"ทำอะไร?"ที่ประตู เสียงของฮั่วจิ้นเฉิงเต็มไปด้วยความโกรธแทบจะไม่ลังเล เขาเดินจากประตูไปหาหลีเกออย่างรวดเร็ว แล้วจับมือเธอโดยไม่พูดอะไรหลีเกอยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถูกเขาลากออกไป"...นั่นคืออะไร" หลีเกอเงยหน้าขึ้น ถามด้วยความไม่เชื่อฮั่วจิ้นเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้อธิบายอะไร "ไม่ว่าเธอจะเห็นอะไรเมื่อกี้ อย่าคิดมาก"แต่ในใจของหลีเกอกลับยิ่งประหลาดใจมากกว่าเก่ารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น"...แปลกเกินไปแล้ว" หลีเกอบ่น คิดถึงสิ่งที่เธอเพิ่งเห็นสายตาของเธอหยุดอยู่ที่ใบหน้าของฮั่วจิ้นเฉิง แล้วก็ถามในที่สุดว่า "ทำไมรูปขาวดำของคุณถึงได้แขวนอยู่บนผนัง ฮั่วจิ้นเฉิง คุณเป็นผีเหรอ?"ฮั่วจิ้นเฉิงโกรธ"อย่าพูดไร้สาระ คุณคงตาฝาดไป""...จริงเหรอ" หลีเกอถามอีกครั้ง เมื่อพูดจบ เธอถึงสังเกตเห็นว่ามือของฮั่วจิ้นเฉิงจับมือเธอไว้แน่น จึงรีบดึงออกโดยไม่ลังเล"...งานเลี้ยงวันเกิดจะเริ่มแล้ว ลงไปกันเถอะ" ฮั่วจิ้นเฉิงมือว่างเปล่า แต่ก็ยังอดทนชวนเธอแม้ว่าหลีเกอจะสงสัยในใจ แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองอาจจะคิดมากไปจริง ๆตอนนี้ฮั่วจิ้นเฉิงตัวเป็น ๆ ก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่เหรอ?"คุณย่าล่
แต่ฮั่วจิ้นเฉิงไม่พูดอะไรเลย เขาพูดออกมาตามตรงว่า “ฉันต้องการแค่เธอ"หลีเกอโกรธจัด จึงปฏิเสธว่า "คุณฮั่วคะ ฉันไม่สะดวก"สีหน้าของฮั่วจิ้นเฉิงเคร่งขรึม ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เขาไม่สามารถบังคับเธอได้ ในที่สุดก็ถูกฮั่วอวิ๋นเจินดึงตัวไปหลังจากที่พวกเขาจากไป คุณย่าฮั่วจึงรีบเดินไปหาหลีเกอ ถามด้วยความเป็นห่วงว่า "เสี่ยวเกอ หนูไม่เป็นไรนะ"หลีเกอได้สติ จึงรีบส่ายหน้า "ฉันไม่เป็นไรค่ะ คุณย่า คุณย่าสบายดีขึ้นหรือยังคะ?""ย่าไม่เป็นไรมากหรอก แค่โรคประจำตัวเฉย ๆ น่ะ..."ทันทีที่พูดจบ ฮั่วซวงซวงก็ดึงหูเด็กชายอายุประมาณแปดขวบคนหนึ่งลงมาจากชั้นบน ตัวของเด็กชายเปื้อนสีเต็มไปหมด ในมือถือพู่กันสองด้าม ร้องไห้โฮเพราะถูกกระชากลงมา"ไอ้ลูกดื้อคนนี้ ดูซิว่าแกทำอะไรลงไป!"เด็กชายร้องไห้โฮออกมาทันที เสียงร้องไห้ดังก้องไปทั่วห้องโถงคุณย่าฮั่วไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ตวาดสีหน้าบึ้งตึ้ง "พอได้แล้ว ไม่รู้จักอายหรือไง"ฮั่วซวงซวงก็คาดไม่ถึงเช่นเดียวกัน เธอตั้งใจจะเล่นงานหลีเกอ แต่กลับทำให้ฮั่วจิ้นเฉิงเปรอะเปื้อนไปทั้งตัวถ้าฮั่วจิ้นเฉิงรู้เข้า ไม่รู้ว่าจะจัดการกับลูกชายของเธอยั
ฮั่วอวิ๋นเจินเห็นเขาผละหนีออกไปจากตัวเองราวกับผีเข้า เธออดหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้กลับมาอยู่กับร่องกับรอยอีกครั้งเธอหลุบตาลง กำมือแน่นความโกรธที่ถูกปฏิเสธปรากฏชัดบนใบหน้า อดคิดไม่ได้ถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ที่บันได ฮั่วจิ้นเฉิงปกป้องหลีเกอโดยสัญชาตญาณ...ไม่ใช่ว่าหย่ากันแล้วเหรอทำไมตัดบัวแล้วยังไม่ขาดเยื่อใยล่ะ?ดวงตาของฮั่วอวิ๋นเจินดูหม่นหมองลง พร้อมกับความโหดเหี้ยมแวบผ่านในดวงตา...หลังจากฮั่วจิ้นเฉิงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กลับมาที่ห้องโถงแล้ว เขาก็หาหลีเกอทั่วทั้งงาน แต่ไม่เจอแม้แต่เงาคุณย่าฮั่วเห็นเช่นนั้นก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดว่า "เสี่ยวเกอกลับไปแล้ว..."ฮั่วจิ้นเฉิงรู้สึกประหลาดใจ อดไม่ได้ที่จะบ่น "คุณย่า คุณย่าไม่รั้งเธอไว้หน่อยล่ะครับ?""เด็กคนนี้ พูดความจริงกับย่ามาตรง ๆ เถอะ แกคิดยังไงกับเธอกันแน่?"น้ำเสียงของคุณย่าฮั่วไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด "...ตอนแรกย่าขอให้แกเอาใจเสี่ยวเกอให้มาก แกกลับเอาแต่ดื้อรั้น ตอนนี้หย่ากันแล้ว แกก็ยังดิ้นรนตามง้อเธออีก ไม่คิดว่าทำตัวน่าสมเพชอยู่หรือไง?""คุณย่า! พูดแบบนี้ไม่ถูกนะครับ!"แต่คุณย่าฮั่วกลับไม่พอใจ "ตอนนั้นแกควบคุมแม่ผู้ห
"จริงด้วย ไหน ๆ วันนี้เธอก็มาที่ร้านพอดี ฉันนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้"เจี่ยงอีอีขัดจังหวะความคิดของเธอ จากนั้นจึงพูดต่อ "ก่อนหน้านี้มีลูกค้าระบุชื่อเธอ ขอให้เธอออกแบบชุดราตรีให้หน่อย""ชุดราตรีแบบไหน?"เจี่ยงอีอีพลิกใบสั่งซื้อของลูกค้าบนเคาน์เตอร์ แล้วส่งให้หลีเกอ "ลูกค้าเสนอราคาสามล้านบาท ไม่มีกำหนดเวลา ภายในหกเดือนนี้เมื่อไหร่เธอว่างค่อยทำก็ได้"หลีเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วรับมาดูคำสั่งซื้อนั้นเรียบง่าย ไม่มีอะไรหรูหรา มีเพียงชื่อและหมายเลขโทรศัพท์เท่านั้น"ลึกลับจัง เธอมีข้อกำหนดอะไรเกี่ยวกับชุดราตรีเป็นพิเศษหรือเปล่า?""ไม่ได้บอกอะไรเลย บอกแค่ว่าเมื่อไหร่เธอว่างค่อยนัดหมายคุยรายละเอียดกันตัวต่อตัว เธอลองดูแล้วกันว่าจะรับงานนี้ดีไหม"หลีเกอเบ้ปาก มุมปากเผยรอยยิ้มที่สวยงาม"รับสิ จะไม่รับได้ยังไง นี่ถือเป็นงานชิ้นใหญ่ของร้านเรา เราต้องรับไว้อยู่แล้ว""เรื่องนี้ให้ฉันจัดการเอง ช่วงนี้บริษัทค่อนข้างยุ่ง ไว้ฉันจะติดต่อเธออีกทีตอนจัดการอะไร ๆ ลงตัว""ได้ เอาตามที่เธอว่าเลย"...วันจันทร์มาถึงในพริบตาหลีเกอมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าตรู่ พอเข้ามาชั้นล่างก็เจอฉีอวิ๋นเทียน ฉีอวิ๋นเที
โครงการของฉีอวิ๋นเทียนได้รับการอนุมัติเป็นเอกฉันท์หลังจบการประชุมหลีเกอเป็นคนแรกที่ออกจากห้องประชุม เจิ้งหลิ่วเดินตามเธอมาครึ่งก้าว แล้วรายงานงานต่าง ๆ"หลีเกอ!"ทั้งสองเพิ่งเดินมาถึงหน้าประตูห้องทำงาน ก็มีเสียงเรียกดังขึ้น ทันใดนั้น ฮั่วอวิ๋นเจินก็เดินยิ้มแย้มเข้ามาหาหลีเกอหลีเกอแปลกใจ ตั้งแต่เธอและฮั่วจิ้นเฉิงหย่ากัน ถือว่าเธอตัดขาดจากตระกูลฮั่วอย่างสิ้นเชิงบรรดาญาติของตระกูลฮั่วก็ไม่เคยมาติดต่อหรือวุ่นวายกับเธออีกเลยฮั่วอวิ๋นเจินมาที่นี่ทำไมกัน?ถึงจะสงสัย แต่หลีเกอก็ยังพูดอย่างสุภาพว่า "พี่อวิ๋นเจิน มาได้ยังไงคะ?"ฮั่วอวิ๋นเจินยกกล่องเก็บความร้อนในมือขึ้น "คุณย่าให้ฉันมาส่งซุปไก่ให้เธอน่ะ..."หลีเกอพยักหน้า ปิดแฟ้มเอกสารในมือ ส่งกลับให้เจิ้งหลิ่ว "ทำตามที่คุณเสนอเลย""ครับ ประธานหลี"หลังจากเจิ้งหลิ่วจากไป หลีเกอก็หันไปหาฮั่วอวิ๋นเจิน "พี่อวิ๋นเจิน ไปนั่งคุยกันที่ห้องทำงานฉันดีไหมคะ?"ฮั่วอวิ๋นเจินตอบตกลงตามหลีเกอเข้าไปในห้องทำงานฮั่วอวิ๋นเจินประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของหลีเกอ เมื่อก่อนหลีเกออยู่ในตระกูลฮั่วมักจะอ่อนน้อมถ่อมตนและยอมคนเสมอถึงแม้ว่าจะได้เป็นถ
“ไม่ว่ายังไง ถึงเธอจะไม่ได้อยูกับฮั่วจิ้นเฉิงแล้ว ฉันก็ยังถือว่าเธอเป็นน้องสาวเสมอเลย”เมื่อเสียงพูดจบลง ประตูห้องทำงานก็ดังขึ้น "ก๊อก ก๊อก"หลีเกอวางชามในมือลง หยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดมุมปากแล้วพูดว่า "เชิญค่ะ"เมื่อเสียงพูดจบลง ฉีอวิ๋นเทียนก็เดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารกองหนึ่ง เมื่อเห็นว่ามีคนอื่นอยู่ เขาก็กลับมาแสดงท่าทีจริงจังเหมือนเดิม "คุณหลี เอกสารที่ต้องให้คุณตรวจสอบอยู่ตรงนี้ครับ"หลีเกอแทบไม่เคยเห็นเขาจริงจังขนาดนี้มาก่อน จึงพยักหน้าเล็กน้อย "วางไว้บนโต๊ะฉันก็ได้ค่ะ""ครับ คุณหลี"แต่แล้วฮั่วอวิ๋นเจินก็เห็นฉีอวิ๋นเทียน ปากของเธออ้าค้างด้วยความประหลาดใจ "ฉีอวิ๋นเทียน นายมาอยู่นี่ได้ยังไง?"เมื่อได้ยินแบบนั้นฉีอวิ๋นเทียนจึงเงยหน้าขึ้นมองฮั่วอวิ๋นเจิน ในฐานะเพื่อนสนิทของฮั่วจิ้นเฉิงมานานหลายปี เขาจะไม่รู้จักฮั่วอวิ๋นเจินได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้น เขารู้จักเธอดีกว่านั้นอีก รู้แม้กระทั่งความลับบางอย่างของฮั่วอวิ๋นเจินฉีอวิ๋นเทียนตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่ไม่จริงใจ "ผมทำงานที่ตี้เซิ่งน่ะสิ!"คราวนี้ถึงคราวที่ฮั่วอวิ๋นเจินเป็นฝ่ายประหลาดใจทายาทของบริษัทฉีกรุ๊ป ผู้สืบทอดกิจการคนต
"ถ้าคุณมีความสามารถพอจะงัดได้ เกมนี้คงสนุกขึ้นเยอะ""..."ฮั่วอวิ๋นเจินวางสาย จากนั้นก็เลื่อนนิ้วอย่างไม่ใส่ใจ ดวงตาของเธอเป็นประกายไม่คิดว่าการมาที่บริษัทของหลีเกอครั้งนี้จะได้อะไรมากมายทีเดียวหลีเกอนะ หลีเกอ!วันประมูลพรุ่งนี้ เธอเตรียมตัวแพ้ราบคาบได้เลย...หลังจากฮั่วอวิ๋นเจินจากไปฉีอวิ๋นเทียนก็หาโอกาสกลับมาที่ห้องทำงานของหลีเกออีกครั้งตอนนี้เขาไม่แสดงท่าทีเจ้าชู้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว กลับจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "ฮั่วอวิ๋นเจินมาที่นี่ทำไม?"หลีเกอเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วพูดหยอกล้อ"ดูเหมือนคุณจะใส่ใจเธอมากเลยนะ?"ฉีอวิ๋นเทียนพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก "ห่วงใยเหรอ เธอคู่ควรด้วยเหรอ?"จากนั้นก็เดินไปหาหลีเกอ แล้วใช้สายตาจริงจังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนมองไปที่หลีเกอ"เทพธิดา ฮั่วอวิ๋นเจินเป็นคนที่ชอบใช้วิธีการสกปรกมากที่สุด เราต้องระวังให้มาก"เมื่อพูดจบ สายตาของฉีอวิ๋นเทียนก็มองไปยังเอกสารที่วางอยู่ด้านข้าง"ทุกคนรู้ดีว่าโครงการตานตงนี้สามารถทำกำไรได้มหาศาล มีหลายคนหมายปอง ผมกลัวว่าฮั่วอวิ๋นเจินจะคิดไม่ซื่อบางอย่าง"เมื่อหลีเกอได้ยินอย่างนั้น สีหน้าเฉยเมยของเธอก็เปลี่
หลีเกออมยิ้มแล้วยื่นมือออกไป "สวัสดีค่ะ คุณหัว""คุณหลีช่างเป็นเด็กใหม่ไฟแรงที่มีความสามารถจริง ๆ เลยนะครับ บริษัทตี้เซิ่งก้าวหน้าไปสู่จุดสูงสุดภายใต้การนำของคุณ""คุณหัวชมเกินไปแล้วค่ะ""วันนี้คุณหลีก็มาร่วมประมูลโครงการตานตงด้วยเหมือนกันสินะ ดูเหมือนว่าบริษัทของเราทั้งสองจะต้องแข่งขันกันแล้ว""คุณหัวไม่ต้องถ่อมตัวหรอกค่ะ ทุกคนต่างก็ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่"หัวเฉียงยิ้มอย่างมีความหมายแล้วพูดต่อ "ตอนแรกบริษัทของเราตัดสินใจจะละทิ้งโครงการนี้ไปแล้ว... แต่เมื่อวานนี้ เพิ่งเปลี่ยนใจกะทันหัน"ฉีอวิ๋นเทียนที่เงียบอยู่ตลอดเวลาพูดขึ้น "ดูจากท่าทางของคุณหัวแล้ว โอกาสชนะน่าจะสูงมากเลยนะครับ"หัวเฉียงยิ้ม"คุณฉีพูดอะไรอย่างนั้น ยังตัดสินไม่ได้หรอกว่าใครจะชนะ"ฉีอวิ๋นเทียนยิ้มฝืน "ในเมื่อเป็นอย่างนั้น คุณหัว เราคงต้องคอยดูกันต่อไป"บรรยากาศโดยรอบเย็นเยียบลงทันที ความกดดันค่อย ๆ เพิ่มขึ้น หลีเกอรับรู้ได้ถึงความไม่เป็นมิตรที่ฉีอวิ๋นเทียนมีต่อหัวเฉียง"งั้นเดี๋ยวเจอกัน..." หัวเฉียงเหลือบมองหลีเกอเหมือนมีนัยบางอย่าง แล้วเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย"ถ้าฉันเดาไม่ผิด คู่แข่งที่ยิ่งใหญ