หลีเกออมยิ้มแล้วยื่นมือออกไป "สวัสดีค่ะ คุณหัว""คุณหลีช่างเป็นเด็กใหม่ไฟแรงที่มีความสามารถจริง ๆ เลยนะครับ บริษัทตี้เซิ่งก้าวหน้าไปสู่จุดสูงสุดภายใต้การนำของคุณ""คุณหัวชมเกินไปแล้วค่ะ""วันนี้คุณหลีก็มาร่วมประมูลโครงการตานตงด้วยเหมือนกันสินะ ดูเหมือนว่าบริษัทของเราทั้งสองจะต้องแข่งขันกันแล้ว""คุณหัวไม่ต้องถ่อมตัวหรอกค่ะ ทุกคนต่างก็ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่"หัวเฉียงยิ้มอย่างมีความหมายแล้วพูดต่อ "ตอนแรกบริษัทของเราตัดสินใจจะละทิ้งโครงการนี้ไปแล้ว... แต่เมื่อวานนี้ เพิ่งเปลี่ยนใจกะทันหัน"ฉีอวิ๋นเทียนที่เงียบอยู่ตลอดเวลาพูดขึ้น "ดูจากท่าทางของคุณหัวแล้ว โอกาสชนะน่าจะสูงมากเลยนะครับ"หัวเฉียงยิ้ม"คุณฉีพูดอะไรอย่างนั้น ยังตัดสินไม่ได้หรอกว่าใครจะชนะ"ฉีอวิ๋นเทียนยิ้มฝืน "ในเมื่อเป็นอย่างนั้น คุณหัว เราคงต้องคอยดูกันต่อไป"บรรยากาศโดยรอบเย็นเยียบลงทันที ความกดดันค่อย ๆ เพิ่มขึ้น หลีเกอรับรู้ได้ถึงความไม่เป็นมิตรที่ฉีอวิ๋นเทียนมีต่อหัวเฉียง"งั้นเดี๋ยวเจอกัน..." หัวเฉียงเหลือบมองหลีเกอเหมือนมีนัยบางอย่าง แล้วเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย"ถ้าฉันเดาไม่ผิด คู่แข่งที่ยิ่งใหญ
ฮั่วอวิ๋นเจินสะดุ้งเล็กน้อย รู้สึกผิดโดยไม่มีเหตุผล แต่ก็ยังคงฝืนทักทายหลีเกอ "ไง หลีเกอ เธอก็มาเข้าร่วมการประมูลด้วยเหรอ?"หลีเกอหัวเราะเล็กน้อย แล้วตอบกลับ "ฉันอยากมาดูโครงการใหม่ของบริษัทเราสักหน่อย ว่าแต่พี่อวิ๋นเจินเถอะ ย้ายมาทำงานที่หัวกรุ๊ปตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?"ฮั่วอวิ๋นเจินประหลาดใจที่หลีเกอรู้เรื่องนี้...ถ้าอย่างนั้น เรื่องที่เธอขโมยข้อมูลมา หลีเกอก็คงรู้แล้วเหมือนกันสินะ?ชั่วขณะหนึ่ง ฮั่วอวิ๋นเจินรู้สึกตื่นตระหนก กำชายเสื้อแน่นแล้วหัวเราะเสียงแห้ง “ฉันทำงานที่หัวกรุ๊ปมาตั้งนานแล้ว แค่เธอไม่รู้…”หลีเกอร้องอ๋อ แล้วมองตัวเองในกระจก"โครงการตานตงนี้ดีจริง ๆ เลยนะ ได้รับออกแบบโครงการขนาดใหญ่สองโครงการ ทั้งน้ำมันดิบและเหมืองแร่ อย่างน้อยก็รับประกันผลกำไรของบริษัทในอีกห้าปีข้างหน้าได้เลย"ฮั่วอวิ๋นเจินได้ยินดังนั้นก็รู้สึกคาดหวังในใจ"จริงเหรอ? อัตรากำไรมหาศาลขนาดนั้นเลยเชียว ถ้าชนะการประมูล ก็แทบไม่ต้องกังวลเรื่องผลประกอบการในอีกห้าปีข้างหน้าเลย"หลีเกอตอบรับในลำคอ"เพราะแบบนั้นไง หลายคนถึงได้จับตามองอย่างใกล้ชิด ต้องการคว้าโครงการนี้มาให้ได้"หลีเกอพูดถึงตรงนี้ก็หยุดช
ฮั่วอวิ๋นเจินตกใจกับท่าทีของหัวเฉียงจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงทั้งสองกลับเข้ามาในงาน การประมูลเริ่มขึ้นแล้ว"ลำดับต่อไป เราจะเปิดโครงการหมายเลข 0781 บริษัทที่เสนอเข้าร่วมประมูล ได้แก่ ฮั่วกรุ๊ป บริษัทตี้เซิ่ง หัวกรุ๊ป และหลงเถิงกรุ๊ป..."พิธีกรพลิกกการ์ดในมือ แล้วพูดในที่สุดว่า "บริษัทที่ได้รับผิดชอบโครงการนี้ คือบริษัทตี้เซิ่ง ขอแสดงความยินดีกับบริษัทตี้เซิ่งด้วยครับ..."เมื่อพิธีกรพูดจบ หลีเกอและฉีอวิ๋นเทียนก็ลุกขึ้นยืน เสียงปรบมือดังกึกก้องหลังจากจบการประมูลหัวเฉียงรีบโทรหาซัพพลายเออร์ "คุณหลี่ครับ ความร่วมมือของเราน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย คุณช่วยดำเนินเรื่องยกเลิกความร่วมมือระหว่างเราไปก่อนได้ไหม?""...อะไรนะ! ค่าปรับห้าสิบล้าน!? คุณหลี่ครับ เรื่องนี้เราพอจะเจรจากันใหม่ได้ไหม..."ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไรบ้าง แต่เขากดวางสายไปเอง เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณตู๊ด ๆ จากปลายสาย หัวเฉียงก็โกรธจัด"ไอ้พวกเวรเอ๊ย"ฮั่วอวิ๋นเจินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหลือบมองเขาอย่างระมัดระวัง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ หัวเฉียงหันกลับมามองเธอ เดินตรงเข้ามาแล้วคว้าข้อมือเธอทันที"ฮั่วอวิ๋นเจิน เห็นหรือเปล่า
แต่เธอกลับคว้าไม่ทัน หลีเกอหลบเลี่ยงได้อย่างว่องไว"ขโมยข้อมูลอันเป็นความลับของบริษัท ถือเป็นความผิดทางอาญา ถ้าฉันเอาคลิปนี้ส่งให้ตำรวจ คิดว่าคุณจะโดนลากคอเข้าคุกไหม?"ฮั่วอวิ๋นเจินมองเธอด้วยความไม่เชื่อ สายตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก รู้ตัวแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น จึงเปลี่ยนสีหน้าในทันทีแล้วรีบขอร้อง "หลีเกอ อย่า... ขอร้องล่ะ อย่าทำอย่างนั้นเลยนะ"ถ้าหลีเกอส่งคลิปนี้ไปให้ตำรวจ ชีวิตเธอคงจบสิ้นของจริงการขโมยความลับบริษัทไม่ใช่ความผิดเล็กน้อย ยังมีมูลค่าความเสียหายมากเกินคณานับอีกด้วย เพียงพอจะทำให้เธอติดคุกไปตลอดชีวิต"ฉันขอล่ะ... หลีเกอ อย่าส่งมันให้ตำรวจเลยนะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้วจริง ๆ..." ฮั่วอวิ๋นเจินขอร้องไม่หยุดเธอหวังเพียงให้หลีเกอปล่อยเธอไปฉีอวิ๋นเทียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เห็นดังนั้นก็ยิ้มมุมปาก สายตาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย "ในเมื่อคุณรู้แบบนี้ตั้งแต่แรก ก็ไม่น่าทำเลยนะ คุณหนูฮั่ว นี่น่าจะไม่ใช่ครั้งแรกของคุณด้วยจริงไหม..."แต่ฮั่วอวิ๋นเจินไม่สนใจเรื่องอื่นแล้ว รีบจับแขนหลีเกอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม "หลีเกอ ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนใจดีที่สุด ฉันขอร้อง ให้ฉันได้รับโอกาสอีกครั
หลีหานไม่ค่อยได้มาเมืองปินเฉิง แต่ทำไมวันนี้ถึงมาโดยไม่บอกไม่กล่าวเธอเอ่ยออกมาตามตรง"พี่ใหญ่ พี่มาเมืองปินเฉิงทั้งที มีธุระอะไรเหรอคะ?"หลีหานไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยื่นแฟ้มเอกสารให้เธอ"ดูเองเถอะ นี่คือเอกสารการประกันตัวและเอกสารลดโทษที่ฮั่วจิ้นเฉิงส่งมายังเรือนจำท้องถิ่น ทั้งหมดเป็นเรื่องของเฉียวซีอวิ๋น เป้าหมายของเขาชัดเจนมาก นั่นคือการพาเฉียวซีอวิ๋นออกจากคุก"ข่าวนี้ค่อนข้างกะทันหันก่อนหน้านี้ไม่มีแม้แต่ข่าวคราวใด ๆ เลยแววตาของหลีเกอเย็นชาลงในทันที ไร้แววอบอุ่น จากนั้นเธอก็รับแฟ้มเอกสารมาพลิกดู"ฮั่วจิ้นเฉิงยังคำนึงถึงความหลังอยู่สินะ ถึงได้อยากพาคนในใจของเขาออกมาเร็วขนาดนี้""เฉียวซีอวิ๋นทำเรื่องเลวร้ายไว้มากมายขนาดนั้น จะถูกปล่อยตัวออกมาได้ง่าย ๆ อย่างนั้นเชียวเหรอ?"หลีหานหรี่ตามองแล้วพูดว่า "พี่ลงมือขัดขวางแล้ว แต่ท่าทีของฮั่วจิ้นเฉิงแข็งกร้าวมาก บอกเลยว่าเพื่อเฉียวซีอวิ๋นคนนี้ เขาทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ"หลีหานหยุดพูดชั่วครู่แล้วถามว่า"น้องสี่ พี่อยากรู้ว่าตอนนี้เธอคิดยังไงกับเขา""เรื่องของเขา ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน"ประโยคง่าย ๆ ประโยคหนึ่ง ขีดเส้นแบ่งเขตแดนระหว่
"น้องสี่ จำไว้นะ อย่าให้ความล้มเหลวด้านความรักครั้งหนึ่งกลายเป็นกำแพงปิดกั้นตัวเอง สำหรับพี่ เธอคู่ควรกับสิ่งที่ดีที่สุด..."เมื่อได้ยินแบบนั้น หลีเกอก็รู้สึกอบอุ่นใจ"รู้แล้วค่ะ พี่ใหญ่ มีพี่ มีพวกพี่อยู่ด้วย แค่นี้ก็พอแล้ว"หลีหานเอื้อมมือไปลูบหัวเธอ "เด็กคนนี้ พูดเหมือนพี่เป็นคนอื่นคนไกล เรื่องของความรู้สึกเธอควรรู้ได้ด้วยตัวเองนะ""ต้องเผชิญหน้ากับหัวใจของตัวเองอย่างถูกต้อง อย่าปล่อยให้คนที่รักเธออย่างแท้จริงหลุดมือไป"หลีเกอพยักหน้า แต่กลับรู้สึกว่าวันนี้หลีหานพูดมากกว่าปกติ "พี่ใหญ่ พี่กลายเป็นคนนินทาเรื่องคนอื่นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?""ผิดเหรอ? พี่ก็แค่เป็นห่วงเธอเท่านั้นเอง พี่ไม่สามารถละเลยเรื่องสำคัญในชีวิตเธอได้อีกแล้ว หลังจากเจอเรื่องแย่ ๆ มาครั้งหนึ่ง ก็ควรจะเรียนรู้ให้เข็ดหลาบ""ที่เดิม ไม่ควรสะดุดล้มสองครั้ง""ตราบใดที่คนนั้นไม่ใช่ฮั่วจิ้นเฉิง ไม่ว่าสุดท้ายเธอจะเลือกอยู่กับใคร พวกเราตระกูลหลีก็สนับสนุนอย่างเต็มที่"คำพูดของหลีหานแสดงให้เห็นท่าทีของเขาอย่างชัดเจนและนั่นก็คือท่าทีของทั้งตระกูลหลีหลีเกอพยักหน้า "รู้แล้วค่ะ พี่ใหญ่ พี่ไม่ต้องเป็นห่วง"เมื่อพ
หากเป็นไปตามความคืบหน้าดังเดิม หลีเกอมีโอกาสชนะเดิมพันสูงมาก แต่จนกว่าจะถึงนาทีสุดท้าย ผู้อำนวยการหูไม่มีทางยอมแพ้ง่าย ๆ"รีบร้อนอะไรนัก เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งปีไม่ใช่หรือไง? สร้างโครงการขึ้นมาอาจไม่ง่าย แต่การทำลายโครงการน่ะง่ายจะตายไป..."แววตาของผู้อำนวยการหูมืดมนลง ดูเหมือนจะเตรียมพร้อมที่จะดับเครื่องชน เขาคลุกคลีอยู่ในแวดวงธุรกิจมาหลายปี จะยอมแพ้ให้กับเด็กสาวที่เป็นมือใหม่ได้อย่างไร"ไอ้ฉีอวิ๋นเทียนนี่ สงสัยต้องหาวิธีจัดการซะแล้ว...""ผู้อำนวยการหู ผมมีวิธีมาเสนอครับ..."คิ้วของผู้อำนวยการหูกระตุก ใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม "พูดมาซิ วิธีอะไร"ผู้ช่วยกระซิบข้างหู เบาจนได้ยินแค่ผู้อำนวยการหูเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าใบหน้าของผู้อำนวยการหูเต็มไปด้วยรอยยิ้ม "สมแล้วที่ติดตามฉันมานานหลายปี ไม่ได้ทำให้นายเรียนรู้อะไรน้อยลงเลย งั้นก็ทำตามที่นายพูดเถอะ""ได้ครับ ผู้อำนวยการหู"...ตกกลางคืน บาร์เฟยหลี่หลีเกอจัดงานเลี้ยงฉลองให้ฉีอวิ๋นเทียน เชิญเพื่อนร่วมงานภายในบริษัทเข้าร่วม เมื่อทุกคนอยู่รวมกัน บรรยากาศในงานค่อนข้างคึกคักทีเดียว"พวกเราต้องขอแสดงความยินดีกับประธานฉีด้วยนะครับ ที่สามารถคว้า
"ไป เอาโทรศัพท์ของคนที่ชื่อหลีเกอมาให้ฉัน..."เมื่อคำพูดนี้จบลง เด็กแว๊นหลายคนก็กรูกันเข้ามา ใช้ค้อนทุบกระจกรถ สิ้นเสียง "ปัง" แค่ครั้งเดียว กระจกหน้ารถก็แตกละเอียด เศษกระจกกระเด็นไปโดนหลีเกอ เสียงสัญญาณในรถดังเตือนหนวกหู"เธอ หลีเกอใช่ไหม เอาโทรศัพท์มานี่"พอพูดจบเขาก็ตั้งท่าจะเอื้อมมือเข้ามาแย่งโทรศัพท์ในมือหลีเกอหลีเกอหลบไปทางด้านข้าง ยกขาขึ้นเตะไปที่หัวของชายคนนั้นด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ เลือดกำเดาไหลออกมาทางจมูกของเขาในทันที"กล้านักนะ ต่อหน้าคนตั้งมากมาย พวกแกคิดจะทำอะไร?"ชายคนนั้นเจ็บปวดมาก ยกมือกุมหน้าตัวเอง “นังบ้าเอ๊ย ฉันจะจัดการกับแกยังไงดี?!"พูดจบก็ตั้งท่าจะปีนเข้ามาในรถแต่ทันใดนั้น รถเก๋งสีดำหรูหราหลายคันก็ขับเข้ามา เสียงเบรกดังขึ้นต่อเนื่อง บอดี้การ์ดที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีกรูล้อมรอบกลุ่มคนเหล่านี้ไว้ราวกับหน่วยรบสวรรค์ที่ถูกส่งลงมาอย่างทันท่วงที พวกเขามีส่วนสูงเฉลี่ย 185 เซนติเมตร ร่างกายกำยำแข็งแรง ทำให้พวกเด็กแว๊นผอมแห้งแรงน้อยที่อยู่โดยรอบตกใจกลัว"มัวยืนอยู่ทำไมวะ วิ่งสิโว้ย!"แต่ตอนนี้ พวกเขาถูกล้อมรอบเอาไว้หมดแล้ว ไม่มีทางหนีรอดไปได้ส่วนชายท