Home / โรแมนติก / เสน่หาผีเสื้อราตรี / บทที่ 6 พรานล่าผีเสื้อ - 50%

Share

บทที่ 6 พรานล่าผีเสื้อ - 50%

Author: จรสจันทร์
last update Last Updated: 2024-11-09 15:31:02

“ยังมืดแปดด้านอยู่ พี่ให้คนคอยจับตาดูดีเจที่ชื่ออาร์มอยู่ตลอด แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าสงสัย แถมยังระวังตัวมากกว่าเดิมด้วย”

จุมพลนิ่งคิด เพราะดีเจหนุ่มคนนั้นระวังตัวแจ คนของเขาจึงไม่ได้จังหวะหาทางรวบตัวตอนขายยาแบบคาหนังคาเขาได้สักที คิดแล้วก็น่าเจ็บใจที่เจ้าตัวแสบนั่นรอดตัวไปได้ทุกครั้งราวกับมีคนคอยช่วยเหลืออยู่

“ผมว่าบางทีอาร์มมันไม่น่าจะเกี่ยวกับการตายของผู้หญิงคนนั้นนะครับ” ภีมพลออกความเห็นบ้าง

“พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละ แต่เราก็ยังวางใจไม่ได้ อีกอย่างสภาพศพมันโหดเหี้ยมเกินไป จนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการฆ่าเพราะเรื่องยาเสพติด แต่น่าจะเป็นการฆ่าเพราะแรงแค้น แรงโกรธเกลียดอะไรแบบนั้นมากกว่า”

สารวัตรหนุ่มออกความเห็นอย่างคนที่เจอคดีมามากมาย การเขียนประจานลงบนตัวศพว่า “ร่าน” นั้นก็เครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าฆาตกรมีความแค้นกับผู้ตายอยู่มาก

พลันนั้นความคิดบางอย่างผุดวาบขึ้นมาในหัว จุมพลเด้งตัวขึ้นนั่งหลังตรงแล้วยื่นหน้ามาถามทันที

“อาร์มมันมีแฟนไหม หรือคนที่กำลังคบกันอยู่น่ะ”

พชรกับภีมพลหันมองหน้ากันทันที ข้อนี้พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเรื่องส่วนตัวของพนักงานจะไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร บางทีอาจต้องถามจากพวกพนักงานด้วยกันน่าจะได้คำตอบมากกว่า

สิบนาทีต่อมา ผู้จัดการหน้าหล่อ หุ่นทรมานใจสาวก็เดินเข้ามาในห้องทำงาน สารวัตรจุมพลลอบสำรวจชายหนุ่มชื่อแมทอย่างเงียบ ๆ ตามความเคยชินที่ติดเป็นนิสัยของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

แมทมีรูปร่างสูงหนา ผิวขาวจัด และหน้าตาหล่อเหลาอย่างร้ายกาจ หมอนี่เป็นดารานายแบบได้สบาย ๆ เสื้อผ้าที่ใส่ก็เนี้ยบตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า ดูท่าทางสำอางไม่เบา เขาจำได้ว่าตอนที่เดินเข้ามาในคลับ ผู้จัดการรูปหล่อคนนี้มีสาว ๆ ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่ตลอดเวลา ภีมพลเคยบอกอยู่เสมอว่าผู้จัดการคนใหม่เป็นตัวเรียกแขกสาว ๆ ได้เป็นอย่างดีเพราะคารมเหลือร้าย บวกกับรูปร่างหน้าตาที่ไม่ว่าจะเป็นสาวคนไหนเห็นก็พร้อมจะกระโจนเข้าใส่ได้ทุกเมื่อ

“คุณแมท ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณหน่อยครับ...เกี่ยวกับอาร์ม”

ภีมพลถามพร้อมกับวางแก้วที่ใส่น้ำสีทองลงบนโต๊ะตรงหน้า แมทเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ผงกศีรษะแทนการตอบรับแล้วตั้งท่ารอฟังสิ่งที่เจ้านายจะถาม

“อาร์มเขามีแฟนรึเปล่า คุณเคยเห็นไหม หรือมีผู้หญิงคนไหนมาติดพันบ้างรึเปล่า”

“ถ้าติดพันมันมีเป็นสิบ ๆ คนเลยครับนับแทบไม่ไหว ส่วนแฟนน่ะหรือ อืม...เท่าที่รู้อาร์มมันไม่มีเป็นตัวเป็นตนนะครับ แต่ถ้าคนที่หลงรักจนแทบจะเทิดทูนบูชาน่ะมีอยู่คนหนึ่งครับ” แมทตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

พชรยืดตัวมาด้านหน้าเอาข้อศอกเท้าไว้กับหน้าขาเพราะรู้สึกตื่นเต้น ไม่อยากเชื่อเลยว่าในคลับของเขาจะมีเรื่องคาดไม่ถึงหลายเรื่องเหลือเกิน

“มีด้วยหรือคนแบบนั้น ทั้งรักทั้งเทิดทูนเนี่ยนะ ใครวะ” ภีมพลขมวดคิ้วมุ่นขณะรอฟังคำตอบจากผู้จัดการหนุ่ม

“มิวไงครับ” แมทตอบยิ้ม ๆ แต่ทำเอาพชรแทบสำลักน้ำ

“ดีเจที่คู่กันน่ะหรือ” ภีมพลถามย้ำพลางหันไปมองหน้าพชร ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คนทำงานด้วยกันเกือบทุกวันจะแอบหลงรักกันเอง แต่นี่เป็นมิว เด็กสาวซื่อ ๆ ที่ตอนเลิกงานจะมีบิดาเป็นคนขับแท็กซี่มารอรับกลับบ้านอยู่เกือบทุกวัน

“ครับ...ไม่ว่าอาร์มจะสั่งให้ทำอะไร มิวจะทำให้ทุกอย่างไม่เคยปฏิเสธสักคำ ทำแบบถวายหัวเลยด้วย”

แมทตอบพลางยักคิ้วให้กับคู่สนทนา ในขณะที่สารวัตรจุมพลเริ่มจมจ่อมอยู่กับความคิดของตนเองอีกครั้งสำหรับข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้รับ

เขารู้แล้วว่าใครที่ให้การช่วยเหลือดีเจหนุ่มคนนั้นอยู่

คืนนี้มีนักธุรกิจสาวสวยที่เป็นคู่ค้าติดต่องานกันอยู่มาเที่ยวที่คลับ พชรจึงลงมาทักทายตามประสาเจ้าบ้านที่ดี ระหว่างพูดคุยกันนั้น หญิงสาวเอนกายเบียดกระแซะพร้อมกับใช้นิ้วมือเขี่ยกระดุมเสื้อของเขาเล่นสลับกับไล้แผงอกหนั่นแน่นไปมา ทำเอาพชรร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แววตาเย้ายวนเชิญชวนอย่างไม่ปิดบังนั้น ทำให้ชายหนุ่มรู้ทันทีว่าคืนนี้เขามีผีเสื้อไว้เล่นคลายเครียดบนเตียงแล้ว

ท่าทางของทั้งสองคนที่นั่งคลอเคลียกัน มองดูผิวเผินอาจจะดูเหมือนคู่รักทั่วไปที่กำลังพลอดรักกันอยู่ ถึงแม้จะไม่มีการจูบแบบโจ่งแจ้ง หรือแตะเนื้อต้องตัวกันมากไปกว่าการโอบไหล่และตระกองกอด แต่คนที่รู้ดีที่สุดว่าอะไรเป็นอะไรเห็นจะมีก็แต่เพื่อนสนิทอย่างภีมพลเท่านั้น

ภีมพลมองคนทั้งคู่ด้วยดวงตาพราวระยับกึ่งล้อเลียน ก่อนจะหันไปพูดกับพี่ชายที่ยืนมองอยู่ไม่ห่างกัน เพียงแต่สารวัตรหนุ่มพยายามมองไปโดยรอบเพื่อมองหาสิ่งผิดปกติมากกว่าจดจ่ออยู่กับพชร

“ดูท่าคืนนี้ห้องข้างบนคงไม่ว่างแล้วล่ะพี่พล แหม...ผมกะจะเรียกสาว ๆ ขึ้นมาหาสักหน่อย”

“แกก็รอให้มันใช้ให้เสร็จก่อนสิ แล้วค่อยต่อก็ได้”

จุมพลพูดโดยไม่หันไปมองหน้าน้องชาย เพราะตอนนี้สายตาของเขากำลังจับจ้องผู้หญิงกลุ่มหนึ่งอยู่ ไม่ใช่ว่าเขาสนใจหรือพิศวาสอะไรหญิงสาวพวกนั้น แต่เพราะผู้หญิงทั้งกลุ่มนั่นกลับจ้องมองไปยังพชรกับผู้หญิงที่อีกฝ่ายกำลังคั่วอยู่ด้วยสายตาไม่พอใจและกรุ่นโกรธ

“โอ้โห...พี่ไม่รู้อะไรเสียแล้ว ลองถ้าไอ้โอมมันได้ใช้ห้องนะ รอไปเหอะสองสามชั่วโมงโน่นแหละกว่าห้องจะว่าง ถุงยางกล่องนึงมีสามอัน มันก็ใช้ทั้งสามอันนั่นแหละ”

ภีมพลพูดถึงเพื่อนด้วยท่าทางติดขำ แต่ดูเหมือนสารวัตรหนุ่มจะมัวแต่จดจ่ออยู่กับหญิงสาวกลุ่มเดิมจนเขาอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

“สนใจหรือครับพี่ ถ้าสนใจผมจะได้ใช้ให้คุณแมทลองไปเลียบ ๆ เคียง ๆ ดูให้”

จุมพลหันมองหน้าน้องชายแล้วก็นึกอยากเตะปากสักที เป็นพี่น้องกันมาตั้งนานแต่กลับไม่รู้นิสัยเขาเลย

“เออ! สนใจ แต่ไม่ได้สนจะลากพวกนั้นขึ้นเตียงสักหน่อย แกก็รู้นี่หว่าว่าพี่ไม่ชอบผู้หญิงกลางคืน”

“อ้าว...ผมจะไปรู้ได้ยังไง ก็เห็นพี่เล่นมองไม่วางตาอย่างนั้น นึกว่าอยากจะลองเปลี่ยนมากินผีเสื้อราตรีดูบ้าง”

“หึ...ที่มองก็เพราะเห็นว่าทั้งโต๊ะนั้นน่ะ หันไปมองแต่ไอ้โอมมันอย่างเดียวเลย แล้วแกดูสายตาผู้หญิงพวกนั้นสิ แกรู้จักบ้างไหมว่าสาว ๆ พวกนั้นเขาเป็นใคร ใช่กลุ่มของเพื่อนคนตายรึเปล่า”

ภีมพลมองตามมือของสารวัตรหนุ่มที่ชี้ลงไปยังโต๊ะด้านล่าง เขาเห็นหญิงสาวสามคนในชุดรัดติ้วจนบีบอัดหน้าอกหน้าใจให้ล้นทะลัก ทั้งยังสั้นเต่อเสียจนเกรงว่าถ้าเขาไปนั่งอยู่โต๊ะตรงกันข้ามกับพวกหล่อน มีหวังได้เห็นทะลุทะลวงไปถึงไหนต่อไหน

“เอ...ไม่ใช่ครับพี่ คนละกลุ่มกันนะ แต่พวกนี้เขามากันบ่อย เป็นลูกค้าขาประจำของที่นี่เหมือนกัน เดี๋ยวผมลงไปทำความรู้จักหน่อยดีกว่า”

ชายหนุ่มผละออกจากหน้ากระจกที่ใช้ดูเบื้องล่าง ก่อนจะเปิดประตูออกไปจากห้องด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม ทิ้งให้สารวัตรหนุ่มต้องอยู่ในห้องเพียงลำพังเฝ้ามองดูทุกอย่างด้วยสายตาเฉียบคมไปอย่างเงียบ ๆ คนเดียว

ท่าทางราวกับจะขึ้นไปนั่งบนตักกันอยู่รอมร่อของพชรกับหญิงสาวไฮโซท่าทางสวยเฉี่ยว ไม่ใช่มีแต่โต๊ะของกลุ่มหญิงสาวที่จุมพลจับตาดูเท่านั้นที่มองไปไม่วางตา ยังมีกลุ่มของแนนนี่ คู่ขาชั่วคราวที่มองไปก็ทำท่ากระฟัดกระเฟียดไป เนื่องจากวันนี้เจ้าหล่อนหมายมั่นปั้นมือเต็มที่ว่าจะเสิร์ฟของหวานสุดเร่าร้อนให้เขาถึงห้องทำงาน

“ฉันว่าวันนี้แกแห้วแล้วล่ะ ยายแนนนี่อดกิน คิก ๆ”

เพื่อนสาวในโต๊ะหันไปหัวเราะคิกคักกันเอง แอบสะใจเล็กน้อยที่เห็นคนมั่นใจในตัวเองสูงตกจากสวรรค์เสียงดังตุ๊บ

“คุณโอมไม่ว่าง คุณภีมก็ยังว่างย่ะ อีกเดี๋ยวคุณแมทก็ต้องมาเรียกฉันให้ขึ้นไปหาคุณภีมแน่นอน” แนนนี่ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ...ไม่เห็นจะเป็นไร อีกคนไม่ได้ แต่อีกคนก็ยังอยู่ สำหรับสองหนุ่มนี้ คนไหนก็ได้ทั้งนั้น

“ฉันว่าแกเปลี่ยนเป้าหมายเถอะแนนนี่ โน่น...ดูอะไรโน่น”

Related chapters

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 6 พรานล่าผีเสื้อ - 75%

    เพื่อนสาวอีกคนชี้ไปยังโต๊ะของหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่ภีมพลเดินเข้าไปทักทายแล้วดูท่าว่าจะปักหลักอยู่ที่โต๊ะนั้นไม่ยอมไปไหน ทำเอาแนนนี่หน้าร้อนวูบด้วยความอับอายที่ถูกเพื่อนสาวทำท่าทางหัวเราะใส่ราวกับเยาะเย้ยตนไม่ใช่แค่สาว ๆ สองกลุ่มนี้เท่านั้นที่จับจ้องไปยังพชรกับสาวสวยไฮโซ แต่ร่างระหงที่กำลังพลิ้วไหวอยู่บนเวทีก็แอบชำเลืองมองไปยังสองร่างที่พะเน้าพะนอคลอเคลียกันด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกขอให้เป็นผู้หญิงสวย เขาก็สามารถสานสัมพันธ์กับพวกหล่อนได้ทุกคนเลยใช่ไหม เจ้านายของเธอช่างเป็นผู้ชายอันตรายของแท้เลยจริง ๆช่อมาลีไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าดวงตาคมปลาบของคนที่ตนเพิ่งปรามาสไปว่าเป็นผู้ชายอันตรายนั้น ตอนนี้เอาแต่จับจ้องอยู่แต่เรือนร่างเย้ายวนที่เคลื่อนไหวอยู่บนเวทีแทบไม่วางตา ถึงแม้ในอ้อมกอดของเขาจะมีสาวสวยอยู่แนบอก แต่เขาก็ไม่อาจละสายตาไปจากความงดงามที่เริงร่าอยู่บนเวทีได้ ม็อทสามารถสะกดคนดูได้อยู่หมัด ยิ่งพวกหนุ่ม ๆ ที่เขาลอบสังเกตปฏิกิริยาโดยรอบนั้นต่างจับจ้องกันตาแทบถลนไม่ต่างจากเขา นับว่าภีมพลคิดถูกจริง ๆ ที่ได้วงนี้มาเล่นให้คลับซุส“โอมคะ...อินเวียนหัวจังเล

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 6 พรานล่าผีเสื้อ - 100%

    หญิงสาวส่ายหน้ากับตนเองเล็กน้อย พยายามทำความเข้าใจว่าผู้ชายก็เป็นเสียอย่างนี้ ยิ่งทำงานกลางคืนด้วยแล้วยิ่งหลีกเลี่ยงเรื่องอย่างว่าไม่พ้น ดูอย่างเพื่อนในวงของเธอนั่นอย่างไร ไม่ว่าจะไปเล่นที่ไหนก็มีแต่หญิงสาวล้อมหน้าล้อมหลังโดยเฉพาะคริส พ่อหนุ่มลูกครึ่งเนื้อหอมที่มีแต่สาว ๆ รุมล้อมเมื่อลงจากเวทีเพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจ ถ้าเจ้านายอย่างพชรจะแจกจ่ายน้ำใจให้กับสาวสวยทุกคนที่เข้าหา ในเมื่อเขาทั้งหล่อทั้งรวย บุคลิกก็ดูโดดเด่นจนเธอยังอดชื่นชมไม่ได้ เมื่อตอนที่อยู่ในสถานะของเลขานุการแล้วเดินตามเขาต้อย ๆ เธอรู้ได้ตั้งแต่วันที่สองของการทำงานแล้วว่าเขาฮอตมากแค่ไหน เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางใดก็มีสายตาของสาว ๆ ชม้ายชายตามาให้จนเรี่ยราดไปหมดช่อมาลีล้วงหยิบเอาเศษกระดาษหลายใบที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงหนังขนาดพอดีตัวออกมาแล้วคลี่กางออกจนเต็มกำมือ มีทั้งนามบัตร ทั้งเบอร์โทรศัพท์ ทั้งชื่อไอดีโปรแกรมสนทนาต่าง ๆ ถูกเขียนใส่กระดาษแล้วยัดฝากเด็กเสิร์ฟเอามาส่งให้ หญิงสาวมองมันด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนจะขยำกระดาษเหล่านั้นเป็นก้อนกลม แล้วโยนทิ้งถังขยะที่อยู่หน้าประตูไม่ว่าที่ไหน ผู้ชายก็เ

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 7 เหยื่อรายที่สอง...สำส่อน - 25%

    “กรี๊ดด!” ช่อมาลีกรีดร้องสุดเสียงด้วยความตระหนก หญิงสาวเผลอก้มหน้าลงซุกกับต้นแขนของพชรอย่างลืมตัวพลางหลับตาแน่น ไม่กล้าลืมตาขึ้นมอง ร่างสั่นเทิ้มราวกับคนจับไข้ในขณะที่ชายหนุ่มถึงกับยืนอึ้งตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า สาบานได้ว่าไม่เคยพบเจออะไรที่น่าสยดสยองเช่นนี้มาก่อน แม้จะมองไม่ค่อยชัดนักเพราะเงารถบดบังอยู่ แต่ร่างโชกเลือดและผมยาว ๆ ที่ปิดหน้าปิดตา มีเพียงดวงตาเบิกโพลงค้างเติ่งที่เล็ดลอดออกมาระหว่างเส้นผม เพียงเท่านั้น เขาก็รู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าร่างตรงหน้าไร้ลมหายใจแล้ว“เกิดอะไรขึ้น!”สารวัตรจุมพลวิ่งเข้ามาพร้อมกับภีมพลตรงที่พชรกับช่อมาลียืนอยู่ ภีมพลมองตามสายตาของเพื่อนแล้วเห็นศพตรงหน้าก็เบิกตาค้างด้วยความตกตะลึงทันทีเช่นกันพชรหลับตาลงพร้อมกับเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากให้ภาพติดตา แขนข้างหนึ่งยกขึ้นโอบหญิงสาวไว้หลวม ๆ ราวกับปลุกปลอบและปกป้องอยู่ในที เขาหันไปมองผู้จัดการแมทที่กำลังช็อกนั่งนิ่งทำตาโตปากคอสั่นอยู่กับพื้น คงให้คำตอบอะไรตอนนี้ไม่ได้แน่นอน จึงตัดสินใจตอบสารวัตรหนุ่มด้วยเสียงแผ่วสั่น“ผมก็ไม่รู

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 7 เหยื่อรายที่สอง...สำส่อน - 50%

    “เอาล่ะครับ ผมขอเวลาพวกคุณครู่เดียวเท่านั้น ก่อนอื่นเนี่ย...ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเจอศพเป็นคนแรก” ตาคมกริบของสารวัตรตวัดมองไปที่พชร ช่อมาลี และผู้จัดการหนุ่มที่ยืนทำหน้าตาตื่นเมื่อเจอกับคำถาม“ผะ...ผมครับ ผมเจอคนแรก เพราะรถของผมจอดอยู่ใกล้กับ...เอ่อ...กับเธอครับ” แมทหลบตาสารวัตรราวกับไม่ต้องการให้ถามอะไรต่อไปอีก แต่จากประสบการณ์การทำงานสอบสวน จุมพลรู้ได้ในทันทีว่าผู้ชายคนนี้จงใจปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ จึงรุกถามต่อโดยไม่เปิดโอกาสให้คนถูกถามได้พักหายใจ“คุณมีอะไรจะบอกผมรึเปล่าคุณแมท”แมทสะดุ้งเฮือก เหลือบตาขึ้นมองหน้าสารวัตรหนุ่มแล้วก้มหน้ามองพื้นอีกครั้ง ริมฝีปากสีแดงสดเม้มเข้าหากันแน่น สุดท้ายก็ตัดสินใจพูด“เมื่อช่วงประมาณห้าทุ่มกว่า ๆ หลังจากที่ผมเอาเบียร์ขึ้นไปให้สารวัตร ตอนลงมาผมเจอกับแนนนี่พอดีครับ เธอบอกว่าจะขึ้นไปหาคุณโอมบนห้อง แต่ผมบอกเธอไปว่าคุณโอมไม่ได้สั่งเอาไว้ว่าให้เธอขึ้นไปหา อีกอย่างคือ...เพราะผมเห็นว่าคุณโอมพาผู้หญิงขึ้นไปพอดีเลยไม่อยากให้มีปัญหาน่ะครับ”ผู้จัดการหนุ่มพูดพลางเหลือบตามองเจ้านายที่ยืนทำหน้าอิหลักอิเหลื่อเอามือล้วงกระเป๋ากา

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 7 เหยื่อรายที่สอง...สำส่อน - 75%

    อดเสียใจไม่ได้ ถ้าหากเธอไม่รู้ไม่เห็นรอยบ้า ๆ นั่นยังจะดีเสียกว่า แม้ว่าเจ้าตัวพยายามจะปกปิดด้วยเสื้อแขนยาวแล้วก็ตาม แต่สายตาเจ้ากรรมของเธอก็ยังอุตส่าห์ไปเห็นเข้าจนได้ให้ตายเถอะ! เธอไม่เชื่อเด็ดขาดว่าคริสจะเป็นฆาตกร!เมื่อกลับมาถึงบ้าน ดีเจมิวก็เข้าห้องปิดประตูเงียบ หญิงสาวล้มตัวลงนอนบนเตียงครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า“ผมเตือนคุณแล้วนะว่าอย่ายุ่งเรื่องนี้” ร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งตรงเข้ามากักตัวเธอไว้จนติดกับกำแพง พลางก้มหน้าลงมากระซิบลอดไรฟันจนแทบชิดใบหูของเธอ“แล้วนายมายุ่งอะไรด้วย ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน”มิวพยายามหลบหลีกใบหน้าคมสันที่ก้มลงมาจนแทบชิด กระซิบตอบเขากลับไปอย่างหัวเสีย โกรธที่เขาเข้ามายุ่งเรื่องของเธอ ทั้งยังขู่เข็ญสารพัดให้เธอเลิกช่วยเหลือดีเจอาร์ม“อยากติดคุกหรือไง คราวก่อนผมอุตส่าห์พูดบอกคุณดี ๆ แล้วนะเพราะเห็นว่ากำลังถูกไอ้อาร์มมันหลอกใช้ นึกว่าจะสำนึกกลับตัวได้ทัน แล้วทำไมยังเห็นมาช่วยมันเก็บขอ

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 7 เหยื่อรายที่สอง...สำส่อน - 100%

    จุมพลเหลือบตามองตัวเลขตรงที่เป็นวันที่และเวลาที่มุมล่างขวาทันทีเพื่อความแน่ใจ หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็เอาแต่จ้องภาพทางหน้าจอทั้งสี่ช่องโดยไม่มีการพูดอะไรกันอีกเลย“กรอเร็วขึ้นอีกนิดได้ไหม” สารวัตรหนุ่มพูดขึ้นเมื่อมองดูแล้วทุกอย่างแทบไม่มีอะไรสะดุดสายตา แต่แล้วพอเขามองไปที่จอภาพจอหนึ่งเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้“เฮ้ย! เดี๋ยว! หยุดภาพตรงนี้ก่อนแล้วซูมเข้าไปใกล้ ๆ”เดชทำตามคำสั่งทันทีเมื่อเห็นตำรวจคนที่เจ้านายพามาชี้ไปยังจอภาพขวาบนซึ่งเป็นภาพที่มาจากกล้องตรงประตูที่ออกมาจากครัวที่หน้าจอบอกเวลาเที่ยงคืนหกนาที จากกล้องทางฝั่งห้องครัวปรากฏภาพของหญิงสาวคนหนึ่งเดินสูบบุหรี่ออกมาทางประตูด้านหลัง หล่อนยืนอยู่ไม่นานนักก็เดินตรงมาทางครัวแล้วก็ผลุบหายไปจากหน้าจอ ไม่ถึงห้าวินาทีถัดมาหญิงสาวก็เดินกลับออกมาขยี้ก้นบุหรี่ที่ถังขยะ แล้วก็เดินหายออกจากจอไปทางแท็งก์น้ำ“กล้องตรงนี้เห็นได้มากที่สุดก็คือแค่ตรงเก้าอี้พักสูบบุหรี่นี่น่ะหรือ ตรงแท็งก์น้ำมองไม่เห็นใช่ไหม” จุมพลถามพลางมองจ้องเข้าไปที่จอภาพ ซึ่งในภาพเห็นตรงส่วนของแท็งก์น้ำก็แค่ฐานของมันที่เลยจากพื้นดินมาประมาณ

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 8 คำให้การของเหล่าผีเสื้อ - 20%

    วันต่อมา ภีมพลสั่งให้ผู้จัดการคลับไปจัดหาบริษัทที่รับติดตั้งกล้องวงจรปิด และต้องทำให้เสร็จภายในวันนั้นทันทีพชรยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา สิบโมงแล้วทว่าเขากลับไม่รู้สึกง่วงงุนเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่ไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนเพราะมัวแต่จัดการเรื่องยุ่ง ๆ ทั้งหลายกับภีมพล และเจ้าหน้าที่ตำรวจจนถึงเช้า เขารู้สึกว่าหนังตาเริ่มหนัก นัยน์ตาเริ่มแห้งผากจนต้องกะพริบตาบ่อย ๆ เพราะคงอยากพักผ่อนเต็มที แต่สมองกลับตื่นตัวเต็มที่อยู่ตลอดเวลาเขาเอนตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาวเอาศีรษะพิงกับพนักไว้ แล้วปิดเปลือกตาลงเพื่อพักสายตาชั่วครู่ ในใจครุ่นคิดสงสัยอยู่เพียงลำพังว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมสองคนนั้นถึงถูกฆ่าตาย และทำไมต้องเป็นที่นี่ จะมีอะไรเกี่ยวกับเขารึเปล่า เพราะผู้หญิงทั้งสองคนนั้นล้วนเป็นคนที่เขาเคยนอนด้วยทั้งสิ้น หรือมันจะเกี่ยวกับภีมพลกันแน่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว พชรยกมือขึ้นคลึงขมับของตนเองเบา ๆ พลันนั้นคำพูดของใครบางคนก็ผุดขึ้นมาในห้วงความคิด‘โกโก้เย็น ๆ สักแก้วไหมคะท่านประธาน เวลาเครียดหรือปวดหัวเนี่ย เขาว่าดื่มโกโก้ หรือกินช็อกโกแลตสักแท่

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 8 คำให้การของเหล่าผีเสื้อ - 40%

    เขาเคยไปดูน้องชายแสดงสดตามผับอยู่หลายครั้ง ครั้งแรกที่เห็นนักร้องนำสาวของวง เขาก็ติดใจเธอขึ้นมาทันที พยายามถามกับน้องชายหลายครั้ง เพราะอยากได้เจ้าหล่อนมานอนแนบเนื้อสักคืนสองคืน ทว่าน้องชายตัวดีกลับมาขู่เขาไม่ให้ไปยุ่งกับเพื่อนสาวของตนเอง เขาจึงถูกกีดกันให้ห่างจากเธอตั้งแต่นั้นมาเพราะฝีมือของน้องชาย“ใครว่ายังไม่ตื่น! ขึ้นมาบนห้องเราเลยม็อท” เสียงดังมาจากด้านบนทำให้คนทั้งสองเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกันจิลยืนเกาะราวระเบียงอยู่ด้านบน หัวหูดูยุ่งเหยิงเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน แต่แววตาคมกริบมองพี่ชายอย่างปราม ๆ อยู่ในทีจารุวรรธปล่อยมือจากช่อมาลี ทำให้หญิงสาวได้โอกาสรีบวิ่งเข้าไปในตัวบ้าน ส่วนสองหนุ่มที่ยืนจ้องตากันอยู่ด้านนอกนั้นได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมาแข่งกัน แต่ต่างกันที่ความรู้สึก“ผมบอกพี่หลายครั้งแล้วนะว่าอย่ามายุ่งกับเพื่อนผม”พูดจบร่างสูงโปร่งของคนที่อยู่ข้างบนก็ผลุบหายเข้าไปในห้อง ทิ้งให้ผู้เป็นพี่ชายได้แต่ฮึดฮัดอยู่คนเดียวข้างล่างที่พลาดโอกาสงามไปอีกจนได้ช่อมาลีวิ่งหน้าตั้งขึ้นบันไดหินอ่อนตรงดิ่งไปยังห้องของเพื่อนชาย มือหมุนลูกบิดประตูเปิดพรวดเข้า

Latest chapter

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 22 ไม่ผ่านโปร - 35%

    “ผมไล่คุณออก ผมไม่ให้คุณผ่านโปร คุณช่อมาลี!” พชรยืนจ้องคนที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยสายตากรุ่นโกรธ ช่อมาลีพยายามยันกายลุกขึ้นนั่ง แต่แล้วก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดจากแผลที่ถูกแทงบริเวณชายโครงส่วนคนที่ยืนทำหน้าโกรธพอเห็นหญิงสาวหน้าเบ้เพราะเจ็บแผลก็หลุดมาดเข้ม รีบปราดเข้าไปประคองทันที“จะลุกขึ้นมาทำไม เดี๋ยวแผลก็ฉีกหรอก ทำไมชอบหาเรื่องใส่ตัวอย่างนี้นะ” ชายหนุ่มประคองร่างคนป่วยจนนั่งได้ จากนั้นก็กุลีกุจอเอาหมอนมาซ้อนไว้ที่หลังของหญิงสาว แล้วกดปุ่มปรับระดับหัวเตียงให้ยกขึ้น“ดิฉันขอทราบเหตุผลที่ท่านประธานจะไล่ดิฉันออกด้วยค่ะ”ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำเอ่อคลอ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนี้ เธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจอย่างนั้นหรือ ทั้งที่เธอก็พยายามทำงานให้เขาชนิดที่เรียกได้ว่าไม่มีขาดตกบกพร่องแท้ ๆ แล้วที่ผ่านมาทั้งหมดมันคืออะไร ที่เขาดีกับเธอเพราะเห็นเป็นแค่ลูกน้องอย่างนั้นหรือช่อมาลีมัวแต่คิดน้อยใจคนตรงหน้า จนลืมนึกไปว่าที่ตนต้องมานอนรักษาตัวอยู่ที่นี่ก็เพราะเอาตนเองเป็นเหยื่อล่อฆาตกรในต

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 21 เอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ - 100%

    “วันนี้คุณต้องตื่นนะคนสวย ถ้าคุณไม่ตื่นผมก็จะนั่งเฝ้าคุณอยู่อย่างนี้จนกว่าคุณจะตื่นนั่นแหละ”พชรพูดกับคนที่นอนไม่ได้สติอยู่ตรงหน้า จากนั้นก็ลากเก้าอี้ที่วางชิดกำแพงอีกด้านมานั่งอยู่ข้างเตียง เขาถือวิสาสะเลิกเสื้อของหญิงสาวขึ้นเล็กน้อยพอให้มองเห็นบริเวณที่เป็นแผล สายตาทอประกายเจ็บปวดเมื่อเห็นรอยเลือดที่ซึมออกมาจากผ้าพชรคว้ามือของช่อมาลีขึ้นมาแตะริมฝีปากของตนเองลงไปเบา ๆ จากนั้นก็ประสานนิ้วมือของเขากับเธอเข้าไว้ด้วยกัน มีเพียงแรงกระเพื่อมจากอกเท่านั้นที่บอกเขาว่าเธอยังมีลมหายใจอยู่ชายหนุ่มเอาแต่นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นแทบไม่ขยับ จนกระทั่งร่างกายเริ่มฝืนความอ่อนล้าต่อไปไม่ไหว สุดท้ายใบหน้าเขาก็เอนซบลงไปบนเตียงของหญิงสาวแรงสะกิดที่ไหล่จากเบา ๆ ก็เริ่มจะหนักขึ้นมาเรื่อย ๆ จนพชรต้องสะดุ้งตื่น เขาไม่รู้ว่าตนหลับไปนานแค่ไหน รู้แต่ว่าสายตาที่มองมาอย่างไม่เป็นมิตรของผู้กองชินกฤตกำลังพุ่งตรงมาที่เขาอย่างจงใจ ข้างกันกับนายตำรวจหนุ่มคือช่อฟ้า มารดาของช่อมาลีที่มองมาทางเขาอย่างเคลือบแคลงสงสัยเช่นกัน จนกระทั่งพชรก้มมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือของตนเอง ถึงเพิ่งรู

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 21 เอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ - 70%

    “ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วนะครับ โชคดีที่พามาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา แต่เนื่องจากว่าคนไข้เสียเลือดไปมาก ทางโรงพยาบาลก็เพิ่งให้เลือดไป ตอนนี้คงต้องให้พักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูไปก่อนเพราะต้องคอยดูอาการเป็นระยะ ๆ และยังไม่อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมนะครับ”แพทย์ผู้ทำการรักษากล่าวจบก็เดินจากไป คนที่ได้ฟังต่างก็รู้สึกโล่งใจไปตาม ๆ กันโดยเฉพาะเขตไทที่พอฟังจบก็เดินเข้ามาหาพชรแล้วยกมือไหว้อย่างขอบคุณ“พี่ครับ ผมต้องขอบคุณพี่มากที่ตอนนั้นพี่รีบพาพี่มาลีขึ้นรถมาโรงพยาบาล เพราะผมก็มัวแต่...” เขตไทพูดได้เพียงแค่นั้นก็ต้องเงียบเสียงลงไปเพราะก้อนสะอื้นเริ่มขึ้นมาจุกที่คอ ตอนนั้นเขามัวแต่เล่นงานคนที่แทงพี่สาวจนลืมนึกไปว่าต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล กลับกลายเป็นพชรที่มาถึงก็รีบช้อนตัวพี่สาวเขาอุ้มขึ้นรถมาทันที“ไม่เป็นไรหรอกคนกันเอง ขอแค่ให้ช่อมาลีเขาปลอดภัยก็พอแล้ว”พชรหันไปยิ้มให้พร้อมกับตบบ่าเด็กหนุ่มเบา ๆ ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก ก้อนหินหนัก ๆ ที่ถ่วงใจเขาก่อนหน้านี้ละลายหายไปหมดแล้ว“ขอบคุณมากครับคุณ...” ผู้กองชินกฤตเอ่ยขอบคุณพชร พลางยื่นมือออกมา พชรจึงยื่นมื

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 21 เอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ - 35%

    ทันทีที่ส่งตัวช่อมาลีถึงมือแพทย์ พชรก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินอย่างหมดเรี่ยวแรง ในใจได้แต่ปลอบตนเองซ้ำไปซ้ำมาว่าถึงมือหมอแล้วเธอต้องปลอดภัย ทั้งที่ลึก ๆ แล้วเขาเองก็ไม่ค่อยมั่นใจนักชายหนุ่มเหลือบมองคนที่เดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องที่ช่อมาลีกำลังเข้ารับการรักษา เห็นเลือดที่ไหลออกมาจากแขนขวาแล้วหยดลงพื้นแต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจมันเท่าไร พชรจึงเดินไปจับไหล่อีกข้างแล้วบีบเบา ๆ“ชื่อเขตใช่ไหมเรา พี่ว่าไปทำแผลก่อนดีกว่าไหม เลือดไหลใหญ่แล้วนะ” พชรมองเสี้ยวหน้าของเด็กหนุ่มที่มีส่วนละม้ายกับพี่สาวอยู่มากอย่างเป็นห่วง ก่อนหน้านี้เขารู้มาจากช่อมาลีว่ายังตามตัวของเขตไทไม่พบ แต่อยู่ดี ๆ เจ้าตัวก็กลับโผล่มาเสียเอง ใจนึกอยากจะถามให้รู้เรื่องรู้ราวแต่ติดที่ว่าตัวเขายังเป็นคนนอกสำหรับครอบครัวนี้อยู่ จึงไม่สมควรไปก้าวก่าย“แต่ผมเป็นห่วงพี่มาลี พี่ผมจะเป็นอะไรไหม ถ้าผมไปทำแผลแล้วเกิดหมอเขาต้องการเลือดด่วนล่ะ” เขตไทบอกกับพชรด้วยสีหน้ากังวลเพราะเป็นห่วงพี่สาวจนลืมอาการปวดที่บาดแผลของตนเองไปเสียสิ้น“ถึงมือหมอแล้วยังไงพี่สาวนายก็ต้องปลอดภัยแน่นอน ไม่ต้

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 20 บุคคลน่าสงสัย - 100%

    “จะเป็นสายจากโรงพักรึเปล่านะ” หญิงสาวได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ รู้สึกใจกระตุกแปลก ๆ กับสายที่โทร. เข้ามาเมื่อครู่ แล้วก็ให้เสียดายที่ไม่ได้กดรับ สัญชาตญาณบางอย่างบอกว่าสายเมื่อครู่น่าจะเป็นเขตไท น้องชายของเธอที่โทร. เข้ามา หรืออาจเป็นสายจากตำรวจที่ทำคดีของน้องชายเธออยู่หญิงสาวเดินออกจากห้องน้ำ กะเอาไว้ว่าจะไปเอนหลังนอนบนเก้าอี้ยาวในห้องล็อกเกอร์สักหน่อย ก็พอดีกับที่มีเสียงเรียกมาจากด้านหลังพอดีจึงหันไปตามเสียงเรียก“ม็อท คุณโอมให้ไปหาที่รถแน่ะ เห็นบอกว่าอยากไปกินบะหมี่อะไรเนี่ยแหละ เขารออยู่”“อ้าวงั้นหรือ ขอบคุณนะคะ” คราวแรกช่อมาลีนึกระแวงไม่น้อย แต่พออีกฝ่ายพูดถึงบะหมี่ที่เคยพาพชรไปกินด้วยกันแล้วจึงคิดว่าชายหนุ่มน่าจะเรียกหาอยู่จริง ๆ เพราะเรื่องนี้มีเพียงเธอกับเขาเท่านั้นที่รู้หญิงสาวรีบเดินออกไปทางประตูด้านหลังที่จะออกไปสู่ลานจอดรถสำหรับพนักงาน สายตาระแวดระวังสอดส่ายไปทั่วบริเวณ พอไม่เห็นว่ามีใครเดินตามมาจึงค่อยโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง จากนั้นจึงรีบก้าวเร็ว ๆ เพื่อไปให้ถึงรถยุโรปคันหรูที่จำได้ติดตา แสงไฟสปอร์ตไลต์ที่ส่องสว่างในบริเวณลานจอดรถนั้นช่ว

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 20 บุคคลน่าสงสัย - 70%

    เสียงสั่นพร่าไปด้วยแรงอารมณ์ของชายหนุ่มขณะกำลังพูดชิดริมฝีปากอิ่ม เขาเอาหน้าผากแนบกับเธอแล้วระดมจูบย้ำ ๆ ที่เรียวปากนุ่มหอมชวนให้เคลิบเคลิ้ม ทว่าหญิงสาวที่เหมือนกำลังอยู่ในห้วงฝันดูเหมือนจะไม่รับรู้ถ้อยคำจากเขาเท่าไร นัยน์ตาหวานฉ่ำหยาดเยิ้มดูล่องลอยกำลังปลุกแรงปรารถนาในกายเขาขึ้นอีกครั้ง“อย่าทำหน้าอย่างนี้ถ้าไม่อยากถูกผมลักพาตัวขึ้นไปข้างบน”เขาพูดไปในขณะที่ปากก็พร่ำจุมพิตไปทั่วหน้า หญิงสาวมองเขาที่เคลื่อนไหววนเวียนอยู่แถว ๆ ใบหน้าและซอกคอไม่ยอมหยุดจนต้องยกมือขึ้นจับหน้าเขาไว้“คุณโอมก็หยุดสิคะ อย่าแกล้งม็อท เดี๋ยวม็อทต้องขึ้นแสดงแล้ว”ให้ตายเถอะ เสียงของเธอหายไปไหนหมดนี่ เมื่อครู่สาบานได้ว่าเธอพยายามที่จะพูดออกไปด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ทำไมมันถึงได้สั่นพร่าจนฟังเหมือนกระซิบมากกว่าอย่างนี้เล่า“คนที่โดนแกล้งคือผมมากกว่า คุณกำลังจะทำให้ผมเป็นบ้าเพราะต้องการคุณ รู้บ้างรึเปล่า” เขากดสะโพกเธอให้เข้ามาบดเบียดแก่นกายร้อนผ่าวอีกครั้งราวกับต้องการยืนยันสิ่งที่ตนเองพูด“เดี๋ยวม็อทต้องไปแล้วค่ะคุณโอม” เธอดันอกกว้างของเขาให้ถอยห่างอย่างมีชั้นเชิง ปลายนิ้ว

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 20 บุคคลน่าสงสัย - 35%

    ช่อมาลีนั่งมองเพื่อนชายที่ยืนกอดอกจ้องไปทางบูธดีเจตาแทบไม่กะพริบด้วยความสงสัย ครั้นพอหันมองตามสายตาของคริสไป หญิงสาวก็ยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่ จึงหันไปหาเพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน“ไอ้จิล เราตกข่าวอะไรไปรึเปล่าวะ” เวลาอยู่กับเพื่อน เธอมักจะพูดจาแบบนี้เสมอด้วยความเคยชิน เพราะเป็นเรื่องปกติระหว่างพวกเธออยู่แล้วตั้งแต่สมัยเรียนด้วยกันมา“อืม...คริสมันกำลังตกอยู่ในห้วงรัก” จิลตอบเพื่อนยิ้ม ๆ พลางพยักพเยิดไปทางหญิงสาวที่ยืนอยู่ในบูธดีเจช่อมาลีทำตาโตราวกับเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เพราะปกติเห็นคริสควงแต่สาวเซ็กซี่ร้อนแรง แล้วนึกอย่างไรถึงได้มาลงเอยกับสาวใส ๆ แบบมิวได้“วู้...ไม่น่าเชื่อ” หญิงสาวได้แต่อุทานเบา ๆ ไม่ใช่ว่าดีเจมิวไม่สวย จากที่เห็นด้วยตา มิวจัดว่าหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาเพราะเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มแบบที่ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบ นัยน์ตากลมโต จมูกเล็ก ๆ แก้มป่อง ปากอิ่มสีสดจนเธอนึกอิจฉา รูปร่างก็กะทัดรัดดูน่าทะนุถนอม แต่ที่เธอแปลกใจก็เพราะไม่คิดว่าคริสจะมาแพ้ทางสาวสไตล์นี้เข้าจนได้“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะ แ

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 19 อย่ามาเข้าใกล้ผม - 100%

    ขาไปกลับระหว่างที่นี่กับที่คลับเขาก็ไม่ต้องห่วง เพราะเพื่อนในวงของเธอมารับส่งถึงที่อยู่แล้ว เขารู้ดี“ขอบคุณมากค่ะที่มาส่ง”ช่อมาลียกมือไหว้ขอบคุณเขาแต่กลับไม่กล้าสบตาด้วย เมื่อครู่ตอนที่นั่งอยู่ในรถ เขาก็ดึงมือเธอไปกุมเอาไว้ตลอดเวลา จะชักออกก็ไม่กล้าเพราะกลัวเขาโกรธ“อืม...ขึ้นห้องเถอะ เดี๋ยวผมกลับแล้ว” ชายหนุ่มยืนเอาหลังพิงตัวรถ มือสอดเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงทั้งสองอย่าง เพราะกลัวมันจะยืดยาวไปคว้าร่างของเธอมากอดไว้ช่อมาลีหมุนตัวเดินเข้าไปแตะคีย์การ์ดหน้าประตูเพื่อเข้าไปด้านใน อะพาร์ตเมนต์ หญิงสาวหันกลับมามองเขาอีกครั้งก็ยังเห็นเขายืนพิงรถมองอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนไปไหน จนกระทั่งลิฟต์มาแล้วจึงก้าวเข้าไปข้างใน ชายหนุ่มจึงขึ้นรถของตนเองแล้วขับออกไปทันทีเมื่อมาถึงห้อง ช่อมาลีคว้าตุ๊กตาตัวใหญ่ที่วางอยู่บนโซฟามากอดแน่น รอยยิ้มระบายเต็มวงหน้าทั้งปากทั้งตาอย่างเก็บอาการไว้ไม่อยู่ เพราะเขาน่ารักอย่างนี้ไงเล่า เธอถึงได้หักห้ามใจไม่ให้คิดเกินเลยกับเขาไม่ได้สักที แม้ไม่รู้ว่าการกระทำที่เขาแสดงออกมาทั้งหมดนี้จะเป็นเพราะเอ็นดูเธอในฐานะลูกน้อง หรืออะไรก็ตาม เ

  • เสน่หาผีเสื้อราตรี   บทที่ 19 อย่ามาเข้าใกล้ผม - 70%

    “หิวสิถึงได้รีบกลับมานี่ไง นึกว่าคุณยังไม่กินเสียอีกจะได้กินด้วยกัน” พูดพลางเอื้อมมือไปถือจานกับถุงอาหารเสียเอง แต่ไม่ยอมถือแก้วโกโก้เย็นที่เขาสั่งไว้ก่อนหน้า จากนั้นก็เดินนำเข้าไปในห้องทำงานเพื่อให้เลขาฯ สาวเดินตามเข้าไปแต่โดยดี“ดิฉันนึกว่าท่านประธานจะกินมาจากข้างนอกเสียอีก” ช่อมาลีเดินเข้าไปวางแก้วโกโก้บนโต๊ะตรงหน้าเขา“ไม่ล่ะ อยากกินข้าวกับคุณมากกว่า งานยุ่งไหมวันนี้” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยแต่แฝงความนัยในถ้อยประโยค ทำเอาคนฟังรู้สึกอุ่นซ่านในหัวใจ หญิงสาวจับกรอบแว่นตาให้เข้าที่ตอนที่ก้มหน้าลงเล็กน้อยเพราะไม่กล้าสบตาเขา ก่อนจะตอบคำถามไปแบบอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียง“ก็...ไม่เท่าไรค่ะ ทำไปเรื่อย ๆ”“งั้นก็ดีเลย มานั่งเป็นเพื่อนผมกินข้าวหน่อยสิ” พชรพูดพลางเลื่อนกองเอกสารตรงหน้าหญิงสาวย้ายเอาไปไว้อีกมุมโต๊ะเพื่ออำนวยความสะดวกเต็มที่ ช่อมาลีไม่อยากนั่งเพราะไม่อยากให้ตนเองหวั่นไหวไปมากกว่านี้ แต่ก็ไม่กล้าขัดจึงหย่อนตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามเขาแต่โดยดีหญิงสาวตวัดตามองเขาแล้วรีบหลุบตาลงต่ำ เพราะกลัวเขารู้ว่าเธอแอบมอง ในขณะที่คนถูกแอบมองกลับเงยหน้าขึ้น

DMCA.com Protection Status