สถานที่: ห้องทำงานส่วนตัวของเคนชิโร่, ที่อยู่อาศัยของเขา
เคนชิโร่เปิดประตูห้องทำงานเข้ามา สายตาของเขาจับจ้องไปที่โต๊ะทำงานที่มีไฟสีเหลืองอ่อนส่องสว่าง เขาหยุดยืนอยู่ที่ประตูแล้วมองไปที่นาฬิกาแขวนกำแพง ก่อนจะหันกลับมาหามิเอโกะที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะ ในมือของเธอถือเอกสารที่เขามอบให้ เธอคลี่อ่านมันอย่างระมัดระวัง
"คุณแน่ใจหรือว่าจะทำแบบนี้?" เคนชิโร่ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เงียบขรึม
มิเอโกะเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร เมื่อเห็นการแสดงออกของเขา เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ถามแค่คำถามนั้น แต่กำลังพยายามสื่อถึงความกังวลที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา
"แน่ค่ะ ฉันไม่กลัว..." เสียงของมิเอโกะทุ้มลง แต่ยังคงมั่นคง "แค่บอกมา ถ้าฉันต้องทำอะไร ผมก็จะทำ"
เคนชิโร่ยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง เหมือนกำลังประเมินสถานการณ์ เขาเดินไปที่โต๊ะทำงานและเริ่มจัดเรียงเอกสารบางอย่าง ขยับปากเพื่อพูด แต่แล้วก็หยุดหายใจไปชั่วขณะ
"มันจะอันตรายมาก" เคนชิโร่พูดเสียงเบา แต่มันหนักแน่น
มิเอโกะเดินเข้ามาใกล้ ค่อยๆ วางเอกสารลงบนโต๊ะอย่างตั้งใจและมองเขาตรงๆ "ถ้าไม่ทำอะไรเลย พวกนั้นก็จะทำลายทุกอย่าง" เธอหยุดพูดไปและมองเขาในสายตาที่แสดงออกถึงความมุ่งมั่น "ฉันพร้อมแล้วค่ะ"
เคนชิโร่ถอนหายใจยาวๆ ขยับตัวไปทางด้านหลังของเก้าอี้และนั่งลง พลางมองไปที่หน้าต่างที่มีแสงจากท้องฟ้าอ่อน ๆ ส่องเข้ามา
"แต่คุณจะต้องพร้อมเผชิญหน้ากับความมืด..." เขาพูดขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง ความเงียบครอบคลุมในห้อง หยุดไปสักพักเหมือนเขากำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง
มิเอโกะเดินไปหาตัวเขา และยืนข้าง ๆ ขณะที่เขานั่งอยู่
"ถ้าคุณไม่เชื่อใจผม ผมก็จะต้องคิดใหม่" เคนชิโร่บอกเสียงทุ้มขึ้น เขาไม่สามารถปล่อยให้เธอเข้าไปเสี่ยงกับอันตรายโดยไม่มีการเตรียมตัว
"ฉันรู้ดีค่ะ" มิเอโกะพูดเบาๆ และทิ้งเวลาสักครู่ให้ทุกอย่างเงียบลง "แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องของฉันอีกต่อไป... มันเกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ ด้วย"
เคนชิโร่หันมามองเธอ หัวใจของเขากำลังเต้นเร็วขึ้นในความเงียบ การพูดคุยของพวกเขาทำให้เขารู้สึกว่าเธออาจจะเข้าใจทุกสิ่งที่เขาพยายามปิดบัง หรือบางที... เธออาจจะมีจุดยืนเดียวกันกับเขา
มิเอโกะยิ้มเล็กน้อย แววตาของเธอเต็มไปด้วยความมั่นใจ และเคนชิโร่ก็เห็นความกล้าหาญในตัวเธอ
"ถ้าคุณคิดว่าเราสามารถทำสิ่งนี้ได้... ฉันจะทำให้มันสำเร็จ" มิเอโกะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เคนชิโร่พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ เขาเข้าใจดีว่าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เขารู้ว่าเธอพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งกลุ่มคนที่มันอันตรายเกินไปที่จะปล่อยไว้
"คุณคงเข้าใจดีว่าการร่วมมือครั้งนี้จะทำให้เราทุกคนต้องเสี่ยงชีวิต" เคนชิโร่บอก ขณะที่มองไปที่มิเอโกะด้วยความเครียดที่ซ่อนอยู่ในแววตา
มิเอโกะหยุดคิดไปครู่หนึ่ง แต่จากท่าทางและแววตาของเธอ ราวกับว่าทุกอย่างในโลกนี้ไม่ได้สำคัญเท่ากับภารกิจที่เธอกำลังจะทำ
"ฉันไม่หวั่นไหวหรอกค่ะ" เธอตอบกลับ น้ำเสียงของเธอแน่วแน่เช่นเดิม "ถ้าเราทำสำเร็จ ทุกคนจะปลอดภัย"
เคนชิโร่หันกลับไปมองเธออีกครั้ง คราวนี้เขาสบตากับเธอนานขึ้น และเธอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดแค่เรื่องของแผน เขากำลังทดสอบเธอในอีกแง่หนึ่ง เขาต้องการแน่ใจว่าเธอพร้อมที่จะเดินในทางที่อันตรายนี้
"ดี... ถ้าคุณพร้อมแล้ว ก็เริ่มการเคลื่อนไหวได้เลย" เคนชิโร่พูดเสียงทุ้ม ขณะลุกขึ้นจากเก้าอี้และมองไปที่แผนงานที่พวกเขาวางเอาไว้ในเอกสาร
มิเอโกะพยักหน้ารับ "เริ่มจากไหนคะ?" เธอถามกลับมาด้วยความตั้งใจที่จะเดินหน้าไปข้างหน้า
เคนชิโร่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดส่งข้อความบางอย่างไป "เราจะเริ่มต้นจากการหาข้อมูลเพิ่มเติม... ค่อย ๆ ปรับแผนไปทีละขั้นตอน"
มิเอโกะมองไปที่เขาด้วยแววตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ "ได้ค่ะ"
ทั้งสองคนยืนอยู่ตรงนั้นในความเงียบ เสียงของนาฬิกาที่ดังอยู่เบา ๆ เป็นเสียงเดียวที่ทำลายความเงียบที่เริ่มคลี่คลายลง พวกเขารู้ว่าภารกิจนี้จะเป็นการทดสอบทั้งความสามารถและจิตใจ แต่พวกเขาก็พร้อมที่จะเผชิญมันด้วยกัน
"ผมมีข้อมูลเกี่ยวกับโกดังอื่นที่พวกมันใช้" เคนชิโร่พูดเสียงเรียบ สายตาของเขาไม่ละจากเธอ "คุณสนใจจะร่วมมือกันไหม?"มิเอโกะเลื่อนแก้วเครื่องดื่มในมือไปมาอย่างช้าๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองตาเขา พร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก"แน่นอนค่ะ ถ้ามันช่วยกำจัดพวกนั้นได้ ฉันยินดีทำทุกอย่าง" เสียงของมิเอโกะแฝงไปด้วยความมั่นใจ ความมุ่งมั่นในตัวเธอสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน แม้ภายในใจจะมีความกังวลแฝงอยู่ก็ตามเคนชิโร่พยักหน้า ก่อนจะยื่นแผนที่ที่เขาเตรียมไว้ให้เธอ "นี่คือสถานที่ที่พวกมันใช้เป็นโกดังเก็บสินค้า ผมเพิ่งได้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับมัน"มิเอโกะมองแผนที่ที่เขายื่นให้ ความสงสัยและความตึงเครียดเริ่มสะท้อนในดวงตาของเธอ เธอรู้ว่าข้อมูลนี้คือกุญแจสำคัญที่อาจจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง"ถ้าข้อมูลนี้ถูกต้อง" มิเอโกะพูดเสียงต่ำ แต่จังหวะการพูดของเธอเต็มไปด้วยความตั้งใจ "พวกนั้นจะไม่ยอมให้เราเข้าถึงได้ง่ายๆ แน่"เคนชิโร่ไม่ตอบ แต่หันไปมองแผนที่อย่างครุ่นคิด "นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องการคุณเข้ามาช่วย คุณมีทักษะในการสืบสวนที่พวกเขาคงไม่คาดถึง"มิเอโกะพยักหน้า มองแผนที่ที่เขายื่นให้แล้วพูดต่อ "เราต้องวางแผนให้รัดกุม และทำให้พว
ณ.บ้านพักของเคนชิโร่ เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างกระจกใสในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ เคนชิโร่ยืนอยู่ข้างๆ โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสาร ขณะที่มือของเขากำลังขยับไปมาบนสมาร์ทโฟนตรวจสอบข้อมูลบางอย่างมิเอโกะที่นั่งอยู่บนโซฟา หยิบแก้วกาแฟที่ยังอุ่นอยู่ขึ้นมาดื่ม รู้สึกถึงความเงียบที่แปลกประหลาดในห้องนี้ แม้จะมีเสียงของเครื่องชงกาแฟในห้องครัวอยู่เบาๆ แต่ความรู้สึกของเธอก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาเคนชิโร่หันมองไปที่มิเอโกะ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย“วันนี้เราจะไปที่โกดังเก่าของแก๊งค์มาเฟียที่คุณบอก เราต้องหาคำตอบให้ได้” เขาพูดขณะยกมือลูบคางเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะคิดถึงแผนการอะไรบางอย่างที่อยู่ในหัวมิเอโกะพยักหน้าเบาๆ แม้จะรู้สึกตึงเครียด แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ เธอได้แต่หวังว่าเคนชิโร่จะสามารถนำพาเธอผ่านเรื่องราวทั้งหมดไปได้เสียงโทรศัพท์มือถือของเคนชิโร่ดังขึ้น เขากดรับสายโดยไม่พูดอะไร และแค่ฟังเสียงที่ปลายสายอยู่ครู่หนึ่ง“ทุกคนพร้อมแล้วใช่ไหม?” เคนชิโร่ถามเสียงตอบกลับจากปลายสายฟังดูราบเรียบ แต่มั่นใจ “ครับ คุณเค
บรรยากาศโกดังเก่าริมชายทะเลที่แทบจะไม่มีผู้คนผ่านไปมาบ่อยครั้ง กลิ่นของเกลือทะเลและสนิมผสมปะปนไปกับอากาศหนาวเย็นของยามเช้า บรรยากาศรอบๆ เป็นความเงียบสงัดที่ไม่สามารถล่วงรู้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง รอยเท้าของทั้งสองคนสะท้อนบนพื้นไม้ผุๆ แสงแดดเพียงเล็กน้อยจากหน้าต่างที่แตกส่องลงมาในห้อง สร้างบรรยากาศที่แปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูกมิเอโกะยืนอยู่ข้างเคนชิโร่ หัวใจของเธอกระตุกแรงทุกครั้งที่ได้ยินเสียงกระทบของวัตถุต่างๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่ในมุมมืด ความกลัวเริ่มคลืบคลานเข้ามาทุกที ทุกย่างก้าวที่เธอก้าวไปข้างหน้า ความรู้สึกที่กดดันนี้ทำให้ลมหายใจของเธอเริ่มหายไปทีละน้อยเคนชิโร่หันมามองเธอ ขณะที่มือของเขาคอยจับกระบอกปืนด้วยท่าทีระมัดระวัง เขารู้ดีว่าทุกการเคลื่อนไหวในที่แห่งนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ“คุณไม่ต้องกังวลครับ” เขาพูดเสียงเรียบ แต่มันกลับมีบางอย่างที่อบอุ่นในนั้น “ผมจะอยู่ข้างคุณตลอดเวลา”มิเอโกะเหลือบมองเขา สายตาของเขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดจากแสงที่ค่อนข้างน้อย แต่น้ำเสียงของเขาทำให้เธอรู้สึกถึงความมั่นคงบางอย่างที่ค่อยๆ คลายความกังวลในใจของเธอ“ขอบคุณค่ะ... แต่มันเหมือนกับว่า ฉันไม
สถานที่ที่พวกเขามาถึงคือห้องลับในโกดังเก่า ที่มืดสลัวราวกับว่าไม่มีวันสิ้นสุด เสียงกุกกักจากสายลมที่พัดเข้ามาในซอกมุมของสถานที่นี้ บางครั้งสะท้อนเสียงจากเหล็กที่ขูดกับพื้นไม้เก่าๆ ราวกับเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ไม่มีวันหยุดพัก บรรยากาศเย็นยะเยือกทำให้มิเอโกะรู้สึกถึงการหายใจที่หนักหน่วง และหัวใจที่เต้นรัวอย่างไม่อาจควบคุมเคนชิโร่เดินนำหน้า มองไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น มือของเขาไม่ได้คลายจากการจับกระบอกปืน แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนเขาจะใจเย็น แต่ร่างกายของเขาก็มีความตึงเครียดที่มิเอโกะไม่สามารถมองข้ามไปได้มิเอโกะรู้สึกได้ถึงความอึดอัดภายใน จนทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวหรือพูดอะไรออกไปได้ ในทุกย่างก้าวที่เธอก้าวไปข้างหน้า เธอกำลังเดินเข้าสู่ความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง“คุณเคนชิโร่...” มิเอโกะเริ่มพูดในที่สุด เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อพยายามยืนยันความคิดในหัวเคนชิโร่หันมาเธอพร้อมกับมองตรงไปที่ดวงตาของเธอ เขารู้ว่าคำถามนี้จะต้องมีมา แต่ก็เลือกที่จะรอฟัง มิเอโกะยืนอยู่ตรงนั้น เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนพูดคำถามที่เธอไม่อาจเก็บไว้ได้อีกต่อไป“เรา... จะต้องเผชิญกับอะไรที่นี่คะ? ถ้าฉัน... ถ้าฉันทำไม่ไห
ห้องลับในโกดังที่ทั้งสองเข้าไปนั้นเต็มไปด้วยเงียบสงัด ราวกับว่าเวลาถูกหยุดนิ่งในห้วงความมืดมิดของความลับที่ซ่อนอยู่ ทุกก้าวที่มิเอโกะก้าวไปข้างหน้า เสียงฝีเท้าดังชัดเจนจนเหมือนจะสะท้อนในห้องนี้อย่างไม่จบสิ้น เสียงหายใจของเธอเริ่มหนักขึ้นตามความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นในใจเคนชิโร่ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง สายตาของเขากระจายไปที่ทุกมุมมองของห้อง สังเกตทุกอย่างอย่างละเอียด ราวกับรู้ว่าความจริงที่รออยู่ในที่แห่งนี้นั้นจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง“คุณเคนชิโร่... อะไรคือสิ่งที่เรากำลังจะเจอที่นี่?” มิเอโกะถามขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและความวิตกกังวลที่ไม่อาจปิดบังได้เคนชิโร่หันมามองเธอ คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง “ความจริงครับ คุณต้องพร้อมแล้ว” เขากล่าวสั้นๆ โดยไม่หันกลับไปมองที่เธอมิเอโกะกัดริมฝีปากแน่น มือของเธอกำมือจนแน่นเหมือนจะห้ามไม่ให้ตัวเองหวั่นไหว เมื่อเคนชิโร่พูดถึงความจริง เธอรู้ดีว่ามันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดหวัง หรือแม้แต่สิ่งที่เธออยากจะรู้ทั้งสองเดินต่อไปเรื่อยๆ จนถึงมุมหนึ่งของห้อง ที่มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตั
สถานที่: บ้านพักส่วนตัวของเคนชิโร่ค่ำคืนนั้น มิเอโกะและเคนชิโร่เดินทางกลับมาที่บ้านพักส่วนตัวหลังจากออกจากโกดังเก่า ความเงียบในรถทำให้บรรยากาศดูอึดอัดเล็กน้อย มิเอโกะมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาของเธอเหม่อลอย ราวกับกำลังประมวลผลข้อมูลทุกอย่างที่เธอได้เจอในวันนี้เคนชิโร่ที่นั่งอยู่ด้านหน้า สังเกตเห็นท่าทางของเธอผ่านกระจกมองหลัง เขาไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งรถมาถึงบ้านพัก บอดี้การ์ดช่วยเปิดประตูให้ทั้งสอง ก่อนที่เคนชิโร่จะเดินนำเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่นเขาถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะพูด “คุณคงมีคำถามมากมายในใจใช่ไหม?”มิเอโกะที่ยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เงยหน้าขึ้นมามองเขา “ใช่ค่ะ… แต่ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มถามจากตรงไหน”เคนชิโร่พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะผายมือเชิญให้เธอนั่งลงบนโซฟา “งั้นเริ่มจากสิ่งที่คุณอยากรู้อย่างที่สุดก่อนดีไหม”เธอนั่งลงช้าๆ แล้วหันไปมองหน้าเขา “คุณรู้เรื่องเกี่ยวกับแม่ของฉันได้ยังไงคะ? และทำไมข้อมูลพวกนั้นถึงมาอยู่ในโกดังนั้น?”เคนชิโร่นั่งลงตรงข้ามเธอ ดวงตาของเขาสบกับดวงตาเธออย่างตรงไปตรงมา “ผมรู้เพราะผมตามสืบเรื่องนี้มานานแล้วครับ… ทุกอย่างเริ่มจากการสืบสวนเกี่ยว
สถานที่: ห้องโถงในคฤหาสน์ของเคนชิโร่เช้าตรู่ในวันใหม่ แสงแดดอ่อนสาดลอดหน้าต่างกระจกบานใหญ่ลงมาในห้องโถงที่เงียบสงบ เคนชิโร่ยืนอยู่หน้าประตูบานใหญ่ มองเอกสารในมืออย่างครุ่นคิด มิเอโกะเดินลงบันไดมาในชุดเรียบง่ายแต่สะดุดตา เธอหยุดยืนมองเขาสักพักก่อนจะเอ่ยขึ้น“คุณตื่นแต่เช้าอีกแล้วเหรอคะ?”เขาเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร และส่งยิ้มบางๆ ให้เธอ “ใช่ครับ วันนี้มีงานสำคัญ”“แผนที่จะไปจัดการแก๊งมาเฟียนั่นใช่ไหมคะ?” น้ำเสียงเธอมีความกังวลแฝงอยู่“ใช่ครับ ผมต้องไปดูด้วยตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน”เธอก้าวเข้ามาใกล้ “คุณคิดว่าสถานการณ์มันจะรุนแรงแค่ไหนคะ?”“ผมไม่อยากโกหกครับ มันมีความเสี่ยง แต่ผมเตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว บอดี้การ์ดของผมมีประสบการณ์ ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง”มิเอโกะนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ฉันจะไปกับคุณ”“ไม่ได้ครับ” เขาพูดทันที น้ำเสียงของเขามั่นคง “มันอันตรายเกินไปสำหรับคุณ”“แต่ฉันไม่อยากอยู่เฉยๆ” เธอยืนกราน “คุณสัญญากับฉันได้ไหมว่าจะปลอดภัย?”เคนชิโร่จ้องเธอนิ่ง ก่อนจะพยักหน้า “ผมสัญญาครับ ผมจะทำทุกวิถีทางให้เรื่องนี้จบลงโดยไม่มีใครเป็นอันตราย
โกดังร้างเงียบสงัด มีแสงแดดลอดผ่านรอยแตกของหลังคา สร้างลำแสงที่ดูเหมือนมีชีวิตอยู่กลางความมืด บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นอับชื้นและสนิม เสียงรองเท้าของเคนชิโร่และบอดี้การ์ดดังก้องไปทั่วเคนชิโร่ยกมือขึ้นให้ทุกคนหยุด เขามองรอบๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนจะหันไปพูดกับหัวหน้าทีมบอดี้การ์ด“กระจายกำลัง ตรวจสอบพื้นที่รอบๆ ให้แน่ใจว่าไม่มีใครซ่อนตัวอยู่”“รับทราบครับ นายใหญ่”บอดี้การ์ดแยกย้ายกันไป เคนชิโร่เดินไปยังมุมหนึ่งของโกดังที่มีโต๊ะไม้เก่าๆ ตั้งอยู่ พร้อมเอกสารบางอย่างที่ถูกทิ้งไว้ เขาหยิบเอกสารขึ้นมา พลางอ่านด้วยความสงสัยเสียงฝีเท้าด้านนอกโกดัง“คุณเคนชิโร่ครับ!” เสียงบอดี้การ์ดคนหนึ่งตะโกนเรียก“มีอะไร?” เขาถามพลางเดินออกไป“เราพบร่องรอยของคนที่เพิ่งออกไปก่อนที่เราจะมาถึง ดูเหมือนพวกเขาจะทิ้งของไว้ด้านหลัง”เคนชิโร่มองถุงกระดาษที่ถูกนำมาให้ มันเต็มไปด้วยเงินสดและเอกสารเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมาย เขาเม้มปากแน่น ดวงตาแสดงความเคร่งเครียด“พวกเขาคงรู้ว่าเราจะมา...” เขาพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันไปสั่งการ “เราต้องรีบกลับไปตั้งหลัก ผมไม่อยากให้ใครตกอยู่ในอันตรายสถานที่: ในรถระหว่างเดินทางกลับคฤหาส
สถานที่: สวนสาธารณะสวนเคียวอิชิวันที่แห่งความหวังได้มาถึงแล้ว สวนสาธารณะเคียวอิชิเต็มไปด้วยดอกไม้ที่เบ่งบานและต้นไม้เขียวขจี ไกลออกไปจากเมืองที่เงียบสงบ มันเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นใหม่ และวันนี้มันจะกลายเป็นที่ที่ชีวิตของมิเอโกะจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เคนชิโรเดินจับมือมิเอโกะออกจากร้านคาเฟ่ ก็ชวนมิเอโกะมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ร้านคาเฟ่กันต่อ มิเอโกะนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ เคนชิโร่เดินเข้ามาหาเธอและยิ้มอย่างอบอุ่น เขามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความมั่นคง"มิเอโกะ" เคนชิโร่เรียกชื่อเธอเบาๆ ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ "ฉันคิดมานานแล้วเกี่ยวกับเส้นทางของเรา และมันเป็นสิ่งที่ฉันมั่นใจที่สุดในชีวิต"มิเอโกะหันไปมองเขาและยิ้ม "อะไรคะ เคนชิโร่?"เคนชิโร่สูดลมหายใจเข้าลึกและหยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า เขาหยุดสักครู่ก่อนที่จะเปิดกล่องออกเผยแหวนเพชรที่สวยงาม "มิเอโกะ... ฉันไม่สามารถจินตนาการชีวิตของตัวเองหากไม่มีคุณ คุณทำให้ทุกอย่างมีความหมายมากขึ้น คุณพร้อมที่จะเดินทางไปกับฉันตลอดไปไหม?"มิเอโกะตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเต็มไปด้วยน้
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่นแสงแดดยามบ่ายทาบทับแม่น้ำโคะระ และท้องฟ้าโปร่งใสทำให้ทุกสิ่งที่อยู่ข้างนอกดูสดใสและเงียบสงบ มิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะในคาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่น พร้อมกับดื่มกาแฟดำที่เธอชื่นชอบ เธอกำลังคิดถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญที่เธอทำเมื่อไม่นานมานี้ การเลือกที่จะไม่เพียงแต่เลือกเส้นทางเดียวในชีวิต แต่เลือกที่จะเดินไปข้างหน้าพร้อมกับทั้งสองทางในมือ—งานและความรักเคนชิโร่เดินเข้ามาในร้าน คาเฟ่ที่มีทั้งการตกแต่งที่อบอุ่นและบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะกับการมานั่งพักผ่อนหลังจากวันที่วุ่นวาย เขายิ้มให้กับมิเอโกะที่นั่งอยู่ตรงมุมข้างหน้าต่าง เธอหันไปมองเขาและยิ้มตอบด้วยความอ่อนโยน"สวัสดีครับ...วันนี้ดูเหมือนคุณจะนั่งพักไปได้นานเลยนะครับ" เคนชิโร่เริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นมิเอโกะยิ้ม "ใช่ค่ะ บางครั้งการนั่งเงียบๆ และคิดถึงบางเรื่องมันทำให้รู้สึกสงบดีค่ะ" เธอวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะแล้วมองไปที่ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งเคนชิโร่เห็นท่าทางของเธอและรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง "คุณคิดอะไรอยู่ครับ? ดูเหมือนว่าจะมีอะไรอยู่ในใจมากมาย"มิเอโกะพยักหน้าแล้วถอนหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดต่อ
สถานที่: ร้านกาแฟริมน้ำ, สวนสาธารณะคามากูระเช้าวันใหม่ในคามากูระเต็มไปด้วยแสงแดดที่อ่อนโยนและท้องฟ้าที่ใสสะอาด มิเอโกะยืนอยู่หน้าร้านกาแฟริมน้ำที่เธอเคยมาพบเคนชิโร่หลายครั้ง มันเป็นสถานที่ที่เธอรู้สึกผ่อนคลายและสามารถคิดได้ชัดเจนในช่วงเวลาที่วุ่นวายภายในจิตใจวันนี้มิเอโกะจะต้องตัดสินใจเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตการทำงานและความรักของเธอ เธอยืนอยู่ที่นี่เพื่อให้เวลาให้ตัวเองคิดก่อนที่จะพบกับเคนชิโร่ และพูดถึงการตัดสินใจที่เธอคิดมานานไม่ไกลจากนั้นเคนชิโร่เดินเข้ามาที่ร้านกาแฟและมองเห็นมิเอโกะยืนอยู่ริมระเบียงมองไปที่ท้องทะเล สภาพแสงแดดยามเช้าทำให้ทุกอย่างดูสวยงามและเงียบสงบ เหมือนกับโลกใบนี้ให้เวลาเธอได้หายใจ และคิดสิ่งที่ต้องการจะทำเคนชิโร่เดินไปใกล้และทักทายเธอ "มิเอโกะ, คุณมาเร็วมากเลยครับ"มิเอโกะหันไปยิ้มให้เขา และเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้ ความเครียดที่สะสมไว้หลายวันเริ่มลดลงไป "ใช่ค่ะ ฉันอยากมาให้ตัวเองมีเวลาคิดอะไรหลายๆ อย่าง"ทั้งสองนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างของร้านกาแฟที่มองออกไปเห็นวิวทะเลที่เงียบสงบในตอนเช้า เคนชิโร่เปิดการสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "คุณยังรู้สึกไม่แน่ใจใช่ไหมครับ
สถานที่: อาคารสำนักงานมิเอโกะ, ชายหาดคามากูระหลังจากที่มิเอโกะได้รับคำปลอบใจจากเคนชิโร่ในสวนสาธารณะยูโนะ สองวันที่ผ่านมาชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและคำถามที่ค้างคาใจ เธอได้กลับไปที่บริษัทและพยายามโฟกัสกับงานมากขึ้น แต่ทุกอย่างยังคงไม่ง่ายดาย เพราะเธอยังคงรู้สึกถึงการแบ่งแยกระหว่างการทำตามความฝันในอาชีพการงานและการเลือกชีวิตส่วนตัวที่เต็มไปด้วยความรักและความสัมพันธ์วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของมิเอโกะ เพราะเธอต้องทำการตัดสินใจเรื่องใหญ่ในงานที่เธอทำอยู่กับโครงการสำคัญที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของบริษัทได้ แต่การตัดสินใจในเรื่องนี้กลับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเพราะมันเกี่ยวข้องกับคำถามที่ยากเกี่ยวกับความสำเร็จและความรักมิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในอาคารสำนักงานของบริษัท ท่ามกลางกองเอกสารที่ซ้อนกันอยู่ เธอรู้สึกเหมือนมีโลกทั้งใบถล่มใส่ตัวเอง เมื่อเธอต้องรับผิดชอบในโครงการใหญ่ที่สามารถกำหนดทิศทางอนาคตของบริษัท แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกที่ตึงเครียดจากความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเคนชิโร่ยังคงตามหลอกหลอนเธอโทโมโกะก้าวเข้ามาในห้องทำงานของมิเอโกะด้วยท่าทางที่จริงจัง "มิเอโกะคะ ว
สถานที่: สวนสาธารณะยูโนะในโตเกียวเมื่อมิเอโกะกลับมาถึงบริษัทในตอนเย็น ความรู้สึกที่ยังค้างอยู่จากการสนทนากับเคนชิโร่ในร้านอาหารริมทะเลคามากูระยังคงตามหลอกหลอนเธอ การตัดสินใจในชีวิตที่เธอต้องทำกำลังกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นทุกที แต่สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจกลับไปที่บริษัทก็เพราะไม่อยากให้ปัญหาที่เกิดขึ้นในบริษัทลุกลามไปมากกว่านี้ทุกครั้งที่เธอพยายามทิ้งปัญหานี้ไปสักพักหนึ่ง ความกดดันก็ยังคงกลับมารบกวนใจอยู่ดี เหมือนกับเงาที่ไม่สามารถหลบหนีไปได้ เธอรู้ว่าเธอจะต้องพบกับมันในอนาคตอันใกล้ และความไม่มั่นใจในเส้นทางชีวิตของเธอก็ยิ่งทำให้ความเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในระหว่างการประชุมที่บริษัท โทโมโกะเริ่มพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการใหญ่ของพวกเขา ความเครียดและความวิตกกังวลในตัวมิเอโกะเพิ่มขึ้นเมื่อได้ยินรายละเอียดของปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหานี้เป็นสิ่งที่มิเอโกะรู้ดีว่าเธอจะต้องแก้ไข แต่คำถามที่ยังค้างในใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองยังคงวนเวียนอยู่ตลอดเวลา"มิเอโกะค่ะ เราต้องการคุณในการตัดสินใจเรื่องนี้" โทโมโกะพูดด้วยน้ำเสียงเครียด "ถ้าเราไม่รีบแก้ไข ปัญหานี้จะยิ่งซับซ้อนและอาจส่งผลกระ
สถานที่: ร้านอาหารริมทะเลคามากูระหลังจากคืนที่เต็มไปด้วยความคิดในคาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะ มิเอโกะรู้สึกถึงแรงกดดันจากการตัดสินใจที่ต้องเผชิญในชีวิตของเธอ แม้ว่าเคนชิโร่จะทำให้เธอรู้สึกสบายใจ แต่เธอก็ยังคงมีคำถามในใจเกี่ยวกับอนาคต ความไม่แน่นอนของเส้นทางที่เธอเลือกเดินยังคงเป็นภาระที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้วันต่อมา เคนชิโร่ได้พามิเอโกะไปยังร้านอาหารริมทะเลคามากูระ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาชื่นชอบมากที่สุดที่หนึ่ง สถานที่แห่งนี้มองเห็นทะเลที่เปิดกว้างและท้องฟ้าที่กว้างไกล บรรยากาศสงบและร่มรื่น เหมาะกับการพูดคุยและทำความเข้าใจชีวิตในมุมมองใหม่ร้านอาหารมีพื้นที่กลางแจ้งที่มองเห็นวิวทะเลและยังมีกลิ่นของเกลือทะเลที่ลอยมาจากข้างๆ เมื่อทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นคลื่นทะเลที่กระทบชายหาด มิเอโกะรู้สึกถึงความสงบและสดชื่นที่เริ่มเข้ามาในใจเธอ แม้ว่าจะยังคงมีคำถามที่ติดค้างในใจ"คุณรู้ไหมคะว่าเมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าความสำเร็จในชีวิตคือการมีทุกอย่างที่อยากได้ แต่พอได้ลองใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความรับผิดชอบ ทุกอย่างมันกลับดูซับซ้อนเกินไป" มิเอโกะเริ่มพูดอย่างเปิดใจ ขณะที่เธอสังเ
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะหลังจากวันที่เต็มไปด้วยความท้าทายในการทำงาน มิเอโกะพบว่าเธอต้องการเวลาเพื่อฟื้นฟูจิตใจและพักผ่อนจากความเครียดจากธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบ วันนั้นเธอได้ตัดสินใจโทรหาคนที่เธอรู้สึกว่าอาจเป็นแหล่งของความสงบ—เคนชิโร่ หลังจากที่ได้พูดคุยกันในวันก่อนหน้า เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นทีละเล็กทีละน้อยทั้งสองตกลงที่จะพบกันที่คาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะ สถานที่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสงบและสวยงาม ตลอดทั้งเส้นทางการเดินจากสำนักงานไปยังคาเฟ่ มิเอโกะรู้สึกถึงความตึงเครียดในตัวเองที่เริ่มคลายลงเล็กน้อย เมื่อเธอเห็นเคนชิโร่ยืนรอที่มุมหนึ่งของคาเฟ่ เขาดูสงบและมั่นคงเช่นเคย รอยยิ้มของเขาทำให้ความเครียดที่สะสมมาทั้งวันเริ่มลดลง"สวัสดีครับ" เคนชิโร่ทักทายมิเอโกะด้วยเสียงนุ่มนวล ขณะที่เขาเชิญให้เธอนั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำสุมิดะที่ไหลเอื่อยๆ และท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีไปในยามเย็น"สวัสดีค่ะ" มิเอโกะยิ้มตอบและนั่งลงอย่างสบายๆ ก่อนจะหยิบแก้วกาแฟที่เสิร์ฟให้ขึ้นมาดื่ม "วันนี้วันยาวจริงๆ ค่ะ รู้สึกเหมือนทุกอย่างต้องการความสนใจพร้อมๆ กัน"เคนชิโ
สถานที่: สวนริมน้ำซุมิดะ, โตเกียวฤดูใบไม้ผลิเริ่มแสดงตัวตนผ่านความสดใสของดอกซากุระที่เบ่งบานสะพรั่งรอบๆ สวนริมน้ำซุมิดะในกรุงโตเกียว เสียงน้ำที่ไหลเย็นผ่านหินในลำธารได้สร้างบรรยากาศอันสงบเงียบ ท่ามกลางสายลมเย็นๆ ที่พัดผ่าน มิเอโกะและเคนชิโร่เดินเคียงข้างกันท่ามกลางดอกซากุระที่กำลังผลิบาน สองคนต่างรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่มีคำพูดใดสามารถแทนที่ได้ การเดินในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยความสงบจากธรรมชาติที่ล้อมรอบพวกเขา ทั้งสองยิ้มให้กันโดยไม่ต้องพูดอะไร ตลอดระยะทางที่เดินไปด้วยกัน พวกเขาก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพูดคุยมาก เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นในรูปแบบที่เงียบสงบและมั่นคง“คุณเคยคิดไหมครับว่า... อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต?” เคนชิโร่ถามเสียงเบา ขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ต้นซากุระที่กำลังผลิบานอย่างงดงาม "บางครั้งมันทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตมันไม่แน่นอน เราไม่อาจจะรู้ได้ว่าความท้าทายใหญ่ๆ จะมาเมื่อไหร่"มิเอโกะหันมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ชีวิตทุกชีวิตมีอุปสรรคค่ะ แต่เราผ่านมันมาได้แล้วหลายครั้งแล้ว ไม่ใช่เหรอคะ? ดังนั้น ถ้าเรายังอยู่ข้างกัน เราก็จะเอาชนะทุกอุปสรรคที่ขว
ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่อากาศเริ่มเย็นขึ้นเพียงเล็กน้อย ภูมิทัศน์ของกรุงโตเกียวเต็มไปด้วยต้นซากุระที่กำลังเบ่งบานอยู่ริมถนน ขณะที่มิเอโกะและเคนชิโร่เดินเคียงข้างกันในสวนสาธารณะใกล้แม่น้ำสุมิดะ เสียงของน้ำที่ไหลกระทบกับหินในลำธารทำให้บรรยากาศรอบๆ เป็นไปอย่างสงบเงียบ ทั้งสองเดินไปด้วยกันอย่างไม่มีคำพูดมากมาย แต่ความเงียบนี้กลับเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดในตอนนี้ การอยู่เคียงข้างกันในช่วงเวลานี้ทำให้รู้สึกถึงความผูกพันที่ลึกซึ้งขึ้นท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองอ่อนๆ เมื่อแสงแดดอ่อนๆ เริ่มลอยเหนือขอบฟ้า เคนชิโร่และมิเอโกะยังคงเดินไปด้วยกันอย่างเงียบๆ มือของเคนชิโร่ล้วงในกระเป๋ากางเกง ขณะที่มิเอโกะเดินเคียงข้างเขาด้วยท่าทางผ่อนคลาย แต่ภายในใจทั้งคู่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน“คุณรู้ไหม... มีบางครั้งที่ผมคิดว่าเราอาจจะต้องพบเจอกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ในอนาคต” เคนชิโร่พูดเสียงเบา ขณะที่มองไปที่ต้นซากุระที่เริ่มผลิบาน “ชีวิตคู่มันไม่ง่ายเลย แต่ผมก็มั่นใจในสิ่งที่เรามี”มิเอโกะยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเขา "เราผ่านอุปสรรคมามากมายแล้วค่ะ คุณไม่คิดว่าเรามีความสามารถที่จะเผชิญห