หากเป็นไปตามความคืบหน้าดังเดิม หลีเกอมีโอกาสชนะเดิมพันสูงมาก แต่จนกว่าจะถึงนาทีสุดท้าย ผู้อำนวยการหูไม่มีทางยอมแพ้ง่าย ๆ"รีบร้อนอะไรนัก เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งปีไม่ใช่หรือไง? สร้างโครงการขึ้นมาอาจไม่ง่าย แต่การทำลายโครงการน่ะง่ายจะตายไป..."แววตาของผู้อำนวยการหูมืดมนลง ดูเหมือนจะเตรียมพร้อมที่จะดับเครื่องชน เขาคลุกคลีอยู่ในแวดวงธุรกิจมาหลายปี จะยอมแพ้ให้กับเด็กสาวที่เป็นมือใหม่ได้อย่างไร"ไอ้ฉีอวิ๋นเทียนนี่ สงสัยต้องหาวิธีจัดการซะแล้ว...""ผู้อำนวยการหู ผมมีวิธีมาเสนอครับ..."คิ้วของผู้อำนวยการหูกระตุก ใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม "พูดมาซิ วิธีอะไร"ผู้ช่วยกระซิบข้างหู เบาจนได้ยินแค่ผู้อำนวยการหูเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าใบหน้าของผู้อำนวยการหูเต็มไปด้วยรอยยิ้ม "สมแล้วที่ติดตามฉันมานานหลายปี ไม่ได้ทำให้นายเรียนรู้อะไรน้อยลงเลย งั้นก็ทำตามที่นายพูดเถอะ""ได้ครับ ผู้อำนวยการหู"...ตกกลางคืน บาร์เฟยหลี่หลีเกอจัดงานเลี้ยงฉลองให้ฉีอวิ๋นเทียน เชิญเพื่อนร่วมงานภายในบริษัทเข้าร่วม เมื่อทุกคนอยู่รวมกัน บรรยากาศในงานค่อนข้างคึกคักทีเดียว"พวกเราต้องขอแสดงความยินดีกับประธานฉีด้วยนะครับ ที่สามารถคว้า
"ไป เอาโทรศัพท์ของคนที่ชื่อหลีเกอมาให้ฉัน..."เมื่อคำพูดนี้จบลง เด็กแว๊นหลายคนก็กรูกันเข้ามา ใช้ค้อนทุบกระจกรถ สิ้นเสียง "ปัง" แค่ครั้งเดียว กระจกหน้ารถก็แตกละเอียด เศษกระจกกระเด็นไปโดนหลีเกอ เสียงสัญญาณในรถดังเตือนหนวกหู"เธอ หลีเกอใช่ไหม เอาโทรศัพท์มานี่"พอพูดจบเขาก็ตั้งท่าจะเอื้อมมือเข้ามาแย่งโทรศัพท์ในมือหลีเกอหลีเกอหลบไปทางด้านข้าง ยกขาขึ้นเตะไปที่หัวของชายคนนั้นด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ เลือดกำเดาไหลออกมาทางจมูกของเขาในทันที"กล้านักนะ ต่อหน้าคนตั้งมากมาย พวกแกคิดจะทำอะไร?"ชายคนนั้นเจ็บปวดมาก ยกมือกุมหน้าตัวเอง “นังบ้าเอ๊ย ฉันจะจัดการกับแกยังไงดี?!"พูดจบก็ตั้งท่าจะปีนเข้ามาในรถแต่ทันใดนั้น รถเก๋งสีดำหรูหราหลายคันก็ขับเข้ามา เสียงเบรกดังขึ้นต่อเนื่อง บอดี้การ์ดที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีกรูล้อมรอบกลุ่มคนเหล่านี้ไว้ราวกับหน่วยรบสวรรค์ที่ถูกส่งลงมาอย่างทันท่วงที พวกเขามีส่วนสูงเฉลี่ย 185 เซนติเมตร ร่างกายกำยำแข็งแรง ทำให้พวกเด็กแว๊นผอมแห้งแรงน้อยที่อยู่โดยรอบตกใจกลัว"มัวยืนอยู่ทำไมวะ วิ่งสิโว้ย!"แต่ตอนนี้ พวกเขาถูกล้อมรอบเอาไว้หมดแล้ว ไม่มีทางหนีรอดไปได้ส่วนชายท
คฤหาสน์ของครอบครัวลุงใหญ่ตระกูลฮั่วขณะนี้ ฮั่วอวิ๋นเจินเดินไปเดินมาพร้อมกับถือโทรศัพท์อยู่ในมือ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นมาเต็มจมูกตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้พอมองไปที่นาฬิกาบนฝาผนัง เข็มชี้ไปที่เลข 11 แต่เด็กแว๊นพวกนั้นยังไม่มีวี่แววว่าจะตอบกลับฮั่วอวิ๋นเจินหมดความอดทนแล้ว เปลี่ยนรองเท้าแล้วกำลังจะเดินออกไป แต่จังหวะนั้นเอง เสียงรถมอเตอร์ไซค์ท่อดังกลับดังขึ้นจากหน้าประตูฮั่วอวิ๋นเจินแสดงสีหน้าดีใจ รีบเปิดประตูให้"หู่จื่อ เรื่องที่ฉันฝากเป็นยังไงบ้าง?"หัวหน้าแก๊งที่ชื่อหู่จื่อถอดหมวกกันน็อกออก มองฮั่วอวิ๋นเจินด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ปากเอ่ยว่า "พี่อวิ๋นเจิน ขอโทษด้วย"ฮั่วอวิ๋นเจินยังไม่ทันได้ตั้งตัว ถามซ้ำอีกครั้ง"ขอโทษเรื่องอะไรกัน? อย่าบอกนะว่าเรื่องที่ฉันให้ไปจัดการไม่สำเร็จ เป็นไปได้ยังไง? พวกนายตั้งหลายคน จัดการผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียวไม่ได้เลยเหรอ?"หู่จื่อหน้าแดงก่ำ"พี่อวิ๋นเจิน ข่าวที่คุณได้มาน่าจะเข้าขั้นเพี้ยนเลยแหละ""หมายความว่าไง?""ขอโทษด้วยนะ พี่อวิ๋นเจิน เงินหนึ่งล้านที่พี่ให้มา ผมจะคืนให้ครบทุกบาท แต่ตอนนี้รบกวนพี่ช่วยไปกับพวกเราห
"อวิ๋นเจินโตจนถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมทำอะไรไม่หัดคิดหน้าคิดหลังซะบ้าง คราวนี้ถือว่าเป็นบทเรียนก็แล้วกัน""แม่ครับ ผมมีลูกสาวแค่คนเดียว ถ้าเธอต้องติดคุก คนเป็นพ่ออย่างผมจะอยู่ยังไง?"แต่คุณย่าฮั่วกลับไม่สะทกสะท้าน "เธอโตแล้ว ควรรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ"ฮั่วเจี้ยนกั๋วไม่คิดว่าคุณย่าฮั่วจะเด็ดขาดขนาดนี้ จึงพูดขู่ "แม่ครับ ถ้าอวิ๋นเจินเป็นอะไรไป ผมก็จะไม่อยู่บนโลกนี้แล้วเหมือนกัน ถ้าแม่ไม่อยากสูญเสียลูกชายในวัยชรา งั้นก็ตามใจ"พูดจบฮั่วเจี้ยนกั๋วก็เดินออกไปอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง เหลือไว้เพียงคุณย่าฮั่วที่ถอนหายใจด้วยความสิ้นหวังสุดท้าย คุณย่าฮั่วก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปหาฮั่วจิ้นเฉิง "จิ้นเฉิง เรื่องนี้หลานน่าจะต้องไปหาเสี่ยวเกอจริง ๆ เธอเป็นคนใจอ่อน ลองเจรจากันดูซิว่าพอจะมีวิธีไกล่เกลี่ยกันได้ไหม?"ฮั่วจิ้นเฉิงเปลี่ยนไปสวมชุดสูทเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าเย็นชา ไม่มองหน้าใคร "คุณย่า เรื่องนี้ยกให้ฝ่ายกฎหมายของตระกูลฮั่วจัดการเถอะครับ"เขาไม่มีหน้าไปขอร้องหลีเกอ เพราะการขโมยความลับของบริษัทไม่ใช่เรื่องเล็ก ชุดข้อมูลสำคัญเมื่อหลุดออกไปอาจทำให้บริษัททั้งบริษัทล้มละลายได้ดังนั้น เขาจึงต
เพียงแต่เฉียวซีอวิ๋นไม่ได้มีค่ามากขนาดนั้น!"...สามเดือน ผมต้องการประกันตัวเธอแค่สามเดือน ถามให้หน่อยซิว่าเงินประกันพอจะลดครึ่งหนึ่งได้ไหม ถ้าได้ก็โอนเงินเลย!""ได้ค่ะ ประธานฮั่ว"...ที่บริษัทตี้เซิ่ง หลีเกอกำลังประชุมร่วมกับบริษัทต่างชาติ เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง เจิ้งหลิ่วก็เคาะประตูห้องทำงานของเธอ "คุณหลีครับ คนจากฝ่ายกฎหมายของบริษัทฮั่วกรุ๊ปมาแล้ว พวกเขาต้องการพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องที่ฮั่วอวิ๋นเจินขโมยข้อมูลลับของบริษัท"หลีเกอสั่งการทันที "เรื่องนี้มอบให้ทนายความของบริษัทเราจัดการก็ได้ สุดท้ายค่อยมารายงานผลให้ฉันก็พอ""ได้ครับ คุณหลี"เจิ้งหลิ่วออกไปก็บังเอิญเจอกับผู้อำนวยการหูที่หน้าห้องทำงาน เจิ้งหลิ่วแสดงสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม ทักทายอย่างสุภาพ "ผู้อำนวยการหู"ผู้อำนวยการหูพูดด้วยรอยยิ้ม "เลขาเจิ้ง คุณเป็นคนเก่าแก่ของหลีหาน ไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนั้นหรอก"แต่เจิ้งหลิ่วกลับพยักหน้าเล็กน้อย "ผู้อำนวยการหูมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?"สายตาของผู้อำนวยการหูมองไปยังประตูห้องทำงานที่ปิดสนิท "ผมมาหาคุณหลี..."พูดจบก็เดินตรงไปที่ห้องทำงานของหลีเกอ"คุณหลี ยุ่งอยู่หรือเปล่า
ผู้อำนวยการหูเห็นว่าท่าทีของหลีเกอผิดปกติไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแค่ว่าเรื่องนี้ทำให้หลีเกอตั้งตัวไม่ทัน เธอเลยยังไม่ทันมีปฏิกิริยาใด ๆดังนั้นเขาจึงพูดว่า "ผิดหรือไม่ผิด ฝ่ายตรวจสอบบัญชีจะตรวจสอบให้ชัดเจน ขณะนี้คณะตรวจสอบอยู่ที่บริษัท คุณหลีจะออกไปดูหน่อยไหม?"หลีเกอมองเขาอย่างมีนัยยะ จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปที่ห้องทำงานของฉีอวิ๋นเทียนขณะนี้มีกลุ่มคนสวมเครื่องแบบกำลังหาหลักฐานต่าง ๆ แต่ ฉีอวิ๋นเทียนกลับนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา ท่าทางไม่สนใจอะไรเลย"ตรวจสอบเสร็จหรือยัง ถ้าเสร็จแล้วก็อย่ามายุ่งกับงานของผมอีก..." ฉีอวิ๋นเทียนพูดอย่างไม่แยแสแต่กลุ่มคนที่สวมเครื่องแบบเหล่านั้นไม่ได้สนใจเขา ยังคงค้นหาต่อไปฉีอวิ๋นเทียนหัวเราะเสียงเย็น สายตาค่อย ๆ เย็นชาลง หลีเกอเดินเข้ามา เห็นภาพแล้วสีหน้าไม่ดีเลย"พวกคุณกำลังทำอะไร"หัวหน้ากลุ่มคนที่สวมเครื่องแบบหยุดลง โค้งให้หลีเกอแล้วพูดว่า "ประธานหลี สวัสดีครับ พวกเรากำลังปฏิบัติหน้าที่! มีคนแจ้งเบาะแสด้วยชื่อจริงว่า คุณฉีอวิ๋นเทียนใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวในระหว่างปฏิบัติงาน ยักยอกเงินจำนวนมาก"หลีเกอยิ้ม มุม
ผู้อำนวยการหูเห็นทั้งสองคนร้องเพลงกันอย่างเข้าขาและสอดประสานกันอย่างดี ความไม่พอใจในใจของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น และส่งสายตาให้กับนักบัญชีที่อยู่ไม่ไกล นักบัญชีเข้าใจความหมาย จึงก้าวเท้าไปอยู่ตรงหน้าฉีอวิ๋นเทียน "ประธานฉีคะ เราต้องตรวจสอบบัญชีธนาคารในนามของคุณ โปรดให้ความร่วมมือด้วย..."ฉีอวิ๋นเทียนหัวเราะเสียงเย็น แล้วหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากนั้นก็หยิบบัตรเครดิตออกมาทีละใบ การกระทำของเขาแสดงถึงความดูถูก แต่บัตรที่หยิบออกมากลับทำให้ทุกคนตกใจไปตาม ๆ กันมีบัตรเครดิตสีดำรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันของธนาคารชั้นนำทั้งห้าของประเทศ และยังมีบัตรทองคำของธนาคารแห่งชาติสวิสอีกด้วย...เขาวางไว้บนโต๊ะทีละใบทำให้ฝ่ายบัญชีมองตาค้าง"นี่… นี่บัตรเครดิตของคุณทั้งหมดเลยเหรอ?"ฉีอวิ๋นเทียนหัวเราะในลำคอ "อยากตรวจสอบมากไม่ใช่เหรอ? ตรวจสอบเลยสิ แต่ผมคิดว่ายอดเงินในบัตรแต่ละใบคงไม่ใช่แค่ไม่กี่ล้านบาทหรอกนะ"ฝ่ายบัญชีรีบเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก แต่ก็ยังฝืนพูดว่า "บัตรของคุณเป็นของจริงทั้งหมดหรือเปล่า? ไม่ใช่ของปลอมนะ! ต้องเป็นชื่อคุณเท่านั้น..."ฉีอวิ๋นเทียนกอดอก"งั้นก็เช็กดูสิว่าใช่ชื
"หรือว่านี่เป็นแผนของคุณตั้งแต่แรก?""จุดประสงค์ของคุณคืออะไร? ต้องการไล่ผมออกจากตี้เซิ่งเหรอ?""..."ฉีอวิ๋นเทียนพูดเน้นทีละคำ แต่ละคำล้วนคมคายบาดลึก ทำให้ผู้อำนวยการหูพูดไม่ออก อึกอักอยู่นานก็ยังพูดประโยคที่สมบูรณ์ไม่ได้แต่ฉีอวิ๋นเทียนไม่ได้สนใจเขา กลับมองไปทางหลีเกอที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นก็พูดว่า "ประธานหลี คุณคิดว่าไงครับ?"หลีเกอเหลือบมองผู้อำนวยการหูอย่างเย็นชา จากนั้นก็พูดอย่างใจเย็น "ประธานฉีเป็นลูกชายคนโตของตระกูลฉีในประเทศ F และยังเคยเป็นอดีตคู่หมั้นที่ทางครอบครัวของเราสองคนจัดการให้ เขาเข้ามาทำงานที่ตี้เซิ่งด้วยความกระตือรือร้นและมีศักยภาพอย่างแท้จริง ทุกวันนี้ทุกคนคงเห็นความสามารถของท่านประธานฉีแล้ว โครงการตานตงเป็นสิ่งที่เขาทำการเจรจาและได้มาด้วยตัวเอง เรื่องในวันนี้ ทุกคนจำเป็นต้องอธิบายให้ประธานฉีฟังโดยละเอียด"สายตาของหลีเกอกวาดไปรอบ ๆ สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่นักบัญชี ความเย้ยหยันในดวงตาปรากฏชัดเจน"ในเมื่อคุณแจ้งเบาะแสด้วยชื่อจริง แสดงว่าคุณมีหลักฐานอยู่ในมือน่ะสิ?""งั้นตอนนี้ก็แสดงหลักฐานออกมา! ถ้าหามาไม่ได้ คุณก็จะเข้าข่ายความผิดฐานแจ้งความเท็จ ติดคุกสถานเดียว"