เข้าใจผิด!ความเข้าใจผิดงั้นเหรอ!หลีเกอหรี่ตาลงอย่างอันตราย ยังคงจำสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอต้องอับอายได้ เรียกว่าความเข้าใจผิดเล็กน้อยไม่ได้ด้วยซ้ำ “ไม่เลย ฉันเป็นของฉันแบบนี้”เธอเก่งทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องเดียว เธอชอบเก็บงำความขุ่นเคืองเมื่อนึกถึงคำอธิบายของพี่ใหญ่ หลีเกอเริ่มรู้สึกสนุกที่ได้ล้อเล่นกับฉีอวิ๋นเทียน เธอจะไม่บอกฉีอวิ๋นเทียนถึงตัวตนที่แท้จริง เฝ้าดูเขาทำตัวงุ่มง่ามวนเวียนอยู่รอบตัวต่อไป“คุณควรอยู่ให้ห่างจากฉันนะรู้ไหม”ฉีอวิ๋นเทียนไม่ฟังเลย เปิดกล่องข้างในซึ่งเป็นสร้อยข้อมือหยกสะท้อนแสงนุ่มนวล เห็นได้ชัดว่ามันมีมูลค่าสูงกว่าสร้อยข้อมือตอนที่เธอใส่ เมื่อถูกเฉียวซีอวิ๋นแอบถ่ายหลายร้อยเท่า“ผมบอกว่าผมจะให้ของขวัญเพื่อขอบคุณคุณตั้งแต่ครั้งก่อน ชอบหรือเปล่าครับ?”ฉีอวิ๋นเทียนใช้เวลานานในการเลือกสร้อยข้อมือหยกเส้นนี้ ก่อนจะตัดสินใจซื้อมันหลังจากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านหยกหลายคน กล่าวได้ว่าเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ“เอาของของคุณคืนไปเถอะ ฉันไม่อยากได้”“เทพธิดา ผมชอบคุณ” ฉีอวิ๋นเทียนสารภาพอีกครั้งเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองที่หาได้ยาก หน้าตานอกจากจะหล่อเหลาแล้วยั
“คุณหลี ฉันหยุดเขาไม่ได้จริง ๆ ค่ะ…” เลขาเดินตามเข้ามาอย่างเชื่องช้าหลีเกอพูดอย่างใจเย็น “ไม่เป็นไร ปิดประตูก็พอ”อาการบาดเจ็บตรงซี่โครงของหลิวฉวนหายดีแล้ว ผ้ากอซบนใบหน้าของเขาก็ไม่อยู่แล้วเช่นกัน “คุณหลี ผมเห็นแผนโครงการร่วมกับฉี่หังกรุ๊ปแล้ว ทำไมถึงไม่มีชื่อของผมอยู่ในนั้น? บอกมานะว่ามันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด?”หลีเกอหมุนปากกาแล้วพูดอย่างใจเย็น “ใช่แล้ว ฉันบอกพวกเขาไม่ให้เพิ่มชื่อคุณลงไปเอง”“คุณหลี แต่นั่นเป็นสิ่งที่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก” รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิวฉวนหายไป เปิดเผยท่าทีชั่วร้ายออกมาเต็มที่ “ข้ามแม่น้ำแล้วก็คิดจะรื้อสะพานทิ้ง แบบนี้ถือเป็นการไม่ให้เกียรติกันเกินไปหน่อยไหม”หลีเกอจ้องมองหลิวฉวนด้วยสายตาเฉียบคม “พึงระลึกไว้เสมอว่าฉันเป็นเจ้านาย การตัดสินใจของฉันมีเหตุผลในตัวมันเอง”หลิวฉวนยังคงไม่พอใจ กัดฟันพูดว่า “คุณหลี กลั่นแกล้งคนอื่นให้มันน้อย ๆ หน่อย”“ทำไม? ถ้าฉันคิดจะกลั่นแกล้งคุณ คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ยอมรับสภาพ?”หลีเกอเหยียดยิ้ม หยิบรูปถ่ายปึกหนาออกมาแล้วโยนมันลงบนโต๊ะ เชิดคางขึ้น “ถ้ามีคนอย่างผู้จัดการหลิวเป็นผู้มีส่วนร่วมในโครงการของฉี่หังกรุ๊ป ฉันเ
ความร่วมมือระหว่างสามฝ่ายกับฉี่หังกรุ๊ปและฮั่วกรุ๊ป ได้รับข้อสรุปโดยพื้นฐานแล้ว หลังจากร่างเอกสารสัญญาเรียบร้อย ที่เหลือก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆการละเลยรายละเอียดเพียงเล็กน้อยระหว่างทาง อาจนำไปสู่การสูญเสียผลกำไรนับล้านได้อย่างง่ายดายหลีเกอเปิดแผนรายงานโครงการ จากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ทำไมคนในรายชื่อที่ตี้เซิ่งส่งมอบให้ถึงไม่ถูกรวมอยู่ในการปันส่วนผลกำไรทั้งหมดล่ะคะ?”รายงานเบื้องต้นระบุว่าทั้งสามบริษัทปันผลกลยุทธ์ร่วมกัน เอกสารระบุอย่างชัดเจนว่าฉี่หังกรุ๊ปและฮั่วกรุ๊ปจะได้รับการปันส่วน แต่ตี้เซิ่งถูกละเว้น“ก่อนหน้านี้โครงการได้รับการลงนามโดยฮั่วกรุ๊ปและฉี่หังกรุ๊ป การเพิ่มรายชื่อบุคลากรของบริษัทตี้เซิ่งเข้ามาทำให้ความคืบหน้าช้าลง ทางเราเลยต้องรอให้ผลการตรวจสอบออกมาก่อน แล้วค่อยแจ้งให้คุณทราบภายหลัง”ผู้อธิบายคือเยวี่ยฉิง ผู้อำนวยการสาวที่ฉี่หังส่งมาเจรจา ดูจากหน้าตาแล้วเธอน่าจะอายุประมาณสี่สิบ ถึงอย่างนั้นกลับดูแลตัวเองเป็นอย่างดีเธอพูดด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ เดาว่าอาจเป็นเพราะยังตึงกับโบท็อกซ์“โอ้ อย่างนั้นเองเหรอคะ?” หลีเกอพยักหน้า ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับคำพูดของเย
ผู้บังคับบัญชาด้านล่างไม่สามารถอยู่เฉยได้อีกต่อไป สิ่งสำคัญคือต้องรักษางานของตัวเองไว้“คุณหลี เราสามารถเพิ่มรายชื่อเข้าไปได้ทันทีเลยครับ เราจะเพิ่มบุคคลากรของทางบริษัทตี้เซิ่งเข้าไปในผู้มีส่วนร่วมของโครงการ!”“ฉันจะส่งเอกสารรายงานโครงการไปให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องเดี๋ยวนี้เลย!”หลีเกอพยักหน้า พูดด้วยน้ำเสียงมีพลัง “รีบจัดการให้เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง ถ้าทุกอย่างไม่เรียบร้อย ฉันจะยืนยันคำเดิม”ผู้บังคับบัญชาตอบรับทีละคนโดยไม่สนใจการประชุมอีก เรียกผู้ช่วยให้เข้ามาเป็นธุระจัดการเรื่องต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว พวกเขาทั้งหมดมองดูเยวี่ยฉิงด้วยสายตาเหยียดหยาม ตอนนี้คำสั่งของเยวี่ยฉิงไม่มีผลสำหรับพวกเขาอีกต่อไป“ผู้อำนวยการเยวี่ย ดูเหมือนจะชอบฟังเรื่องราวจากปากคนอื่นมากเลยนะคะ” หลีเกอหรี่ตาลงและเยาะเย้ย “คุณคิดว่าฉันเป็นแค่แจกันประดับที่ลอยขึ้นสู่เบื้องบนเพราะรูปลักษณ์ภายนอก เลยคิดจะสร้างความลำบากใจกับฉันได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ?”“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงคะ? มันเป็นความเข้าใจผิดทั้งหมด คุณหลีอย่าถือโทษโกรธเคืองเลย” เยวี่ยฉิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ยอมจำนนและประจบประแจง ไม่มีอำนาจที่จะต่อต้านหลีเกอลุ
“ถอนโพสต์ข่าวนั่นซะ”ฮั่วจิ้นเฉิงขมวดคิ้ว “ตอนหลัง หลังจากนายไม่อยู่ตรงนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด”โม่อี้เฟยเลิกคิ้ว “ทำไมจะไม่ใช่ ก็เป็นหล่อนผู้หญิงแบบนั้น”“ถ้านายไม่ไล่ฉันออกไป ฉันคงรีบวิ่งไปตบบ้องหูสองคู่ชู้ชื่นนั้นแล้ว พวกเขาจะได้สำเหนียกว่าอะไรคือความเหมาะสม ศีลธรรมอันพึงควร และความอับอาย!”โม่อี้เฟยคิดถึงสายตาโดดเดี่ยวละห้อยของฮั่วจิ้นเฉิงในวันนั้น ยิ่งรู้สึกว่าเธอไม่คู่ควรกับเพื่อนของเขา และยิ่งเขาพูดมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น“หล่อนทำให้ฉันเสียหน้ามากตอนอยู่ที่สนามแข่งม้า แถมยังข่มขู่ฉัน ฉันต้องให้ชาวเน็ตรู้โฉมหน้าที่แท้จริงของหล่อน”“จริงเหรอ? ฉันกำลังรอมีดโกนใบใหญ่ของคุณอยู่พอดี”เสียงเย็นชาของหลีเกอดังก้องเข้าไปในหูของโม่อี้เฟย เขากระโดดโหยงขึ้นจากที่นั่งด้วยความตกใจอีกครั้ง“ทำไมเธอถึงโผล่มาได้ทุกที่!” ขนบนร่างโม่อี้เฟยลุกพรึ่บใครจะไปคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดจาแย่ ๆ ตัวจริงกลับมาอยู่ข้างหลังเสมอหลีเกอยืนอยู่ข้างหลังเขา กอดอก สีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชา พูดกับจู้หว่านอี้ที่อยู่ข้าง ๆ ว่า “เจอแล้ว ไม่จำเป็นต้องหาคนมาตรวจสอบที่มาอีก
“โม่อี้เฟยไม่ได้ตั้งใจ เขาแค่เข้าใจคุณผิด อย่าเอาเรื่องเขาเลย”ฮั่วจิ้นเฉิงเดินตามหลีเกอด้วยความหงุดหงิด คว้าแขนของเธอไว้หลีเกอพยายามดิ้นรนเพื่อให้สลัดหลุด “ถ้าคุณฮั่วเป็นคนดีจริง ๆ ทำไมถึงมาขอร้องให้ฉันไม่เอาเรื่องเขาล่ะ?"ฮั่วจิ้นเฉิงมองไปที่จู้หว่านอี้และเจี่ยงอีอีที่อยู่เคียงข้างหลีเกอ และตั้งตนเป็นศัตรูกับเขา “อย่างน้อยช่วยมีน้ำใจมากกว่านี้ ยอมหันหน้าคุยกันดี ๆ เหมือนเพื่อนทั่วไปได้ไหม?”หลีเกอยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเฉยเมย“ฉันมีแค่แฟนเก่าที่ตายไปแล้ว ไม่เป็นเพื่อนกับสามีที่หย่าร้าง”แม้ว่าเขาจะได้ยินการปฏิเสธดังกล่าวแล้ว แต่ฮั่วจิ้นเฉิงก็ยังไม่สามารถปล่อยเธอไปได้อย่างใจเย็น เขาพูดอย่างเย็นชา “คำแถลงการณ์ขอโทษจะถูกประกาศออกมาในเช้าวันพรุ่งนี้ ผมจะขอให้สำนักข่าวถอนอันดับการค้นหามาแรงในภายหลัง”“คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวหน้าซื่อใจคดที่นี่ ที่พวกเขากล้าปฏิบัติต่อฉันแบบนี้ ก็เพราะพวกเขาทุกคนเห็นคุณเป็นคนดีไม่ใช่เหรอ?”“ผม?”ฮั่วจิ้นเฉิงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นด้วยใบหน้าของหลีเกอเต็มไปด้วยความผิดหวัง ดวงตาวาววับของเธอจับจ้องไปที่ฮั่วจิ้นเฉิง “ทั้งหมดมัน
เมื่อฉีอวิ๋นเทียนทำสิ่งนี้ คู่รักทุกคู่ที่อยู่ในร้านต่างก็หันมอง และพูดคุยกันด้วยเสียงกระซิบกระซาบอย่างตื่นเต้นว่าการขอแต่งงานประสบความสำเร็จหรือไม่ตรงข้ามพวกเขาไม่ไกล โม่อี้เฟยและภรรยาของเขานั่งอยู่ตรงนั้นโม่อี้เฟยเพิ่งง้อภรรยาของเขาให้กลับมาคืนดีได้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และวันนี้เขาพาเธอออกมาทานอาหารเย็นพอดีเมื่อเห็นว่าเป้าสายตาของร้านกลายเป็นหลีเกออีกแล้ว เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ถ่ายรูปแผ่นหลังของฉีอวิ๋นเทียน แล้วส่งไปหาฮั่วจิ้นเฉิงโดยไม่ลืมที่จะใส่สีตีไข่เข้าไปว่า… [เพื่อน ดูสิ เมียเก่านายเจอเป้าหมายการล่าสัตว์ใหม่แล้ว แล้วผู้ชายคนนี้ก็ดูหล่อมากด้วย…]ฮั่วกรุ๊ปฮั่วจิ้นเฉิงซึ่งอยู่ในระหว่างการประชุมได้รับข้อความ ใบหน้าของเขามืดมนลงทันที ขมวดคิ้วพร้อมกับกระแทกโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ทำให้ผู้ที่เข้าร่วมการประชุมตกใจเขาหยิบเสื้อคลุมด้านหลังเก้าอี้ขึ้นมา แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ประชุมกันไปก่อน ผมมีธุระต้องทำ”จากนั้นเขาก็เปิดประตูแล้วออกไป รีบเดินทางไปที่ร้านอาหารฉีอวิ๋นเทียนนั่งตัวตรง พูดอย่างจริงจังว่า “เทพธิดา คำสารภาพครั้งก่อนของผมในที่สาธารณะอาจดูเหมือนไม่ผ่านการกลั
ริมฝีปากบางของฮั่วจิ้นเฉิงเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนพูดว่า “คุณคิดว่ายังไง?”“เธอ?” ฉีอวิ๋นเทียนพูดพลางชี้ไปที่หลีเกอ ก่อนหันมองฮั่วจิ้นเฉิง “คุณ?”หลังจากนั้นเขาก็ชี้มาที่ตนเอง “ผม...”“นี่มันเรื่องอะไรกัน!”ฉับพลันเขาก็รู้สึกอยากร้องไห้ ข้อมูลที่เขาได้รับมีมากเกินไปจึงต้องใช้เวลาในการระมวลผลโม่อี้เฟยยกมือขึ้นแตะจมูก พลางโน้มตัวไปหาฉีอวิ๋นเทียนที่กำลังสับสนไม่น้อย “เพื่อนรัก ไม่ว่าใครก็ไม่ควรถูกหลอก ครั้งนี้นายถลำลึกไปแล้ว”จู่ ๆ ฉีอวิ๋นเทียนก็ระเบิดอารมณ์ “มีคนบอกว่าพวกนายหย่ากันแล้ว นายไม่รู้จักเสรีภาพในความรักเหรอ?”เขาผลักฮั่วจิ้นเฉิงพลางกล่าวเสียงแข็ง “ตอนที่ฉันเจอเธอ ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นภรรยาเก่าของนายด้วยซ้ำ”หลีเกอเดินผ่านฮั่วจิ้นเฉิงด้วยท่าทีนิ่งเฉย ทันใดนั้นเสียงทุ้มลึกและเย็นชาก็ดังขึ้นข้างหลังเธอ“ทำไมไม่อธิบายล่ะ?”หลีเกอแค่นเสียง “จะให้ฉันอธิบายในฐานะอะไร?”หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็เดินผ่านไป“อย่าเพิ่งไป! นายจะทิ้งพวกเราสามคนไว้ที่นี่เหรอ?” ฉีอวิ๋นเทียนตะโกนตามหลังหลีเกอจากนั้นฮั่วจิ้นเฉิงก็เดินออกไปด้วยสีหน้ามืดมน ขณะที่โม่อี้เฟยเดินตามไประหว่างทางกลับ สติของฉ