แชร์

บทที่ 1 อลินดา - 50%

"ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณป้า ชมกันขนาดนี้หนูเขินเลย" อลินดายิ้มกว้างก่อนจะหันไปมองด้านในร้านแล้วหันมาพูดกับมารดา

"หนูเข้าไปดูแขกข้างในนะคะคุณแม่"

"จ้ะไปเถอะ มีอะไรก็ถามคุณแววเขาละกันนะ" ผู้เป็นมารดายิ้มให้บุตรสาว ขณะที่เกศรินนั้นมองตามอลินดาที่เดินเข้าร้านไปด้วยแววตายิ้มได้ จากนั้นก็ยื่นหน้าเข้าไปถามอรพิมเบา ๆ

"หนูลินดาน่ารักมากเลย ถามจริง ๆ นะยายพิม ลูกสาวเธอมีแฟนรึยัง"

"ยังหรอก" อรพิมตอบโดยไม่ต้องคิดพลางถอนหายใจแผ่วก่อนพูดต่อ

"ฉันกับลูกน่ะ มีอะไรก็คุยกันเปิดอกเสมอ ถ้าเขามีแฟนก็คงบอกฉันตามตรง แต่เวลาฉันถามทีไรเขาก็ได้แต่ส่ายหน้าทุกที ลินดาเคยบอกกับฉันว่าเขาจะไม่แต่งงาน เขาจะอยู่ดูแลฉัน ดูแลร้านอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เฮ้อ...แต่หัวอกคนเป็นแม่ก็อยากให้ลูกได้เจอคนดี ๆ แล้วออกไปสร้างครอบครัวมากกว่าที่เขาจะต้องอยู่คนเดียวไปชั่วชีวิต"

"หนูลินดาเขาฝังใจเรื่องพ่อใช่ไหม" เกศรินกดเสียงให้เบาลงกว่าเดิมเพราะเรื่องนี้รับรู้กันแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

"ใช่ ลินดาเขากลัวจะเจอผู้ชายแบบพ่อตัวเองน่ะ" เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ อรพิมก็มีสีหน้าเศร้าสลดขึ้นมาทันที เกศรินจึงบีบมือเพื่อนอย่างให้กำลังใจ

"หนูลินดาจะต้องได้เจอคนดี ๆ เข้ามาในชีวิตแน่นอนเธอเชื่อฉันสิ ถึงเขาจะฝังใจกับเรื่องพ่อมากแค่ไหน แต่ถ้าโอกาสนั้นมาถึงเขาก็อาจจะยอมเปิดใจก็ได้ เรื่องแบบนี้มันห้ามกันได้เสียที่ไหนเธอก็รู้"

อรพิมยิ้มให้เพื่อนอย่างรู้ทัน "พูดแบบนี้ แสดงว่าเธอตั้งใจอยากได้ลูกสาวฉันไปเป็นสะใภ้รึเปล่ายายเกศ"

เกศรินหัวเราะคิกคักขึ้นมาทันทีเมื่อถูกอีกฝ่ายล่วงรู้ความในใจ

"แหม ลูกชายคนเล็กของฉันก็ยังโสดนะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วฉันขอพูดอย่างไม่ปิดบังละกัน ฉันสนใจหนูลินดาจริง ๆ เราน่าจะลองให้หนุ่มสาวคู่นี้เขาเจอกันสักครั้งนะเธอว่าดีไหม"

"ลูกชายคนเล็กของเธอนิสัยเหมือนคนโตรึเปล่า"

อรพิมถามอย่างสนใจ เพราะเคยเจอกับบุตรชายคนโตของเกศรินสองสามครั้งตอนที่อีกฝ่ายขับรถพามารดามานวดและทำสปาที่ร้าน ซึ่งนับว่าเป็นชายหนุ่มที่เพียบพร้อม มีมารยาท เอาการเอางาน และสุขุมอ่อนโยนจนน่าชื่นชม

"เอ่อ...เหมือนสิเธอ แหม พี่น้องคลานตามกันมาแท้ ๆ จะไม่เหมือนได้ยังไงล่ะ อุ๊ย! นั่นพระมาแล้วนี่นา" เกศรินรีบเบนความสนใจอีกฝ่ายไปเรื่องอื่นทันที เพราะเกรงว่าอรพิมจะซักถามเกี่ยวกับบุตรชายคนเล็กไปมากกว่านี้

เกศรินลอบถอนหายใจพลางนึกถึงบุตรชายทั้งสองของตน จะว่าไปแล้วปกเกล้าก็เหมือนปกป้องผู้เป็นพี่ชายที่รูปร่างหน้าตามีส่วนคล้ายกัน หากแต่นิสัยนั้นแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว

ในห้องนวดส่วนตัวขนาดกะทัดรัดมีร่างอวบอิ่มตามวัยของผู้หญิงที่อายุเลยหลักหกนอนคว่ำหน้ากับเตียงโดยเปลือยช่วงบนไว้ ส่วนช่วงล่างนั้นสวมกางเกงชั้นในกระดาษที่ทางร้านเตรียมไว้ให้และมีผ้าขนหนูสีขาวปิดคลุมตั้งแต่สะโพกลงมาจนถึงน่อง คนบนเตียงปิดเปลือกตาพริ้มหากแต่มีรอยยิ้มมุมปากตลอดเวลาด้วยความพึงพอใจกับบริการที่ได้รับ

"ถ้าหนูลงน้ำหนักมือมากเกินไปจนรู้สึกเจ็บ คุณป้าก็บอกหนูได้นะคะ"

เสียงของหญิงสาวที่ค่อนข้างแหบห้าวแต่ฟังแล้วกลับมีเสน่ห์ลุ่มลึกดังขึ้นราวกระซิบ ส่งผลให้คนที่กำลังนอนหลับตาพริ้มยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม

"ไม่หนักเลยลูก กำลังดีเลยละ ตั้งแต่ป้าเข้าสปามาป้าว่าหนูน่ะนวดได้ถูกใจป้าที่สุดเลย" เกศรินพูดไปยิ้มไป ไม่ลืมหยอดคำหวานเพิ่มเข้าไปด้วยเพราะหวังผลลัพธ์ในอนาคต

"คุณป้าพอใจหนูก็ยินดีค่ะ"

"หนูลินดามาอยู่ร้านทุกวันรึเปล่าลูก" เกศรินเริ่มชวนคุยเมื่อเริ่มรู้สึกง่วงงุน

"หนูไม่ได้เข้าทุกวันค่ะ หลัก ๆ จะเป็นพี่แววอยู่ประจำร้านมากกว่า ส่วนหนูกับคุณแม่จะคอยดูโดยรวมทั้งสามสาขา อีกอย่างคือหนูเพิ่งลงหุ้นกับเพื่อนทำเกสต์เฮ้าส์ที่บุรีรัมย์ด้วย ช่วงนี้เลยต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงระหว่างกรุงเทพฯ กับบุรีรัมย์"

ได้ยินอย่างนั้นเกศรินก็ลืมตาโพลงทันทีเพราะปกเกล้า บุตรชายคนเล็กก็เพิ่งเปิดศูนย์แต่งรถซูเปอร์คาร์ที่บุรีรัมย์เช่นกัน แต่กระนั้นเจ้าตัวก็เพียงเงียบไว้ไม่ปริปากเพราะไม่อยากให้หญิงสาวผู้เพียบพร้อมคนนี้คิดว่าตนยัดเยียดบุตรชายให้ จึงคิดว่าจะหาทางให้หนุ่มสาวทั้งคู่ได้เจอกันก่อน

"ขยันจังเลย ดีแล้วลูก ในเมื่อยังมีกำลังก็ทำไป ช่วงนี้ที่ดินที่บุรีรัมย์แพงขึ้นเป็นเท่าตัว ใครคิดจะไปลงทุนตอนนี้ป้าว่าควรจะรีบทำก่อนที่คนอื่นจะคว้าเอาไปก่อน"

อลินดายิ้มพลางรับคำอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบขวดน้ำมันกลิ่นลาเวนเดอร์มาหยดบนแผ่นหลังอีกครั้งแล้วนวดวนโดยลงน้ำหนักแต่พอดีพร้อมกับคอยคุยและตอบคำถามของลูกค้ากิตติมศักดิ์รายนี้ไปด้วย

เกศรินกลับถึงบ้านอย่างอารมณ์ดี เมื่อเดินเข้าบ้านก็เห็นบุตรชายคนเล็กนอนเหยียดยาวไปกับโซฟาในชุดเสื้อยืดเก่า ๆ กับกางเกงผ้าฝ้ายเนื้อนิ่มขายาว ตนก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เช้าเพราะนั่นเป็นชุดที่เจ้าตัวชอบใส่นอน สายตาของปกเกล้าจับจ้องอยู่ที่จอโทรทัศน์ มือข้างหนึ่งหยิบของว่างเข้าปากราวกับไม่รับรู้การมาถึงของผู้เป็นมารดาอย่างตน ครั้นพอนึกถึงหญิงสาวที่ทั้งสวยทั้งเก่งอย่างอลินดาพลางเอาอีกฝ่ายมาจับคู่กับบุตรชายห่าม ๆ คนนี้แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าเพราะช่างแตกต่างกันเหลือเกิน

"เจ้าปก! นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วทำไมป่านนี้ยังไม่อาบน้ำอาบท่าอีก"

ผู้เป็นมารดาเดินไปทรุดตัวนั่งบนโซฟาอีกตัวพลางขมวดคิ้วมุ่นมองบุตรชายอย่างไม่สบอารมณ์

"จะอาบทำไมตอนนี้ละครับ เอาไว้อาบทีเดียวตอนจะนอนสิ ผมก็ไม่ได้ออกไปไหนสักหน่อย ไม่อาบก็ไม่เห็นเป็นไรเลย" เจ้าตัวตอบอย่างไม่ยี่หระโดยที่สายตาไม่ละไปจากภาพยนตร์ตรงหน้า

"ซกมก! แบบนี้ไม่มีผู้หญิงที่ไหนเขาชอบหรอกนะ"

"โธ่แม่คร้าบ...ผมน่ะตัวหอมจะตายไป สาวติดตรึม แม่ก็น่าจะรู้" ปกเกล้าเงยหน้าไปยักคิ้วให้มารดา

"อายุไม่ใช่น้อยแล้วนะเจ้าปก สามสิบกว่าเข้าไปแล้ว แกควรจะลงหลักปักฐานสักทีนะแม่ว่า ไม่ใช่เอาแต่ลอยไปลอยมาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าแบบนี้แม่ไม่ชอบเลย แม่อุตส่าห์หาคนดี ๆ มาให้แกก็ไม่ชอบเขา เฮ้อ..."

"แม่จะเครียดทำไมละครับผมยังไม่เครียดเลย ถึงเวลาเดี๋ยวมันก็มาเองนั่นแหละ ผู้หญิงดี ๆ พวกนั้นของแม่ก็ปล่อยให้เขาไปเจอคนดีคนอื่นเถอะ" ชายหนุ่มพูดพลางเบะปากเล็กน้อย

เกศรินเห็นบุตรชายไม่สนใจเรื่องหาคู่ควงจึงไม่พูดถึงอลินดาให้อีกฝ่ายฟังเพราะเกรงว่าเจ้าตัวดีจะต่อต้าน ได้แต่เก็บเรื่องของหญิงสาวไว้ในใจแล้วค่อยหาโอกาสเหมาะ ๆ ให้ปกเกล้ากับอลินดาเจอกันสักครั้ง ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ตนต้องวางแผนให้ดีเพื่อไม่ให้บุตรชายตัวแสบจับได้แล้วหาเรื่องชิ่งหนีเหมือนคราวก่อน

"แล้วร้านใหม่ของแกที่บุรีรัมย์เป็นยังไงบ้าง" ผู้เป็นมารดาเลี่ยงไปคุยเรื่องงานของบุตรชายบ้าง

"เรียบร้อยดีครับแม่ เปิดทันตามกำหนดแน่นอน ลูกค้าที่นั่นเยอะพอ ๆ กับกรุงเทพฯ เลยเพราะที่นั่นก็เหมือนศูนย์รวมกลุ่มคนเล่นรถซูเปอร์คาร์อยู่แล้ว ถ้าคุณแม่ไม่มีธุระที่ไหนก็ลองไปดูได้นะครับ นั่งเครื่องไปลงที่อำเภอสตึกแป๊บเดียวเอง" หลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบก็มีเสียงเล็ก ๆ ของเด็กผู้ชายดังขึ้น

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status