เกือบชั่วโมงของการนั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ ขิมมีเวลาคุยกับใจตัวเองก็ตอนนี้ สรุปแล้วเธอไม่ได้เก่งอย่างใครว่าใช่ไหม ที่ผ่านมาก็แค่แสร้งทำหรือว่ายังไง เพียงแค่เจอเขา เพียงแค่เห็นว่าเขามากับอีกคน ทั้งๆที่รู้ว่าเขาทิ้งเธอไปก็เพราะเรื่องนี้... แล้วทำไมยังไม่รับความจริงอีก....เวลาแห่งความเจ็บปวด กาลครั้งนึงที่คนอย่างเธอได้รู้ซึ้งถึงคำว่าอกหัก เกือบจะหกเดือนที่ผ่านมา รู้ไหมว่าเขานั้นลืมเธอ เริ่มนับวันสัมพันธ์กันใหม่กับคนของเขา แล้วทำไมเธอถึงยังไม่ลืมเขา!“ โอย...เฮอๆๆ”มือที่ทึ้งผมยาวๆนี้ กับเสียงที่แผดออกมาจนแหบ มันบ่งบอกให้คนข้างๆห้องรู้ ผู้หญิงคนนี้กำลังมีปัญหา แต่ทว่า..ใครหรืออยากมายุ่ง ขิมทิ้งตัวเองอยู่บนชักโครกนานสองนาน นานพอที่จะบอกตัวเองว่าเลิกได้แล้ว เลิกคิดถึงมันสักที น้ำตาวันนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย และจะ..ไม่เกิดขึ้นอีก ก่อนสาวเจ้าจะลุกขึ้นมาจากก้นเหวนั้น จัดแจงเสื้อผ้ารัดรูปให้เขาที่ เปิดประตูออกจากห้องสี่เหลี่ยมแคบๆนั่น เพื่อมาล้างหน้า แล้วยืดอกเดินออกไปใหม่ ทว่า..กลับมาชะงักเพราะเสียงนี้ ที่เดินตามเธอมาจากข้างหลัง“ ขิม ...น้องสวยขึ้นรึเปล่าคะ “ ...พี่แบงค์ O.O ....ทำขาเจ้ากร
อุ๊บ.O.Oขิมเบิกตาโพลงหายง่วงฉับพลัน หลังจากคนตรงหน้ายื่นปากเข้ามาแนบ บดขยี้เบาๆอย่างกับมันคืออวัยวะของตัวเอง ไร้การขออนุญาตใดๆทั้งสิ้น ทำคนถูกจู่โจมลืมหายใจไปชั่วขณะ มึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กลับนอนนิ่งเสมือนรู้เห็นเป็นใจ ใช้เพียงเล็บจิกที่นอนระบายอารมณ์เท่านั้น มาเกร็งลำตัวจริงๆก็ตอนที่เคลพยายามจะสอดลิ้นใส่ มือหนึ่งเคล้าคลึงก้อนสะโพกเธอไว้ ส่วนอีกมือเค้นเต้าอวบอิ่มเน้นๆเสมือนไม่เคยพบไม่เคยเจอในขณะความแรงของมันทำขิมสะดุ้งโหยง วินาทีนั้น สัญชาตญาณกำลังสั่งให้เธอร้องห้าม รีบขัดขืนเขาก่อนที่มันจะสาย ทว่า กลับทำไม่ได้อย่างใจคิด เมื่อคู่กรณีใช้นิ้วแข็งปริปากเธอจนมันอ้าออก" อื้อออ"ดุนลิ้นหวานเข้ามาได้สำเร็จ ควานไปทั่วเสมือนกำลังหาของที่หาย ก่อนขิมใช้อุ้งมือน้อยๆที่มีแรงเพียงนิดเดียวดันแผงอก ผลักไสทำเหมือนตัวเองนั้นไม่ต้องการมัน ทั้งๆที่ใจตอนนี้ตื่นเต้นแทบจะบ้า อยากปล่อยเลยตามเลยใจจะขาด ทว่า ด้วยจริตของหญิงบวกกับความไม่เคยนั้น จำเป็นต้องแสร้งทำ แต่แรงหญิงแค่นั้นเรอะจะมาสู้อารมณ์หื่นของชายได้ ที่ตอนนี้มันมีมากเกินไป เกินกว่าจะทนไหว“ พี่ขอได้ไหม “เคลกระซิบถามคนข้างล่างเสียงแหบ ในขณะมื
หลังจากข้อความนั้นเข้า เจ้าของโทรศัพท์อย่างขิมถึงกลับนั่งอึ้งไปเลยทันที เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถม อย่าว่าแต่คำว่าห่วงใย แม้แต่คำว่าเสียสละให้ คนอย่างพรีมยังไม่มีเลย วันนี้มาแปลกเจ้าหล่อนถึงขั้นลงทุนนั่งเล่นแป้น พิมพ์ตัวอักษรมากกว่าสิบส่งมาให้...เธอต้องส่งคำว่าขอบคุณกลับไปด้วยรึเปล่า..ขิมคิดแล้วก็ขำส่ายหน้าให้กับเพื่อนของตัวเอง พลางตักโจ๊กเข้าปากต่อ ทานหมดได้ไม่ถึงสามวิ ริงโทนเรียกเข้าก็ดังขึ้น ขิมชะโงกก้มไปดู ก่อนยกโทรศัพท์มาแนบหู เมื่อเห็นชื่อคนโทรมา" คะ พี่สปอร์ต"( ขิม บ่ายนี้จะมาทำงานไหมครับ )" อะ เอ่อ "แต่แล้วคนถูกถามต้องมาชะงักกับประโยคนี้ ที่สปอร์ตเอ่ยออกมา เมื่อเช้าเคลบอกจะพาเธอไปลาออกนี่ เอาไงดี?( พี่ว่าจะแอบกุญแจไว้ให้น่ะครับ พอดีจะไปดูอาการไอ้แบงค์ซะหน่อย ขิมรู้ยัง ตอนนี้มันอยู่โรงพยาบาล )แล้วก็มาอึ้งยิ่งกว่า กับคำนี้" เหรอ..เหรอคะ .."ที่ทำขิมไปต่อไม่ถูก ตะกุกตะกักเสียงสั่นอย่างกับเจ้าเข้า( สงสัยเมา แล้วไปมีเรื่องกับคนในผับ เห็นว่าหยอดน้ำข้าวต้มเลยนะ )ก่อนจะหายใจทั่วท้อง ก็ตรงนี้ ที่สปอร์ตเข้าใจผิดไปอีกอย่าง" ..."( ขิมจะไปเยี่ยมมันกับพี่ไหม ถ้าไม่คิดมากอะนะ
เช้าของอีกวันขิมตื่นแต่เช้าตามปกติ ลุกจากที่นอนทำเตียงสั่นครอนจนพรีมตื่นด้วย ในขณะพรีมยิ้มแฉ่งให้ขิมเหมือนจะบอกอรุณสวัสดิ์ แต่สาวเจ้าที่นั่งหันหลังเอี่ยวตัวมามองกลับไม่ยิ้มตอบ ลุกไปอาบน้ำเฉยเลย ปล่อยพรีมยิ้มเก้ออยู่คนเดียว" อะไรของมันวะ "พึมพำด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก แล้วทิ้งตัวนอนต่อครึ่งชั่วโมงผ่านไป พรีมตื่นขึ้นมาใหม่ พร้อมกับความมึนงงที่ทำเธอพึมพำมากกว่าเดิม ตวัดผ้านวมแล้ววิ่งหน้าตาตื่นเข้าห้องน้ำ" ไอ้ขิมมมม ไม่ปลุกกันเล้ย!! "ตะโกนเสียงเหว ถึงรูมเมท ที่ตอนนี้เดินทอดน่องอยู่ใต้อาคารเรียนแล้ว" เฮ้อ.."เสียงถอนหายใจทิ้งหายใจขว้าง เป็นระลอกนั้น บ่งบอกว่าเธอกำลังเบื่อ มาแต่ตัวไร้ซึ่งวิญญาณ ร่างเล็กทำหน้าขรึมเดินต่อไปเรื่อยๆ แล้วมาหยุดทั้งที่ยังไม่ได้ถึงที่หมาย เพราะสิ่งนี้หมับ!"ทำไมไม่รับสายพี่ "ที่มายื้อแขนเธอไว้ ทำให้หับขวับไปตามแรงมือ ยืนอยู่ในท่าประจันหน้า แต่สาวเจ้ากลับก้มหน้างุน ไม่ตอบ ไม่หืออืออะไรทั้งสิ้น ปากเริ่มสั่นระริก เธอเลยต้องกัดมันแน่นพอๆกับการบีบมือระบายความอึดอัดของตัวเอง" พี่ถาม ทำไมไม่ตอบ "" ไม่อยากคุยด้วยค่ะ "สุดท้ายก็เงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา บอกเหตุผลตรงไป
....คอนโดเคล ....ไล่หลังห้านาทีรถมาจอด ขิมที่หลับมาตลอดทางปือตาขึ้น เธอโฟกัสไปบริเวณรอบๆ ก่อนเบิกตากว้างหลังได้สติ “ เหวอ! ไหนว่าจะพาไปทานข้าวไงคะ พาหนูมาที่นี่ทำไม“ เคลถึงกับกระแฮ่ม ปิดบังอาการขำของตนไม่ให้หลุดออกมาต่อหน้าสาว นั่นเพราะสภาพเธอตอนนี้ไม่ต่างกับเด็กกะโปโลไม่ได้อาบน้ำมาสามวันแถมเดินข้างถนน บ่งบอกให้รู้ว่าวันนี้ทั้งวัน ขิมคงเหนื่อยมาก“ พาไปทั้งสภาพนี้ พี่เกรงว่าแม่ครัวจะกลัวที่รักน่ะครับ ““ หมายความว่าไงคะ “ก่อนจะมาขำจริงๆเพราะทนไม่ไหว ก็ตอนที่ขิมผงกหัวขึ้นมานั่งตัวตรง“ สงสัยพรุ่งนี้ต้องเช็คเบาะนั่ง ไม่รู้น้ำลายยืดไปติดบ้างรึเปล่า “แล้วหันมาแว้ดใส่ หลังเคลแซวจบ“ นี่!! ““ ฮ่าๆๆ “ยื่นกระจกให้ ก่อนเธอหันขวับกลับมาอีกรอบ ก็ตอนเห็นสภาพตัวเอง“ เฮ้ยยย ! อะไรเนี่ย!!! ““ ฮ่าๆๆ “ถึงกับโวยวายทันที ท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของเคล เพราะนั่นมันเป็นไปอย่างที่เขาได้คิดเอาไว้ และเตรียมพร้อมแล้วที่จะขำเธอ“ ฮือๆ หน้าหนู!!! “ในขณะเจ้าตัวเบ้ปากอยากจะร้องไห้ หันซ้ายหันขวา มองเบ้าหน้าที่เต็มไปด้วยปากกาและลิปสติก...... มันคือจมูกแมว และหนวดสามเส้น .....“ น่ารักดีออก ““ พี่มาเขีย
‘ คือขิม ทุกอย่างมันจะไม่เป็นแบบนี้เลย ถ้าเด็กคนนั้นเธอไม่ใช่...พรีม ‘เพี้ยะ!!!!‘ เพื่อนขิม...’เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นหวั่นไหว มือขิมแทบพลิก ส่วนหน้าเคลก็หันไม่เป็นท่า เขาชาวาบไปทั้งแถบ พลางหันกลับมามองคนกระทำด้วยความงง ความเจ็บปวดที่แก้มในตอนนี้ยังไม่เท่ากับใจเขาหรอก“ ขิม..”“ เลว..อึก ..”ขมวดคิ้วมองด้วยสีหน้าที่เกิดคำถามมากมาย ในขณะคนตัวเล็กลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มีความอคติระดับสิบกับเขาไปเรียบร้อยแล้ว ฟังจากเสียงแหบพร่าที่เปล่งเบาๆ เค้นออกมาอย่างยากลำบากเสมือนจุกตอนนี้ก็พอจะรู้ เธอหมุนตัวเตรียมจะวิ่งออกจากบริเวณนั้น ทว่า เคลจับแขนไว้ทันซะก่อน“ จะไปไหน ““ ปล่อย! “ดึงเธอกลับมาอย่างแรงจนร่างบางล้มทับตักใหญ่ไม่เป็นท่า ในจังหวะที่รู้ว่าทำยังไงเธอก็ไม่ยอมฟัง เคลกอดรัดร่างนั้นเอาไว้ เผื่อมันจะช่วยอีกแรง ไม่ให้เธอหลุดหนี“ ขิม ““ ฮือๆๆ ““ ขิม! “ร้องเรียกชื่อเธอ พยายามอย่างมากที่จะทำให้เธอหยุดดิ้น เลิกโวยวาย และหันมาคุยกับเขาสักที แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ยอม เพราะตอนนี้เสียงสาวเจ้าที่คุย เธอใช้มันไปกับการร้องไห้หมดแล้ว“ปล่อยหนู! ““ ขิม ใจเย็นๆ ฟังพี่ก่อนสิ!!! ““ ขิมไม่ฟัง!
เช้าตรู่ ขิมขยับตัวตื่น เธอรู้สึกวิตกกังวลใจทั้งคืนจนนอนไม่หลับ" ฮืมม.."และดูเหมือนว่าการหยุกหยิกของเธอกำลังจะทำอีกคนนึงตื่น ขิมสตาฟตัวเองไว้ทันทีเพราะเธอกลัวแล้ว เผลอไปทำสมองเขาทำงานขึ้นมาตอนนี้ มีหวังได้เกิดศึกบนพุงนางอีกแน่ ฉะนั้น.."...."แกล้งหลับ แล้วค่อยมาหรี่ตาขึ้นมาใหม่ภายหลัง เม้มปากแน่นหาจังหวะปลีกตัว ก่อนจะย่องเข้าห้องน้ำไม่ต่างกับโจรหนึ่งชั่วโมงต่อมา...เคลตื่น ด้วยความเคยตัวของเขาอันดับแรกคือการควานหาคนข้างๆ ดึงร่างนิ่มน่าฟัดมากกกอด แต่ทว่า..วันนี้" ขิม!"เบิกตากว้างเพราะมันไม่มี ร่างหนาเต็มไปด้วยซิกแพ็ค ผ่านการเข้าฟิตเนสอยู่เป็นระลอกนั้น ตอนนี้ผงกตื่น ลุกพรวดทีเดียวซะจนเตียงสั่น กวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะบึ่งไปที่โต๊ะทันที หลังเห็นโน๊ตแผ่นนึงวางอยู่' ไปมหาลัยแล้วนะคะ ไม่ต้องห่วง 'กรอบ...อ่านจบ ก็ขยำมันทิ้งทันที" แสบนักนะ "...มหาลัย..สาวร่างสูงสมส่วนเดินทอดน่องมาจากประตูทางเข้า เธอไม่ได้แวะไปที่หอ แต่กลับสับเท้าตรงไปยังอาคารเรียนเลย นั่นเพราะชุดที่เธอใส่เมื่อคืนซักและผึ่งเรียบร้อยแล้ว จวบกับเวลาที่มันกำลังจะหมดลง เธอเลยช้าอยู่ไม่ได้ ทว่า.. หลังจากเข้ามานั่งประ
" ต่อไปนี้รับผิดชอบชีวิตขิมด้วยนะคะ "เคลยอมปล่อยมือซ้ายของตัวเองออกจากคันเกียร์เพื่อจะเลื่อนไปยกมือสาวเจ้าขึ้น ดึงมันมาแนบแก้มแล้วหอมมันฟอดหนึ่ง พลางยิ้มกว้างที่หวานที่สุดในชีวิตออกมา ทำขิมเคอะเขินไปไม่ถูก เธอเพิ่งมานึกขึ้นได้ ว่าตัวเองได้แสดงความกล้าออกมาก็วันนี้“ พี่สัญญาครับ “หากจะถามว่า เธอเสียใจมั้ยกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่ถึงชั่วโมง พูดได้เต็มปากสิ...ก็คงจะไม่หลงเหลือความครึ้กครื้นในชีวิตอีกต่อไป เธอเจ็บมากนั่นแหละ ต่อมความรู้สึกไม่ได้ทำมาจากเหล็กนี่ ถึงจะได้แข็งซะจนไม่รู้สึกสะเทือนอะไร“ ขอบคุณค่ะ “ขิมยิ้มทั้งน้ำตา เธอรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก นี่น่ะเรอะ! ความรู้สึกในยามที่ได้อย่างเสียอย่าง ทำไมชีวิตจริงมันไม่เหมือนกับนิยายที่เธออ่านกันนะ ทำไมต้องให้เธอเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งด้วย“ อ่อ แล้วอีกอย่าง ““ ครับผม ““ สัญญากับขิมอีกเรื่องนึงได้ไหมคะ ““ ว่ามาเลยครับ ““ หลังจากวันนี้เป็นต้นไป มีแต่ขิม รักแต่ขิม คนเดียวได้ไหมคะ ““ หืมมม”เคลถึงกับชะงักทันทีกับสิ่งที่เธอขอ ก่อนจะหัวเราะลั่นรถแล้วหันมามองหน้า “ ฮ่าๆๆ ได้สิครับ ได้อยู่แล้ว “ “ พูดแล้วนะคะ ทำให้ได้ด้วย ““ โอเค “สอง
วันแห่งความสุข เข้าสู่ประตูวิวาห์ช่วงเวลาเหมาะเจาะ ดั่งใจของคนตั้งและวางไว้ งานแต่งระหว่างคนทั้งคู่ ซึ่งอายุจะห่างกันเท่าไหร่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถูกจัดขึ้นในโบสถ์แบบฉบับของคริสเตียน ปัทมาในชุดเจ้าสาวขาวผ่อง ชายกระโปรงผ้าแก้วแฝงกำมะหยี่แวววับเม็ดเล็กๆ ถูกปล่อยลากพื้นยาวเป็นวา และอีกผืนนึงเอามาปิดเครื่องหน้าไว้เล็กน้อย ทำเจ้าสาวรายนี้ช่างหน้าค้นหายิ่งนัก เดินอวดร่างบางมาพร้อมกับวงแขนให้ยืมควงอย่างยศกร พ่อผู้ให้กำเนิดอาสาเดินมาส่ง ท่ามกลางพรมแดง และพยานผองเพื่อนมากกว่าร้อยคน....ทุกคนยิ้ม เธอเองก็ยิ้ม..." ตื่นเต้นจังค่ะพ่อ ..."เสียงหวานใส ทว่า เบาหวิว กระซิบกระซาบ ระหว่างทางเดิน ยศกรเลิกคิ้วให้ลูกสาว พร้อมรอยยิ้มแค่มุมปาก พยายามอย่างมากที่จะไม่ให้น้ำตาหยดแห่งความรู้สึกหน่วงๆ ซึ่งไข่ในหินถูกขโมยไปหยดนี้ไหลลงมา เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า เขาจะต้องยกลูกสาวให้กับผู้ชายคนอื่นไปครอบครองแล้ว" ใจเย็นๆลูกรัก.. มันคือเรื่องธรรมชาติมากสำหรับผู้หญิง "" แต่มันตื่นเต้นจริงๆนี่คะ ฟังเสียงหัวใจหนูสิ มันแทบจะระเบิด "" อื้ม...พ่อรู้ลูกพ่อรู้ เก็บความตื่นเต้นตรงนั้น ไว้ใช้ในยามเบ่งหลานของพ่อจะ
ค่ำคืนที่ขิมเหนื่อยมาก แต่คงไม่เท่ากับสาวใช้ในบ้านจรัญทิพย์ หลังเก็บแก้วเปล่ากับจานชามที่เขากินกันไม่หยุดไม่หย่อนไปเก็บหลายรอบ นับตั้งแต่เช้าจวบค่ำขิมเพิ่งจะได้พัก ใช้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านานพอสมควรจนกระทั่งดึก คืนนี้เธอคงจะค้างที่คฤหาสน์หลังใหญ่นี้ เนื่องจากว่าที่เจ้าบ่าวขอเมาไปส่งเธอไม่ได้ และจะไม่ให้ไปเองด้วย เพื่อนฝูงที่ไม่รู้มาจากทางไหนไหลกันเข้ามาจนงานไม่มีกร่อยทั้งๆที่เคลยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้เชิญจริงจัง เพียงแค่บอกต่อๆกันไปเท่านั้น ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้ ขิมเลยขอตัวตั้งแต่ตอนนั้นเพราะไม่อยากจะไปยืนเก้ๆกังๆ เป็นผู้หญิงคนเดียว“ เฮ้อ..”ก็อกๆๆ“ เข้ามาได้เลยจ๊ะ “เสียงใสตะโกนออกไปทางประตู ยืนรอคอยจนกระทั่งมันเปิด“ คุณขิมคะ การ์ดอวยพรและของขวัญจากแขก พี่เจิมเก็บมาให้หมดแล้วนะคะ วางอยู่ในห้องคุณเคลค่ะ ““ ค่ะ ขอบคุณนะคะ “เธอสาวเท้าเดินตามหลัง ไม่รอช้าด้วยความตื่นเต้น“ โห้ เยอะไปหมดเลย จากใครบ้างคะเนี่ย “ห่อปากตาเป็นประกายด้วยความตื้นตันเมื่อมาถึง พลิกไปพลิกมามองดูชื่อ เธอไม่เคยรู้สึกดีใจอะไรอย่างนี้มาก่อน“ หืม มีแต่ของพี่เคลทั้งนั้นเลยค่ะพี่เจิม “หันไปยิ้มกว้างกับสาว
กิจกรรมรับน้องบรรยากาศคึกครื้นสนุกสนานถูกจัดขึ้นด้วยรุ่นพี่มากฝีมือ ให้เข้ากับน้องๆวัยใสที่เพิ่งย่างก้าวผ่านมัธยมมาไม่กี่เดือน เครื่องหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยสีผสมอาหารชนิดล้างสามวันแทบจะไม่ออก หนึ่งในนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นขิม ด้วยสภาพดูไม่จืด อาจจะเพ่งไม่ออกเลยด้วยซ้ำ หากไม่รู้จักมักจี่กันมาก่อนอย่างเช่นพรีม ที่ตอนนี้เธอยืนมองอยู่ไกลๆ รอจังหวะคนน้อยและความพร้อม คำขอโทษมันจะหลุดมาจากปากเธอตอนไหนนั้น ไม่มีใครรู้ ทว่า รับปากกับรัลโด้แล้ววันนี้เธอต้องทำ ไม่ใช่เพื่อกระเป๋าใบหรูราคาแสนแพง แต่เพื่อตัวเธอเองต่างหาก ที่แท้จริงก็ไม่อยากเป็นนักหรอกไอ้ศัตรูกับเพื่อนสมัยอนุบาล ความผูกพันธ์มันล้นเหลือมากกว่านั้นและที่สำคัญพ่อแม่ของทั้งคู่ต่างสนิทชิดเชื้อกันไม่ต่างกับญาติเพราะบ้านใกล้เรือนเคียง หนักใจแทนผู้ปกครองแน่นอน ถ้าพรีมยังคงทำตัวมีปัญหา นึกไปถึงรัลโด้ที่เคยขู่กันไว้ ตั้งแต่ต้นว่าจะทำให้เธอสิ้นอนาคตจนพ่อแม่อับอายแน่นอนถ้าหล่อนร้ายไม่เลิก ในเมื่อเลี้ยงไม่เชื่องสอนไม่จำ แถมนิสัยไม่เปลี่ยน ใครเล่าจะมายอมทน อย่างรัลโด้ยิ่งเสียเวลาเข้าไปใหญ่ การหักดิบเหล่านี้คงต้องเกิดขึ้นเข้าสักวันแน่ ขืนเธอคิดไม
ผ่านไปแล้วเรื่องดราม่า สิ่งที่ปัทมาหรือว่าขิม หญิงสาวจากชลบุรีที่บึ่งขึ้นมาเรียนกรุงเทพ เพราะเหตุผลน้ำเน่าแค่ว่า...หนีคนรัก.... วันนี้ถูกจับติด ติดกับด้วยมารดาของเธอเอง ที่มีความฉลาดไม่แพ้กัน สั่งขิมห่างกับเคลสักระยะหนึ่ง เพื่อดัดนิสัยผู้ชายใจรวนเรปากหนัก เพียงแค่สามวันเท่านั้น แต่เชื่อไหม เคลแทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย“สามวันที่ห่างก็คือห่างจริงๆสิน่า ขิมไม่รับโทรศัพท์พี่เลย “หน้าเศร้าหงอยปนสลดเกาะกระจกรถ หลังจากเปิดประตูให้หญิงสาวขึ้นมานั่ง“ ขิมเรียนหนัก พี่เคลก็รู้นี่คะ มีกิจกรรมรับน้องด้วย ““ ห้านาทีก็ไม่มีให้กันเลยเหรอ ““ แน่ะ อย่ามางอแงนะ ก็เราตกลงกันก่อนแล้ว สามวันพี่มารับ ก็นี่ไงคะสามวันแล้ว ไปค่ะ ไปกันได้หรือยัง ขิมอยากให้ปากคำจะแย่ละ ““ ทีอย่างนี้รีบนักนะ ““ อะอ้าววว ช่วยไม่ได้ ก็เพราะแฟนเก่าพี่ไม่ใช่รึไง ที่ทำเราสองคนต้องห่างกันอย่างนี้น่ะ พี่ต้องมีความแค้นฝังลึกบ้างนะ”เหลือบตามองร่างสูง ขณะเขาจ้องลงมาขมวดคิ้ว แค่ขิมเพ่งลึกเข้าไปนัยม่านตาก็อ่านใจได้แล้วล่ะ เลยชิงพูด“ ขิมไม่ยอมโทษตัวเองหรอก ที่ขิมวิ่งออกมา เพราะพี่นั่นแหละ ทำท่าเหมือนอาลัยอาวรณ์แฟนเก่าก่อนเอง ชิ “ทำเคลหล
บรรยากาศชักจะทะแม่ง เมื่อทุกคนพากันมานั่งมองหน้า ไม่มีใครเริ่มเปิดประเด็น อึดอัดมายังขิมตอนนี้ที่นั่งเอามือจิกกันจนเจ็บ ก้มหน้างุนไม่กล้าเผชิญหน้ากับใคร เธอยังไม่รู้ว่าคดีเอเดลตกบันไดนั้นได้คลี่คลายไปแล้ว ทว่า ยังคิดว่าตัวเองคือคนผิด ส่วนเรื่องหล่อนขโมยเพชรเก้ๆกังๆพร่ำจะบอก แต่ดูเหมือนจังหวะตรงนั้นยังไม่มาหาเธอสักที“เอ่อ...”ลำบากมายังคุณนายนภา ผู้กล้าแสดงออก หล่อนเห็นว่าทุกอย่างเริ่มตึงเครียด ขี้คล้านจะอยู่ตรงนี้นาน อีกทั้งต้องมาสบตากับสามีเก่าอยู่บ่อยๆ เลยต้องเป็นฝ่ายจำใจพูด แต่ทว่า กลับถูกทางฝั่งฝ่ายชาย แย่งชิงซะก่อน คุณนายอารีย์ไม่อยากถูกมองว่าหล่อนนั้นหยิ่ง เป็นเจ้าบ้านแต่กลับนั่งเงียบ ทั้งๆที่หล่อนนี้ ไม่เคยเจอะเจอเรื่องแบบนี้ ที่เป็นฝ่ายผิดแล้วต้องมารับผิดชอบใคร เลยไม่ค่อยคุ้นชิน กับคำว่าขอโทษ“ ดิฉันต้องขอโทษทุกๆเรื่อง แทนลูกชายด้วยนะคะ ที่ทำไม่ดีต่อหนูขิม ทั้งเรื่องพาเข้ามาอยู่ที่นี่ ซึ่งดูเหมือนไม่ให้เกียรติ และการคบหาดูใจกัน ดิฉันเองก็เพิ่งจะมาทราบเรื่องนี้ ก็ไม่กี่วันที่ผ่านมาเองค่ะ “สบตากันระหว่างผู้เป็นแม่ ในขณะทุกคนเอาแต่นั่งเงียบ เนื่องจากมีมารยาท“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
‘ เอ่อ..พาไปไม่ได้หรอกค่ะ ตอนนี้หนูกะว่าจะเลิกกับเขา ‘‘ ห๊ะ!!’สองคนผสานเสียง หญิงสาวถึงทีสะดุ้งเฮือก ทบทวนประโยคใหม่ ตัวเองพูดอะไรผิดไป ปาดน้ำตาทิ้งยามที่สิงขรจ้องหน้า เค้นยิ้มเสมือนรู้สันดานน้องสาว“ เลิกเรอะ! โอเค งั้นกลับบ้าน แล้วไหนเสื้อผ้าล่ะ “แกล้งถาม ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ใช่เลย เสื้อผ้าเธอไม่มีติดตัวสักชิ้น รู้อยู่แก่ใจตั้งแต่ก้าวออกมาจากคฤหาสน์หลังนั้น คนมันคิดจะเลิก มีโอกาสขนาดนั้น ทำไมยังคงทิ้งไว้อยู่“ เอ่อ...”“ แม่ ขิมมันได้กับเขาแล้ว”เงยหน้าเบิกตาโตเท่าที่เคยทำ ครั้นได้ยินประโยคที่พูด พร้อมฝ่ามือใหญ่อีกรอบ บินว่อนแล้วลงตรงกลางหัวผั๊ว!!!“ โอ้ยแม่! ““ รู้แล้ว!! แกจะย้ำให้ฉันอกแตกตายเลยรึไง แค่นี้เป็นลมมาสิบตลบ ยังไม่สาแก่ใจอีกรึ ““ ฮ่าๆๆๆ “ขณะคนเปิดประเด็นย้ำขำลั่น ต่างจากเจ้าตัวอย่างขิม คราวนี้ก้มหน้าสลดหนักกว่าเก่า ความกดดันทำเธอผสานมือเข้าหากัน หยดน้ำตาหล่นแมะลงพื้นกระเบื้อง“ ขอโทษจ๊ะแม่ “ยกมือไหว้ รู้สึกแย่สุดๆ“ เฮ้อ...ขิมเอ๊ย มาตายน้ำตื้นๆ แกห่างบ้านมาได้กี่วันทำไมแม่จะไม่รู้เล่า คบกันไม่พ้นเดือน ได้กันก็ว่าทำใจลำบากแล้ว นี่มาบอกว่าจะเลิก คิดดีแล้วหรือ...”
ระยะเวลาจากเย็นยาวมายันเที่ยงคืน จนป่านนี้เคลยังติดต่อขิมไม่ได้ ร่างสูงเริ่มหัวเสีย ใจไม่ดีขึ้นมาบ้างแล้ว ไปทั่วทุกที่ ที่คิดว่าเธอน่าจะไป รวมถึงร้านของสปอร์ตด้วย ก็ไร้วี่แวว เธอหายไปไหน คนตามหาห่วงเหลือเกิน ตัดสินใจจอดรถข้างทาง เพื่อจะพักสมองและสายตาก่อน บวกกับการดึงสติมาครุ่นคิด ทว่า..“ โธ่เว้ย!!! “ปั๊ก!! ปั๊ก!!กลับต้องระบายอารมณ์ลงบนพวงมาลัยแทน หลังจากนั้นใช้มันเป็นที่พึ่ง ฟุบหน้าลงด้วยความหมดแรงติ้ดๆ ติ้ดๆก่อนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้ง เพราะเสียงนี้ ดีใจแทบตายนึกว่าคนทีเขาตามหานั้นจะโทรมา“ ขิม!... เฮ้อ... “กลับไม่ใช่...ติ๊ด!“ ว่าไง รัลโด้ “( มึงอยู่ไหน )“ เออมีอะไร กูไม่ว่าง”( เครียดเลยสิวะ ขิมหายไป )“ มึงรู้ได้ไง “( อ้าว ก็มึงโทรมาหากู ให้กูถามพรีมว่าขิมมีเรียนช่วงไหนบ้าง ไม่ใช่เรอะ! )เจอประโยคสวนนี้มา เคลถึงขั้นลูบหน้าตัวเองทันที นี่เขาคงเบลอไปแล้วจริงๆ“ เออว่ะ กูลืมไป แล้วได้เรื่องยังไงบ้างวะ เมียมึงได้พูดอะไรออกมาอีกรึเปล่า รึต้องทำให้เจ็บที ถึงจะพูดครั้งนึง “( คงงั้นแหละ เห็นบอกว่า แม่ขิมเขาโทรมาหา เพราะติดต่อขิมไม่ได้ ในวันที่เกิดเรื่องน่ะแหละ )“ เออ แล้วไง “(
เช้าของวันถัดมา วันนี้ขิมตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เนื่องจากนอนบ้านใหญ่ ระยะทางห่างไกล หากตื่นปกติ การจราจรติดขัด เธอคิดว่าคงไม่ทัน และจะให้รอเคล ก็คงจะทำไม่ได้ รายนั้นมีเรื่องจะต้องเคลียร์ตอนเช้า และอีกอย่างมีเอกสารจะต้องอ่านก่อนเข้าประชุม เพื่อกันความยุ่งยาก ขิมเลยให้ชาญขับรถมาส่งแทน ส่วนขากลับค่อยว่ากันอีกที...มหาลัย...นับตั้งแต่มาถึง ขิมยังไม่ได้พักหายใจให้คล่องเลย งานท่วมหัวเอาตัวแทบไม่รอด ไหนจะกิจกรรมต่างๆนาๆที่เข้ามาแทรกอีก แถมมีข่าวดีว่าแม่จะมาเยี่ยมเธอด้วยนะ เพราะได้ข่าวว่าเธอนั้นคืนหอส่วนเหตุผลที่คืนหอ...เรื่องนี้ คุณนายนภายังไม่รู้ แล้วรู้มาจากไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ .. เฮอะ ก่อนเธอจะรู้ว่าสิงขรนั้นคือเพื่อนคิมหันต์ด้วยซ้ำ' แม่โทรหาพรีมเหรอ '' ก็ขิมไม่รับสาย โทรไปไม่รู้ตั้งกี่รอบต่อกี่รอบ '' โทรศัพท์ขิมพังค่ะ ตกน้ำ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้โทรไปบอก ทำให้แม่เป็นห่วง '' ฮึ แม่ไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นหรอก ก่อนหน้านั้นก็แค่เป็นห่วงเห็นขิมเงียบไป แต่ที่โทรมาตอนนี้น่ะ แม่อยากรู้ เหตุผลที่เราทิ้งพรีมให้อยู่ลำพัง แล้วเราไปอยู่กับแฟน หมายความว่ายังไง ขิมเหลวไหลใหญ่แล้วนะลูก '' แม่!! พรีมบ
‘ ไม่ได้หรอกค่ะ เตียงเต็ม ‘อยู่ๆเสียงนี้ลอยมาแทรก ร่างสูงโปร่งในคราบแหม่มยุโรป อ้าปากเหวอทันที“ ใครคะ เคล?”เลิกคิ้วถามคนข้างๆ ก่อนหันมามองขิมใหม่ มองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วบี้ปาก...“ อ้อ! เด็กในสังกัด “นั่นถึงกับทำร่างบาง เดินลงมาเหยียบพื้นด้านล่างหมาดๆ มองขวับตาไม่กระพริบ ในขณะคนกลางอย่างเคลถึงกับยกมือกุมขมับ สบตาหญิงสาวแล้วเหมือนจะไข้ขึ้น รีบลุกขึ้นจากจุดนั้นมายืนเต็มความสูง“ แฮ่ม!! “ ตัดสินใจบอกความจริงไป เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องในบ้านตอนนี้ “ เอเดล..นี่ขิม แฟนผม “เล่นเอาแม่สาวแหม่มลุกพรวดเดียวส้นสูงแทบหัก เพราะรับน้ำหนักกะทันหันแทบไม่ไหว“ ว่าไงนะคะ! “เหลือบตามามองขิม ซึ่งจังหวะนี้เธอมองอยู่ก่อนไม่แพ้กัน ก่อนจะแสร้งขมวดคิ้วยุ่งเหยิงพัวพันกันไปหมด“ ชู่ว...อย่าเสียงดังค่ะป้า ข้างบนมีเด็ก เด็กกำลังหลับอยู่”พลางห่อปากกลั้นขำ เมื่อคนตรงหน้าหลังได้ยิน ขยี้เท้ากับพรมส้นเกือบสึก“ นี่!!! แกเรียกใครป้าฮะ ““ แก...เลยเหรอ? ““ เคลคะ เด็กนี้เป็นแฟนคุณแน่รึคะ ทำไมคุณถึงได้เอาสก๊อยแบบนี้มาเป็นแฟนคะเนี่ย “หันไปฟ้องเคลใหญ่ ในจังหวะที่เขาเองก็พยายามยึดคนข้างๆไว้เหมือนกัน เพราะสาวเจ้าเตร