เมื่อใส่ข้าวเหนียวลงในบาตรสามเณรรูปสุดท้ายเสร็จ เพียงขวัญก็ใช้สองมือยกกระติบข้าวขึ้นเหนือศีรษะตามแบบที่ผู้สูงวัยทั้งสามและเหมันต์ทำ ผู้เฒ่าผู้แก่และคนอื่นๆแยกย้ายกันเข้าบ้าน เหมันต์เอ่ยขอบคุณผู้สูงวัย พูดคุยกันเล็กน้อยก่อนจะพาเธอกลับบ้านกลางทุ่งของเขา
“ผมจะไปทำธุระในเมือง จะกลับมาค่ำๆ คุณหาอะไรกินเองเลยนะ ในตู้เย็นมีของสดอยู่ เดี๋ยวอีกสักพักจะมีคนงานมาทำงาน”
“แล้วเย็นนี้คุณจะกลับมาทานข้าวไหมคะ ขวัญจะเตรียมกับข้าวไว้รอ จะได้ทำหน้าที่เอ่อ...หน้าที่ภรรยาให้สมบูรณ์” ประโยคสุดท้ายเธอจงใจเน้น เพราะตั้งแต่ตื่นมาโดนเขาจิกกัดจนเป็นแผลเหวอะไปทั้งตัว ทั้งเรื่องตื่นสายหุงข้าวหุงน้ำ แล้วเขาก็ย้ำอยู่นั่นแหละ
“รู้ไหมว่า หน้าที่เมียที่สมบูรณ์ไม่ได้หมายความถึงการทำกับข้าวให้ผัวกินอย่างเดียวหรอกนะ ถ้าคุณอยากทำหน้าที่เมียให้สมบูรณ์จริงๆ เดี๋ยวคืนนี้เจอกัน” เพียงขวัญอ้าปากค้าง หัวใจเต้นแรง ใบหน้าร้อนวูบวาบ ยืนนิ่งราวกับถูกสาป แต่คนที่หันหลังเดินหนีเธอออกจากบ้านไป กลับยิ้มกรุ้มกริ่ม...ผิวปากหวือข่มขวัญเธอให้กระเจิงไปไกลแสนไกล
เพียงขวัญใช้เวลาในช่วงเช้าทำกับข้าวง่ายๆทาน หลังจากนั้นก็จัดเสื้อผ้าเข้าไว้ในตู้ เธอสังเกตว่าตู้ใบใหญ่ยังเหลือพื้นที่อีกมากมายให้เธอใช้สอย เสื้อผ้าของเหมันต์มีน้อยมากจนเธออดแปลกใจไม่ได้ มือบางเปิดลิ้นชักเพื่อจะเก็บชุดชั้นในให้เป็นสัดส่วน แต่ก็ต้องรีบปิดมันไว้ตามเดิมแทบไม่ทัน เพราะกางเกงในผู้ชายและบอกเซอร์ซุกตัวอยู่ในนั้น
“สามี...เขาคือสามี” บอกตัวเองเบาๆ มือบางสั่นน้อยๆตอนที่พับเก็บของของเขาให้เป็นระเบียบ แยกพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนคนละฝั่งของลิ้นชัก แต่ถึงจะคนฝั่งมันก็ต้องวางติดกันอยู่ดี เพราะลิ้นชักไม่ได้มีพื้นที่กว้างขนาดหลายตารางกิโลเมตรเสียหน่อย ภาพชุดชั้นในสีหวานหลากหลายสีของเธอ ก็เลยตัดกันกับกางเกงในสีขาวของเขาอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้านวลร้อนผ่าว รีบปิดลิ้นชักไว้ตามเดิม เพียงขวัญสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วพ่นออกเบาๆ เรียกกำลังใจให้ตนเอง หากแต่พอสมองของเธอคิดไปถึงประโยคสุดท้ายที่ถูกขู่ยไว้ก่อนที่เขาจะเดินออกจากบ้านไป ‘เดี๋ยวคืนนี้เจอกัน’ หัวใจดวงน้อยก็เต้นรัวราวกับว่าจะกระเด็นออกมาเต้นรำในจังหวะสามช่าเสียให้ได้
เพียงขวัญเดินสำรวจไปทั่วบ้านหลังเล็กของเหมันต์ บ้านของเขาช่างเหมาะจะเป็นบ้านของคนปากร้ายเอาแต่ใจเสียจริง มันแปลกตาและลงตัวแถมยังมีสไตล์เป็นของตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ แน่ล่ะ...มันไม่ใช่บ้านในฝันของสาวหวานอย่างเธอ แต่ยังไงเธอก็คงต้องอยู่ที่นี่สินะ เท้าบางพาเจ้าของเดินไปจนถึงหลังบ้าน หญิงสาวพบว่ามีศาลาเรือนไทยหลังเล็ก ยกพื้นสูงเป็นเตียงสำหรับนอนพักผ่อน มีหมอนสามเหลี่ยมใบโตและหมอนขิดใบเล็กวางอยู่เคียงกัน มีหนังสือสองสามเล่มวางอยู่บนนั้นด้วย หญิงสาวขยับร่างเดินขึ้นบันไดเล็กๆสามขั้นขึ้นไปนั่งบนเรือนไทย เพียงขวัญพบว่าวิวจากมุมนี้มองเห็นทุ่งข้าวในมุมกว้าง และมองเห็นหนองน้ำใหญ่ที่มีบัวแดงอยู่เต็มสระด้วย เธอมองเห็นคนงานสามสี่คนบริเวณหนองน้ำ มองไปจากตรงนี้คิดว่านั่นคงจะเป็นแปลงผักหลายแปลง
“นับจากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยเราก็ได้ตอบแทนบุญคุณของคุณ
พ่อคุณแม่ที่เลี้ยงดูเด็กกำพร้าที่ไม่มีใครต้องการอย่างเราได้” เพียงขวัญยิ้มขื่นกับชีวิตตนเอง หลังจากวันที่พ่อกับแม่บุญธรรมรับเธอมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่ออุปการะในตอนที่เธออายุเพียงสองเดือน ผู้เป็นแม่ก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดสมาชิกใหม่คือเพียงฟ้า เธอกับเพียงฟ้าอายุห่างกันเพียงปีเดียว หากแต่ท่านทั้งสองก็เลี้ยงดูและรักลูกทั้งสองอย่างเท่าเทียมกัน เป็นเพียงขวัญเสียอีกที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินของบ้านแสนอบอุ่น แต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกมาให้ใครเห็น เธอตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ทำตัวเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทของท่านทั้งสองเสมอ และอีกหนึ่งสิ่งที่เธอยึดถือก็คือการเสียสละ จะมีสิ่งใดที่จะตอบแทนผู้มีพระคุณได้ดีไปกว่าการเสียสละให้กับลูกในไส้ของคนที่ชุบเลี้ยงเธอมากันเล่า ดังนั้นหากต้องทำอะไรที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง เพียงขวัญก็ยินดีที่จะทำเพื่อเพียงฟ้าเสมอ
“แม่ได้รับเงินห้าล้านแล้ว ขอบใจขวัญมากนะลูก” ประโยคนั้นถูกเอ่ยมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาผ่านการสื่อสารไร้สาย เสียงมารดาเอ่ยถ้อยคำต่างๆอีกมากมาย และสุดท้ายก็อวยพรให้ชีวิตคู่ของเธอเป็นไปด้วยดี ให้เหมันต์รักและเอ็นดูเธอมากๆ หญิงสาวกล่าวคำขอบคุณและวางสาย มือบางกำโทรศัพท์เครื่องเล็กไว้ในมือนานเท่าไรก็ไม่รู้ หัวใจมันโหวงๆไม่รับรู้ต่อสรรพสิ่งรอบกาย
สายลมเย็นพัดโชยมาเรื่อยๆ ดวงตากลมโตจึงเริ่มหรี่ปรือ ร่างเล็กขยับตัวลงนอนหนุนหมอนใบเล็ก คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยได้สักครู่เดียว ก็เผลอหลับไป
“เฟสแรกห้าสิบหลังจองเต็มหมดแล้วครับ คุณเหมจะเปิดให้จองเฟสสองต่อเลยมั้ยครับ”
“ผมอยากให้เฟสแรกเสร็จสักแปดสิบเปอร์เซ็นต์ก่อน แล้วค่อยเปิดตัวเฟสสอง
แล้วคอนโดว่าไง ถึงไหนแล้ว” เหมันต์อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวราคาแพงปล่อยชายสวมทับด้วยเสื้อสูทเนื้อดี กางเกงยีนส์สีเข้มกับรองเท้าหนังสีน้ำตาล เป็นสไตล์การแต่งตัวง่ายๆของผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจังหวัดแห่งนี้
“จองเต็มตั้งแต่เปิดตัววันแรกแล้วครับ เป็นคอนโดที่สูงที่สุดในจังหวัดตามที่คุณเหมตั้งใจครับ” นิธิยิ้มให้กับเจ้านาย เขายอมรับการบริหารและชั้นเชิงของชายหนุ่มรุ่นใหม่คนนี้นัก จังหวัดใหญ่ใจกลางภาคอีสานเป็นบ่อทองใหม่สำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายในประเทศ หมู่บ้านจัดสรรผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ขยายตัวอยู่รอบตัวเมืองใหญ่หลายโครงการ แต่ละโครงการเป็นของบริษัทที่มีชื่อเสียงคุ้นเคยกันระดับประเทศ ถึงแม้บริษัทของเหมันต์จะไม่ใช่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของประเทศ หากแต่ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือที่บิดาเขาสร้างไว้เป็นทุนเดิม ก็ทำให้ผู้คนให้ความสนใจจับจองเป็นเจ้าของ และยอดจองก็เต็มทันทีในวันที่เปิดจองวันแรก“คุณเหมจะไปดูที่ไซด์งานหน่อยมั้ยครับ” ชายหนุ่มโบกมือปฏิเสธ“ไม่ล่ะคุณนิธิ ผมไว้ใจคุณ ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรหาผมแล้วกัน ช่วงนี้ผมอาจจะไม่ค่อยได้เข้าบริษัทเท่าไรนะ” ลูกน้องคลี่ยิ้มเป็นเชิงรู้ทัน“จะไม่บอกคุณสายฝนหน่อยหรือครับ ว่าพาลูกสะใภ้มาอยู่ด้วยแล้ว” นิธิอายุมากกว่าเหมันต์เกือบสิบปี เขาเป็นมือขวาของผู้บริหารหนุ่ม และรู้จักกับครอบครัวของเหมันต์เป็นอย่างดี“ยังหรอกครับ ถ้าเขาอยู่กับผมได้จริงๆแล้วค
“ขะ...ขวัญหิวข้าวค่ะ คุณเหมทานอะไรมาหรือยังคะ เดี๋ยวขวัญทำอาหารให้ทานนะคะ” คราวนี้เหมันต์เผยยิ้มกว้าง ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เป็นโอกาสอันดีที่เพียงขวัญจะใช้ในการดีดตัวลุกขึ้นนั่ง และกระถดกายหนีเขาไปจนชิดชอบศาลาอีกด้านหนึ่ง“อืม...กินอะไรก่อนก็ดี จะได้มีแรงเยอะๆ งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ” เพียงขวัญมองเขาอย่างระแวง พยักหน้ารับเร็วๆ เมื่อร่างสูงขยับเพื่อจะลงจากศาลา หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย จ้องมองเขานิ่งอย่างระแวดระวัง เหมันต์หัวเราะในลำคอ ลงไปยืนอยู่ข้างศาลาแล้วจ้องไปยังร่างที่เบียดตัวเองอยู่กับเสาอย่างขำๆ“ถ้าคุณยังนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น ผมอาจจะเปลี่ยนใจกินอย่างอื่นแทนข้าวนะ” มันได้ผล เพราะเพียงขวัญรีบขยับตัวลุกขึ้นก้าวลงมายืนอยู่บนพื้น แล้วรีบเดินเร็วเข้าบ้านไปทันทีอาหารกลางวันตอนเกือบบ่ายสองโมงถูกเสิร์ฟโดยแม่ครัวคนใหม่ของบ้าน เพียงขวัญไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านชอบกินอะไร รสชาติแบบไหน หญิงสาวจึงทำอาหารทั่วไปรสชาติกลางๆ ผัดผักรวม ปลากะพงทอดน้ำปลา แกงเลียงกุ้งสด และน้ำพริกปลาทูพร้อมผักสด เหมันต์ถึงกับอมยิ้มเมื่อเห็นอาหารที่วางรอเขาอยู่บนโต๊ะ ก็ปกติแล้วโต๊ะอาหารบ้านนี้เคยมีกับข้าวตั้งโต๊ะเกินหนึ่งอย่างซะท
“อุ๊ย!” ร่างเล็กถูกรวบกอดและเอนลงนอนเบียดกับร่างใหญ่ ลำแขนแกร่งช้อนรองใต้ศีรษะทุยให้เธอได้หนุนนอน ร่างกายด้านหน้าของทั้งสองแนบชิดจนรับรู้ได้ถึงไออุ่นจากกันและกัน เพียงขวัญสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือใหญ่อีกข้างของเหมันต์วางทาบบนสะโพกผายของตน“เงยหน้าขึ้นมาสิ” ทำไมเขาถึงชอบสั่งนักนะ คนรู้สึกว่าโดนสั่งบ่อยๆจึงชักสีหน้าไม่พอใจในตอนที่เงยขึ้นสบตาคมดุระยะใกล้“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย แบบนี้ก็หมดอารมณ์กันพอดี” เพียงขวัญเม้มปากแน่น พยายามปั้นหน้าฝืนยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่ดูเสแสร้งให้ดูดีมากในสายตาชายหนุ่ม เหมันต์หัวเราะในลำคอ พร้อมกับพลิกร่างเล็กให้อยู่ใต้ร่างของตน เพียงขวัญลนลานใช้มือยันบ่ากว้างไว้ทั้งสองข้าง“จะทำอะไรคะ”“กินของหวาน” เหมันต์ตอบหน้าตาย“เอ่อ...” ทำไมจะไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่จะดิ้นรนปฏิเสธไปก็ไม่รู้จะหลีกเลี่ยงไปได้อีกสักกี่วัน แล้วก็มีแต่จะทำให้คนปากร้ายโกรธและถากถางด้วยคำพูดให้เสียใจเปล่าๆ เพียงขวัญค่อยๆหลับตาลง ลำแขนเรียวสองข้างวางลงแนบตัว เธอนอนนิ่ง แต่หัวใจนี่สิ...มันเต้นแรงเสียจนน่ากลัวว่าจะปะทุออกมานอกอก เหมันต์ยิ้มขำกับท่าทางจำยอมนั้น จะนิ่งได้นานแค่ไหนกันเชียวสัมผัสร้อนจากร
“คุณเหม...ช่วยขวัญด้วย ได้โปรด...” เธอบิดกายอ้อนวอนเขาโดยไม่เหลือความอายใดๆ เหมันต์ครางลึกในลำคอ ของหวานชิ้นใหญ่ช่างนุ่มละมุนลิ้น หอมหวานจนเขาอยากจะกลืนกินให้หมดทั้งตัว หัวใจชายหนุ่มเต้นระทึก ยิ่งได้ยินคำวิงวอนกระเส่าแว่วหวาน เขาก็ยิ่งเร่งเร้าปรนเปรอจนร่างสาวแอ่นค้าง กลั่นหยดน้ำหวานหลั่งรินให้เขาได้กลืนกินจนอิ่มเปรม ก่อนที่ร่างนั้นจะอ่อนระทวยลงอย่างไร้สิ้นเรี่ยวแรงเหมันต์จัดแจงเสื้อผ้าของหญิงสาวให้เข้าที่เหมือนเดิม แล้วเคลื่อนตัวขึ้นมานอนเคียงข้างกัน ลำแขนแกร่งสอดลงใต้ศีรษะทุยเพื่อให้เธอได้หนุนนอนต่างหมอน เพียงขวัญยังคงหลับตาพริ้ม เห็นได้ชัดว่าจังหวะลมหายใจเธอยังไม่เป็นปกติ ชายหนุ่มกดจูบลงบนขมับสวยชื้นเหงื่อ“ผมบอกคุณหรือยังว่าคุณทำอาหารอร่อยมาก” เพียงขวัญลืมตาขึ้นมองสบตาคมวาวในระยะใกล้ ลมหายใจของเขาเป่ารดอยู่เหนือขมับของเธอ“แต่คนทำอร่อยกว่ามากกกกก” คนพูดจงใจลากเสียงสุดท้ายยาว และยิ้มกรุ้มกริ่มให้ ใบหน้าสาวร้อนวูบวาบขึ้นมาทันใด เพียงขวัญจึงเลือกที่จะซุกหน้ากับอกกว้างของเขา หัวใจเต้นระรัว ยิ่งพอหลับตาลงแล้วนึกถึงเสียงอ้อนวอนของตน และท่าทางเชื้อเชิญตอบสนองเขาเมื่อสักครู่นี้แล้ว เธอก็
“นี่ยังไม่หยุดสูบอีกเหรอลุง เดี๋ยวก็ได้เป็นมะเร็งตายหรอก” ลุงช่วงหัวเราะแหะๆ ยกมือเกาท้ายทอยแก้เก้อ“ก็ลดลงนิดหน่อยแล้วครับ พกไว้เวลาอยากจริงๆ แก้เครียดครับ” เหมันต์ส่ายหน้ากับคำแก้ตัวข้างๆคูๆของคนสูงวัย“แล้วของคนอื่นล่ะเป็นไงบ้าง เกี่ยวพร้อมกันเลยมั้ย”“พร้อมกันเลยครับ ว่าแต่ส่วนของคุณเหมจะให้ลุงจัดการให้พร้อมกันเลยมั้ยครับ”“อืม...ลุงช่วงจัดการให้ผมด้วยแล้วกัน เสร็จแล้วก็ค่อยมาเอาค่าจ้างเกี่ยวข้าวพร้อมกับค่าแรง อ้อ...แปลงที่เกษตรตำบลเขามาขอทำแปลงนาสาธิตไม่ต้องเกี่ยวนะครับ เดี๋ยวเขาจะให้ชาวบ้านมาลงแขกเกี่ยวช่วยกัน”“ครับคุณเหม เอ่อ...นั่นใครล่ะครับ ไม่เคยเห็นหน้า”“คุณขวัญ...เป็นเมียผม” คุณที่ถูกแนะนำตัวสั้นๆ เม้มปากแน่นแต่ก็คลายออกอย่างรวดเร็ว ยกมือไหว้ผู้สูงอายุอย่างอ่อนน้อม“ไหว้พระเถอะครับคุณ” ลุงช่วงรับไหว้แทบไม่ทัน เมื่อเมียเจ้าของที่นาซึ่งเขาและชาวบ้านหลายคนได้พึ่งใบบุญ ปลูกข้าวทำนาและหากินบนที่ดินผืนใหญ่ยกมือไหว้“เอ่อ...คุณเหมมีอะไรจะให้ลุงทำหรือเปล่าครับ”“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่อยากพาเมียมาดูไร่ดูนาเท่านั้นเอง เผื่อเขาเห็นแล้วไม่ชอบ ไม่อยากอยู่ จะได้เปลี่ยนใจเก็บกระเป๋ากล
“จ้องอยู่ได้ มันจะค่ำแล้วเดี๋ยวก็หนาวตายคาหนองน้ำหรอก หรือไม่ชอบขี่หลังจะขี่ข้างหน้า” เหมันต์ไม่พูดเปล่า เขาเคลื่อนมือใหญ่ผ่านสะโพกมนลงไปตามต้นขาเรียว ทำท่าจะจับมันแยกออกอย่างน่าหวาดเสียว“ขี่หลังค่ะ ขี่หลัง” เพียงขวัญระล่ำระลักตอบ แล้วโอบกอดร่างใหญ่หลวมๆ ค่อยๆเคลื่อนตัวไปอยู่ข้างหลังเขา ทุกการขยับเสียดสีแนบเนื้อก่ออารมณ์บางอย่างในกายใหญ่ จนคนที่บอกให้หญิงสาวขี่หลังต้องขบกรามแน่น ข่มอารมณ์ร้อนที่เริ่มปะทุใกล้จะถึงจุดเดือด อยากเปลี่ยนใจจับเธอมาขี่ข้างหน้าแทนจริงๆไม่นานนักคนที่ชวนเก็บผักก็ได้ผักเพียงพอกับความต้องการ หญิงสาวทำหน้าที่ถือผักกระเฉดยอดอวบที่เขาส่งให้อย่างไม่เกี่ยงงอน น้ำในหนองใสจนแทบจะมองเห็นพื้นใต้น้ำ ด้วยสภาพพื้นที่เป็นดินทรายผสมดินเหนียวเมื่อใต้พื้นน้ำถูกก่อกวนจึงไม่ทำให้น้ำขุ่นอย่างที่เธอนึกกลัวเหมันต์พาเธอขึ้นมาจากน้ำแล้ว แต่ไม่ยอมปล่อยให้เธอลงจากหลังตัวเอง อากาศเย็นครอบคลุมอยู่รอบกาย หากแต่ส่วนที่ร่างกายแนบชิดกันกับอบอุ่นจนเกือบร้อน“เอ่อ...ให้ขวัญลงเถอะค่ะ เราจะได้รีบกลับบ้าน” เขายังคงเดินต่อไปโดยไม่ปล่อยเธอลงอย่างที่ต้องการ เพียงขวัญค้อนให้แผ่นหลังกว้าง นึกบ่นในใ
“อยากอยู่อ่อยโจรปล้นสวาทที่บ้านก็เชิญ ได้ข่าวว่าเพิ่งแหกคุกออกมาเมื่อวานนี้เอง” เหมันต์ตวัดหางตามามองหญิงสาวเพียงแวบเดียวก็เดินเข้าห้องไป ค้นหาแจ็คเก็ตในตู้แล้วนำมาสวมใส่ เพียงขวัญยืนตกตะลึงอยู่กลางบ้าน ครู่เดียวก็วิ่งตามเขาเข้าไปในห้องนอน รีบเปิดตู้ค้นหาเสื้อแขนยาวมาสวม แล้วรีบวิ่งตามชายหนุ่มออกไปหน้าบ้าน เหมันต์หันกลับมาล็อกประตูบ้าน แล้วจูงจักรยานออกไปที่ถนน ร่างเล็กได้แต่เดินตามเขาต้อยๆ พอเขาขึ้นประจำตำแหน่งคนปั่น หญิงสาวก็นั่งซ้อนท้ายเกาะเกี่ยวเอวเขาไว้เสียแน่นเหมันต์ปั่นจักรยานมาจนถึงบ้านไม้หลังใหญ่ที่ปลูกอยู่ท้ายหมู่บ้านอีกฟากหนึ่ง เสียงคนคุยกันบนบ้านดังแว่วมาให้ได้ยิน เพียงขวัญก้าวเดินตามชายหนุ่มที่เดินนำขึ้นไปบนบ้านหลังใหญ่ก่อน พอขึ้นไปถึงบนบ้าน หญิงสาวก็ได้รับการแนะนำว่าเธอเป็น ‘เมีย’ ของเขา มือเล็กประนมขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม เธอคลี่ยิ้มหวานส่งให้กับทุกคน ซึ่งนั่งอยู่บนพื้นไม้ราวๆสักสิบคนได้“จะยืนอีกนานไหม มานั่งตรงนี้” เหมันต์ใช้เสียงดุกับเธออีกแล้ว ผู้คนมากมายเขาก็ยังวางอำนาจกับเธอ ช่างไม่รู้จักมารยาทเสียจริง เพียงขวัญนึกโกรธอยู่ในใจ แต่ก็เดินไปนั่งลงข้างๆเขาแต่โดยดี“นึกว
“ก็ไม่เห็นจะง่วงสักหน่อย” เพียงขวัญปรือตาขึ้นแล้วกะพริบตาปริบๆ หญิงสาวต้องใช้เวลาหลายอึดใจทีเดียวในการเรียกสติสตังกลับมา น้ำเสียงของเหมันต์เจือไปด้วยความขบขัน เธอสัมผัสได้ อยากจะเขกหัวตัวเองนักที่หลงใหลไปกับจูบแสนหวานของเขา“งะ...ง่วงสิคะ ขวัญจะหลับตาล่ะนะ” เพียงขวัญหลับตาแน่น นอนหงายตัวแข็งทื่อ เหมันต์หัวเราะในลำคอ ขยับพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาหญิงสาว จงใจซุกใบหน้ากับซอกคอหอมกรุ่น ท่อนแขนกำยำจงใจวางพาดทับไว้บนหน้าท้องแบนราบ วางขาพาดทับขาเล็กๆทั้งสองข้างไว้ ใบหน้าหล่อเหลากระตุกยิ้มที่มุมปาก“นอนเถอะ...ยังมีเวลาอีกหลายคืน” เพียงขวัญกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พยายามกำหนดลมหายใจให้สม่ำเสมอ ลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดอยู่ซอกคอเป็นสิ่งที่รบกวนการข่มตาหลับของเธอได้อย่างดี ไหนจะแขนขาที่เธอพอจะรู้ว่าเขาจงใจเอามันมาพาดทับร่างกายของเธอไว้ เพราะอยากแกล้งอีก“คะ...คุณเหมคะ”“หืม...ไม่ง่วงแล้วเหรอ งั้นต่อเลยนะ”“ง่วงค่ะง่วง” เพียงขวัญคงเป็นคนง่วงที่น้ำเสียงตื่นตัวที่สุด“ง่วงก็หลับเถอะ จะมาสะกิดทำไมล่ะ”สะกิด! เธอไม่มีความคิดนั้นอยู่ในหัวสักนิดสาบานได้“ขวัญหนักค่ะ คุณเหมช่วยเอาแขนกับขาออกไปจากต
“สวัสดีค่ะพี่ขวัญ” แก้วใจยกมือไหว้ เด็กชายที่เดินตามหลังมาก็ยกมือไหว้หญิงสาวเช่นกัน“สวัสดีจ้ะแก้ว กลับมาเยี่ยมบ้านเหรอ มากี่วัน แล้วนั่นมากับใครอ่ะ พี่ขวัญไม่เคยเห็นเลย แต่หน้าคุ้นๆนะ” แก้วใจหัวเราะเสียงใส กับคำถามที่รัวมาเป็นปืนกล“แก้วกลับมาเยี่ยมบ้านสามวันค่ะพี่ขวัญ พรุ่งนี้กลับตอนเย็นๆ แล้วนี่...” แก้วใจดันบ่าของเด็กชายวัยสิบสี่ปีให้มายืนต่อหน้าเพียงขวัญ“บุรินทร์ หรือ แดนค่ะ เป็นน้องชายของพี่ดิน” เด็กชายบุรินทร์ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ใบหน้าที่ฉายแววหล่อเข้มระบายยิ้มน้อยๆอย่างมีเสน่ห์ เพียงขวัญสบสายตาคมของเด็กชายแล้วยิ้มหวานให้อย่างรู้สึกถูกชะตา“สวัสดีครับพี่ขวัญ”“สวัสดีจ้ะหนุ่มน้อย พี่ขวัญไม่เคยรู้เลยนะเนี่ยว่าพี่ดินมีน้องชายด้วย แดนอายุเท่าไรคะ”“สิบสี่ปีครับ”“โอ้โห! ห่างกับพี่ดินตั้งสิบสามปีแน่ะ” เด็กชายบุรินทร์ยิ้มน้อยๆกับท่าทางแปลกใจของพี่สาวคนสวยตรงหน้า“ตอนแรกแก้วก็ตกใจเหมือนพี่ขวัญนี่แหละค่ะ คุณพ่อคุณแม่พี่ดินบอกว่าแดนเป็นลูกหลง”“ไม่ได้หลงนะครับพี่แก้ว คุณพ่อบอกว่าตั้งใจ” แก้วใจหันไปสบตาหนุ่มน้อยแล้วหันกล
“อยากรักขวัญทั้งวันทั้งคืน ห่างไปตั้งนาน แทบจะลงแดงตาย” เหมันต์กระซิบเสียงพร่าขณะที่พรมจูบไปทั่วใบหน้าภรรยาแล้วมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากนุ่มหวานละมุนลิ้น เพียงขวัญไม่ขัดสามี เธอเข้าใจและเห็นใจเขา หญิงสาวจูบตอบ กอดรัดเขาไว้แน่น ขยับสะโพกรับจังหวะรุกจากเขาอย่างเท่าเทียม บทเพลงรักเร่าร้อนจากคนช่างเรียกร้องทำเอาคุณแม่ยังสาวแทบจะละลายกลายเป็นวุ้นคาอกสามี เพียงขวัญกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะถูกส่งไปยังปลายทางของห้วงอารมณ์รักนับครั้งไม่ถ้วน เหมันต์เก็บตกจัดเต็มทุกท่วงท่า เท่าที่ห้องน้ำจะเอื้ออำนวยให้เขาทำได้ สุดท้ายจบลงที่อ่างอาบน้ำ ชายหนุ่มชำระล้างร่างกายให้ตนเองและภรรยาหลังจากจบสิ้นภารกิจทวงคืนพื้นที่ส่วนตัวจากลูกสาวตัวน้อย กว่าเขาจะพาร่างอ่อนปวกเปียกออกมาจากห้องน้ำก็ล่วงเลยเวลาไปเกือบสามชั่วโมงเพียงขวัญในชุดนอนใหม่หลับสนิททันทีที่หัวถึงหมอน เหมันต์จูบหน้าผากมนแผ่วเบา รู้สึกรักและหวงแหนเธอมากกว่าที่เคยรู้สึก“ผมรักคุณนะขวัญ” แววตาอ่อนโยนทอดมองใบหน้าของภรรยาอย่างแสนรักเสียงอ้อแอ้ของลูกสาวทำให้เหมันต์ละสายตาจากภรรยา ชายหนุ่มลุกไปหยิบขวดนมที่เตรียมการเอาออกมาจากตู้เย็นตั
“ขวัญ” เหมันต์ขยับกายขึ้นมาหอมแก้มเนียนของคนที่ยังล่องลอยอยู่ท่ามกลางความสุขสม“ก็ยังเหมือนเดิมนะ” เพียงขวัญขมวดคิ้วมุ่น ไม่เข้าใจว่าสามีหมายถึงอะไร“อะ...อะไรคะยังเหมือนเดิม” ริมฝีปากหยักได้รูปยกยิ้มอย่างจ้าเล่ห์ แล้วก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็กบาๆ เพียงขวัญเบิกตากว้างกับสิ่งที่ได้ยิน อยากจะหยิกเนื้อคนช่างสำรวจแรงๆนัก“ก็ขวัญไม่มั่นใจ ผมเลยต้องบอกให้คุณมั่นใจไง ว่ามันเหมือนเดิม แผลฝีเย็บคุณหมอทำได้เนียนมาก แล้วตรง...” มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากไว้ก่อนที่เขาจะพูดต่อ“พอเลยค่ะ ขวัญเพิ่งรู้ว่าคุณเหมเป็นผู้ชายขี้เม้าท์” เหมันต์หัวเราะเบาๆ“ผมรักคุณนะ” เพียงขวัญยิ้ม จับประคองใบหน้าสามีไว้ด้วยมือสองข้าง โน้มลงมาใกล้กับใบหน้าตัวเอง“ขวัญก็รักคุณเหมค่ะ” คำบอกรักแว่วหวานนัก หากแต่รสจูบกลับหวานซ่านกว่า หวานจนหัวใจสั่นสะท้าน ต่างคนต่างบรรจงถ่ายทอดความรู้สึกแห่งรักให้กันผ่านทางกาย สัมผัสอ่อนโยนทะนุถนอมราวกับว่าเธอคือสิ่งมีค่าสำหรับเขา ทำให้เพียงขวัญตอบสนองอย่างน่ารัก และเมื่อสองร่างค่อยๆหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่างเล็กก็ผวากอดรัดเอาร่างของคนตัวโตไว้เต็มอ้อมกอด
“ขา...” หญิงสาวขานรับเสียงอ่อนเสียงหวาน ด้วยเพราะเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ผู้ชาย และยิ่งเป็นมนุษย์สามีของเธอด้วยแล้ว เธอรู้สึกเห็นใจเขาอยู่ไม่น้อย“ผมจะไม่อดทนแล้วนะ” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมากระซิบบอกแนบใบหูเล็ก เพียงขวัญหัวเราะคิก เพราะสามีเป่าลมร้อนใส่หูเธอ“ลูกอยู่ด้วยนะคะ” มือบางยันบ่ากว้างไว้เมื่อคนตัวโตทำท่าว่าจะไม่อดทนแล้วจริงๆ“ผมจะทำเบาๆ” เขากำลังจะขาดใจตาย ต้องตายแน่ๆ ถ้าช้าไปกว่านี้“คุณเหม อื้อ!” จุมพิตอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความเร่าร้อนปิดกั้นข้ออ้างทั้งหมดจากปากเล็กของภรรยา เหมันต์ดูดซับเอาความหอมหวานที่เขาหลงใหล จ้วงลิ้นร้อนเข้าสู่โพรงปากนุ่มอุ่นที่แสนคิดถึง ตะโบมจูบเอาๆ จนสาแก่ใจจึงยอมถอนจูบ แต่ก็ยังคงอ้อยอิ่งขบเม้มกลีบปากอิ่มดูดดึงหยอกล้อไม่ยอมผละหนี“คุณเหม” เพียงขวัญเรียกสามีเบาๆ เมื่อรับรู้ว่าเขากำลังแกะกระดุมชุดนอนของตน“อืม” ชายหนุ่มขานรับในลำคอ ขณะเลื่อนใบหน้าลงซุกไซ้ลำคอหอมกรุ่น และแล้วกระดุมเม็ดสุดท้ายของชุดนอนแสนเกะกะก็หลุดออก สาบเสื้อถูกแยกออกจากกัน เพียงขวัญสะดุ้ง รีบกอบเอาใบหน้าของสามีที่กำลังจะเลื่อนลงต่ำไว้ด้วยสองมื
หลังจากนั้นไม่ว่าคุณหมอบอกให้ทำอย่างไรเธอก็ทำตาม คุณหมอบอกให้เบ่งเธอก็เบ่ง บอกให้หยุดเบ่งเธอก็หยุด เหมันต์จับจ้องใบหน้าภรรยา สลับกับมองดูคุณหมอเป็นระยะ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตอนที่ภรรยาออกแรงเบ่งเขาเองก็ครางในลำคอช่วยเบ่งด้วยอีกแรง จนกระทั่งเสียงร้องของทารกน้อยดังขึ้น“ผู้หญิงนะคะ แข็งแรง สมบูรณ์ดีค่ะ” คุณหมออุ้มเด็กทารกน้อยที่ยังเปื้อนคราบเลือดขึ้นมา ให้ทั้งสองดูเพศของเด็กหญิงผู้เป็นสายใยรักของเขาและเธอเพียงขวัญและเหมันต์จับจ้องภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม น้ำตาเม็ดใสๆกลิ้งลงตรงหางตาของคนที่ได้เป็นแม่เต็มตัว คุณแม่คุณพ่อมือใหม่หันมาสบตากันเมื่อคุณหมอส่งทารกน้อยให้พยาบาลนำไปทำความสะอาด เหมันต์จูบซับน้ำตาให้ภรรยาเบาๆ“ขอบคุณนะครับที่รัก เมียผมเก่งที่สุดในสามโลก” เพียงขวัญยิ้มให้สามี ยิ้มด้วยความเหนื่อยล้าแต่ก็แฝงไว้ด้วยความปลาบปลื้มยินดี“ผมรักคุณนะขวัญ” เหมันต์ลูบศีรษะและปัดเส้นผมที่ระใบหน้าเนียนออกอย่างเบามือ ชายหนุ่มจุมพิตที่หน้าผากมนแทนคำขอบคุณอีกครั้ง“ขวัญก็รักคุณเหมนะคะ รักลูกสาวของเราด้วย” สองสามีภรรยายิ้มให้กัน เหมันต์แนบใบหน้ากับแก้มชื้นเหงื่อของภร
“น่ารักจะตาย” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำให้แก้วใจหันกลับไปมอง แววตาล้อเลียนนั้นทำให้ใบหน้าสาวร้อนเห่อ“พี่ดิน เอ่อ...แก้วไปหาเพื่อนก่อนนะ” แก้วใจเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ร่างสูงใหญ่ก็เดินมาขวางไว้“ถอยไปนะ แก้วจะไปหาเพื่อน”“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”“ไม่เห็นมีอะไรจะต้องคุย”“มีสิ เยอะแยะเลย พี่มีเรื่องจะเล่าให้แก้วฟังเยอะแยะเลย ฟังหน่อยนะ”“อุ๊ย!” ร่างเล็กถูกดึงไปกอดแนบอก แก้วใจพยายามขืนตัวดิ้นยุกยิก แต่ก็ไม่สามารถจะหลุดพ้นจากอ้อมกอดแข็งแรงได้ บดินทร์กดศีรษะทุยเบาๆให้ใบหูเล็กแนบไปกับอกกว้าง“เดี๋ยวพ่อมาเห็น” แก้วใจอุบอิบบอก“นิดเดียวนะ พี่คิดถึงแก้วมาก ใจแทบขาด จนต้องทำงานหนักๆจะได้ลืมความคิดถึง มันเป็นความทรมานอย่างที่สุดเลยนะ แก้วรู้ไหม” แก้วใจอยากบอกเหลือเกินว่าเธอเองก็ทรมานไม่ต่างไปจากเขา คิดถึงแทบขาดใจ“แก้วก็ทรมาน คิดถึงพี่ดิน” วงแขนเรียวกอดรัดร่างใหญ่ไว้แน่น อบอุ่นและคุ้นเคย อยากอยู่แบบนี้ตลอดไป“พี่จะให้พ่อกับแม่มาสู่ขอแก้วนะ เราจะแต่งงานกันให้เร็วที่สุด”“แก้วยังไม่ได้รับปริญญาเลยนะ”“เรียนจบแล้วนี่
“พี่ดินเป็นเกษตรอำเภอที่นี่ ยังโสด ไม่มีแฟน ฉันแอบไปสัมภาษณ์พี่เขามาแล้ว คนอะไรดูไกลๆก็หล่อ ยิ่งพอไปดูใกล้ๆนะแกเอ๊ย! ฉันนี้แทบละลาย” เพื่อนสาวที่นั่งร่วมโต๊ะเอ่ยด้วยใบหน้าเพ้อฝันแก้วใจใบหน้าบูดบึ้งลงทันทีที่เพื่อนพูดจบ อะไรกัน โสดเหรอ ไม่มีแฟน อ้อ! ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งแล้วนี้ คงลืมเด็กกะโปโลอย่างเธอแล้วล่ะสิ หญิงสาวจับจ้องมองแผ่นหลังกว้างราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ผู้ชายนิสัยเสีย รักง่ายหน่ายเร็ว ไหนบอกว่าจะรอ ไหนบอกว่ารักแก้วคนเดียว มือบางเผลอยกขึ้นถูแก้มเนียนแรงๆด้วยความโกรธ แก้มเนียนข้างนี้ไงที่ถูกเขาหอมฟอดใหญ่ เธอยังจำสัมผัสร้อนผ่าวนั้นได้ดี ทั้งที่ไม่ควรจะจำเลย เพราะเขาเองก็คงลืมเธอไปแล้ว เจ็บใจที่สุด“เฮ้ย! แก้วเป็นอะไรถูแก้มจนแดงเถือกไปหมดแล้ว” แก้วใจชะงักมือน้อย กวาดสายตามองเพื่อนที่จ้องเธอเป็นตาเดียวกัน“เอ่อ...ไม่มีอะไร เราขอตัวแป๊บนึงนะ” หญิงสาวลุกขึ้นเดินหนีไปจากกลุ่มเพื่อน เมื่อมาถึงหลังบ้านที่มีต้นมะขามใหญ่ และมีชิงช้าผูกกิ่งมะขามไว้สำหรับนั่งเล่น แก้วใจก็นั่งลงบนชิงช้าเหม่อมองออกไปยังทุ่งกว้างหลังบ้าน“มีอะไรหรือเปล่าลูก” แม่ติ๋มสังเกตเห
“ฟ้าเป็นอะไรก็ไม่รู้ น่าอายจังเลย” เพียงฟ้าซุกหน้ากับอกสามีอย่างอับอายเธอร่านร้อนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พอเช้ามาก็ยังใจกล้ากินสามีด้วยท่าทางน่าอายแบบนั้นอีก“อายทำไม เป็นผัวเมียกันเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ”“แต่ฟ้าเริ่มเองทุกครั้งเลย ลุงนิเต็มใจหรือเปล่าก็ไม่รู้”“เต็มใจที่สุด และชอบที่ฟ้าเป็นแบบนี้มากๆค่ะ” นิธิจูบขมับสวย ลูบไล้แผ่นหลังเนียนเบาๆ“ลุงนิอย่ามาใกล้ฟ้าบ่อยๆนะคะ เวลาได้กลิ่นลุงนิแล้ว ฟ้าจะรู้สึกอยากรักทุกทีเลย” เพียงฟ้าพูดอย่างไม่อาย เธอกลัวกว่าสามีจะหาว่าเธอมักมากในเพศรส“จะเข้าใกล้บ่อยๆ จะอยู่ใกล้ๆทั้งวัน ลุงนิอยากให้ฟ้ารัก” เพียงฟ้าเงยหน้ามองสามี ตากลมโตเบิกกว้าง“ได้ทีเลยนะคะ” แก้มป่องๆหน้างอนๆ ทำให้นิธิกดจมูกโด่งหอมแรงๆ“ก็คนมันอดมานานนี่นา”“ตาแก่ลามก” นิธิหัวเราะจนอกกระเพื่อม“ใครแก่คะ แถวนี้มีแต่คนเหล็กฆ่าไม่ตาย” มือใหญ่จับมือเล็กให้สัมผัสลำกายที่ขยายพองอีกแล้ว“ฆ่าไม่ตายจริงด้วย เดี๋ยวฟ้าจะจัดการมันเองนะคะ” นิธิเต็มใจยิ่งกว่าเต็มใจ ยอมให้ภรรยาจัดการโดยไม่มีปากเสียงใดๆ แบบนี้ดีจัง
“โอ๋ๆ ไม่เอาไม่ร้อง เดี๋ยวนี้เลยจ้ะ แต่ต้องช้าๆ ระวังหน่อยนะคะ” ร่างสูงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ดึงสองขาเรียวมาพาดบนท่อนแขนแกร่ง โหย่งกายเข้าหา ค่อยๆสอดแทรกเชื่องช้า เพียงฟ้าหงุดหงิดจนต้องยันกายลุกขึ้น นั่งคร่อมร่างใหญ่ มือบางจับบ่าแกร่งสองข้างไว้แน่น ก่อนกดสะโพกแรงๆคราเดียวจนสุดทาง“อ๊าย!” ใบหน้าสวยแหงนเชิดไปด้านหลัง ทั้งเจ็บจุกแต่เสียวซ่านสะใจ“ฟ้า!” นิธิรวบกอดเอาร่างที่แอ่นโค้งไว้แน่น เรียกเธอด้วยน้ำเสียงร้อนรน เพราะเกรงว่าภรรยาจะเจ็บมาก“ดีจังเลยค่ะลุงนิ ฟะ...ฟ้าขยับนะคะ ได้ไหม” นิธิเบิกตากว้าง รีบพยักหน้ารับเร็วๆ“ได้ค่ะ ขยับได้เลยตามใจฟ้า” หนุ่มใหญ่ละล่ำละลักตอบด้วยน้ำเสียงยินดี เมื่อได้รับคำอนุญาตเพียงฟ้าก็ขยับร่ายรำอย่างใจต้องการ สะโพกสวยกดแรงไม่กลัวเจ็บ ส่ายร่อนหมุนวนในจังหวะที่ตนเองพอใจ ใบหน้าหวานก้มลงจูบสามีอย่างที่เขาทำกับตัวเอง เสียงครางอื้ออึงในลำคอของคนทั้งสองดังประสานกับเสียงเนื้อหนังกระทบกันในจังหวะเร่าร้อน อกอวบเสียดสีไปกับแผ่นอกกว้าง เพียงฟ้าจิกเล็บลงบนบ่าแกร่ง หญิงสาวกำลังโจนทะยานไปสู่จุดสุดยอดของบทเพลงกามา ใบหน้าสวยหวานสะบัดหนีจูบของสามี คร