Share

บทที่ 0288

Author: อันอี่หราน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ในสมองของหลินอิงพลันปรากฏภาพหญิงสาวที่ตามมาด้านข้างนางกัวซื่อ

เดิมกัวเยว่เส้าก็เป็นหญิงงามปานเซียนบนสวรรค์อยู่แล้ว วันนี้ยังมาในชุดยาวสีฟ้าคราม ผมยาวรวบขึ้น เมื่อครู่อยู่ทางเดินของจวนติ้งกั๋ว ลมโชยมาแผ่วเบา สายผูกเอวสีอ่อนที่เอวก็พลิ้วไหวตาม ยิ่งทำให้แลดูเอวบางร่างน้อย สะดุดตาเป็นอย่างมาก

หลินอิงไม่ใช่คนโง่ นางย่อมรู้ว่าสตรีผู้นี้มาจวนติ้งกั๋วโหวในวันนี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไร เพียงแต่หญิงที่สะสวยถึงปานนี้ เหตุใดตนจึงไม่เคยพบเห็นมาก่อน

จึงหันไปถามมารดาของตน “ท่านแม่ เมื่อครู่ที่อยู่กับนางกัวซื่อเป็นใครกันเจ้าคะ?”

ฮูหยินหลินได้ยินก็มองหน้าหลินอิงเล็กน้อย ดูท่าลูกคนนี้ก็ใช่ว่าจะโง่เสียทีเดียว แต่สีหน้ายังคงดูเหม่อลอยดังเช่นเมื่อครู่ “เป็นคุณหนูรองของราชเลขากรมคลังแห่งตระกูลกัว ชื่อกัวเยว่เส้า”

“กัวเยว่เส้า?” หลินอิงพยายามทบทวนความจำ แต่ก็นึกภาพไม่ออก “หรือว่าที่ผ่านมานางถูกเลี้ยงดูอยู่บ้านนอก?” แต่ดูจากลักษณะท่าที ก็ไม่ค่อยเหมือนนัก

ฮูหยินหลินส่ายหน้า พร้อมอธิบายให้ลูกสาวฟัง “กัวเยว่เส้าถูกเลี้ยงดูในบ้านตระกูลกัวมาโดยตลอด เป็นคนที่เตรียมตัวเพื่อจะชายาเอกขององค์ชายสาม”

“เมื่อจะเป็นชา
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0289

    [ท่านแม่ ข้าชอบท่านป้าสาม ท่านแม่ๆ]ซ่งชิงเหยียนแอบถอนหายใจ ทีนี้ยิ่งดีใหญ่ ตนไม่ใช่แม่แสนดีคนเดียวของหวานหว่านอีกแล้ว ขณะที่ทุกคนมัวพูดคุย ด้านนอกก็มีอีกเสียงหนึ่งสอดแทรกมา“ชิงเหยียนกลับมาแล้ว อาซ้อไม่เห็นบอกกล่าวให้เรารู้บ้าง” ผู้ที่เอ่ยปากก็คือกัวหรูเยว่ซิ่วอยู่ด้านข้างรีบมาขอขมา “ฮูหยิน บ่าวไม่อาจขัดขวาง...”นางเซียวโบกมือเล็กน้อย นิสัยนางกัวเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว ที่จะไม่เห็นจวนโหวอยู่ในสายตา เข้านอกออกในก็ไม่คิดรายงานล่วงหน้า อยู่ดีๆ ก็พรวดพราดเข้ามา เหล่านี้นางเซียวล้วนแต่คุ้นชินหมดนิสัยนางเซียวไม่ใช่คนอ่อนข้อให้ใครง่ายๆ แต่เมื่อนึกถึงคำสั่งเสียของแม่สามีก่อนตาย จึงต้องอดทนไว้ก่อน“น้องสะใภ้กล่าวเกินไปแล้ว” นางเซียวไม่ใคร่ถูกชะตากับน้องสะใภ้ผู้นี้อยู่แล้ว น้ำเสียงการพูดการจาจึงไม่สู้อ่อนหวานสักเท่าใดกัวหรูหาได้ถือสาไม่ มีแต่ยิ้มแย้มพร้อมพากัวเยว่เส้าเดินมาคำนับ “หม่อมฉันได้พาหลานสาวนามกัวเยว่เส้ามาถวายบังคมพระสนมหวงกุ้ยเฟยด้วย”“ตามหลักแล้ว หากข้าไม่เรียกตัว ท่านอาหญิงไม่ควรมาพบตามอำเภอใจ” เหตุเพราะมารดาได้สั่งไว้ก่อนหน้า ซ่งชิงเหยียนจึงไม่คิดถือสาหาความกับนางกัว แต่บ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0290

    เมื่อเห็นนางกัวยอมจำนน ซ่งชิงเหยียนจึงได้สั่งการ “จิ่นซิน พยุงอาสะใภ้ไปนั่งเก้าอี้”กัวเยว่เส้าเห็นพระสนมหวงกุ้ยเฟยมีน้ำใจเช่นนี้ พลันรู้สึกเลื่อมใสยิ่ง ความองอาจของพระสนมเมื่อครู่นี้ แม้แต่ตนก็ยังอดนึกกลัวไม่ได้อาหญิงทำเกินไปจริงๆ ความสุขสบายที่อาหญิงกับอาเขยมีในทุกวันนี้ ล้วนมาจากจวนติ้งกั๋วโหวทั้งสิ้นแม้ว่าแต่ก่อนอาหญิงอยู่บ้านจะมีนิสัยเอาแต่ใจ แต่ยังนับว่าดีต่อตนอยู่ไม่น้อยดังนั้นเมื่อเห็นอาหญิงถูกพระสนมหวงกุ้ยเฟยตำหนิ ในใจนางก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพียงแต่ไม่กล้าเอ่ยปากโต้แย้งเมื่อได้ยินพระสนมหวงกุ้ยเฟยยอมให้อาหญิงนั่งลง กัวเยว่เส้าจึงรีบไปพยุงกัวหรู เมื่อเห็นนางนั่งลงแล้ว จึงค่อยนั่งที่ด้านข้างกัวหรูอีกทีเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ ทำให้บรรยากาศในห้องโถงเกิดความตึงเครียดบ้างแม้แต่ลู่ซิงหว่านก็ตกใจกับความขึงขังของแม่ตัวเอง[ว้าว ท่านแม่ออกหน้าแทนท่านยาย ดูแล้วน่ากลัวมาก][แต่คนเราไม่อาจดูแค่หน้าตา ไม่นึกว่ากัวเยว่เส้าจะเป็นคนถ่อมตัวเช่นนี้ สมแล้วที่เป็นคุณหนูที่ตระกูลกัวตั้งใจอบรมสั่งสอน]ซ่งชิงเหยียนได้ยินลู่ซิงหว่านกล่าวเช่นนี้ พลันรู้สึกนึกสงสัย ในหนังสือนิทานก็มีกล่าวถึง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0291

    [ข้าเพิ่งนึกถึงกัวหรูขึ้นมาได้]เสียงบ่นพึมพำของลู่ซิงหว่านแว่วเข้าหูซ่งชิงเหยียนอีกครั้ง[ท่านตามีน้องชายต่างมารดาคนหนึ่งชื่อซ่งจางอิงใช่หรือไม่ และกัวหรูก็คือภรรยาของซ่งจางอิง]ราวกับต้องการให้ลู่ซิงหว่านได้รู้จัก ซ่งชิงเหยียนเอ่ยปากถามถึง “ทำไมไม่เห็นอารองล่ะ ไปทำงานที่กรมพิธีการหรืออย่างไร?”ทุกวันนี้ซ่งจางอิงทำงานอยู่กรมพิธีการ ในตำแหน่งที่ไม่มีความสำคัญอันใด นอกจากให้บรรดาลูกขุนนางแขวนชื่อไว้ ถึงเวลาก็รับบำนาญสบายๆ เท่านั้น เป็นตำแหน่งขุนนางในระดับห้า แม้ไม่ได้ใหญ่โต แต่ก็ถือว่าพอมีงานให้ทำ ดีชั่วอย่างไรก็ถูกเรียกว่า ‘ใต้เท้าซ่ง’เมื่อเอ่ยถึงสามีของตน สีหน้ากัวหรูก็ปรากฏแววบึ้งตึง ก่อนหน้านี้ได้ถูกติ้งกั๋วโหวเรียกไปอบรม ทำให้เขาพอสงบเสงี่ยมอ่านหนังสืออยู่ในบ้าน ทำงานทำการบ้าง ถึงเวลาก็ไปลงชื่อเข้างานในกรมพิธีการแต่หลายวันมานี้ ไม่รู้ไปรู้จักเพื่อนกินกลุ่มไหนเข้าอีก วันๆ เริ่มไปเที่ยวเตร่ตามสถานเริงรมย์อีกครั้งแต่มาอยู่ต่อหน้าครอบครัวของติ้งกั๋วโหว อย่างไรก็ต้องรักษาหน้าตัวเองไว้บ้าง “เมื่อครู่เพิ่งกลับมา แต่ก็รีบร้อนออกไปอีก คาดว่าคงมีงานด่วนกระมัง”ครอบครัวติ้งกั๋วโหวย

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0292

    [ซ่งจางอิงแต่เดิมก็หมกมุ่นอยู่กับอบายมุขอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ถูกคนขององค์ชายสามหมายตาเข้าได้อย่างไร][แต่ในหนังสือนิทานบอกว่าตระกูลชุยทรงอิทธิพลในเมืองหลวงนัก แต่ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่กัวเยว่เส้าจะมายังจวนติ้งกัวโหว][แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้องค์ชายสามยังล่ำซำอยู่หรือเปล่า?][ถ้าจะบอกว่าซ่งจางอิงเป็นคนเลวร้าย เขาก็ไม่เคยคาดหวังต่อฐานะตัวเองในจวนติ้งกั๋วแต่อย่างใด และเขาก็รู้ว่าด้วยความสามารถของตัวเอง ยังไงก็เป็นผู้นำครอบครัวไม่ได้อยู่แล้ว ไม่สู้เสวยสุขไปวันๆ ยังจะดีเสียกว่า][แต่เขาก็โง่นัก โง่ที่ถูกคนรอบข้างขององค์ชายสามหลอกใช้ ถือกระบี่เล่มหนึ่งกลับมายังจวนโหวและส่งไปที่หนังสือของท่านตา แต่ท่านตากลับไม่รู้อะไรด้วย][แต่ภายหลังในฝักกระบี่ กลับพบจดหมายติดต่อระหว่างติ้งกั๋วโหวกับแม่ทัพของฝ่ายศัตรู จึงทำให้ฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งประหารติ้งกั๋วโหวทั้งครอบครัว]ซ่งชิงเหยียนฟังถึงตรงนี้ พลันพรวดพราดยืนขึ้น พร้อมมองไปยังห้องหนังสือของบิดา แต่กลับคิดได้ว่าตนมีปฏิกิริยารุนแรงเกินไป จึงนั่งลงอีกครั้งทุกคนแม้จะตกใจเพราะท่าทีของนาง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ยังคงพูดคุยไปตามปกติซ่งชิงเหยียนก็พลอยเออออห่อหมกไป

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0293

    ทุกคนต่างหัวเราะร่วนอีกครั้งและที่ติ้งกั๋วโหวกลับมาเมืองหลวงรอบนี้ มีเพียงบุตรชายคนโตซ่งชิงฉี่ รองแม่ทัพจ้าวหานยวน พี่ชายฮองเฮาเสิ่นหนิงนามว่าเสิ่นเซียว และทหารอีกสิบกว่าคนติดตามมาด้วยเท่านั้นทุกคนล้วนขี่ม้าเก่ง อีกทั้งหวังกลับบ้านโดยเร็ว ตลอดทางจึงมาด้วยความรวดเร็วยิ่งเมื่อมาถึงวังหลวงก็ลงจากหลังม้า เร่งรีบไปทางห้องทรงอักษรจึงได้พบกับฮองเฮาซึ่งเพิ่งออกจากห้องทรงอักษรเช่นกันรู้ว่าติ้งกั๋วโหวกับพวกไม่ได้อยู่ร่วมพิธีแต่งตั้งฮองเฮา ย่อมไม่รู้จักฮองเฮาองค์ใหม่แน่ ขันทีที่นำทางให้พวกเขาจึงรีบตรงไปถวายบังคม “บ่าวขอถวายบังคมฮองเฮา”ติ้งกั๋วโหวกับพวกจึงได้รีบทำตาม “ถวายบังคมฮองเฮา”แต่เสิ่นหนิงกลับจำติ้งกั๋วโหวได้ “ท่านโหวไม่ได้เข้าวังมานาน คงจะลืมธรรมเนียมไปแล้วกระมัง”ติ้งกั๋วโหวตกตะลึง เงยหน้ามองเสิ่นหนิงแม้ตนจะไม่เคยพบนางมาก่อน แต่เคยได้ยินบุตรสาวเอ่ยถึงฮองเฮาองค์นี้ ก่อนหน้านี้องค์หญิงหย่งอันถูกคนวางยาพิษ ฮองเฮาเป็นคนช่วยนางเอาไว้แต่ทว่าบัดนี้...ในความคิดของเสิ่นหนิง ในเมื่อบาดหมางกับซ่งชิงเหยียนไปแล้ว มาวันนี้ได้เจอบิดาของนาง แล้วเหตุใดจึงต้องเกรงใจอีกที่อยู่ด้านขวาม

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0294

    อวิ๋นจูซึ่งตามหลังเสิ่นหนิงพลันเอ่ยปาก “ฮองเฮาจะไปถือสาคนเหล่านั้นทำไมเพคะ ล้วนแล้วแต่เป็นพวกหยาบกร้าน มีแต่กลิ่นดินและเหม็นสาบเหงื่อไคลไปทั้งตัว”ขณะที่พูดก็ยกมือขึ้นพัดหน้าจมูก คล้ายต้องการไล่กลิ่นเหม็นให้หมดไป“ไปเถิด” เสิ่นหนิงไม่ตอบกลับ เพียงเดินนำอวิ๋นจูไปทางตำหนักจิ่นซิ่วส่วนทางเสิ่นเซียวนั้น กลับรู้สึกผิดต่อท่านโหวและรองแม่ทัพซ่งเป็นอย่างมาก รอจนเมิ่งฉวนเต๋อเดินห่างไปไกล จึงได้เอ่ยปากเสียงเบา “ท่านโหวอย่าได้ถือสาน้องสาวข้าไม่รู้ที่ต่ำที่สูง”ติ้งกั๋วโหวย่อมไม่ถือสาเสิ่นเซียวอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นทหารที่มีความสามารถ ตนยังคิดส่งเสริมให้ขึ้นเป็นรองแม่ทัพเสียด้วยซ้ำแต่ว่าเรื่องนี้ สุดท้ายยังต้องให้ฮ่องเต้ต้าฉู่ทรงพิจารณาจึงได้ตอบกลับเสียงเบา “ไม่เป็นไร นางยังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง สมัยก่อนพระสนมหวงกุ้ยเฟยก็มีนิสัยเถรตรงเช่นนี้”“ที่จริงวันนี้ข้าเองก็ทำไม่ถูก พบฮองเฮาครั้งแรก ควรต้องถวายบังคมต่อนาง”“พระสนมหวงกุ้ยเฟยเป็นผู้รู้กาลเทศะ” เสิ่นเซียวคารวะต่อติ้งกั๋วโหว น้องสาวของตนนั้น อย่างไรก็ไม่อาจเทียบพระสนมหวงกุ้ยเฟยซึ่งเป็นผู้ห้าวหาญในการออกศึกในขณะที่เมิ่งฉวนเต๋อซึ่งเดิน

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0295

    ทันทีที่ติ้งกั๋วโหวเอ่ยประโยคนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เข้าใจในความหมาย พร้อมกับนั่งตัวตรงขึ้นแน่นอนว่า บัดนี้ติ้งกั๋วโหวได้เข้าสู่วัยชราแล้ว สมควรกลับไปอยู่กับครอบครัวเสพสุขในบั้นปลาย แต่ยังต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายรบทัพจับศึกเพื่อแคว้นต้าฉู่อีกฮ่องเต้ต้าฉู่เมื่อนึกถึงตรงนี้ก็อดปวดใจเสียมิได้ บุคคลเช่นนี้ ตนยังสั่งประหารเก้าชั่วโคตรได้ลงคอตอนนั้นตนถูกผีเข้าหรืออย่างไร?“ใต้เท้าซ่งกล่าวถูกแล้ว” ฮ่องเต้ต้าฉู่ครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายจึงได้เอ่ยปาก “ถึงเวลาต้องมีคนใหม่มารับช่วงแทน”รับสั่งจบก็เงยหน้าขึ้นมองติ้งกั๋วโหว “ท่านพอมีผู้ที่เหมาะสมหรือไม่?”“ดั่งคำว่าคนนอกไม่สู้คนใน เลือกคนที่ผลงาน กระหม่อมเห็นว่า บุตรชายคนโตซ่งชิงฉี่ เหมาะกับหน้าที่นี้ที่สุด”“ชิงฉี่ติดตามกระหม่อมไปออกรบตั้งแต่เด็ก ผ่านการเคี่ยวกรำจนเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ เชี่ยวชาญกลยุทธ์การรบ สติปัญญายิ่งเหนือกว่ากระหม่อม อีกทั้งเคยอยู่ในกองทัพภาคตะวันตกถึงสามสิบกว่าปี นับว่าเหมาะสมยิ่งกว่าใคร” ติ้งกั๋วโหวกล่าวจบ สายตาก็มองไปยังฮ่องเต้ต้าฉู่ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมเห็นความมุ่งมั่นและจริงใจในแววตาของเขา พร้อมรู้สึกตื้นตันต่อความฮึกเหิมของ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0296

    “จ้าวหานยวน?” ฮ่องเต้ต้าฉู่ทรงรู้สึกว่าชื่อนี้คุ้นหูนัก ฉับพลันก็ทรงนึกได้ “เป็นบิดาของฟางกุ้ยเหรินใช่หรือไม่?”“ทูลฝ่าบาท ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ติ้งกั๋วโหวตอบด้วยความนอบน้อมฮ่องเต้ต้าฉู่ทรงนึกได้ว่าซ่งชิงเหยียนเคยพูดเรื่องเกี่ยวกับสนมฟางกุ้ยเหรินให้ฟัง พลางรู้สึกปวดพระทัยยิ่ง ไหนๆ นางก็จากไปแล้ว ควรต้องดูแลพ่อแม่ของนางต่อ จึงได้รับปากทันที “ตำแหน่งเสนาธิการฝ่ายซ้ายของกรมกลาโหมยังว่างอยู่ ก็ให้เขารับไปแล้วกัน”ออกจากห้องทรงอักษรมา ติ้งกั๋วโหวได้แจ้งเรื่องนี้ให้แก่จ้าวหานยวนได้รู้เดิมทีจ้าวหานยวนก็ไม่ต้องการไปลำบากลำบนอยู่ในค่ายทหารอีกแล้ว ไม่นึกว่ากลับมาเมืองหลวงจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเสนาธิการระดับสามของกรมกลาโหม นับว่าเป็นความโชคดีอย่างมากและย่อมต้องขอบคุณติ้งกั๋วโหวที่ให้การช่วยเหลือจ้าวหานยวนในยามนี้ คิดแต่จะรีบกลับบ้านไปเยี่ยมลูกและภรรยาของตนส่วนเสิ่นเซียวนั้น ได้ติตามพ่อลูกติ้งกั๋วโหวไปยังจวนโหวแทนยามนี้ในจวนโหว หญิงหลายคนต่างสนทนาออกรสอยู่ในห้องโถง และท่านรองซ่งจางอิงก็มาจากข้างนอกพอดี“ดูจากข้างนอกก็รู้ว่ามีคนในวังมา ปรากฏว่าเป็นพระสนมหวงกุ้ยเฟยจริงๆ” ซ่งจางอิงสมแ

Latest chapter

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0631

    หลังจากมองส่งชายผู้นั้นจากไปแล้ว ความเคร่งขรึมจึงเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮ่องเต้ต้าฉู่ “เว่ยเฉิง ถือป้ายคําสั่ง ไปโยกย้ายทหาร”เว่ยเฉิงกลับเป็นห่วงความปลอดภัยของฮ่องเต้ต้าฉู่“เจ้าแค่ไปก็พอ!” ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับยืนกรานอย่างยิ่ง “ข้างกายข้ามีองครักษ์เงามังกร ไม่เป็นไรหรอก”ดังนั้นในเวลานี้ คนที่เคาะประตูอยู่นอกจวนตระกูลจิ้นก็คือกลุ่มของฮ่องเต้ต้าฉู่เดิมทีเขาอยากจะไปคนเดียว แต่ภายใต้การยืนยันของซ่งชิงเหยียน ในที่สุดก็ไปด้วยกันทั้งสามคนถึงอย่างไรความสามารถในการได้ยินของลู่ซิงหว่านในตอนนี้ก็ยอดเยี่ยมจริงๆ อีกทั้งมีชิงเหยียนอยู่ หากมีอันตรายจริงๆ นางก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อเห็นคนที่มา ใต้เท้าจิ้นก็ตกใจจนยืนตัวตรง ไม่ได้พูดอะไรอยู่นานทําไมฝ่าบาทถึงกลับมาอีก“ใต้เท้าจิ้น” ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับทําความเคารพใต้เท้าจิ้นอย่างเป็นกลาง “ข้าน้อยลู่เหยา อยากมาทํามาหากินที่อําเภอไถจิน หวังว่าใต้เท้าจิ้นจะสะดวก เงินทองอะไร ล้วนคุยกันได้”ใต้เท้าจิ้นรีบคํานับกลับ เขาจะกล้ารับการคํานับจากฝ่าบาทได้อย่างไรมองซ่งชิงเหยียนที่อุ้มเด็กอยู่ข้างๆ อีกครั้ง คิดว่านี่คงเป็นพระสนมหวงกุ้ยเฟยและองค์หญิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0630

    “เว่ยเฉิง” ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็รู้สึกไม่สบายใจจริงๆ จึงเลิกม่านรถขึ้นแล้วมองไปที่เว่ยเฉิงที่อยู่ข้างๆ “หาพวกคนบ้านนอกมาสอบถามดูว่าใต้เท้าจิ้นเป็นคนอย่างไรกันแน่”เว่ยเฉิงมองตามสายตาของฮ่องเต้ต้าฉู่ไป จริงดังคาด ตอนนี้ที่นามีราษฎรจํานวนไม่น้อยกําลังไถนาอยู่แม้จะสงสัย แต่ก็รับพระบัญชาจากฝ่าบาทแล้วเดินไปข้างหน้าไม่นานนัก เว่ยเฉิงก็พาคนคนหนึ่งเดินกลับมา “นายท่าน ชายผู้นี้บอกว่ามีเรื่องจะพูด”ชายผู้นั้นคุกเข่าลงด้วยเสียงดัง"ตุบ"[โอ้ แม่เจ้า พื้นที่นี่ไม่เรียบเลยนะ ไม่เจ็บเหรอเนี่ย]“นายท่านท่านนี้คิดว่าคงมาจากเมืองหลวง ไม่ทราบว่านายท่านอยากรู้อะไรหรือขอรับ?”ฮ่องเต้ต้าฉู่ลังเลอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดก็เอ่ยปาก “ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากทําธุรกิจเล็กๆ ที่อําเภอไถจินแห่งนี้ ไม่รู้ว่านายอําเภออย่างพวกเจ้าเป็นอย่างไร ก็เลยอยากลองสอบถามดู”ลู่ซิงหว่านเห็นได้อย่างชัดเจนว่าใบหน้าของน้องชายผู้นั้นมีความผิดหวังอยู่ชั่วขณะหนึ่งเดิมทีเขาคิดว่าคนนี้เป็นขุนนางใหญ่อะไรในเมืองหลวง ได้รับคําสั่งให้มาตรวจสอบใต้เท้าจิ้นนึกไม่ถึงว่าจะเป็นแค่ครอบครัวพ่อค้าเท่านั้น แต่ก็ยังพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “นายท่านดู

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0629

    เสียงของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังมาก ดึงดูดสายตาของผู้คนมาไม่น้อยแม้แต่ลู่ซิงหว่านก็ยังอดหวาดกลัวไม่ได้[โอ้ เสด็จพ่อของข้า ท่านคิดว่ายังอยู่ในวังหรือ? ท่านทําตัวเงียบๆ หน่อยที่ข้างนอกได้ไหม?][ข้ากับท่านท่านแม่ยังอยากกลับไปเมืองหลวงอย่างปลอดภัยนะ][จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา ทําไมต้องตามเสด็จพ่อออกมาด้วย คงไม่ได้ถูกลอบสังหารอีกแล้วใช่ไหม?]ส่วนซ่งชิงเหยียนก็รีบหยิบตะเกียบของตัวเองขึ้นมา คีบอาหารให้ฮ่องเต้ต้าฉู่ “ข้ารู้ว่านายท่านคิดถึงอาหารที่บ้านแล้ว แต่ไม่กินไม่ได้นะเจ้าคะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่เข้าใจความหมายของแม่ลูกคู่นี้ จึงหยิบตะเกียบขึ้นมา ค่อยๆ กินอาหารในจานสนมเยว่กุ้ยเหรินยืนมองอยู่ด้านข้างจนตาค้างใครบอกว่าพระสนมหวงกุ้ยเฟยพระสนมมีนิสัยหยาบกระด้าง เห็นได้ชัดว่านางเป็นคนละเอียดรอบคอบขนาดนี้นางดูเหมือนจะเข้าใจทันทีว่าทําไมนางถึงเข้าวังมาหลายปีและยังไม่ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนยศสักทีก็ตัวเองไม่สมควรจริงๆ นั่นแหละ!ทําไมพระสนมถึงได้เก่งขนาดนี้ทางด้านบู๊สามารถนําทหารไปรบได้ ส่วนด้านเหวิน... เหวินสามารถเกลี้ยกล่อมฮ่องเต้ได้ภายหลังฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ได้ส่งเว่ยเฉิงไปตรวจสอบใต้เท้าจิ้นที่อ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0628

    ซ่งชิงเหยียนมองไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ สีหน้าของเขาดูไม่ดีจริงๆ จากนั้นก็หันหน้าไปตบมือสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ “เป็นเรื่องในอดีตแล้ว ไม่ต้องเอ่ยถึงอีกแล้วล่ะ”“เจ้าสนิทกับเล่อกุ้ยเหรินได้ดีที่สุด ตอนนี้ครรภ์ของนางเป็นอย่างไรบ้าง?”ต้องบอกว่าความกังวลของสนมเล่อกุ้ยเหรินนั้นไม่ผิด สนมเยว่กุ้ยเหรินถือได้ว่าเป็นคนที่ปากไม่มีหูรูดจริงๆ แต่ก็เป็นคนที่ไม่คิดมากสําหรับเรื่องที่ซ่งชิงเหยียนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา นางไม่สนใจแม้แต่น้อย รับเรื่องไว้แล้วก็พูดต่อจุดแรกของพวกเขาอยู่ที่ตําหนักนอกเมืองแห่งหนึ่งที่ชานเมืองฮ่องเต้ต้าฉู่เตรียมที่จะเก็บสัมภาระบางส่วนที่นี่ แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องแต่งกายของพ่อค้าทั่วไป ค่อยเดินทางลงใต้ต่อไปทางด้านลู่ซิงหว่านอาจอยากลงใต้เพื่อไปเที่ยวเล่น แต่ถึงอย่างไรฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เป็นฮ่องเต้ ความคิดของเขาคืออยากดูว่าการเก็บเกี่ยวของราษฎรในปีนี้เป็นอย่างไร ชีวิตเป็นอย่างไรมากกว่ากลยุทธ์การช่วยเหลือราษฎรที่นําโดยองค์รัชทายาทก่อนหน้านี้ได้บรรลุผลจริงหรือไม่ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อราษฎรสงบสุข ใต้หล้านี้ถึงจะสงบสุขได้หลังจากเดินทางอย่างเรียบง่ายแล้ว ความเร็วของรถม้าก็เร็วขึ้น

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0627

    “คุณหนูเดินทางลงใต้ในครั้งนี้ จึงให้หลานอิ่งและจวี๋อิ่งติดตามไปตลอดทาง” เพราะทุกครั้งที่ซ่งชิงเหยียนออกจากวัง นางมักจะถูกลอบสังหารเสมอ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าอย่างฮ่องเต้ต้าฉู่ เหม่ยอิ่งจึงไม่วางใจ“ส่วนข้าน้อยก็อยู่ในวัง คอยจับตาดูอยู่ในวังแทนคุณหนู” แทนที่จะบอกว่าจับตาในวัง ไม่สู้บอกว่าจับตาฮองเฮาจะดีกว่า “ไม่ว่าเรื่องอะไร ข้าน้อยจะแจ้งให้คุณหนูทราบทันที”พูดถึงตรงนี้เหมยอิ่งก็หันไปมองจู๋อิ่งอีกครั้ง “สําหรับจู๋อิ่ง เรื่องที่เผยซื่อจื่อถูกลอบสังหารก่อนหน้านี้ ยังคงหาเบาะแสไม่ได้ ถือโอกาสนี้ให้จู๋อิ่งเดินทางไปยังแคว้นต้าหลี่ด้วยตนเอง”ซ่งชิงเหยียนพยักหน้าและพอใจมากกับการจัดการของเหมยอิ่ง[ว้าว เหมยหลานจู๋จวี๋ที่อยู่ข้างกายท่านแม่นี่สิถึงเป็นสี่มหาพิทักษ์][ท่านแม่บอกมาสิว่า สหายเคียงบ่าที่เก่งกาจแบบนี้มีจุดจบหนึ่งศพสองชีวิตในนิทานได้ยังไงล่ะเนี่ย][แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว! ตอนนี้พวกเราเก่งมากเลย!]สองวันต่อมาในตอนฟ้าเพิ่งจะสาง รถของฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เตรียมพร้อมอยู่ที่ประตูวังแล้วพระสนมทั้งหลายย่อมต้องมาส่ง แม้แต่สนมเล่อกุ้ยเหรินและสนมเหยาผินที่กําลังตั้งครรภ์ก็ม

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0626

    สืบไปสืบมา กลับไม่ได้ผลอะไรเลยทางฝั่งตระกูลหาน ไม่ว่าจะเป็นตําหนักชิงอวิ๋น หรือตำหนักหลงเซิง แม้กระทั่งตําหนักจิ่นซิ่วของฮองเฮา ก็ยังส่งของขวัญมากมายไปให้หานซีเยว่ถึงอย่างไรหานซีเยว่ก็เกิดเรื่องในวังหลวง และก็เพื่อซ่งชิงเหยียนด้วยเนื่องจากไม่วางใจ ซ่งชิงเหยียนจึงให้จิ่นอวี้พาฉยงหัวไปที่จวนตระกูลหานอีกครั้ง อย่างไรก็ต้องดูว่าอาการบาดเจ็บของหานซีเยว่หายดีเป็นเช่นไร นางถึงจะวางใจ“ขอบพระทัยในความห่วงใยของพระสนมหวงกุ้ยเฟยเพคะ” ตอนนี้หานซีเยว่ไม่เป็นอะไรแล้ว สีหน้าฮูหยินหานก็ดีขึ้นมากแล้ว “บุตรสาวข้าแค่บาดเจ็บทางผิวหนังเท่านั้น ไม่จําเป็นต้องให้พระสนมก่อความวุ่นวายเช่นนี้”แต่จิ่นอวี้ต้องทําตามคําสั่งของซ่งชิงเหยียน จึงให้ฉยงหัวตรวจดูหานซีเยว่อีกครั้งตอนนี้ทั้งในวังและนอกวังต่างก็รู้ว่าข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟยมีหมอหญิงที่มีความสามารถคนหนึ่ง ฝีมือการรักษายอดเยี่ยมมาก ฮูหยินหานย่อมปรารถนาเป็นอย่างยิ่งไม่นาน ฉยงหัวก็ออกมาจากห้องด้านใน มองไปทางฮูหยินหาน “ตอนนี้คุณหนูหานไม่เป็นอะไรแล้ว แม้มีดสั้นจะปักเข้าไปแล้ว แต่ยังดีที่เส้นเอ็นและกระดูกไม่บาดเจ็บ แค่ครึ่งเดือนนี้ พยายามอย่าให้คุ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0625

    นอกจากตําหนักชิงอวิ๋นที่ยุ่งวุ่นวายแล้ว ย่อมมีตําหนักจิ่นซิ่วที่ยุ่งวุ่นวายตามไปด้วยตอนนี้ทุกคนในตําหนักต่างก็รู้กันหมดแล้วว่าวันนี้คุณหนูตระกูลหานเข้าวังมาเยี่ยมเยียนพระสนมหวงกุ้ยเฟย คิดไม่ถึงว่าจะพบมือสังหารที่นอกตําหนักชิงอวิ๋นแต่คุณหนูตระกูลหานที่ปกป้องพระสนมหวงกุ้ยเฟยอย่างสุดจิตสุดใจ กลับถูกมีดแทงแทนนางโชคดีที่คุณหนูตระกูลหานโชคดีมาก ไม่ได้โดนทําร้ายจุดสําคัญเมื่อได้ยินข่าวนี้ ไป๋หลิงที่กําลังมาพร้อมกับลู่ซิงหุยก็ลุกขึ้นยืนทันที ขมวดคิ้วและมองไปข้างนอกและลู่ซิงหุยก็ตระหนักได้ในทันทีว่านี่เป็นฝีมือของไป๋หลิงจริงๆ นางต้องการแก้แค้นตําหนักชิงอวิ๋นเพื่อตัวเองจริงๆ คิดถึงตรงนี้ ลู่ซิงก็สั่งให้อิงหงออกไป แล้วดึงไป๋หลิงมาอีกครั้ง“พี่หญิงไป๋หลิง” ลู่ซิงหุยลองหยั่งเชิงอย่างเงียบๆ “จะมีใครพบท่านไหม?”ไป๋หลิงกลับตกใจกับคําถามอย่างกะทันหันขององค์หญิงหก มองนางอย่างประหลาดใจ จากนั้นเพียงแค่ยิ้มแล้วย่อตัวลงข้างองค์หญิงหก “องค์หญิงวางใจเถิด ไม่มีใครสืบสาวราวเรื่องได้หรอกเพคะ”พระสนมเต๋อเฟยเคยทิ้งคนกลุ่มหนึ่งไว้เบื้องหลัง ล้วนซ่อนอยู่ในวังหลังแห่งนี้ พวกเจาล้วนไม่มีพ่อแม่ไม่มีอะไรต

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0624

    พอเห็นฉยงหัว รัชทายาทก็รีบก้าวขึ้นไปและถามว่า “แม่นางฉยงหัว ซีเยว่เป็นอย่างไรบ้าง?”เมื่อรู้ว่าซ่งชิงเหยียนเคารพและให้ความสําคัญกับฉยงหัว แม้จะรีบร้อน องค์รัชทายาทก็ยังเกรงใจนางมาก[ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านแม่ ข้าบอกแล้วว่าพี่ฉงหัวเก่งที่สุด!][พี่ฉยงหัวได้ถอนพิษของพี่หญิงตระกูลหานแล้ว แม้แต่บาดแผลก็รักษาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พี่หญิงตระกูลหานพ้นขีดอันตรายแล้ว][แค่รอตื่นมาก็พอ]ซ่งชิงเหยียนและฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินความในใจของลู่ซิงหว่าน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่องค์รัชทายาทกลับไม่ได้ยิน ยังคงมองฉยงหัวด้วยสายตาร้อนแรง รอคอยคําตอบของนาง“ทูลองค์รัชทายาทเพคะ” ฉยงหัวกอดลู่ซิงหว่านแล้วย่อตัวลงเล็กน้อย “แม่นางหานสบายดี ใช้เวลาเพียงหนึ่งก้านธูปก็ตื่นแล้วเพคะ”ซ่งชิงเหยียนก็รีบเข้าไปรับลู่ซิงหว่าน “ฉยงหัว ลําบากเจ้าแล้ว”“พระสนมหวงกุ้ยเฟยเกรงใจแล้ว เป็นหน้าที่ของบ่าวเพคะ” พระสนมหวงกุ้ยเฟยปฏิบัติต่อนางอย่างดีเช่นนี้ นางย่อมต้องตอบแทนอย่างสุดความสามารถเดิมทีฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังพูดคุยกับองค์รัชทายาทอยู่ในห้องเรียน และอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ดังนั้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้ พ่อลูกสองคนจึงมา

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0623

    เมื่อรู้สึกถึงความโกรธของฝ่าบาท เมิ่งเฉวียนเต๋อรีบรับคําและหันหลังจากไปส่วนเสิ่นหนิงก็หลบไปหลบมา สุดท้ายก็หนีไม่พ้นความโกรธของฮ่องเต้ต้าฉู่ “ในเมื่อฮองเฮาอยู่ ก็ไม่จําเป็นต้องให้ข้าพูดมาก ในวังหลังเกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าเป็นฮองเฮา ควรทบทวนตัวเองให้ดี”เสิ่นหนิงรู้สึกหมดคําพูดเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับตน ใครใช้ให้นังซ่งชิงเหยียนนี่ล่วงเกินคนอื่นไปทั่ว ทําไมไม่เห็นมีใครมาลอบสังหารคนอื่นเลย!แต่ใบหน้านางกลับทําได้เพียงคุกเข่าลงไปอย่างนอบน้อม “ฝ่าบาทตรัสถูกต้องแล้วเพคะ หม่อมฉันคิดอยู่ว่า ถ้านางกํานัลคนนี้ไม่ใช่คนของวังหลวง ก็แสดงว่าแต่ละตําหนักย่อมมีคนอื่นปะปนเข้ามา”“หม่อมฉันคิดว่าควรตรวจสอบคนรับใช้ทั้งหมดในวังหลัง” พูดถึงตรงนี้เสิ่นหนิงก็หยุดชะงัก “แค่ยุ่งยากนิดหน่อย”ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับเห็นด้วยกับความคิดเห็นของนางอย่างหาได้ยาก “ไปตรวจสอบตอนนี้เลย มีคนตายแล้ว ยังจะพูดว่ายุ่งยากหรือไม่ยุ่งยากอีก”“พระมเหสี” ระหว่างทางที่ออกจากตําหนักชิงอวิ๋น เยว่หรานก็เผยความไม่พอใจต่อฮ่องเต้ “พระมเหสีเหตุใดต้องทนเช่นนี้ด้วยเพคะ”เสิ่นหนิงกลับถอนหายใจยาวช่างเถอะ อดทนอีกไม่กี่เ

DMCA.com Protection Status