ณ. โกดังร้างย่านชานเมืองโตเกียว
แสงแดดยามเย็นที่ลอดผ่านช่องหน้าต่างแตก ๆ ไม่อาจช่วยลดความเงียบงันของโกดังร้าง เสียงลมหวีดหวิวปะปนกับเสียงเหยี่ยวร้องไกล ๆ ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนฉากในหนังอาชญากรรม
มิเอโกะซ่อนตัวอยู่หลังกล่องไม้เก่า ๆ ดวงตาจับจ้องไปที่กลุ่มชายชุดดำซึ่งกำลังขนย้ายกล่องเหล็กหลายใบเข้าไปในรถบรรทุก เสียงหัวหน้าแก๊งที่ยืนอยู่กลางวงดังขึ้น
หัวหน้าแก๊ง: "ระวังหน่อย อย่าให้กล่องไหนเสียหาย ของข้างในมันแพงกว่าชีวิตพวกแกซะอีก"
ชายในชุดดำพยักหน้ารับคำสั่งอย่างเคร่งขรึม มิเอโกะหรี่ตามองผ่านเลนส์กล้อง เธอพยายามซูมเข้าไปใกล้กล่องที่ถูกเปิดบางส่วน ภายในนั้นเต็มไปด้วยอาวุธและถุงพลาสติกบรรจุผงสีขาว
มิเอโกะ: (กระซิบกับตัวเองเบา ๆ)
"อาวุธ... แล้วนั่นยาเสพติดใช่ไหม? พวกมันต้องถูกจับให้ได้"
เธอเก็บภาพทุกอย่างอย่างระมัดระวัง หัวใจเต้นแรงด้วยทั้งความกลัวและความมุ่งมั่น ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี จนกระทั่ง...
เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
ดวงตาของมิเอโกะเบิกกว้าง เธอรีบล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพยายามปิดเสียงให้เร็วที่สุด แต่ไม่ทันเสียแล้ว หัวหน้าแก๊งหันขวับมาทางเธอ พร้อมกับส่งเสียงตะโกนลั่น
หัวหน้าแก๊ง: "ใครอยู่ที่นั่น! แก ไปดูให้แน่ใจ!"
ลูกน้องสามคนพุ่งตัวไปทางที่เธอซ่อนอยู่ มิเอโกะกัดริมฝีปากแน่น มือของเธอชื้นเหงื่อ เธอพยายามตั้งสติและค่อย ๆ ขยับตัวถอยหลังไปอีกด้าน
มิเอโกะ: (กระซิบกับตัวเอง)
"ใจเย็นไว้ ฉันต้องหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้"
เสียงฝีเท้าเข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เธอเหลือบมองรอบ ๆ และสังเกตเห็นทางแคบ ๆ ระหว่างกล่องไม้ เธอตัดสินใจคลานไปทางนั้น หวังจะออกไปอีกด้านของโกดัง
ลูกน้องคนที่ 1: "ฉันได้ยินเสียง! อยู่ตรงนี้!"
เธอหยุดหายใจชั่วขณะ ร่างกายแอบแนบกับพื้น กล้องในมือสั่นเล็กน้อย เธอพยายามซ่อนตัวในมุมมืดที่สุด เสียงลูกน้องแก๊งดังขึ้นอีกครั้ง
ลูกน้องคนที่ 2: "มันหนีไปทางนั้น! รีบตามไป!"
เมื่อแน่ใจว่าพวกมันวิ่งไปอีกทาง เธอจึงรีบคลานต่อไปอย่างเงียบที่สุด จนกระทั่งเธอเห็นแสงสว่างราง ๆ จากประตูทางออกฉุกเฉิน
มิเอโกะ: (กระซิบเบา ๆ)
"อีกนิดเดียว... แค่ถึงตรงนั้นก็รอดแล้ว"
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นด้านหลัง เธอหันกลับไปมองและเห็นหนึ่งในลูกน้องแก๊งยืนอยู่ เขาจับตามองเธอด้วยสายตาดุดัน
ลูกน้องคนที่ 3: "เจอตัวแล้ว! อย่าปล่อยให้มันหนี!"
มิเอโกะรีบลุกขึ้นวิ่งสุดชีวิต เสียงตะโกนของพวกมันตามมาด้านหลัง เธอพยายามหายใจให้เป็นจังหวะและวิ่งไปยังทางออก แต่โชคร้ายที่หนึ่งในพวกมันวิ่งมาดักทางไว้
ลูกน้องคนที่ 4: "แกไปไหนไม่ได้แล้ว!"
เธอหยุดกะทันหัน หัวใจเต้นระรัว คิดหาทางออกอย่างเร่งด่วน สายตาเหลือบไปเห็นท่อนเหล็กยาวที่วางอยู่ใกล้ ๆ
มิเอโกะ: (กัดฟันแน่น)
"ถ้าหนีไม่ได้ ก็ต้องสู้"
เธอพุ่งตัวไปคว้าท่อนเหล็กก่อนจะฟาดใส่ชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว เสียงโลหะกระทบกันดังลั่น เธอไม่รอให้เขาตั้งตัว ก่อนจะรีบวิ่งออกไปอีกด้าน ทิ้งเสียงโหวกเหวกของพวกมันไว้ข้างหลัง
เธอรู้ดีว่าคืนนี้ยังอีกยาวไกล... และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความอันตราย
การปรากฏตัวของเคนชิโร่
ถนนสายเปลี่ยวหน้าไนท์คลับ Yūgen Club ในย่านชานเมืองโตเกียวถูกปกคลุมด้วยแสงไฟนีออนจาง ๆ ที่สะท้อนกับผิวถนนเปียกชื้น รถยนต์หรูสีดำสนิทจอดนิ่งสนิทอยู่ริมทาง ชายหนุ่มในชุดสูทเรียบเนี้ยบ นั่งพิงเบาะหลัง ดวงตาเย็นชาของเขาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง
เคนชิโร่: (พูดกับคนขับด้วยเสียงเรียบนิ่ง)
"หยุดรถ"คนขับเหลือบตามองกระจกหลังเล็กน้อย แต่ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม เขาชะลอรถจนจอดสนิท เคนชิโร่เปิดประตูลงมา สายลมเย็นพัดผ่านเส้นผมที่ถูกจัดอย่างสมบูรณ์แบบ เขาหรี่ตามองไปยังเงาร่างหญิงสาวที่กำลังวิ่งหนีสุดชีวิต เสียงหอบหายใจของเธอชัดเจนแม้จะอยู่ในระยะไกล
ชายชุดดำห้าคนในฐานะบอดี้การ์ดประจำตัวรีบลงจากรถตามหลังมา พวกเขายืนเป็นแนวพร้อมรอคำสั่ง
เคนชิโร่: (ออกคำสั่งเสียงนิ่ง แต่หนักแน่น)
"ช่วยผู้หญิงคนนั้น ไม่ต้องยั้งมือ"ชายทั้งห้ารับคำสั่งโดยไม่พูดอะไร พวกเขาเคลื่อนตัวไปยังโกดังอย่างรวดเร็ว
ด้านมิเอโกะ
เธอหอบหายใจหนัก หัวใจเต้นระรัวเหมือนจะทะลุออกจากอก เสียงฝีเท้าของลูกน้องแก๊งดังอยู่ไม่ไกลด้านหลัง ความมืดของถนนข้างโกดังทำให้เธอไม่กล้าหยุดแม้แต่เสี้ยววินาที
มิเอโกะ: (กระซิบกับตัวเองอย่างหวาดหวั่น)
"ฉันจะไม่หยุด ฉันต้องรอด... ฉันยังมีงานที่ต้องทำ"เธอสะดุดก้อนหินล้มลงไปกับพื้น กล้องในมือกระเด็นไปด้านหน้า ฝุ่นคลุ้งกระจาย เธอพยายามรวบรวมแรงลุกขึ้น แต่เสียงฝีเท้าของชายชุดดำคนหนึ่งใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
ลูกน้องแก็งค์มาเฟีย 1: "หยุดเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นแกจะได้เจ็บตัว!"
เธอกัดริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นน้ำตา ความกลัวทำให้ร่างกายเธอสั่น เธอเอื้อมมือไปหยิบกล้อง แต่เสียงเหล็กเสียดสีกับพื้นทำให้ชายคนนั้นกระโจนเข้ามา
การเผชิญหน้าที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
ทันใดนั้น เสียงตะโกนของชายอีกคนดังขึ้นขัดจังหวะ
บอดี้การ์ด 1: "หยุด! ปล่อยตัวเธอซะ"
มิเอโกะหันขวับไปมอง ชายชุดสูทดำทั้งห้าคนยืนล้อมชายของแก๊งไว้ ท่าทางของพวกเขาดุดันและมีความมั่นใจ
ลูกน้องแก๊งค์มาเฟีย 2: "พวกแกเป็นใคร? อย่ามายุ่งเรื่องของเรา!"
แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะตอบ บอดี้การ์ดคนหนึ่งก็ซัดหมัดเข้าที่หน้าของชายคนนั้นอย่างจัง
เสียงการต่อสู้ดังลั่น มิเอโกะอ้าปากค้าง เธอยืนมองภาพตรงหน้าเหมือนจะหยุดหายใจ
เคนชิโร่เข้ามาในเหตุการณ์
เมื่อทุกอย่างสงบลง เคนชิโร่เดินเข้ามาในวงล้อมอย่างสง่างาม เขาจ้องมองมิเอโกะที่ยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ร่างกายเธอเต็มไปด้วยฝุ่นและรอยขีดข่วนเล็ก ๆ
เคนชิโร่: (เสียงทุ้มต่ำและอ่อนโยน)
"คุณโอเคไหม?"มิเอโกะหันมามองเขา สายตาเธอเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ
มิเอโกะ: "ฉัน... คุณเป็นใคร? ทำไมถึงช่วยฉัน?"
เคนชิโร่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะตอบ
เคนชิโร่:
"ผมไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งเรื่องของคุณ แต่คุณดูเหมือนต้องการความช่วยเหลือ"เขายื่นมือไปตรงหน้าเธอ
เคนชิโร่: "คุณลุกไหวไหม? หรือให้ผมช่วย?"
มิเอโกะลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจจับมือเขา เธอรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นและมั่นคงในมือของชายคนนี้
มิเอโกะ: (เสียงเบาแต่จริงใจ)
"ขอบคุณ... คุณช่วยฉันไว้จริง ๆ"เคนชิโร่: (ยิ้มมุมปากเล็กน้อย)
"ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้คุณต้องรีบไปจากที่นี่ก่อน พวกมันอาจจะกลับมาอีก"มิเอโกะ: "แล้วคุณล่ะ? คุณไม่กลัวเหรอ?"
เคนชิโร่เลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยเสียงเยือกเย็น
เคนชิโร่: "ผมไม่ใช่คนที่พวกมันควรจะกลัวหรอก แต่เป็นคุณต่างหาก"
คำพูดนั้นทำให้มิเอโกะนิ่งไปชั่วขณะ เธอไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงอะไร แต่รู้สึกว่าคำพูดของเขามีน้ำหนักที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้
ขณะที่พวกเขาเดินออกจากโกดัง รถยนต์หรูสีดำยังจอดรออยู่ มิเอโกะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร แต่เธอรู้ดีว่าชีวิตของเธอจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
สถานที่: บนรถของเคนชิโร่รถยนต์หรูสีดำแล่นอย่างนุ่มนวลไปตามถนนย่านชานเมือง โตโยะ คนขับรถส่วนตัวของเคนชิโร่ จับพวงมาลัยแน่น ดวงตาจดจ่ออยู่ที่ถนนข้างหน้า บอดี้การ์ดห้าคนของเขานั่งกระจายกันอยู่ในรถสองแถวหลัง สีหน้าของทุกคนเคร่งเครียดเหมือนพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันมิเอโกะนั่งชิดประตูด้านซ้าย กระเป๋าสะพายของเธอวางบนตัก มือกำแน่นจนข้อขาว เธอยังรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงไม่หยุดหลังการหนีตายเมื่อครู่เคนชิโร่ที่นั่งข้างเธอ เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่ฟังแล้วหนักแน่นเคนชิโร่:"คุณเป็นใครครับ? ทำไมถึงถูกตามล่า?"มิเอโกะสะดุ้งเล็กน้อย เธอก้มหน้าลง สูดหายใจลึกก่อนตอบเสียงเบามิเอโกะ:"ฉัน... ฉันเป็นนักข่าวค่ะ มิเอโกะ จาก Tokyo Horizon News"เคนชิโร่พยักหน้าเล็กน้อย หันหน้ากลับไปมองถนนเบื้องหน้า น้ำเสียงของเขายังคงเรียบเคนชิโร่:"และคุณไปทำอะไรที่โกดังนั่น?"เธอหันมามองเขาอย่างลังเล ก่อนตัดสินใจพูดออกมาในที่สุดมิเอโกะ:"ฉันกำลังสืบเรื่องแก๊งยามาโตะ คุโรคิ พวกเขาขนยาเสพติดและอาวุธผิดกฎหมาย ฉันต้องการเปิดโปงพวกเขา"ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรในทันที มือของเขาที่วางอยู่บนเข่าข
สถานที่: หน้าสำนักข่าว Tokyo Horizon Newsบอดี้การ์ดสองคนของเคนชิโร่ยืนอยู่หน้าสำนักงานข่าวอย่างเงียบ ๆ ภายใต้แสงแดดที่ค่อนข้างแรง พวกเขามองไปที่ประตูทางเข้าอย่างระมัดระวัง เหมือนกับว่ารู้ว่ามิเอโกะกำลังจะเดินออกมาจากภายในไม่ช้าบอดี้การ์ด 1: (หันไปทางอีกคนหนึ่ง)"คุณคิดว่าเธอจะเชื่อใจเจ้านายเราไหม?"บอดี้การ์ด 2: (ยักไหล่)"มันไม่ใช่เรื่องของเรา... แค่ทำตามคำสั่ง"ทั้งสองคนยืนรออย่างอดทน และในขณะที่ทั้งสองกำลังยืนคุยกัน มิเอโกะก็กลับมาถึงที่หน้าสำนักงานข่าวโดยไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอกับคนเหล่านี้ เธอหยุดเดินเมื่อเห็นชายสองคนในชุดดำยืนอยู่ข้างหน้ามิเอโกะ: (มองอย่างสงสัย)"คุณสองคนมาทำอะไรที่นี่คะ?"บอดี้การ์ดทั้งสองยืนนิ่งอยู่ก่อนจะหันมามองกันบอดี้การ์ด 1: (ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ)"คุณมิเอโกะ... เรามีคำสั่งจากคุณเคนชิโร่"มิเอโกะ: (สงสัย)"จากคุณเคนชิโร่?"บอดี้การ์ด 2: (ยิ้มเล็กน้อย)"เขานัดพบคุณที่ไนท์คลับของเขา พรุ่งนี้เช้า"มิเอโกะเงียบไปสักพัก เธอไม่ได้คาดคิดว่าจะได้รับการติดต่อจากเคนชิโร่ในทันทีแบบนี้ แต่ก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจและอาจเป็นโอกาสในการหาคำตอบเกี่ยวกับเขาและแก๊งค์มาเฟียมิ
สถานที่: ห้องทำงานส่วนตัวของเคนชิโร่, ที่อยู่อาศัยของเขาเคนชิโร่เปิดประตูห้องทำงานเข้ามา สายตาของเขาจับจ้องไปที่โต๊ะทำงานที่มีไฟสีเหลืองอ่อนส่องสว่าง เขาหยุดยืนอยู่ที่ประตูแล้วมองไปที่นาฬิกาแขวนกำแพง ก่อนจะหันกลับมาหามิเอโกะที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะ ในมือของเธอถือเอกสารที่เขามอบให้ เธอคลี่อ่านมันอย่างระมัดระวัง"คุณแน่ใจหรือว่าจะทำแบบนี้?" เคนชิโร่ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เงียบขรึมมิเอโกะเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร เมื่อเห็นการแสดงออกของเขา เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ถามแค่คำถามนั้น แต่กำลังพยายามสื่อถึงความกังวลที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา"แน่ค่ะ ฉันไม่กลัว..." เสียงของมิเอโกะทุ้มลง แต่ยังคงมั่นคง "แค่บอกมา ถ้าฉันต้องทำอะไร ผมก็จะทำ"เคนชิโร่ยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง เหมือนกำลังประเมินสถานการณ์ เขาเดินไปที่โต๊ะทำงานและเริ่มจัดเรียงเอกสารบางอย่าง ขยับปากเพื่อพูด แต่แล้วก็หยุดหายใจไปชั่วขณะ"มันจะอันตรายมาก" เคนชิโร่พูดเสียงเบา แต่มันหนักแน่นมิเอโกะเดินเข้ามาใกล้ ค่อยๆ วางเอกสารลงบนโต๊ะอย่างตั้งใจและมองเขาตรงๆ "ถ้าไม่ทำอะไรเลย พวกนั้นก็จะทำลายทุกอย่าง" เธอหยุดพูดไปและมองเขาในสายตาที่แสดงออกถึงความมุ่งมั่น "ฉันพร้อมแล้วค่ะ"
"ผมมีข้อมูลเกี่ยวกับโกดังอื่นที่พวกมันใช้" เคนชิโร่พูดเสียงเรียบ สายตาของเขาไม่ละจากเธอ "คุณสนใจจะร่วมมือกันไหม?"มิเอโกะเลื่อนแก้วเครื่องดื่มในมือไปมาอย่างช้าๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองตาเขา พร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก"แน่นอนค่ะ ถ้ามันช่วยกำจัดพวกนั้นได้ ฉันยินดีทำทุกอย่าง" เสียงของมิเอโกะแฝงไปด้วยความมั่นใจ ความมุ่งมั่นในตัวเธอสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน แม้ภายในใจจะมีความกังวลแฝงอยู่ก็ตามเคนชิโร่พยักหน้า ก่อนจะยื่นแผนที่ที่เขาเตรียมไว้ให้เธอ "นี่คือสถานที่ที่พวกมันใช้เป็นโกดังเก็บสินค้า ผมเพิ่งได้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับมัน"มิเอโกะมองแผนที่ที่เขายื่นให้ ความสงสัยและความตึงเครียดเริ่มสะท้อนในดวงตาของเธอ เธอรู้ว่าข้อมูลนี้คือกุญแจสำคัญที่อาจจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง"ถ้าข้อมูลนี้ถูกต้อง" มิเอโกะพูดเสียงต่ำ แต่จังหวะการพูดของเธอเต็มไปด้วยความตั้งใจ "พวกนั้นจะไม่ยอมให้เราเข้าถึงได้ง่ายๆ แน่"เคนชิโร่ไม่ตอบ แต่หันไปมองแผนที่อย่างครุ่นคิด "นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องการคุณเข้ามาช่วย คุณมีทักษะในการสืบสวนที่พวกเขาคงไม่คาดถึง"มิเอโกะพยักหน้า มองแผนที่ที่เขายื่นให้แล้วพูดต่อ "เราต้องวางแผนให้รัดกุม และทำให้พว
ณ.บ้านพักของเคนชิโร่ เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างกระจกใสในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ เคนชิโร่ยืนอยู่ข้างๆ โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสาร ขณะที่มือของเขากำลังขยับไปมาบนสมาร์ทโฟนตรวจสอบข้อมูลบางอย่างมิเอโกะที่นั่งอยู่บนโซฟา หยิบแก้วกาแฟที่ยังอุ่นอยู่ขึ้นมาดื่ม รู้สึกถึงความเงียบที่แปลกประหลาดในห้องนี้ แม้จะมีเสียงของเครื่องชงกาแฟในห้องครัวอยู่เบาๆ แต่ความรู้สึกของเธอก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาเคนชิโร่หันมองไปที่มิเอโกะ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย“วันนี้เราจะไปที่โกดังเก่าของแก๊งค์มาเฟียที่คุณบอก เราต้องหาคำตอบให้ได้” เขาพูดขณะยกมือลูบคางเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะคิดถึงแผนการอะไรบางอย่างที่อยู่ในหัวมิเอโกะพยักหน้าเบาๆ แม้จะรู้สึกตึงเครียด แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ เธอได้แต่หวังว่าเคนชิโร่จะสามารถนำพาเธอผ่านเรื่องราวทั้งหมดไปได้เสียงโทรศัพท์มือถือของเคนชิโร่ดังขึ้น เขากดรับสายโดยไม่พูดอะไร และแค่ฟังเสียงที่ปลายสายอยู่ครู่หนึ่ง“ทุกคนพร้อมแล้วใช่ไหม?” เคนชิโร่ถามเสียงตอบกลับจากปลายสายฟังดูราบเรียบ แต่มั่นใจ “ครับ คุณเค
บรรยากาศโกดังเก่าริมชายทะเลที่แทบจะไม่มีผู้คนผ่านไปมาบ่อยครั้ง กลิ่นของเกลือทะเลและสนิมผสมปะปนไปกับอากาศหนาวเย็นของยามเช้า บรรยากาศรอบๆ เป็นความเงียบสงัดที่ไม่สามารถล่วงรู้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง รอยเท้าของทั้งสองคนสะท้อนบนพื้นไม้ผุๆ แสงแดดเพียงเล็กน้อยจากหน้าต่างที่แตกส่องลงมาในห้อง สร้างบรรยากาศที่แปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูกมิเอโกะยืนอยู่ข้างเคนชิโร่ หัวใจของเธอกระตุกแรงทุกครั้งที่ได้ยินเสียงกระทบของวัตถุต่างๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่ในมุมมืด ความกลัวเริ่มคลืบคลานเข้ามาทุกที ทุกย่างก้าวที่เธอก้าวไปข้างหน้า ความรู้สึกที่กดดันนี้ทำให้ลมหายใจของเธอเริ่มหายไปทีละน้อยเคนชิโร่หันมามองเธอ ขณะที่มือของเขาคอยจับกระบอกปืนด้วยท่าทีระมัดระวัง เขารู้ดีว่าทุกการเคลื่อนไหวในที่แห่งนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ“คุณไม่ต้องกังวลครับ” เขาพูดเสียงเรียบ แต่มันกลับมีบางอย่างที่อบอุ่นในนั้น “ผมจะอยู่ข้างคุณตลอดเวลา”มิเอโกะเหลือบมองเขา สายตาของเขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดจากแสงที่ค่อนข้างน้อย แต่น้ำเสียงของเขาทำให้เธอรู้สึกถึงความมั่นคงบางอย่างที่ค่อยๆ คลายความกังวลในใจของเธอ“ขอบคุณค่ะ... แต่มันเหมือนกับว่า ฉันไม
สถานที่ที่พวกเขามาถึงคือห้องลับในโกดังเก่า ที่มืดสลัวราวกับว่าไม่มีวันสิ้นสุด เสียงกุกกักจากสายลมที่พัดเข้ามาในซอกมุมของสถานที่นี้ บางครั้งสะท้อนเสียงจากเหล็กที่ขูดกับพื้นไม้เก่าๆ ราวกับเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ไม่มีวันหยุดพัก บรรยากาศเย็นยะเยือกทำให้มิเอโกะรู้สึกถึงการหายใจที่หนักหน่วง และหัวใจที่เต้นรัวอย่างไม่อาจควบคุมเคนชิโร่เดินนำหน้า มองไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น มือของเขาไม่ได้คลายจากการจับกระบอกปืน แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนเขาจะใจเย็น แต่ร่างกายของเขาก็มีความตึงเครียดที่มิเอโกะไม่สามารถมองข้ามไปได้มิเอโกะรู้สึกได้ถึงความอึดอัดภายใน จนทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวหรือพูดอะไรออกไปได้ ในทุกย่างก้าวที่เธอก้าวไปข้างหน้า เธอกำลังเดินเข้าสู่ความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง“คุณเคนชิโร่...” มิเอโกะเริ่มพูดในที่สุด เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อพยายามยืนยันความคิดในหัวเคนชิโร่หันมาเธอพร้อมกับมองตรงไปที่ดวงตาของเธอ เขารู้ว่าคำถามนี้จะต้องมีมา แต่ก็เลือกที่จะรอฟัง มิเอโกะยืนอยู่ตรงนั้น เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนพูดคำถามที่เธอไม่อาจเก็บไว้ได้อีกต่อไป“เรา... จะต้องเผชิญกับอะไรที่นี่คะ? ถ้าฉัน... ถ้าฉันทำไม่ไห
ห้องลับในโกดังที่ทั้งสองเข้าไปนั้นเต็มไปด้วยเงียบสงัด ราวกับว่าเวลาถูกหยุดนิ่งในห้วงความมืดมิดของความลับที่ซ่อนอยู่ ทุกก้าวที่มิเอโกะก้าวไปข้างหน้า เสียงฝีเท้าดังชัดเจนจนเหมือนจะสะท้อนในห้องนี้อย่างไม่จบสิ้น เสียงหายใจของเธอเริ่มหนักขึ้นตามความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นในใจเคนชิโร่ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง สายตาของเขากระจายไปที่ทุกมุมมองของห้อง สังเกตทุกอย่างอย่างละเอียด ราวกับรู้ว่าความจริงที่รออยู่ในที่แห่งนี้นั้นจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง“คุณเคนชิโร่... อะไรคือสิ่งที่เรากำลังจะเจอที่นี่?” มิเอโกะถามขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและความวิตกกังวลที่ไม่อาจปิดบังได้เคนชิโร่หันมามองเธอ คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง “ความจริงครับ คุณต้องพร้อมแล้ว” เขากล่าวสั้นๆ โดยไม่หันกลับไปมองที่เธอมิเอโกะกัดริมฝีปากแน่น มือของเธอกำมือจนแน่นเหมือนจะห้ามไม่ให้ตัวเองหวั่นไหว เมื่อเคนชิโร่พูดถึงความจริง เธอรู้ดีว่ามันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดหวัง หรือแม้แต่สิ่งที่เธออยากจะรู้ทั้งสองเดินต่อไปเรื่อยๆ จนถึงมุมหนึ่งของห้อง ที่มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตั
สถานที่: สวนสาธารณะสวนเคียวอิชิวันที่แห่งความหวังได้มาถึงแล้ว สวนสาธารณะเคียวอิชิเต็มไปด้วยดอกไม้ที่เบ่งบานและต้นไม้เขียวขจี ไกลออกไปจากเมืองที่เงียบสงบ มันเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นใหม่ และวันนี้มันจะกลายเป็นที่ที่ชีวิตของมิเอโกะจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เคนชิโรเดินจับมือมิเอโกะออกจากร้านคาเฟ่ ก็ชวนมิเอโกะมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ร้านคาเฟ่กันต่อ มิเอโกะนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ เคนชิโร่เดินเข้ามาหาเธอและยิ้มอย่างอบอุ่น เขามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความมั่นคง"มิเอโกะ" เคนชิโร่เรียกชื่อเธอเบาๆ ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ "ฉันคิดมานานแล้วเกี่ยวกับเส้นทางของเรา และมันเป็นสิ่งที่ฉันมั่นใจที่สุดในชีวิต"มิเอโกะหันไปมองเขาและยิ้ม "อะไรคะ เคนชิโร่?"เคนชิโร่สูดลมหายใจเข้าลึกและหยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า เขาหยุดสักครู่ก่อนที่จะเปิดกล่องออกเผยแหวนเพชรที่สวยงาม "มิเอโกะ... ฉันไม่สามารถจินตนาการชีวิตของตัวเองหากไม่มีคุณ คุณทำให้ทุกอย่างมีความหมายมากขึ้น คุณพร้อมที่จะเดินทางไปกับฉันตลอดไปไหม?"มิเอโกะตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเต็มไปด้วยน้
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่นแสงแดดยามบ่ายทาบทับแม่น้ำโคะระ และท้องฟ้าโปร่งใสทำให้ทุกสิ่งที่อยู่ข้างนอกดูสดใสและเงียบสงบ มิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะในคาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่น พร้อมกับดื่มกาแฟดำที่เธอชื่นชอบ เธอกำลังคิดถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญที่เธอทำเมื่อไม่นานมานี้ การเลือกที่จะไม่เพียงแต่เลือกเส้นทางเดียวในชีวิต แต่เลือกที่จะเดินไปข้างหน้าพร้อมกับทั้งสองทางในมือ—งานและความรักเคนชิโร่เดินเข้ามาในร้าน คาเฟ่ที่มีทั้งการตกแต่งที่อบอุ่นและบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะกับการมานั่งพักผ่อนหลังจากวันที่วุ่นวาย เขายิ้มให้กับมิเอโกะที่นั่งอยู่ตรงมุมข้างหน้าต่าง เธอหันไปมองเขาและยิ้มตอบด้วยความอ่อนโยน"สวัสดีครับ...วันนี้ดูเหมือนคุณจะนั่งพักไปได้นานเลยนะครับ" เคนชิโร่เริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นมิเอโกะยิ้ม "ใช่ค่ะ บางครั้งการนั่งเงียบๆ และคิดถึงบางเรื่องมันทำให้รู้สึกสงบดีค่ะ" เธอวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะแล้วมองไปที่ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งเคนชิโร่เห็นท่าทางของเธอและรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง "คุณคิดอะไรอยู่ครับ? ดูเหมือนว่าจะมีอะไรอยู่ในใจมากมาย"มิเอโกะพยักหน้าแล้วถอนหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดต่อ
สถานที่: ร้านกาแฟริมน้ำ, สวนสาธารณะคามากูระเช้าวันใหม่ในคามากูระเต็มไปด้วยแสงแดดที่อ่อนโยนและท้องฟ้าที่ใสสะอาด มิเอโกะยืนอยู่หน้าร้านกาแฟริมน้ำที่เธอเคยมาพบเคนชิโร่หลายครั้ง มันเป็นสถานที่ที่เธอรู้สึกผ่อนคลายและสามารถคิดได้ชัดเจนในช่วงเวลาที่วุ่นวายภายในจิตใจวันนี้มิเอโกะจะต้องตัดสินใจเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตการทำงานและความรักของเธอ เธอยืนอยู่ที่นี่เพื่อให้เวลาให้ตัวเองคิดก่อนที่จะพบกับเคนชิโร่ และพูดถึงการตัดสินใจที่เธอคิดมานานไม่ไกลจากนั้นเคนชิโร่เดินเข้ามาที่ร้านกาแฟและมองเห็นมิเอโกะยืนอยู่ริมระเบียงมองไปที่ท้องทะเล สภาพแสงแดดยามเช้าทำให้ทุกอย่างดูสวยงามและเงียบสงบ เหมือนกับโลกใบนี้ให้เวลาเธอได้หายใจ และคิดสิ่งที่ต้องการจะทำเคนชิโร่เดินไปใกล้และทักทายเธอ "มิเอโกะ, คุณมาเร็วมากเลยครับ"มิเอโกะหันไปยิ้มให้เขา และเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้ ความเครียดที่สะสมไว้หลายวันเริ่มลดลงไป "ใช่ค่ะ ฉันอยากมาให้ตัวเองมีเวลาคิดอะไรหลายๆ อย่าง"ทั้งสองนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างของร้านกาแฟที่มองออกไปเห็นวิวทะเลที่เงียบสงบในตอนเช้า เคนชิโร่เปิดการสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "คุณยังรู้สึกไม่แน่ใจใช่ไหมครับ
สถานที่: อาคารสำนักงานมิเอโกะ, ชายหาดคามากูระหลังจากที่มิเอโกะได้รับคำปลอบใจจากเคนชิโร่ในสวนสาธารณะยูโนะ สองวันที่ผ่านมาชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและคำถามที่ค้างคาใจ เธอได้กลับไปที่บริษัทและพยายามโฟกัสกับงานมากขึ้น แต่ทุกอย่างยังคงไม่ง่ายดาย เพราะเธอยังคงรู้สึกถึงการแบ่งแยกระหว่างการทำตามความฝันในอาชีพการงานและการเลือกชีวิตส่วนตัวที่เต็มไปด้วยความรักและความสัมพันธ์วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของมิเอโกะ เพราะเธอต้องทำการตัดสินใจเรื่องใหญ่ในงานที่เธอทำอยู่กับโครงการสำคัญที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของบริษัทได้ แต่การตัดสินใจในเรื่องนี้กลับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเพราะมันเกี่ยวข้องกับคำถามที่ยากเกี่ยวกับความสำเร็จและความรักมิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในอาคารสำนักงานของบริษัท ท่ามกลางกองเอกสารที่ซ้อนกันอยู่ เธอรู้สึกเหมือนมีโลกทั้งใบถล่มใส่ตัวเอง เมื่อเธอต้องรับผิดชอบในโครงการใหญ่ที่สามารถกำหนดทิศทางอนาคตของบริษัท แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกที่ตึงเครียดจากความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเคนชิโร่ยังคงตามหลอกหลอนเธอโทโมโกะก้าวเข้ามาในห้องทำงานของมิเอโกะด้วยท่าทางที่จริงจัง "มิเอโกะคะ ว
สถานที่: สวนสาธารณะยูโนะในโตเกียวเมื่อมิเอโกะกลับมาถึงบริษัทในตอนเย็น ความรู้สึกที่ยังค้างอยู่จากการสนทนากับเคนชิโร่ในร้านอาหารริมทะเลคามากูระยังคงตามหลอกหลอนเธอ การตัดสินใจในชีวิตที่เธอต้องทำกำลังกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นทุกที แต่สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจกลับไปที่บริษัทก็เพราะไม่อยากให้ปัญหาที่เกิดขึ้นในบริษัทลุกลามไปมากกว่านี้ทุกครั้งที่เธอพยายามทิ้งปัญหานี้ไปสักพักหนึ่ง ความกดดันก็ยังคงกลับมารบกวนใจอยู่ดี เหมือนกับเงาที่ไม่สามารถหลบหนีไปได้ เธอรู้ว่าเธอจะต้องพบกับมันในอนาคตอันใกล้ และความไม่มั่นใจในเส้นทางชีวิตของเธอก็ยิ่งทำให้ความเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในระหว่างการประชุมที่บริษัท โทโมโกะเริ่มพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการใหญ่ของพวกเขา ความเครียดและความวิตกกังวลในตัวมิเอโกะเพิ่มขึ้นเมื่อได้ยินรายละเอียดของปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหานี้เป็นสิ่งที่มิเอโกะรู้ดีว่าเธอจะต้องแก้ไข แต่คำถามที่ยังค้างในใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองยังคงวนเวียนอยู่ตลอดเวลา"มิเอโกะค่ะ เราต้องการคุณในการตัดสินใจเรื่องนี้" โทโมโกะพูดด้วยน้ำเสียงเครียด "ถ้าเราไม่รีบแก้ไข ปัญหานี้จะยิ่งซับซ้อนและอาจส่งผลกระ
สถานที่: ร้านอาหารริมทะเลคามากูระหลังจากคืนที่เต็มไปด้วยความคิดในคาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะ มิเอโกะรู้สึกถึงแรงกดดันจากการตัดสินใจที่ต้องเผชิญในชีวิตของเธอ แม้ว่าเคนชิโร่จะทำให้เธอรู้สึกสบายใจ แต่เธอก็ยังคงมีคำถามในใจเกี่ยวกับอนาคต ความไม่แน่นอนของเส้นทางที่เธอเลือกเดินยังคงเป็นภาระที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้วันต่อมา เคนชิโร่ได้พามิเอโกะไปยังร้านอาหารริมทะเลคามากูระ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาชื่นชอบมากที่สุดที่หนึ่ง สถานที่แห่งนี้มองเห็นทะเลที่เปิดกว้างและท้องฟ้าที่กว้างไกล บรรยากาศสงบและร่มรื่น เหมาะกับการพูดคุยและทำความเข้าใจชีวิตในมุมมองใหม่ร้านอาหารมีพื้นที่กลางแจ้งที่มองเห็นวิวทะเลและยังมีกลิ่นของเกลือทะเลที่ลอยมาจากข้างๆ เมื่อทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นคลื่นทะเลที่กระทบชายหาด มิเอโกะรู้สึกถึงความสงบและสดชื่นที่เริ่มเข้ามาในใจเธอ แม้ว่าจะยังคงมีคำถามที่ติดค้างในใจ"คุณรู้ไหมคะว่าเมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าความสำเร็จในชีวิตคือการมีทุกอย่างที่อยากได้ แต่พอได้ลองใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความรับผิดชอบ ทุกอย่างมันกลับดูซับซ้อนเกินไป" มิเอโกะเริ่มพูดอย่างเปิดใจ ขณะที่เธอสังเ
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะหลังจากวันที่เต็มไปด้วยความท้าทายในการทำงาน มิเอโกะพบว่าเธอต้องการเวลาเพื่อฟื้นฟูจิตใจและพักผ่อนจากความเครียดจากธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบ วันนั้นเธอได้ตัดสินใจโทรหาคนที่เธอรู้สึกว่าอาจเป็นแหล่งของความสงบ—เคนชิโร่ หลังจากที่ได้พูดคุยกันในวันก่อนหน้า เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นทีละเล็กทีละน้อยทั้งสองตกลงที่จะพบกันที่คาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะ สถานที่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสงบและสวยงาม ตลอดทั้งเส้นทางการเดินจากสำนักงานไปยังคาเฟ่ มิเอโกะรู้สึกถึงความตึงเครียดในตัวเองที่เริ่มคลายลงเล็กน้อย เมื่อเธอเห็นเคนชิโร่ยืนรอที่มุมหนึ่งของคาเฟ่ เขาดูสงบและมั่นคงเช่นเคย รอยยิ้มของเขาทำให้ความเครียดที่สะสมมาทั้งวันเริ่มลดลง"สวัสดีครับ" เคนชิโร่ทักทายมิเอโกะด้วยเสียงนุ่มนวล ขณะที่เขาเชิญให้เธอนั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำสุมิดะที่ไหลเอื่อยๆ และท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีไปในยามเย็น"สวัสดีค่ะ" มิเอโกะยิ้มตอบและนั่งลงอย่างสบายๆ ก่อนจะหยิบแก้วกาแฟที่เสิร์ฟให้ขึ้นมาดื่ม "วันนี้วันยาวจริงๆ ค่ะ รู้สึกเหมือนทุกอย่างต้องการความสนใจพร้อมๆ กัน"เคนชิโ
สถานที่: สวนริมน้ำซุมิดะ, โตเกียวฤดูใบไม้ผลิเริ่มแสดงตัวตนผ่านความสดใสของดอกซากุระที่เบ่งบานสะพรั่งรอบๆ สวนริมน้ำซุมิดะในกรุงโตเกียว เสียงน้ำที่ไหลเย็นผ่านหินในลำธารได้สร้างบรรยากาศอันสงบเงียบ ท่ามกลางสายลมเย็นๆ ที่พัดผ่าน มิเอโกะและเคนชิโร่เดินเคียงข้างกันท่ามกลางดอกซากุระที่กำลังผลิบาน สองคนต่างรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่มีคำพูดใดสามารถแทนที่ได้ การเดินในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยความสงบจากธรรมชาติที่ล้อมรอบพวกเขา ทั้งสองยิ้มให้กันโดยไม่ต้องพูดอะไร ตลอดระยะทางที่เดินไปด้วยกัน พวกเขาก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพูดคุยมาก เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นในรูปแบบที่เงียบสงบและมั่นคง“คุณเคยคิดไหมครับว่า... อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต?” เคนชิโร่ถามเสียงเบา ขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ต้นซากุระที่กำลังผลิบานอย่างงดงาม "บางครั้งมันทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตมันไม่แน่นอน เราไม่อาจจะรู้ได้ว่าความท้าทายใหญ่ๆ จะมาเมื่อไหร่"มิเอโกะหันมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ชีวิตทุกชีวิตมีอุปสรรคค่ะ แต่เราผ่านมันมาได้แล้วหลายครั้งแล้ว ไม่ใช่เหรอคะ? ดังนั้น ถ้าเรายังอยู่ข้างกัน เราก็จะเอาชนะทุกอุปสรรคที่ขว
ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่อากาศเริ่มเย็นขึ้นเพียงเล็กน้อย ภูมิทัศน์ของกรุงโตเกียวเต็มไปด้วยต้นซากุระที่กำลังเบ่งบานอยู่ริมถนน ขณะที่มิเอโกะและเคนชิโร่เดินเคียงข้างกันในสวนสาธารณะใกล้แม่น้ำสุมิดะ เสียงของน้ำที่ไหลกระทบกับหินในลำธารทำให้บรรยากาศรอบๆ เป็นไปอย่างสงบเงียบ ทั้งสองเดินไปด้วยกันอย่างไม่มีคำพูดมากมาย แต่ความเงียบนี้กลับเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดในตอนนี้ การอยู่เคียงข้างกันในช่วงเวลานี้ทำให้รู้สึกถึงความผูกพันที่ลึกซึ้งขึ้นท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองอ่อนๆ เมื่อแสงแดดอ่อนๆ เริ่มลอยเหนือขอบฟ้า เคนชิโร่และมิเอโกะยังคงเดินไปด้วยกันอย่างเงียบๆ มือของเคนชิโร่ล้วงในกระเป๋ากางเกง ขณะที่มิเอโกะเดินเคียงข้างเขาด้วยท่าทางผ่อนคลาย แต่ภายในใจทั้งคู่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน“คุณรู้ไหม... มีบางครั้งที่ผมคิดว่าเราอาจจะต้องพบเจอกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ในอนาคต” เคนชิโร่พูดเสียงเบา ขณะที่มองไปที่ต้นซากุระที่เริ่มผลิบาน “ชีวิตคู่มันไม่ง่ายเลย แต่ผมก็มั่นใจในสิ่งที่เรามี”มิเอโกะยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเขา "เราผ่านอุปสรรคมามากมายแล้วค่ะ คุณไม่คิดว่าเรามีความสามารถที่จะเผชิญห