แชร์

11

ชายหนุ่มถึงกับครางหือตื่นเต้นไปทั้งตัวเมื่อถูกเรี่ยวแรงน้อยนิดสัมผัสที่ซอกคอสีน้ำผึ้งจนเกิดรอยวงสีแดงช้ำๆ เหมือนเป็นการล้างแค้นกันไปมาที่เขาจูบเธอแรงๆเมื่อครู่ แต่ช่างเป็นทัณฑ์ทรมานอันแสนหวานล้ำเหลือ ร่างสูงผละออกห่างพร้อมทั้งรั้งรูดกระโปรงชุดนอนสีหวานจนเปิดเปลือยความขาวผ่องงดงามของนวลเนื้อน้องน้อย จดจ้องร่างนุ่มด้วยสายตาร้อนแรงไปด้วยไฟเสน่หาจนร่างบางแทบจะหลอมละลาย ทิฐิและความบาดหมางกินใจแต่ก่อนมาคล้ายจะถูกสายตาพิศวาสของเขาสลายลงหมดหรือไม่ก็ อารมณ์ของทั้งคู่ไม่มีที่ว่างพอที่จะไปคิดเรื่องอื่นในระหว่างนี้

ในคืนเข้าหอ ภายหลังจากที่ผู้ใหญ่ส่งคู่บ่าวสาวให้นั่งบนเตียงเรียบร้อยแล้ว แทนที่จะเกิดบรรยากาศหวานชื่นของคืนแต่งงาน กลับมีเสียงโต้เถียงและทะเลาะกันของทั้งคู่ทันทีที่อยู่ในห้องพักเพียงลำพังและฝ่ายชายกระทบกระเทียบเหยียบใจฝ่ายหญิงขึ้นก่อน “แต่งงานกับผมแล้วจะไปปล่อยเนื้อปล่อยตัวกับไอ้ตุ่นเหมือนที่เคยทำไม่ได้แล้วนะ จะทำอะไรกับมันก็ไว้หน้ากันบ้าง ไปกอดลาอาลัยเหมือนผู้หญิงสาธารณะ”เพราะหึงหวงโดยไม่รู้ตัวเลยพูดออกมาแบบนั้น

“รีนกับตุ่นเราสนิทกันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว คุณเบลต้องทำใจยอมรับให้ได้เพราะถ้าคุณมาคาดคั้นให้รีนเลือก บอกได้เลยว่ารีนเลือกรักษาเพื่อนที่แสนดีอย่างตุ่นไว้”

สิรินนภาหลุดปากออกมาด้วยความรำคาญ ก่อนจะรู้ตัวว่าพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดและไม่ควรคิดออกมาก็ตอนที่เห็นนพพลกัดฟันแน่นระงับโทสะสุดชีวิต “คือรีน...” เตรียมจะแก้ตัวแต่ไม่ทันแล้ว เจ้าบ่าวรูปหล่อเดินตรงลิ่วเข้าห้องน้ำก่อนจะปิดประตูดังโครมใหญ่

“ก็ได้สิรินนภา ในเมื่อคุณเลือกมัน ต่อจากนี้ก็อย่าหวังเลยว่าจะอยู่เป็นเมียผมและเป็นชู้กับไอ้ตุ่นมันอย่างมีความสุข แล้วเราจะได้เห็นดีกันว่าการเป็นเมียที่ไร้ค่ามันแย่แค่ไหน” เขาสัญญากับตัวเองในใจว่าจะไม่มีวันมอบความรู้สึกดีๆให้ภรรยาคนนี้มีความสุขเด็ดขาด เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอร้อนรนทุกข์ใจ ให้มันสาสมกับที่บังอาจเอาไอ้แดนไตรขึ้นมาเป็นที่หนึ่งเหนือเขา “คุณจะเป็นแค่หมากที่จะทำให้ไอ้ตุ่นแพ้ผม เป็นแค่เครื่องบำเรอที่มีไว้สนองความใคร่และทำให้ผมเอาชนะมันได้!”

คืนเข้าหอของงานวิวาห์แสนหวานกลายเป็นเหมือนปฐมบทของความสัมพันธ์ที่ติดลบและแสนขมของคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามัน เมื่อนพพลไม่ได้ทะนุถนอมหรือปลอบประโลมอ่อนโยนกับเรือนร่างของเธอเลย เขาเหมือนตักตวงเอาแต่ความบันเทิงเริงใจ พอเสร็จสมก็ลุกขึ้นแต่งตัว หยิบโทรศัพท์ติดต่อหาใครสักคนและเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ภรรยานอนอยู่บนเตียงเพียงลำพัง ความรู้สึกน้อยใจและไร้ค่าเริ่มกัดกร่อนจิตวิญญาณของอาจารย์สาวที่เคยภาคภูมิใจในตัวเองลงช้าๆ แต่เธอก็ต้องเก็บกลืนความขมขื่นเหล่านั้นไว้ เพราะมารดาคาดหวังกับงานแต่งครั้งนี้มาก จะใจเสาะทำให้แม่ผิดหวังไม่ได้

ในตอนเช้า แดนไตรเปิดทีวีดูข่าวสารบ้านเมืองในระหว่างอาบน้ำแต่งตัวเหมือนทุกครั้งซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันส่วนตัวของนักธุรกิจหนุ่ม เพียงแต่ข่าววันนี้ทำให้เขามีความรู้สึกปวดหัวและตรึงเครียดกว่าทุกๆเช้าที่ผ่านๆมา ในขณะที่บัวหอมฟังไปด้วยยิ้มเยาะไปด้วย

นักข่าวอ่านข่าวคณะกรรมการรวมทั้งผู้ถือหุ้นในบริษัทเศวตร กรุ๊ป ประกาศขายหุ้นของบริษัทที่กำลังดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันกับที่พนักงานกลุ่มใหญ่รวมตัวประท้วงหน้าบริษัทเพื่อทวงถามนโยบายสวัสดิการพนักงานที่ถูกชะลอเรื่องไว้ในช่วงที่หุ้นตกเพราะบริษัทไม่สามารถขายสินค้าและขาดความน่าเชื่อถือจากการที่ไม่สามารถสัมปทานโครงการอะไรได้เลย

โทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มมีสายเรียกเข้าไม่หยุดเพื่อพูดคุยเรื่องความเชื่อมั่นในการค้าการลงทุนและศักยภาพของตัวเขาในฐานะประธานบริหารบริษัท มันไม่ได้กระทบแค่เศวต กรุ๊ป แต่บริษัทในเครือวิริยะกิจที่เขาสร้างมากับมือก็ได้รับผลกระทบด้วยโดยตรง เพราะมันมีบริษัทเกี่ยวกับหลักทรัพย์อยู่ในเครือ

ในช่วงเวลาที่ท้อแท้คนที่เติบโตมาอย่างเดียวดายต้องการกำลังใจมากที่สุด ชีวิตของนักธุรกิจหนุ่มตอนนี้เปรียบเหมือนคนขาหักหนึ่งข้างที่ไม่อาจเดินคล่องได้ดังเดิม ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะเขาไม่เก่งแต่เพราะเขาถูกทรยศหักหลังจากเกลือเป็นหนอน และคนที่เป็นหนอนบ่อนไส้ทำลายความน่าเชื่อถือของเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นภรรยาแสนรักคนนี้เอง แต่ทว่า... “คุณแพ้แล้วคุณแดนไตร โอนทุกอย่างคืนให้ฉันก่อนที่คุณจะทำมันพังจนมันไม่น่าเชื่อถือมากไปกว่านี้” ท่าทีจองหองเหมือนคุณหนูหงส์ผู้สูงศักดิ์ไม่ได้มีความสำนึกว่าสิ่งที่ตนทำลงไปทั้งหมดไม่ได้ทำลายแค่พี่ตุ่นคนนี้ แต่มันทำลายเศวตร กรุ๊ป บริษัทที่ต้นตระกูลของเธอสร้างมากับมือ

“น้องบัวทำแบบนี้กับบริษัทของตัวเองได้ยังไง เอาความลับซื้อขายของบริษัทไปบอกนายนพพลที่มาจากบริษัทคู่แข่งจนเราขายของไม่ได้ สัมปทานส่งออกก็ไม่ได้ หุ้นตกนอกจากทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในการบริหารงานของพี่แล้ว น้องบัวยังทำบริษัทของตัวเองเสียโอกาสและเสียหายด้วยนะ” เขาตัดพ้อผิดหวัง

“เป็นคู่แข่งเหรอคะ? ก็เห็นเชิญกันไปงานแต่ง ไม่ได้สนิทกันหรอกเหรอคะ พี่ตุ่นเก่งจังนะคะไปยิ้มหน้าระรื่นในงานแต่งของคุณนพพลได้ อ๋อไม่สิ! พี่ไปงานแต่งเพราะคุณรีนของพี่เป็นเจ้าสาวต่างหาก” ท่าทีลอยหน้าลอยตาท้าทายเลี่ยงที่จะตอบถึงบริษัทเพราะการทำให้บริษัทได้รับผลกระทบมันเป็นเรื่องที่เธอลืมคิดไป ในหัวตอนทำทุกอย่างลงไปมันคิดแต่จะทำลายชื่อเสียงให้เขาไม่มีที่ยืนในสังคม เท่านั้นเอง 

“แล้วน้องบัวจะทำยังไง” ถามราวกับละเมอที่ภาพรักทุกอย่างกลายเป็นวิมานอากาศที่สลายไปในพริบตา มันไม่มีอยู่จริง ความสุขที่เกิดขึ้น ความอบอุ่นใจที่เกิดขึ้นระหว่างใช้ชีวิตด้วยกันมันไม่มีอยู่จริง มันถูกสร้างขึ้นเพื่อผลประโยชน์และถูกลบทิ้งด้วยฝ่าเท้า

“บัวมีที่ปรึกษาที่เขาสามารถพาบริษัทของบัวไปรอด เพียงแค่คุณถอยไปซะ” สรรพนามแทนตัวแปรเปลี่ยนตามที่ใจเปลี่ยนตาม กล่าวทิ้งท้ายก่อนจะหันหลังเตรียมออกจากห้องทำงานห้องนี้ เธออดทนกับความรู้สึกสับสนในใจไม่ไหวอีกต่อไปแล้วและเหนืออื่นใดเลย เธอทนไม่ได้ที่ถูกเข้าจ้องมองด้วยสายตาผิดหวังมากขนาดนั้น พี่ตุ่นที่เคยมองมาที่เธออย่างอบอุ่นและภาคภูมิใจยามนี้มองเธออย่างสิ้นหวังและร้าวราน

“น้องบัว” เสียงทุ้มเรียกเธอไว้เบาๆ แต่ตรึงร่างบางให้หยุดยืนได้ เขาสามารยื้อวินาทีสุดท้ายด้วยสายสัมพันธ์ที่ถักทอช้าๆแต่แน่นเหนียวเกี่ยวใจของทั้งคู่มาหลายสิบปี “พี่ขอถามน้องบัวหน่อย” ใบหน้าคมคายเจ็บปวดหัวใจ “น้องบัวเคยรักพี่บ้างไหม” ในใจของชายหนุ่มเจ็บช้ำจนกระอักในอก

บัวหอมยืดตัวตรงเหยียดกับคำถามที่ทิ่มแทงหัวใจ แต่ในเมื่อเลือกแล้วที่จะทำแบบนี้ ก็ต้องไปให้สุดทาง “บัวไม่เคยรักพี่ตุ่น” พยายามบังคับเสียงให้ฉะฉานอย่างคนมีชัยคำตอบของเธอไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับแดนไตรมากไปกว่าเดิม เพราะตอนนี้เขาก็ไร้ความรู้สึกไปแล้ว เธอตอบด้วยหน้าตาเรียบเฉยไม่ต่างจากคำว่ารักที่โกหกได้อย่างหน้าตาย แดนไตรคิดมาตลอดว่าเรารู้จักกันมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่าเราเกิดมาเพื่อคู่กัน แต่วันนี้ถึงเวลาที่เขาต้องทบทวนใหม่

เขาห่วงชื่อเสียงของภรรยาไม่อยากให้เธอเสียหายฉาวโฉ่เหมือนเมื่อครั้งก่อนแต่งงาน เขาจะเซนมอบบริษัท บ้านและทรัพย์สินทุกอย่างที่ติดจำนองกับทางวิริยะกิจให้ แต่เขาจะยังไม่ยอมหย่า ขอให้ผ่านไปสักปีก่อนอย่างน้อยเพื่อที่นางอุบลจะได้สบายใจและยอมรับเหตุผลการหย่าได้ง่ายขึ้นว่า เขาและลูกของนางร่วมทางกันต่อไม่ได้จริงๆ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status