"ผมมีข้อมูลเกี่ยวกับโกดังอื่นที่พวกมันใช้" เคนชิโร่พูดเสียงเรียบ สายตาของเขาไม่ละจากเธอ "คุณสนใจจะร่วมมือกันไหม?"
มิเอโกะเลื่อนแก้วเครื่องดื่มในมือไปมาอย่างช้าๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองตาเขา พร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก
"แน่นอนค่ะ ถ้ามันช่วยกำจัดพวกนั้นได้ ฉันยินดีทำทุกอย่าง" เสียงของมิเอโกะแฝงไปด้วยความมั่นใจ ความมุ่งมั่นในตัวเธอสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน แม้ภายในใจจะมีความกังวลแฝงอยู่ก็ตาม
เคนชิโร่พยักหน้า ก่อนจะยื่นแผนที่ที่เขาเตรียมไว้ให้เธอ "นี่คือสถานที่ที่พวกมันใช้เป็นโกดังเก็บสินค้า ผมเพิ่งได้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับมัน"
มิเอโกะมองแผนที่ที่เขายื่นให้ ความสงสัยและความตึงเครียดเริ่มสะท้อนในดวงตาของเธอ เธอรู้ว่าข้อมูลนี้คือกุญแจสำคัญที่อาจจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง
"ถ้าข้อมูลนี้ถูกต้อง" มิเอโกะพูดเสียงต่ำ แต่จังหวะการพูดของเธอเต็มไปด้วยความตั้งใจ "พวกนั้นจะไม่ยอมให้เราเข้าถึงได้ง่ายๆ แน่"
เคนชิโร่ไม่ตอบ แต่หันไปมองแผนที่อย่างครุ่นคิด "นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องการคุณเข้ามาช่วย คุณมีทักษะในการสืบสวนที่พวกเขาคงไม่คาดถึง"
มิเอโกะพยักหน้า มองแผนที่ที่เขายื่นให้แล้วพูดต่อ "เราต้องวางแผนให้รัดกุม และทำให้พวกมันไม่รู้ตัว"
เคนชิโร่หันกลับมามองเธออีกครั้ง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น "คุณรู้ดีว่าผมจะไม่พาคุณไปทำอะไรที่อันตรายเกินไป"
เสียงของมิเอโกะจึงเบาลงเล็กน้อย เธอรู้ว่าความเชื่อมั่นของเคนชิโร่เป็นสิ่งที่ทำให้เธอมั่นใจในตัวเขา แต่ในใจลึกๆ กลับไม่อาจปฏิเสธความกลัวที่เพิ่มขึ้นทุกครั้งเมื่อคิดถึงสิ่งที่จะต้องเผชิญหน้า
"แล้วถ้าเราต้องเสี่ยงล่ะคะ?" เสียงเธอแผ่วเบา แต่คำถามนั้นแฝงไปด้วยความกลัวที่เธอพยายามปกปิด
เคนชิโร่ยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มที่ไม่สามารถทำให้ความเครียดหายไปได้ "ถ้าคุณไม่พร้อมที่จะเสี่ยง ทุกอย่างก็จะไม่เดินหน้า แต่ถ้าคุณยินดี เราจะหาทางออกจากมันด้วยกัน"
เอโกะสูดลมหายใจลึกๆ และมองไปที่แผนที่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มกลับไปให้เคนชิโร่ "ถ้าต้องเสี่ยงเพื่อกำจัดพวกมัน ฉันก็พร้อม"
เคนชิโร่พยักหน้าพร้อมกับยืนขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและกดเบอร์ที่เขาต้องการอย่างรวดเร็ว "ผมจะให้คนของผมจัดการเรื่องนี้"
มิเอโกะยืนขึ้นตาม และมองไปที่เคนชิโร่ ก่อนจะพูดเสียงเบา "แล้วหลังจากนี้ เราจะทำอะไรต่อคะ?"
เคนชิโร่หันไปยิ้มให้เธออีกครั้ง "เราจะต้องเข้าไปข้างในให้ได้ โดยไม่ให้ใครรู้ตัว"
มิเอโกะมองไปที่ประตูห้องใต้ดินที่เปิดออกไป พร้อมกับคำพูดที่ลอยอยู่ในใจ "มันจะต้องสำเร็จ" เธอคิดในใจ ขณะก้าวเดินตามเคนชิโร่ไป
เคนชิโร่เปิดประตูห้องใต้ดินให้กับมิเอโกะ และทั้งคู่ก็เดินออกไปในเงามืดของสถานที่ที่เตรียมจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาทั้งคู่ไปตลอดกาล
สถานที่: ห้องใต้ดินของเคนชิโร่, แหล่งข้อมูลลับ
ห้องใต้ดินของเคนชิโร่ไม่เหมือนกับห้องทำงานที่ดูสะอาดและเรียบหรู แต่กลับเต็มไปด้วยแผนที่, ข้อมูล, และเอกสารที่เก็บไว้เป็นความลับทั้งหมด บนโต๊ะมีแผนที่ของเมืองที่ถูกเปิดกว้าง พร้อมกับจุดต่างๆ ที่ถูกวงไว้ด้วยปากกาแดง เสียงของเครื่องพิมพ์ขนาดเล็กที่ทำงานอยู่บนมุมโต๊ะดังแว่วๆ ผ่านความเงียบ
มิเอโกะยืนอยู่ตรงประตูห้องใต้ดิน มองไปที่เคนชิโร่ที่กำลังนั่งอยู่ข้างโต๊ะทำงานของเขา เขามองไปที่แผนที่ด้วยสายตาที่คิดลึก แล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอเมื่อรู้สึกถึงการมาถึงของเธอ
"ถ้าจะเริ่มต้น เราก็ต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด" เคนชิโร่พูดเสียงเรียบ ขณะหยิบปากกาแล้ววงวงกลมบางจุดบนแผนที่
มิเอโกะเดินเข้ามาใกล้ มองไปที่แผนที่และข้อมูลที่เก็บไว้รอบๆ "เราต้องหาอะไรจากพวกนี้หรือคะ?" เสียงของเธอมีความสงสัยแฝงอยู่ พร้อมกับการจ้องมองไปที่จุดที่เคนชิโร่ทำเครื่องหมาย
เคนชิโร่ยิ้มเล็กน้อย "นี่คือจุดที่พวกมันมักจะทำการลับๆ รวมทั้งโกดังและสถานที่ที่เกี่ยวข้อง" เขาชี้ไปที่แผนที่ "สิ่งสำคัญคือต้องหาจุดที่พวกมันจะพลาด"
มิเอโกะพยักหน้าแล้วหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมา "แล้วถ้าเราเข้าไปลึกไปอีก พวกนั้นจะรู้ตัวไหมคะ?"
เคนชิโร่หันกลับไปมองเธอ ชั่วครู่หนึ่งเขามองเห็นความกังวลในดวงตาของมิเอโกะ "พวกมันไม่รู้หรอก แต่ถ้าคุณไม่พร้อมที่จะเสี่ยงมากพอ อาจจะมีอันตราย"
"ฉันพร้อมค่ะ" มิเอโกะตอบกลับอย่างมั่นใจ แม้จะมีเสียงเครือๆ เล็กน้อยจากการที่ต้องเผชิญหน้ากับอันตราย
เคนชิโร่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองไปที่เธออีกครั้ง "ข้อมูลที่เราต้องการจะมาถึงในเร็วๆ นี้"
มิเอโกะยังคงยืนอยู่ข้างๆ เคนชิโร่แล้วมองไปที่แผนที่ "เราจะทำอะไรถ้าพวกมันเริ่มจับได้?"
เคนชิโร่เงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เราต้องมีแผนสำรอง แต่ตอนนี้... เราต้องหาความเชื่อมั่นของพวกมันก่อน พวกมันต้องรู้ว่าเรารู้ทุกอย่าง"
เสียงโทรศัพท์ของเคนชิโร่ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วอ่านข้อความที่ได้รับ "ข้อมูลมาแล้วครับ" เขาพูดขึ้น
มิเอโกะก้าวไปข้างหน้าและมองที่หน้าจอโทรศัพท์ของเคนชิโร่ ข้อมูลที่ปรากฏอยู่ทำให้เธอรู้สึกถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น
"มีโกดังใหม่ที่พวกมันเพิ่งซื้อ" เคนชิโร่พึมพำ ขณะเลื่อนดูรายละเอียด "มีเส้นทางการจัดส่งของที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน"
มิเอโกะยิ้มบางๆ เมื่อเห็นว่าเคนชิโร่เริ่มมองหาทางออกจากสถานการณ์นี้ได้ "ถ้าเราตามเส้นทางนี้ไป... เราจะเจออะไรที่ซ่อนอยู่ใช่ไหมคะ?"
เคนชิโร่ยิ้มเล็กน้อย ขณะที่เก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋า "ถ้าโชคดี เราจะได้เห็นว่าใครอยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้"
มิเอโกะมองไปที่แผนที่อีกครั้ง ก่อนจะหันมาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "แล้วตอนนี้เราจะทำอะไรต่อ
เคนชิโร่ตั้งใจจดจ่ออยู่กับแผนที่บนโต๊ะ ความคิดของเขาไหลลื่นไปตามการคำนวณเส้นทางที่พวกเขาต้องเดิน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รับรู้ถึงการมีอยู่ของมิเอโกะที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เขา
มิเอโกะก้าวเดินเข้าไปใกล้แผนที่ และสายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่จุดที่เคนชิโร่วงไว้ในแผนที่นั้น "พวกมันไม่ธรรมดาจริงๆ ใช่ไหมคะ?" เธอถามเสียงเบา สังเกตเห็นความมุ่งมั่นที่ลึกซึ้งในท่าทางของเขา
เคนชิโร่หันมองเธอ เขามองตาของเธอเพียงแวบเดียว แต่พอเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามและความกังวล เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่เขาต้องพูดออกไป เขาเริ่มพูดขึ้นอย่างช้าๆ "พวกมันไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ เราต้องระวังตัว"
มิเอโกะพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ภายในใจเธอกลับรู้สึกถึงความกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้น "ฉันรู้" เสียงเธอดังขึ้นน้อยๆ "แต่ฉันไม่อยากให้มันเป็นภาระของคุณ"
เคนชิโร่ยิ้มเล็กน้อย พลางยื่นมือไปที่แผนที่แล้วชี้ไปที่จุดบางจุดที่ถูกวงไว้ "สิ่งที่คุณต้องการคือการหาคำตอบใช่ไหม? คุณไม่ต้องเป็นภาระหรอก ผมแค่กำลังทำในสิ่งที่จำเป็น และในตอนนี้เราต้องทำให้พวกมันรู้ว่าเรารู้ทุกอย่าง"
มิเอโกะรู้สึกถึงความอบอุ่นจากคำพูดของเคนชิโร่ เขามักจะพูดออกมาในแบบที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยในทุกสถานการณ์ แต่ในเวลาเดียวกัน ก็มีความเย็นชาแฝงอยู่ในสายตาของเขา เหมือนกับว่าเขากำลังต่อสู้กับความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนอยู่
"แล้ว...คุณเคยคิดไหมครับว่าถ้าเราทำอะไรบางอย่างแล้วมันกลับมาทำร้ายเราเอง?" มิเอโกะถามขึ้น เสียงของเธอแผ่วเบาเหมือนเสียงกระซิบที่ไม่อยากให้เคนชิโร่ได้ยิน
เคนชิโร่หันมามองเธออีกครั้ง สายตาของเขาเจือไปด้วยความหนักแน่น "ความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตครับ ถ้าไม่เสี่ยง ก็ไม่มีทางได้สิ่งที่ต้องการ แต่ถ้าไม่พร้อมที่จะเสี่ยง ก็อย่าเริ่ม"
มิเอโกะรู้สึกถึงความร้อนที่ขึ้นในอก ขณะที่เธอมองตาเขา ความรู้สึกที่ไม่อาจควบคุมได้เข้ามาครอบงำเธอ สายตาของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าหาเขาโดยไม่อาจห้ามได้
"แล้วถ้าคุณพลาดล่ะ?" มิเอโกะถามเสียงเบา เธอรู้ว่าเธอเองก็เสี่ยงในสิ่งที่กำลังจะทำ
เคนชิโร่หยุดคิดไปชั่วขณะ มือของเขาเลื่อนไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และพิมพ์ข้อความสั้นๆ ด้วยความเร็วสูง "เราต้องเสี่ยงให้มากที่สุด เพราะหากไม่ทำ พวกมันจะยิ่งมีอำนาจเหนือเรา"
มิเอโกะยิ้มเล็กน้อย ขณะที่เคนชิโร่กำลังดูข้อความในโทรศัพท์ของเขา
"แล้วตอนนี้เราจะทำอะไรต่อ?" มิเอโกะถามขึ้น โดยไม่สามารถปกปิดความตึงเครียดในเสียงของเธอได้
เคนชิโร่เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์แล้วมองไปที่เธอ สายตาของเขาเยือกเย็น แต่ก็แฝงไปด้วยความเป็นห่วง "เราจะเริ่มขั้นตอนแรกด้วยการหาข้อมูลจากโกดังใหม่ของพวกมัน"
มิเอโกะหันมองไปที่แผนที่แล้วพยักหน้าเงียบๆ แต่แล้วก็เงยหน้าขึ้นมา และจับมือเคนชิโร่เบาๆ "ฉันไม่รู้ว่าเราจะต้องเจอกับอะไร แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันก็พร้อมที่จะไปกับคุณ"
เคนชิโร่มองมือที่เธอกุมไว้แล้วรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนในใจ เขาไม่ได้คาดหวังให้เธอพูดแบบนี้ แต่คำพูดนั้นกลับทำให้เขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่แท้จริงในความสัมพันธ์ที่พวกเขากำลังสร้างขึ้น
"ผมสัญญา" เขาพูดเสียงต่ำ ก่อนจะยิ้มให้เธอเล็กน้อย "เราจะทำให้สำเร็จ"
มิเอโกะยิ้มบางๆ ตอบกลับ ก่อนที่จะมองไปที่แผนที่และสถานการณ์ที่รออยู่ข้างหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเคนชิโร่เริ่มมีอะไรบางอย่างที่มากกว่าแค่ความร่วมมือในการต่อสู้ แต่มันคือการเรียนรู้ที่จะไว้ใจและก้าวไปข้างหน้า แม้จะไม่รู้ว่าจะไปถึงที่ไหน
ในห้องใต้ดินที่เต็มไปด้วยความลับนั้น สองคนยืนอยู่ร่วมกัน พวกเขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่รออยู่ข้างหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นในตัวกันและกันก็เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ
ณ.บ้านพักของเคนชิโร่ เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างกระจกใสในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ เคนชิโร่ยืนอยู่ข้างๆ โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสาร ขณะที่มือของเขากำลังขยับไปมาบนสมาร์ทโฟนตรวจสอบข้อมูลบางอย่างมิเอโกะที่นั่งอยู่บนโซฟา หยิบแก้วกาแฟที่ยังอุ่นอยู่ขึ้นมาดื่ม รู้สึกถึงความเงียบที่แปลกประหลาดในห้องนี้ แม้จะมีเสียงของเครื่องชงกาแฟในห้องครัวอยู่เบาๆ แต่ความรู้สึกของเธอก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาเคนชิโร่หันมองไปที่มิเอโกะ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย“วันนี้เราจะไปที่โกดังเก่าของแก๊งค์มาเฟียที่คุณบอก เราต้องหาคำตอบให้ได้” เขาพูดขณะยกมือลูบคางเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะคิดถึงแผนการอะไรบางอย่างที่อยู่ในหัวมิเอโกะพยักหน้าเบาๆ แม้จะรู้สึกตึงเครียด แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ เธอได้แต่หวังว่าเคนชิโร่จะสามารถนำพาเธอผ่านเรื่องราวทั้งหมดไปได้เสียงโทรศัพท์มือถือของเคนชิโร่ดังขึ้น เขากดรับสายโดยไม่พูดอะไร และแค่ฟังเสียงที่ปลายสายอยู่ครู่หนึ่ง“ทุกคนพร้อมแล้วใช่ไหม?” เคนชิโร่ถามเสียงตอบกลับจากปลายสายฟังดูราบเรียบ แต่มั่นใจ “ครับ คุณเค
บรรยากาศโกดังเก่าริมชายทะเลที่แทบจะไม่มีผู้คนผ่านไปมาบ่อยครั้ง กลิ่นของเกลือทะเลและสนิมผสมปะปนไปกับอากาศหนาวเย็นของยามเช้า บรรยากาศรอบๆ เป็นความเงียบสงัดที่ไม่สามารถล่วงรู้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง รอยเท้าของทั้งสองคนสะท้อนบนพื้นไม้ผุๆ แสงแดดเพียงเล็กน้อยจากหน้าต่างที่แตกส่องลงมาในห้อง สร้างบรรยากาศที่แปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูกมิเอโกะยืนอยู่ข้างเคนชิโร่ หัวใจของเธอกระตุกแรงทุกครั้งที่ได้ยินเสียงกระทบของวัตถุต่างๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่ในมุมมืด ความกลัวเริ่มคลืบคลานเข้ามาทุกที ทุกย่างก้าวที่เธอก้าวไปข้างหน้า ความรู้สึกที่กดดันนี้ทำให้ลมหายใจของเธอเริ่มหายไปทีละน้อยเคนชิโร่หันมามองเธอ ขณะที่มือของเขาคอยจับกระบอกปืนด้วยท่าทีระมัดระวัง เขารู้ดีว่าทุกการเคลื่อนไหวในที่แห่งนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ“คุณไม่ต้องกังวลครับ” เขาพูดเสียงเรียบ แต่มันกลับมีบางอย่างที่อบอุ่นในนั้น “ผมจะอยู่ข้างคุณตลอดเวลา”มิเอโกะเหลือบมองเขา สายตาของเขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดจากแสงที่ค่อนข้างน้อย แต่น้ำเสียงของเขาทำให้เธอรู้สึกถึงความมั่นคงบางอย่างที่ค่อยๆ คลายความกังวลในใจของเธอ“ขอบคุณค่ะ... แต่มันเหมือนกับว่า ฉันไม
สถานที่ที่พวกเขามาถึงคือห้องลับในโกดังเก่า ที่มืดสลัวราวกับว่าไม่มีวันสิ้นสุด เสียงกุกกักจากสายลมที่พัดเข้ามาในซอกมุมของสถานที่นี้ บางครั้งสะท้อนเสียงจากเหล็กที่ขูดกับพื้นไม้เก่าๆ ราวกับเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ไม่มีวันหยุดพัก บรรยากาศเย็นยะเยือกทำให้มิเอโกะรู้สึกถึงการหายใจที่หนักหน่วง และหัวใจที่เต้นรัวอย่างไม่อาจควบคุมเคนชิโร่เดินนำหน้า มองไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น มือของเขาไม่ได้คลายจากการจับกระบอกปืน แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนเขาจะใจเย็น แต่ร่างกายของเขาก็มีความตึงเครียดที่มิเอโกะไม่สามารถมองข้ามไปได้มิเอโกะรู้สึกได้ถึงความอึดอัดภายใน จนทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวหรือพูดอะไรออกไปได้ ในทุกย่างก้าวที่เธอก้าวไปข้างหน้า เธอกำลังเดินเข้าสู่ความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง“คุณเคนชิโร่...” มิเอโกะเริ่มพูดในที่สุด เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อพยายามยืนยันความคิดในหัวเคนชิโร่หันมาเธอพร้อมกับมองตรงไปที่ดวงตาของเธอ เขารู้ว่าคำถามนี้จะต้องมีมา แต่ก็เลือกที่จะรอฟัง มิเอโกะยืนอยู่ตรงนั้น เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนพูดคำถามที่เธอไม่อาจเก็บไว้ได้อีกต่อไป“เรา... จะต้องเผชิญกับอะไรที่นี่คะ? ถ้าฉัน... ถ้าฉันทำไม่ไห
ห้องลับในโกดังที่ทั้งสองเข้าไปนั้นเต็มไปด้วยเงียบสงัด ราวกับว่าเวลาถูกหยุดนิ่งในห้วงความมืดมิดของความลับที่ซ่อนอยู่ ทุกก้าวที่มิเอโกะก้าวไปข้างหน้า เสียงฝีเท้าดังชัดเจนจนเหมือนจะสะท้อนในห้องนี้อย่างไม่จบสิ้น เสียงหายใจของเธอเริ่มหนักขึ้นตามความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นในใจเคนชิโร่ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง สายตาของเขากระจายไปที่ทุกมุมมองของห้อง สังเกตทุกอย่างอย่างละเอียด ราวกับรู้ว่าความจริงที่รออยู่ในที่แห่งนี้นั้นจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง“คุณเคนชิโร่... อะไรคือสิ่งที่เรากำลังจะเจอที่นี่?” มิเอโกะถามขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและความวิตกกังวลที่ไม่อาจปิดบังได้เคนชิโร่หันมามองเธอ คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง “ความจริงครับ คุณต้องพร้อมแล้ว” เขากล่าวสั้นๆ โดยไม่หันกลับไปมองที่เธอมิเอโกะกัดริมฝีปากแน่น มือของเธอกำมือจนแน่นเหมือนจะห้ามไม่ให้ตัวเองหวั่นไหว เมื่อเคนชิโร่พูดถึงความจริง เธอรู้ดีว่ามันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดหวัง หรือแม้แต่สิ่งที่เธออยากจะรู้ทั้งสองเดินต่อไปเรื่อยๆ จนถึงมุมหนึ่งของห้อง ที่มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตั
สถานที่: บ้านพักส่วนตัวของเคนชิโร่ค่ำคืนนั้น มิเอโกะและเคนชิโร่เดินทางกลับมาที่บ้านพักส่วนตัวหลังจากออกจากโกดังเก่า ความเงียบในรถทำให้บรรยากาศดูอึดอัดเล็กน้อย มิเอโกะมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาของเธอเหม่อลอย ราวกับกำลังประมวลผลข้อมูลทุกอย่างที่เธอได้เจอในวันนี้เคนชิโร่ที่นั่งอยู่ด้านหน้า สังเกตเห็นท่าทางของเธอผ่านกระจกมองหลัง เขาไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งรถมาถึงบ้านพัก บอดี้การ์ดช่วยเปิดประตูให้ทั้งสอง ก่อนที่เคนชิโร่จะเดินนำเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่นเขาถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะพูด “คุณคงมีคำถามมากมายในใจใช่ไหม?”มิเอโกะที่ยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เงยหน้าขึ้นมามองเขา “ใช่ค่ะ… แต่ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มถามจากตรงไหน”เคนชิโร่พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะผายมือเชิญให้เธอนั่งลงบนโซฟา “งั้นเริ่มจากสิ่งที่คุณอยากรู้อย่างที่สุดก่อนดีไหม”เธอนั่งลงช้าๆ แล้วหันไปมองหน้าเขา “คุณรู้เรื่องเกี่ยวกับแม่ของฉันได้ยังไงคะ? และทำไมข้อมูลพวกนั้นถึงมาอยู่ในโกดังนั้น?”เคนชิโร่นั่งลงตรงข้ามเธอ ดวงตาของเขาสบกับดวงตาเธออย่างตรงไปตรงมา “ผมรู้เพราะผมตามสืบเรื่องนี้มานานแล้วครับ… ทุกอย่างเริ่มจากการสืบสวนเกี่ยว
สถานที่: ห้องโถงในคฤหาสน์ของเคนชิโร่เช้าตรู่ในวันใหม่ แสงแดดอ่อนสาดลอดหน้าต่างกระจกบานใหญ่ลงมาในห้องโถงที่เงียบสงบ เคนชิโร่ยืนอยู่หน้าประตูบานใหญ่ มองเอกสารในมืออย่างครุ่นคิด มิเอโกะเดินลงบันไดมาในชุดเรียบง่ายแต่สะดุดตา เธอหยุดยืนมองเขาสักพักก่อนจะเอ่ยขึ้น“คุณตื่นแต่เช้าอีกแล้วเหรอคะ?”เขาเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร และส่งยิ้มบางๆ ให้เธอ “ใช่ครับ วันนี้มีงานสำคัญ”“แผนที่จะไปจัดการแก๊งมาเฟียนั่นใช่ไหมคะ?” น้ำเสียงเธอมีความกังวลแฝงอยู่“ใช่ครับ ผมต้องไปดูด้วยตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน”เธอก้าวเข้ามาใกล้ “คุณคิดว่าสถานการณ์มันจะรุนแรงแค่ไหนคะ?”“ผมไม่อยากโกหกครับ มันมีความเสี่ยง แต่ผมเตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว บอดี้การ์ดของผมมีประสบการณ์ ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง”มิเอโกะนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ฉันจะไปกับคุณ”“ไม่ได้ครับ” เขาพูดทันที น้ำเสียงของเขามั่นคง “มันอันตรายเกินไปสำหรับคุณ”“แต่ฉันไม่อยากอยู่เฉยๆ” เธอยืนกราน “คุณสัญญากับฉันได้ไหมว่าจะปลอดภัย?”เคนชิโร่จ้องเธอนิ่ง ก่อนจะพยักหน้า “ผมสัญญาครับ ผมจะทำทุกวิถีทางให้เรื่องนี้จบลงโดยไม่มีใครเป็นอันตราย
โกดังร้างเงียบสงัด มีแสงแดดลอดผ่านรอยแตกของหลังคา สร้างลำแสงที่ดูเหมือนมีชีวิตอยู่กลางความมืด บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นอับชื้นและสนิม เสียงรองเท้าของเคนชิโร่และบอดี้การ์ดดังก้องไปทั่วเคนชิโร่ยกมือขึ้นให้ทุกคนหยุด เขามองรอบๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนจะหันไปพูดกับหัวหน้าทีมบอดี้การ์ด“กระจายกำลัง ตรวจสอบพื้นที่รอบๆ ให้แน่ใจว่าไม่มีใครซ่อนตัวอยู่”“รับทราบครับ นายใหญ่”บอดี้การ์ดแยกย้ายกันไป เคนชิโร่เดินไปยังมุมหนึ่งของโกดังที่มีโต๊ะไม้เก่าๆ ตั้งอยู่ พร้อมเอกสารบางอย่างที่ถูกทิ้งไว้ เขาหยิบเอกสารขึ้นมา พลางอ่านด้วยความสงสัยเสียงฝีเท้าด้านนอกโกดัง“คุณเคนชิโร่ครับ!” เสียงบอดี้การ์ดคนหนึ่งตะโกนเรียก“มีอะไร?” เขาถามพลางเดินออกไป“เราพบร่องรอยของคนที่เพิ่งออกไปก่อนที่เราจะมาถึง ดูเหมือนพวกเขาจะทิ้งของไว้ด้านหลัง”เคนชิโร่มองถุงกระดาษที่ถูกนำมาให้ มันเต็มไปด้วยเงินสดและเอกสารเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมาย เขาเม้มปากแน่น ดวงตาแสดงความเคร่งเครียด“พวกเขาคงรู้ว่าเราจะมา...” เขาพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันไปสั่งการ “เราต้องรีบกลับไปตั้งหลัก ผมไม่อยากให้ใครตกอยู่ในอันตรายสถานที่: ในรถระหว่างเดินทางกลับคฤหาส
สถานที่: ห้องนั่งเล่นคฤหาสน์เคนชิโร่ในช่วงเช้าหลังฝนตกแสงแดดยามเช้าส่องผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องนั่งเล่น เสียงนกร้องเบาๆ ประกอบกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ในสวนที่ลอยมากับลมสดชื่น มิเอโกะนั่งอยู่บนโซฟา กำลังจิบชาร้อนในถ้วยกระเบื้องลายดอกไม้ เธอเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นหยดน้ำฝนเกาะอยู่ตามใบไม้ที่สะท้อนแสงแดดระยิบระยับเคนชิโร่เดินเข้ามาในห้อง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมเม็ดบนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ดูแข็งแกร่ง “เมื่อคืนคุณนอนไม่หลับหรือเปล่าครับ?”เธอหันมามองเขา ยิ้มบางๆ “ฉันนอนไม่หลับค่ะ แต่ไม่ใช่เพราะกังวล...แค่คิดถึงบางอย่าง”เขานั่งลงที่โซฟาตรงข้าม ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาจับจ้องไปที่เธอ “คิดถึงเรื่องอะไรเหรอครับ?”เธอหยุดเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฉันคิดถึงสิ่งที่คุณพูดเมื่อวาน...เรื่องที่คุณกลัวการเสียฉันไป”เขายิ้มมุมปาก ก่อนจะโน้มตัวไปด้านหน้า วางศอกบนเข่า “มันคือความจริงครับ ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน”เธอหลบสายตาเล็กน้อย ใบหน้าเริ่มมีสีแดงระเรื่อ “ฉัน...ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดีค่ะ แต่ฉันอยากให้คุณรู้ว่าคุณก็สำคัญสำหรับฉันเหมือนกัน”สถานที่: สวนหลังบ้านคฤหาสน์หล
สถานที่: สวนสาธารณะสวนเคียวอิชิวันที่แห่งความหวังได้มาถึงแล้ว สวนสาธารณะเคียวอิชิเต็มไปด้วยดอกไม้ที่เบ่งบานและต้นไม้เขียวขจี ไกลออกไปจากเมืองที่เงียบสงบ มันเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นใหม่ และวันนี้มันจะกลายเป็นที่ที่ชีวิตของมิเอโกะจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เคนชิโรเดินจับมือมิเอโกะออกจากร้านคาเฟ่ ก็ชวนมิเอโกะมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ร้านคาเฟ่กันต่อ มิเอโกะนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ เคนชิโร่เดินเข้ามาหาเธอและยิ้มอย่างอบอุ่น เขามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความมั่นคง"มิเอโกะ" เคนชิโร่เรียกชื่อเธอเบาๆ ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ "ฉันคิดมานานแล้วเกี่ยวกับเส้นทางของเรา และมันเป็นสิ่งที่ฉันมั่นใจที่สุดในชีวิต"มิเอโกะหันไปมองเขาและยิ้ม "อะไรคะ เคนชิโร่?"เคนชิโร่สูดลมหายใจเข้าลึกและหยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า เขาหยุดสักครู่ก่อนที่จะเปิดกล่องออกเผยแหวนเพชรที่สวยงาม "มิเอโกะ... ฉันไม่สามารถจินตนาการชีวิตของตัวเองหากไม่มีคุณ คุณทำให้ทุกอย่างมีความหมายมากขึ้น คุณพร้อมที่จะเดินทางไปกับฉันตลอดไปไหม?"มิเอโกะตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเต็มไปด้วยน้
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่นแสงแดดยามบ่ายทาบทับแม่น้ำโคะระ และท้องฟ้าโปร่งใสทำให้ทุกสิ่งที่อยู่ข้างนอกดูสดใสและเงียบสงบ มิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะในคาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่น พร้อมกับดื่มกาแฟดำที่เธอชื่นชอบ เธอกำลังคิดถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญที่เธอทำเมื่อไม่นานมานี้ การเลือกที่จะไม่เพียงแต่เลือกเส้นทางเดียวในชีวิต แต่เลือกที่จะเดินไปข้างหน้าพร้อมกับทั้งสองทางในมือ—งานและความรักเคนชิโร่เดินเข้ามาในร้าน คาเฟ่ที่มีทั้งการตกแต่งที่อบอุ่นและบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะกับการมานั่งพักผ่อนหลังจากวันที่วุ่นวาย เขายิ้มให้กับมิเอโกะที่นั่งอยู่ตรงมุมข้างหน้าต่าง เธอหันไปมองเขาและยิ้มตอบด้วยความอ่อนโยน"สวัสดีครับ...วันนี้ดูเหมือนคุณจะนั่งพักไปได้นานเลยนะครับ" เคนชิโร่เริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นมิเอโกะยิ้ม "ใช่ค่ะ บางครั้งการนั่งเงียบๆ และคิดถึงบางเรื่องมันทำให้รู้สึกสงบดีค่ะ" เธอวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะแล้วมองไปที่ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งเคนชิโร่เห็นท่าทางของเธอและรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง "คุณคิดอะไรอยู่ครับ? ดูเหมือนว่าจะมีอะไรอยู่ในใจมากมาย"มิเอโกะพยักหน้าแล้วถอนหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดต่อ
สถานที่: ร้านกาแฟริมน้ำ, สวนสาธารณะคามากูระเช้าวันใหม่ในคามากูระเต็มไปด้วยแสงแดดที่อ่อนโยนและท้องฟ้าที่ใสสะอาด มิเอโกะยืนอยู่หน้าร้านกาแฟริมน้ำที่เธอเคยมาพบเคนชิโร่หลายครั้ง มันเป็นสถานที่ที่เธอรู้สึกผ่อนคลายและสามารถคิดได้ชัดเจนในช่วงเวลาที่วุ่นวายภายในจิตใจวันนี้มิเอโกะจะต้องตัดสินใจเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตการทำงานและความรักของเธอ เธอยืนอยู่ที่นี่เพื่อให้เวลาให้ตัวเองคิดก่อนที่จะพบกับเคนชิโร่ และพูดถึงการตัดสินใจที่เธอคิดมานานไม่ไกลจากนั้นเคนชิโร่เดินเข้ามาที่ร้านกาแฟและมองเห็นมิเอโกะยืนอยู่ริมระเบียงมองไปที่ท้องทะเล สภาพแสงแดดยามเช้าทำให้ทุกอย่างดูสวยงามและเงียบสงบ เหมือนกับโลกใบนี้ให้เวลาเธอได้หายใจ และคิดสิ่งที่ต้องการจะทำเคนชิโร่เดินไปใกล้และทักทายเธอ "มิเอโกะ, คุณมาเร็วมากเลยครับ"มิเอโกะหันไปยิ้มให้เขา และเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้ ความเครียดที่สะสมไว้หลายวันเริ่มลดลงไป "ใช่ค่ะ ฉันอยากมาให้ตัวเองมีเวลาคิดอะไรหลายๆ อย่าง"ทั้งสองนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างของร้านกาแฟที่มองออกไปเห็นวิวทะเลที่เงียบสงบในตอนเช้า เคนชิโร่เปิดการสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "คุณยังรู้สึกไม่แน่ใจใช่ไหมครับ
สถานที่: อาคารสำนักงานมิเอโกะ, ชายหาดคามากูระหลังจากที่มิเอโกะได้รับคำปลอบใจจากเคนชิโร่ในสวนสาธารณะยูโนะ สองวันที่ผ่านมาชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและคำถามที่ค้างคาใจ เธอได้กลับไปที่บริษัทและพยายามโฟกัสกับงานมากขึ้น แต่ทุกอย่างยังคงไม่ง่ายดาย เพราะเธอยังคงรู้สึกถึงการแบ่งแยกระหว่างการทำตามความฝันในอาชีพการงานและการเลือกชีวิตส่วนตัวที่เต็มไปด้วยความรักและความสัมพันธ์วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของมิเอโกะ เพราะเธอต้องทำการตัดสินใจเรื่องใหญ่ในงานที่เธอทำอยู่กับโครงการสำคัญที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของบริษัทได้ แต่การตัดสินใจในเรื่องนี้กลับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเพราะมันเกี่ยวข้องกับคำถามที่ยากเกี่ยวกับความสำเร็จและความรักมิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในอาคารสำนักงานของบริษัท ท่ามกลางกองเอกสารที่ซ้อนกันอยู่ เธอรู้สึกเหมือนมีโลกทั้งใบถล่มใส่ตัวเอง เมื่อเธอต้องรับผิดชอบในโครงการใหญ่ที่สามารถกำหนดทิศทางอนาคตของบริษัท แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกที่ตึงเครียดจากความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเคนชิโร่ยังคงตามหลอกหลอนเธอโทโมโกะก้าวเข้ามาในห้องทำงานของมิเอโกะด้วยท่าทางที่จริงจัง "มิเอโกะคะ ว
สถานที่: สวนสาธารณะยูโนะในโตเกียวเมื่อมิเอโกะกลับมาถึงบริษัทในตอนเย็น ความรู้สึกที่ยังค้างอยู่จากการสนทนากับเคนชิโร่ในร้านอาหารริมทะเลคามากูระยังคงตามหลอกหลอนเธอ การตัดสินใจในชีวิตที่เธอต้องทำกำลังกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นทุกที แต่สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจกลับไปที่บริษัทก็เพราะไม่อยากให้ปัญหาที่เกิดขึ้นในบริษัทลุกลามไปมากกว่านี้ทุกครั้งที่เธอพยายามทิ้งปัญหานี้ไปสักพักหนึ่ง ความกดดันก็ยังคงกลับมารบกวนใจอยู่ดี เหมือนกับเงาที่ไม่สามารถหลบหนีไปได้ เธอรู้ว่าเธอจะต้องพบกับมันในอนาคตอันใกล้ และความไม่มั่นใจในเส้นทางชีวิตของเธอก็ยิ่งทำให้ความเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในระหว่างการประชุมที่บริษัท โทโมโกะเริ่มพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการใหญ่ของพวกเขา ความเครียดและความวิตกกังวลในตัวมิเอโกะเพิ่มขึ้นเมื่อได้ยินรายละเอียดของปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหานี้เป็นสิ่งที่มิเอโกะรู้ดีว่าเธอจะต้องแก้ไข แต่คำถามที่ยังค้างในใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองยังคงวนเวียนอยู่ตลอดเวลา"มิเอโกะค่ะ เราต้องการคุณในการตัดสินใจเรื่องนี้" โทโมโกะพูดด้วยน้ำเสียงเครียด "ถ้าเราไม่รีบแก้ไข ปัญหานี้จะยิ่งซับซ้อนและอาจส่งผลกระ
สถานที่: ร้านอาหารริมทะเลคามากูระหลังจากคืนที่เต็มไปด้วยความคิดในคาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะ มิเอโกะรู้สึกถึงแรงกดดันจากการตัดสินใจที่ต้องเผชิญในชีวิตของเธอ แม้ว่าเคนชิโร่จะทำให้เธอรู้สึกสบายใจ แต่เธอก็ยังคงมีคำถามในใจเกี่ยวกับอนาคต ความไม่แน่นอนของเส้นทางที่เธอเลือกเดินยังคงเป็นภาระที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้วันต่อมา เคนชิโร่ได้พามิเอโกะไปยังร้านอาหารริมทะเลคามากูระ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาชื่นชอบมากที่สุดที่หนึ่ง สถานที่แห่งนี้มองเห็นทะเลที่เปิดกว้างและท้องฟ้าที่กว้างไกล บรรยากาศสงบและร่มรื่น เหมาะกับการพูดคุยและทำความเข้าใจชีวิตในมุมมองใหม่ร้านอาหารมีพื้นที่กลางแจ้งที่มองเห็นวิวทะเลและยังมีกลิ่นของเกลือทะเลที่ลอยมาจากข้างๆ เมื่อทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นคลื่นทะเลที่กระทบชายหาด มิเอโกะรู้สึกถึงความสงบและสดชื่นที่เริ่มเข้ามาในใจเธอ แม้ว่าจะยังคงมีคำถามที่ติดค้างในใจ"คุณรู้ไหมคะว่าเมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าความสำเร็จในชีวิตคือการมีทุกอย่างที่อยากได้ แต่พอได้ลองใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความรับผิดชอบ ทุกอย่างมันกลับดูซับซ้อนเกินไป" มิเอโกะเริ่มพูดอย่างเปิดใจ ขณะที่เธอสังเ
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะหลังจากวันที่เต็มไปด้วยความท้าทายในการทำงาน มิเอโกะพบว่าเธอต้องการเวลาเพื่อฟื้นฟูจิตใจและพักผ่อนจากความเครียดจากธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบ วันนั้นเธอได้ตัดสินใจโทรหาคนที่เธอรู้สึกว่าอาจเป็นแหล่งของความสงบ—เคนชิโร่ หลังจากที่ได้พูดคุยกันในวันก่อนหน้า เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นทีละเล็กทีละน้อยทั้งสองตกลงที่จะพบกันที่คาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะ สถานที่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสงบและสวยงาม ตลอดทั้งเส้นทางการเดินจากสำนักงานไปยังคาเฟ่ มิเอโกะรู้สึกถึงความตึงเครียดในตัวเองที่เริ่มคลายลงเล็กน้อย เมื่อเธอเห็นเคนชิโร่ยืนรอที่มุมหนึ่งของคาเฟ่ เขาดูสงบและมั่นคงเช่นเคย รอยยิ้มของเขาทำให้ความเครียดที่สะสมมาทั้งวันเริ่มลดลง"สวัสดีครับ" เคนชิโร่ทักทายมิเอโกะด้วยเสียงนุ่มนวล ขณะที่เขาเชิญให้เธอนั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำสุมิดะที่ไหลเอื่อยๆ และท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีไปในยามเย็น"สวัสดีค่ะ" มิเอโกะยิ้มตอบและนั่งลงอย่างสบายๆ ก่อนจะหยิบแก้วกาแฟที่เสิร์ฟให้ขึ้นมาดื่ม "วันนี้วันยาวจริงๆ ค่ะ รู้สึกเหมือนทุกอย่างต้องการความสนใจพร้อมๆ กัน"เคนชิโ
สถานที่: สวนริมน้ำซุมิดะ, โตเกียวฤดูใบไม้ผลิเริ่มแสดงตัวตนผ่านความสดใสของดอกซากุระที่เบ่งบานสะพรั่งรอบๆ สวนริมน้ำซุมิดะในกรุงโตเกียว เสียงน้ำที่ไหลเย็นผ่านหินในลำธารได้สร้างบรรยากาศอันสงบเงียบ ท่ามกลางสายลมเย็นๆ ที่พัดผ่าน มิเอโกะและเคนชิโร่เดินเคียงข้างกันท่ามกลางดอกซากุระที่กำลังผลิบาน สองคนต่างรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่มีคำพูดใดสามารถแทนที่ได้ การเดินในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยความสงบจากธรรมชาติที่ล้อมรอบพวกเขา ทั้งสองยิ้มให้กันโดยไม่ต้องพูดอะไร ตลอดระยะทางที่เดินไปด้วยกัน พวกเขาก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพูดคุยมาก เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นในรูปแบบที่เงียบสงบและมั่นคง“คุณเคยคิดไหมครับว่า... อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต?” เคนชิโร่ถามเสียงเบา ขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ต้นซากุระที่กำลังผลิบานอย่างงดงาม "บางครั้งมันทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตมันไม่แน่นอน เราไม่อาจจะรู้ได้ว่าความท้าทายใหญ่ๆ จะมาเมื่อไหร่"มิเอโกะหันมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ชีวิตทุกชีวิตมีอุปสรรคค่ะ แต่เราผ่านมันมาได้แล้วหลายครั้งแล้ว ไม่ใช่เหรอคะ? ดังนั้น ถ้าเรายังอยู่ข้างกัน เราก็จะเอาชนะทุกอุปสรรคที่ขว
ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่อากาศเริ่มเย็นขึ้นเพียงเล็กน้อย ภูมิทัศน์ของกรุงโตเกียวเต็มไปด้วยต้นซากุระที่กำลังเบ่งบานอยู่ริมถนน ขณะที่มิเอโกะและเคนชิโร่เดินเคียงข้างกันในสวนสาธารณะใกล้แม่น้ำสุมิดะ เสียงของน้ำที่ไหลกระทบกับหินในลำธารทำให้บรรยากาศรอบๆ เป็นไปอย่างสงบเงียบ ทั้งสองเดินไปด้วยกันอย่างไม่มีคำพูดมากมาย แต่ความเงียบนี้กลับเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดในตอนนี้ การอยู่เคียงข้างกันในช่วงเวลานี้ทำให้รู้สึกถึงความผูกพันที่ลึกซึ้งขึ้นท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองอ่อนๆ เมื่อแสงแดดอ่อนๆ เริ่มลอยเหนือขอบฟ้า เคนชิโร่และมิเอโกะยังคงเดินไปด้วยกันอย่างเงียบๆ มือของเคนชิโร่ล้วงในกระเป๋ากางเกง ขณะที่มิเอโกะเดินเคียงข้างเขาด้วยท่าทางผ่อนคลาย แต่ภายในใจทั้งคู่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน“คุณรู้ไหม... มีบางครั้งที่ผมคิดว่าเราอาจจะต้องพบเจอกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ในอนาคต” เคนชิโร่พูดเสียงเบา ขณะที่มองไปที่ต้นซากุระที่เริ่มผลิบาน “ชีวิตคู่มันไม่ง่ายเลย แต่ผมก็มั่นใจในสิ่งที่เรามี”มิเอโกะยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเขา "เราผ่านอุปสรรคมามากมายแล้วค่ะ คุณไม่คิดว่าเรามีความสามารถที่จะเผชิญห