แชร์

บทที่ 5 ผีเสื้อราตรี - 75%

ผู้แต่ง: จรสจันทร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-08 18:31:03

“ทำไมคุณถึงไม่แจ้งตำรวจตั้งแต่ตอนแรกที่เจอศพ” สารวัตรหนุ่มถามพลางจ้องหน้าหล่อเหลาของหนุ่มลูกครึ่งอย่างค้นหา

“คุณตำรวจน่าจะรู้ดีนะครับว่าพวกผมหรือไม่ว่าใครก็ตามไม่มีใครอยากยุ่งกับตำรวจเท่าไรนักหรอก โดยส่วนใหญ่แล้วถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ก็ปิดเงียบกันทั้งนั้นแหละ และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าคนตายเป็นใคร คนฆ่าเป็นใคร แถมพวกผมยังมาร้องเพลงให้ที่นั่นเป็นวันแรก แต่ก็ต้องมายุ่งเกี่ยวกับตำรวจแล้ว ผมว่าสู้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปเลยน่าจะดีกว่า”

คริสตอบตามจริง คนทำงานกลางคืนอย่างพวกเขาทุกคน แน่นอนว่าไม่มีใครต้องการข้องเกี่ยวกับตำรวจทั้งนั้นไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม

สารวัตรหนุ่มลอบถอนหายใจ ข้อนี้เขารู้ดี บางคนถ้าไม่ใช่เรื่องของตน ส่วนใหญ่แล้วไม่มีใครอยากยุ่งทั้งนั้น ยิ่งเรื่องฆาตกรรม หรือเรื่องที่มีคนตายยิ่งแล้วใหญ่ กว่าจะง้างปากแต่ละคนได้ เล่นเอาเหนื่อย

หลังจากนั้นก็ทำการซักถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ และสภาพศพที่ทั้งสองคนพบเจอตอนแรกว่าจะตรงกันกับตอนที่ตำรวจไปเจอหรือไม่ ซึ่งคำตอบโดยส่วนใหญ่ คริสจะเป็นผู้ตอบเกือบทั้งหมด

หลังจากที่ทั้งสี่คนทิ้งที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์เอาไว้แล้วก็เดินทางออกจากสถานีตำรวจเพื่อไปเล่นดนตรีต่อที่ผับอีกแห่ง ส่วนสารวัตรก็สั่งการให้ลูกน้องไปที่ลานทิ้งขยะของอะพาร์ตเมนต์ที่ช่อมาลีพักอยู่ เพื่อตามเก็บรองเท้าที่หญิงสาวเอาทิ้งไปแล้ว

สัปดาห์แรกของการทำงานในบริษัทใหม่ของช่อมาลีผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เธอเริ่มเรียนรู้งาน และนิสัยใจคอของเจ้านายคนใหม่ได้ไม่ยากเย็นอะไร โชคดีที่พชรเป็นคนง่าย ๆ ไม่เรื่องมาก นอกเหนือจากนั้นเขายังเป็นผู้บริหารหนุ่มไฟแรง ตัดสินใจอะไรได้ว่องไว และเฉียบขาด

แต่ใครจะเชื่อว่าภายใต้ท่าทีที่เรียบนิ่งและเฉยชานั่นเขามีต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น แต่กับเธอ เขากลับกลายเป็นคนช่างเย้าแหย่ จนบางครั้งรู้สึกได้ถึงสายตากรุ้มกริ่มแพรวพราวที่ส่งมาให้อย่างไม่ตั้งใจของเขาอยู่เรื่อย

และที่สำคัญ เกือบทุกวันเธอจะได้รับโทรศัพท์จากแผนกต้อนรับที่ด้านล่างว่ามีหญิงสาวมาขอพบเจ้านายของเธอตลอด ไม่ตอนเช้าก็ตอนบ่าย แถมรายชื่อของหญิงสาวเหล่านั้นไม่มีซ้ำกันเลยสักชื่อ!

ช่อมาลีเดินออกจากลิฟต์เพื่อไปหาข้าวกลางวันกินเพียงลำพัง เพราะวันนี้เจ้านายของเธอออกไปกินมื้อเที่ยงกับหญิงสาวคนหนึ่งที่มารอพบตั้งแต่สิบเอ็ดนาฬิกา ทำให้เธอรู้สึกขอบคุณผู้หญิงคนนั้นที่พาเจ้านายผู้แสนดีของตนออกไปอย่างนี้

ถ้าเป็นไปได้ช่วยมาพาเขาไปทุกวันเลยยิ่งดี เพราะถ้าเขาอยู่ทีไร คนที่ต้องอยู่ร่วมโต๊ะกินข้าวกับเขาก็คงไม่พ้นเธอ

หญิงสาวไปยืนเมียง ๆ มอง ๆ ในร้านอาหารตามสั่ง ดูเมนูอาหารที่จะสั่งใส่กล่องขึ้นไปกินบนออฟฟิศ ระหว่างที่กำลังยืนอ่านรายการอาหารอยู่นั้น ข้อมือก็ถูกใครบางคนมากระตุกเบา ๆ จนต้องหันไปมอง

“นี่เธอ...เธอเป็นเลขาฯ ของท่านประธานใช่ไหม”

สาวสวยนางหนึ่งในชุดเดรสแน่นเปรี๊ยะ สวมทับด้วยเสื้อคาดิแกนสีขาวยืนส่งยิ้มมาให้ ช่อมาลีจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้อยู่ฝ่ายขายของบริษัท อดแปลกใจไม่ได้ ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นใคร แล้วทำไมจะต้องถามซ้ำอีกครั้งให้วุ่นวายด้วยก็ไม่รู้

“ใช่ค่ะ” ช่อมาลีจำใจต้องส่งยิ้มไปตามมารยาท จำได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ากับกลุ่มเพื่อนสาวของหล่อนที่อยู่ฝ่ายขายด้วยกันนั้น พยายามชะม้ายชายตาให้ท่านประธานกันขนาดไหน

ยิ่งเวลาที่เธอต้องออกไปข้างนอกกับพชร ไม่ว่าจะออกไปด้วยเรื่องงาน หรือบางครั้งแค่ออกไปกินมื้อกลางวันเป็นเพื่อนเขาก็เถอะ แต่เธอก็สังเกตได้ถึงสายตาของหญิงสาวพวกนี้ที่มองมาด้วยความสงสัยใคร่รู้ระคนอิจฉาจนน่าเบื่อหน่าย ซึ่งเธออยากจะบอกพวกนั้นเหลือเกินว่าเปลี่ยนจากความอิจฉามาเป็นความสงสารจะดีกว่าไหม

“มองหาโต๊ะอยู่หรือ...มานี่สิ มานั่งด้วยกัน” ไม่พูดเปล่า ผู้หญิงคนนั้นยังถือวิสาสะจับจูงมือของช่อมาลีลากเข้าไปในร้านโดยที่คนถูกลากยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ เมื่อมาถึงโต๊ะ หญิงสาวคนนั้นก็จับบ่าของช่อมาลีกดลงให้นั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง

“นั่งตรงนี้เลย...นี่พวกเรา ได้ตัวมาแล้ว”

ประโยคหลังเจ้าหล่อนหันไปคุยกับเพื่อนในโต๊ะอีกสองคนที่มองคนมาใหม่ยิ้ม ๆ จากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างช่อมาลี

“เธอชื่อช่อมาลีใช่ไหม เราชื่อเก๋นะ คนนี้ชื่อพลอย คนนี้ชื่อมายด์”

ช่อมาลีหันไปยิ้มให้ทุกคนบนโต๊ะ ในใจรู้อยู่แล้วว่าหญิงสาวกลุ่มนี้คงไม่มีทางมายุ่งกับผู้หญิงเฉิ่มเชยอย่างเธอแน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะ...

“วันนี้คุณโอมจะเข้ามาอีกไหม เอ๊ะ...เธอชื่อเล่นชื่ออะไรนะ” เก๋ถามขึ้นทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา

“เรียกเราว่ามาลีก็ได้ วันนี้ท่านประธานคงไม่เข้ามาแล้วล่ะ เห็นว่าไปกินกลางวันกับคุณไอรดาน่ะ แล้วก็คงเลยไปข้างนอกล่ะมั้ง”

ผิดจากที่คิดไว้ที่ไหน สาว ๆ พวกนี้ก็แค่หวังจะถามข่าวหรือเรื่องของประธานรูปหล่อจากเธอเท่านั้น ช่อมาลีหันไปสั่งอาหารกับเด็กในร้านก่อนจะหันมามองหน้าคนในโต๊ะ

“ยี้...ยายแปดหลอดนั่นน่ะหรือ ไม่เห็นสวยเลย คุณโอมนี่ก็ใครชวนไปไหนก็ไปกับเขาหมดเลย ไม่หัดปฏิเสธเสียบ้าง”

พลอยทำหน้ายี้อย่างขัดใจ อีกสองคนก็ทำท่าพยักพเยิดไปด้วยอย่างเห็นดีเห็นงามกันไปหมดจนช่อมาลีชักเบื่อ

เพิ่งรู้ว่าเจ้านายของเธอมีแฟนคลับกับเขาด้วย มิหนำซ้ำแฟนคลับสาว ๆ พวกนี้ก็ไม่เรียกเขาว่าท่านประธานเหมือนคนอื่น ๆ ในบริษัทเรียกกัน แต่กลับเรียกชื่อเล่นเฉย ๆ ราวกับพยายามจะทำตัวให้สนิทสนมคุ้นเคย หรือบางทีก็เหมือนกับพยายามข่มเธอกลาย ๆ จากน้ำเสียงของคนพวกนี้

“ฉันว่าวันนี้คุณโอมเขาก็คงไปที่คลับเลยแน่ ๆ ช่วงหลังมานี่ฉันเห็นคุณโอมแวะเข้าไปที่คลับเกือบทุกอาทิตย์เลยนะ ปกติเห็นเข้าเดือนละครั้งได้ เธอรู้รึเปล่ามาลีว่าที่นั่นมีอะไรไม่ชอบมาพากลไหม ฉันหมายถึง...ผู้หญิงน่ะ”

มายด์เป็นคนถามขึ้น แล้วทุกคนก็ตั้งตารอคำตอบจากช่อมาลี จนคนถูกถามอยากจะหลุดหัวเราะให้กับความอยากรู้ของพวกหล่อนเสียเหลือเกิน

ก็ได้...เดี๋ยวช่อมาลีจัดให้บัดเดี๋ยวนี้

“อืม...เท่าที่เห็นนะ ท่านประธานก็มีแต่สาว ๆ เข้าหาอยู่ตลอดเวลา มาลีเองก็ไม่รู้ว่าคนที่โทร. มาหาบ่อย ๆ กับคนที่มาชวนไปกินมื้อเที่ยงมื้อเย็นน่ะจะเป็นคนเดียวกับผู้หญิงที่คลับรึเปล่า แต่เอ...วันนี้ก็แอบได้ยินนะว่าเจอกันที่คลับครับ อะไรแบบนี้แหละ บางทีอาจจะเป็นผู้หญิงที่ท่านประธานกำลังคบอยู่ก็ได้นะ ว่าแต่...ถามทำไมหรือ”

ช่อมาลีแกล้งตีหน้าซื่อตาใส หันไปถามกลับกับพวกที่ตั้งตนเป็นแฟนคลับท่านประธานรูปหล่อ

“ไม่ได้การแล้ว คืนนี้ฉันต้องไปให้เห็นกับตา ดีนะเนี่ยที่ฉันแต่งตัวมาพร้อม” พลอยทำหน้าจริงจังพลางสะบัดผมจับชุดที่ตนสวมใส่อยู่ให้เพื่อนอีกสองคนเห็น

“ฉันว่าต้องเป็นกลุ่มยายแนนเน่าแน่เลย เห็นคุณแมทเดินมากระซิบกระซาบกับยายนั่นบ่อย ๆ สักพักมันก็เดินหายไปทางฝั่งของพนักงานน่ะ”

เก๋ออกความเห็น ในขณะที่ช่อมาลีก็ฟังไปเรื่อย ๆ เพื่อเก็บข้อมูล เธอรู้ว่าพวกผีเสื้อราตรีเหล่านี้ส่วนใหญ่จะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันดีว่าใครเป็นใคร แม้จะไม่เคยคุยกันก็ตาม เพราะแค่การพูดคุยกัน เรียกชื่อกันในห้องน้ำ หรือการเรียกชื่อโดยพนักงานเสิร์ฟที่รู้จักมักคุ้นกับคนที่มาเที่ยวบ่อย ๆ เป็นอย่างดี แค่นี้ก็ทำให้รู้จักชื่อกันได้ไม่ยาก

ยิ่งถ้าใครไปเที่ยวบ่อย ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักเด็กเสิร์ฟเอาไว้บ้างเพื่อเอาไว้สำหรับการจองโต๊ะที่ทำเลดีที่สุด ในขณะเดียวกัน เด็กเสิร์ฟพวกนี้ก็ยินดีรับใช้ เพราะนั่นหมายถึงเงินค่าทิปที่ลอยเข้ากระเป๋าจำนวนไม่น้อยเช่นกัน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 5 ผีเสื้อราตรี - 100%

    “พวกเธอไปเที่ยวที่คลับบ่อยหรือ”ช่อมาลีแกล้งทำหน้าซื่อถามออกไป หนึ่งในนั้นทำหน้าเยาะราวกับว่าสิ่งที่เธอถามนั้นช่างโง่เง่าสิ้นดี แต่เธอก็ต้องทำเป็นไม่เห็น และไม่ใส่ใจกับคนพวกนี้“พวกเราไปกันทุกอาทิตย์นั่นแหละ เธอคงยังไม่เคยไปสินะมาลี คลับซุสของคุณโอมน่ะมีแต่คนมีระดับ หรือพวกกระเป๋าหนัก เงินหนาเท่านั้นนะถึงจะเข้าไปได้”เฉิ่มเชยอย่างช่อมาลีนี่น่ะหรือจะสะเออะเข้าไป ไม่รู้ว่าคุณโอมเมาหรือว่ามึนกันแน่ที่รับแม่นี่เข้ามาทำงานเป็นเลขาฯ ดูอย่างไรก็ไม่เหมาะสมสักนิด!พลอยต่อประโยคหลังในใจ สายตามองเหยียดไปยังเลขาฯ คนใหม่ของประธานบริษัทอย่างไม่ปิดบังก่อนจะเสหลุบตาลงดูดน้ำในแก้ว“ฉันไม่เคยไปเที่ยวหรอกที่แบบนั้น ฉันไม่ค่อยสันทัดเท่าไร”ช่อมาลีตอบออกไป ก่อนจะทำทีเป็นมองไปที่หน้าร้านเพื่อดูว่าข้าวกล่องของตนได้หรือยังเพราะขี้เกียจจะเสวนากับสาว ๆ กลุ่มนี้เต็มทีแล้ว“นี่มาลี ฉันถามอะไรหน่อยสิ คุณโอมเขาชอบผู้หญิงแบบไหนน่ะ เธอรู้บ้างรึเปล่า” เก๋ถามแทรกขึ้นมาด้วยแววตาเป็นประกาย ส่วนคนถูกถามก็ได้แต่ลอบยิ้มอยู่ในหน้า แล้วตอบออกไปด้วยความมั่นใจเต็มที่“ท

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 6 พรานล่าผีเสื้อ - 25%

    หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ในยามที่เธอไม่ใช่ช่อมาลี เลขาฯ ส่วนตัวของเขา แต่กลับเป็นใครอีกคนหนึ่งที่เขาอาจจะกำลังคิดเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหน ดูแค่สายตาก็รู้แล้วว่าเขากำลังคิดอะไร ไหนจะฝ่ามือแสนร้ายกาจที่เริ่มเลื้อยต่ำลงไปยังสะโพกกลมกลึง แล้วหมุนวนเอื่อย ๆ เนิบช้าอย่างมีชั้นเชิง“ได้ค่ะ เรียกม็อทเฉย ๆ ก็ได้ แต่เรื่องไปส่งนั้นคงไม่รบกวนดีกว่าค่ะ เพราะม็อทกลับกับเพื่อนในวงอยู่แล้ว”ช่อมาลีรีบพลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเขา ส่งผลให้มือกาวคู่นั้นหลุดออกจากสะโพกเธอไปด้วย หญิงสาวรีบยกมือขึ้นไหว้เขาเพื่อขอบคุณพร้อมกับส่งยิ้มให้ ทำเอาคนได้รับหัวใจกระตุกวูบตาคมกริบไม่อาจละไปจากดวงหน้าสวยบาดใจนั้นได้ ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงลอยเด่นอยู่ตรงหน้า มันทำให้เขาเผลอมองจนตาปรอย ยิ่งเห็นสายตากึ่งท้าทายกึ่งเชิญชวนที่เจ้าหล่อนมองมา พชรก็แทบอยากเอาตาข่ายมาดักจับผีเสื้อราตรีตัวนี้เอาไปไว้ดูเล่นบนเตียงเสียเดี๋ยวนั้นเธอมองเหมือนเขาไม่มีวันได้แอ้มเธอแน่ ๆ!“ไม่คิดจะเปลี่ยนใจหรือครับ กลับกับเพื่อนในวงคงไม่สนุกเหมือนกลับกับผมหรอกนะ”พชรยิ้มกริ่มมอง

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 6 พรานล่าผีเสื้อ - 50%

    “ยังมืดแปดด้านอยู่ พี่ให้คนคอยจับตาดูดีเจที่ชื่ออาร์มอยู่ตลอด แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าสงสัย แถมยังระวังตัวมากกว่าเดิมด้วย”จุมพลนิ่งคิด เพราะดีเจหนุ่มคนนั้นระวังตัวแจ คนของเขาจึงไม่ได้จังหวะหาทางรวบตัวตอนขายยาแบบคาหนังคาเขาได้สักที คิดแล้วก็น่าเจ็บใจที่เจ้าตัวแสบนั่นรอดตัวไปได้ทุกครั้งราวกับมีคนคอยช่วยเหลืออยู่“ผมว่าบางทีอาร์มมันไม่น่าจะเกี่ยวกับการตายของผู้หญิงคนนั้นนะครับ” ภีมพลออกความเห็นบ้าง“พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละ แต่เราก็ยังวางใจไม่ได้ อีกอย่างสภาพศพมันโหดเหี้ยมเกินไป จนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการฆ่าเพราะเรื่องยาเสพติด แต่น่าจะเป็นการฆ่าเพราะแรงแค้น แรงโกรธเกลียดอะไรแบบนั้นมากกว่า”สารวัตรหนุ่มออกความเห็นอย่างคนที่เจอคดีมามากมาย การเขียนประจานลงบนตัวศพว่า “ร่าน” นั้นก็เครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าฆาตกรมีความแค้นกับผู้ตายอยู่มากพลันนั้นความคิดบางอย่างผุดวาบขึ้นมาในหัว จุมพลเด้งตัวขึ้นนั่งหลังตรงแล้วยื่นหน้ามาถามทันที“อาร์มมันมีแฟนไหม หรือคนที่กำลังคบกันอยู่น่ะ”พชรกับภีมพลหันมองหน้ากันทันที ข้อนี้พวกเขาก็ไม่รู้

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 6 พรานล่าผีเสื้อ - 75%

    เพื่อนสาวอีกคนชี้ไปยังโต๊ะของหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่ภีมพลเดินเข้าไปทักทายแล้วดูท่าว่าจะปักหลักอยู่ที่โต๊ะนั้นไม่ยอมไปไหน ทำเอาแนนนี่หน้าร้อนวูบด้วยความอับอายที่ถูกเพื่อนสาวทำท่าทางหัวเราะใส่ราวกับเยาะเย้ยตนไม่ใช่แค่สาว ๆ สองกลุ่มนี้เท่านั้นที่จับจ้องไปยังพชรกับสาวสวยไฮโซ แต่ร่างระหงที่กำลังพลิ้วไหวอยู่บนเวทีก็แอบชำเลืองมองไปยังสองร่างที่พะเน้าพะนอคลอเคลียกันด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกขอให้เป็นผู้หญิงสวย เขาก็สามารถสานสัมพันธ์กับพวกหล่อนได้ทุกคนเลยใช่ไหม เจ้านายของเธอช่างเป็นผู้ชายอันตรายของแท้เลยจริง ๆช่อมาลีไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าดวงตาคมปลาบของคนที่ตนเพิ่งปรามาสไปว่าเป็นผู้ชายอันตรายนั้น ตอนนี้เอาแต่จับจ้องอยู่แต่เรือนร่างเย้ายวนที่เคลื่อนไหวอยู่บนเวทีแทบไม่วางตา ถึงแม้ในอ้อมกอดของเขาจะมีสาวสวยอยู่แนบอก แต่เขาก็ไม่อาจละสายตาไปจากความงดงามที่เริงร่าอยู่บนเวทีได้ ม็อทสามารถสะกดคนดูได้อยู่หมัด ยิ่งพวกหนุ่ม ๆ ที่เขาลอบสังเกตปฏิกิริยาโดยรอบนั้นต่างจับจ้องกันตาแทบถลนไม่ต่างจากเขา นับว่าภีมพลคิดถูกจริง ๆ ที่ได้วงนี้มาเล่นให้คลับซุส“โอมคะ...อินเวียนหัวจังเล

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 6 พรานล่าผีเสื้อ - 100%

    หญิงสาวส่ายหน้ากับตนเองเล็กน้อย พยายามทำความเข้าใจว่าผู้ชายก็เป็นเสียอย่างนี้ ยิ่งทำงานกลางคืนด้วยแล้วยิ่งหลีกเลี่ยงเรื่องอย่างว่าไม่พ้น ดูอย่างเพื่อนในวงของเธอนั่นอย่างไร ไม่ว่าจะไปเล่นที่ไหนก็มีแต่หญิงสาวล้อมหน้าล้อมหลังโดยเฉพาะคริส พ่อหนุ่มลูกครึ่งเนื้อหอมที่มีแต่สาว ๆ รุมล้อมเมื่อลงจากเวทีเพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจ ถ้าเจ้านายอย่างพชรจะแจกจ่ายน้ำใจให้กับสาวสวยทุกคนที่เข้าหา ในเมื่อเขาทั้งหล่อทั้งรวย บุคลิกก็ดูโดดเด่นจนเธอยังอดชื่นชมไม่ได้ เมื่อตอนที่อยู่ในสถานะของเลขานุการแล้วเดินตามเขาต้อย ๆ เธอรู้ได้ตั้งแต่วันที่สองของการทำงานแล้วว่าเขาฮอตมากแค่ไหน เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางใดก็มีสายตาของสาว ๆ ชม้ายชายตามาให้จนเรี่ยราดไปหมดช่อมาลีล้วงหยิบเอาเศษกระดาษหลายใบที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงหนังขนาดพอดีตัวออกมาแล้วคลี่กางออกจนเต็มกำมือ มีทั้งนามบัตร ทั้งเบอร์โทรศัพท์ ทั้งชื่อไอดีโปรแกรมสนทนาต่าง ๆ ถูกเขียนใส่กระดาษแล้วยัดฝากเด็กเสิร์ฟเอามาส่งให้ หญิงสาวมองมันด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนจะขยำกระดาษเหล่านั้นเป็นก้อนกลม แล้วโยนทิ้งถังขยะที่อยู่หน้าประตูไม่ว่าที่ไหน ผู้ชายก็เ

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 7 เหยื่อรายที่สอง...สำส่อน - 25%

    “กรี๊ดด!” ช่อมาลีกรีดร้องสุดเสียงด้วยความตระหนก หญิงสาวเผลอก้มหน้าลงซุกกับต้นแขนของพชรอย่างลืมตัวพลางหลับตาแน่น ไม่กล้าลืมตาขึ้นมอง ร่างสั่นเทิ้มราวกับคนจับไข้ในขณะที่ชายหนุ่มถึงกับยืนอึ้งตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า สาบานได้ว่าไม่เคยพบเจออะไรที่น่าสยดสยองเช่นนี้มาก่อน แม้จะมองไม่ค่อยชัดนักเพราะเงารถบดบังอยู่ แต่ร่างโชกเลือดและผมยาว ๆ ที่ปิดหน้าปิดตา มีเพียงดวงตาเบิกโพลงค้างเติ่งที่เล็ดลอดออกมาระหว่างเส้นผม เพียงเท่านั้น เขาก็รู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าร่างตรงหน้าไร้ลมหายใจแล้ว“เกิดอะไรขึ้น!”สารวัตรจุมพลวิ่งเข้ามาพร้อมกับภีมพลตรงที่พชรกับช่อมาลียืนอยู่ ภีมพลมองตามสายตาของเพื่อนแล้วเห็นศพตรงหน้าก็เบิกตาค้างด้วยความตกตะลึงทันทีเช่นกันพชรหลับตาลงพร้อมกับเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากให้ภาพติดตา แขนข้างหนึ่งยกขึ้นโอบหญิงสาวไว้หลวม ๆ ราวกับปลุกปลอบและปกป้องอยู่ในที เขาหันไปมองผู้จัดการแมทที่กำลังช็อกนั่งนิ่งทำตาโตปากคอสั่นอยู่กับพื้น คงให้คำตอบอะไรตอนนี้ไม่ได้แน่นอน จึงตัดสินใจตอบสารวัตรหนุ่มด้วยเสียงแผ่วสั่น“ผมก็ไม่รู

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 7 เหยื่อรายที่สอง...สำส่อน - 50%

    “เอาล่ะครับ ผมขอเวลาพวกคุณครู่เดียวเท่านั้น ก่อนอื่นเนี่ย...ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเจอศพเป็นคนแรก” ตาคมกริบของสารวัตรตวัดมองไปที่พชร ช่อมาลี และผู้จัดการหนุ่มที่ยืนทำหน้าตาตื่นเมื่อเจอกับคำถาม“ผะ...ผมครับ ผมเจอคนแรก เพราะรถของผมจอดอยู่ใกล้กับ...เอ่อ...กับเธอครับ” แมทหลบตาสารวัตรราวกับไม่ต้องการให้ถามอะไรต่อไปอีก แต่จากประสบการณ์การทำงานสอบสวน จุมพลรู้ได้ในทันทีว่าผู้ชายคนนี้จงใจปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ จึงรุกถามต่อโดยไม่เปิดโอกาสให้คนถูกถามได้พักหายใจ“คุณมีอะไรจะบอกผมรึเปล่าคุณแมท”แมทสะดุ้งเฮือก เหลือบตาขึ้นมองหน้าสารวัตรหนุ่มแล้วก้มหน้ามองพื้นอีกครั้ง ริมฝีปากสีแดงสดเม้มเข้าหากันแน่น สุดท้ายก็ตัดสินใจพูด“เมื่อช่วงประมาณห้าทุ่มกว่า ๆ หลังจากที่ผมเอาเบียร์ขึ้นไปให้สารวัตร ตอนลงมาผมเจอกับแนนนี่พอดีครับ เธอบอกว่าจะขึ้นไปหาคุณโอมบนห้อง แต่ผมบอกเธอไปว่าคุณโอมไม่ได้สั่งเอาไว้ว่าให้เธอขึ้นไปหา อีกอย่างคือ...เพราะผมเห็นว่าคุณโอมพาผู้หญิงขึ้นไปพอดีเลยไม่อยากให้มีปัญหาน่ะครับ”ผู้จัดการหนุ่มพูดพลางเหลือบตามองเจ้านายที่ยืนทำหน้าอิหลักอิเหลื่อเอามือล้วงกระเป๋ากา

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 7 เหยื่อรายที่สอง...สำส่อน - 75%

    อดเสียใจไม่ได้ ถ้าหากเธอไม่รู้ไม่เห็นรอยบ้า ๆ นั่นยังจะดีเสียกว่า แม้ว่าเจ้าตัวพยายามจะปกปิดด้วยเสื้อแขนยาวแล้วก็ตาม แต่สายตาเจ้ากรรมของเธอก็ยังอุตส่าห์ไปเห็นเข้าจนได้ให้ตายเถอะ! เธอไม่เชื่อเด็ดขาดว่าคริสจะเป็นฆาตกร!เมื่อกลับมาถึงบ้าน ดีเจมิวก็เข้าห้องปิดประตูเงียบ หญิงสาวล้มตัวลงนอนบนเตียงครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า“ผมเตือนคุณแล้วนะว่าอย่ายุ่งเรื่องนี้” ร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งตรงเข้ามากักตัวเธอไว้จนติดกับกำแพง พลางก้มหน้าลงมากระซิบลอดไรฟันจนแทบชิดใบหูของเธอ“แล้วนายมายุ่งอะไรด้วย ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน”มิวพยายามหลบหลีกใบหน้าคมสันที่ก้มลงมาจนแทบชิด กระซิบตอบเขากลับไปอย่างหัวเสีย โกรธที่เขาเข้ามายุ่งเรื่องของเธอ ทั้งยังขู่เข็ญสารพัดให้เธอเลิกช่วยเหลือดีเจอาร์ม“อยากติดคุกหรือไง คราวก่อนผมอุตส่าห์พูดบอกคุณดี ๆ แล้วนะเพราะเห็นว่ากำลังถูกไอ้อาร์มมันหลอกใช้ นึกว่าจะสำนึกกลับตัวได้ทัน แล้วทำไมยังเห็นมาช่วยมันเก็บขอ

บทล่าสุด

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 22 ไม่ผ่านโปร - 35%

    “ผมไล่คุณออก ผมไม่ให้คุณผ่านโปร คุณช่อมาลี!” พชรยืนจ้องคนที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยสายตากรุ่นโกรธ ช่อมาลีพยายามยันกายลุกขึ้นนั่ง แต่แล้วก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดจากแผลที่ถูกแทงบริเวณชายโครงส่วนคนที่ยืนทำหน้าโกรธพอเห็นหญิงสาวหน้าเบ้เพราะเจ็บแผลก็หลุดมาดเข้ม รีบปราดเข้าไปประคองทันที“จะลุกขึ้นมาทำไม เดี๋ยวแผลก็ฉีกหรอก ทำไมชอบหาเรื่องใส่ตัวอย่างนี้นะ” ชายหนุ่มประคองร่างคนป่วยจนนั่งได้ จากนั้นก็กุลีกุจอเอาหมอนมาซ้อนไว้ที่หลังของหญิงสาว แล้วกดปุ่มปรับระดับหัวเตียงให้ยกขึ้น“ดิฉันขอทราบเหตุผลที่ท่านประธานจะไล่ดิฉันออกด้วยค่ะ”ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำเอ่อคลอ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนี้ เธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจอย่างนั้นหรือ ทั้งที่เธอก็พยายามทำงานให้เขาชนิดที่เรียกได้ว่าไม่มีขาดตกบกพร่องแท้ ๆ แล้วที่ผ่านมาทั้งหมดมันคืออะไร ที่เขาดีกับเธอเพราะเห็นเป็นแค่ลูกน้องอย่างนั้นหรือช่อมาลีมัวแต่คิดน้อยใจคนตรงหน้า จนลืมนึกไปว่าที่ตนต้องมานอนรักษาตัวอยู่ที่นี่ก็เพราะเอาตนเองเป็นเหยื่อล่อฆาตกรในต

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 21 เอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ - 100%

    “วันนี้คุณต้องตื่นนะคนสวย ถ้าคุณไม่ตื่นผมก็จะนั่งเฝ้าคุณอยู่อย่างนี้จนกว่าคุณจะตื่นนั่นแหละ”พชรพูดกับคนที่นอนไม่ได้สติอยู่ตรงหน้า จากนั้นก็ลากเก้าอี้ที่วางชิดกำแพงอีกด้านมานั่งอยู่ข้างเตียง เขาถือวิสาสะเลิกเสื้อของหญิงสาวขึ้นเล็กน้อยพอให้มองเห็นบริเวณที่เป็นแผล สายตาทอประกายเจ็บปวดเมื่อเห็นรอยเลือดที่ซึมออกมาจากผ้าพชรคว้ามือของช่อมาลีขึ้นมาแตะริมฝีปากของตนเองลงไปเบา ๆ จากนั้นก็ประสานนิ้วมือของเขากับเธอเข้าไว้ด้วยกัน มีเพียงแรงกระเพื่อมจากอกเท่านั้นที่บอกเขาว่าเธอยังมีลมหายใจอยู่ชายหนุ่มเอาแต่นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นแทบไม่ขยับ จนกระทั่งร่างกายเริ่มฝืนความอ่อนล้าต่อไปไม่ไหว สุดท้ายใบหน้าเขาก็เอนซบลงไปบนเตียงของหญิงสาวแรงสะกิดที่ไหล่จากเบา ๆ ก็เริ่มจะหนักขึ้นมาเรื่อย ๆ จนพชรต้องสะดุ้งตื่น เขาไม่รู้ว่าตนหลับไปนานแค่ไหน รู้แต่ว่าสายตาที่มองมาอย่างไม่เป็นมิตรของผู้กองชินกฤตกำลังพุ่งตรงมาที่เขาอย่างจงใจ ข้างกันกับนายตำรวจหนุ่มคือช่อฟ้า มารดาของช่อมาลีที่มองมาทางเขาอย่างเคลือบแคลงสงสัยเช่นกัน จนกระทั่งพชรก้มมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตนเอง ถึงเพิ่งรู

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 21 เอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ - 70%

    “ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วนะครับ โชคดีที่พามาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา แต่เนื่องจากว่าคนไข้เสียเลือดไปมาก ทางโรงพยาบาลก็เพิ่งให้เลือดไป ตอนนี้คงต้องให้พักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูไปก่อนเพราะต้องคอยดูอาการเป็นระยะ ๆ และยังไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมนะครับ”แพทย์ผู้ทำการรักษากล่าวจบก็เดินจากไป คนที่ได้ฟังต่างก็รู้สึกโล่งใจไปตาม ๆ กันโดยเฉพาะเขตไทที่พอฟังจบก็เดินเข้ามาหาพชรแล้วยกมือไหว้อย่างขอบคุณ“พี่ครับ ผมต้องขอบคุณพี่มากที่ตอนนั้นพี่รีบพาพี่มาลีขึ้นรถมาโรงพยาบาล เพราะผมก็มัวแต่...” เขตไทพูดได้เพียงแค่นั้นก็ต้องเงียบเสียงลงไปเพราะก้อนสะอื้นเริ่มขึ้นมาจุกที่คอ ตอนนั้นเขามัวแต่เล่นงานคนที่แทงพี่สาวจนลืมนึกไปว่าต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล กลับกลายเป็นพชรที่มาถึงก็รีบช้อนตัวพี่สาวเขาอุ้มขึ้นรถมาทันที“ไม่เป็นไรหรอกคนกันเอง ขอแค่ให้ช่อมาลีเขาปลอดภัยก็พอแล้ว”พชรหันไปยิ้มให้พร้อมกับตบบ่าเด็กหนุ่มเบา ๆ ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก ก้อนหินหนัก ๆ ที่ถ่วงใจเขาก่อนหน้านี้ละลายหายไปหมดแล้ว“ขอบคุณมากครับคุณ...” ผู้กองชินกฤตเอ่ยขอบคุณพชร พลางยื่นมือออกมา พชรจึงยื่นมื

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 21 เอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ - 35%

    ทันทีที่ส่งตัวช่อมาลีถึงมือแพทย์ พชรก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินอย่างหมดเรี่ยวแรง ในใจได้แต่ปลอบตนเองซ้ำไปซ้ำมาว่าถึงมือหมอแล้วเธอต้องปลอดภัย ทั้งที่ลึก ๆ แล้วเขาเองก็ไม่ค่อยมั่นใจนักชายหนุ่มเหลือบมองคนที่เดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องที่ช่อมาลีกำลังเข้ารับการรักษา เห็นเลือดที่ไหลออกมาจากแขนขวาแล้วหยดลงพื้นแต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจมันเท่าไร พชรจึงเดินไปจับไหล่อีกข้างแล้วบีบเบา ๆ“ชื่อเขตใช่ไหมเรา พี่ว่าไปทำแผลก่อนดีกว่าไหม เลือดไหลใหญ่แล้วนะ” พชรมองเสี้ยวหน้าของเด็กหนุ่มที่มีส่วนละม้ายกับพี่สาวอยู่มากอย่างเป็นห่วง ก่อนหน้านี้เขารู้มาจากช่อมาลีว่ายังตามตัวของเขตไทไม่พบ แต่อยู่ดี ๆ เจ้าตัวก็กลับโผล่มาเสียเอง ใจนึกอยากจะถามให้รู้เรื่องรู้ราวแต่ติดที่ว่าตัวเขายังเป็นคนนอกสำหรับครอบครัวนี้อยู่ จึงไม่สมควรไปก้าวก่าย“แต่ผมเป็นห่วงพี่มาลี พี่ผมจะเป็นอะไรไหม ถ้าผมไปทำแผลแล้วเกิดหมอเขาต้องการเลือดด่วนล่ะ” เขตไทบอกกับพชรด้วยสีหน้ากังวลเพราะเป็นห่วงพี่สาวจนลืมอาการปวดที่บาดแผลของตนเองไปเสียสิ้น“ถึงมือหมอแล้วยังไงพี่สาวนายก็ต้องปลอดภัยแน่นอน ไม่ต้

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 20 บุคคลน่าสงสัย - 100%

    “จะเป็นสายจากโรงพักรึเปล่านะ” หญิงสาวได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ รู้สึกใจกระตุกแปลก ๆ กับสายที่โทร. เข้ามาเมื่อครู่ แล้วก็ให้เสียดายที่ไม่ได้กดรับ สัญชาตญาณบางอย่างบอกว่าสายเมื่อครู่น่าจะเป็นเขตไท น้องชายของเธอที่โทร. เข้ามา หรืออาจเป็นสายจากตำรวจที่ทำคดีของน้องชายเธออยู่หญิงสาวเดินออกจากห้องน้ำ กะเอาไว้ว่าจะไปเอนหลังนอนบนเก้าอี้ยาวในห้องล็อกเกอร์สักหน่อย ก็พอดีกับที่มีเสียงเรียกมาจากด้านหลังพอดีจึงหันไปตามเสียงเรียก“ม็อท คุณโอมให้ไปหาที่รถแน่ะ เห็นบอกว่าอยากไปกินบะหมี่อะไรเนี่ยแหละ เขารออยู่”“อ้าวงั้นหรือ ขอบคุณนะคะ” คราวแรกช่อมาลีนึกระแวงไม่น้อย แต่พออีกฝ่ายพูดถึงบะหมี่ที่เคยพาพชรไปกินด้วยกันแล้วจึงคิดว่าชายหนุ่มน่าจะเรียกหาอยู่จริง ๆ เพราะเรื่องนี้มีเพียงเธอกับเขาเท่านั้นที่รู้หญิงสาวรีบเดินออกไปทางประตูด้านหลังที่จะออกไปสู่ลานจอดรถสำหรับพนักงาน สายตาระแวดระวังสอดส่ายไปทั่วบริเวณ พอไม่เห็นว่ามีใครเดินตามมาจึงค่อยโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง จากนั้นจึงรีบก้าวเร็ว ๆ เพื่อไปให้ถึงรถยุโรปคันหรูที่จำได้ติดตา แสงไฟสปอร์ตไลต์ที่ส่องสว่างในบริเวณลานจอดรถนั้นช่ว

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 20 บุคคลน่าสงสัย - 70%

    เสียงสั่นพร่าไปด้วยแรงอารมณ์ของชายหนุ่มขณะกำลังพูดชิดริมฝีปากอิ่ม เขาเอาหน้าผากแนบกับเธอแล้วระดมจูบย้ำ ๆ ที่เรียวปากนุ่มหอมชวนให้เคลิบเคลิ้ม ทว่าหญิงสาวที่เหมือนกำลังอยู่ในห้วงฝันดูเหมือนจะไม่รับรู้ถ้อยคำจากเขาเท่าไร นัยน์ตาหวานฉ่ำหยาดเยิ้มดูล่องลอยกำลังปลุกแรงปรารถนาในกายเขาขึ้นอีกครั้ง“อย่าทำหน้าอย่างนี้ถ้าไม่อยากถูกผมลักพาตัวขึ้นไปข้างบน”เขาพูดไปในขณะที่ปากก็พร่ำจุมพิตไปทั่วหน้า หญิงสาวมองเขาที่เคลื่อนไหววนเวียนอยู่แถว ๆ ใบหน้าและซอกคอไม่ยอมหยุดจนต้องยกมือขึ้นจับหน้าเขาไว้“คุณโอมก็หยุดสิคะ อย่าแกล้งม็อท เดี๋ยวม็อทต้องขึ้นแสดงแล้ว”ให้ตายเถอะ เสียงของเธอหายไปไหนหมดนี่ เมื่อครู่สาบานได้ว่าเธอพยายามที่จะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ทำไมมันถึงได้สั่นพร่าจนฟังเหมือนกระซิบมากกว่าอย่างนี้เล่า“คนที่โดนแกล้งคือผมมากกว่า คุณกำลังจะทำให้ผมเป็นบ้าเพราะต้องการคุณ รู้บ้างรึเปล่า” เขากดสะโพกเธอให้เข้ามาบดเบียดแก่นกายร้อนผ่าวอีกครั้งราวกับต้องการยืนยันสิ่งที่ตนเองพูด“เดี๋ยวม็อทต้องไปแล้วค่ะคุณโอม” เธอดันอกกว้างของเขาให้ถอยห่างอย่างมีชั้นเชิง ปลายนิ้ว

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 20 บุคคลน่าสงสัย - 35%

    ช่อมาลีนั่งมองเพื่อนชายที่ยืนกอดอกจ้องไปทางบูธดีเจตาแทบไม่กะพริบด้วยความสงสัย ครั้นพอหันมองตามสายตาของคริสไป หญิงสาวก็ยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่ จึงหันไปหาเพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน“ไอ้จิล เราตกข่าวอะไรไปรึเปล่าวะ” เวลาอยู่กับเพื่อน เธอมักจะพูดจาแบบนี้เสมอด้วยความเคยชิน เพราะเป็นเรื่องปกติระหว่างพวกเธออยู่แล้วตั้งแต่สมัยเรียนด้วยกันมา“อืม...คริสมันกำลังตกอยู่ในห้วงรัก” จิลตอบเพื่อนยิ้ม ๆ พลางพยักพเยิดไปทางหญิงสาวที่ยืนอยู่ในบูธดีเจช่อมาลีทำตาโตราวกับเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เพราะปกติเห็นคริสควงแต่สาวเซ็กซี่ร้อนแรง แล้วนึกอย่างไรถึงได้มาลงเอยกับสาวใส ๆ แบบมิวได้“วู้...ไม่น่าเชื่อ” หญิงสาวได้แต่อุทานเบา ๆ ไม่ใช่ว่าดีเจมิวไม่สวย จากที่เห็นด้วยตา มิวจัดว่าหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาเพราะเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มแบบที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบ นัยน์ตากลมโต จมูกเล็ก ๆ แก้มป่อง ปากอิ่มสีสดจนเธอนึกอิจฉา รูปร่างก็กะทัดรัดดูน่าทะนุถนอม แต่ที่เธอแปลกใจก็เพราะไม่คิดว่าคริสจะมาแพ้ทางสาวสไตล์นี้เข้าจนได้“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะ แ

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 19 อย่ามาเข้าใกล้ผม - 100%

    ขาไปกลับระหว่างที่นี่กับที่คลับเขาก็ไม่ต้องห่วง เพราะเพื่อนในวงของเธอมารับส่งถึงที่อยู่แล้ว เขารู้ดี“ขอบคุณมากค่ะที่มาส่ง”ช่อมาลียกมือไหว้ขอบคุณเขาแต่กลับไม่กล้าสบตาด้วย เมื่อครู่ตอนที่นั่งอยู่ในรถ เขาก็ดึงมือเธอไปกุมเอาไว้ตลอดเวลา จะชักออกก็ไม่กล้าเพราะกลัวเขาโกรธ“อืม...ขึ้นห้องเถอะ เดี๋ยวผมกลับแล้ว” ชายหนุ่มยืนเอาหลังพิงตัวรถ มือสอดเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงทั้งสองอย่าง เพราะกลัวมันจะยืดยาวไปคว้าร่างของเธอมากอดไว้ช่อมาลีหมุนตัวเดินเข้าไปแตะคีย์การ์ดหน้าประตูเพื่อเข้าไปด้านใน อะพาร์ตเมนต์ หญิงสาวหันกลับมามองเขาอีกครั้งก็ยังเห็นเขายืนพิงรถมองอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนไปไหน จนกระทั่งลิฟต์มาแล้วจึงก้าวเข้าไปข้างใน ชายหนุ่มจึงขึ้นรถของตนเองแล้วขับออกไปทันทีเมื่อมาถึงห้อง ช่อมาลีคว้าตุ๊กตาตัวใหญ่ที่วางอยู่บนโซฟามากอดแน่น รอยยิ้มระบายเต็มวงหน้าทั้งปากทั้งตาอย่างเก็บอาการไว้ไม่อยู่ เพราะเขาน่ารักอย่างนี้ไงเล่า เธอถึงได้หักห้ามใจไม่ให้คิดเกินเลยกับเขาไม่ได้สักที แม้ไม่รู้ว่าการกระทำที่เขาแสดงออกมาทั้งหมดนี้จะเป็นเพราะเอ็นดูเธอในฐานะลูกน้อง หรืออะไรก็ตาม เ

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 19 อย่ามาเข้าใกล้ผม - 70%

    “หิวสิถึงได้รีบกลับมานี่ไง นึกว่าคุณยังไม่กินเสียอีกจะได้กินด้วยกัน” พูดพลางเอื้อมมือไปถือจานกับถุงอาหารเสียเอง แต่ไม่ยอมถือแก้วโกโก้เย็นที่เขาสั่งไว้ก่อนหน้า จากนั้นก็เดินนำเข้าไปในห้องทำงานเพื่อให้เลขาฯ สาวเดินตามเข้าไปแต่โดยดี“ดิฉันนึกว่าท่านประธานจะกินมาจากข้างนอกเสียอีก” ช่อมาลีเดินเข้าไปวางแก้วโกโก้บนโต๊ะตรงหน้าเขา“ไม่ล่ะ อยากกินข้าวกับคุณมากกว่า งานยุ่งไหมวันนี้” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยแต่แฝงความนัยในถ้อยประโยค ทำเอาคนฟังรู้สึกอุ่นซ่านในหัวใจ หญิงสาวจับกรอบแว่นตาให้เข้าที่ตอนที่ก้มหน้าลงเล็กน้อยเพราะไม่กล้าสบตาเขา ก่อนจะตอบคำถามไปแบบอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียง“ก็...ไม่เท่าไรค่ะ ทำไปเรื่อย ๆ”“งั้นก็ดีเลย มานั่งเป็นเพื่อนผมกินข้าวหน่อยสิ” พชรพูดพลางเลื่อนกองเอกสารตรงหน้าหญิงสาวย้ายเอาไปไว้อีกมุมโต๊ะเพื่ออำนวยความสะดวกเต็มที่ ช่อมาลีไม่อยากนั่งเพราะไม่อยากให้ตนเองหวั่นไหวไปมากกว่านี้ แต่ก็ไม่กล้าขัดจึงหย่อนตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามเขาแต่โดยดีหญิงสาวตวัดตามองเขาแล้วรีบหลุบตาลงต่ำ เพราะกลัวเขารู้ว่าเธอแอบมอง ในขณะที่คนถูกแอบมองกลับเงยหน้าขึ้น

DMCA.com Protection Status