ในชั่วพริบตา หลีเกอกลายเป็นที่สนใจของทุกคนราวกับดวงดาวที่ส่องแสงคุณย่าฮั่วเห็นดังนั้นก็รู้สึกปลาบปลื้มใจ แต่หลี่ซูฉินที่นั่งอยู่มุมโถงตลอดเวลากลับรู้สึกหงุดหงิดกลุ่มคนเหล่านี้เคยประจบสอพลอจนเป็นนิสัยเมื่อลมพัดไปทางไหนก็จะพัดไปทางนั้น เมื่อก่อนตอนที่เธอมีอำนาจ ทุกคนก็พากันประจบสอพลอ แต่ตอนนี้กลับพากันเข้าหาหลีเกอสิ่งนี้ทำให้เธออดนึกถึงฮั่วซินไม่ได้ตอนนี้ฮั่วซินยังคงทุกข์ทรมานอยู่ในแอฟริกา แต่หลีเกอกลับมีชีวิตที่สุขสบาย หลี่ซูฉินรู้สึกเจ็บปวดในใจ"คุณแม่คะ เธอไม่ใช่คนในครอบครัวของเราแล้ว คุณแม่เชิญเธอมาได้ยังไงคะ?"คุณย่าฮั่วไม่พอใจ "เสี่ยวเกอเป็นแขกของฉัน เธอถือดียังไงมาก้าวก่าย ถ้าว่างมากก็เข้าไปช่วยในครัว อย่ามายุ่งวุ่นวายที่นี่"หลี่ซูฉินเห็นดังนั้นก็ทำได้เพียงยอมแพ้เธอหันหลังเดินไปทางห้องครัวในเวลานี้ คุณย่าฮั่วก็ยื่นมือไปปิดหน้าอกตัวเอง บริเวณดังกล่าวรู้สึกเจ็บแปลบดูเหมือนว่าอาการเก่าจะกำเริบเธอจึงลุกขึ้นเดินไปที่บันได ตั้งใจจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน"หลีเกอ..." ฮั่วอวิ๋นเจินฝ่าฝูงชนมาหาเธอ หลีเกอรู้สึกดีกับฮั่วอวิ๋นเจินอยู่แล้ว พี่สาวคนนี้มักจะใจดี ไม่เคยรังแกเ
"ทำอะไร?"ที่ประตู เสียงของฮั่วจิ้นเฉิงเต็มไปด้วยความโกรธแทบจะไม่ลังเล เขาเดินจากประตูไปหาหลีเกออย่างรวดเร็ว แล้วจับมือเธอโดยไม่พูดอะไรหลีเกอยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถูกเขาลากออกไป"...นั่นคืออะไร" หลีเกอเงยหน้าขึ้น ถามด้วยความไม่เชื่อฮั่วจิ้นเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ได้อธิบายอะไร "ไม่ว่าเธอจะเห็นอะไรเมื่อกี้ อย่าคิดมาก"แต่ในใจของหลีเกอกลับยิ่งประหลาดใจมากกว่าเก่ารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น"...แปลกเกินไปแล้ว" หลีเกอบ่น คิดถึงสิ่งที่เธอเพิ่งเห็นสายตาของเธอหยุดอยู่ที่ใบหน้าของฮั่วจิ้นเฉิง แล้วก็ถามในที่สุดว่า "ทำไมรูปขาวดำของคุณถึงได้แขวนอยู่บนผนัง ฮั่วจิ้นเฉิง คุณเป็นผีเหรอ?"ฮั่วจิ้นเฉิงโกรธ"อย่าพูดไร้สาระ คุณคงตาฝาดไป""...จริงเหรอ" หลีเกอถามอีกครั้ง เมื่อพูดจบ เธอถึงสังเกตเห็นว่ามือของฮั่วจิ้นเฉิงจับมือเธอไว้แน่น จึงรีบดึงออกโดยไม่ลังเล"...งานเลี้ยงวันเกิดจะเริ่มแล้ว ลงไปกันเถอะ" ฮั่วจิ้นเฉิงมือว่างเปล่า แต่ก็ยังอดทนชวนเธอแม้ว่าหลีเกอจะสงสัยในใจ แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองอาจจะคิดมากไปจริง ๆตอนนี้ฮั่วจิ้นเฉิงตัวเป็น ๆ ก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่เหรอ?"คุณย่าล่
แต่ฮั่วจิ้นเฉิงไม่พูดอะไรเลย เขาพูดออกมาตามตรงว่า “ฉันต้องการแค่เธอ"หลีเกอโกรธจัด จึงปฏิเสธว่า "คุณฮั่วคะ ฉันไม่สะดวก"สีหน้าของฮั่วจิ้นเฉิงเคร่งขรึม ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เขาไม่สามารถบังคับเธอได้ ในที่สุดก็ถูกฮั่วอวิ๋นเจินดึงตัวไปหลังจากที่พวกเขาจากไป คุณย่าฮั่วจึงรีบเดินไปหาหลีเกอ ถามด้วยความเป็นห่วงว่า "เสี่ยวเกอ หนูไม่เป็นไรนะ"หลีเกอได้สติ จึงรีบส่ายหน้า "ฉันไม่เป็นไรค่ะ คุณย่า คุณย่าสบายดีขึ้นหรือยังคะ?""ย่าไม่เป็นไรมากหรอก แค่โรคประจำตัวเฉย ๆ น่ะ..."ทันทีที่พูดจบ ฮั่วซวงซวงก็ดึงหูเด็กชายอายุประมาณแปดขวบคนหนึ่งลงมาจากชั้นบน ตัวของเด็กชายเปื้อนสีเต็มไปหมด ในมือถือพู่กันสองด้าม ร้องไห้โฮเพราะถูกกระชากลงมา"ไอ้ลูกดื้อคนนี้ ดูซิว่าแกทำอะไรลงไป!"เด็กชายร้องไห้โฮออกมาทันที เสียงร้องไห้ดังก้องไปทั่วห้องโถงคุณย่าฮั่วไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ตวาดสีหน้าบึ้งตึ้ง "พอได้แล้ว ไม่รู้จักอายหรือไง"ฮั่วซวงซวงก็คาดไม่ถึงเช่นเดียวกัน เธอตั้งใจจะเล่นงานหลีเกอ แต่กลับทำให้ฮั่วจิ้นเฉิงเปรอะเปื้อนไปทั้งตัวถ้าฮั่วจิ้นเฉิงรู้เข้า ไม่รู้ว่าจะจัดการกับลูกชายของเธอยั
ฮั่วอวิ๋นเจินเห็นเขาผละหนีออกไปจากตัวเองราวกับผีเข้า เธออดหัวเราะเยาะตัวเองไม่ได้กลับมาอยู่กับร่องกับรอยอีกครั้งเธอหลุบตาลง กำมือแน่นความโกรธที่ถูกปฏิเสธปรากฏชัดบนใบหน้า อดคิดไม่ได้ถึงเหตุการณ์เมื่อกี้ที่บันได ฮั่วจิ้นเฉิงปกป้องหลีเกอโดยสัญชาตญาณ...ไม่ใช่ว่าหย่ากันแล้วเหรอทำไมตัดบัวแล้วยังไม่ขาดเยื่อใยล่ะ?ดวงตาของฮั่วอวิ๋นเจินดูหม่นหมองลง พร้อมกับความโหดเหี้ยมแวบผ่านในดวงตา...หลังจากฮั่วจิ้นเฉิงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กลับมาที่ห้องโถงแล้ว เขาก็หาหลีเกอทั่วทั้งงาน แต่ไม่เจอแม้แต่เงาคุณย่าฮั่วเห็นเช่นนั้นก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดว่า "เสี่ยวเกอกลับไปแล้ว..."ฮั่วจิ้นเฉิงรู้สึกประหลาดใจ อดไม่ได้ที่จะบ่น "คุณย่า คุณย่าไม่รั้งเธอไว้หน่อยล่ะครับ?""เด็กคนนี้ พูดความจริงกับย่ามาตรง ๆ เถอะ แกคิดยังไงกับเธอกันแน่?"น้ำเสียงของคุณย่าฮั่วไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด "...ตอนแรกย่าขอให้แกเอาใจเสี่ยวเกอให้มาก แกกลับเอาแต่ดื้อรั้น ตอนนี้หย่ากันแล้ว แกก็ยังดิ้นรนตามง้อเธออีก ไม่คิดว่าทำตัวน่าสมเพชอยู่หรือไง?""คุณย่า! พูดแบบนี้ไม่ถูกนะครับ!"แต่คุณย่าฮั่วกลับไม่พอใจ "ตอนนั้นแกควบคุมแม่ผู้ห
"จริงด้วย ไหน ๆ วันนี้เธอก็มาที่ร้านพอดี ฉันนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้"เจี่ยงอีอีขัดจังหวะความคิดของเธอ จากนั้นจึงพูดต่อ "ก่อนหน้านี้มีลูกค้าระบุชื่อเธอ ขอให้เธอออกแบบชุดราตรีให้หน่อย""ชุดราตรีแบบไหน?"เจี่ยงอีอีพลิกใบสั่งซื้อของลูกค้าบนเคาน์เตอร์ แล้วส่งให้หลีเกอ "ลูกค้าเสนอราคาสามล้านบาท ไม่มีกำหนดเวลา ภายในหกเดือนนี้เมื่อไหร่เธอว่างค่อยทำก็ได้"หลีเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วรับมาดูคำสั่งซื้อนั้นเรียบง่าย ไม่มีอะไรหรูหรา มีเพียงชื่อและหมายเลขโทรศัพท์เท่านั้น"ลึกลับจัง เธอมีข้อกำหนดอะไรเกี่ยวกับชุดราตรีเป็นพิเศษหรือเปล่า?""ไม่ได้บอกอะไรเลย บอกแค่ว่าเมื่อไหร่เธอว่างค่อยนัดหมายคุยรายละเอียดกันตัวต่อตัว เธอลองดูแล้วกันว่าจะรับงานนี้ดีไหม"หลีเกอเบ้ปาก มุมปากเผยรอยยิ้มที่สวยงาม"รับสิ จะไม่รับได้ยังไง นี่ถือเป็นงานชิ้นใหญ่ของร้านเรา เราต้องรับไว้อยู่แล้ว""เรื่องนี้ให้ฉันจัดการเอง ช่วงนี้บริษัทค่อนข้างยุ่ง ไว้ฉันจะติดต่อเธออีกทีตอนจัดการอะไร ๆ ลงตัว""ได้ เอาตามที่เธอว่าเลย"...วันจันทร์มาถึงในพริบตาหลีเกอมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้าตรู่ พอเข้ามาชั้นล่างก็เจอฉีอวิ๋นเทียน ฉีอวิ๋นเที
โครงการของฉีอวิ๋นเทียนได้รับการอนุมัติเป็นเอกฉันท์หลังจบการประชุมหลีเกอเป็นคนแรกที่ออกจากห้องประชุม เจิ้งหลิ่วเดินตามเธอมาครึ่งก้าว แล้วรายงานงานต่าง ๆ"หลีเกอ!"ทั้งสองเพิ่งเดินมาถึงหน้าประตูห้องทำงาน ก็มีเสียงเรียกดังขึ้น ทันใดนั้น ฮั่วอวิ๋นเจินก็เดินยิ้มแย้มเข้ามาหาหลีเกอหลีเกอแปลกใจ ตั้งแต่เธอและฮั่วจิ้นเฉิงหย่ากัน ถือว่าเธอตัดขาดจากตระกูลฮั่วอย่างสิ้นเชิงบรรดาญาติของตระกูลฮั่วก็ไม่เคยมาติดต่อหรือวุ่นวายกับเธออีกเลยฮั่วอวิ๋นเจินมาที่นี่ทำไมกัน?ถึงจะสงสัย แต่หลีเกอก็ยังพูดอย่างสุภาพว่า "พี่อวิ๋นเจิน มาได้ยังไงคะ?"ฮั่วอวิ๋นเจินยกกล่องเก็บความร้อนในมือขึ้น "คุณย่าให้ฉันมาส่งซุปไก่ให้เธอน่ะ..."หลีเกอพยักหน้า ปิดแฟ้มเอกสารในมือ ส่งกลับให้เจิ้งหลิ่ว "ทำตามที่คุณเสนอเลย""ครับ ประธานหลี"หลังจากเจิ้งหลิ่วจากไป หลีเกอก็หันไปหาฮั่วอวิ๋นเจิน "พี่อวิ๋นเจิน ไปนั่งคุยกันที่ห้องทำงานฉันดีไหมคะ?"ฮั่วอวิ๋นเจินตอบตกลงตามหลีเกอเข้าไปในห้องทำงานฮั่วอวิ๋นเจินประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของหลีเกอ เมื่อก่อนหลีเกออยู่ในตระกูลฮั่วมักจะอ่อนน้อมถ่อมตนและยอมคนเสมอถึงแม้ว่าจะได้เป็นถ
“ไม่ว่ายังไง ถึงเธอจะไม่ได้อยูกับฮั่วจิ้นเฉิงแล้ว ฉันก็ยังถือว่าเธอเป็นน้องสาวเสมอเลย”เมื่อเสียงพูดจบลง ประตูห้องทำงานก็ดังขึ้น "ก๊อก ก๊อก"หลีเกอวางชามในมือลง หยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดมุมปากแล้วพูดว่า "เชิญค่ะ"เมื่อเสียงพูดจบลง ฉีอวิ๋นเทียนก็เดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารกองหนึ่ง เมื่อเห็นว่ามีคนอื่นอยู่ เขาก็กลับมาแสดงท่าทีจริงจังเหมือนเดิม "คุณหลี เอกสารที่ต้องให้คุณตรวจสอบอยู่ตรงนี้ครับ"หลีเกอแทบไม่เคยเห็นเขาจริงจังขนาดนี้มาก่อน จึงพยักหน้าเล็กน้อย "วางไว้บนโต๊ะฉันก็ได้ค่ะ""ครับ คุณหลี"แต่แล้วฮั่วอวิ๋นเจินก็เห็นฉีอวิ๋นเทียน ปากของเธออ้าค้างด้วยความประหลาดใจ "ฉีอวิ๋นเทียน นายมาอยู่นี่ได้ยังไง?"เมื่อได้ยินแบบนั้นฉีอวิ๋นเทียนจึงเงยหน้าขึ้นมองฮั่วอวิ๋นเจิน ในฐานะเพื่อนสนิทของฮั่วจิ้นเฉิงมานานหลายปี เขาจะไม่รู้จักฮั่วอวิ๋นเจินได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้น เขารู้จักเธอดีกว่านั้นอีก รู้แม้กระทั่งความลับบางอย่างของฮั่วอวิ๋นเจินฉีอวิ๋นเทียนตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่ไม่จริงใจ "ผมทำงานที่ตี้เซิ่งน่ะสิ!"คราวนี้ถึงคราวที่ฮั่วอวิ๋นเจินเป็นฝ่ายประหลาดใจทายาทของบริษัทฉีกรุ๊ป ผู้สืบทอดกิจการคนต
"ถ้าคุณมีความสามารถพอจะงัดได้ เกมนี้คงสนุกขึ้นเยอะ""..."ฮั่วอวิ๋นเจินวางสาย จากนั้นก็เลื่อนนิ้วอย่างไม่ใส่ใจ ดวงตาของเธอเป็นประกายไม่คิดว่าการมาที่บริษัทของหลีเกอครั้งนี้จะได้อะไรมากมายทีเดียวหลีเกอนะ หลีเกอ!วันประมูลพรุ่งนี้ เธอเตรียมตัวแพ้ราบคาบได้เลย...หลังจากฮั่วอวิ๋นเจินจากไปฉีอวิ๋นเทียนก็หาโอกาสกลับมาที่ห้องทำงานของหลีเกออีกครั้งตอนนี้เขาไม่แสดงท่าทีเจ้าชู้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว กลับจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "ฮั่วอวิ๋นเจินมาที่นี่ทำไม?"หลีเกอเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วพูดหยอกล้อ"ดูเหมือนคุณจะใส่ใจเธอมากเลยนะ?"ฉีอวิ๋นเทียนพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก "ห่วงใยเหรอ เธอคู่ควรด้วยเหรอ?"จากนั้นก็เดินไปหาหลีเกอ แล้วใช้สายตาจริงจังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนมองไปที่หลีเกอ"เทพธิดา ฮั่วอวิ๋นเจินเป็นคนที่ชอบใช้วิธีการสกปรกมากที่สุด เราต้องระวังให้มาก"เมื่อพูดจบ สายตาของฉีอวิ๋นเทียนก็มองไปยังเอกสารที่วางอยู่ด้านข้าง"ทุกคนรู้ดีว่าโครงการตานตงนี้สามารถทำกำไรได้มหาศาล มีหลายคนหมายปอง ผมกลัวว่าฮั่วอวิ๋นเจินจะคิดไม่ซื่อบางอย่าง"เมื่อหลีเกอได้ยินอย่างนั้น สีหน้าเฉยเมยของเธอก็เปลี่
เมื่อได้ยินเช่นนั้นร่างกายของผู้หญิงกลุ่มนี้ก็สั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าพวกเธอเคยลิ้มรสความโหดเหี้ยมของแส้มาก่อนในเวลานี้ เฉวียนเย๋ หัวหน้ากลุ่มก็เดินออกมาดวงตาไร้ความรู้สึกจ้องมองหลีเกอ "ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะเก่งขนาดนี้… ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็หนีออกมาได้แล้ว"หลีเกอมองเขาอย่างเย็นชา น้ำเสียงไร้ความอบอุ่น"ปล่อยเราไป ไม่งั้นฉันจะถล่มที่นี่ให้ราบเป็นหน้ากลอง"ชายคนนั้นกลับหัวเราะราวกับได้ยินเรื่องตลก แล้วก็ตบมือ เดินเข้ามาหาหลีเกอต้องยอมรับว่าหลีเกอมีเครื่องหน้าที่สวยมาก แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมสมบุกสมบันแบบนี้ แต่ก็ยังคงมีความสวยที่แตกต่างออกไป นางฟ้านางสวรรค์แบบนี้ ถ้าพาไปขายในตลาดมืดคงจะได้ราคาดีไม่น้อยแต่ก็เท่านั้นแหละ สวยก็ส่วนสวย แต่กลับเป็นกุหลาบมีหนาม"ปล่อยพวกเธอไปเหรอ ฝันไปเถอะ"พูดจบ เขาก็โบกมือให้บอดี้การ์ดสองสามคนเดินเข้าไปแต่ในเวลานี้ลูกน้องอีกคนก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา "พี่เฉวียน ไม่ดีแล้ว บาร์ของเราถูกปิดล้อมแล้ว"สีหน้าของพี่เฉวียนเปลี่ยนไปทันที ตะโกนด้วยความโกรธ “ได้ยังไงวะ?!""คำสั่งของตระกูลหลี ตระกูลหลีมหาเศรษฐีครับ"พี่เฉวียนคว้าค
"จะทำยังไงดี พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะถูกส่งตัวออกไปแล้ว… จะไม่มีวันได้เจอครอบครัวอีกแล้วใช่ไหม?""ฮือฮือฮือ ฉันไม่อยากตาย ใครก็ได้ช่วยเราที""..."พูดจบก็มีเสียงสะอื้นดังระงมหลีเกอเห็นภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าท่ามกลางสังคมที่เจริญแล้วเช่นนี้ จะยังมีเรื่องราวมืดดำแบบนี้ซุกซ่อนอยู่สายตาของเธอเหลือบมองไปตามเสียงสะอื้นแต่ในวินาทีถัดมา เธอกลับสบเข้ากับดวงตาคู่หนึ่งที่เย็นชาอย่างมาก ซึ่งขัดกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าหญิงสาวดังกล่าวดูอายุประมาณสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี แต่กลับมีความเยือกเย็นและเฉลียวฉลาดเหมือนผู้ใหญ่ใบหน้าของเธอไร้อารมณ์ แต่ดวงตากลับจ้องมองหลีเกอราวกับต้องการจะมองให้ทะลุปรุโปร่งทั้งสองฝ่ายต่างเงียบ ไม่พูดอะไรผ่านไปครึ่งชั่วโมงหญิงสาวจึงเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจนัก "คุณจะช่วยเราออกไปได้จริง ๆ เหรอ?"หลีเกอตอบอย่างมั่นใจ "เชื่อฉันสิ เราต้องออกไปได้แน่นอน"ประโยคนี้เปรียบเสมือนผู้ไถ่บาปที่ทำให้บรรดาหญิงสาวมีความหวัง แต่ในวินาทีถัดมา หญิงสาวก็เห็นว่าหลีเกอถูกมัดมือมัดเท้าอยู่ความหวังที่เพิ่งผุดขึ้นดับวูบลงไปหลีเกอลดสายตาลง
ชายในห้องเดินออกมาหลังจากนั้น เมื่อเห็นหลีเกอก็ตาเป็นประกาย "โอ้โห นี่มันของดีจากไหนกัน..."บางคนจำหลีเกอได้ว่าเป็นคนที่เข้ามาพร้อมกับฉีอวิ๋นเทียน จึงกระซิบบอกชายคนนั้นว่า "พี่เฉวียน คนนี้เป็นแขกที่คุณชายฉีพามาครับ"เมื่อชายคนนั้นได้ยินชื่อฉีอวิ๋นเทียน สีหน้าก็เปลี่ยนไปแล้วก็เดินเข้ามาหาหลีเกอ "เมื่อกี้เธอเห็นอะไร ได้ยินอะไรบ้าง?"หลีเกอจ้องเขม็งมองเขา ไม่มีแววความกลัวในดวงตา "พวกคุณทำธุรกิจอย่างเปิดเผย แต่ที่ไหนได้ กลับมีธุรกิจมืดอีกอย่างหนึ่งซ่อนอยู่ ผู้หญิงในห้องนั้น พวกคุณลักพาตัวมาใช่ไหม?"ชายคนนั้นยิ้ม แววตาแฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม "ดูเหมือนวันนี้เธอคงไม่อยากออกไปจากที่นี่แล้ว...แต่ก็ดี ของดีแบบเธอน่ะหายาก"พูดจบก็โบกมือให้ลูกน้องเดินเข้ามาหลีเกอหัวเราะเยาะ "อยากจับฉัน ก็ลองดูสิว่าพวกนายมีปัญญาหรือเปล่า"ทันทีที่พูดจบ ชายร่างกำยำหลายคนก็กรูเข้ามา หลีเกอมีสีหน้าเคร่งขรึม ลงมือสวนกลับอย่างรวดเร็วและแม่นยำ เตะตัดขาของคู่ต่อสู้ทุกการออกแรงไม่มีความลังเลเลย เตะจนคู่ต่อสู้ถอยหลังไปหลายก้าวชายที่ถูกเรียกว่าพี่เฉวียนรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที "ดูเหมือนตั้งใจมาหาเรื่องสินะ"พูดจบ
ฉีอวิ๋นเทียนพยักหน้ารัวเร็ว "แหงสิ นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญ""แต่ฉันสังหรณ์ใจว่าคุณน่าจะได้เจอกับเนื้อคู่ของคุณเร็ว ๆ นี้"เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉีอวิ๋นเทียนก็ตกใจ "เทพธิดา ล้อกันเล่นหรือเปล่า?"หลีเกอขมวดคิ้ว "ทำไม ไม่เชื่อเหรอ?""ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่ในโลกนี้ นอกจากคุณแล้ว หายากมากที่จะมีใครทำให้หัวใจผมสั่นไหวอีก"ฉีอวิ๋นเทียนพูดจบก็ถอนหายใจ "แต่เมื่อเทียบกับตัวผมแล้ว ความสุขของเทพธิดาสำคัญกว่า..."เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้ตัดสินใจลาออกจากตี้เซิ่งโดยไม่ลังเล เพื่อให้เธอมีความสุขส่วนความสุขของตัวเขาเองนั้นไม่สำคัญเลย"คืนนี้มีงานเลี้ยง คุณก็อยู่ร่วมด้วยสิ"หลีเกอเพิ่งจะปฏิเสธ ฉีอวิ๋นเทียนกลับทำหน้าตาอ้อนวอน "เทพธิดา มาเถอะนะ ไม่งั้นปู่ผมไม่ยอมปล่อยผมไปแน่ ๆ เลย..."หลีเกอหัวเราะคิกคัก เมื่อนึกว่าฉีอวิ๋นเทียนผู้ไม่เคยหวาดกลัวอะไรเลย กลับมีลาสบอสที่ทำให้เขากลัวหัวหดนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ดี ในที่สุดเธอก็ตอบตกลง "ได้"ฉีอวิ๋นเทียนดีใจมาก "ตกลงตามนั้นนะ ไว้เจอกันตอนเย็น"...ตกเย็นหลีเกอเปลี่ยนไปสวมชุดลำลองสบาย ๆ แล้วก็ออกจากบ้าน สถานที่ที่ฉีอวิ๋นเทียนจั
เมื่อได้ยินคำพูดของคุณนายคนนั้น นิ้วของซ่งเซียงเซียงก็จิกเข้าไปในเนื้ออย่างเงียบ ๆ แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเอาซะเลยในเวลานี้ ซ่งฟู่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน เดินตรงมาหาซ่งเซียงเซียงได้ยินเสียงตบดัง ‘เผียะ’ ซ่งเซียงเซียงเอามือปิดหน้าตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา ปากก็พูดด้วยความน้อยใจ "พ่อ ตบฉันทำไมคะ!"ซ่งฟู่โกรธมากเมื่อครู่หลี่หานได้ส่งคนมาเตือนเขาแล้ว ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะซ่งเซียงเซียงพยายามกลั่นแกล้งหลีเกอ"ซ่งเซียงเซียง แกนี่ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ก่อนมาฉันเคยเตือนแกว่ายังไง? กล้าดียังไงถึงกล้าไปยุ่งกับคุณหนูหลี!"ซ่งเซียงเซียงปิดหน้าไม่น่าเชื่อว่าพ่อที่รักเธออย่างสุดหัวใจ กลับลงมือตบหน้าเธอต่อหน้าคนอื่นเพราะหลีเกอคนเดียวเธอหลุบตาลง ไม่พูดอะไร แต่ในใจกลับโทษทุกอย่างว่าเป็นความผิดของหลีเกอซ่งฟู่จ้องเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวสุดขีด แล้วพูดต่อว่า "ถ้าแกทำให้คุณหนูหลีขุ่นเคือง บริษัทเหม่ยห่าวอิเล็กทริคของเราต้องล่มสลายแน่ รู้ตัวไหมว่าแกทำอะไรลงไป!"ซ่งเซียงเซียงกัดริมฝีปากแน่น ไม่ยอมพูดอะไรซ่งฟู่เห็นว่าเธอยังไม่สำนึก จึงพูดตรง ๆ "อย่ามาทำให้ฉันขายหน้าอยู่ที่นี่ รีบกลับไปเดี๋ยวน
ในทันใดนั้นเอง หลีเกอก็เริ่มบอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การบริหารของตัวเองอย่างคล่องแคล่วคำพูดของเธอทั้งแฝงอารมณ์ขันและดึงดูดความสนใจ ไม่โอ้อวดมากเกินไปและไม่ถ่อมตัวจนน่ารำคาญ จับจุดได้อย่างเหมาะเจาะการอธิบายง่าย ๆ สิบนาที ทุกคนในที่นั้นกลับพร้อมใจกันตั้งใจฟัง จนกระทั่งจบลง ห้องประชุมก็เงียบไปหลายวินาที ก่อนที่จะปรบมือกันอย่างกึกก้อง"คุณหนูหลีเป็นอัจฉริยะทางธุรกิจจริง ๆ!""มีหลักแนวคิดที่ชัดเจน ผ่อนคลายและเข้มงวดในเวลาเดียวกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอบริหารตี้เซิ่งให้เจริญรุ่งเรืองได้""คุณหนูหลีเป็นคนที่เราควรเรียนรู้เอาเป็นเยี่ยงอย่างจริง ๆ! ถึงเธอจะยังอายุน้อย แต่แนวคิดทางธุรกิจของเธอก็มมมีความเป็นปัจเจกสูงมาก""ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกับคุณหนูหลี จะถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยล่ะสำหรับพวกเรา!""..."เมื่อได้ยินเสียงสรรเสริญรอบข้าง ซ่งเซียงเซียงก็อึ้งงันไปเดิมทีเธอต้องการหาทางโจมตีหลีเกอแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่คาดคิดว่าจะทำให้เธอโด่งดังในครั้งนี้เป็นไปไม่ได้!เป็นไปได้ยังไงเนี่ย?"เดี๋ยวก่อน..."ซ่งเซียงเซียงส่งเสียงเรียกหลีเกอที่กำลังจะลงจากเวทีไว้ตอนนี้เธอไม่สนใจอะไรทั้งน
เธอเดินหลังตรงไปที่หลังเวทีไม่นานนัก พิธีเปิดการประชุมสุดยอดทางธุรกิจก็เริ่มขึ้น พิธีกรยืนอยู่บนเวทีแล้วกล่าวเปิดงานอย่างคล่องแคล่วในไม่ช้า บรรยากาศของการประชุมสุดยอดทางธุรกิจก็ถึงจุดพีคของงาน"ผมเชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ ณ ที่นี้ล้วนเป็นสุดยอดของสุดยอดในแวดวงธุรกิจของเรา ตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิม เราจะสุ่มเลือกผู้โชคดีขึ้นมาแบ่งปันประสบการณ์การบริหารธุรกิจ"เมื่อพิธีกรพูดจบซ่งเซียงเซียงก็เดินออกมาจากหลังเวที หันไปมองหลีเกอด้วยสีหน้ามืดมนในใจก็คิดอะไรบางอย่างหลังจากนั้น เธอก็เดินไปหาคุณนายผู้ร่ำรวยกลุ่มนั้น แล้วก็แสดงสีหน้าเยาะเย้ย "เดี๋ยวรอดูได้เลย มีเรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นแน่"คุณนายผู้ร่ำรวยไม่เข้าใจว่าซ่งเซียงเซียงกำลังคิดจะทำอะไร จึงเตือนว่า "คุณหนูซ่ง อย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า"ซ่งเซียงเซียงเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยโสโดยไม่พูดอะไรในใจคิดว่าต้องทำให้หลีเกออับอายขายหน้าให้ได้แต่ในเวลานี้ พิธีกรบนเวทีกลับหันไปมองหลีเกอที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน"วันนี้เรามีบุคคลสำคัญผู้ทรงอิทธิพลมากท่านหนึ่งมาร่วมงานของเรา นั่นก็คือประธานบริษัทตี้เซิ่ง คุณหนูหลีเกอ ทางเราขอเชิญคุณหนูหลีเกอขึ้นมาแ
หลีเกอจ้องเขม็งมองเธอ ซ่งเซียงเซียงรู้สึกผิดจึงหดคอลงตีงูต้องตีที่หัวหลีเกอรู้ว่าซ่งเซียงเซียงกังวลสิ่งใดมากที่สุดดังนั้น เธอจึงพูดด้วยเสียงแผ่วเบา"ถึงเวลาที่สมควรแก่การปฏิรูปบริษัทเหม่ยห่าวอิเล็กทริคแล้ว งานประชุมสุดยอดทางธุรกิจครั้งนี้ เธอถอนตัวไปเถอะ"เมื่อได้ยินแบบนั้นซ่งเซียงเซียงก็ร้อนรนขึ้นมาจริง ๆ"ไม่ได้"เธอโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว เหม่ยห่าวอิเล็กทริคเป็นความหวังเดียวของครอบครัว ถ้าเธอถอนตัวออกจากการประชุมทางธุรกิจครั้งนี้ บริษัทก็จะได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล"หลีเกอ ฉันจะยอมทำตามที่เธอต้องการทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้ ฉันให้ไม่ได้จริง ๆ"หลีเกอพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ตอนนี้ถ้าถอนตัวไปซะเราก็ยังพอจะประนีประนอมกันได้ แต่ถ้าไม่ยอม เมื่อถึงเวลาที่ต้องถูกบีบให้ถอนตัว คราวนี้เหม่ยห่าวอิเล็กทริคจะถึงคราวพินาศของจริง"ซ่งเซียงเซียงรู้สึกเข่าอ่อนความกลัวจากภายในจู่โจมทั่วทั้งร่าง ไม่คิดเลยว่าหลีเกอจะมีความคิดและกลยุทธ์ที่เฉียบคมแบบนี้ในเวลานี้เธอเสียใจจนแทบจะกลั้นใจตาย แต่ก็ยังพยายามต่อรอง "หลีเกอ เหม่ยห่าวอิเล็กทริคเป็นความหวังของครอบครัวเรา อย่าทำลายมันเลยนะ""ฉ
"คุณหนูหลี ผมทำธุรกิจส่งออก หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมมือกับคุณในอนาคตนะครับ""บริษัทของเราส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ฉันหวังว่าคุณหลีจะให้คำแนะนำแก่ฉันในอนาคต""..."เมื่อเผชิญกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นของผู้คน หลีเกอก็ยิ้มตอบอย่างสุภาพ ไม่วางตนโอ้อวดและไม่ดูถูกใคร จึงได้รับความชื่นชมจากผู้คนจำนวนมากแม้แต่นักธุรกิจหลายรายก็เสนอความร่วมมือกับหลีเกอโดยตรง หลีเกอก็ใช้โอกาสนี้กอบโกยคำสั่งซื้อจำนวนมากให้กับบริษัทตี้เซิ่งซ่งเซียงเซียงก็เฝ้าดูเหตุการณ์เหล่านี้อยู่ตลอดโลกทัศน์ของเธอพังทลายลงตั้งแต่หลีหานแนะนำตัวตนของหลีเกอเธอรู้สึกมึนงงไปหมดเมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงสมัยเรียน เธอกับเพื่อน ๆ ทั้งดูถูก เหยียดหยาม และพูดจาไม่ดีใส่หลีเกอสารพัดคิดแล้วก็ให้รู้สึกเสียใจจนแทบขาดใจทั้ง ๆ ที่มีทรัพยากรที่ดีขนาดนี้อยู่ใกล้ตัว แต่เธอกลับทำลายมันไปเอง"เซียงเซียง มัวยืนอยู่ตรงนี้ทำไม?""พ่อไม่ได้กำชับให้ลูกไปทำความรู้จักกับคุณหนูหลีหรอกเหรอ เพื่อจะได้หาคำสั่งซื้อเพิ่ม แล้วทำอะไรอยู่?"ซ่งฟู่ดึงซ่งเซียงเซียงมาตำหนิเบา ๆซ่งเซียงเซียงยังไม่รู้สึกตัว ตอนนี้เธอจิกเล็บลงไปในเนื้อตัวเองอย่างแ