ผู้อำนวยการหูเห็นทั้งสองคนร้องเพลงกันอย่างเข้าขาและสอดประสานกันอย่างดี ความไม่พอใจในใจของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น และส่งสายตาให้กับนักบัญชีที่อยู่ไม่ไกล นักบัญชีเข้าใจความหมาย จึงก้าวเท้าไปอยู่ตรงหน้าฉีอวิ๋นเทียน "ประธานฉีคะ เราต้องตรวจสอบบัญชีธนาคารในนามของคุณ โปรดให้ความร่วมมือด้วย..."ฉีอวิ๋นเทียนหัวเราะเสียงเย็น แล้วหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากนั้นก็หยิบบัตรเครดิตออกมาทีละใบ การกระทำของเขาแสดงถึงความดูถูก แต่บัตรที่หยิบออกมากลับทำให้ทุกคนตกใจไปตาม ๆ กันมีบัตรเครดิตสีดำรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันของธนาคารชั้นนำทั้งห้าของประเทศ และยังมีบัตรทองคำของธนาคารแห่งชาติสวิสอีกด้วย...เขาวางไว้บนโต๊ะทีละใบทำให้ฝ่ายบัญชีมองตาค้าง"นี่… นี่บัตรเครดิตของคุณทั้งหมดเลยเหรอ?"ฉีอวิ๋นเทียนหัวเราะในลำคอ "อยากตรวจสอบมากไม่ใช่เหรอ? ตรวจสอบเลยสิ แต่ผมคิดว่ายอดเงินในบัตรแต่ละใบคงไม่ใช่แค่ไม่กี่ล้านบาทหรอกนะ"ฝ่ายบัญชีรีบเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก แต่ก็ยังฝืนพูดว่า "บัตรของคุณเป็นของจริงทั้งหมดหรือเปล่า? ไม่ใช่ของปลอมนะ! ต้องเป็นชื่อคุณเท่านั้น..."ฉีอวิ๋นเทียนกอดอก"งั้นก็เช็กดูสิว่าใช่ชื
"หรือว่านี่เป็นแผนของคุณตั้งแต่แรก?""จุดประสงค์ของคุณคืออะไร? ต้องการไล่ผมออกจากตี้เซิ่งเหรอ?""..."ฉีอวิ๋นเทียนพูดเน้นทีละคำ แต่ละคำล้วนคมคายบาดลึก ทำให้ผู้อำนวยการหูพูดไม่ออก อึกอักอยู่นานก็ยังพูดประโยคที่สมบูรณ์ไม่ได้แต่ฉีอวิ๋นเทียนไม่ได้สนใจเขา กลับมองไปทางหลีเกอที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นก็พูดว่า "ประธานหลี คุณคิดว่าไงครับ?"หลีเกอเหลือบมองผู้อำนวยการหูอย่างเย็นชา จากนั้นก็พูดอย่างใจเย็น "ประธานฉีเป็นลูกชายคนโตของตระกูลฉีในประเทศ F และยังเคยเป็นอดีตคู่หมั้นที่ทางครอบครัวของเราสองคนจัดการให้ เขาเข้ามาทำงานที่ตี้เซิ่งด้วยความกระตือรือร้นและมีศักยภาพอย่างแท้จริง ทุกวันนี้ทุกคนคงเห็นความสามารถของท่านประธานฉีแล้ว โครงการตานตงเป็นสิ่งที่เขาทำการเจรจาและได้มาด้วยตัวเอง เรื่องในวันนี้ ทุกคนจำเป็นต้องอธิบายให้ประธานฉีฟังโดยละเอียด"สายตาของหลีเกอกวาดไปรอบ ๆ สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่นักบัญชี ความเย้ยหยันในดวงตาปรากฏชัดเจน"ในเมื่อคุณแจ้งเบาะแสด้วยชื่อจริง แสดงว่าคุณมีหลักฐานอยู่ในมือน่ะสิ?""งั้นตอนนี้ก็แสดงหลักฐานออกมา! ถ้าหามาไม่ได้ คุณก็จะเข้าข่ายความผิดฐานแจ้งความเท็จ ติดคุกสถานเดียว"
หลีเกอและฉีอวิ๋นเทียนสบตากัน ทั้งสองคนเข้าใจตรงกันผู้อำนวยการหูเห็นอย่างนั้นก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่ลังเล คว้าตัวเสี่ยวเจิ้งมาแล้วผลักให้ล้มลงไปอยู่ตรงหน้าหลีเกอ"ไอ้สารเลว พูดมาเดี๋ยวนี้ว่าแกทำจริงรึเปล่า! กล้าใส่ร้ายประธานฉีว่ารับสินบน ฉันว่าแกคงกินหมีกินเสือเข้าไปสินะ!"เสี่ยวเจิ้งตกใจกลัวจนตัวสั่นคลานขึ้นมาจากพื้นตรงหน้าหลีเกอแล้ววิงวอนขอร้องไม่หยุด "ประธานหลี ให้อภัยผมเถอะครับ! ผมแค่คิดร้ายชั่ววูบ เผลอทำผิดอย่างร้ายแรงลงไป ผมไม่ได้ตั้งใจ..."หลีเกอจ้องมองเขาจากมุมมองที่สูงกว่าโดยไม่สะทกสะท้านเสี่ยวเจิ้งหันไปขอร้องฉีอวิ๋นเทียนที่อยู่ข้าง ๆ "ประธานฉี ได้โปรดเถอะครับ ปล่อยผมไปเถอะ... ผมไม่กล้าทำอย่างนี้อีกแล้ว"ฉีอวิ๋นเทียนค่อย ๆ ย่อตัวลง มุมปากยกขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มร้ายกาจ"...ให้อภัยคุณ ไม่ใช่เรื่องที่ทำไม่ได้หรอกนะ แต่คุณต้องบอกผมมาตามตรงว่าใครสั่งให้คุณทำแบบนี้..."เสี่ยวเจิ้งเงยหน้าขึ้นมองผู้อำนวยการหูที่อยู่ข้าง ๆ อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แล้วก็รีบหลุบตามองพื้นยอมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว"ไม่มีใครสั่งผมครับ ผมแค่อิจฉาประธานฉีที่ได้งานชิ้นใหญ่มา เลยอยากหาทางทำให้ประธานฉีห
ฉีอวิ๋นเทียนรู้สึกเป็นครั้งแรก ว่าการที่เขาเป็นคนตระกูลฉีก็ดีเหมือนกัน..."โครงการตานตงนี้ บริษัทของเรารับช่วงแต่เพียงผู้เดียวคงมีความเสี่ยงอยู่บ้าง ดังนั้นผมขอแนะนำให้หาบริษัทที่มีฐานะทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งพอ ๆ กันมาร่วมมือ ความเสี่ยงของเราก็จะลดลงไปมาก..."เมื่อพูดถึงเรื่องงาน ใบหน้าของฉีอวิ๋นเทียนไม่มีความเหลาะแหละเหลวไหลอีกแล้วจากนั้นก็พูดต่อ "ในบรรดาบริษัทชั้นนำในเมืองปินเฉิง นอกจากบริษัทฮั่วกรุ๊ปแล้ว ก็มีบริษัทเอฟแอลกรุ๊ปที่แข็งแกร่งที่สุด อีกทั้งประธานบริษัทก็คือฟู่ซิวเป่ย พวกคุณทั้งสองร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่ง ก็จะได้ผลลัพธ์ที่มากกว่าหนึ่งบวกหนึ่งแน่นอน"หลีเกอแสดงความแปลกใจออกมา "คุณหมายความว่าจะให้เราร่วมมือกับเอฟแอลกรุ๊ปงั้นเหรอ?"ฉีอวิ๋นเทียนพยักหน้า "เอฟแอลกรุ๊ปเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่อย่าลืมว่า..."ฉีอวิ๋นเทียนหยุดพูดไป แล้วเงยหน้ามองหลีเกอ "ยังมีอีกตัวเลือกหนึ่ง นั่นคือฮั่วกรุ๊ป""ฮั่วจิ้นเฉิงเหรอ?" หลีเกอพูดชื่อนี้ออกมาโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็ส่ายหน้าเบา ๆ ปฏิเสธทันที "ไม่ลิสต์ฮั่วกรุ๊ปไว้ในการพิจารณาแล้วกัน เอาเป็นเอฟแอลกรุ๊ปดีกว่า"เพราะเธอไม่อยากมีส่วนเกี่ย
"คุณเจิ้ง วันนี้มีงานอะไรบ้างคะ"เจิ้งหลิ่วเดินตามเธอโดยเว้นระยะห่างครึ่งก้าว รายงานตารางงานของเธอ "เช้าวันนี้สิบโมง มีประชุมกับบริษัทต่างชาติผ่านวิดีโอ บ่ายสองนัดคุยเรื่องโครงการกับผู้จัดการบริษัทฉีหัง ตอนเย็นหนึ่งทุ่ม เข้าร่วมงานฉลองครบรอบแต่งงานห้าสิบปีของประธานของหมิงจื้อกรุ๊ปและภรรยาของเขา...""โอเค จำได้แล้ว"ทันทีที่พูดจบ โทรศัพท์ในกระเป๋าของหลีเกอดังขึ้น "ไงจ๊ะ ที่รัก ยุ่งอยู่หรือเปล่า?"เสียงของเจี่ยงอีอีดังมาจากโทรศัพท์ "ครั้งก่อนที่ฉันบอกเธอว่ามีลูกค้าต้องการให้เราออกแบบเสื้อผ้าในงบสามแสน วันนี้เธอเข้ามาที่ร้านแล้วนะ""ลูกค้าระบุว่าอยากเจอเธอโดยตรง พอจะมีเวลาแวะมาที่นี่สักแป๊บไหม?"ขณะที่ผลักประตูเข้าไปในห้องทำงาน หลีเกอถาม "เมื่อไหร่?""ฉันถามแล้ว ขอแค่ก่อนเที่ยง ตอนไหนก็ได้""โอเค ไว้เจอกัน"เจี่ยงอีอีวางสาย ไม่ลืมเสิร์ฟกาแฟให้อีกฝ่าย "คุณจิน รอสักครู่นะคะ ดีไซเนอร์ของเรากำลังจะเดินทางมาเร็ว ๆ นี้..."หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าคุณจินพยักหน้ารับเล็กน้อย ไม่พูดอะไรทันใดนั้นหน้าร้าน ร่างที่คุ้นเคยหยุดยืนนิ่ง เฉียวซีอวิ๋นเพิ่งออกจากคุกวันนี้ สิ่งแรกที่เธอทำ คือใช้บัตร
"ออกมาเพื่ออาละวาดน่ะเหรอ?" หลีเกอเยาะเย้ยอย่างไม่เกรงใจสีหน้าของเฉียวซีอวิ๋นเปลี่ยนไป แต่ก็อดกลั้นความโกรธในอกไว้ มุมปากยกยิ้มหยัน "รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงออกมาได้?""จิ้นเฉิงยอมควักเงินประกันตัวไม่อั้นเพื่อฉัน เข้าใจหรือยังล่ะหลีเกอ ในใจของจิ้นเฉิงมีแต่ฉันคนเดียวมาตลอด ส่วนเธอก็แค่เมียเก่าที่เขาเกลียดชัง"เมื่อได้ยินแบบนั้น หลีเกอไม่ได้โกรธ ไม่โมโหใด ๆ ยกแขนกอดอก สีหน้าไม่สะทกสะท้าน"งั้นก็ขอความกรุณาล่ามโซ่ให้อยู่กับที่ด้วย อย่าออกมาไล่กัดคนอื่นอีกเลย""แก!" เฉียวซีอวิ๋นกัดฟัน จ้องมองหลีเกออย่างดุร้าย "ฉันจะบอกอะไรให้ หลีเกอ ที่ผ่านมาฉันต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหน ฉันก็จะให้เธอได้ลิ้มรสด้วยเหมือนกัน""ถ้าเธออยากเข้าคุกอีกรอบก็ลองดูสิ"คำพูดของหลีเกอมีพลังข่มขวัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเฉียวซีอวิ๋นที่เพิ่งออกจากคุกมา คำพูดนี้ไม่ต่างอะไรกับการกางอาณาเขตร่างกายของเฉียวซีอวิ๋นสั่นสะท้านเธอไม่อยากเหยียบย่างเข้าไปในคุกอีกเลยตลอดชีวิตนี้"...แก ระวังไว้ให้ดีเถอะ"เฉียวซีอวิ๋นพูดจาข่มขู่บ้างแต่ทันทีที่เธอพูดจบหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโซฟาด้านหลังกลับเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวประคองถ้วยก
"ชุดหลักที่จัดแสดงในงานแฟชั่นโชว์ที่ปินเฉิงก่อนหน้านี้ เป็นผลงานการออกแบบของคุณใช่ไหม! มันยอดเยี่ยมมากเลย ฉันได้ยินชื่อเสียงเกี่ยวกับคุณเยอะเลยตั้งแต่ตอนอยู่ที่ประเทศ F"พูดจบ จินชั่นชั่นก็ยื่นมือมาหาหลีเกอ "สวัสดีค่ะ ฉัน จินชั่นชั่น!""สวัสดีค่ะ คุณจิน ก่อนอื่นต้องขอบคุณสำหรับคำเตือนสติที่กล้าหาญของคุณเมื่อกี้มากเลยนะคะ ถ้าวันข้างหน้าคุณอยากมาเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ร้านของเราในอนาคต ฉันจะลดราคาให้เฉพาะคุณแปดเปอร์เซ็นต์"จินชั่นชั่นยิ้มยินดี พูดติดตลก "แค่พูดความจริงสองสามคำ ดูเหมือนว่าจะได้กำไรไม่น้อยเลยนะ""คุณต้องการชุดราตรีแบบสั่งตัดพิเศษด้วยใช่ไหมคะ?" หลีเกอถามดวงตาของจินชั่นชั่นเจือรอยยิ้มบาง ๆ จากนั้นก็พูดว่า "ฉันอยากสั่งตัดชุดราตรีเครื่องลายครามแบบเดียวกันกับในงานแฟชั่นโชว์เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม ฉันเลยนึกถึงคุณเป็นคนแรก พอจะมีเวลาช่วยตัดให้ฉันหรือเปล่า?""แน่นอนค่ะ ฉันจะวัดตัวให้คุณตอนนี้เลย"หลีเกอวัดตัวให้จินชั่นชั่น ทั้งสองสาวพูดคุยกันถูกคอก่อนจากไป จินชั่นชั่นยื่นนามบัตรให้กับหลีเกอ "...ถ้าชุดเสร็จเมื่อไหร่ อย่าลืมโทรหาฉัน ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักนะคะ"หลีเกอรับมา "ด้
แต่ฮั่วจิ้นเฉิงยังคงจ้องไปยังทิศทางที่หลีเกอจากไป ถามกลับ "เฉียวซีอวิ๋น คุณจงใจใช่ไหม? คุณรู้ว่าหลีเกออยู่ที่นี่ ก็เลยจงใจเรียกผมมาแสดงละครลิงให้เธอเห็นเหรอ?""...จิ้นเฉิง เข้าใจผิดแล้ว!""พอเถอะ ผมรู้ดีว่าคุณเป็นคนยังไง"“ที่ผมยอมประกันตัวคุณออกมา ไม่ใช่ให้คุณมาที่นี่เพื่อแสดงความเย่อหยิ่งและหยาบคายนะ""ขอเตือนคุณไว้เลย อยู่ให้ห่างจากหลีเกอมากเท่าไหร่ยิ่งดี ไม่อย่างนั้น ผมจะส่งคุณกลับเข้าไปเอง""..."เฉียวซีอวิ๋นโกรธมาก เธออยากจับแขนฮั่วจิ้นเฉิง แต่เขากลับสะบัดออก "พอซะที อย่ามาเสแสร้งทำตัวน่าสงสารที่นี่ บัตรเครดิตผมก็ให้คุณไปแล้ว อยากซื้ออะไรก็ซื้อเอง ครั้งหน้าอย่าโทรหาผมอีก"หลังจากพูดประโยคนี้จบ ฮั่วจิ้นเฉิงก็ไม่สนใจสีหน้าที่น่าเกลียดของเฉียวซีอวิ๋น ทิ้งไว้เพียงแค่แผ่นหลังอันเด็ดเดี่ยวให้เธอมองตามในรถฮั่วจิ้นเฉิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออก "ผมให้คุณตามดูเฉียวซีอวิ๋น มีความคืบหน้าอะไรบ้าง?""คุณฮั่ว ตอนนี้ยังไม่มีข่าวอะไรครับ...""คอยดูให้ดี ถ้ามีความเคลื่อนไหวอะไร รายงานให้ผมรู้ทันที""ครับ คุณฮั่ว"หลังจากวางสาย ฮั่วจิ้นเฉิงก็โยนโทรศัพท์ไปด้านข้างเขาเงยหน้าขึ้น