แต่เห็นได้ชัดว่าฮั่วซินดูจะไม่ค่อยพอใจ“ฮั่วซิน ฉันจะให้โอกาสเธอ ถอนผลงานชิ้นนี้ออกจากนิทรรศการด้วยตัวเองซะ ไม่งั้นฉันจะทำให้เธอต้องเสียใจจนลืมไม่ลง”ฮั่วซินไม่สนใจหลีเกอไม่มีต้นฉบับ เธอแน่ใจว่าหลีเกอเองก็ไม่มีหลักฐานเช่นกัน ดังนั้นจึงพูดจาโอหังโดยไม่ละอาย“แล้วแต่”พูดจบก็ยืดอกเดินจากไปอย่างหยิ่งผยองเมื่อผลักประตูกระจกก็ชนเข้ากับโม่อี้เฟยพอดี “พี่อี้เฟย! มาทำอะไรที่นี่คะ?”โม่อี้เฟยไม่ได้ตอบคำถามของเธอ แต่กลับมองไปทางหลีเกอที่อยู่ไม่ไกลนัก ถามเหมือนไม่ตั้งใจว่า “ความสัมพันธ์ของเธอกับหลีเกอดีขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”ฮั่วซินพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก “พี่อี้เฟย พูดอะไรน่ะ ใครมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเธอ เธอกลายเป็นคุณหนูตระกูลหลีไปแล้ว ฉันเอื้อมไม่ถึงหรอก”คำพูดของเธอเต็มไปด้วยความประชดประชัน“อ๋อ…”โม่อี้เฟยลากเสียงยาว ไม่ได้พูดอะไรมากฮั่วซินก็ไม่ได้สนใจโม่อี้เฟยอีก เหยียบรองเท้าส้นสูงก้าวเดินจากไปหลังจากที่เธอจากไปแล้วโม่อี้เฟยจึงก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง ซึ่งแสดงโปรแกรมบันทึกเสียง เวลาหยุดอยู่ที่ห้านาทีดวงตาของเขามืดลง กดปุ่มหยุดและเซฟคลิปเสียงไว้“คุณหนูหลี นานเลยนะ
แต่หลีเกอกลับส่ายหัวเบา ๆ น้ำเสียงหนักแน่นมา “ไม่ค่ะ ฉันต้องเอาของของฉันคืนมาเอง”เธอหันไปมองฮั่วซินในฝูงชนตอนนี้ฮั่วซินกำลังโด่งดัง พูดคุยกับคนใหญ่คนโตในวงการอย่างออกรสเธอเห็นหลีเกอที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย แสดงท่าทีเยาะเย้ย ราวกับท้าว่าคนอย่างเธอจะทำอะไรฉันได้“คุณหนูฮั่ว อาจารย์โม่ให้มาเชิญคุณค่ะ”เจ้าหน้าที่ในงานเดินไปหาฮั่วซิน พูดอย่างสุภาพฮั่วซินพยักหน้าเล็กน้อย “ได้ค่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”แล้วก็หมุนตัวเดินตามเจ้าหน้าที่ไปขณะนี้ อาจารย์โม่กำลังพูดคุยกับเพื่อน ๆ ร่วมวงการเกี่ยวกับผลงานของฮั่วซิน เมื่อเห็นว่าฮั่วซินมาแล้ว อาจารย์โม่จึงแนะนำว่า “ท่านประธานจู เพื่อนของผมสนใจงานออกแบบของคุณมาก อยากฟังแนวคิดการออกแบบและแรงบันดาลใจในการออกแบบจากคุณโดยตรง”“ค่ะ อาจารย์โม่” ฮั่วซินหันไปมองท่านประธานจูที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดว่า “เกี่ยวกับแนวคิดการออกแบบของผลงานชิ้นนี้ ฉันหยิบยกผู้หญิงในสังคมปัจจุบันที่มีอิสระและความเข้มแข็งมากมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบค่ะ ฉันอยากออกแบบเสื้อผ้าที่แสดงถึงความเป็นผู้หญิงที่มีอิสรเสรี นั่นคือที่มาของต้นแบบผลงานชิ้นนี้ ผ่านการแก้ไขหลาย
“คุณบอกว่าผลงานออกแบบชิ้นนี้ไม่ใช่ของฉัน งั้นคุณก็เอาหลักฐานมาให้ฉันดูสิ! ถ้าคุณแสดงหลักฐานไม่ได้ ฉันจะฟ้องคุณข้อหาหมิ่นประมาท”ฮั่วซินมั่นใจว่าหลีเกอไม่มีหลักฐานอีกฝ่ายพูดจาไม่เกรงใจ หลีเกอกลับพูดอย่างตรงไปตรงมา “ฉันไม่มีหลักฐานในมือจริง ๆ”“เกินไปนะ ไม่มีหลักฐานยังกล้ากล่าวหาว่าคนอื่นลอกเลียนแบบ”"ใช่ นี่มันใส่ร้ายป้ายสีกันชัด ๆ""ไม่คิดว่าหลีเกอที่เป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหลีจะเป็นคนแบบนี้""คุณคงไม่รู้ล่ะสิ ฮั่วซินเคยเป็นน้องสะใภ้ของเธอมาก่อน อาจเป็นไปได้ว่าเธอทำแบบนี้ก็เพื่อแก้แค้นฮั่วซิน""โอ้โห้ น่ากลัวเกินไปแล้ว"ฮั่วซินเห็นว่าความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ต่างก็เข้าข้างตัวเอง ทำให้ยิ่งได้ใจสายตาของผู้คนเฉียบแหลม เธอมั่นใจมากว่าวันนี้จะทำให้หลีเกอที่มาด้วยรอยยิ้มต้องร้องไห้กลับไป"เหอะ ไม่มีหลักฐานก็ขอโทษฉันซะ ฉันอาจจะเมตตาปล่อยผ่านก็ได้"หลีเกอยิ้มหยัน"ขอโทษ? เธอสมควรได้รับเหรอ!"สีหน้าฮั่วซินเปลี่ยนไป "หลีเกอ เธอเป็นคนมาหาเรื่องเอง อย่าโทษฉันที่ไม่เกรงใจ"แต่หลีเกอกลับพูดว่า "ฉันไม่มีหลักฐานในมือ รวมถึงต้นฉบับของผลงานออกแบบชิ้นนี้ ก็เพราะตัวต้นฉบับโดนเธอขโมยไปไงล่ะ"
สีหน้าของฮั่วซินในขณะนี้ดูแย่มาก แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้"หลีเกอ เธอก็ดีแต่พูดพล่ามไปเรื่อยต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้เท่านั้นแหละ หลักฐานล่ะ! เอาหลักฐานมาให้ฉันสิ! ถ้าไม่มีหลักฐาน คิดว่าตัวเองจะพลิกขาวเป็นดำได้ด้วยคำพูดแค่สองสามคำเหรอ?"แม้ว่าฮั่วซินจะรู้สึกผิด แต่เธอก็ยังคงดื้อด้าน พูดพลางมองหาที่พึ่งในฝูงชนในที่สุดเธอก็เห็นฮั่วจินเฉิงราวกับคว้าเจอฟางเส้นสุดท้าย เธอรีบวิ่งไปหาฮั่วจินเฉิง"พี่ชาย! เมียเก่าพี่พยายามจะใส่ร้ายฉัน เธอยังแค้นใจเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่หายแน่ ๆ ถึงหาโอกาสแก้แค้นฉัน ต้องการทำลายอนาคตของฉันต่อหน้าทุกคน"ฮั่วจินเฉิงถูกฮั่วซินลากมาอยู่ตรงหน้าหลีเกอ สีหน้าของหลีเกอยังคงเฉยเมยไม่รู้ทำไม แต่เมื่อเห็นหลีเกอเป็นแบบนี้ แม้จะยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่เขากลับรู้สึกว่าเธออยู่ห่างไกลออกไปหลายร้อยลี้สถานการณ์มาถึงขั้นนี้ถ้าฮั่วซินถูกแฉว่าขโมยผลงานออกแบบ เธอจะหมดอนาคตในสายงานออกแบบไปโดยสิ้นเชิง การพยายามเล่าเรียนอย่างทุ่มเทหลายปีก็จะสูญเปล่า อนาคตต้องพังไม่เหลือชิ้นดีในฐานะพี่ชายของฮั่วซิน!ไม่ว่าเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร เขาไม่สามารถปล่อยให้หลีเกอทำลายอนาคตฮั่วซินไ
เมื่อเผชิญกับเสียงกล่าวหาที่ดุดันของทุกคน ฮั่วซินก็อดไม่ได้ที่จะกอดอก ริมฝีปากเผยรอยยิ้มเยาะเย้ย จากนั้นก็หันไปมองหลีเกอ"ทุกคนพูดถูกค่ะ คุณหลี หลักฐานสำคัญแบบนี้ต้องเอาออกมาโชว์ได้แล้ว ไม่งั้น... ฉันจะโทรแจ้งตำรวจแล้วนะ" ฮั่วซินโบกโทรศัพท์ในมือ ทำท่าจะกดโทรออกจริง ๆฮั่วจิ้นเฉิงต้องการขัดขวางเธอ แต่ฮั่วซินไม่สนใจเลยโม่อี้เฟยที่ยืนอยู่ไม่ไกลล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า หวังจะเปิดคลิปเสียงที่บันทึกไว้ออกมา สายตาของเขาเหลือบไปทางหลีเกอในขณะเดียวกันหลีเกอยังคงสงบราวกับว่าทุกอย่างยังคงอยู่ในกำมือ "คุณฮั่วซิน คุณมั่นใจนักเหรอว่าฉันไม่มีหลักฐาน? แต่ก็แปลกดี พอดีฉันค่อนข้างติดนิสัยชอบเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องผลงานของฉัน"สีหน้าของ ฮั่วซินแข็งทื่อ"เธอพูดอะไร?"แต่หลีเกอไม่สนใจ เธอกลับหันไปทางทุกคน "ฉันมีหลักฐานค่ะ มันอยู่ในผลงานออกแบบชิ้นนี้"ทุกคนงุนงง"หมายความว่าไง ผลงานชิ้นนี้ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษนี่""ใช่ อย่าอ้อมค้อมนักเลย เอาหลักฐานออกมาสิ พวกเราถึงจะรู้ความจริง""คุณหลี หรือคุณทิ้งลายน้ำไว้ในผลงานออกแบบ?"หลีเกอคลี่ยิ้มเล็กน้อย "ถูกต้องค่ะ ถ้าคุณฮ
"อาจารย์โม่ ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ คุณฟังฉันอธิบายก่อน ฉันแค่ตัดสินใจพลาดชั่ววูบถึงได้เผลอทำเรื่องแบบนี้ลงไป โปรดยกโทษให้ฉันด้วยนะคะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว"ฮั่วซินอ้อนวอนด้วยเสียงสะอื้นแต่ศาสตราจารย์โม่กลับไม่สะทกสะท้าน "คุณฮั่ว คุณหมดสิทธิ์สมัครสอบเรียนคลาสปริญญาโทของผม ถ้าสอบจริง คะแนนวิชาชีพอาจผ่าน แต่ในเรื่องจริยธรรม คุณสอบตก"อนาคตฮั่วซินจบเห่แล้วถูกศาสตราจารย์โม่ปฏิเสธซึ่งหน้า คนในวงการก็มีกันแค่นี้ ถ้าเธออยากทำงานสายดีไซน์เนอร์ต่อคงเป็นไปไม่ได้แล้วหลี่ซูฉินก็ตกใจไม่แพ้กันเธอรีบวิ่งเข้าไปแล้วพูดด้วยความตื่นตระหนกอย่างมาก "อาจารย์โม่คะ ซินซินเธอยังเด็กเลยไม่ทันคิด ถึงพลาดทำเรื่องแบบนี้ลงไป โปรดให้โอกาสเธออีกสักครั้งเถอะค่ะ หลังจากนี้ฉันเชื่อว่าเธอต้องพยายามอย่างหนักและสุดความสามารถแน่นอน"แต่ประธานจูที่อยู่ข้าง ๆ กลับพูดว่า "แม้แต่ความประพฤติทางวิชาการยังไม่มีความซื่อสัตย์เลย ต่อให้เรียนได้เกรดดีแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ ตัดใจเปลี่ยนสายอาชีพซะเถอะ""ไม่นะคะ! อาจารย์โม่ คนเราทำผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น ซินซินยังเด็ก ผู้ใหญ่อย่างเราไม่ควรทำลายอนาคตของเธอเพราะเรื่องแค่นี้น
ฮั่วซินตกใจกลัว!เธอแทบไม่กล้าหายใจ ไม่คิดว่าคราวนี้ฮั่วจิ้นเฉิงจะจริงจัง"แม่คะ..."หลี่ซูฉินก็ไม่คิดว่าฮั่วจิ้นเฉิงจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ รีบห้ามปราม "ลูกชาย แกทำอะไรน่ะ!""เธอทำเรื่องแบบนี้ แม่เองก็หลีกหนีความรับผิดชอบไม่พ้นไปด้วยหรอก ในฐานะพ่อแม่ การตามใจลูกมากเกินไป สุดท้ายก็จะต้องรับผล"หลี่ซูฉินถึงกับอึ้ง"ไอ้ลูกคนนี้..."ฮั่วซินเห็นดังนั้นก็รู้สึกอับอายจนทนไม่ได้ รีบวิ่งหนีไปหลี่ซูฉินกลัวว่าเธอจะทำอะไรที่โง่เขลา จึงไม่สนใจที่จะโต้เถียงกับฮั่วจิ้นเฉิง รีบวิ่งตามไปทันที"ซินซิน รอแม่ด้วย!"หลีเกอไม่สนใจเรื่องครอบครัวของพวกเขา แต่ผลลัพธ์นี้ก็ทำให้เธอรู้สึกสบายใจมากในเวลานี้ ฟู่ซิวเป่ยเดินมาหาเธอ ลูบไหล่เธอเพื่อปลอบโยน"ความจริงกระจ่างชัดแล้ว กลับกันเถอะ"หลีเกอพยักหน้า "ค่ะ"ฟู่ซิวเป่ยหันไปมองฮั่วจิ้นเฉิง แววตาเย็นชาไร้ความอบอุ่น ฮั่วจิ้นเฉิงรู้สึกหนาวสั่นในใจ เมื่อมองภาพที่ทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันแล้ว พบว่ามันช่างเจ็บปวด"หลีเกอ ตอนนี้แก้แค้นสำเร็จแล้ว เธอคงดีใจมากสินะ!" ฮั่วจิ้นเฉิงสอดมือข้างหนึ่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีนักหลีเกอหัวเราะเยา
"หมายความว่ายังไง?"ฮั่วจิ้นเฉิงไม่เข้าใจโม่อี้เฟยไม่ปิดบังอีกต่อไป รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดโปรแกรมบันทึกเสียงออกมา"นี่ไงล่ะ ความจริงที่ทำให้ฉันเรียกนายมา..."ฮั่วจิ้นเฉิงฟังคลิปบันทึกเสียงจนจบยิ่งฟังไป สีหน้าก็ยิ่งย่ำแย่"ฉันคิดว่าหลีเกอให้โอกาสเธอแล้ว แต่เธอไม่รู้จักถนอมไว้เอง กลับยังยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า! ไม่มีใครอดทนกับอะไรได้โดยที่ไม่มีขีดจำกัดหรอกนะ!"ฮั่วจิ้นเฉิงกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัวความรู้สึกเสียใจแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายแววตาของฮั่วจิ้นเฉิงปรากฏความสับสนเป็นครั้งแรก เขาจ้องมองไปด้านหน้าอย่างว่างเปล่า ก่อนจะพูดพึมพำหลังจากผ่านไปนาน "ฉันเข้าใจเธอผิดมาตลอด..."..."คุณหลี รอผมด้วยครับ"หลีเกอกำลังจะจากไป แต่ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งตามมาหลีเกอไม่รู้จักชายหนุ่มตรงหน้า จึงถามด้วยความสงสัย "มีอะไรหรือเปล่าคะ?""คุณหลี สวัสดีครับ ผมเป็นผู้ช่วยของศาสตราจารย์โม่!"ชายหนุ่มพูดจบก็ยื่นนามบัตรที่พิมพ์ด้วยตัวอักษรสีทองให้กับหลีเกอ "คุณหลี นี่คือคำเชิญที่ศาสตราจารย์โม่มอบหมายให้ผมมามอบให้คุณโดยเฉพาะครับ"หลีเกอรับมาเปิดออกดูคำเชิญจริงด้วย!"ศาสตราจารย์โม่บอกว่าวันนี้เป็นนิทรรศ