! O.O"
ซึ่งอยู่ตรงหน้า ผู้ชายสามคนกำลังจะรุมเธอ ด้วยสภาพเปลื้องเสื้อเหลือเพียงกางเกงยีนต์ตัวเดียว
" ตื่นแล้วเหรอคะ.. น้องพรีม.."
และหนึ่งในนั้นก็คือ ...
"รัลโด้.. "
" ครับผม "
ก่อนพรีมจะยันตัวลุกขึ้น เพราะตกใจกับสารรูปตัวเอง ที่มันเหลือเพียงชั้นในตัวน้อยๆ
" ทำอย่างนี้ได้ยังไงคะ!!!"
ทว่า กลับถูกผลักลงไปใหม่ รุมกันพันธการเสมือนเธอคือนักโทษ
" อย่านะ! อย่าเข้ามานะ "
ในขณะพรีมพยายามดิ้น แต่กลับดิ้นไม่รอด สามคนช่วยกันมัดเธอไม่พอ ยังจะปิดปากปิดจมูกเธออีก เธอพอจะเข้าใจเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับเธอแล้ว
ทว่า..ดูเหมือนมันจะสายเกินไป
" โฮกกกก! อ้วยอ้วยยยยย!"
พรีมโดนย่ำยีไม่มีเหลือ หนึ่งมือถอด อีกมือนึงกอด ผลัดกันจูบกันคลำ ทำอย่างกับเธอเป็นขอนไม้ ไม่สนว่าจะเจ้าของร่างจะขาดใจรึเปล่า
" ไม่เอา ฮือออ ไม่เอา.. "
แม้แต่เฮือกสุดท้ายที่ขาทั้งสองของเธอถูกถ่างออก เพื่อให้พวกสัตว์นรกเหล่านั้นแทรกใส่ความเป็นชายกันเข้ามา เธอทั้งจิกทั้งข่วน บ่งบอกให้รู้ว่าเธอนั้นเจ็บมาก ทว่า พวกมันก็ยังฟังเลย นับประสาอะไรกับตอนนี้..หากเธอจะขอให้เขาปล่อยเธอกลับบ้าน...
" ขิม..ฮึก เฮอ.."
ได้แต่นอนร้องไห้ ตาเหลือกมองเพดาน ปล่อยร่างกายให้เขาผลัดกันเชยชม พลันในสมองคิด
..เธอไม่น่าดื้อกับคำเตือนของขิมเลยจริงๆ ..
..ขิม.. ขิมช่วยพรีมด้วย...ช่วยที...
ถึงอยากจะตะโกนเรียกแค่ไหน ก็ทำได้เพียงในใจเท่านั้น
...เสียงของเธอไม่สามารถเปล่งออกมาเป็นรูปแบบประโยคได้ นอกจากคำว่า..
" อา..."
" ร้องสิคะ ร้องออกมา.."
" อ๊ะ!!"
" อย่างนั้นล่ะคนเก่ง "
เพราะพวกมันทั้งกัดทั้งบีบ จนเธอไม่เหลือพื้นที่ให้หยุดพักผ่อน จิกเล็บลงกับฟูก ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ระบายความกลัวเป็นเสียงสุดท้ายพร้อมกับน้ำตา!
" กรี๊ดดดดดด!!!"
แล้วก็แน่นิ่งไป..
...ทางด้านของขิม...
ตรู๊ดดดด... ตรู๊ด.....
" รับสิพรีม ทำไมแกไม่รับ "
ขิมร้อนใจสุดๆ หลังจากที่ตื่นขึ้นมา และพบว่าตีสองแล้วพรีมยังไม่กลับ
ติ้ดๆๆ
ก่อนจะตัดสินใจโทรหาอีเจ้ตัวต้นเหตุ ตามเบอร์ในนามบัตร เพื่อแค่จะถามว่าเพื่อนเธออยู่ไหน แต่ทว่า..ปลายสาย..
// ไม่มีสัญญาณตอบรับ จากหมายเลขที่ท่านเรียก //
" เฮ้ย อะไรวะ!"
เดินวนไปวนมาอย่างกับสายตรวจ พลางทรุดลงบนเตียงด้วยสีหน้าบึ้งตึง กดวางสายกำโทรศัพท์ไว้แน่น
" เหลวไหลจริงๆ เลย ..เพิ่งจะมาอยู่กรุงเทพไม่กี่วันทำตัวแบบนี้ซะแล้วเหรอ ไว้ใจมันง่ายๆได้ยังไง"
เลิกผ้าห่มเตรียมนอน ถอดหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เธอง่วงมากเลยนะ ทว่า กลับข่มหลับตาไม่ลง
นอนรอจนกระทั่งตีสาม และคิดว่ารอต่อไปไม่ไหว
" ช่างเถอะ! โตๆกันแล้ว คงจะเอาตัวรอดได้ละมั้ง ใช่ว่าจะไม่เตือนกันซะที่ไหนนี่ เกิดอะไรขึ้นกับแก ฉันก็คงไม่มีปัญญาไปตามหรอกนะ ที่นี่มันไม่ใช่ที่ของฉัน.."
ขิมบ่นอุบ เป็นการปลอบใจตัวเอง ว่าเธอนั้นได้ทำหน้าที่เพื่อนอย่างดีที่สุดแล้ว ก่อนจะหลับตาลง..เพราะต้านความง่วงไว้ต่อไปไม่ไหว
..แปดโมงเช้า...
วินาทีแรกที่ตื่น พรีมลืมตาขึ้นมาพบเสื้อผ้าตัวเองร่อนจ้น กับบริเวณรอบๆที่ดูว่างเปล่า ผู้ชายพวกนั้นคงพากันหนีไปแล้ว ทิ้งข้อความขู่ไว้ฉบับนึง
' ไม่อยากหยุดเรียนกลางคัน ก็อย่าไปบอกใคร'
กับเช็คหกหลักไว้ข้างกายเธอ
" ฮึก.."
ความเจ็บปวดจุกตรงท้องน้อย และเคืองๆตรงกลางหว่างขา บ่งบอกให้รู้เป็นอย่างดีว่าร่างพรีมนั้นไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เธอร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะร้อง ในขณะยังไม่พร้อมลุกขึ้นมาใหม่ ทอดสายตามองเพดานอย่างไร้จุดหมาย เอาแต่ตั้งคำถามกับตัวเอง
....แล้วต่อไปล่ะ เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน...
...จะมีหน้าไปเจอขิมได้ยังไง....
ทางด้านฝั่งรัลโด้ เมื่อผ่านจุดที่เสียวที่สุดมาได้ เขากับพรรคพวก ก็พากันมาสุมหัวต่อทันที แต่คราวนี้เป็นคอนโดของเพื่อนอีกคน
" เฮ้ย มันโทรมาแล้วเว้ย ไอ้โด้รับดิวะ "
เสียงโทรศัพท์สั่นเหมือนเจ้าเข้า ก่อนคนนอนใกล้มันมากที่สุดจะกดรับ
( ฮัลโหล )
" เปิดลำโพงๆ "
ปลายสายไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเสียงคนๆนึงที่พวกเขาต่างคุ้นเคยกัน
" เฮ้ยเคล ขอบใจนะเว้ย สำหรับผู้หญิงที่มึงส่งมา น่ารักดี ไอ้ฮัสกับไอ้พีชถูกใจใหญ่เลยว่ะ "
ก่อนเสียงทุ้มนั้นจะสวนออกมาด้วยความงง
( อะ..ไรนะ )
ในขณะสามคนนั้นที่หัวเราะชอบใจกันอยู่จะพากันเงียบไป หลังนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
"..เอ่อ เคล.."
( นี่พวกมึงรุมน้องเขาเรอะ!!! )
" ..พวกกู.."
( เฮ้ยไอ้ xxx มึงทำอย่างนั้นได้ยังไงวะ!!!)
" ใจเย็นก่อนเคล กูก็แค่..."
( กูหาเด็กให้ เพราะเห็นว่ามึงเครียด แล้วทำไมถึง...ไอ้บ้าเอ๊ย!! น้องเขาเต็มใจรึเปล่า ?)
" เอ่อ.."
( ว่าไง!!!) "
ก็...ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ว่ากูให้เงินไปก้อนใหญ่นะเว้ย คงจะไม่..."
( ฟัค! #/@&//* )
"....."
( น้องเขาอยู่ไหนไอ้รัล )
" เฮ้ย เคล..มึง...ใจเย็นดิวะ ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนี้เลยนี่หว่า ก็แค่ผู้หญิงคนนึง ให้เงินไปอย่างที่เราเคยทำก็จบ"
( แต่ต้องไม่ใช่การรุมโทรม ..)
" ...."
( บอกกูมา!!! น้องเขาอยู่ไหน )
" ...เคล..."
( รัลโด้!)
" ห้อง..ห้องไอ้พีช คอนโดแถว xxx "
( พวกมึงกับกู..มี เรื่อง ต้อง เคลียร์ กัน )
ติ้ดๆๆ
เคลกัดฟันเน้นคำ แล้วก็ตัดสายไป ก่อนสามคนนั้นจะอุทานพร้อมกัน
" งานเข้า "
ทางด้านของเคล หลังจากได้รับ Location ผ่าน SMS เขาก็บึ่งไปยังที่ตั้งทันที ใช้รหัสหน้าประตูตามที่เจ้าของห้องบอก ก้าวฉับๆเข้าไปในห้อง ก่อนจะไปหยุดอยู่ปลายเตียง เบิกตาอึ้งสุดๆ หลังเห็นสภาพ
" ให้ตายเถอะ..."
" กรี๊ด!!! อย่าเข้ามานะ! อย่าเข้ามา.."
" O.O"
" อย่า.."
" ใจเย็นน้อง พี่มาดี ไม่ได้จะมาทำร้าย "
พลางยกมือขึ้นเหนือหัว เมื่อร่างที่นอนอยู่บนเตียงนั้น อยู่ดีๆก็โวยวายขึ้นมา
" คุณ..เป็นใครน่ะ " เสียงอู้อี้ที่ผ่านการร้องไห้มานานถามขึ้น ในขณะเจ้าตัวใช้ผ้านวมพันร่างกาย ช้อนตาจากท่ากอดเข่าขึ้นมองเคลด้วยสภาพหัวยุ่ง "..." เคลถึงกับเงียบกริบไปไม่ถูก มองสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเขามีส่วนก่อตั้ง ไม่คิดว่ารัลโด้กับเพื่อนอีกสองคนจะทำถึงขนาดนี้ได้ สงสารจับใจ หดหู่จริงๆ " จะมาทำหนูอีกคน..." " เปล่าฮะ " รีบแทรกทันควัน ก่อนคนตรงหน้าจะเดาไปไกล " ผมมา... เอ่อ มาช่วยคุณ.." ถึงกับเสียงหาย เพราะอีกประโยคคำถามนี้ ที่พรีมเอ่ยมันออกมาพร้อมน้ำตา " ช่วย...ฮึก ช่วยทำไม " ก่อนร่างสูงในชุดลำลองดำทั้งชุดจะเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ พรีมทำท่าจะกระเถิบหนี ทว่า.. " ผมขอโทษ.." เคลกลับเอ่ยคำนี้ พร้อมอุ้งมือใหญ่ที่เข้าไปยื้อต้นแขน ทำเจ้าตัวชะงักกลางคันแล้วหันมามอง " ขะ ขอโทษทำไม.." " เอ่อ... คือ.." " คุณเป็นเพื่อนพวกนั้นเหรอ" พรีมชิงถา
เคลถึงกับเงียบกริบกับประโยคนี้ที่สาวเจ้าเน้นคำซะเขาเกือบหลุดขำ พลางเท้าสะเอวเตรียมทำศึกหนัก โดยการยียวนกวนประสาทกลับไป" ต่อยปากผมซะเลือดกลบ นี่ยังไม่สนิทกันอีกเรอะ! "เชยคางขึ้นท้าทายจะเอาเรื่อง ในขณะขิมเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน" แล้วใครใช้ให้คุณปากมอมก่อนล่ะคะ ช่วยไม่ได้ "ลอยหน้าหน้าลอยตาถาม ทำเอาเคลถึงกับอึ้ง" นี่คุณว่าผมเป็นหมาเหรอ "" คุณพูดเองนะ "" ขิม!"" บอกแล้วไงอย่าเรียกชื่อ! ถ้าไม่สนิทน่ะ..."" งั้นเดี๋ยวผมทำให้สนิทเอง "จบคำพูดของเคลแค่นั้น ข้อมือเล็กของขิมก็ถูกกระชากทันที ความแรงของมันทำคนที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับถลาเข้าไปชนแผงอก ก่อนจะ..." อ๊ะ.. อุ๊บ!! O.O "ค้างกลางอากาศ เพราะปากเธอถูกปิด"..."" อื้อออ! "กว่าจะตั้งสติได้ เวลาก็วิ่งไปมากกว่าสิบวิแล้ว มือเล็กๆคู่นั้นถึง จะรัวกำปั้นใส่ปึงๆๆ" อึก!!"ชนิดที่ว่า สุดแรงและไม่มีอั้น ทว่า ..กลับดิ้นไม่หลุด เพราะแรงชายมันมากกว่าเยอะ แถมตะปบหน้าเธอไว้อีกด้วย จนกระทั่งเคลดูดดื่มแบบสาแก่ใจ ถึงจะปล่อยเป็นอิสระ" แฮ่กๆๆ"ถึงขั้นสาวเจ้าถอยหลังมายืนหอบเหมือนวิ่งมาไกลเป็นร้อยเมตร ชี้หน้าคนตรงข้ามที่ยืนเลียปากตัวเอง ด้วยความโมโหสุดขีด"
โค้งสุดท้ายแล้วถึงห้อง ขิมเดินมาหยุดอยู่ตรงประตู ก่อนจะเคาะมันเบาๆก็อก ก็อก ก็อกไม่นานมันก็ถูกเปิดออก พร้อมกับหน้าพรีมที่โผล่ออกมา" เอ๋.." ก่อนหล่อนจะทำหน้างง " เพิ่งทำงานวันแรกไม่ใช่เหรอ ทำไมเลิกเร็วล่ะ แล้วนั่น..มือไปโดนอะไรมา "ถามขิมเสียงตื่น ทว่า เจ้าตัวกลับไม่ตอบ นอกจากเดินเฉียดบ่าเข้าไป ปล่อยพรีมยืนค้างอยู่คนเดียว ก่อนจะปิดประตูเดินตามมาเมื่อได้สติ" ขิม.."" ฉันหกล้มน่ะ ไปโรงพยาบาลมา พี่สปอร์ตเลยให้ฉันกลับก่อน "ขิมโกหก พลางก้มหน้านิ่ง อันที่จริงก่อนหน้านี้ ขิมเป็นคนเปิดเผย มีอะไรจะบอกพรีมเป็นคนแรก ทว่าตกมาวันนี้กลับไม่ใช่ ขิมรู้สึกละเหี่ยใจ เพราะคิดว่าบอกไปพรีมก็ไม่สนใจจะจำหรอก" อ่อ แต่ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม "ในขณะสาวหน้าตาจิ้มลิ้มไม่แพ้กันถามขึ้น เธอเลิกคิ้วให้เพื่อนทีนึง ก่อนจะทิ้งตัวอย่างหมดแรง เรื่องกระเป๋าสตังค์หาย กับถูกผู้ชายรังแก ขิมเปล่าเล่าหรอกนะ เพราะเธอไม่รู้จะเล่าไปทำไมเวลาผ่านไป 15 นาที ที่ทั้งห้องเงียบกริบหลังจากนั้น ในขณะขิมปริ่มๆ ทำท่าจะหลับ อยู่ๆพรีมเกิดโพล่งขึ้นมาทำเธอสะดุ้ง" วันนี้ฉันไม่ได้อยู่กินข้าวเย็นกับแกนะ "" หืม..."ปรือตาขึ้นมามอง ในขณะหัว
กิ๊งก๊อง กิ๊งก๊องเสียงกระดิ่งหน้าห้อง ทำคนนอนอยู่ยักยิ้ม ควานหารีโมทมาปิดทีวี ก่อนจะเดินไปเปิดประตูแอด..วินาทีแรกก่อนจะสบตากัน หลังประตูถูกเปิด“ ว้าย! “ขิมถึงกับยกมือบางปิดตาตัวเองแทบไม่ทัน“ ชู่วววว “ในขณะที่เคลหน้าตาตื่น ใช้นิ้วขึ้นมาแตะปาก ปรามคนมาใหม่ตรงหน้า“ อย่าเสียงดังสิ ตึกนี้ผมไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ““ ...”ทว่าสาวเจ้าร่างสูงระหง ไม่คุยด้วย เธอเอาแต่ยืนตัวตรงมือปิดอยู่แบบนั้น ทำเคลงง“ เป็นอะไร...”โน้มตัวลงไปถาม กลั้นหัวเราะ“ ก็.. ก็คุณแต่งตัวไม่เรียบร้อยอ่ะ ““ ตรงไหน “คำบอกเล่าทำเคลต้องก้มลงไปมองตัวเองใหม่ พร้อมคิ้วที่เลิกขึ้น เหมือนพอใจที่ทำขิมเขินได้“ ไม่เห็นมีอะไรเลย "“ คุณไม่ใส่เสื้อ ““ ก็แค่ไม่ใส่เสื้อ แต่ผมใส่กางเกงนะคุณ “ถึงจะเป็นกางเกงชุดนอนก็เถอะ เขาคิด ยื่นมือมาคว้าแขนขิมไว้ ทำเจ้าหล่อนยิ่งตกใจกว่าเดิม สะดุ้งโหยงเตรียมจะโวย“ อย่านะ ““ ไม่เอาน่า มาคุยกันข้างในจะดีกว่า เดี๋ยวเขาออกมาด่าเอาหรอก “เคลออกความเห็น ทว่าขิมไม่ยอม“ คุณก็เข้าไปให้มาให้หนูสิ ““ เอาอะไร “ “ กระเป๋าไง ““ ของๆ คุณ คุณก็เข้าไปเอาเองสิ หรือจะไปเอาด้วยกัน ““ จะบ้าเหรอ พูดอะไรน่ะ
' กรี๊ดดดดด! อุ๊บ..'ขิมถึงกับร้องสุดเสียงหลังจากสายตาเกิดไปปะทะของดีเข้า ก่อนจะชะงักทันควันเมื่อท้ายประโยคถูกขวางไว้ด้วยริมฝีปาก" อึก O.O "ที่ประกบลงไปพลางจูบไม่ยั้งของเคล บดขยี้ซะจนไม่มีโอกาสให้เธอได้ด่าทอ มีเพียงกรงเล็บเท่านั้นที่จิกลงบ่า และเหมือนจะลามปามไปยันแผ่นหลัง ด้วยระดับความถี่ของจูบที่มีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง .." อื้ออออออ~ ""...."เพี๊ยะ!" แฮ่กๆๆ "เคลเห็นว่าขิมหายใจไม่ออกนั่นแหละ ถึงจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ ก่อนจะหน้าหันทันทีหลังจากนั้น" อ๊ะ..""ไอ้บ้าเอ๊ย!"ตามมาด้วยคำสบถของคนบนเตียง เธอกัดฟันกรอดอย่างเหลืออด ช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูงอย่างเอาเรื่อง ด้วยความพึงพอใจที่ติดลบเป็นสิบ และอยากจะทึ้งกบาลคนตรงหน้าซะเต็มประดา แต่ทว่า กลับทำไม่ได้...มือที่เจ็บอยู่เมื่อวาน เกิดกำเริบ...และตอนนี้เหมือนเธอกำลังฝืนมันอยู่" ขิม.."" คุณมันหื่น!!" แทรกกลางคันก่อนเคลจะต้องเป็นฝ่ายเริ่มอะไร พร้อมกัดฟันข่มอาการไว้" ผมชอบคุณ! "" คุณ...ทำกับคนที่คุณชอบแบบนี้น่ะเหรอคะ"" ผม... "" คุณต้องถนอมน้ำใจไม่ใช่รึคะคุณเคล "พร้อมน้ำตาคลอเบ้า กับดวงตาที่มันสลดลง"..."ขิมไม่มองคนตรงหน้าต่อไปอีกแล้ว
ซ่า... ซ่า...สายน้ำที่ไหลลงมาจากฝักบัวช่วยให้ขิมเย็นก็จริง แต่ก็แค่ร่างกายเท่านั้น ใจเธอร้อนรนเพราะมีเรื่องคาใจบางเรื่องอยู่ เธอไม่เข้าใจทำไมพฤติกรรมของพรีมเปลี่ยนไปอย่างนั้น เหมือนไม่ใช่นิสัยของเพื่อนที่เธอเคยรู้จักคนเดิม เสียงหัวเราะกับท่าทีที่แสดงออกมา มันดูเหมือนแสร้งทำไร้ความจริงใจยังไงก็ไม่รู้ ถ้าจะให้บอกว่าแน่ใจได้ยังไง ก็สังเกตุจากใจที่มันอึดอัดของเธออยู่ตอนนี้นี่แหละ ที่จะวัดได้" เฮ้อ.. เครียดวุ้ย "เธอบ่นอุบกับตัวเอง ก่อนจะดึงผ้าเช็ดตัวมาพันร่างกายหลังจากชำระล้างมันเสร็จ ทำท่าจะเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ แต่กลับต้องมาชะงักด้วยเสียงนี้" อะไรกันค้า ประชุมตั้งแต่บ่ายยันเย็นเลยเหรอ.."เสียงโอดครวญไม่ต่างกับลูกแมวขี้อ้อนดังขึ้น และแน่นอนมันคือเสียงพรีม ถ้าให้เดาน่าจะคุยโทรศัพท์ ....ว่าแต่คุยกับใครกันนะ ทำไมมันตะหงิดๆใจชอบกล.... ขิมคิดแต่ทำเป็นไม่สนใจ เปิดประตูห้องน้ำอแสร้งทำเมินเฉย ในขณะเธอรู้นั่นแหละ ว่าพรีมมองเธออยู่ ทว่า..แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยล่ะ แม่สอนมาดีควรมีมารยาทในการอยู่ร่วมกันกับคนอื่น เธอจะไม่ทำตัวเสมือนตนแอบฟังเด็ดขาด ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ต่อให้ใส่หูฟังก็ยั
เกือบชั่วโมงของการนั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ ขิมมีเวลาคุยกับใจตัวเองก็ตอนนี้ สรุปแล้วเธอไม่ได้เก่งอย่างใครว่าใช่ไหม ที่ผ่านมาก็แค่แสร้งทำหรือว่ายังไง เพียงแค่เจอเขา เพียงแค่เห็นว่าเขามากับอีกคน ทั้งๆที่รู้ว่าเขาทิ้งเธอไปก็เพราะเรื่องนี้... แล้วทำไมยังไม่รับความจริงอีก....เวลาแห่งความเจ็บปวด กาลครั้งนึงที่คนอย่างเธอได้รู้ซึ้งถึงคำว่าอกหัก เกือบจะหกเดือนที่ผ่านมา รู้ไหมว่าเขานั้นลืมเธอ เริ่มนับวันสัมพันธ์กันใหม่กับคนของเขา แล้วทำไมเธอถึงยังไม่ลืมเขา!“ โอย...เฮอๆๆ”มือที่ทึ้งผมยาวๆนี้ กับเสียงที่แผดออกมาจนแหบ มันบ่งบอกให้คนข้างๆห้องรู้ ผู้หญิงคนนี้กำลังมีปัญหา แต่ทว่า..ใครหรืออยากมายุ่ง ขิมทิ้งตัวเองอยู่บนชักโครกนานสองนาน นานพอที่จะบอกตัวเองว่าเลิกได้แล้ว เลิกคิดถึงมันสักที น้ำตาวันนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย และจะ..ไม่เกิดขึ้นอีก ก่อนสาวเจ้าจะลุกขึ้นมาจากก้นเหวนั้น จัดแจงเสื้อผ้ารัดรูปให้เขาที่ เปิดประตูออกจากห้องสี่เหลี่ยมแคบๆนั่น เพื่อมาล้างหน้า แล้วยืดอกเดินออกไปใหม่ ทว่า..กลับมาชะงักเพราะเสียงนี้ ที่เดินตามเธอมาจากข้างหลัง“ ขิม ...น้องสวยขึ้นรึเปล่าคะ “ ...พี่แบงค์ O.O ....ทำขาเจ้ากร
อุ๊บ.O.Oขิมเบิกตาโพลงหายง่วงฉับพลัน หลังจากคนตรงหน้ายื่นปากเข้ามาแนบ บดขยี้เบาๆอย่างกับมันคืออวัยวะของตัวเอง ไร้การขออนุญาตใดๆทั้งสิ้น ทำคนถูกจู่โจมลืมหายใจไปชั่วขณะ มึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กลับนอนนิ่งเสมือนรู้เห็นเป็นใจ ใช้เพียงเล็บจิกที่นอนระบายอารมณ์เท่านั้น มาเกร็งลำตัวจริงๆก็ตอนที่เคลพยายามจะสอดลิ้นใส่ มือหนึ่งเคล้าคลึงก้อนสะโพกเธอไว้ ส่วนอีกมือเค้นเต้าอวบอิ่มเน้นๆเสมือนไม่เคยพบไม่เคยเจอในขณะความแรงของมันทำขิมสะดุ้งโหยง วินาทีนั้น สัญชาตญาณกำลังสั่งให้เธอร้องห้าม รีบขัดขืนเขาก่อนที่มันจะสาย ทว่า กลับทำไม่ได้อย่างใจคิด เมื่อคู่กรณีใช้นิ้วแข็งปริปากเธอจนมันอ้าออก" อื้อออ"ดุนลิ้นหวานเข้ามาได้สำเร็จ ควานไปทั่วเสมือนกำลังหาของที่หาย ก่อนขิมใช้อุ้งมือน้อยๆที่มีแรงเพียงนิดเดียวดันแผงอก ผลักไสทำเหมือนตัวเองนั้นไม่ต้องการมัน ทั้งๆที่ใจตอนนี้ตื่นเต้นแทบจะบ้า อยากปล่อยเลยตามเลยใจจะขาด ทว่า ด้วยจริตของหญิงบวกกับความไม่เคยนั้น จำเป็นต้องแสร้งทำ แต่แรงหญิงแค่นั้นเรอะจะมาสู้อารมณ์หื่นของชายได้ ที่ตอนนี้มันมีมากเกินไป เกินกว่าจะทนไหว“ พี่ขอได้ไหม “เคลกระซิบถามคนข้างล่างเสียงแหบ ในขณะมื
วันแห่งความสุข เข้าสู่ประตูวิวาห์ช่วงเวลาเหมาะเจาะ ดั่งใจของคนตั้งและวางไว้ งานแต่งระหว่างคนทั้งคู่ ซึ่งอายุจะห่างกันเท่าไหร่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถูกจัดขึ้นในโบสถ์แบบฉบับของคริสเตียน ปัทมาในชุดเจ้าสาวขาวผ่อง ชายกระโปรงผ้าแก้วแฝงกำมะหยี่แวววับเม็ดเล็กๆ ถูกปล่อยลากพื้นยาวเป็นวา และอีกผืนนึงเอามาปิดเครื่องหน้าไว้เล็กน้อย ทำเจ้าสาวรายนี้ช่างหน้าค้นหายิ่งนัก เดินอวดร่างบางมาพร้อมกับวงแขนให้ยืมควงอย่างยศกร พ่อผู้ให้กำเนิดอาสาเดินมาส่ง ท่ามกลางพรมแดง และพยานผองเพื่อนมากกว่าร้อยคน....ทุกคนยิ้ม เธอเองก็ยิ้ม..." ตื่นเต้นจังค่ะพ่อ ..."เสียงหวานใส ทว่า เบาหวิว กระซิบกระซาบ ระหว่างทางเดิน ยศกรเลิกคิ้วให้ลูกสาว พร้อมรอยยิ้มแค่มุมปาก พยายามอย่างมากที่จะไม่ให้น้ำตาหยดแห่งความรู้สึกหน่วงๆ ซึ่งไข่ในหินถูกขโมยไปหยดนี้ไหลลงมา เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า เขาจะต้องยกลูกสาวให้กับผู้ชายคนอื่นไปครอบครองแล้ว" ใจเย็นๆลูกรัก.. มันคือเรื่องธรรมชาติมากสำหรับผู้หญิง "" แต่มันตื่นเต้นจริงๆนี่คะ ฟังเสียงหัวใจหนูสิ มันแทบจะระเบิด "" อื้ม...พ่อรู้ลูกพ่อรู้ เก็บความตื่นเต้นตรงนั้น ไว้ใช้ในยามเบ่งหลานของพ่อจะ
ค่ำคืนที่ขิมเหนื่อยมาก แต่คงไม่เท่ากับสาวใช้ในบ้านจรัญทิพย์ หลังเก็บแก้วเปล่ากับจานชามที่เขากินกันไม่หยุดไม่หย่อนไปเก็บหลายรอบ นับตั้งแต่เช้าจวบค่ำขิมเพิ่งจะได้พัก ใช้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านานพอสมควรจนกระทั่งดึก คืนนี้เธอคงจะค้างที่คฤหาสน์หลังใหญ่นี้ เนื่องจากว่าที่เจ้าบ่าวขอเมาไปส่งเธอไม่ได้ และจะไม่ให้ไปเองด้วย เพื่อนฝูงที่ไม่รู้มาจากทางไหนไหลกันเข้ามาจนงานไม่มีกร่อยทั้งๆที่เคลยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้เชิญจริงจัง เพียงแค่บอกต่อๆกันไปเท่านั้น ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้ ขิมเลยขอตัวตั้งแต่ตอนนั้นเพราะไม่อยากจะไปยืนเก้ๆกังๆ เป็นผู้หญิงคนเดียว“ เฮ้อ..”ก็อกๆๆ“ เข้ามาได้เลยจ๊ะ “เสียงใสตะโกนออกไปทางประตู ยืนรอคอยจนกระทั่งมันเปิด“ คุณขิมคะ การ์ดอวยพรและของขวัญจากแขก พี่เจิมเก็บมาให้หมดแล้วนะคะ วางอยู่ในห้องคุณเคลค่ะ ““ ค่ะ ขอบคุณนะคะ “เธอสาวเท้าเดินตามหลัง ไม่รอช้าด้วยความตื่นเต้น“ โห้ เยอะไปหมดเลย จากใครบ้างคะเนี่ย “ห่อปากตาเป็นประกายด้วยความตื้นตันเมื่อมาถึง พลิกไปพลิกมามองดูชื่อ เธอไม่เคยรู้สึกดีใจอะไรอย่างนี้มาก่อน“ หืม มีแต่ของพี่เคลทั้งนั้นเลยค่ะพี่เจิม “หันไปยิ้มกว้างกับสาว
กิจกรรมรับน้องบรรยากาศคึกครื้นสนุกสนานถูกจัดขึ้นด้วยรุ่นพี่มากฝีมือ ให้เข้ากับน้องๆวัยใสที่เพิ่งย่างก้าวผ่านมัธยมมาไม่กี่เดือน เครื่องหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยสีผสมอาหารชนิดล้างสามวันแทบจะไม่ออก หนึ่งในนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นขิม ด้วยสภาพดูไม่จืด อาจจะเพ่งไม่ออกเลยด้วยซ้ำ หากไม่รู้จักมักจี่กันมาก่อนอย่างเช่นพรีม ที่ตอนนี้เธอยืนมองอยู่ไกลๆ รอจังหวะคนน้อยและความพร้อม คำขอโทษมันจะหลุดมาจากปากเธอตอนไหนนั้น ไม่มีใครรู้ ทว่า รับปากกับรัลโด้แล้ววันนี้เธอต้องทำ ไม่ใช่เพื่อกระเป๋าใบหรูราคาแสนแพง แต่เพื่อตัวเธอเองต่างหาก ที่แท้จริงก็ไม่อยากเป็นนักหรอกไอ้ศัตรูกับเพื่อนสมัยอนุบาล ความผูกพันธ์มันล้นเหลือมากกว่านั้นและที่สำคัญพ่อแม่ของทั้งคู่ต่างสนิทชิดเชื้อกันไม่ต่างกับญาติเพราะบ้านใกล้เรือนเคียง หนักใจแทนผู้ปกครองแน่นอน ถ้าพรีมยังคงทำตัวมีปัญหา นึกไปถึงรัลโด้ที่เคยขู่กันไว้ ตั้งแต่ต้นว่าจะทำให้เธอสิ้นอนาคตจนพ่อแม่อับอายแน่นอนถ้าหล่อนร้ายไม่เลิก ในเมื่อเลี้ยงไม่เชื่องสอนไม่จำ แถมนิสัยไม่เปลี่ยน ใครเล่าจะมายอมทน อย่างรัลโด้ยิ่งเสียเวลาเข้าไปใหญ่ การหักดิบเหล่านี้คงต้องเกิดขึ้นเข้าสักวันแน่ ขืนเธอคิดไม
ผ่านไปแล้วเรื่องดราม่า สิ่งที่ปัทมาหรือว่าขิม หญิงสาวจากชลบุรีที่บึ่งขึ้นมาเรียนกรุงเทพ เพราะเหตุผลน้ำเน่าแค่ว่า...หนีคนรัก.... วันนี้ถูกจับติด ติดกับด้วยมารดาของเธอเอง ที่มีความฉลาดไม่แพ้กัน สั่งขิมห่างกับเคลสักระยะหนึ่ง เพื่อดัดนิสัยผู้ชายใจรวนเรปากหนัก เพียงแค่สามวันเท่านั้น แต่เชื่อไหม เคลแทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย“สามวันที่ห่างก็คือห่างจริงๆสิน่า ขิมไม่รับโทรศัพท์พี่เลย “หน้าเศร้าหงอยปนสลดเกาะกระจกรถ หลังจากเปิดประตูให้หญิงสาวขึ้นมานั่ง“ ขิมเรียนหนัก พี่เคลก็รู้นี่คะ มีกิจกรรมรับน้องด้วย ““ ห้านาทีก็ไม่มีให้กันเลยเหรอ ““ แน่ะ อย่ามางอแงนะ ก็เราตกลงกันก่อนแล้ว สามวันพี่มารับ ก็นี่ไงคะสามวันแล้ว ไปค่ะ ไปกันได้หรือยัง ขิมอยากให้ปากคำจะแย่ละ ““ ทีอย่างนี้รีบนักนะ ““ อะอ้าววว ช่วยไม่ได้ ก็เพราะแฟนเก่าพี่ไม่ใช่รึไง ที่ทำเราสองคนต้องห่างกันอย่างนี้น่ะ พี่ต้องมีความแค้นฝังลึกบ้างนะ”เหลือบตามองร่างสูง ขณะเขาจ้องลงมาขมวดคิ้ว แค่ขิมเพ่งลึกเข้าไปนัยม่านตาก็อ่านใจได้แล้วล่ะ เลยชิงพูด“ ขิมไม่ยอมโทษตัวเองหรอก ที่ขิมวิ่งออกมา เพราะพี่นั่นแหละ ทำท่าเหมือนอาลัยอาวรณ์แฟนเก่าก่อนเอง ชิ “ทำเคลหล
บรรยากาศชักจะทะแม่ง เมื่อทุกคนพากันมานั่งมองหน้า ไม่มีใครเริ่มเปิดประเด็น อึดอัดมายังขิมตอนนี้ที่นั่งเอามือจิกกันจนเจ็บ ก้มหน้างุนไม่กล้าเผชิญหน้ากับใคร เธอยังไม่รู้ว่าคดีเอเดลตกบันไดนั้นได้คลี่คลายไปแล้ว ทว่า ยังคิดว่าตัวเองคือคนผิด ส่วนเรื่องหล่อนขโมยเพชรเก้ๆกังๆพร่ำจะบอก แต่ดูเหมือนจังหวะตรงนั้นยังไม่มาหาเธอสักที“เอ่อ...”ลำบากมายังคุณนายนภา ผู้กล้าแสดงออก หล่อนเห็นว่าทุกอย่างเริ่มตึงเครียด ขี้คล้านจะอยู่ตรงนี้นาน อีกทั้งต้องมาสบตากับสามีเก่าอยู่บ่อยๆ เลยต้องเป็นฝ่ายจำใจพูด แต่ทว่า กลับถูกทางฝั่งฝ่ายชาย แย่งชิงซะก่อน คุณนายอารีย์ไม่อยากถูกมองว่าหล่อนนั้นหยิ่ง เป็นเจ้าบ้านแต่กลับนั่งเงียบ ทั้งๆที่หล่อนนี้ ไม่เคยเจอะเจอเรื่องแบบนี้ ที่เป็นฝ่ายผิดแล้วต้องมารับผิดชอบใคร เลยไม่ค่อยคุ้นชิน กับคำว่าขอโทษ“ ดิฉันต้องขอโทษทุกๆเรื่อง แทนลูกชายด้วยนะคะ ที่ทำไม่ดีต่อหนูขิม ทั้งเรื่องพาเข้ามาอยู่ที่นี่ ซึ่งดูเหมือนไม่ให้เกียรติ และการคบหาดูใจกัน ดิฉันเองก็เพิ่งจะมาทราบเรื่องนี้ ก็ไม่กี่วันที่ผ่านมาเองค่ะ “สบตากันระหว่างผู้เป็นแม่ ในขณะทุกคนเอาแต่นั่งเงียบ เนื่องจากมีมารยาท“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
‘ เอ่อ..พาไปไม่ได้หรอกค่ะ ตอนนี้หนูกะว่าจะเลิกกับเขา ‘‘ ห๊ะ!!’สองคนผสานเสียง หญิงสาวถึงทีสะดุ้งเฮือก ทบทวนประโยคใหม่ ตัวเองพูดอะไรผิดไป ปาดน้ำตาทิ้งยามที่สิงขรจ้องหน้า เค้นยิ้มเสมือนรู้สันดานน้องสาว“ เลิกเรอะ! โอเค งั้นกลับบ้าน แล้วไหนเสื้อผ้าล่ะ “แกล้งถาม ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ใช่เลย เสื้อผ้าเธอไม่มีติดตัวสักชิ้น รู้อยู่แก่ใจตั้งแต่ก้าวออกมาจากคฤหาสน์หลังนั้น คนมันคิดจะเลิก มีโอกาสขนาดนั้น ทำไมยังคงทิ้งไว้อยู่“ เอ่อ...”“ แม่ ขิมมันได้กับเขาแล้ว”เงยหน้าเบิกตาโตเท่าที่เคยทำ ครั้นได้ยินประโยคที่พูด พร้อมฝ่ามือใหญ่อีกรอบ บินว่อนแล้วลงตรงกลางหัวผั๊ว!!!“ โอ้ยแม่! ““ รู้แล้ว!! แกจะย้ำให้ฉันอกแตกตายเลยรึไง แค่นี้เป็นลมมาสิบตลบ ยังไม่สาแก่ใจอีกรึ ““ ฮ่าๆๆๆ “ขณะคนเปิดประเด็นย้ำขำลั่น ต่างจากเจ้าตัวอย่างขิม คราวนี้ก้มหน้าสลดหนักกว่าเก่า ความกดดันทำเธอผสานมือเข้าหากัน หยดน้ำตาหล่นแมะลงพื้นกระเบื้อง“ ขอโทษจ๊ะแม่ “ยกมือไหว้ รู้สึกแย่สุดๆ“ เฮ้อ...ขิมเอ๊ย มาตายน้ำตื้นๆ แกห่างบ้านมาได้กี่วันทำไมแม่จะไม่รู้เล่า คบกันไม่พ้นเดือน ได้กันก็ว่าทำใจลำบากแล้ว นี่มาบอกว่าจะเลิก คิดดีแล้วหรือ...”
ระยะเวลาจากเย็นยาวมายันเที่ยงคืน จนป่านนี้เคลยังติดต่อขิมไม่ได้ ร่างสูงเริ่มหัวเสีย ใจไม่ดีขึ้นมาบ้างแล้ว ไปทั่วทุกที่ ที่คิดว่าเธอน่าจะไป รวมถึงร้านของสปอร์ตด้วย ก็ไร้วี่แวว เธอหายไปไหน คนตามหาห่วงเหลือเกิน ตัดสินใจจอดรถข้างทาง เพื่อจะพักสมองและสายตาก่อน บวกกับการดึงสติมาครุ่นคิด ทว่า..“ โธ่เว้ย!!! “ปั๊ก!! ปั๊ก!!กลับต้องระบายอารมณ์ลงบนพวงมาลัยแทน หลังจากนั้นใช้มันเป็นที่พึ่ง ฟุบหน้าลงด้วยความหมดแรงติ้ดๆ ติ้ดๆก่อนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้ง เพราะเสียงนี้ ดีใจแทบตายนึกว่าคนทีเขาตามหานั้นจะโทรมา“ ขิม!... เฮ้อ... “กลับไม่ใช่...ติ๊ด!“ ว่าไง รัลโด้ “( มึงอยู่ไหน )“ เออมีอะไร กูไม่ว่าง”( เครียดเลยสิวะ ขิมหายไป )“ มึงรู้ได้ไง “( อ้าว ก็มึงโทรมาหากู ให้กูถามพรีมว่าขิมมีเรียนช่วงไหนบ้าง ไม่ใช่เรอะ! )เจอประโยคสวนนี้มา เคลถึงขั้นลูบหน้าตัวเองทันที นี่เขาคงเบลอไปแล้วจริงๆ“ เออว่ะ กูลืมไป แล้วได้เรื่องยังไงบ้างวะ เมียมึงได้พูดอะไรออกมาอีกรึเปล่า รึต้องทำให้เจ็บที ถึงจะพูดครั้งนึง “( คงงั้นแหละ เห็นบอกว่า แม่ขิมเขาโทรมาหา เพราะติดต่อขิมไม่ได้ ในวันที่เกิดเรื่องน่ะแหละ )“ เออ แล้วไง “(
เช้าของวันถัดมา วันนี้ขิมตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เนื่องจากนอนบ้านใหญ่ ระยะทางห่างไกล หากตื่นปกติ การจราจรติดขัด เธอคิดว่าคงไม่ทัน และจะให้รอเคล ก็คงจะทำไม่ได้ รายนั้นมีเรื่องจะต้องเคลียร์ตอนเช้า และอีกอย่างมีเอกสารจะต้องอ่านก่อนเข้าประชุม เพื่อกันความยุ่งยาก ขิมเลยให้ชาญขับรถมาส่งแทน ส่วนขากลับค่อยว่ากันอีกที...มหาลัย...นับตั้งแต่มาถึง ขิมยังไม่ได้พักหายใจให้คล่องเลย งานท่วมหัวเอาตัวแทบไม่รอด ไหนจะกิจกรรมต่างๆนาๆที่เข้ามาแทรกอีก แถมมีข่าวดีว่าแม่จะมาเยี่ยมเธอด้วยนะ เพราะได้ข่าวว่าเธอนั้นคืนหอส่วนเหตุผลที่คืนหอ...เรื่องนี้ คุณนายนภายังไม่รู้ แล้วรู้มาจากไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ .. เฮอะ ก่อนเธอจะรู้ว่าสิงขรนั้นคือเพื่อนคิมหันต์ด้วยซ้ำ' แม่โทรหาพรีมเหรอ '' ก็ขิมไม่รับสาย โทรไปไม่รู้ตั้งกี่รอบต่อกี่รอบ '' โทรศัพท์ขิมพังค่ะ ตกน้ำ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้โทรไปบอก ทำให้แม่เป็นห่วง '' ฮึ แม่ไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นหรอก ก่อนหน้านั้นก็แค่เป็นห่วงเห็นขิมเงียบไป แต่ที่โทรมาตอนนี้น่ะ แม่อยากรู้ เหตุผลที่เราทิ้งพรีมให้อยู่ลำพัง แล้วเราไปอยู่กับแฟน หมายความว่ายังไง ขิมเหลวไหลใหญ่แล้วนะลูก '' แม่!! พรีมบ
‘ ไม่ได้หรอกค่ะ เตียงเต็ม ‘อยู่ๆเสียงนี้ลอยมาแทรก ร่างสูงโปร่งในคราบแหม่มยุโรป อ้าปากเหวอทันที“ ใครคะ เคล?”เลิกคิ้วถามคนข้างๆ ก่อนหันมามองขิมใหม่ มองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วบี้ปาก...“ อ้อ! เด็กในสังกัด “นั่นถึงกับทำร่างบาง เดินลงมาเหยียบพื้นด้านล่างหมาดๆ มองขวับตาไม่กระพริบ ในขณะคนกลางอย่างเคลถึงกับยกมือกุมขมับ สบตาหญิงสาวแล้วเหมือนจะไข้ขึ้น รีบลุกขึ้นจากจุดนั้นมายืนเต็มความสูง“ แฮ่ม!! “ ตัดสินใจบอกความจริงไป เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องในบ้านตอนนี้ “ เอเดล..นี่ขิม แฟนผม “เล่นเอาแม่สาวแหม่มลุกพรวดเดียวส้นสูงแทบหัก เพราะรับน้ำหนักกะทันหันแทบไม่ไหว“ ว่าไงนะคะ! “เหลือบตามามองขิม ซึ่งจังหวะนี้เธอมองอยู่ก่อนไม่แพ้กัน ก่อนจะแสร้งขมวดคิ้วยุ่งเหยิงพัวพันกันไปหมด“ ชู่ว...อย่าเสียงดังค่ะป้า ข้างบนมีเด็ก เด็กกำลังหลับอยู่”พลางห่อปากกลั้นขำ เมื่อคนตรงหน้าหลังได้ยิน ขยี้เท้ากับพรมส้นเกือบสึก“ นี่!!! แกเรียกใครป้าฮะ ““ แก...เลยเหรอ? ““ เคลคะ เด็กนี้เป็นแฟนคุณแน่รึคะ ทำไมคุณถึงได้เอาสก๊อยแบบนี้มาเป็นแฟนคะเนี่ย “หันไปฟ้องเคลใหญ่ ในจังหวะที่เขาเองก็พยายามยึดคนข้างๆไว้เหมือนกัน เพราะสาวเจ้าเตร