เหมันต์ขบกรามแน่น พยายามห้ามใจไม่หันกลับไปมองเรือนร่างเย้ายวนของคนที่กำลังถูหลังให้ เธอขาวโพลนท่ามกลางสายน้ำพร่างพรม อวบอิ่มในส่วนที่พึงมีของสตรีเพศ ผิวนวลลออตาคงจะเนียนลื่นมือนักหากได้ลูบไล้สัมผัส หัวใจหนุ่มเต้นโครมคราม กล้ามเนื้อเกร็งกระตุกตอบรับการสัมผัสจากมือน้อยที่แตะโดนผิวกาย ตอนแรกก็คิดว่าแค่รีบๆอาบน้ำนอน คิดว่าเธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง อะไรๆของผู้หญิงก็คงไม่แตกต่างกันนักหรอก หากแต่เมื่อผลักประตูเข้ามา แล้วเห็นภาพหญิงสาวยืนหลับตาพริ้มเงยหน้าน้อยๆ ร่างกายเขากลับตื่นตัวอย่างรุนแรงจนแทบระเบิด ไม่เหมือน...เพียงขวัญไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยเห็นสักนิด
“สะ...เสร็จแล้วค่ะ”
“ขอบคุณ”
เพียงขวัญเหลียวหน้าเหลียวหลัง อยากจะก้าวขาออกจากห้องน้ำ แต่ขาเจ้ากรรมกลับก้าวไม่ออก จนกระทั่งร่างสูงใหญ่หันกลับมาเผชิญหน้ากัน ดวงตาตื่นกลัวของเธอทำให้ชายหนุ่มหรี่ตามองประเมินสถานการณ์ ปากอิ่มเผยอค้างท่าทางขัดเขินของ
หญิงสาวทำให้เหมันต์กระตุกยิ้ม ใบหน้าหล่อเข้มก้มลงจนชิดใบหูเล็ก
“รู้ใช่ไหมว่าคุณมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร” เป็นน้ำเสียงที่เซ็กซี่ที่สุดเท่าที่เธอเคยได้ยินมา เพียงขวัญผงะใบหน้าออกเล็กน้อย สบสายตาคมปลาบของคนพูด สีหน้าของเธอบ่งบอกว่ากำลังจะเข้าสู่โหมดดราม่า น้ำตารื้นตรงขอบตา หัวใจเต้นแรงจนแทบปะทุออกมานอกอก
“ค่ะ” กระนั้นเธอก็ยอมรับสภาพของตัวเอง พยักหน้ายอมรับกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็ในเมื่อเธอตัดสินใจที่จะมาที่นี่เอง หอบกระเป๋าวิ่งตามเขาขึ้นรถมาโดยที่เขาไม่ได้ฉุดกระชากลากถูสักนิด อะไรที่มันจะเกิดขึ้นก็เป็นสิ่งชอบธรรมตามที่ตกลงกันไว้แล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอะไรได้
เพียงขวัญรับรู้ถึงวงแขนแกร่งที่เกี่ยวรัดเอวบางของตนเอง กายสาวแนบสนิทไปกับร่างกำยำ อะไรบางอย่างที่บ่งบอกถึงอารมณ์ของอีกฝ่ายทำให้หญิงสาวพยายามขืนตัวออกห่าง
“อย่าดื้อสิ” เขาเอ็ดเบาๆ ขณะที่มือใหญ่ไล้วนไปตามแผ่นหลังเนียน ใบหน้าหล่อเข้มโน้มต่ำลงมาจนจมูกโด่งสัมผัสกับแก้มนุ่มของคนที่ก้มหน้าอยู่ในอ้อมแขน เพียงขวัญสะดุ้งเล็กน้อย มือบางทั้งสองวางอยู่บนแผ่นอกกว้าง ออกแรงยันไว้เท่าที่กำลังอันน้อยนิดจะพึงมี เพราะยังไม่คุ้นชินกับสัมผัสเนื้อแนบเนื้อ
ริมฝีปากหนาค่อยๆคืบคลานจากแก้มเนียนจนประกบกับริมฝีปากอิ่ม เหมันต์ดูดเม้มละเลียดชิมอย่างใจเย็น ร่างกายที่สั่นน้อยๆของคนในอ้อมแขนเตือนให้เขารู้ว่าอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม ใบหน้าที่ชิดกัน ลมหายใจอุ่นที่รินรดอยู่ปลายจมูก แรงบดเบียดที่เริ่มรุกหนักทำให้เพียงขวัญรู้สึกราวกับว่าจะขาดอากาศหายใจ ปากเล็กจึงเผยอออก หวังเพียงจะรับออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือด หากแต่คนที่รอท่าอยู่แล้วกลับไม่ปล่อยโอกาสให้เธอทำได้อย่างใจ ลิ้นสากฉกลึกลงในปากนุ่มอุ่น มือใหญ่ประคองรั้งท้ายทอยให้รับจุมพิตหนักหน่วงตามอารมณ์ของคนจู่โจม เพียงขวัญเหลับตาแน่น หัวใจหวิวไหว สติเตลิดไปไกลสุดกู่ ยามลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดไล่ต้อนลิ้นเล็ก สลับกับการดูดดึงซอกซอนสำรวจไปทั่วโพรงปากนุ่ม ทำให้แข้งขาพานอ่อนแรงไปหมด เนิ่นนานเท่าที่คนตัวโตพอใจ หรือเพราะ
เห็นว่าเธอเริ่มจะขาดใจตายก็ไม่รู้ เหมันต์จึงยอมผละออก
เพียงขวัญหอบหายใจแรง เงยหน้าสบตากับผู้ชายที่สอนจูบแรกในชีวิตให้ตัวเอง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเหมันต์ทำให้ใบหน้าสาวร้อนผ่าว หญิงสาวหลุบสายตาลงมองแผ่นอกกว้าง เพิ่งรู้ตัวว่าลำแขนเรียวของตนเกาะเกี่ยวต้นคอแกร่งของเขาไว้ ทรวงอกอวบเบียดแนบชิดอยู่กับอกกว้าง ครั้นออกแรงดิ้นเพื่อจะผละหนี ลำแขนแข็งแรงกลับกอดรัดเอวคอดไว้แน่น
“ขะ...ขวัญหนาวค่ะ” เสียงสั่นๆของหญิงสาวทำให้เหมันต์หันไปปิดก๊อกน้ำ ดึงผ้าเช็ดตัวมาห่อร่างนุ่มนิ่มอย่างแสนเสียดาย ก่อนจะพันผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่เข้าที่เอวสอบของตน แล้วย่อตัวลงอุ้มร่างเล็กออกจากห้องน้ำ คนถูกอุ้มตวัดแขนรัดลำคอแกร่งไว้เพราะกลัวตก หลับตาแน่นเพราะไม่อยากสบตาคมเข้ม ที่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกบางอย่างซึ่งเธอคิดว่าเป็นอันตรายกับตัวเองมากๆ
“ขวัญเช็ดเองค่ะ” มือเล็กจับมือซุกซนไว้แทบไม่ทัน เมื่อเหมันต์ตะปบมือลงบนปมผ้าขนหนูที่อยู่เหนืออกอวบ
“ชักช้า เดี๋ยวผมทำให้” มือเล็กหรือจะทานมือใหญ่ที่เอาแต่ใจนั้นได้ ร่างเปลือยเปล่าเปิดเผยแก่สายตาทำให้คนอาสาอยากเช็ดตัวให้ถึงกับมือไม้สั่น เพียงขวัญหน้าแดงตัวแดงด้วยความอาย กายสาวร้อนวูบวาบยกมือปิดส่วนสำคัญวุ่นวาย และพยายามบิดตัวหลบสายตาแวววาวนั้น
“ดิ้นเป็นเด็กไปได้ อยู่นิ่งๆสิ” เสียงเอ็ดอย่างขัดใจดังขึ้น เมื่อหญิงสาวพยายามปิดบังความงามของเรือนร่าง
“พะ...พอแล้วค่ะ ขวัญจะแต่งตัว” เพียงขวัญดึงผ้าขนหนูในมือใหญ่มากอดปิดบังด้านหน้าไว้ แล้วเดินถอยหลังไปยังกระเป๋าใบโต มือบางรื้อค้นเสื้อผ้า แต่สายตามองคนที่ยืนกอดอกจ้องตัวเองอยู่ เมื่อได้ชุดนอนกางเกงขายาวกับเสื้อยืด หญิงสาวจึงเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำไปทันที เหมันต์ยิ้มขำ ขำท่าทางหวาดกลัวของหญิงสาว ขำกับความรู้สึกพลุ่งพล่านของตนเอง ความรู้สึกที่เคยเก็บงำควบคุมได้ดี กลับดื้อด้านจนเผลอทำไก่ตื่นเสียแล้ว
“มานอนเร็วๆ ผมง่วงมาก” คนง่วงนอนตะแคงเปิดผ้าห่มแล้วตบมือแปะลงข้าง
ตัวเอง เพียงขวัญแอบเห็นว่าเขาไม่สวมเสื้อ แต่ไม่แน่ใจว่าท่อนล่างนั่นสวมอะไรไว้หรือเปล่า เพราะผ้าห่มคลุมไว้อย่างหมิ่นเหม่
เพียงขวัญเดินช้าๆ ก้มหน้าเล็กน้อยตรงไปยังเตียงกว้าง ก่อนจะนั่งลงบนเตียงแล้วเอนกายลงนอนตัวแข็งทื่อ ไออุ่นจากร่างใหญ่แผ่ลามมาถึงผิวเนื้อจนใจสาวสั่นไหว แทบจะวายเอาเสียให้ได้ ผ้าห่มหนาผืนใหญ่ถูกตลบคลุมร่างบาง แล้วไฟทั้งห้องก็ดับลง หญิงสาวหลับตาแน่น กำมือสองข้างไว้ข้างกาย เธอรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจะโดนเชือด รอเวลาที่เพชฌฆาตจะลงดาบ อยากจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก แรงขยับของคนตัวโตทำให้หัวใจเธอกระตุกวาบ“พรุ่งนี้ต้องตื่นไปใส่บาตรแต่เช้า อย่าตื่นสายล่ะ” เหมันต์พลิกกายนอนหันหลังให้หญิงสาว คนนอนรอเชือดรออยู่นานเริ่มสงสัย ดวงตากลมโตลืมขึ้นท่ามกลางความมืด หันใบหน้ามองไปทางที่คนตัวใหญ่นอนอยู่ ในนามความที่มองเห็นอะไรไม่ชัดเจนเท่าไร แต่เพียงขวัญพอมองเห็นได้ว่าเขานอนหันหลังให้เธอ หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่ง อกโล่งใจ ร่างบางพลิกกายตะแคงหันหน้าจ้องมองแผ่นหลังกว้างในความมืด อย่างน้อยหากเขาหันกลับมา เธอจะได้ตั้งรับทัน แต่เพราะความเหนื่อย เมื่อยล้าจากการเดินทาง จึงทำให้คนที่พยายามระแวดระวังภัยหลับลึกไปในเวลาอันรวดเร็ว“กลัวจนตัวสั่น อ่อนจริงๆ” เหมันต์ได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอจึงหันกลับมา ยันตัวลุกเล็กน้อยมอ
“บอกดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องว่าเลย ใครกันแน่ที่ชอบโวยวาย”เพียงขวัญใช้เวลาไม่นานในการแต่งตัวให้เรียบร้อย เสื้อยืดสีหวานถูกใส่ทับไว้ด้านในผ้าซิ่น หญิงสาวเกล้าผมขึ้น เปิดเผยดวงหน้าหวาน และลำคอระหง ใบหน้าไร้การเติมแต่งสีสัน ประแป้งฝุ่นและทาเพียงลิปสติกมันเท่านั้น“แล้วข้าวเหนียวล่ะคะ” เหมันต์มองหญิงสาวที่เพิ่งเปิดประตูบ้านออกมา เขามองตาค้างอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเบนสายตาไปมองกระติบข้าวใบเล็กสองใบที่วางคู่กันอยู่บนโต๊ะเพียงขวัญมองตามแล้วคลี่ยิ้มหวาน“กระติบข้าวน่ารักจัง ว่าแต่ใครนึ่งข้าวเหนียวให้คุณคะ”“มีเมียนอนตื่นสาย ผัวก็ต้องลุกมาทำเอง ก็แค่นั้น” เพียงขวัญก้มหน้ามองเท้าตัวเอง รู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำหน้าที่ที่สมควรทำชายหนุ่มหยิบกระติบข้าวทั้งสองใบขึ้น แล้วก้าวขายาวเดินไปข้างบ้าน ใกล้ๆกับที่จอดรถไว้เมื่อคืน จักรยานสีดำถูกจูงออกมา เขาขึ้นประจำที่คนขับ กระติบข้าววางอยู่ที่ตะกร้าหน้ารถ หญิงสาวกะพริบตามองอย่างไม่แน่ใจ ก็คนตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ปักหลั่นดูไม่เข้ากันสักนิดกับจักรยาน“ขึ้นมาสิ ตื่นสายแล้วยังจะมัวโอ้เอ้อยู่ได้” เพียงขวัญยู่ปากใส่แผ่นหลังกว้าง แล้วเดินไปนั่งซ้อนท้าย เหยียดขาสองข้างไปทาง
เมื่อใส่ข้าวเหนียวลงในบาตรสามเณรรูปสุดท้ายเสร็จ เพียงขวัญก็ใช้สองมือยกกระติบข้าวขึ้นเหนือศีรษะตามแบบที่ผู้สูงวัยทั้งสามและเหมันต์ทำ ผู้เฒ่าผู้แก่และคนอื่นๆแยกย้ายกันเข้าบ้าน เหมันต์เอ่ยขอบคุณผู้สูงวัย พูดคุยกันเล็กน้อยก่อนจะพาเธอกลับบ้านกลางทุ่งของเขา“ผมจะไปทำธุระในเมือง จะกลับมาค่ำๆ คุณหาอะไรกินเองเลยนะ ในตู้เย็นมีของสดอยู่ เดี๋ยวอีกสักพักจะมีคนงานมาทำงาน”“แล้วเย็นนี้คุณจะกลับมาทานข้าวไหมคะ ขวัญจะเตรียมกับข้าวไว้รอ จะได้ทำหน้าที่เอ่อ...หน้าที่ภรรยาให้สมบูรณ์” ประโยคสุดท้ายเธอจงใจเน้น เพราะตั้งแต่ตื่นมาโดนเขาจิกกัดจนเป็นแผลเหวอะไปทั้งตัว ทั้งเรื่องตื่นสายหุงข้าวหุงน้ำ แล้วเขาก็ย้ำอยู่นั่นแหละ“รู้ไหมว่า หน้าที่เมียที่สมบูรณ์ไม่ได้หมายความถึงการทำกับข้าวให้ผัวกินอย่างเดียวหรอกนะ ถ้าคุณอยากทำหน้าที่เมียให้สมบูรณ์จริงๆ เดี๋ยวคืนนี้เจอกัน” เพียงขวัญอ้าปากค้าง หัวใจเต้นแรง ใบหน้าร้อนวูบวาบ ยืนนิ่งราวกับถูกสาป แต่คนที่หันหลังเดินหนีเธอออกจากบ้านไป กลับยิ้มกรุ้มกริ่ม...ผิวปากหวือข่มขวัญเธอให้กระเจิงไปไกลแสนไกลเพียงขวัญใช้เวลาในช่วงเช้าทำกับข้าวง่ายๆทาน หลังจากนั้นก็จัดเสื้อผ้าเข้าไว้ในตู้
“จองเต็มตั้งแต่เปิดตัววันแรกแล้วครับ เป็นคอนโดที่สูงที่สุดในจังหวัดตามที่คุณเหมตั้งใจครับ” นิธิยิ้มให้กับเจ้านาย เขายอมรับการบริหารและชั้นเชิงของชายหนุ่มรุ่นใหม่คนนี้นัก จังหวัดใหญ่ใจกลางภาคอีสานเป็นบ่อทองใหม่สำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายในประเทศ หมู่บ้านจัดสรรผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ขยายตัวอยู่รอบตัวเมืองใหญ่หลายโครงการ แต่ละโครงการเป็นของบริษัทที่มีชื่อเสียงคุ้นเคยกันระดับประเทศ ถึงแม้บริษัทของเหมันต์จะไม่ใช่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของประเทศ หากแต่ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือที่บิดาเขาสร้างไว้เป็นทุนเดิม ก็ทำให้ผู้คนให้ความสนใจจับจองเป็นเจ้าของ และยอดจองก็เต็มทันทีในวันที่เปิดจองวันแรก“คุณเหมจะไปดูที่ไซด์งานหน่อยมั้ยครับ” ชายหนุ่มโบกมือปฏิเสธ“ไม่ล่ะคุณนิธิ ผมไว้ใจคุณ ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรหาผมแล้วกัน ช่วงนี้ผมอาจจะไม่ค่อยได้เข้าบริษัทเท่าไรนะ” ลูกน้องคลี่ยิ้มเป็นเชิงรู้ทัน“จะไม่บอกคุณสายฝนหน่อยหรือครับ ว่าพาลูกสะใภ้มาอยู่ด้วยแล้ว” นิธิอายุมากกว่าเหมันต์เกือบสิบปี เขาเป็นมือขวาของผู้บริหารหนุ่ม และรู้จักกับครอบครัวของเหมันต์เป็นอย่างดี“ยังหรอกครับ ถ้าเขาอยู่กับผมได้จริงๆแล้วค
“ขะ...ขวัญหิวข้าวค่ะ คุณเหมทานอะไรมาหรือยังคะ เดี๋ยวขวัญทำอาหารให้ทานนะคะ” คราวนี้เหมันต์เผยยิ้มกว้าง ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เป็นโอกาสอันดีที่เพียงขวัญจะใช้ในการดีดตัวลุกขึ้นนั่ง และกระถดกายหนีเขาไปจนชิดชอบศาลาอีกด้านหนึ่ง“อืม...กินอะไรก่อนก็ดี จะได้มีแรงเยอะๆ งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ” เพียงขวัญมองเขาอย่างระแวง พยักหน้ารับเร็วๆ เมื่อร่างสูงขยับเพื่อจะลงจากศาลา หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย จ้องมองเขานิ่งอย่างระแวดระวัง เหมันต์หัวเราะในลำคอ ลงไปยืนอยู่ข้างศาลาแล้วจ้องไปยังร่างที่เบียดตัวเองอยู่กับเสาอย่างขำๆ“ถ้าคุณยังนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น ผมอาจจะเปลี่ยนใจกินอย่างอื่นแทนข้าวนะ” มันได้ผล เพราะเพียงขวัญรีบขยับตัวลุกขึ้นก้าวลงมายืนอยู่บนพื้น แล้วรีบเดินเร็วเข้าบ้านไปทันทีอาหารกลางวันตอนเกือบบ่ายสองโมงถูกเสิร์ฟโดยแม่ครัวคนใหม่ของบ้าน เพียงขวัญไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านชอบกินอะไร รสชาติแบบไหน หญิงสาวจึงทำอาหารทั่วไปรสชาติกลางๆ ผัดผักรวม ปลากะพงทอดน้ำปลา แกงเลียงกุ้งสด และน้ำพริกปลาทูพร้อมผักสด เหมันต์ถึงกับอมยิ้มเมื่อเห็นอาหารที่วางรอเขาอยู่บนโต๊ะ ก็ปกติแล้วโต๊ะอาหารบ้านนี้เคยมีกับข้าวตั้งโต๊ะเกินหนึ่งอย่างซะท
“อุ๊ย!” ร่างเล็กถูกรวบกอดและเอนลงนอนเบียดกับร่างใหญ่ ลำแขนแกร่งช้อนรองใต้ศีรษะทุยให้เธอได้หนุนนอน ร่างกายด้านหน้าของทั้งสองแนบชิดจนรับรู้ได้ถึงไออุ่นจากกันและกัน เพียงขวัญสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือใหญ่อีกข้างของเหมันต์วางทาบบนสะโพกผายของตน“เงยหน้าขึ้นมาสิ” ทำไมเขาถึงชอบสั่งนักนะ คนรู้สึกว่าโดนสั่งบ่อยๆจึงชักสีหน้าไม่พอใจในตอนที่เงยขึ้นสบตาคมดุระยะใกล้“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย แบบนี้ก็หมดอารมณ์กันพอดี” เพียงขวัญเม้มปากแน่น พยายามปั้นหน้าฝืนยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่ดูเสแสร้งให้ดูดีมากในสายตาชายหนุ่ม เหมันต์หัวเราะในลำคอ พร้อมกับพลิกร่างเล็กให้อยู่ใต้ร่างของตน เพียงขวัญลนลานใช้มือยันบ่ากว้างไว้ทั้งสองข้าง“จะทำอะไรคะ”“กินของหวาน” เหมันต์ตอบหน้าตาย“เอ่อ...” ทำไมจะไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่จะดิ้นรนปฏิเสธไปก็ไม่รู้จะหลีกเลี่ยงไปได้อีกสักกี่วัน แล้วก็มีแต่จะทำให้คนปากร้ายโกรธและถากถางด้วยคำพูดให้เสียใจเปล่าๆ เพียงขวัญค่อยๆหลับตาลง ลำแขนเรียวสองข้างวางลงแนบตัว เธอนอนนิ่ง แต่หัวใจนี่สิ...มันเต้นแรงเสียจนน่ากลัวว่าจะปะทุออกมานอกอก เหมันต์ยิ้มขำกับท่าทางจำยอมนั้น จะนิ่งได้นานแค่ไหนกันเชียวสัมผัสร้อนจากร
“คุณเหม...ช่วยขวัญด้วย ได้โปรด...” เธอบิดกายอ้อนวอนเขาโดยไม่เหลือความอายใดๆ เหมันต์ครางลึกในลำคอ ของหวานชิ้นใหญ่ช่างนุ่มละมุนลิ้น หอมหวานจนเขาอยากจะกลืนกินให้หมดทั้งตัว หัวใจชายหนุ่มเต้นระทึก ยิ่งได้ยินคำวิงวอนกระเส่าแว่วหวาน เขาก็ยิ่งเร่งเร้าปรนเปรอจนร่างสาวแอ่นค้าง กลั่นหยดน้ำหวานหลั่งรินให้เขาได้กลืนกินจนอิ่มเปรม ก่อนที่ร่างนั้นจะอ่อนระทวยลงอย่างไร้สิ้นเรี่ยวแรงเหมันต์จัดแจงเสื้อผ้าของหญิงสาวให้เข้าที่เหมือนเดิม แล้วเคลื่อนตัวขึ้นมานอนเคียงข้างกัน ลำแขนแกร่งสอดลงใต้ศีรษะทุยเพื่อให้เธอได้หนุนนอนต่างหมอน เพียงขวัญยังคงหลับตาพริ้ม เห็นได้ชัดว่าจังหวะลมหายใจเธอยังไม่เป็นปกติ ชายหนุ่มกดจูบลงบนขมับสวยชื้นเหงื่อ“ผมบอกคุณหรือยังว่าคุณทำอาหารอร่อยมาก” เพียงขวัญลืมตาขึ้นมองสบตาคมวาวในระยะใกล้ ลมหายใจของเขาเป่ารดอยู่เหนือขมับของเธอ“แต่คนทำอร่อยกว่ามากกกกก” คนพูดจงใจลากเสียงสุดท้ายยาว และยิ้มกรุ้มกริ่มให้ ใบหน้าสาวร้อนวูบวาบขึ้นมาทันใด เพียงขวัญจึงเลือกที่จะซุกหน้ากับอกกว้างของเขา หัวใจเต้นระรัว ยิ่งพอหลับตาลงแล้วนึกถึงเสียงอ้อนวอนของตน และท่าทางเชื้อเชิญตอบสนองเขาเมื่อสักครู่นี้แล้ว เธอก็
“นี่ยังไม่หยุดสูบอีกเหรอลุง เดี๋ยวก็ได้เป็นมะเร็งตายหรอก” ลุงช่วงหัวเราะแหะๆ ยกมือเกาท้ายทอยแก้เก้อ“ก็ลดลงนิดหน่อยแล้วครับ พกไว้เวลาอยากจริงๆ แก้เครียดครับ” เหมันต์ส่ายหน้ากับคำแก้ตัวข้างๆคูๆของคนสูงวัย“แล้วของคนอื่นล่ะเป็นไงบ้าง เกี่ยวพร้อมกันเลยมั้ย”“พร้อมกันเลยครับ ว่าแต่ส่วนของคุณเหมจะให้ลุงจัดการให้พร้อมกันเลยมั้ยครับ”“อืม...ลุงช่วงจัดการให้ผมด้วยแล้วกัน เสร็จแล้วก็ค่อยมาเอาค่าจ้างเกี่ยวข้าวพร้อมกับค่าแรง อ้อ...แปลงที่เกษตรตำบลเขามาขอทำแปลงนาสาธิตไม่ต้องเกี่ยวนะครับ เดี๋ยวเขาจะให้ชาวบ้านมาลงแขกเกี่ยวช่วยกัน”“ครับคุณเหม เอ่อ...นั่นใครล่ะครับ ไม่เคยเห็นหน้า”“คุณขวัญ...เป็นเมียผม” คุณที่ถูกแนะนำตัวสั้นๆ เม้มปากแน่นแต่ก็คลายออกอย่างรวดเร็ว ยกมือไหว้ผู้สูงอายุอย่างอ่อนน้อม“ไหว้พระเถอะครับคุณ” ลุงช่วงรับไหว้แทบไม่ทัน เมื่อเมียเจ้าของที่นาซึ่งเขาและชาวบ้านหลายคนได้พึ่งใบบุญ ปลูกข้าวทำนาและหากินบนที่ดินผืนใหญ่ยกมือไหว้“เอ่อ...คุณเหมมีอะไรจะให้ลุงทำหรือเปล่าครับ”“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่อยากพาเมียมาดูไร่ดูนาเท่านั้นเอง เผื่อเขาเห็นแล้วไม่ชอบ ไม่อยากอยู่ จะได้เปลี่ยนใจเก็บกระเป๋ากล
“สวัสดีค่ะพี่ขวัญ” แก้วใจยกมือไหว้ เด็กชายที่เดินตามหลังมาก็ยกมือไหว้หญิงสาวเช่นกัน“สวัสดีจ้ะแก้ว กลับมาเยี่ยมบ้านเหรอ มากี่วัน แล้วนั่นมากับใครอ่ะ พี่ขวัญไม่เคยเห็นเลย แต่หน้าคุ้นๆนะ” แก้วใจหัวเราะเสียงใส กับคำถามที่รัวมาเป็นปืนกล“แก้วกลับมาเยี่ยมบ้านสามวันค่ะพี่ขวัญ พรุ่งนี้กลับตอนเย็นๆ แล้วนี่...” แก้วใจดันบ่าของเด็กชายวัยสิบสี่ปีให้มายืนต่อหน้าเพียงขวัญ“บุรินทร์ หรือ แดนค่ะ เป็นน้องชายของพี่ดิน” เด็กชายบุรินทร์ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ใบหน้าที่ฉายแววหล่อเข้มระบายยิ้มน้อยๆอย่างมีเสน่ห์ เพียงขวัญสบสายตาคมของเด็กชายแล้วยิ้มหวานให้อย่างรู้สึกถูกชะตา“สวัสดีครับพี่ขวัญ”“สวัสดีจ้ะหนุ่มน้อย พี่ขวัญไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่าพี่ดินมีน้องชายด้วย แดนอายุเท่าไรคะ”“สิบสี่ปีครับ”“โอ้โห! ห่างกับพี่ดินตั้งสิบสามปีแน่ะ” เด็กชายบุรินทร์ยิ้มน้อยๆกับท่าทางแปลกใจของพี่สาวคนสวยตรงหน้า“ตอนแรกแก้วก็ตกใจเหมือนพี่ขวัญนี่แหละค่ะ คุณพ่อคุณแม่พี่ดินบอกว่าแดนเป็นลูกหลง”“ไม่ได้หลงนะครับพี่แก้ว คุณพ่อบอกว่าตั้งใจ” แก้วใจหันไปสบตาหนุ่มน้อยแล้วหันกล
“อยากรักขวัญทั้งวันทั้งคืน ห่างไปตั้งนาน แทบจะลงแดงตาย” เหมันต์กระซิบเสียงพร่าขณะที่พรมจูบไปทั่วใบหน้าภรรยาแล้วมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากนุ่มหวานละมุนลิ้น เพียงขวัญไม่ขัดสามี เธอเข้าใจและเห็นใจเขา หญิงสาวจูบตอบ กอดรัดเขาไว้แน่น ขยับสะโพกรับจังหวะรุกจากเขาอย่างเท่าเทียม บทเพลงรักเร่าร้อนจากคนช่างเรียกร้องทำเอาคุณแม่ยังสาวแทบจะละลายกลายเป็นวุ้นคาอกสามี เพียงขวัญกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะถูกส่งไปยังปลายทางของห้วงอารมณ์รักนับครั้งไม่ถ้วน เหมันต์เก็บตกจัดเต็มทุกท่วงท่า เท่าที่ห้องน้ำจะเอื้ออำนวยให้เขาทำได้ สุดท้ายจบลงที่อ่างอาบน้ำ ชายหนุ่มชำระล้างร่างกายให้ตนเองและภรรยาหลังจากจบสิ้นภารกิจทวงคืนพื้นที่ส่วนตัวจากลูกสาวตัวน้อย กว่าเขาจะพาร่างอ่อนปวกเปียกออกมาจากห้องน้ำก็ล่วงเลยเวลาไปเกือบสามชั่วโมงเพียงขวัญในชุดนอนใหม่หลับสนิททันทีที่หัวถึงหมอน เหมันต์จูบหน้าผากมนแผ่วเบา รู้สึกรักและหวงแหนเธอมากกว่าที่เคยรู้สึก“ผมรักคุณนะขวัญ” แววตาอ่อนโยนทอดมองใบหน้าของภรรยาอย่างแสนรักเสียงอ้อแอ้ของลูกสาวทำให้เหมันต์ละสายตาจากภรรยา ชายหนุ่มลุกไปหยิบขวดนมที่เตรียมการเอาออกมาจากตู้เย็นตั
“ขวัญ” เหมันต์ขยับกายขึ้นมาหอมแก้มเนียนของคนที่ยังล่องลอยอยู่ท่ามกลางความสุขสม“ก็ยังเหมือนเดิมนะ” เพียงขวัญขมวดคิ้วมุ่น ไม่เข้าใจว่าสามีหมายถึงอะไร“อะ...อะไรคะยังเหมือนเดิม” ริมฝีปากหยักได้รูปยกยิ้มอย่างจ้าเล่ห์ แล้วก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็กบาๆ เพียงขวัญเบิกตากว้างกับสิ่งที่ได้ยิน อยากจะหยิกเนื้อคนช่างสำรวจแรงๆนัก“ก็ขวัญไม่มั่นใจ ผมเลยต้องบอกให้คุณมั่นใจไง ว่ามันเหมือนเดิม แผลฝีเย็บคุณหมอทำได้เนียนมาก แล้วตรง...” มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากไว้ก่อนที่เขาจะพูดต่อ“พอเลยค่ะ ขวัญเพิ่งรู้ว่าคุณเหมเป็นผู้ชายขี้เม้าท์” เหมันต์หัวเราะเบาๆ“ผมรักคุณนะ” เพียงขวัญยิ้ม จับประคองใบหน้าสามีไว้ด้วยมือสองข้าง โน้มลงมาใกล้กับใบหน้าตัวเอง“ขวัญก็รักคุณเหมค่ะ” คำบอกรักแว่วหวานนัก หากแต่รสจูบกลับหวานซ่านกว่า หวานจนหัวใจสั่นสะท้าน ต่างคนต่างบรรจงถ่ายทอดความรู้สึกแห่งรักให้กันผ่านทางกาย สัมผัสอ่อนโยนทะนุถนอมราวกับว่าเธอคือสิ่งมีค่าสำหรับเขา ทำให้เพียงขวัญตอบสนองอย่างน่ารัก และเมื่อสองร่างค่อยๆหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่างเล็กก็ผวากอดรัดเอาร่างของคนตัวโตไว้เต็มอ้อมกอด
“ขา...” หญิงสาวขานรับเสียงอ่อนเสียงหวาน ด้วยเพราะเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ผู้ชาย และยิ่งเป็นมนุษย์สามีของเธอด้วยแล้ว เธอรู้สึกเห็นใจเขาอยู่ไม่น้อย“ผมจะไม่อดทนแล้วนะ” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมากระซิบบอกแนบใบหูเล็ก เพียงขวัญหัวเราะคิก เพราะสามีเป่าลมร้อนใส่หูเธอ“ลูกอยู่ด้วยนะคะ” มือบางยันบ่ากว้างไว้เมื่อคนตัวโตทำท่าว่าจะไม่อดทนแล้วจริงๆ“ผมจะทำเบาๆ” เขากำลังจะขาดใจตาย ต้องตายแน่ๆ ถ้าช้าไปกว่านี้“คุณเหม อื้อ!” จุมพิตอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความเร่าร้อนปิดกั้นข้ออ้างทั้งหมดจากปากเล็กของภรรยา เหมันต์ดูดซับเอาความหอมหวานที่เขาหลงใหล จ้วงลิ้นร้อนเข้าสู่โพรงปากนุ่มอุ่นที่แสนคิดถึง ตะโบมจูบเอาๆ จนสาแก่ใจจึงยอมถอนจูบ แต่ก็ยังคงอ้อยอิ่งขบเม้มกลีบปากอิ่มดูดดึงหยอกล้อไม่ยอมผละหนี“คุณเหม” เพียงขวัญเรียกสามีเบาๆ เมื่อรับรู้ว่าเขากำลังแกะกระดุมชุดนอนของตน“อืม” ชายหนุ่มขานรับในลำคอ ขณะเลื่อนใบหน้าลงซุกไซ้ลำคอหอมกรุ่น และแล้วกระดุมเม็ดสุดท้ายของชุดนอนแสนเกะกะก็หลุดออก สาบเสื้อถูกแยกออกจากกัน เพียงขวัญสะดุ้ง รีบกอบเอาใบหน้าของสามีที่กำลังจะเลื่อนลงต่ำไว้ด้วยสองมื
หลังจากนั้นไม่ว่าคุณหมอบอกให้ทำอย่างไรเธอก็ทำตาม คุณหมอบอกให้เบ่งเธอก็เบ่ง บอกให้หยุดเบ่งเธอก็หยุด เหมันต์จับจ้องใบหน้าภรรยา สลับกับมองดูคุณหมอเป็นระยะ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตอนที่ภรรยาออกแรงเบ่งเขาเองก็ครางในลำคอช่วยเบ่งด้วยอีกแรง จนกระทั่งเสียงร้องของทารกน้อยดังขึ้น“ผู้หญิงนะคะ แข็งแรง สมบูรณ์ดีค่ะ” คุณหมออุ้มเด็กทารกน้อยที่ยังเปื้อนคราบเลือดขึ้นมา ให้ทั้งสองดูเพศของเด็กหญิงผู้เป็นสายใยรักของเขาและเธอเพียงขวัญและเหมันต์จับจ้องภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม น้ำตาเม็ดใสๆกลิ้งลงตรงหางตาของคนที่ได้เป็นแม่เต็มตัว คุณแม่คุณพ่อมือใหม่หันมาสบตากันเมื่อคุณหมอส่งทารกน้อยให้พยาบาลนำไปทำความสะอาด เหมันต์จูบซับน้ำตาให้ภรรยาเบาๆ“ขอบคุณนะครับที่รัก เมียผมเก่งที่สุดในสามโลก” เพียงขวัญยิ้มให้สามี ยิ้มด้วยความเหนื่อยล้าแต่ก็แฝงไว้ด้วยความปลาบปลื้มยินดี“ผมรักคุณนะขวัญ” เหมันต์ลูบศีรษะและปัดเส้นผมที่ระใบหน้าเนียนออกอย่างเบามือ ชายหนุ่มจุมพิตที่หน้าผากมนแทนคำขอบคุณอีกครั้ง“ขวัญก็รักคุณเหมนะคะ รักลูกสาวของเราด้วย” สองสามีภรรยายิ้มให้กัน เหมันต์แนบใบหน้ากับแก้มชื้นเหงื่อของภร
“น่ารักจะตาย” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้แก้วใจหันกลับไปมอง แววตาล้อเลียนนั้นทำให้ใบหน้าสาวร้อนเห่อ“พี่ดิน เอ่อ...แก้วไปหาเพื่อนก่อนนะ” แก้วใจเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ร่างสูงใหญ่ก็เดินมาขวางไว้“ถอยไปนะ แก้วจะไปหาเพื่อน”“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”“ไม่เห็นมีอะไรจะต้องคุย”“มีสิ เยอะแยะเลย พี่มีเรื่องจะเล่าให้แก้วฟังเยอะแยะเลย ฟังหน่อยนะ”“อุ๊ย!” ร่างเล็กถูกดึงไปกอดแนบอก แก้วใจพยายามขืนตัวดิ้นยุกยิก แต่ก็ไม่สามารถจะหลุดพ้นจากอ้อมกอดแข็งแรงได้ บดินทร์กดศีรษะทุยเบาๆให้ใบหูเล็กแนบไปกับอกกว้าง“เดี๋ยวพ่อมาเห็น” แก้วใจอุบอิบบอก“นิดเดียวนะ พี่คิดถึงแก้วมาก ใจแทบขาด จนต้องทำงานหนักๆจะได้ลืมความคิดถึง มันเป็นความทรมานอย่างที่สุดเลยนะ แก้วรู้ไหม” แก้วใจอยากบอกเหลือเกินว่าเธอเองก็ทรมานไม่ต่างไปจากเขา คิดถึงแทบขาดใจ“แก้วก็ทรมาน คิดถึงพี่ดิน” วงแขนเรียวกอดรัดร่างใหญ่ไว้แน่น อบอุ่นและคุ้นเคย อยากอยู่แบบนี้ตลอดไป“พี่จะให้พ่อกับแม่มาสู่ขอแก้วนะ เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”“แก้วยังไม่ได้รับปริญญาเลยนะ”“เรียนจบแล้วนี่
“พี่ดินเป็นเกษตรอำเภอที่นี่ ยังโสด ไม่มีแฟน ฉันแอบไปสัมภาษณ์พี่เขามาแล้ว คนอะไรดูไกลๆก็หล่อ ยิ่งพอไปดูใกล้ๆนะแกเอ๊ย! ฉันนี้แทบละลาย” เพื่อนสาวที่นั่งร่วมโต๊ะเอ่ยด้วยใบหน้าเพ้อฝันแก้วใจใบหน้าบูดบึ้งลงทันทีที่เพื่อนพูดจบ อะไรกัน โสดเหรอ ไม่มีแฟน อ้อ! ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งแล้วนี้ คงลืมเด็กกะโปโลอย่างเธอแล้วล่ะสิ หญิงสาวจับจ้องมองแผ่นหลังกว้างราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ผู้ชายนิสัยเสีย รักง่ายหน่ายเร็ว ไหนบอกว่าจะรอ ไหนบอกว่ารักแก้วคนเดียว มือบางเผลอยกขึ้นถูแก้มเนียนแรงๆด้วยความโกรธ แก้มเนียนข้างนี้ไงที่ถูกเขาหอมฟอดใหญ่ เธอยังจำสัมผัสร้อนผ่าวนั้นได้ดี ทั้งที่ไม่ควรจะจำเลย เพราะเขาเองก็คงลืมเธอไปแล้ว เจ็บใจที่สุด“เฮ้ย! แก้วเป็นอะไรถูแก้มจนแดงเถือกไปหมดแล้ว” แก้วใจชะงักมือน้อย กวาดสายตามองเพื่อนที่จ้องเธอเป็นตาเดียวกัน“เอ่อ...ไม่มีอะไร เราขอตัวแป๊บนึงนะ” หญิงสาวลุกขึ้นเดินหนีไปจากกลุ่มเพื่อน เมื่อมาถึงหลังบ้านที่มีต้นมะขามใหญ่ และมีชิงช้าผูกกิ่งมะขามไว้สำหรับนั่งเล่น แก้วใจก็นั่งลงบนชิงช้าเหม่อมองออกไปยังทุ่งกว้างหลังบ้าน“มีอะไรหรือเปล่าลูก” แม่ติ๋มสังเกตเห
“ฟ้าเป็นอะไรก็ไม่รู้ น่าอายจังเลย” เพียงฟ้าซุกหน้ากับอกสามีอย่างอับอายเธอร่านร้อนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พอเช้ามาก็ยังใจกล้ากินสามีด้วยท่าทางน่าอายแบบนั้นอีก“อายทำไม เป็นผัวเมียกันเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ”“แต่ฟ้าเริ่มเองทุกครั้งเลย ลุงนิเต็มใจหรือเปล่าก็ไม่รู้”“เต็มใจที่สุด และชอบที่ฟ้าเป็นแบบนี้มากๆค่ะ” นิธิจูบขมับสวย ลูบไล้แผ่นหลังเนียนเบาๆ“ลุงนิอย่ามาใกล้ฟ้าบ่อยๆนะคะ เวลาได้กลิ่นลุงนิแล้ว ฟ้าจะรู้สึกอยากรักทุกทีเลย” เพียงฟ้าพูดอย่างไม่อาย เธอกลัวกว่าสามีจะหาว่าเธอมักมากในเพศรส“จะเข้าใกล้บ่อยๆ จะอยู่ใกล้ๆทั้งวัน ลุงนิอยากให้ฟ้ารัก” เพียงฟ้าเงยหน้ามองสามี ตากลมโตเบิกกว้าง“ได้ทีเลยนะคะ” แก้มป่องๆหน้างอนๆ ทำให้นิธิกดจมูกโด่งหอมแรงๆ“ก็คนมันอดมานานนี่นา”“ตาแก่ลามก” นิธิหัวเราะจนอกกระเพื่อม“ใครแก่คะ แถวนี้มีแต่คนเหล็กฆ่าไม่ตาย” มือใหญ่จับมือเล็กให้สัมผัสลำกายที่ขยายพองอีกแล้ว“ฆ่าไม่ตายจริงด้วย เดี๋ยวฟ้าจะจัดการมันเองนะคะ” นิธิเต็มใจยิ่งกว่าเต็มใจ ยอมให้ภรรยาจัดการโดยไม่มีปากเสียงใดๆ แบบนี้ดีจัง
“โอ๋ๆ ไม่เอาไม่ร้อง เดี๋ยวนี้เลยจ้ะ แต่ต้องช้าๆ ระวังหน่อยนะคะ” ร่างสูงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ดึงสองขาเรียวมาพาดบนท่อนแขนแกร่ง โหย่งกายเข้าหา ค่อยๆสอดแทรกเชื่องช้า เพียงฟ้าหงุดหงิดจนต้องยันกายลุกขึ้น นั่งคร่อมร่างใหญ่ มือบางจับบ่าแกร่งสองข้างไว้แน่น ก่อนกดสะโพกแรงๆคราเดียวจนสุดทาง“อ๊าย!” ใบหน้าสวยแหงนเชิดไปด้านหลัง ทั้งเจ็บจุกแต่เสียวซ่านสะใจ“ฟ้า!” นิธิรวบกอดเอาร่างที่แอ่นโค้งไว้แน่น เรียกเธอด้วยน้ำเสียงร้อนรน เพราะเกรงว่าภรรยาจะเจ็บมาก“ดีจังเลยค่ะลุงนิ ฟะ...ฟ้าขยับนะคะ ได้ไหม” นิธิเบิกตากว้าง รีบพยักหน้ารับเร็วๆ“ได้ค่ะ ขยับได้เลยตามใจฟ้า” หนุ่มใหญ่ละล่ำละลักตอบด้วยน้ำเสียงยินดี เมื่อได้รับคำอนุญาตเพียงฟ้าก็ขยับร่ายรำอย่างใจต้องการ สะโพกสวยกดแรงไม่กลัวเจ็บ ส่ายร่อนหมุนวนในจังหวะที่ตนเองพอใจ ใบหน้าหวานก้มลงจูบสามีอย่างที่เขาทำกับตัวเอง เสียงครางอื้ออึงในลำคอของคนทั้งสองดังประสานกับเสียงเนื้อหนังกระทบกันในจังหวะเร่าร้อน อกอวบเสียดสีไปกับแผ่นอกกว้าง เพียงฟ้าจิกเล็บลงบนบ่าแกร่ง หญิงสาวกำลังโจนทะยานไปสู่จุดสุดยอดของบทเพลงกามา ใบหน้าสวยหวานสะบัดหนีจูบของสามี คร