"ลูกต้องช่วยแม่แก้แค้นนะ... ฮัลโหล ลูกแม่?"หลี่ซูฉินยังพูดไม่ทันจบ ประโยคก็ถูกตัดไปแล้วเธอโกรธจนหายใจไม่ออก โยนโทรศัพท์ทิ้งลงพื้น"หลีเกอ แกมันปีศาจ!"หลี่ซูฉินโกรธจนสติแตก ใบหน้าของเธอแดงก่ำ คนรอบข้างเห็นแบบนี้ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันให้แซ่บสายตาหลายคู่พุ่งมาที่เธอ หลี่ซูฉินแทบอยากจะหาที่มุดหัวซ่อน"คุณนายฮั่ว..."ตอนนี้ร่างที่อ่อนช้อยเดินเข้ามาพร้อมกับรองเท้าส้นสูง หลินซืออี้มองเธอด้วยรอยยิ้มแล้วกล่าวทักทายหลี่ซูฉินไม่คุ้นหน้าคนแปลกหน้าคนนี้เลย เธอขยับปากแล้วถาม "คุณเป็นใคร?""คุณนายฮั่ว ฉันเป็นใครไม่สำคัญ สำคัญก็คือฉันรู้จักหลีเกอ"เมื่อพูดถึงหลีเกอ หลี่ซูฉินพลันระมัดระวังตัวมากขึ้นทันที เธอหัวเราะหึ ๆ แล้วถาม "คุณกับนังปีศาจหลีเกอนั่นเป็นพวกเดียวกันเหรอ?"แต่หลินซืออี้กลับพูดว่า "คุณนายฮั่วเข้าใจผิดแล้ว ฉันแค่จะเชิญคุณนายไปดื่มชายามบ่ายด้วยกัน แล้วก็คุยเรื่องหลีเกอไปด้วย คุณนายฮั่วมีเวลาไหม?"หลี่ซูฉินรู้สึกว่าหลินซืออี้มาไม่ดีแน่ แต่เธอก็อยากจะสอนบทเรียนให้หลีเกอจริง ๆเธอจึงตอบตกลง "ได้สิ! เราจะไปที่ไหน?"หลินซืออี้เลือกสถานที่แล้วพาหลี่ซูฉินออกไป...หลังออ
"ฮึ่ม พูดแบบอีกแล้ว"ท่าทีแบบนี้ทำให้ฮั่วจิ้นเฉิงรู้สึกโกรธมากในความทรงจำของเขา หลีเกอเป็นคนอ่อนโยนมาโดยตลอด เมื่อไหร่กันที่เธอกลายมาเป็นคนแข็งกร้าวแบบนี้ หรือว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอจะเป็นแบบนี้อยู่แล้วกันแน่"...หลีเกอ ผมได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับคุณในตี้เซิ่งมาบ้าง และรู้ว่าตอนนี้คุณต้องการขยายผลประกอบด้วย ตราบใดที่คุณต้องการ ตระกูลฮั่วสามารถช่วยแก้ไขปัญหาทั้งหมดของคุณได้"คำพูดของฮั่วจิ้นเฉิงล้วนแต่แสดงความปรารถนาดีต่อหลีเกอ"ไม่จำเป็น" คำสามคำง่าย ๆ ปฏิเสธอย่างไม่ใยดี"มีเรื่องอื่นอีกไหม ถ้าไม่มีก็กรุณาช่วยหลบไปด้วย"ฮั่วจิ้นเฉิงรู้สึกเหมือนมีไฟลุกโชนแผดเผาอยู่ในอก "...ถึงคุณจะแพ้ราบคาบ แต่ก็ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากผมงั้นเหรอ"หลีเกอรู้สึกว่าฮั่วจิ้นเฉิงวันนี้กินยาผิดขวดมาแน่ ๆ"แพ้เหรอ ในพจนานุกรมของฉันไม่มีคำว่าแพ้ แล้วก็คุณชายฮั่ว เราหย่ากันแล้วนะ ตอนนี้ตระกูลฮั่วกับตี้เซิ่งเป็นคู่แข่งกัน สำหรับความปรารถนาดีของคุณ คงต้องขอโทษด้วย แต่ดูเหมือนว่าคุณจะใช้ผิดที่แล้วล่ะ""หึ! หลีเกอ คุณยังหัวรั้นเหมือนเดิมเลยนะ"แต่หลีเกอไม่ต้องการสนใจเขาอีกต่อไป เธอเหยียบคันเร่งอย่างแรงฮ
ทางออกของสนามบินฉีอวิ๋นเทียนเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อครึ่งชั่วโมงต่อมา สุดท้ายเขาเห็นรถของหลีเกอค่อย ๆ ขับเข้ามา เขาโบกมือให้หลีเกออย่างตื่นเต้น หลังจากนั้นไม่นานรถก็จอดนิ่งอยู่ตรงหน้าเขา"ว่าไง เทพธิดา ในที่สุดคุณก็มาแล้ว"หลีเกอเห็นว่าเขาเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาก แต่กลับไม่แสดงอาการเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อย "ช่วงนี้เหนื่อยไหม"ฉีอวิ๋นเทียนเปิดประตูขึ้นรถและยิ้มอย่างสดใส "ไม่เหนื่อยเลย เป็นเกียรติของผมที่ได้ทำงานให้กับเทพธิดา"หลีเกอสตาร์ทรถและขับออกไป "จะให้ไปส่งที่บ้านไหม""ไปกินข้าวกันก่อนเถอะ การได้ทานอาหารเย็นกับเทพธิดานั้นเป็นเกียรติของผมที่สุดแล้ว"หลีเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะถามว่า "อยากกินอะไร?"ฉีอวิ๋นเทียนไม่ใช่คนเรื่องมาก"เทพธิดา ผมเป็นคนไม่เลือก ขอแค่ให้กินอิ่มก็พอ"หลีเกอ "..."หลังจากพูดจบ ฉีอวิ๋นเทียนหยิบกล่องของขวัญที่ประณีตออกมาจากกระเป๋าและยื่นให้หลีเกอ "นี่ เทพธิดา ของขวัญสำหรับคุณ"หลีเกอแปลกใจ"ข้างในเป็นอะไรเหรอ"ฉีอวิ๋นเทียนทำท่าลึกลับ "ไว้กลับไปค่อยเปิดดู แต่ต้องกลับไปเปิดเท่านั้นนะ"หลีเกอรู้สึกงุนงง ไม่รู้ว่าฉีอวิ๋นเทียนคิดจะทำอะไร"ลึก
ส่วนพวกเธอ ในวันธรรมดา รู้จักแต่กิน เที่ยว เล่น ไม่ทำอะไรจริงจังเลย!ครอบครัวไม่ค่อยพอใจเรื่องนี้นัก อยากให้พวกเธอเรียนรู้จากหลีเกอว่าควรจะบริหารธุรกิจของตระกูลได้อย่างไร ดังนั้นพวกเธอจึงยกย่องหลีเกอให้เป็นไอดอลโดยดุษณี"ไม่ได้แล้ว ฉันต้องไปขอถ่ายรูปกับไอดอล แล้วเอาไปโพสต์ลงในแวดวงเพื่อนด้วย! ต้องมีคนมากดไลก์ฉันเยอะแน่ ๆ""ฉันก็จะไปขอลายเซ็น! แล้วจะเอาไปใส่กรอบแขวนไว้ในห้องนั่งเล่นเลย""ซินซิน ไปด้วยกันไหม?"ฮั่วซินสับสนไปหมดไม่เข้าใจว่าเพื่อนใหม่ที่ตัวเองเพิ่งคบหาด้วยนั้นเป็นอะไรกันไปหมด ถึงได้ยกย่องหลีเกอให้เป็นไอดอลขนาดนั้น?"ไม่ได้นะ พวกเธอ..." เธอยังพูดไม่ทันจบลูกสาวมหาเศรษฐีทั้งหลายอดใจรอไม่ไหวรีบวิ่งไปหาหลีเกอแล้ว"คุณหลี ฉันขอถ่ายรูปกับคุณหน่อยได้ไหมคะ?"หลีเกอรู้สึกงงงวยเมื่อเห็นลูกสาวมหาเศรษฐีหลายคนวิ่งเข้ามาหาเธออย่างกะทันหัน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยเหล่านี้ หลีเกอพูดอย่างสุภาพและเย็นชา "ขอโทษด้วยนะคะ ขอปฏิเสธการถ่ายรูปนะ"ลูกสาวมหาเศรษฐีเหล่านั้นรู้สึกผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด"คุณหลี ฉันชอบคุณมากเลยค่ะ อย่างน้อยก็ขอลายเซ็นของคุณหน่อยเถอะนะ?"หลี
ฮั่วซินยื่นมือออกไปเพื่อจะตบกลับคืน แต่ฉีอวิ๋นเทียนกลับคว้าแขนเธอไว้ "ลองแตะต้องเธอสิ!"ฮั่วซินดิ้นรน แต่ก็ดิ้นไม่หลุด "หลีเกอ บอกให้เขาปล่อยฉันนะ"หลีเกอไม่สะทกสะท้าน มองดูเธอที่กำลังกระโดดโลดเต้นอยู่เหล่าคุณหนูเศรษฐีที่อยู่ข้าง ๆ เห็นฉากนี้ก็มองหน้ากันไปมา สายตาที่มองฮั่วซินนั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจ พวกเธอไม่ชอบฮั่วซินที่พยายามเสนอหน้าเข้ามาในกลุ่มของพวกเธออยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่"คุณหนูฮั่ว เธอทำกับไอดอลของฉันแบบนี้ได้ยังไง ต่อจากนี้ไม่ต้องโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีกนะ""นั่นไอดอลฉันนะ คิดอยากจะว่าร้ายยังไงก็ได้งั้นเหรอ ไม่ได้ดูสภาพตัวเองเลยว่ามีความน่าเชื่อถือแค่ไหน!”"ได้ยินมาว่าเธอมีชื่อเสียงไม่ดี คิดว่าเป็นแค่ข่าวลือ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง""...."เหล่าคุณหนูเศรษฐีต่างก็พูดจาถากถางฮั่วซิน แสดงออกชัดเจนว่าพวกเธอจะไม่คบกับเธออีกแล้วฮั่วซินโกรธจนหน้าเขียว “พวกเธอ! พวกเธอทุกคน ตอนที่ฉันซื้อของขวัญให้ทำไมพวกเธอไม่ปากดีแบบนี้ ตอนนี้กลับจะหันหลังให้ฉันเพราะมันเนี่ยนะ!""ฮ่า ฮ่า กล้าพูดว่าซื้อให้พวกฉัน! ของไร้ค่าทั้งนั้น ฉันโยนให้แม่บ้านไปหมดแล้ว""นั่นส
เมื่อปลายสายได้ยินข่าวที่สามารถทำให้คนเสื่อมเสียชื่อเสียง ก็เกิดความสนใจขึ้นมาทันที "ไม่ทราบว่าเป็นดาราคนไหนคะ ฉันจะได้เตรียมตัว"ฮั่วซินพูดช้า ๆ ว่า "หลีเกอ! หลีเกอจากบริษัทตี้เซิ่ง ฉันมีหลักฐานว่าเธอเดทกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า”เมื่อปลายสายได้ยินดังนั้น บรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันทีไม่มีความสนใจแม้แต่น้อย มีเพียงเสียงหัวเราะเยาะเย้ยควรรู้ว่าในเมืองปินเฉิงแห่งนี้ มีคนสั่งไว้แล้วว่าห้ามสื่อสำนักไหนเผยแพร่เรื่องส่วนตัวของหลีเกอโดยเด็ดขาด"โอ้ หลักฐานอะไรเหรอคะ"ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงไม่สนใจ แต่ฮั่วซินกลับไม่รู้สึกรู้สาเธอคิดว่าครั้งนี้ตัวเองต้องทำให้ทุกคนเห็นธาตุแท้ของหลีเกอให้ได้"ฉันจะส่งรูปไปให้ในอีเมลของคุณ ต้องเผยแพร่ข่าวนี้ให้ได้นะ""ค่ะ"ปลายสายตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ ฮั่วซินจึงกดส่งรูปออกไปด้วยความตื่นเต้นคิดว่าพรุ่งนี้จะได้เห็นเรื่องตลกของหลีเกอ แต่ไม่คาดคิดว่าเธอรอมาเป็นสัปดาห์แล้ว หน้าข่าวบันเทิงก็ไม่มีข่าวใดที่เกี่ยวข้องกับหลีเกอเลยแม้แต่บรรณาธิการของนิตยสารก็ยังไม่รับสาย"ฮึ่ม หลีเกอ เธอมีอิทธิพลมากขนาดนี้เลยเหรอ?" ฮั่วซินโกรธมาก แต่ก็ไม่ยอมแพ้เธอคิดในใจว่าเมื่อการแฉ
"จำคำที่พูดวันนี้ไว้ ถ้าเธอยังไปหาเรื่องรนหาที่ตายเอง ก็อย่าโทษใคร"ฮั่วซินรับปากซ้ำแล้วซ้ำอีก ก่อนจะออกจากห้องทำงานไปหลังจากที่ฮั่วซินออกไปแล้ว ฮั่วจิ้นเฉิงก็มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าเย็นชา ในระหว่างที่เหม่อลอย หลานหนีก็เดินเข้ามาโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว"ประธานฮั่วคะ"ฮั่วจิ้นเฉิงหันกลับมา "มีอะไร"หลานหนีรายงาน "เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉันตรวจสอบพบว่ามีคนซื้อหุ้นของบริษัทเราไปจำนวนมาก ดูจากท่าทางแล้ว ไม่น่าจะมาดีค่ะ""แล้วเจอข้อมูลอะไรบ้าง""อีกฝ่ายกระทำการอย่างระมัดระวังมาก ไม่มีข่าวอะไรหลุดมาเลย แต่คนของเราเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ตราบใดที่อีกฝ่ายลงมืออีกครั้ง เราคงจะหาเบาะแสได้บ้างค่ะ""อืม อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้""ค่ะ ประธานฮั่ว"ทั้งสองคนคุยเรื่องงานกันเสร็จ ฮั่วจิ้นเฉิงก็เปลี่ยนเรื่อง "เมื่อก่อนหลีเกอทำงานในบริษัทของเรา มีเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันเป็นพิเศษไหม"หลานหนีมองฮั่วจิ้นเฉิงแล้วตอบว่า “คุณเลขาหลีทำงานอย่างจริงจัง รอบคอบ และมั่นคง เธอปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงานทุกคนอย่างยุติธรรมเท่ากัน ถ้าจะให้ระบุว่าเธอสนิทกับเพื่อนร่วมงานคนไหนเป็นพิเศษ คงไม่มีค่ะ"ฮั่วจิ้นเฉิงรู้สึกผิดห
"หลีเกอ ก่อนหน้านี้ผมผิดเอง ถ้าผมรู้ตั้งแต่แรกว่าคนที่หมั้นหมายกับผมก็คือคุณ ผมคงไม่ปฏิเสธ แต่ตอนนี้ยังไม่สาย คุณโสด ผมก็โสด ถ้าคุณเต็มใจ ผมก็พร้อมเป็นตัวเลือกของคุณได้ทุกเมื่อ"พูดจบ ฉีอวิ๋นเทียนก็เตรียมจะจากไปแต่หลีเกอกลับเรียกเขาไว้ "ฉีอวิ๋นเทียน ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจ คุณคู่ควรกับคนที่ดีกว่านี้ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับฉัน"ฉีอวิ๋นเทียนกลับพูดว่า "ในหัวใจของผม คุณคือคนที่ดีที่สุด เทพธิดา อย่าด้อยค่าตัวเองเกินไปเลย การที่ผมชอบคุณเป็นเรื่องส่วนตัวของผมเอง ส่วนคุณจะเลือกผมไหม นั่นเป็นอิสระของคุณ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง ผมก็ยอมรับได้"หลังจากโยนคำพูดทิ้งไว้ ฉีอวิ๋นเทียนก็ออกจากห้องทำงานไปแต่หลีเกอกลับใจลอยไปทั้งวันเพราะคำพูดของเขาสำหรับเธอ ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับฉีอวิ๋นเทียน เธอคิดกับเขาแค่ในฐานะเพื่อนเท่านั้น นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรอื่นอีกแต่ฉีอวิ๋นเทียนกลับดื้อรั้นเหมือนวัว ไม่หลังชนฝาไม่หันหลังกลับหลีเกอถอนหายใจ บังคับตัวเองไม่ให้คิดเรื่องนี้ จากนั้นก็เริ่มทำงานอย่างขะมักเขม้น เมื่อใกล้เลิกงาน สายของจ้าวเหิงก็โทรเข้ามา"แม่บุญธรรมคะ!"ผ่านหน้าจอ จ้าวเหิงรู้สึกได้ชัดเจนว่า