หลังจากที่ชนัญญาได้แนะนำจิรัสยาให้รู้จักกับเขาแล้วเธอก็ต้องรีบขอตัวเพื่อห่างออกมา ย้ำอีกครั้งว่าผู้ชายแบบทิมนั้นคือผู้ชายที่จิรัสยาอยากหลีกหนีให้ไกลที่สุด บรรยากาศภายในวันนี้เรียกได้ว่าพิเศษสุดๆ เพราะจากที่จิรัสยากวาดสายตามองไปรอบๆพื้นที่แล้วก็จะเห็นว่ามีผู้ที่มาร่วมฉลองวันเกิดให้กับภาคินวันนี้ราวยี่สิบกว่าคนเห็นจะได้ บางคนมาเดี่ยว บางคนก็มาคู่ ดูจากการแต่งตัวและเครื่องประดับของใช้แต่ละคนแล้วเรียกได้ว่าจิรัสยากำลังอยู่ท่ามกลางแวดวงไฮโซอย่างแท้ทรู
ตัวเธอปกติเกิดมาในครอบครัวที่ก็ไม่ได้จะขัดสนอะไร ตอนที่ผู้เป็นยายของเธอยังมีชีวิตอยู่ก็เรียกได้ว่าท่านเป็นเศรษฐีนีค้าขายที่ดินแพงๆคนหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นสิ่งของพวกนี้สำหรับจิรัสยาแล้วเธอจึงคุ้นเคยกับมันดี และเนื่องจากว่าเป็นคนที่ชอบแต่งตัวเวลาที่ไปทำงานต่างประเทศเธอก็มักจะมีโอกาสได้หอบหิ้วของสวยๆงามๆกลับมาด้วยเสมอ
ในขณะที่กำลังจ้องมองผู้คนที่ต่างกำลังยืนพูดคุยจิบเครื่องดื่มกันอยู่บริเวณริมสระว่ายน้ำของเพ้นเฮ้าส์หรูแห่งนี้อย่างออกรส สายตาของจิรัสยาก็กวาดไล่ไปจนมาหยุดอยู่ที่ทิมและภาคิน และเธอก็พบว่าเขาสองคนกำลังสนทนากันด้วยสีหน้ายิ้มๆและหันมองมาทางเธออยู่
"ตายแล้วจี ดูคุณทิมสิเขามองจีใหญ่เลย" ชนัญญาเองก็คงพอจะเริ่มสังเกตุเห็นเหมือนกันจึงรีบเอ่ยทักขึ้น
"คงไม่ใช่หรอกพี่ฝ้ายก็พูดไป เขาจะมามองจีเรื่องอะไร พี่คินต่างหากคงกำลังชมพี่ฝ้ายให้คุณทิมฟังอยู่" จิรัสยาพยายามบอกปัดเมื่อเห็นว่าชนัญญากำลังทำท่าจะกรี๊ดกร๊าดไปกันใหญ่
"แหมแกอย่ามา ดูสายตาก็รู้ว่าเขากำลังสนใจแกแน่ๆจีเอ้ย พันล้านเลยนะแก" ยิ่งพูดชนัญญาก็ยิ่งตื่นเต้น
"ถ้าเป็นจริงอย่างงั้นพี่ฝ้ายคงต้องยิ่งหยุดคิดหยุดพูด เพราะจากที่จีได้ยินข่าวคราวมาบ้างก็คือเขามีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้ว และถึงต่อให้ยังไม่มีจีก็คงจะไม่มีทางสนใจเด็ดขาดกับผู้ชายแบบนี้ นี่ขนาดว่ามีว่าที่คู่หมั้นแล้วแต่ก็ยังเห็นมีข่าวกับผู้หญิงคนอื่นได้ไม่ละอายใจ พี่ฝ้ายก็รู้ผู้ชายแบบนี้จีเกลียดและก็จะอยู่ห่างให้ไกลที่สุดค่ะ" คนสวยที่กำลังจะถูกจับคู่พูดออกมาอย่างงอนๆเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่สาวคนสนิทชักจะคิดเลยเถิดไปไกล
"โอ๊ยจีเอ้ย สมัยนี้มันไม่มีใครเขาคิดแบบนั้นแล้วแก เห็นจะมีก็แต่ใครสวยใครได้ แย่งได้แย่งเอา และตอนนี้พี่ว่าต่อให้แกไม่อยากสนใจยังไงก็คงจะหนีไม่พ้นแล้วล่ะ ดูโน่นสิ เดินมาโน่นละ" เมื่อจิรัสยาหันไปมองตามก็พบว่าทั้งภาคินและทิมกำลังเดินตรงมายังจุดที่เธอและชนัญญายืนอยู่จริงๆ นาทีนี้จิรัสยาอยากจะหลบลี้หนีหายไปให้ไกล เธอไม่ถนัดรับมือกับการที่จะต้องมีผู้ชายแบบทิมเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ
"คุยอะไรกันอยู่หรือครับที่รักดูน่าสนุกดี" ภาคินเอ่ยถามชนัญญาในขณะที่ทิมนั้นกลับมองมาที่จิรัสยาอย่างตั้งใจ
"อ๋อก็คุยกันเรื่องทั่วไปนะค่ะ พอดีจีพึ่งจะอกหักมาหมาดๆฝ้ายเลยกำลังแอบชี้เป้าหมายใหม่ในงานนี้ให้จีดู เผื่อว่าจะถูกตาถูกใจใครสักคน ฝ้ายจะได้ช่วยสะกิดให้" ชนัญญาพูดออกมาก่อนจะหันไปมองทิมแบบยิ้มๆ
ทันทีที่ชนัญญาพูดจบทิมก็หันมองมาทางเธออีกครั้ง คราวนี้เขายิ้มมุมปากน้อยๆยามที่มองเธอซึ่งจิรัสยาไม่รู้ว่ารอยยิ้มนั่นของเขาหมายความว่าอย่างไร หากแต่มันคงไม่เป็นที่พอใจของเธอแน่ๆ ยิ่งพอหันไปมองหน้ารุ่นพี่สาวด้านข้างจิรัสยายิ่งต้องขบฟันเอาไว้ใหญ่ พยายามหักห้ามใจไม่ให้เผลอยื่นมือไปหยิกแขนของชนัญญาเข้า รู้ทั้งรู้ว่าเธอไม่ชอบและไม่ได้คิดจะสนใจผู้ชายคนนี้แต่รุ่นพี่สาวก็ยังมาพูดเปิดประเด็นแบบนี้อีก ห้ามไม่ฟังกันบ้างเลย
"อ้าวจริงดิ งั้นแล้วจีมีถูกใจพื่อนพี่คนไหนบ้างหรือยังล่ะ เดี๋ยวเผื่อพี่จะได้สกรีนช่วย" ภาคินเอ่ยสมทบ
"พี่คินก็อย่าไปบ้าจี้ตามพี่ฝ้ายสิคะ จีพึ่งจะอกหักมา ยังไม่ได้คิดจะมองหาใครใหม่หรอกค่ะ" พึ่งปวดหัวกับสิ่งที่ชนัญญาพูดไปยังไม่ทันหาย นี่อะไร ต้องมาเจอภาคินวกกลับเข้ามาเรื่องนี้อีก
"หรือว่าถ้าจียังไม่ได้ถูกตาต้องใจใคร อยากจะทดลองใช้บริการควงเจ้าทิมดูก่อนก็ได้นะ ช่วงนี้มันว่างพี่ว่าดูแล้วมันคงเต็มใจ" พอภาคินพูดมาแบบนี้จิรัสยาก็หันขวบไปมองทันที นี่ถ้าไม่ติดว่าภาคินเป็นคนรักของรุ่นพี่สาวเธอคงจะหาอะไรมาตบปากสักทีสองที ชงกันไปชงกันมาดีนัก พอกันทั้งสองคนเลย แถมพอหันไปมองหน้าคนที่กำลังถูกเอ่ยถึง เขากลับยืนยิ้มและขำออกมาน้อยๆกับสิ่งที่เพื่อนของตัวเองพูด ดูแล้วน่าหมั่นไส้ยิ่งนัก
"จีไม่รบกวนคุณทิมดีกว่าค่ะ พอดีว่า..ไม่ชอบยุ่งกับคนมีเจ้าของ เห็นในข่าวบอกว่าคุณทิมมีว่าที่คู่หมั้นแล้วนี่คะ" จิรัสยาตอบกลับออกไปเบาๆแต่ก็เชื่อว่าทุกคนน่าจะได้ยินกัน เธอพูดโดยที่ไม่ได้มองหน้าทิม เธอไม่รู้ว่าเขาจะทำหน้าอย่างไร และเขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ยืนจิบไวน์เงียบๆราวกับว่าเรื่องที่เป็นหัวห้อในการสนทนานี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา
"แหมจี ก็แค่ 'ว่าที่' เอง ยังไม่ได้เป็นคู่หมั้นจริงๆเสียหน่อยใช่มั้ยคะคุณทิม" คราวนี้เป็นชนัญญาที่เป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้าง จิรัสยาเองก็อดไม่ได้ จำเป็นต้องหันไปมองเขาอย่างอยากรู้ว่าเขาจะตอบว่าอย่างไร หากแต่เปล่าเลย ทิมนั้นทำเพียงแค่ยิ้มให้เธอน้อยๆที่มุมปากอีกครั้งแล้วก็ยังคงไม่ได้พูดอะไรออกมาเพิ่มเติม จะว่าไปแล้วจิรัสยาเองก็รู้สึกเสียหน้าอยู่เหมือนกัน การกระทำของเขาทำราวกับอยากบอกเธอกรายๆว่าสิ่งที่เธอพูดมามันไม่ใช่เรื่องของเธอและถึงมันจะจริงหรือไม่จริงเธอก็ไม่ควรไปยุ่ง
และแล้วก็ถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย นาฬิกาบอกเวลาตามที่ทุกคนรอคอย เสียงเพลงในห้องทั้งห้องเงียบสนิทและแสงไฟนั้นดับลงมีเพียงชนัญญาที่เดินถือเค้กออกมาให้ภาคินเป่า ระหว่างที่ทุกคนยังคงโฟกัสกับเจ้าของวันเกิดและการร้องเพลง จิรัสยารู้สึกได้ว่ามีใครบางคนมายืนซ้อนอยู่ที่ด้านหลังเธอ กลิ่นน้ำหอมกลิ่นนี้เธอจำมันได้ และพอหันหน้ากลับไปก็พบว่าใช่ มันคือเขาจริงๆ
"เมื่อกี้ที่คุณบอกว่าไม่ชอบยุ่งกับคนมีเจ้าของ แล้วถ้าผมไม่มีเจ้าของคุณจะยุ่งกับผมหรือเปล่า"
งานเลี้ยงจบลงด้วยดี ระหว่างนี้ทุกคนต่างพากันทยอยกลับ ชนัญญาเมาแล้ว เธอพึ่งจะประครองเข้าไปส่งที่ห้องนอนของภาคินมาเมื่อสักครู่"แล้วนี่จีกลับยังไง กลับเองหรอ ขับรถไหวหรือเปล่าให้คนขับรถของพี่ไปส่งได้นะ"ภาคินเสนอเมื่อเห็นว่าเธออยู่ช่วยเป็นคนสุดท้าย"ไม่ดีกว่าค่ะ คอนโดจีแค่นี้เองพี่คินไม่ต้องเป็นห่วง อีกอย่างจีดื่มไปแค่แก้วเดียวเอง แค่นี้สบายมาก"จิรัสยาบอกปัดไปอย่างง่ายๆเพราะไม่อยากลำบากคนอื่น ปล่อยให้ภาคินได้ดูแลชนัญญาเสียจะดีกว่า"งั้นขับรถกลับดีๆล่ะ ถ้ากลับไม่ไหวก็บอกให้มันไปส่ง" ภาคินพูดจายิ้มๆ คืออะไร จิรัสยายังคงงงงวยกับสิ่งที่ภาคินพูดออกมาเมื่อสักครู่หากแต่พอจะเงยหน้าขึ้นไปถามเจ้าตัวก็ดันปิดประตูและโบกมือลาให้เธอไปเรียบร้อยคืนนี้จิรัสยากลับเป็นคนสุดท้ายเนื่องจากว่าคอยดูแลความเรียบร้อยอะไรนิดๆหน่อยๆแถมยังต้องดูแลชนัญญาที่เมาพับหลับไปก่อนแล้วนั่นอีก พอเดินออกจากลิฟท์โดยสารมาก็เหลือเพียงแค่รถของเธอคันเดียวที่ยังจอดอยู่มือเรียวสวยพยายามควานล้วงหากุญแจรถที่อยู่ในกระเป๋าแต่ล้วงจนทั่วและหายังไงก็ยังไม่พบจนเธอชักเริ่มจะหัวเสีย เธอจำได้ว่าเก็บกุญแจรถไว้ในกระเป๋าตลอดและเธอก็ไม่เคยได้ถอดกระ
เขากลับไปแล้ว..จิรัสยาเอามือทาบไว้ที่หน้าอกและพ่นลมหายใจออกมาทางปากหลังจากก้าวเข้ามาอยู่ในห้องของตัวเองเสร็จ"ตกลงจะเอารถผมไว้ใช้หรือพรุ่งนี้จะให้คนรถของผมมารับคุณไปส่งที่ทำงานครับ""ขอโทษนะคะคุณทิม นี่คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่าคะ เราไม่ได้รู้จักกัน จู่ๆจะเอารถราคาคันละตั้งหลายสิบล้านมาให้ฉันไว้ใช้ ฉันไม่เข้าใจค่ะ " "เรารู้จักกันแล้ว ฝ้ายพึ่งแนะนำไปตอนหัวค่ำ คุณลืมไปแล้วหรือเปล่า""ค่ะ ไม่ลืม แต่เราก็ไม่ได้รู้จักกันถึงขนาดที่ว่าคุณเอารถของคุณมาให้ฉันไว้ใช้ได้นะคะ""ไม่ต้องห่วงอีกหน่อยก็รู้จัก เพราะผมอยากรู้จัก คุณเตรียมตัวเอาไว้ได้เลย" จิรัสยายังคงช็อคกับเหตุการ์ณนี้ไม่หายว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้คืออะไร เขาคงไม่ได้จะกำลังสนใจเธออยู่หรอกใช่มั้ย ในเมื่อเขามีว่าที่คู่หมั้นแล้วนี่ บ้าชะมัด เธอต้องตั้งรับกับผู้ชายอันตรายคนนี้ไว้ให้ดีๆ จิรัสยารู้สึกว่าเขาอันตราย แม้ว่าภายนอกจะดูสุขุมนุ่มลึกเพียงใดแต่เธอเชื่อว่าเขาน่ะ 'ไฟ' ดีๆนี่เอง หากไม่อยากโดนแผดเผาก็จงพยายามอยู่ให้ไกลสรุปพรุ่งนี้ทิมสั่งให้คนของเขามารับเธอเเทนที่จะเอารถหรูมาจอดทิ้งไว้ที่คอนโด เนื่องจากว่าจิรัสยายืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะไม่
หลังจากที่ทิมมาส่งเรียบร้อยจิรัสยาก็ตรงเข้าออฟฟิศเพื่อเตรียมตัวสำหรับเที่ยวบินในคืนนี้ หากแต่ระหว่างทางภายในใจก็ยังคงครุ่นคิดถึงสิ่งที่เขาทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาขับรถมาส่งเธอที่คอนโดตั้งแต่เมื่อคืน หรือขับรถมารับเธอในตอนเย็นของวันนี้ ไหนจะเหล่าคำพูดแปลกๆของเขาอีกที่คอยรบกวนจิตใจเธออยู่ตลอด"ยังไม่รู้จักแต่ผมอยากรู้จัก""ถ้าผมยังไม่มีเจ้าของคุณจะอยากยุ่งกับผมหรือเปล่า""ผมอยากรู้จัก คุณเตรียมตัวไว้ได้เลย"ทุกๆประโยคเหล่านั้นยังคงดังขึ้นอยู่ภายในใจ เอาเข้าจริงๆถ้าเธอไม่หลงตัวเองจนเกินไป จากทุกๆประโยคเหล่านั้นจรัสยาก็พอที่จะสามารถรู้เองได้ว่าทิมหมายถึงอะไร เธอไม่ใช่เด็ก เธอใช้ชีวิตมาจนขนาดนี้แล้วและเธอก็สามารถมองมันออกจิรัสยายอมรับตรงนี้ว่าผู้ชายแบบทิมนั้นมีแรงดึงดูดได้มากจริงๆ แต่ยังไงเสียมันก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้กับเธอแน่ๆ เธอยังยืนยันคำเดิม เธอไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ ถ้าการที่เธอจะต้องมอบหัวใจให้ใครสักคน คนๆนั้นต้องแสดงให้เธอเห็นว่าเขาจะรักและมีเพียงแค่เธอไปคนเดียว คนอื่นอาจมองว่าความคิดเหล่านี้ของเธอนั้นมันโบราณล้าสมัย สมัยนี้ลองๆคบกันไปก่อน ถ้าไปด้วยกันไม่ได้ก็แค่เลิกรา แต่สำหรับ
เวลาแปดโมงห้าสิบตามเวลาท้องถิ่น จิรัสยาแต่งตัวลงมาคอยที่ล็อบบี้ เพียงห้านาทีต่อจากนั้นก็เห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงเท่คุ้นตาราวกับนายแบบสวมแว่นกันแดดสีดำใส่กางเกงยีนต์สีเข้มตามด้วยแจ็คเก็ตหนังกันหนาวสีดำตัวแพงเดินตรงเข้ามาหาเธอวินาทีแรกที่หันมองไป เธอนึกไม่ถึงจริงๆว่าจะเป็นเขา เธอไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้เลย ปกติสองสามครั้งที่เจอเขาตัวเป็นๆหรือไม่ก็ตามสื่อสังคมออนไลน์ทิมมักจะแต่งกายด้วยชุดสูทสุดเนี้ยบเสมอ ไม่น่าเชื่อว่าพอได้เห็นเขาในมุมนี้บ้างมันจะทำเอาเธอใจเต้นได้เหมือนกัน"อะแฮ่ม สวัสดีตอนเช้าครับ" ทิมกระแอมเพียงเบาๆเพื่อเป็นการเรียกสติของคนตรงหน้า เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอแล้วหากแต่ว่าเธอก็ยังคงมองเขาเฉย แถมยังอ้าปากค้างเอาไว้น้อยๆอีก นี่ถ้าเขาไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป เขาคงจะแอบคิดไปได้ว่าจิรัสยากำลังตกอยู่ในอาการอึ้งตะลึงในความหล่อของเขาอยู่แน่ๆ"สะ..สวัสดีค่ะ" น้ำเสียงตะกุกตะกักรีบตอบด้วยความตกใจออกไปในทันทีที่ถูกเขาจับได้ว่าเธอกำลังแอบมอง ลมหายใจถูกสูดเข้าไปลึกๆอีกครั้งก่อนที่เธอจะต้องพยายามรีบดึงสติกลับมาให้ไวและปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แต่ซึ่งจะว่าไปเรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องธร
ใช้เวลาขับรถมาประมาณหนึ่งชั่วโมงจากที่พักทิมก็พาเธอมาถึงสกีรีสอร์์ทแห่งหนึ่ง จิรัสยามองตามความสูงของเทือกเขาแอลป์ขึ้นไปที่ด้านบนซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนไปหมด"คุณจะใส่ชุดนี้ไปเล่นสกีหรอคะ" จิรัสยาเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าทิมไม่ได้เตรียมอุปกรณ์อื่นใดมา"ผมไม่ได้จะมาเล่นสกีครับ แค่อยากพาคุณมานั่งเคเบิลคาร์ คุณพ่อคุณแม่เคยพาผมมาที่นี่สองสามครั้งตอนเด็ก ผมชอบมากแต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาอีกเลยเพราะทุกคนต่างคนต่างก็ใช้ชีวิต" "แล้วทำไมคุณถึงไม่มาเองคนเดียวล่ะคะ""ไม่ครับ ผมอยากรอ รอที่จะพาใครสักคนหนึ่งที่ผมอยากจะมาที่นี่ด้วย แต่ที่ผ่านมายังไม่มี""คุณจะบอกว่าคนๆนั้นคือฉันอย่างนั้นหรอคะ""แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะครับ""แล้วถ้าฉันอยากจะบอกว่า ฉันกำลังคิด ว่าสิ่งที่คุณพูดมาเมื่อสักครู่มันก็คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่คุณใช้ตกเหยื่อล่ะคะ" ทิมขำพรืดออกมาเมื่อเห็นว่าจิรัสยาจริงจังในการกล่าวหาและพยายามยัดเยียดให้เขาเป็นคนเจ้าชู้เสียให้ได้"ไม่เอาน่า เลิกพูดปรักปรำผมแล้วขึ้นไปข้างบนดีกว่าครับ ข้างบนสวยมากๆ ผมอยากให้คุณได้เห็น" ทิมมองมาที่เธออย่างยิ้มๆหลังจากส่ายหัวไปสองสามที เมื่อเห็นว่าจิรัสยาคอยแต่จะปรักปรำช
เมื่อเห็นว่ายังไงก็ไม่มีทางเลือกจิรัสยาจึงจำเป็นต้องอยู่ค้างคืนที่นี่อย่างเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งข่าวร้ายไปกว่านั้นก็คือ พนักงานแจ้งว่าเธอและเขาจำเป็นที่จะต้องพักห้องเดียวกัน เพราะห้องพักของที่นี่นั้นเต็มหมดแล้ว บ้าชะมัด นี่มันนิยายน้ำเน่าที่เธอเคยอ่านสมัยเรียนหรือเปล่านะ คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้"นี่คือกุญเเจห้องของคุณทั้งสอง กรุณาเดินไปจนสุดทางที่หมายเลขห้องนี้ ทางเราต้องขออภัยในความไม่สะดวกเป็นอย่างมาก" พนักงานบอกและยื่นคีย์การ์ดให้กับทิมในที่สุดจิรัสยาก็ต้องเดินตามเขาเข้าไปด้านในอย่างว่าง่าย ทิมพาเธอเดินเข้าไปด้านในจนสุดทางและคิดว่ามันน่าจะเป็นห้องสุดท้ายเพราะเมื่อสักครู่เธอเดินผ่านมาหลายห้องแล้ว ฝ่ามือใหญ่กดทาบคีย์การ์ดไปกับประตูและมันก็เปิดออก เมื่อก้าวเท้าเข้าไปจิรัสยาก็แทบจะลืมตัวไปชั่วขณะ ด้านในเป็นห้องกระจกวิวหนึ่งร้อยแปดสิบองศาแถมด้านหน้ายังเป็นวิวเทือกเขาแอลป์สูงตระหง่าตั้งอยู่อีกฝั่ง ขาเรียวยาวค่อยๆก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างตื่นตาตื่นใจ พอเดินเข้าไปใกล้ๆก็พบว่าห้องๆนี้ตั้งอยู่ติดกับบนหน้าผา"นี่เขาให้เรานอนในห้องแบบนี้จริงๆหรอคะ" จิรัสยาถามขึ้นมาอย่างลืมตัว"ไม่ถูกใจคุณหรอครับ""ใ
ผ่านไปเป็นเวลากว่าสิบนาทีที่จิรัสยาต้องนอนเฉยๆอยู่ในอ้อมกอดของเขาแต่มันกลับให้ความรู้สึกยาวนานราวกับผ่านไปเป็นชั่วโมง เสียงหัวใจภายในของเธอนั้นเต้นโครมครามยิ่งกว่าสิ่งใดจะเทียบหากเขาได้ยินคงอาจจะหัวเราะเอาได้ เวลานี้เธอนอนขดขาตะแคงข้างโดยที่ด้านหลังมีทิมโอบกอดเอาไว้อยู่ตึกตักๆ เสียงของลมหายใจของเขาเป่ารดอยู่ที่ซอกคอและใบหูเริ่มสร้างความร้อนวูบวาบไปทั่วร่างกาย ในชีวิตเธอไม่เคยได้ลองทำอะไรแบบนี้มาก่อนแม้กระทั่งกับแฟนเก่าอย่าง ปัทมะ "เริ่มอุ่นขึ้นบ้างหรือยัง"ในขณะที่กำลังคิดเพลินๆก็มีเสียงกระซิบแผ่วเบาทำเอาจิรัสยาถึงกับสะดุ้งเรียกสติ ศรีษะทุยค่อยๆพยักหน้ารับเขาแทนคำตอบ"อยากอุ่นกว่านี้หรือเปล่า"จิรัสยาไม่ตอบ เธอเงียบและนิ่งคิดถึงสิ่งที่เขาถามว่าจะยังคงมีวิธีไหนที่จะสามารถสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายของเธอและเขาได้มากขึ้นกว่านี้อีก ในขณะที่กำลังคิดตรึกตรองและยังไม่ทันได้ทราบถึงคำตอบ ร่างของเธอก็ถูกทิมพลิกกลับมาให้หันหน้ามาทางเชาจิรัสยาตกใจในทันที ดวงตากลมโตจ้องมองเขากลับอย่างระแวงสงสัย แต่ทิมก็ไม่ปล่อยให้เธอได้สงสัยนาน ใบหน้าคมขยับเข้าไปใกล้ๆก่อนจะประทับริมฝีทางลงไปที่ริมฝีปากเธอทันที
เมื่อเจอคำถามของทิมเข้าไป จิรัสยาก็ถึงกับได้สติ ใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงซุกซอกอยู่กับสองเต้าขาวอวบของเธอนั้นกำลังผลัดกันเชยชมสลับข้างไปมาราวกับว่ามันน่าลุ่มหลงนาทีนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน ร่างงามจึงดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที ทิมเงยหน้าขาวๆของเขาขึ้นมองสบตาเธออีกครั้งก่อนจะโน้มกลับเข้ามาใกล้ๆหมายจะจูบลงไปที่กลีบปากบางนั้นอีกหากแต่ว่าถูกเธอห้ามเอาไว้เสียก่อน"ฉันหายหนาวแล้วค่ะ คุณรีบรับโทรศัพท์สิคะเผื่อพนักงานโทรมา" ทิมยิ้มก่อนจะหันมามองริมฝีแสนหวานนั้นตาละห้อย แล้วจึงตัดใจผละลุกขึ้นจากเตียงไปรับโทรศัพท์ที่ยังคงส่งเสียงร้องรออยู่จิรัสยาพอเห็นว่าทิมลุกขึ้นไปแล้วเธอจึงรีบก้มลงมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง ที่เวลานี้หลุดรุ่ยและถูกถลกขึ้นไปจนเกือบจะถึงคอ พอได้ก้มลงมองไปยังหน้าอกของตัวเองก็ได้แต่อ้าปากค้าง เมื่อเวลานี้สองเต้าขาวอวบปรากฎริ้วรอยสีแดงเป็นจ้ำๆอยู่หลายจุด จิรัสยาทำเสียงจิปากด้วยความไม่พอใจก่อนจะหันไปมองยังตัวต้นเหตุที่ก็เผอิญว่าหันกลับมองมาที่เธอพอดีทิมยิ้มราวกับรู้ว่าตนกำลังถูกเธอตำหนิ บ้าจริง มือเล็กรีบดึงเสื้อลงอย่างทันควันเมื่อเห็นว่าเขากำลังมองมันอยู่ เกือบไ
"อ๊ะ ๆ อ๊า ไม่ไหวแล้วค่ะคุณทิม จีไม่ไหว"เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังกระทบกันจนสั่นผืนน้ำนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน พอกลับมาจากกรุงเทพได้ ทิมก็เอาเรือออกแล้วนำมาจอดลอยไว้อยู่กลางทะเล วันๆไม่ทำอะไร ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่เรื่องอย่างว่า นี่สามวันมาแล้ว ทิมยังเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเธอโดยไม่คิดจะทำอย่างอื่น มิหนำซ้ำพ่อคนบ้ากามยังมาบังคับให้เธอทำมันไปกับเขาด้วย"ขย่มอีกสิครับยาหยี ขย่มผมแรงๆ""แต่จีเหนื่อยจนหมดแรงแล้วนะคะ วันนี้คุณเล่นให้จีขย่มมาตั้งแต่เช้า จนตรงนั้น..ของจี บานนน ไปหมดแล้วค่ะ""จี! พูดจาน่าเกลียดแบบนั้นได้ยังไง ของจีออกจะทั้งนุ่มแล้วก็ยังฟิต บานเบินอะไรกันครับ""พูดจริงๆค่ะ คุณทิมหัดทำอย่างอื่นบ้างเถอะค่ะ ไม่ใช่คิดว่าตัวเองรวยแล้วไม่ยอมทำอะไร คนบ้าอะไรมานอนจอดเรือข้ามคืนข้ามวันเพื่อมีเซ็กซ์""ก็ผมชอบบรรยากาศนี่ โรแมนติกดีออก ยิ่งได้'เอา'จีวันละสี่ห้ารอบแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกกระชุ่มกระชวยดีชะมัด""คุณกระชุ่มกระชวยอยู่คนเดียวน่ะสิคะ ส่วนจีจะ บานแล้วบานอีก""จี! หยุดพูดจาห่ามๆแบบนี้เดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าจีบอกว่าไหนๆจีก็บานแล้ว งั้นมานอนอ้าขาตรงนี้เร็ว ขอเสียบอีกรอบ เพราะว่าเมื่อกี้ผมยังไม่แตกเลย"
สรุปก็คือพราวฟ้าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเธออีกเพราะว่าไม่สามารถทนเป็นเพื่อนกับใครก็ตามที่ได้หัวใจของทิมไปครองได้ เธอบอกว่าสำหรับเธอแล้วทิมคือเจ้าของหัวใจของเธอมานานและเป็นเพียงเขาคนเดียวมาตลอด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้และไม่เคยรู้ แม้จะรู้ตัวเองดีว่าไม่มีทางที่ทิมจะหันมามองแต่เธอก็ไม่สามารถทำใจได้จริงๆกับความจริงที่ว่าทิมรักคนอื่น เธอขอให้จิรัสยาใช้ชีวิตกับทิมให้มีความสุขแต่ขอแค่อย่ามายุ่งเกี่ยวกับเธออีกเพราะเธอคงไม่สามารถทนเห็นภาพความเจ็บปวดนั้นได้ "เป็นอะไรครับหน้าเครียดเชียว"ทิมหันมาจับมือเธอเอาไว้หลังจากที่เครื่องบินลงจอดและตอนนี้เธอกับเขาก็นั่งอยู่บนรถตู้คันใหญ่มุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของเธอ "บ้านดารารัตน์" ซึ่งเวลานี้มีมารดาของเธออาศัยอยู่กับแม่บ้านคนสนิทอีกสองคนรถตู้สีดำคันใหญ่ค่อยจอดเรียบไปกับบริเวณริมรั้ว จิรัสยามองบ้านหลังนี้แล้วก็น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ ในที่สุดเธอก็ได้กลับมายังบ้านหลังนี้อีกครั้ง บ้านที่เธอเติบโตมาและได้วิ่งเล่นมาตั้งแต่ยังเด็ก"เข้าไปหาคุณแม่ของจีกันเถอะ ผมอยากเข้าไปฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกเขยจะแย่แล้ว""แน่ใจหรอคะว่าแม่จีจะอนุญาต""เชื่อมือผมสิ"จิรัสยาพาทิม
เช้านี้จิรัสยาลืมตาตื่นมาท่ามกลางเตียงสีขาวสะอาดตาขนาดหกฟุต เมื่อคืนหลังจากตกลงกับทิมในเรื่องของบทพิสูจน์รักแท้จนเป็นที่น่าพอใจแล้ว เขาก็จัดการให้เธอมาพักที่ในส่วนนี้โดยมีข้อแม้ว่าระหว่างนี้เขาจะต้องไม่ฉวยโอกาสกับเธอโดยเด็ดขาดและเป็นอันว่าทิมเองก็ตกลงแค่มีข้อแม้ว่าเธอจะต้องอยู่ให้เขาพิสูจน์รักเเท้ที่นี่ขาเรียวยาวค่อยๆก้าวลงจากเตียงค่อยๆ เสื้อผ้าข้าวของๆเธอถูกเก็บออกมาจากที่พักพนักงานตั้งแต่เมื่อวานด้วยฝีมือของเขา และยังกับชับกับเธออีกว่าให้อยู่เฉยๆที่นี่โดยที่ไม่ต้องทำอะไร ระหว่างนี้เขายังคงจ่ายเงินเดือนให้เธอตามปกติ จิรัสยายืนมองตัวเองในกระจกก่อนจะเกาศรีษะแกรกๆ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันที่อยู่ๆจะมาบอกให้เธออยู่เฉยๆ คนเคยทำงานมาตลอด ถ้าขืนเป็นแบบนี้เธอคงได้เป็นบ้า"ตื่นแล้วหรอครับ ผมเตรียมอาหารเช้าให้จีเสร็จแล้ว ออกไปทานเลยมั้ย" ทิมเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กก่อนจะหอมจุ๊บลงไปที่บนหน้าผากหนึ่งทีจากนั้นจึงจูงมือเธออกไป ขณะที่กำลังถูกทิมประเคนป้อนนั่นป้อนนี่ให้ เสียงข้อความจากมือถือก็ดังขึ้น จิรัสยาจึงหยิบมันขึ้นมาดู ปรากฎว่าคือข้อความจากชนัญญาที่แนบไฟล์ภาพมาด้วย'ไหนบอกว่าเกลียด อ๊ะๆยังไงน้า
ข้อมือน้อยๆยังคงถูกทิมดึงให้เดินตามหลังเขาไปติดๆจนมาถึงด้านข้างของโรงแรมทิมก็พาเธอขึ้นมานั่งบนรถของทางโรงแรมที่จอดรออยู่ ก่อนจะบอกให้คนขับมุ่งหน้าตรงไปยังวิลล่าส่วนตัวของเขา"ต่อไปนี้จีไม่ต้องไปทำงานที่นั่นอีกแล้วนะ""นี่คุณไล่จีออกหรอคะ" จิรัสยาหน้าเครียด"ใช่ ผมไล่จีออกจากการเป็นพนักงานของทางโรงแรม""ใจร้าย ไม่มีเหตุผล ทั้งๆที่ผู้หญิงของคุณเป็นคนมาหาเรื่องจีก่อนแท้ๆ แต่คุณกลับคิดว่าจีเป็นคนผิด นี่มันครั้งที่สองแล้วนะคะที่ผู้หญิงของคุณทำจีเดือดร้อนจนถึงกับต้องออกจากงาน" จิรัสยายังคงต่อว่าออกมาปาวๆยาวเหยียดอย่างอดไม่ได้ เธอทั้งโกรธ เสียใจและน้อยใจที่ชีวิตตั้งแต่เจอเขามามีแต่เรื่องวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นพอจังหวะที่รถจอดจิรัสยาก็เปิดประตูก้าวลงไปทันที ขาเรียวเดินตรงเข้ามาในวิลล่าหรูอย่างลืมตัวก่อนจะเปิดประตูเข้าไปราวกับว่าตัวเองนั้นคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ดี"จี" ทิมเดินตามเข้ามาแล้วหยุดเรียก พอได้สติและเห็นว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหนจิรัสยาก็ได้แต่อึกอัก"ขอโทษค่ะจีลืมตัวจนถือวิสาสะเดินเข้ามาในที่ส่วนตัวของคุณ" ใบหน้างามก้มลงน้อยๆและไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตา"ผมไม่ได้ว่าอะไร จีสามารถไปที่ไหนก
ช่วงนี้จิรัสยาทำงานแบบไม่ค่อยจะมีสมาธิเท่าไหร่หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปหลังจากพาเธอกลับมาจากเกาะส่วนตัวแล้วจิรัสยาก็ไม่ได้เจอหน้าทิมอีกเลย มีแค่เพียงข้อความที่เขามักจะส่งมาหาเธออยู่เสมอๆ แต่นั่นก็ทำเอาจิรัสยาอดนอยด์ขึ้นมาไม่ได้ว่าเธอก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงหน้าโง่คนหนึ่งที่ถูกทิมหลอกให้รักนึกแล้วก็ได้แต่สมน้ำหน้าตัวเอง เกลียดดีนักพวกผู้ชายเจ้าชู้ แล้วในที่สุดเธอก็พลาดท่าเสียทีให้กับผู้ชายเจ้าชู้จนได้ ดั่งคำโบราณที่ว่า 'เกลียดอะไร ก็มักจะได้อย่างนั้น' ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสนกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แต่ก็ยังพยายามปลอบใจตัวเองเอาไว้ ว่าถึงแม้ว่าหัวใจเธอกำลังรู้สึกไม่โอเค แต่อย่างน้อยในตอนนี้เธอก็ได้สิ่งที่ต้องการกลับคืนมา บ้านดารารัตน์ถูกโอนให้เป็นชื่อของเธอเรียบร้อยแล้ว นั่นทำให้มารดาของเธอดีใจอย่างมากที่ได้มันกลับคืนมา "ในที่สุดแม่ก็ได้บ้านคืนมา จีหนูทำได้ยังไงกันลูก""จีทำได้ทุกอย่างเพื่อแม่ค่ะ ทุกอย่าง"ทิมหายหน้าหายตาไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ และเมื่อวันสองวันมานี้ก็เริ่มมีข่าวลืออักษรย่อออกมาให้เห็นตามแหล่งหน้าสื่อออนไลน์ติดๆกัน'ท่าทางจะไม่ได้เห็นงานหมั้นระดับช้างเนื่องจาก ไฮโซ ท ปฏิเสธแอบสะบั้นรักว่
แม้ว่าเเวลาจะผ่านไปแล้วแต่จิรัสยายังคงนิ่งเงียบและหนักใจกับคำถามที่ทิมยังคงรอฟังคำตอบ หลังจากที่พาเธอเดินทัวร์จนเกือบจะทั่วฟาร์มแล้ว ตอนใกล้จะกลับจู่ๆทิมก็ถามคำถามที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากเขาออกมา เเละเธอยังไม่ได้ตอบจนกระทั่งเขาพาเดินกลับมาจนถึงที่พักทิมต้องการขอคบกับเธอ เขาบอกแบบนั้น แต่เขากำลังลืมอะไรหรือเปล่าว่าเขาว่าสถานะของเขาตอนนี้นั้นคือคนที่กำลังจะหมั้น "อ้าวนาย มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะเนี่ย ป้าไม่เห็นรู้เลย" หญิงสูงวัยอีกคนหนึ่งที่กำลังเดินขึ้นมาจากชานระเบียงร้องทักขึ้น"มาถึงเมื่อตอนสายๆนี่เองครับป้าจวน""จีครับ นี่ป้าจวนเป็นแม่บ้านที่คอยดูแลที่นี่ แล้วก็เป็นภรรยาของลุงรงค์ที่จีไปเจอมาเมื่อสักครู่" จิรัสยายกมือขึ้นไหว้หญิงสูงวัยตรงหน้า ทำเอาหญิงสูงวัยยกมือขึ้นรับไหว้แทบไม่ทัน"อ้าวแล้วนี่คุณทิม พาใครมาด้วยล่ะคะเนี่ย""ผมพา 'ว่าที่' นายหญิงของที่นี่มาดูกิจการน่ะครับ" ทิมพูดยิ้มๆก่อนจะหันมามองเธออีกแล้ว"ว๊าย ตายแล้ว นี่นายกำลังจะมีนายหญิงแล้วจริงๆหรอคะเนี่ย โอ๊ยป้าจะเป็นลม" พอเห็นว่าหญิงสูงวัยตกใจจนต้องยกมือขึ้นมาทาบจับที่หน้าอกคล้ายจะเป็นลม จิรัสยาก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยพยุ
หลังจากจัดการมื้อค่ำที่ค่อนข้างจะเป็นมื้อดึกเสียมากกว่าโดยฝีมือทิมเสร็จแล้ว เวลานี้ทั้งสองคนต่างนอนกอดอยู่ในอ้อมแขนของกันและกันที่ดาดฟ้าของเรือ ท้องฟ้าคืนนี้โปร่งใส ดวงดาวต่างพร่างพราวส่องแสงระยิบระยับเป็นประกายอยู่เต็มท้องฟ้า"เมื่อกี้คุณบอกว่าอะไรนะคะ""ผมหลงรักคุณตั้งแต่แรกเห็น""น้ำเน่าค่ะ ไม้นี้อาจจะใช้ได้ผลกับผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่กับจีค่ะ""ผมพูดจริงๆจี ผมตกหลุมรักคุณตั้งแต่ตอนเห็นคุณเปิดประตูรถก้าวลงมา จากนั้นผมก็กดลิฟท์เปิดค้างเอาไว้เพื่อรอคุณ""อ๋อ ที่แท้ก็เริ่มใช้กลยุทธ์กับจีตั้งแต่ตอนนั้นเลยหรอคะ"ทิมขำกับประโยคที่จิรัสยาพูดออกมา นี่เขาคงจะเป็นเอามาก เพราะไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ดูน่ารักน่าใคร่ไปเสียหมด"แล้วผมก็มีเรื่องจะสารภาพว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์เป็นฝือมือของผมทั้งหมด จริงๆแล้วผมไม่ได้มีธุระอะไรที่นั่นหรอก ผมแค่อยากหาข้ออ้างบินไปกับคุณ ผมอยากทำความรู้จักคุณให้เร็วที่สุด""คุณทิม! นี่ฉันไม่คิดเลยนะคะว่าคุณจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ อ่อฉันนึกออกแล้ว รวมถึงเรื่องที่ฉันต้องไปติดพายุหิมะอยู่บนยอดเขากับคุณนั่นก็ด้วยสินะคะ" จากดวงตากลมโตหวานหยอดย้อยเวลานี้เริ่มเปลี่ยนเป
หลังจากที่ไม่สามารถยืนมองภาพนั้นได้อีก ขายาวๆก็ก้าวขึ้นเตียงไปหาเรือนร่างยั่วยวนที่เวลานี้แอ่นอ้ารอคอยเขาอย่างเชิญชวน ทิมขยับใกล้เข้าไปหาและจับสองขางามนั้นให้ตั้งฉากขึ้นก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะก้มลงโน้มลงไปยังจุดหมายที่หมายตาอยู่ ลิ้นร้อนๆถูกขยับปาดเลียไปที่ใจกลางเกสรอย่างนุ่มนวลก่อนจะร้อนแรงและบ้าคลั่งขึ้นมาเรื่อยๆจนจิรัสยาส่งเสียงครางระงม"อ๊ะ อ๊า คุณทิม อ๊า เสียวค่ะ"สะโพกน้อยบิดเร่าไปมา ในขณะที่ทิมเองก็ไม่ได้คิดจะผ่อนปรน ข้างบนดูด ข้างล่างแหย่ ทั้งลิ้นทั้งนิ้วต่างสร้างความสุขหรรษาให้จิรัสยาอย่างไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ เธอชอบมัน ทุกๆสัมผัสที่ทิมเสนอให้ ทิมยังคงดูดย้ำอยู่ตรงนั้น ยิ่งเขาสัมผัสบริเวณปุ่มเกสรมันกลับยิ่งสร้างเสียงร้องครวญครางของเธอให้ดังชัดเจนยิ่งขึ้นจนเธอแทบจะทนไม่ไหว "คุณทิมคะ ยะ..หยุดก่อนค่ะ""ทำไมล่ะ ไม่ชอบหรอ""คือว่า..ฉันอยากเสร็จพร้อมคุณ"จิรัสยาอ้อมแอ้มตอบเพียงเบาๆ แต่คำตอบอีกประโยคของเธอกลับยิ่งทำให้ทิมยิ้มกว้างขึ้นไปอีก"ฉันชอบเวลาที่คุณเข้ามาอยู่แล้วเสร็จในตัวฉัน""งั้นคืนนี้ผมจะอยู่ในตัวจีทั้งคืนเลยดีมั้ย"เสียงดังครวญครางยังดังแข่งกันมาเป็นระยะๆ ผ่านไปร่วมเก
จิรัสยาเดินมาเข้างานตามปกติ เช้านี้อากาศสดใสแต่สมองและหัวใจยังเบลอๆ ตอนนี้ไม่ว่าจะเปิดไปทางไหนก็มักจะต้องเห็นข่าวงานหมั้นยักษ์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า "อ้าวจี มาแต่เช้าเลยนะ""ค่ะพี่เอม""วันนี้สงสัยคงต้องเหนื่อยหน่อยนะ เพราะยัยพราวลาป่วยน่ะ เหลือแค่พี่กับจีแค่สองคน""อ้าว นี่พี่พราวเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ""ไม่หรอก โรคทางใจน่ะ จีเห็นข่าวแล้วใช่มั้ยล่ะเรื่องที่คุณทิมกำลังจะหมั้น ยัยพราวเห็นแล้วรับไม่ได้ก็เลยเฮิร์ทหนัก""นี่พี่พราวเขาชอบคุณทิมขนาดนี้เลยหรอคะ""ยัยพราวน่ะมันหลงรักคุณทิมมาตั้งแต่เริ่มเข้าทำงานที่นี่แรกๆแล้วล่ะ รักมาตลอดแต่ก็ไม่เคยสมหวังสักที อย่างว่าแหละนะพูดไปก็จะเหมือนนินทาเจ้านาย คุณทิมน่ะผู้หญิงรายล้อมรอบตัวขนาดนั้น เขาคงจะมาชายตาแลพนักงานต้อนรับธรรมดาๆอย่างยัยพราวหรอก นี่ขนาดพี่เตือนไปหลายรอบแล้วก็ยังไม่ฟัง"พนักงานต้อนรับธรรมดาๆ..เธอเองก็เป็นแค่นั้นเหมือนกัน แล้วมีหรือที่เขาจะหันมามองตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ ทิมหายสาบสูญไปราวกับไม่มีตัวตน นี่เขาคงไม่ได้กำลังผิดคำพูดเรื่องบ้านดารารัตน์ของเธอใช่มั้ย คิดไปจิรัสยาก็เริ่มกังวล แต่ถ้าถึงทิมจะไม่ยอมเอาบ้านดารารั