สถานที่: บนรถของเคนชิโร่
รถยนต์หรูสีดำแล่นอย่างนุ่มนวลไปตามถนนย่านชานเมือง โตโยะ คนขับรถส่วนตัวของเคนชิโร่ จับพวงมาลัยแน่น ดวงตาจดจ่ออยู่ที่ถนนข้างหน้า บอดี้การ์ดห้าคนของเขานั่งกระจายกันอยู่ในรถสองแถวหลัง สีหน้าของทุกคนเคร่งเครียดเหมือนพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
มิเอโกะนั่งชิดประตูด้านซ้าย กระเป๋าสะพายของเธอวางบนตัก มือกำแน่นจนข้อขาว เธอยังรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงไม่หยุดหลังการหนีตายเมื่อครู่
เคนชิโร่ที่นั่งข้างเธอ เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่ฟังแล้วหนักแน่น
เคนชิโร่:
"คุณเป็นใครครับ? ทำไมถึงถูกตามล่า?"มิเอโกะสะดุ้งเล็กน้อย เธอก้มหน้าลง สูดหายใจลึกก่อนตอบเสียงเบา
มิเอโกะ:
"ฉัน... ฉันเป็นนักข่าวค่ะ มิเอโกะ จาก Tokyo Horizon News"เคนชิโร่พยักหน้าเล็กน้อย หันหน้ากลับไปมองถนนเบื้องหน้า น้ำเสียงของเขายังคงเรียบ
เคนชิโร่:
"และคุณไปทำอะไรที่โกดังนั่น?"เธอหันมามองเขาอย่างลังเล ก่อนตัดสินใจพูดออกมาในที่สุด
มิเอโกะ:
"ฉันกำลังสืบเรื่องแก๊งยามาโตะ คุโรคิ พวกเขาขนยาเสพติดและอาวุธผิดกฎหมาย ฉันต้องการเปิดโปงพวกเขา"ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรในทันที มือของเขาที่วางอยู่บนเข่าขยับเพียงเล็กน้อย แต่แววตาเรียบเย็นของเขาสั่นไหวในชั่วขณะหนึ่งและเคนชิโร่ก็คิดในใจว่ามิเอโกะมีศัตรูคนเดี่ยวกันกับเขาเมื่อ 5 ปีก่อน
เคนชิโร่: (แอบยิ้มเล็กน้อย)
"กล้าหาญดีครับ แต่คุณรู้ไหมว่ามันอันตรายมาก?"มิเอโกะ: (เสียงมั่นคง แต่สายตายังคงมองไปข้างหน้า)
"ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันเลือกเส้นทางนี้แล้ว ฉันต้องการทำให้มันสำเร็จ"เขาพยักหน้าเบา ๆ น้ำเสียงเริ่มผ่อนคลายลง
เคนชิโร่:"เข้าใจแล้ว ผมจะไปส่งคุณที่บ้าน แต่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?"
เธอหันมามองเขา คิ้วขมวดเล็กน้อย
มิเอโกะ:"ถามอะไรคะ?"
เคนชิโร่:"คุณชื่ออะไร ผมรู้แล้ว แต่คุณคงอยากรู้ว่าผมชื่ออะไรเหมือนกัน ใช่ไหม?"
เธอชะงักไปเล็กน้อย ก่อนตอบอย่างไม่ลังเล
มิเอโกะ:"ใช่ค่ะ คุณชื่ออะไรคะ? แล้วทำไมถึงมีบอดี้การ์ดเยอะขนาดนี้?"
ชายหนุ่มหันมายิ้มมุมปากเล็ก ๆ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ
เคนชิโร่:"ผมชื่อเคนชิโร่ครับ ผมเป็นเจ้าของธุรกิจไนท์คลับ Yūgen Club บอดี้การ์ดพวกนี้... ก็คือความจำเป็นในงานที่ผมทำ"
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงติดแปลกใจ
มิเอโกะ:"ไนท์คลับ? แล้วคุณเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องแบบนี้หรือเปล่าคะ?"
เขาไม่ได้ตอบในทันที สายตาหลุบลงเล็กน้อย ก่อนจะมองกลับไปที่ถนนเบื้องหน้า
เคนชิโร่:
"มันซับซ้อนครับ ไว้วันหลังผมจะเล่าให้คุณฟัง"เธอยังคงมองเขา แต่เลือกที่จะไม่ถามต่อ เพราะในสายตาของเขา มีบางอย่างที่เธอยังไม่สามารถอ่านออก
มิเอโกะ:"...ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยฉันไว้"
เขาหันมาสบตาเธออีกครั้ง ดวงตาเยือกเย็นแต่ลึกซึ้ง
เคนชิโร่:"ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ผมแค่ไม่ชอบเห็นคนถูกทำร้าย โดยเฉพาะคนที่กล้าหาญอย่างคุณ"
สถานที่: บ้านของเคนชิโร่
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่บ้านของเคนชิโร่ หลังจากที่เคนชิโร่กลับมาถึงบ้านเมื่อกลางคืน เขาไม่ได้นอนทันที แต่กลับนั่งคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนที่ผ่านมา ขณะที่เขานั่งอยู่ในห้องทำงานที่ตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมกับเครื่องดื่มที่อยู่ในมือ บอดี้การ์ดสองคนยืนรออยู่ข้างนอก เขาหันไปมองพวกเขาอย่างตั้งใจ ก่อนจะเอ่ยคำสั่ง
เคนชิโร่:
"ให้พวกคุณสองคนไปสืบข้อมูลเกี่ยวกับมิเอโกะ"บอดี้การ์ดทั้งสองคนนิ่งฟัง ก่อนจะค้อมหัวรับคำ
บอดี้การ์ด 1:
"ทราบครับคุณเคนชิโร่"บอดี้การ์ด 2:
"เราจะไปปลอมตัวและหาข้อมูลให้ละเอียดครับ"หลังจากนั้น พวกเขาก็ออกจากห้องไปทำภารกิจตามคำสั่งของเคนชิโร่ ในขณะที่เคนชิโร่ยังคงนั่งจิบเครื่องดื่มในมืออย่างนิ่งสงบ ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง
ไม่นานนัก บอดี้การ์ดทั้งสองก็กลับมาพร้อมรายงาน
บอดี้การ์ด 1:
"คุณมิเอโกะเป็นนักข่าวจริงๆ ครับ เธอกำลังทำการสืบเรื่องแก็งค์มาเฟียยามาโตะ คุโรคิ และต้องการเปิดโปงพวกเขาให้ได้รับโทษตามกฎหมาย"เคนชิโร่พยักหน้าเล็กน้อย ขบคิดเรื่องราวที่ได้ยิน น้ำเสียงของเขาค่อนข้างเรียบ แต่ในดวงตาของเขามีแววคิดคำนึง
เคนชิโร่: (พึมพำกับตัวเอง)
"นักข่าวที่กล้าท้าทายมาเฟีย... น่าสนใจ... แถมยังมีศัตรูคนเดียวกับผมเมื่อ 5 ปีก่อน"เขาหยุดคิดไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เคนชิโร่:
"ผมอยากแก้แค้นให้พวกนั้นได้รับโทษ ผมอยากรวมมือกับมิเอโกะ"บอดี้การ์ด 2:
"คุณเคนชิโร่จะทำอย่างไรต่อครับ?"เคนชิโร่:
"ให้พวกคุณสองคนไปดักรอที่สำนักข่าว และบอกมิเอโกะว่า ผมจะนัดพบกับเธอพรุ่งนี้เช้าที่ไนท์คลับ Yūgen Club ผมจะบอกเธอทุกอย่างที่เกี่ยวกับการแก้แค้น"บอดี้การ์ดทั้งสองรับคำ และเดินออกจากห้องไปทันที ส่วนเคนชิโร่ก็กลับมานั่งคิดต่อในหัว
สถานที่: ร้านกาแฟ
ในขณะที่เคนชิโร่กำลังคิดถึงมิเอโกะที่บ้านของเขา มิเอโกะก็ได้พบกับนักสืบที่เธอจ้างไว้เพื่อสืบข้อมูลเกี่ยวกับเคนชิโร่ นักสืบคนนั้นนั่งข้างเธอที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมือง มือของเขาหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบอย่างไม่รีบร้อน ก่อนจะวางลงบนโต๊ะและเริ่มรายงานผลการสืบสวนให้มิเอโกะฟัง
มิเอโกะ: (จ้องตานักสืบ)
"ได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับคุณเคนชิโร่บ้าง?"นักสืบพยักหน้า ก่อนจะเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
นักสืบ:
"เคนชิโร่เป็นเจ้าของไนท์คลับ Yūgen Club ครับ แต่เขามีปัญหากับแก็งค์มาเฟียยามาโตะ คุโรคิเมื่อ 5 ปีก่อน เขาถูกพวกแก็งค์ลักลอบขายยาเสพติดในไนท์คลับ ซึ่งทำให้ธุรกิจของเขาเสียหายอย่างหนัก เขาพยายามแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจนครบาลไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะสารวัตรคนหนึ่งนั้นเป็นสายให้กับแก็งค์"มิเอโกะฟังจนจบ สีหน้าของเธอเริ่มเคร่งเครียด ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ
มิเอโกะ: (เสียงมั่นคง)
"ถ้าอย่างนั้น... เคนชิโร่ก็ต้องเคยเจอกับปัญหาที่คล้ายกันกับฉัน"นักสืบมองไปที่เธอ ก่อนจะเล่าต่อ
นักสืบ:
"ใช่ครับ ตอนนั้นเขามีเรื่องกับตำรวจและไม่สามารถหาคนช่วยได้ จึงต้องจัดการด้วยตัวเอง แต่เขาก็ยังคงพยายามทำธุรกิจของตัวเองต่อไปจนถึงปัจจุบัน"มิเอโกะนั่งเงียบไปชั่วครู่ สีหน้าของเธอแสดงความคิดมากขึ้น บางทีการเปิดเผยความจริงและการร่วมมือกับเคนชิโร่ อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
มิเอโกะ: (เสียงเบา)
"ตอนนี้... ฉันเริ่มเชื่อใจเขามากขึ้นแล้ว"นักสืบ:
"คุณคิดว่าจะทำอะไรต่อไปครับ?"มิเอโกะ: (มองไปที่หน้าต่าง)
"ฉันจะกลับไปทำงานที่สำนักงานข่าวก่อน และฉันค่อยวางแผนเรื่องนี้ต่อไป" มิเอโดะเดินออกจากร้านกาแฟและเดินกลับมาทำงานต่อที่สำนักงานข่าวสถานที่: หน้าสำนักข่าว Tokyo Horizon Newsบอดี้การ์ดสองคนของเคนชิโร่ยืนอยู่หน้าสำนักงานข่าวอย่างเงียบ ๆ ภายใต้แสงแดดที่ค่อนข้างแรง พวกเขามองไปที่ประตูทางเข้าอย่างระมัดระวัง เหมือนกับว่ารู้ว่ามิเอโกะกำลังจะเดินออกมาจากภายในไม่ช้าบอดี้การ์ด 1: (หันไปทางอีกคนหนึ่ง)"คุณคิดว่าเธอจะเชื่อใจเจ้านายเราไหม?"บอดี้การ์ด 2: (ยักไหล่)"มันไม่ใช่เรื่องของเรา... แค่ทำตามคำสั่ง"ทั้งสองคนยืนรออย่างอดทน และในขณะที่ทั้งสองกำลังยืนคุยกัน มิเอโกะก็กลับมาถึงที่หน้าสำนักงานข่าวโดยไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอกับคนเหล่านี้ เธอหยุดเดินเมื่อเห็นชายสองคนในชุดดำยืนอยู่ข้างหน้ามิเอโกะ: (มองอย่างสงสัย)"คุณสองคนมาทำอะไรที่นี่คะ?"บอดี้การ์ดทั้งสองยืนนิ่งอยู่ก่อนจะหันมามองกันบอดี้การ์ด 1: (ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ)"คุณมิเอโกะ... เรามีคำสั่งจากคุณเคนชิโร่"มิเอโกะ: (สงสัย)"จากคุณเคนชิโร่?"บอดี้การ์ด 2: (ยิ้มเล็กน้อย)"เขานัดพบคุณที่ไนท์คลับของเขา พรุ่งนี้เช้า"มิเอโกะเงียบไปสักพัก เธอไม่ได้คาดคิดว่าจะได้รับการติดต่อจากเคนชิโร่ในทันทีแบบนี้ แต่ก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจและอาจเป็นโอกาสในการหาคำตอบเกี่ยวกับเขาและแก๊งค์มาเฟียมิ
สถานที่: ห้องทำงานส่วนตัวของเคนชิโร่, ที่อยู่อาศัยของเขาเคนชิโร่เปิดประตูห้องทำงานเข้ามา สายตาของเขาจับจ้องไปที่โต๊ะทำงานที่มีไฟสีเหลืองอ่อนส่องสว่าง เขาหยุดยืนอยู่ที่ประตูแล้วมองไปที่นาฬิกาแขวนกำแพง ก่อนจะหันกลับมาหามิเอโกะที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะ ในมือของเธอถือเอกสารที่เขามอบให้ เธอคลี่อ่านมันอย่างระมัดระวัง"คุณแน่ใจหรือว่าจะทำแบบนี้?" เคนชิโร่ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เงียบขรึมมิเอโกะเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร เมื่อเห็นการแสดงออกของเขา เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ถามแค่คำถามนั้น แต่กำลังพยายามสื่อถึงความกังวลที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา"แน่ค่ะ ฉันไม่กลัว..." เสียงของมิเอโกะทุ้มลง แต่ยังคงมั่นคง "แค่บอกมา ถ้าฉันต้องทำอะไร ผมก็จะทำ"เคนชิโร่ยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง เหมือนกำลังประเมินสถานการณ์ เขาเดินไปที่โต๊ะทำงานและเริ่มจัดเรียงเอกสารบางอย่าง ขยับปากเพื่อพูด แต่แล้วก็หยุดหายใจไปชั่วขณะ"มันจะอันตรายมาก" เคนชิโร่พูดเสียงเบา แต่มันหนักแน่นมิเอโกะเดินเข้ามาใกล้ ค่อยๆ วางเอกสารลงบนโต๊ะอย่างตั้งใจและมองเขาตรงๆ "ถ้าไม่ทำอะไรเลย พวกนั้นก็จะทำลายทุกอย่าง" เธอหยุดพูดไปและมองเขาในสายตาที่แสดงออกถึงความมุ่งมั่น "ฉันพร้อมแล้วค่ะ"
"ผมมีข้อมูลเกี่ยวกับโกดังอื่นที่พวกมันใช้" เคนชิโร่พูดเสียงเรียบ สายตาของเขาไม่ละจากเธอ "คุณสนใจจะร่วมมือกันไหม?"มิเอโกะเลื่อนแก้วเครื่องดื่มในมือไปมาอย่างช้าๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองตาเขา พร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก"แน่นอนค่ะ ถ้ามันช่วยกำจัดพวกนั้นได้ ฉันยินดีทำทุกอย่าง" เสียงของมิเอโกะแฝงไปด้วยความมั่นใจ ความมุ่งมั่นในตัวเธอสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน แม้ภายในใจจะมีความกังวลแฝงอยู่ก็ตามเคนชิโร่พยักหน้า ก่อนจะยื่นแผนที่ที่เขาเตรียมไว้ให้เธอ "นี่คือสถานที่ที่พวกมันใช้เป็นโกดังเก็บสินค้า ผมเพิ่งได้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับมัน"มิเอโกะมองแผนที่ที่เขายื่นให้ ความสงสัยและความตึงเครียดเริ่มสะท้อนในดวงตาของเธอ เธอรู้ว่าข้อมูลนี้คือกุญแจสำคัญที่อาจจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง"ถ้าข้อมูลนี้ถูกต้อง" มิเอโกะพูดเสียงต่ำ แต่จังหวะการพูดของเธอเต็มไปด้วยความตั้งใจ "พวกนั้นจะไม่ยอมให้เราเข้าถึงได้ง่ายๆ แน่"เคนชิโร่ไม่ตอบ แต่หันไปมองแผนที่อย่างครุ่นคิด "นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องการคุณเข้ามาช่วย คุณมีทักษะในการสืบสวนที่พวกเขาคงไม่คาดถึง"มิเอโกะพยักหน้า มองแผนที่ที่เขายื่นให้แล้วพูดต่อ "เราต้องวางแผนให้รัดกุม และทำให้พว
ณ.บ้านพักของเคนชิโร่ เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างกระจกใสในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ เคนชิโร่ยืนอยู่ข้างๆ โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสาร ขณะที่มือของเขากำลังขยับไปมาบนสมาร์ทโฟนตรวจสอบข้อมูลบางอย่างมิเอโกะที่นั่งอยู่บนโซฟา หยิบแก้วกาแฟที่ยังอุ่นอยู่ขึ้นมาดื่ม รู้สึกถึงความเงียบที่แปลกประหลาดในห้องนี้ แม้จะมีเสียงของเครื่องชงกาแฟในห้องครัวอยู่เบาๆ แต่ความรู้สึกของเธอก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาเคนชิโร่หันมองไปที่มิเอโกะ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย“วันนี้เราจะไปที่โกดังเก่าของแก๊งค์มาเฟียที่คุณบอก เราต้องหาคำตอบให้ได้” เขาพูดขณะยกมือลูบคางเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะคิดถึงแผนการอะไรบางอย่างที่อยู่ในหัวมิเอโกะพยักหน้าเบาๆ แม้จะรู้สึกตึงเครียด แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ เธอได้แต่หวังว่าเคนชิโร่จะสามารถนำพาเธอผ่านเรื่องราวทั้งหมดไปได้เสียงโทรศัพท์มือถือของเคนชิโร่ดังขึ้น เขากดรับสายโดยไม่พูดอะไร และแค่ฟังเสียงที่ปลายสายอยู่ครู่หนึ่ง“ทุกคนพร้อมแล้วใช่ไหม?” เคนชิโร่ถามเสียงตอบกลับจากปลายสายฟังดูราบเรียบ แต่มั่นใจ “ครับ คุณเค
บรรยากาศโกดังเก่าริมชายทะเลที่แทบจะไม่มีผู้คนผ่านไปมาบ่อยครั้ง กลิ่นของเกลือทะเลและสนิมผสมปะปนไปกับอากาศหนาวเย็นของยามเช้า บรรยากาศรอบๆ เป็นความเงียบสงัดที่ไม่สามารถล่วงรู้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง รอยเท้าของทั้งสองคนสะท้อนบนพื้นไม้ผุๆ แสงแดดเพียงเล็กน้อยจากหน้าต่างที่แตกส่องลงมาในห้อง สร้างบรรยากาศที่แปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูกมิเอโกะยืนอยู่ข้างเคนชิโร่ หัวใจของเธอกระตุกแรงทุกครั้งที่ได้ยินเสียงกระทบของวัตถุต่างๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่ในมุมมืด ความกลัวเริ่มคลืบคลานเข้ามาทุกที ทุกย่างก้าวที่เธอก้าวไปข้างหน้า ความรู้สึกที่กดดันนี้ทำให้ลมหายใจของเธอเริ่มหายไปทีละน้อยเคนชิโร่หันมามองเธอ ขณะที่มือของเขาคอยจับกระบอกปืนด้วยท่าทีระมัดระวัง เขารู้ดีว่าทุกการเคลื่อนไหวในที่แห่งนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ“คุณไม่ต้องกังวลครับ” เขาพูดเสียงเรียบ แต่มันกลับมีบางอย่างที่อบอุ่นในนั้น “ผมจะอยู่ข้างคุณตลอดเวลา”มิเอโกะเหลือบมองเขา สายตาของเขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดจากแสงที่ค่อนข้างน้อย แต่น้ำเสียงของเขาทำให้เธอรู้สึกถึงความมั่นคงบางอย่างที่ค่อยๆ คลายความกังวลในใจของเธอ“ขอบคุณค่ะ... แต่มันเหมือนกับว่า ฉันไม
สถานที่ที่พวกเขามาถึงคือห้องลับในโกดังเก่า ที่มืดสลัวราวกับว่าไม่มีวันสิ้นสุด เสียงกุกกักจากสายลมที่พัดเข้ามาในซอกมุมของสถานที่นี้ บางครั้งสะท้อนเสียงจากเหล็กที่ขูดกับพื้นไม้เก่าๆ ราวกับเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ไม่มีวันหยุดพัก บรรยากาศเย็นยะเยือกทำให้มิเอโกะรู้สึกถึงการหายใจที่หนักหน่วง และหัวใจที่เต้นรัวอย่างไม่อาจควบคุมเคนชิโร่เดินนำหน้า มองไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น มือของเขาไม่ได้คลายจากการจับกระบอกปืน แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนเขาจะใจเย็น แต่ร่างกายของเขาก็มีความตึงเครียดที่มิเอโกะไม่สามารถมองข้ามไปได้มิเอโกะรู้สึกได้ถึงความอึดอัดภายใน จนทำให้เธอไม่สามารถขยับตัวหรือพูดอะไรออกไปได้ ในทุกย่างก้าวที่เธอก้าวไปข้างหน้า เธอกำลังเดินเข้าสู่ความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง“คุณเคนชิโร่...” มิเอโกะเริ่มพูดในที่สุด เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อพยายามยืนยันความคิดในหัวเคนชิโร่หันมาเธอพร้อมกับมองตรงไปที่ดวงตาของเธอ เขารู้ว่าคำถามนี้จะต้องมีมา แต่ก็เลือกที่จะรอฟัง มิเอโกะยืนอยู่ตรงนั้น เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนพูดคำถามที่เธอไม่อาจเก็บไว้ได้อีกต่อไป“เรา... จะต้องเผชิญกับอะไรที่นี่คะ? ถ้าฉัน... ถ้าฉันทำไม่ไห
ห้องลับในโกดังที่ทั้งสองเข้าไปนั้นเต็มไปด้วยเงียบสงัด ราวกับว่าเวลาถูกหยุดนิ่งในห้วงความมืดมิดของความลับที่ซ่อนอยู่ ทุกก้าวที่มิเอโกะก้าวไปข้างหน้า เสียงฝีเท้าดังชัดเจนจนเหมือนจะสะท้อนในห้องนี้อย่างไม่จบสิ้น เสียงหายใจของเธอเริ่มหนักขึ้นตามความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นในใจเคนชิโร่ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง สายตาของเขากระจายไปที่ทุกมุมมองของห้อง สังเกตทุกอย่างอย่างละเอียด ราวกับรู้ว่าความจริงที่รออยู่ในที่แห่งนี้นั้นจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง“คุณเคนชิโร่... อะไรคือสิ่งที่เรากำลังจะเจอที่นี่?” มิเอโกะถามขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและความวิตกกังวลที่ไม่อาจปิดบังได้เคนชิโร่หันมามองเธอ คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง “ความจริงครับ คุณต้องพร้อมแล้ว” เขากล่าวสั้นๆ โดยไม่หันกลับไปมองที่เธอมิเอโกะกัดริมฝีปากแน่น มือของเธอกำมือจนแน่นเหมือนจะห้ามไม่ให้ตัวเองหวั่นไหว เมื่อเคนชิโร่พูดถึงความจริง เธอรู้ดีว่ามันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดหวัง หรือแม้แต่สิ่งที่เธออยากจะรู้ทั้งสองเดินต่อไปเรื่อยๆ จนถึงมุมหนึ่งของห้อง ที่มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตั
สถานที่: บ้านพักส่วนตัวของเคนชิโร่ค่ำคืนนั้น มิเอโกะและเคนชิโร่เดินทางกลับมาที่บ้านพักส่วนตัวหลังจากออกจากโกดังเก่า ความเงียบในรถทำให้บรรยากาศดูอึดอัดเล็กน้อย มิเอโกะมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาของเธอเหม่อลอย ราวกับกำลังประมวลผลข้อมูลทุกอย่างที่เธอได้เจอในวันนี้เคนชิโร่ที่นั่งอยู่ด้านหน้า สังเกตเห็นท่าทางของเธอผ่านกระจกมองหลัง เขาไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งรถมาถึงบ้านพัก บอดี้การ์ดช่วยเปิดประตูให้ทั้งสอง ก่อนที่เคนชิโร่จะเดินนำเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่นเขาถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะพูด “คุณคงมีคำถามมากมายในใจใช่ไหม?”มิเอโกะที่ยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เงยหน้าขึ้นมามองเขา “ใช่ค่ะ… แต่ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มถามจากตรงไหน”เคนชิโร่พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะผายมือเชิญให้เธอนั่งลงบนโซฟา “งั้นเริ่มจากสิ่งที่คุณอยากรู้อย่างที่สุดก่อนดีไหม”เธอนั่งลงช้าๆ แล้วหันไปมองหน้าเขา “คุณรู้เรื่องเกี่ยวกับแม่ของฉันได้ยังไงคะ? และทำไมข้อมูลพวกนั้นถึงมาอยู่ในโกดังนั้น?”เคนชิโร่นั่งลงตรงข้ามเธอ ดวงตาของเขาสบกับดวงตาเธออย่างตรงไปตรงมา “ผมรู้เพราะผมตามสืบเรื่องนี้มานานแล้วครับ… ทุกอย่างเริ่มจากการสืบสวนเกี่ยว
สถานที่: สวนสาธารณะสวนเคียวอิชิวันที่แห่งความหวังได้มาถึงแล้ว สวนสาธารณะเคียวอิชิเต็มไปด้วยดอกไม้ที่เบ่งบานและต้นไม้เขียวขจี ไกลออกไปจากเมืองที่เงียบสงบ มันเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นใหม่ และวันนี้มันจะกลายเป็นที่ที่ชีวิตของมิเอโกะจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เคนชิโรเดินจับมือมิเอโกะออกจากร้านคาเฟ่ ก็ชวนมิเอโกะมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ร้านคาเฟ่กันต่อ มิเอโกะนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ เคนชิโร่เดินเข้ามาหาเธอและยิ้มอย่างอบอุ่น เขามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความมั่นคง"มิเอโกะ" เคนชิโร่เรียกชื่อเธอเบาๆ ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ "ฉันคิดมานานแล้วเกี่ยวกับเส้นทางของเรา และมันเป็นสิ่งที่ฉันมั่นใจที่สุดในชีวิต"มิเอโกะหันไปมองเขาและยิ้ม "อะไรคะ เคนชิโร่?"เคนชิโร่สูดลมหายใจเข้าลึกและหยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า เขาหยุดสักครู่ก่อนที่จะเปิดกล่องออกเผยแหวนเพชรที่สวยงาม "มิเอโกะ... ฉันไม่สามารถจินตนาการชีวิตของตัวเองหากไม่มีคุณ คุณทำให้ทุกอย่างมีความหมายมากขึ้น คุณพร้อมที่จะเดินทางไปกับฉันตลอดไปไหม?"มิเอโกะตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเต็มไปด้วยน้
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่นแสงแดดยามบ่ายทาบทับแม่น้ำโคะระ และท้องฟ้าโปร่งใสทำให้ทุกสิ่งที่อยู่ข้างนอกดูสดใสและเงียบสงบ มิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะในคาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่น พร้อมกับดื่มกาแฟดำที่เธอชื่นชอบ เธอกำลังคิดถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญที่เธอทำเมื่อไม่นานมานี้ การเลือกที่จะไม่เพียงแต่เลือกเส้นทางเดียวในชีวิต แต่เลือกที่จะเดินไปข้างหน้าพร้อมกับทั้งสองทางในมือ—งานและความรักเคนชิโร่เดินเข้ามาในร้าน คาเฟ่ที่มีทั้งการตกแต่งที่อบอุ่นและบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะกับการมานั่งพักผ่อนหลังจากวันที่วุ่นวาย เขายิ้มให้กับมิเอโกะที่นั่งอยู่ตรงมุมข้างหน้าต่าง เธอหันไปมองเขาและยิ้มตอบด้วยความอ่อนโยน"สวัสดีครับ...วันนี้ดูเหมือนคุณจะนั่งพักไปได้นานเลยนะครับ" เคนชิโร่เริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นมิเอโกะยิ้ม "ใช่ค่ะ บางครั้งการนั่งเงียบๆ และคิดถึงบางเรื่องมันทำให้รู้สึกสงบดีค่ะ" เธอวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะแล้วมองไปที่ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งเคนชิโร่เห็นท่าทางของเธอและรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง "คุณคิดอะไรอยู่ครับ? ดูเหมือนว่าจะมีอะไรอยู่ในใจมากมาย"มิเอโกะพยักหน้าแล้วถอนหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดต่อ
สถานที่: ร้านกาแฟริมน้ำ, สวนสาธารณะคามากูระเช้าวันใหม่ในคามากูระเต็มไปด้วยแสงแดดที่อ่อนโยนและท้องฟ้าที่ใสสะอาด มิเอโกะยืนอยู่หน้าร้านกาแฟริมน้ำที่เธอเคยมาพบเคนชิโร่หลายครั้ง มันเป็นสถานที่ที่เธอรู้สึกผ่อนคลายและสามารถคิดได้ชัดเจนในช่วงเวลาที่วุ่นวายภายในจิตใจวันนี้มิเอโกะจะต้องตัดสินใจเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตการทำงานและความรักของเธอ เธอยืนอยู่ที่นี่เพื่อให้เวลาให้ตัวเองคิดก่อนที่จะพบกับเคนชิโร่ และพูดถึงการตัดสินใจที่เธอคิดมานานไม่ไกลจากนั้นเคนชิโร่เดินเข้ามาที่ร้านกาแฟและมองเห็นมิเอโกะยืนอยู่ริมระเบียงมองไปที่ท้องทะเล สภาพแสงแดดยามเช้าทำให้ทุกอย่างดูสวยงามและเงียบสงบ เหมือนกับโลกใบนี้ให้เวลาเธอได้หายใจ และคิดสิ่งที่ต้องการจะทำเคนชิโร่เดินไปใกล้และทักทายเธอ "มิเอโกะ, คุณมาเร็วมากเลยครับ"มิเอโกะหันไปยิ้มให้เขา และเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้ ความเครียดที่สะสมไว้หลายวันเริ่มลดลงไป "ใช่ค่ะ ฉันอยากมาให้ตัวเองมีเวลาคิดอะไรหลายๆ อย่าง"ทั้งสองนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างของร้านกาแฟที่มองออกไปเห็นวิวทะเลที่เงียบสงบในตอนเช้า เคนชิโร่เปิดการสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "คุณยังรู้สึกไม่แน่ใจใช่ไหมครับ
สถานที่: อาคารสำนักงานมิเอโกะ, ชายหาดคามากูระหลังจากที่มิเอโกะได้รับคำปลอบใจจากเคนชิโร่ในสวนสาธารณะยูโนะ สองวันที่ผ่านมาชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและคำถามที่ค้างคาใจ เธอได้กลับไปที่บริษัทและพยายามโฟกัสกับงานมากขึ้น แต่ทุกอย่างยังคงไม่ง่ายดาย เพราะเธอยังคงรู้สึกถึงการแบ่งแยกระหว่างการทำตามความฝันในอาชีพการงานและการเลือกชีวิตส่วนตัวที่เต็มไปด้วยความรักและความสัมพันธ์วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของมิเอโกะ เพราะเธอต้องทำการตัดสินใจเรื่องใหญ่ในงานที่เธอทำอยู่กับโครงการสำคัญที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของบริษัทได้ แต่การตัดสินใจในเรื่องนี้กลับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเพราะมันเกี่ยวข้องกับคำถามที่ยากเกี่ยวกับความสำเร็จและความรักมิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในอาคารสำนักงานของบริษัท ท่ามกลางกองเอกสารที่ซ้อนกันอยู่ เธอรู้สึกเหมือนมีโลกทั้งใบถล่มใส่ตัวเอง เมื่อเธอต้องรับผิดชอบในโครงการใหญ่ที่สามารถกำหนดทิศทางอนาคตของบริษัท แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกที่ตึงเครียดจากความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเคนชิโร่ยังคงตามหลอกหลอนเธอโทโมโกะก้าวเข้ามาในห้องทำงานของมิเอโกะด้วยท่าทางที่จริงจัง "มิเอโกะคะ ว
สถานที่: สวนสาธารณะยูโนะในโตเกียวเมื่อมิเอโกะกลับมาถึงบริษัทในตอนเย็น ความรู้สึกที่ยังค้างอยู่จากการสนทนากับเคนชิโร่ในร้านอาหารริมทะเลคามากูระยังคงตามหลอกหลอนเธอ การตัดสินใจในชีวิตที่เธอต้องทำกำลังกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นทุกที แต่สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจกลับไปที่บริษัทก็เพราะไม่อยากให้ปัญหาที่เกิดขึ้นในบริษัทลุกลามไปมากกว่านี้ทุกครั้งที่เธอพยายามทิ้งปัญหานี้ไปสักพักหนึ่ง ความกดดันก็ยังคงกลับมารบกวนใจอยู่ดี เหมือนกับเงาที่ไม่สามารถหลบหนีไปได้ เธอรู้ว่าเธอจะต้องพบกับมันในอนาคตอันใกล้ และความไม่มั่นใจในเส้นทางชีวิตของเธอก็ยิ่งทำให้ความเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในระหว่างการประชุมที่บริษัท โทโมโกะเริ่มพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการใหญ่ของพวกเขา ความเครียดและความวิตกกังวลในตัวมิเอโกะเพิ่มขึ้นเมื่อได้ยินรายละเอียดของปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหานี้เป็นสิ่งที่มิเอโกะรู้ดีว่าเธอจะต้องแก้ไข แต่คำถามที่ยังค้างในใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองยังคงวนเวียนอยู่ตลอดเวลา"มิเอโกะค่ะ เราต้องการคุณในการตัดสินใจเรื่องนี้" โทโมโกะพูดด้วยน้ำเสียงเครียด "ถ้าเราไม่รีบแก้ไข ปัญหานี้จะยิ่งซับซ้อนและอาจส่งผลกระ
สถานที่: ร้านอาหารริมทะเลคามากูระหลังจากคืนที่เต็มไปด้วยความคิดในคาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะ มิเอโกะรู้สึกถึงแรงกดดันจากการตัดสินใจที่ต้องเผชิญในชีวิตของเธอ แม้ว่าเคนชิโร่จะทำให้เธอรู้สึกสบายใจ แต่เธอก็ยังคงมีคำถามในใจเกี่ยวกับอนาคต ความไม่แน่นอนของเส้นทางที่เธอเลือกเดินยังคงเป็นภาระที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้วันต่อมา เคนชิโร่ได้พามิเอโกะไปยังร้านอาหารริมทะเลคามากูระ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาชื่นชอบมากที่สุดที่หนึ่ง สถานที่แห่งนี้มองเห็นทะเลที่เปิดกว้างและท้องฟ้าที่กว้างไกล บรรยากาศสงบและร่มรื่น เหมาะกับการพูดคุยและทำความเข้าใจชีวิตในมุมมองใหม่ร้านอาหารมีพื้นที่กลางแจ้งที่มองเห็นวิวทะเลและยังมีกลิ่นของเกลือทะเลที่ลอยมาจากข้างๆ เมื่อทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นคลื่นทะเลที่กระทบชายหาด มิเอโกะรู้สึกถึงความสงบและสดชื่นที่เริ่มเข้ามาในใจเธอ แม้ว่าจะยังคงมีคำถามที่ติดค้างในใจ"คุณรู้ไหมคะว่าเมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าความสำเร็จในชีวิตคือการมีทุกอย่างที่อยากได้ แต่พอได้ลองใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความรับผิดชอบ ทุกอย่างมันกลับดูซับซ้อนเกินไป" มิเอโกะเริ่มพูดอย่างเปิดใจ ขณะที่เธอสังเ
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะหลังจากวันที่เต็มไปด้วยความท้าทายในการทำงาน มิเอโกะพบว่าเธอต้องการเวลาเพื่อฟื้นฟูจิตใจและพักผ่อนจากความเครียดจากธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบ วันนั้นเธอได้ตัดสินใจโทรหาคนที่เธอรู้สึกว่าอาจเป็นแหล่งของความสงบ—เคนชิโร่ หลังจากที่ได้พูดคุยกันในวันก่อนหน้า เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นทีละเล็กทีละน้อยทั้งสองตกลงที่จะพบกันที่คาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะ สถานที่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสงบและสวยงาม ตลอดทั้งเส้นทางการเดินจากสำนักงานไปยังคาเฟ่ มิเอโกะรู้สึกถึงความตึงเครียดในตัวเองที่เริ่มคลายลงเล็กน้อย เมื่อเธอเห็นเคนชิโร่ยืนรอที่มุมหนึ่งของคาเฟ่ เขาดูสงบและมั่นคงเช่นเคย รอยยิ้มของเขาทำให้ความเครียดที่สะสมมาทั้งวันเริ่มลดลง"สวัสดีครับ" เคนชิโร่ทักทายมิเอโกะด้วยเสียงนุ่มนวล ขณะที่เขาเชิญให้เธอนั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำสุมิดะที่ไหลเอื่อยๆ และท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีไปในยามเย็น"สวัสดีค่ะ" มิเอโกะยิ้มตอบและนั่งลงอย่างสบายๆ ก่อนจะหยิบแก้วกาแฟที่เสิร์ฟให้ขึ้นมาดื่ม "วันนี้วันยาวจริงๆ ค่ะ รู้สึกเหมือนทุกอย่างต้องการความสนใจพร้อมๆ กัน"เคนชิโ
สถานที่: สวนริมน้ำซุมิดะ, โตเกียวฤดูใบไม้ผลิเริ่มแสดงตัวตนผ่านความสดใสของดอกซากุระที่เบ่งบานสะพรั่งรอบๆ สวนริมน้ำซุมิดะในกรุงโตเกียว เสียงน้ำที่ไหลเย็นผ่านหินในลำธารได้สร้างบรรยากาศอันสงบเงียบ ท่ามกลางสายลมเย็นๆ ที่พัดผ่าน มิเอโกะและเคนชิโร่เดินเคียงข้างกันท่ามกลางดอกซากุระที่กำลังผลิบาน สองคนต่างรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่มีคำพูดใดสามารถแทนที่ได้ การเดินในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยความสงบจากธรรมชาติที่ล้อมรอบพวกเขา ทั้งสองยิ้มให้กันโดยไม่ต้องพูดอะไร ตลอดระยะทางที่เดินไปด้วยกัน พวกเขาก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพูดคุยมาก เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นในรูปแบบที่เงียบสงบและมั่นคง“คุณเคยคิดไหมครับว่า... อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต?” เคนชิโร่ถามเสียงเบา ขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ต้นซากุระที่กำลังผลิบานอย่างงดงาม "บางครั้งมันทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตมันไม่แน่นอน เราไม่อาจจะรู้ได้ว่าความท้าทายใหญ่ๆ จะมาเมื่อไหร่"มิเอโกะหันมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ชีวิตทุกชีวิตมีอุปสรรคค่ะ แต่เราผ่านมันมาได้แล้วหลายครั้งแล้ว ไม่ใช่เหรอคะ? ดังนั้น ถ้าเรายังอยู่ข้างกัน เราก็จะเอาชนะทุกอุปสรรคที่ขว
ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่อากาศเริ่มเย็นขึ้นเพียงเล็กน้อย ภูมิทัศน์ของกรุงโตเกียวเต็มไปด้วยต้นซากุระที่กำลังเบ่งบานอยู่ริมถนน ขณะที่มิเอโกะและเคนชิโร่เดินเคียงข้างกันในสวนสาธารณะใกล้แม่น้ำสุมิดะ เสียงของน้ำที่ไหลกระทบกับหินในลำธารทำให้บรรยากาศรอบๆ เป็นไปอย่างสงบเงียบ ทั้งสองเดินไปด้วยกันอย่างไม่มีคำพูดมากมาย แต่ความเงียบนี้กลับเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดในตอนนี้ การอยู่เคียงข้างกันในช่วงเวลานี้ทำให้รู้สึกถึงความผูกพันที่ลึกซึ้งขึ้นท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองอ่อนๆ เมื่อแสงแดดอ่อนๆ เริ่มลอยเหนือขอบฟ้า เคนชิโร่และมิเอโกะยังคงเดินไปด้วยกันอย่างเงียบๆ มือของเคนชิโร่ล้วงในกระเป๋ากางเกง ขณะที่มิเอโกะเดินเคียงข้างเขาด้วยท่าทางผ่อนคลาย แต่ภายในใจทั้งคู่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน“คุณรู้ไหม... มีบางครั้งที่ผมคิดว่าเราอาจจะต้องพบเจอกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ในอนาคต” เคนชิโร่พูดเสียงเบา ขณะที่มองไปที่ต้นซากุระที่เริ่มผลิบาน “ชีวิตคู่มันไม่ง่ายเลย แต่ผมก็มั่นใจในสิ่งที่เรามี”มิเอโกะยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเขา "เราผ่านอุปสรรคมามากมายแล้วค่ะ คุณไม่คิดว่าเรามีความสามารถที่จะเผชิญห