ความสัมพันธ์ติดลบของแดนไตรและบัวหอมเริ่มเป็นที่รับรู้และส่งผลกระทบต่อคนกลางอย่างสกาวเดือน เด็กสาวรับรู้ความผิดปรกติเหล่านี้ดีแต่ไม่อาจช่วยอะไรได้ วันที่พ่อบุญธรรมเก็บของย้ายออกจากบ้านของอดีตภรรยา คืนนั้นทั้งคืนเขากลับมานั่งชันเข่าอยู่บ้านและร้องไห้อย่างหมดยางอายลูกผู้ชายและหลังจากร้องจนสาแก่ใจก็เปลี่ยนเป็นคนนิ่งขรึมแต่ดูอมทุกข์และเหนื่อยล้าตลอดเวลา
“อย่าคิดมากเลยนะ” เสียงนุ่มนวลปลอบประโลมเด็กสาวตรงหน้าหลังจากเห็นเธอถอนใจรอบที่ร้อยของวันนี้ไม่อาจรวบรวมสมาธิตั้งใจติวหนังสือเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้
“หนูสงสารพี่ตุ่นค่ะพี่รีน” เด็กสาวบอกกับเพื่อนสนิทของแดนไตรที่พักนี้กลายเป็นแขกประจำของบ้านอีกครั้ง หลังจากที่เขาย้ายกลับมาพักประจำที่บ้านของตนเองตามคำร้องขอของสกาวเดือนที่ต้องการติวเนื้อหาวิชาต่างๆก่อนเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยโดยให้อาจารย์สาวมาช่วยติวเข้มเตรียมความพร้อมสำหรับนิสิตคณะบริหารธุรกิจ วันนี้ก็เช่นกันที่สิรินนภามาเยี่ยมและอยู่เป็นเพื่อนคนอกหักพึ่งหย่าเมีย เธอรู้ว่าช่วงนี้เพื่อนรักต้อการกำลังใจมากที่สุด พร้อมๆกับต้องการหม้อไฟแมงกะพรุนของโปรดของเขาด้วย
“ไม่ต้องคิดมากนะลูกจัน เราให้กำลังใจเขาไปเรื่อยๆเดี๋ยวพอได้ทำงานก็ทำให้ลืมได้เองแหละ” ช่วงนี้เป็นช่วงเรียกคืนความเชื่อมั่นให้กับแดนไตร วิริยะกิจ หลังจากที่เขาเสียเครดิตอยู่นานจากการทำเศวต กรุ๊ปหุ้นตกและขาดทุนยับเยินจากการขายสินค้าที่ผลิตไม่ได้ ด้วยคำปรึกษาพิเศษจากอาจารย์สิรินนภาและบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจทำให้ทุกอย่างเริ่มฟื้นตัวตามลำดับ
เย็นนี้แดนไตรกินข้าวได้มากกว่าเดิมเพราะได้กินแมงกะพรุนหม้อไฟของโปรด และในช่วงมรสุมชีวิตยังเจอโชคชะตาเห็นใจบ้าง วันนี้เขาได้รับข่าวดีว่าสามารถซื้อหุ้นดาวเทียมที่กำลังมาแรงได้และมีสิทธิสัมปทานเครือข่ายดาวเทียมที่จะนำมาทำสื่อดิจิตอลได้อีกด้วย การลงทุนครั้งนี้ประสบความสำเร็จในเบื้องต้นอย่างงดงามเพราะเอกสารทุกอย่างบริษัทคู่แข่งไม่มีโอกาสนำไปศึกษาก่อนและไม่มีหนอนบ่อนไส้คอยนำข่าวทิศทางเศรษฐกิจไปบอกใครให้ไปซื้อตัดหน้าเขา และผลกำไรจะงอกเงยออกมาในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน
“เห็นพี่ตุ่นเป็นแบบนี้ค่อยสบายใจหน่อยค่ะ” สกาวเดือนยิ้มออกเมื่อเห็นสีหน้าสดชื่นขึ้นของพ่อบุญธรรม แดนไตรมีบุญคุณกับเธอมากเพราะให้โอกาสให้เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็ก ตอนเขาร่ำรวยมั่งมีก็ส่งเสียให้โอกาสที่ดีแก่เธอ ดังนั้นอะไรที่จะทำให้คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอมีความสุขจึงยินดียิ่งที่จะทำ
“ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง แล้วเป็นไงบ้างล่ะเรา ตั้งใจติวหรือเปล่า เอาให้เข้าใจนะไม่งั้นจะเหนื่อยเวลาเข้าไปเรียนจริงๆนะ” การเรียนเกี่ยวกับบริหารธุรกิจนั้นยากมาก ทั้งแดนไตรและสิรินนภาต่างรู้ดี เพื่อให้ไม่เหนื่อยมากการเตรียมตัวไปก่อนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและควรทำในเมื่อมีอาจารย์สอนบริหารมาคอยสอนเป็นการส่วนตัว
“ตั้งใจสิคะ หนูเข้าใจหลักการคำนวณความคุ้มทุนแล้วนะ”
“โอ้โหว!” แดนไตรและสิรินนภาหัวเราะขำขันกับภาพความกระตือรือร้นและรักดีของเด็กที่พวกเขารู้จักมาตั้งแต่เล็กๆ สายสัมพันธ์พี่น้องแน่นแฟ้นกลมเกลียวแม้จะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ
ภาพและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของทั้งสามคนถูกแอบบันทึกวีดิโอโดยลูกน้องที่ถูกสั่งให้แอบติดตามความเคลื่อนไหวเนื่องจากช่วงนี้แดนไตรหย่าขาดกับบัวหอมและสิรินนภาก็กลับมาสนิทสนมเข้าออกบ้านของเพื่อนสนิทแทบทุกวันในช่วงเย็น แม้ว่าการที่เธอมาบ้านแดนไตรบ่อยๆเขาจะได้ทราบข้อมูลการค้าการลงทุนที่อีกฝ่ายกำลังทำอยู่ แต่เขารู้สึกว่ามันเกินไปสำหรับผู้หญิงที่เฝ้าตามรักผู้ชายคนหนึ่งมาเนิ่นนาน
ทันทีที่นพพลเห็นคลิปวีดิโอที่ลูกน้องส่งมา ความโกรธและโมโหที่มีอยู่ก่อนกับข่าวน่าผิดหวังที่ไม่สามารถชนะการประมูลสื่อดาวเทียม ได้ถูกเพิ่มด้วยอารมณ์ไม่พอใจในพฤติกรรมของภรรยาที่ประทุมากขึ้น ผู้หญิงคนนี้ทำเหมือนตนเองยังไม่แต่งงาน เข้าออกบ้านผู้ชายที่เป็นคนที่เธอเฝ้าสารภาพรักมาเป็นสิบๆปีได้อย่างคล่องแคล่วทั้งๆที่พึ่งจะแต่งงานกับเขาหม้อข้าวยังไม่ทันดำ หมาป่าเจ้าเล่ห์รู้สึกเหมือนเสียรู้ละคนกับเสียหน้าที่อีกฝ่ายไปมาหาสู่กับเพื่อนสนิทนอกเหนือคำสั่งของเขา
ตั้งแต่แต่งงานไม่มีสักครั้งที่นพพลจะกลับบ้านก่อนตะวันตกดิน กิจวัตรประจำวันของเรือนหอหลังใหม่กลิ่นสียังไม่จางหลังนี้คือภรรยาขับรถกลับบ้านก่อน กินมื้อเย็นเพียงลำพังและขึ้นไปจัดเตรียมการเรียนการสอนล่วงหน้า แต่ทว่าวันนี้ฝ่ายชายกลับมาถึงบ้านก่อน หนำซ้ำยังมาถึงบ้านด้วยอารมณ์ขุ่นมัวโมโหพร้อมที่จะโวยวายต่อทุกสิ่ง
“อ้าวคุณเบล กลับมาแล้วเหรอคะกินข้าวมาหรือยัง” แม้จะกินมื้อเย็นกับสกาวเดือนและแดนไตรมาแล้วแต่ถ้าหากสามีจะพาไปร้านอาหารก็ยังสามารถกินเป็นเพื่อนได้ แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับตาขวางใส่ วันนี้คือวันที่รู้ว่าผู้ชนะการสัมปทานดาวเทียมคือแดนไตรไม่ใช่ตนเอง ทั้งๆที่เขาส่งสิรินนภาไปหาเพื่อนสนิทเพื่อดูความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเจรจาธุรกิจ หากแต่เรื่องสำคัญอย่างการไปสัมปทานดาวเทียมสื่อดิจิตอลเธอกลับไม่รายงานเขา
“คุณรู้ไหมว่ามันคือเงินกี่พันล้านถึงได้ปล่อยให้ไอ้ตุ่นมันสัมปทานได้ไป”
“เกี่ยวกับรีนที่ไหนล่ะคะ ใครเปิดซองมากกว่าคนนั้นก็ได้สิ” รีบเถียงกลับ หากให้สู้กันอย่างใสสะอาดผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับอย่างมีน้ำใจนักกีฬาสิ แต่ทำไมเขาถึงมาขึ้นเสียงตาขวางใส่เธอแบบนี้ล่ะ
“มันจะไม่เกี่ยวได้ยังไง ถ้ารีนบอกผมว่าไอ้ตุ่นมันจะร่วมประมูลสัมปทานหุ้นดาวเทียมนี้ผมก็จะได้ร่วมประมูลตัดราคามันก่อนไง”
“นั่นแหละค่ะรีนถึงไม่บอกคุณ งานนี้ตุ่นควรจะเป็นคนได้ค่ะเพราะเขาถูกคุณปาดหน้าเค้กมาหลายโครงการ มันมากเกินพอแล้ว” ผู้พิทักษ์ลืมดูสถานะตนเองว่าตอนนี้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือของสามี
“ฮึ!” เค้นยิ้มเหยียดหยามต่อสิ่งที่ได้ยินเธอตอบ “คุณไปบ้านไอ้แดนไตรกลางดึก เข้าออกบ้านที่ครั้งหนึ่งเป็นเรือนหอของมันกับคุณบัวได้สนิทใจเหลือเกินนะ ผมให้คุณคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับธุรกิจของมันแค่นั้นแต่ดูเหมือนคนจะทำเกินคำสั่งนะรีน ผมไม่ได้บอกให้ไปชู้รักมันสักหน่อย! ถึงมันจะหย่าเมียแล้ว แต่คุณพึ่งแต่งกับผัวนะรีน” เปิดศึกสาดเสียเทเสียทันทีที่ภรรยาเข้าข้างผู้เป็นศัตรูทางธุรกิจและเป็นอริในชีวิตจริง
“เอ๊ะคุณเบล ทำไมคุณพูดแบบนี้!” รีบย้อนถามด้วยความโกรธ แต่ยามนี้ฝ่ายชายหน้ามืดตามัวกับสิ่งที่ลูกน้องรายงานจนไม่สนใจแล้วว่าจะเป็นการปรักปรำหรือเป็นข้อเท็จจริง
“ที่ผมยอมให้ไปมาหาสู่กับแดนไตร เพราะให้คุณคอยดูความเคลื่อนไหวว่ามันซื้อขายหุ้นอะไรบ้าง แต่กลับกลายเป็นไปสมสู่กันเสียเอง ถึงว่าล่ะงานที่ให้ทำมันดูเป็นการขายเพื่อนแต่ก็เต็มใจเหลือเกินเพราะจะได้ไปเจอกับมันนี่เอง” ยิ่งโมโหน้ำคำยิ่งรุนแรง คนที่ไม่เคยเจอโลกความจริงเท่าไหร่อย่างด๊อกเตอร์สาวถึงกับไปต่อแทบไม่เป็น เธอไม่สอนหนังสือให้สกาวเดือน เด็กคนนั้นเป็นลูกบุญธรรมที่อยู่บ้านของแดนไตร เธอก็ต้องไปที่บ้านของแดนไตรสิ
“น้ำใต้ศอกมันอร่อยนักใช่ไหม!”
“มันก็อร่อยพอๆกับที่คุณกินจากฉันกับตุ่นแหละค่ะ” เถียงกลับหวังจะให้เขาโกรธจนเต้นเหมือนเธอบ้าง จ้องตาประสานกันร้อนแรงแผดเผา ทีเขายังไปมาหาสู่และติดต่อกับบัวหอมได้และเธอยังไม่ได้คิดอกุศลแบบนั้น แล้วทำไมเธอจะติดต่อกับแดนไตรไม่ได้ ในเมื่อเธอกับเพื่อนคนนี้สนิทกันมากกว่าสิบปี “ฉันรักตุ่นและสนิทสนมกับเขามาเป็นสิบปี นานเสียยิ่งกว่าจะรู้ว่ามีคนอย่างคุณอยู่บนโลกใบนี้เสียอีก” หวังจะให้เขาเจ็บแสบบ้างแต่นั่นมันเหมือนดาบสองคมที่จะย้อนกลับมาทำร้ายเธอทีหลัง“รีน” เสียงเข้มข้นเรียกชื่อหญิงสาว เป็นการปรามว่าเธอดูถูกผู้ชายอย่างเขามากเกินไป จนลืมตัวไปว่า ตนนั้นก็ดูถูกเธอด้วยประโยคความหมายเดียวกัน แต่แค่เปลี่ยนรูปประโยคเท่านั้น แต่อย่างว่า ด้านตัวเองมักสว่างเสมอ“เรียกทำไมคะ กลัวจะลืมชื่อเมียตีทะเบียนคนนี้เหรอ ฮึ! ฉันเคยเชื่อมาตลอดว่าให้ฟังและทำตามสิ่งที่แม่เตือนฉันอยู่ซ้ำๆ แต่พอฉันทำตามแม่เรื่องแต่งงานกับคนอย่างคุณ!” พูดถึงตรงนี้ก็ได้แต่เงียบ จุกอกพูดไม่ออก ส่งได้แค่สายตาอ้างว้างผิดหวัง เหยียดหยามในความโง่เขลาของตัวเอง“โอ้ย!” ร่างบางถูกจับกระชากเข้ามาเผชิญหน้า สายตาจัดจ้าก้มเข้ามาใกล้ คาดคั้นให้เธอปริปาก
บทที่ 1วัดเก่าย่านชุมชนแออัดของเมืองหลวง เป็นสถานที่เงียบสงบที่นางอุบลเลือกมาทำบุญในวันครบรอบวันเกิดอายุหกสิบปี และครบรอบหนึ่งปีของการจากไปของสามีสุดที่รักถึงแม้การแต่งกายหรูหรากับใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจะฉาบเคลือบความชราจนมิด แต่แววตาอิดโรยจากอาการเจ็บป่วยภายในและความเหนื่อยยากจากการบริหารงานบริษัทแทนสามียังคงฉายชัดออกมาให้ผู้พบเห็นรู้สึกไม่สบายใจ“โยม มาวัดแล้วทำไมทำหน้าเศร้านักล่ะ” หลวงตาเอ่ยทักด้วยความเมตตาหลังจากนั่งลงที่อาสนะ เตรียมพร้อมสำหรับให้ศีลให้พรแก่ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด นางอุบลเป็นญาติโยมที่มักจะนั่งรถจากใจกลางย่านธุรกิจของเมืองหลวงมาสู่ชุมชนแออัดกลางเมืองเพื่อทำบุญที่วัดนี้อยู่เป็นประจำ จนมีความสนิทสนมกับคนในวัดนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะลูกสาวของนางที่เป็นเพื่อนเล่นกับเด็กวัดที่นี่อย่างไม่ถือตัว“นมัสการเจ้าค่ะหลวงพ่อ” ก้มลงกราบสามครั้งก่อนจะเก็บกลืนความไม่สบายใจลงคอ ไหนๆ วันนี้ก็เป็นวันคล้ายวันเกิดเลยอยากจะทำจิตใจให้สบาย “วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดดิฉันค่ะ เลยอยากจะมาทำบุญ แล้วก็อยากมอบทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนวัดด้วย จะได้เอาไว้ให้เด็กในชุมชนกับเด็กวัด”“เจร
บท 2บัวหอมเข้ามาทำงานในบริษัทในตำแหน่งกรรมการฝ่ายการตลาด ด้วยความที่เธอชำนาญการใช้ภาษาต่างประเทศถึงหกภาษา ทำให้การทำงานกับตลาดต่างประเทศของบริษัทเศวต กรุ๊ป มีความคล่องตัวมากขึ้นด้วยความครอบคลุมภาษาประเทศหลัก ญี่ปุ่น สเปน จีนกลาง อังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมัน และความละเอียดรอบครอบด้านเอกสาร ไม่ถึงหนึ่งเดือนเธอได้รับคำชื่นชมในการทำงาน จากกรรมการบริหารทุกคน จะมีข้อตำหนิก็อยู่ที่เป็นคนขี้โวยวายและทำตัวหักหน้าไม่ให้เกียรติประธานบริษัทคนใหม่อย่างแดนไตรสำหรับแดนไตร ประธานบริษัทคนใหม่พิสูจน์ตัวเองจนได้รับการยอมรับโดยการทำให้สองไตรมาสแรกของปีงบประมาณไม่อยู่ในภาวะขาดทุน ผลของการนำเงินเก็บส่วนตัวมาอัดฉีดลงทุนกับการโปรโมทให้เศวต กรุ๊ปกลับมาโดดเด่น โด่งดังอีกครั้ง บวกกับความเป็นคนรุ่นใหม่ที่เก่งกาจจากดีกรีปริญญาเอกการเงินและการลงทุนจากวอชิงตันอเมริกา และยังติดโผหนุ่มโสดเนื้อหอมที่มีแฟนคลับตามติดแม้ไม่ได้เป็นดารานายแบบ ยิ่งช่วยให้บริษัทภายใต้การบริหารของคนรุ่นใหม่ไฟแรงเป็นที่น่าสนใจในการลงทุนร่วมหุ้นมากขึ้นบ่อยครั้งที่หนังสือพิมพ์หน้าข่าวสังคมลงภาพและข่าวคราวของแดนไตรในเรื่องของกิจกรรมสาธารณประโยชน์
บท 3ในวันหยุดยาวชดเชยวันสำคัญของคนชาวไทย บ้านของสิรินนภายามนี้ถูกจับตกแต่งราวกับราชวังในนิทาน เพื่อเป็นการต้อนรับปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ทางครอบครัวฝ่ายชายขอความกรุณามาเป็นธุระเรื่องการทาบทามสู่ขอลูกสาวบ้านนี้อย่างเป็นทางการ อาจารย์สาวไม่ค่อยแปลกใจกับการต้อนรับแขก เธอเข้าใจว่าเป็นการทาบทามสู่ขอน้องสาวคนเดียวของเธอที่ตอนนี้คงจะคบหากับแฟนหนุ่มจนความรักสุกงอมหอมหวาน เธอมีแก่ใจช่วยทำน้ำใบเตยเย็นชื่นใจต้อนรับแขกเหรื่อที่แม่ตื่นเต้นนักหนา“แขกรับน้ำดื่มเรียบร้อยแล้วค่ะคุณรีน เดี๋ยวทางนี้ป้ารับผิดชอบต่อเอง คุณรีนขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนผ้าเถอะนะคะ” ป้าจอมบอกกับคุณหนูน้อยคนงามด้วยรอยยิ้มหวาน วันหยุดว่างจากการสอนทั้งทีคนอย่างอาจารย์สิรินนภายังไม่ยอมอยู่เฉย ตื่นแต่เช้าลงมาช่วยหยิบจับงานครัวจนเรียบร้อย หลังจากที่ได้ยินคนเป็นแม่บอกถึงนัดหมายว่าจะมีแขกสำคัญมาเยี่ยมเยียนและพูดเรื่องสำคัญ“จ่ะป้า” หญิงสาวรับคำยิ้มๆ ถอดผ้ากันเปื้อนและเดินกลับห้องนอนของตนที่อยู่ชั้นสองของตัวบ้าน แต่ไม่อายแอบมองไปที่โถงใหญ่รับแขก ซึ่งตอนนี้มีแขกคนสำคัญของคุณแม่นั่งอยู่เต็มไปหมด“เอ...แล้วเจมส์ไปไหน” ถามกับตัวเ
บทที่ 5 บ่วงเสน่หาบริษัทเศวต กรุ๊ปได้รับคำเชื้อเชิญให้ร่วมพิธีเปิดอาณาจักรโรงงานอาหารแปรรูปข้ามชาติในจังหวัดหนึ่งติดทะเลอ่าวไทย พิธีการถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เพราะเป็นอภิมหาโครงการที่มีการลงทุนในระดับข้ามชาติ ดังนั้น เศวต กรุ๊ปและแดนไตร ในฐานะที่ปรึกษาโครงการต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองการพัฒนาอีกขั้นของอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปครั้งนี้ด้วย ทีแรกบัวหอมไม่ประสงค์ที่จะร่วมเดินทางมางานเลี้ยงครั้งนี้เพราะถือว่าตนไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับการลงทุนครั้งนี้ แต่ก็มีบัตรเทียบเชิญในนามบริษัทและเธอไม่ยินยอมหากแดนไตรจะได้ไปร่วมงานในนามของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว เพราะเศวต กรุ๊ปคือบริษัทของเธอ‘ถ้าไม่ได้ชื่อเสียงของเศวต กรุ๊ป ก็ไม่มีใครเขาจ้างเศรษฐีหน้าใหม่อย่างแกมาให้คำปรึกษาหรอก’ คุณหนูคนงามยังคงมองด้านเดียว เธอไม่ได้มองว่าแดนไตรเป็นฝ่ายทำทุกอย่างเพื่อสร้างเครดิตให้กับบริษัทของเธอ และเขาได้ช่วยทำให้บริษัทที่ใกล้จะถึงจุดล่มสลายได้กลับกลายเป็นที่รู้จักในตลาดหลักทรัพย์และในแวดวงศ์ธุรกิจอีกครั้ง ทั้งๆที่เขาจะอ้างถึงเพียงชื่อของเขา นายแดนไตร วิริยะกิจ เจ้าพ่อตลาดหลักทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จในทางธุรกิจและการลงท
บทที่ 4โจรปล้นจูบเพียงต้องการจะป่วนประสาท เธอถึงกับยอมล้มลงเพื่อให้ดูเหมือนพลัดตกบันได เพื่อให้แดนไตรปฏิเสธนัดที่มีต่อสิรินนภาและมาเฝ้าไข้เธอที่มีอาการบาดเจ็บ ทั้งๆที่เขาสัญญาจะพาอีกฝ่ายกลับบ้านผลการรักษาพบว่าคนเจ็บไม่เป็นอะไรมากแต่เนื่องจากบัวหอมซึมลงอย่างเห็นได้ชัดจนแดนไตรร้อนใจและอยากให้เฝ้าดูอาการอีกคืนหนึ่งจึงขอหมอให้เธอแอดมิด“น้องบัวเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนไหมครับพี่จะไปตามหมอมาให้” เกือบค่อนคืนเขานั่งเฝ้าไม่ไปไหน แม้แต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังยังไม่ยอมลุกขึ้นไปรับ“เจ็บค่ะ”“เจ็บตรงไหน เจ็บมากไหมพี่จะไปตามหมอนะ” รีบลุกกระวีกระวาดแต่มือบางจับคว้าแขนเขาไว้พร้อมทั้งออกแรงบีบแน่น ยิ่งเขาถามด้วยท่าทีอ่อนโยนเป็นห่วง ก็ยิ่งมีความสับสนมากขึ้น“ทำไมต้องทำเหมือนเป็นห่วงกันทั้งๆที่ถ้าไม่มีฉันสักคนคุณก็เป็นเจ้าของบริษัทได้โดยไม่มีใครตั้งคำถามหรือข้อครหาอยู่แล้ว คุณควรจะดีใจนะที่เห็นฉันเจ็บยิ่งฉันตายยิ่งต้องดีใจเพราะทุกๆอย่างมันจะเป็นของคุณโดยสมบูรณ์ไม่ต้องมาคอยทำท่าทางไม่ต้องการบริษัทฉันอย่างที่ทำอยู่ทุกวัน” เค้นเสียงอย่างอัดอั้น ยิ่งมองหน้ายิ่งสับสนละคนผิดหวัง ชายหนุ่มไม่ตอบเพราะในใจรู้ดีว
บทที่ 6ก่อนหน้านั้น...บทรักอ่อนหวานที่กินเวลาจนย่ำรุ่งไม่ได้ทำให้สาวที่พึ่งสูญเสียความบริสุทธิ์และก้าวผ่านความเจ็บปวดฉีกขาดนั้นจับไข้หรือเป็นอะไร แต่ทว่ากลับเป็นฝ่ายชายหนุ่มที่มีอาการหนักหัวจนลุกจากหมอนไม่ได้ เขาคิดจนหัวแทบระเบิดว่าเมื่อวานทำกิจกรรมอะไรที่ส่งผลให้มีอาการครั่นเนื้อตัวและหนักหัวคล้ายจะเป็นไข้หวัดแบบนี้ก็ยังคิดไม่ออก เพราะถ้ากิจกรรมเข้าจังหวะแนบชิดเมื่อคืนคงจะไม่ใช่สาเหตุหลักเพราะเขาทำกับหญิงสาวคนอื่นๆมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วจนกระทั่งคิดออกว่าเมื่อวานตอนมื้อค่ำ เขาได้กินกุ้งทะเลและหอยนางรมเข้าไป เนื่องจากตอนเด็กเป็นเด็กวัด ถูกเลี้ยงมาด้วยข้าวก้นบาตรจากพระอาหารดีๆหรูๆจึงคล้ายกับเป็นของแสลงท้อง โดยเฉพาะกุ้งทะเลตัวใหญ่ๆและหอยนางรมสดๆที่ตั้งแต่แรกเกิดกำพร้าพ่อแม่ก็ยังไม่เคยเอาเข้าปาก จนถึงทุกวันนี้อาหารประจำของเขายังเป็นอะไรที่ง่ายๆไม่พิสดาร เมื่อคืนพอได้กินอะไรพิสดารขึ้นหน่อยสงสัยจะมีอาการแพ้ขึ้นมา“ความจริงแล้วควรจะเป็นบัวมากกว่านะคะที่ป่วยแล้วพี่ตุ่นต้องดูแล” พยาบาลจำเป็นบ่นกระปอดกระแปดในระหว่างที่เตรียมน้ำเต้าหู้นมสดสูตรร้อนใส่แก้วให้คนป่วย เมื่อตอนสายตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า
บทที่ 7ผู้เสียหายบัวหอมแทบจะกรีดร้องด้วยความโกรธเมื่ออยู่ๆเธอกลายเป็นเป้าประเด็นทางสังคม หนังสือพิมพ์ชื่อดังทุกฉบับจะมีภาพข่าวเธอในหน้าข่าวสังคมเศรษฐกิจ เธอตกเป็นประเด็นล้อเลียนขำขันในฐานะลูกสาวของอดีตเจ้าของเศวต กรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่ย่องขึ้นคอนโดหรูของนักธุรกิจเทพบุตรสุดหล่ออย่างแดนไตรผู้เป็นเจ้าของเศวต กรุ๊ปคนใหม่“ย่อง? ใช้คำว่าย่องขึ้นคอนโดงั้นเหรอ” ความโมโหไม่ได้อยู่ที่เธอเป็นข่าวหรือรู้สึกราวกับกลายเป็นคนสาธารณะทั้งๆที่เธอไม่ใช่ แต่มันโกรธตรงที่คำพูดพาดหัวข่าวที่ทำเหมือนเธอเป็นพวกลักกินขโมยกิน “คนอย่างบัวหอมทำไมต้องแอบ ลงข่าวแบบนี้หมายความว่ายังไง หมายถึงฉันเอาตัวไปแลกกับผลประโยชน์งั้นเหรอ” โวยลั่นสักพักก่อนจะเงียบเสียงลง เอาตัวเข้าแลก ใช้มายายั่วยวนเพื่อหวังผลประโยชน์จากบริษัท เธอทำและเป็นทุกอย่างแบบที่ข่าวลงทั้งนั้นร่างบางค่อยๆนั่งลงนิ่งเงียบ น้ำตารื้นขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อนึกถึงศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้หญิงที่แทบจะหมดลง เจ้าตัวทำอะไรลงไปก็พอจะรู้อยู่แล้ว แต่พอถูกเน้นย้ำถูกสะกิดแผลขึ้นมามันก็อดที่จะสะเทือนจิตใจไม่ได้ เหนืออื่นใดถ้าหากคุณแม่เห็นข่าวนี้ท่านจะรู้สึกอย่างไร คงจะเจ็