พอขึ้นมาถึงจิรัสยาก็เอาแต่นั่งเงียบ เธอเลือกที่จะมองออกไปยังนอกหน้าต่างแทนที่จะหันกลับมาพูดคุยกับเขา
"ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้"
ไร้การตอบโต้และปฏิกิริยาใดๆ ทิมสังเกตุเห็นว่าที่ไหล่มีการขยับน้อยๆ เธอคงจะกำลังร้องไห้อยู่จึงได้ค่อยๆดึงให้คนตัวเล็กหันกลับมาซบลงบนหน้าอก และมันก็เป็นไปจริงดั่งที่เขาคาด ใบหน้างามถูกอาบไปด้วยน้ำตาจนชุ่ม เขาถือวิสาสะค่อยๆประครองใบหน้าเธอขึ้นแล้วค่อยใช้นิ้วเกลี่ยซับมัน
"รักเขามากหรอ" จิรัสยาส่ายหน้าก่อนจะมองขึ้นสบตาเขา
"ยังรักเขาอยู่หรอ" และเธอก็ส่ายหน้าอีก
"ถ้าอย่างงั้นคุณร้องไห้ทำไมกันหึ บอกผมซิ" ใบหน้าหล่อขยับเข้าไปใกล้ๆก่อนจะประกบชิดริมฝีปากเธอเอาไว้แล้วค่อยๆขบเม้มเบาๆ จิรัสยายังคงอยู่เฉย ปล่อยให้ทิมพูดพร่ำอยู่คนเดียวอย่างนั้น เธอเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงไม่ผลักไสเขาออก เนิ่นนาน จนตัวเธอเองเริ่มที่จะหายใจไม่ทันเมื่อทิมเริ่มเปลี่ยนมาจูบเธอแบบหนักหน่วงขึ้น
"กะว่าจะจูบให้ปากฉันช้ำไปเลยหรือไงคะ"
จิรัสยาถามคนที่มัวแต่จูบเอาๆ เธอค้อนสับประเหลือกให้ไปหนึ่งทีเมื่อดูท่าทีว่าทิมยังจะไม่ยอมหยุดจูบนั้นลงง่ายๆจริงๆ จนทิมเองก็ขำ เคเบิ้ลคาร์ยังคงเคลื่อนที่ลงมาเรื่อยๆ พอใกล้จะถึงข้างล่างเธอจึงได้รีบปาดเช็ดน้ำตาลที่ยังคงติดเหลืออยู่บนแก้มออ ก่อนเลือกที่จะหยิบแว่นตากันแดดสีเข้มออกมาสวมเพื่อปกปิดร่องรอยนั้นเอาไว้
ทิมเปิดประตูเคเบิลคาร์ออกเมื่อมันจอดสนิท มือทั้งสข้างถูกเขาจับมากุมไว้และจูงเธอเดินไปยังลานจอดรถที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก
"ฉันไม่ใช่เด็กนะคะคุณทิม ไม่ต้องจูงมือฉันก็เดินเองได้ค่ะ"
"ให้ผมจูงดีกว่าครับ เผื่อใครมีตาหามีแววไม่จะได้ไม่เซ่อซ่าทะเล่อทะล่าเข้ามายุ่งกับคุณอีก"
"เกี่ยวอะไรล่ะคะ ฉันโสด ใครอยากจะเข้ามาฉันก็อ้าแขนต้อนรับไว้หมดแหละค่ะ"
"งั้นพวกผู้ชายคนอื่นคงจะต้องรอต่อแถวนานหน่อย เพราะว่าตอนนี้ผมคือคนที่อยู่คิวแรกและผมก็ไม่คิดด้วยว่าจะยอมออกจากแถวนี้ไปไหน" จิรัสยามองมาอย่างขำๆก่อนจะส่ายศรีษะแล้วหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าความจริงจังของทิม
"จะบอกให้นะคะว่าถ้าคุณกำลังพยายามที่จะหว่านเสน่ห์ใส่ฉันอยู่ล่ะก็ ไม่ได้ผลหรอกค่ะ เพราะว่าฉันพึ่งจบหลักสูตรการหนีให้ไกลจากผู้ชายเจ้าชู้มาไม่นานนี่เอง"
"ผลของความพยายามมักจะสวยงามเสมอครับ คติประจำใจของผม" และแล้วทิมก็ขับรถพาจิรัสยาออกไปจากสถานที่ตรงนั้นและมุ่งหน้าตรงกลับไปส่งเธอที่โรงแรม
จิรัสยากลับมาถึงห้องก็จัดการอาบน้ำอาบท่าแล้วส่งตัวเองเข้านอนทันที ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้วแต่ว่าเธอก็ยังยืนยันที่จะขอนอนต่อแม้ว่าเพื่อนๆในกรุ๊ปจะส่งข้อความนัดแนะกันออกไปเที่ยวในเมือง
ช่วงเวลาที่เธอหลับผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆบรรยากาศด้านนอกเริ่มมืดลง จิรัสยาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อเปิดดูนาฬิกา แต่กลับมีข้อความส่งมาจากทิมแสดงอยู่
'อย่าลืมทานข้าวเย็นแล้วหาอะไรอุ่นๆทานนะครับ เมื่อคืนนอนหนาวทั้งคืน ผมไม่รู้ว่าผมทำให้ร่างกายคุณอบอุ่นพอหรือเปล่า xoxo'
พออ่านจบประโยคแก้มขาวๆก็แดงขึ้นอีกจนได้เมื่อนึกไปถึงวิธีที่เขานั้นใช้ทำให้ร่างกายเธออบอุ่น
"ตาบ้านี่"
จิรัสยาเลือกที่จะโทรสั่งอาหารจากทางโรงแรมขึ้นมาส่งบนห้อง เธอขี้เกียจลงไปตามคำนัดคำชวนของเหล่าเพื่อนๆพี่น้องที่พากันออกไปลััลลากันตามประสา โดยให้เหตุผลว่าอยากพักผ่อน และจนกระทั่งก่อนนอนเธอก็ยังได้รับข้อความบอกฝันดีจากทิมไปอีกหนึ่งฉบับด้วย
'ฝันดีนะครับ แต่คืนนี้คุณคงหนาวหน่อยเพราะไม่มีผมไปนอนกอด'
และก็ยังตามมาด้วยข้อความสวัสดีในตอนเช้าอีกหนึ่งฉบับ
"มอนิ่งคนสวย เมื่อคืนฝันถึงผมบ้างหรือเปล่า ผมฝันว่าได้นอนกอดคุณทั้งคืนเลย" จิรัสยาปิดหน้าจอโทรศัพท์ลงด้วยความเหนื่อยหน่ายใจและเลือกที่จะโยนมันเอาไว้บนหัวเตียง
วันนี้เธอมีนัดว่าจะเดินออกไปดูพวกกระเป๋าที่อยากจะได้และแอบเล็งมาตั้งแต่อยู่เมืองไทยเสียหน่อย จิรัสยารีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงไปเจอเพื่อนสาวที่หน้าบริเวณล็อบบี้ นั่งรอไม่ถึงห้านาทีบุคคลที่เธอกำลังรอคอยก็เดินมาเช่นกัน
"ว่าไงจีจี้วันนี้จะเหมากี่ใบดี"
เอกพงศ์ ชื่อในวงการที่ทุกคนรู้จักกันดีคือ เอกกี้ รูปร่างสูงใหญ่สมชายชาตรีแต่จิตใจนั้นบอบบางยิ่งเสียกว่าสตรีเพศ
"ใบเดียวพอมั้งเอกกี้ จีจี้ต้องเก็บเงินเยอะๆอยากเก็บเงินเอาไว้ไปเอาบ้านคุณยายกลับคืนมาให้คุณแม่"
"เห็นครั้งที่แล้วก็พูดแบบนี้ ที่ไหนได้ฟาดมาสาม" เอกกี้ยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะเบาๆ
"แหมจริงๆแล้วจีซื้อไปไว้เกร็งกำไรน่ะ ถ้าถึงเวลาที่จะต้องเอาบ้านคืนมาจริงๆ จีก็จะเทขายให้เรียบหมดเลย"
"จ้า งั้นจะรอช้าอยู่ใยล่ะ รีบเร่งไปซื้อกระเป๋าเพื่อเกร็งกำไรกันเถอะ"เมื่อตกลงกันได้ สองสาวก็หัวเราะคิกคักแล้วจึงพากันเดินออกไปยังจุดหมายคือร้านกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูใจกลางแหล่งช้อปปิ้งในเมือง
ใช้เวลาเดินมาไม่ถึงสิบห้านาทีก็มาถึง ทั้งเอกกี้และเธอก็ไม่รอช้า รีบเดินตรงเข้าไปเพื่อเลือกชมสินค้ากันทันที เอกกี้เลือกที่จะขอชมชิ้นนั้นดูชิ้นนี้และบอกความต้องการของตนต่อพนักงานขายว่าอยากจะได้แบบไหนสีไหนบ้าง ส่วนเธอเลือกไปดูที่มุมกระเป๋าใบที่เธออยากจะได้นั้นตั้งโชว์อยู่ จิรัสยาบอกพนักงานว่าขอลองดูใบที่เธอต้องการก่อนที่จู่ๆเอกกี้จะเดินเข้ามาสะกิด
"ตายแล้วจีดูสิ นั่นคุณไฮโซทิมนี่ มากับใครกันนะส๊วยสวย ส่วนคุณทิมตัวจริงทำไมถึงหล่อชวนฝันขนาดนี้ เคยเห็นแต่ในทีวีว่าหล่อแล้ว ตัวจริงนี่หล่อกว่าในทีวีอีกอ่ะดูซิแก กรี๊ด"
พอได้ยินชื่อที่เพื่อนเอ่ย จิรัสยาก็เลยหันกลับไปมองตามที่ผู้เป็นเพื่อนบอกบอก เขาและหญิงสาวคนนั้นยืนเลือกกระเป๋ากันอยู่ที่บริเวณหน้าร้าน ส่วนเธอและเอกกี้อยู่สุดเข้ามาทางด้านในของร้าน
"ฉันว่าฉันเข้าไปขอถ่ายรูปกับเขาดีกว่านะจี"
"อย่านะเอก จีได้ข่าวมาว่าเขาขี้วีนสุดๆเลยแหละถ้าเวลาที่มีใครมาขอถ่ายรูป"
"จริงดิ? ฉันไม่เคยได้ข่าวเลยอ่ะแกว่าเขาขี้วีน"
"จริง เชื่อฉันเพราะฉันเป็นเพื่อนแก"
"เออๆไม่ถ่ายก็ได้วะ"
จิรัสยายังคงตั้งหน้าตั้งตาเลือกกระเป๋าต่อไปโดยไม่หันไปมอง เสียงของหญิงสาวที่มากับทิมยังคงพูดเจื้อยแจ้วดังเข้ามาในหูเป็นระยะๆ ทั้งๆที่สมองสั่งว่าอย่าไปสนใจ ระหว่างเธอกับเขาไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน แต่หางตาก็ยังมิวายแอบไปชำเลืองมอง เขายืนอยู่ตรงนั้น ในมือยังคงตั้งหน้าตั้งตากดโทรศัพท์และไม่ได้สนใจหรือรับรู้ว่ามีเธอยืนอยู่ตรงนี้เลย ทั้งๆที่เมื่อคืนก่อนเธอกับเขายังติดอยู่บนเทือกเขาด้วยกัน แถมตอนเมื่อเช้าเขายังส่งข้อความสวัสดีตอนเช้ามาหาเธออยู่เลย แต่ตอนนี้ทั้งๆที่ยืนห่างกันแค่นี้ ทิมกับไม่เคยรับรู้ว่ามีเธออยู่นี่สินะ ผู้ชายเจ้าชู้ ในเมื่อเธอก็รู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าเขาเป็นคนยังไงแต่แล้วก็ยังจะอยากเอาตัวเองเข้าไปยุ่ง จิรัสยาแค่นหัวเราะออกมาเบาๆเพราะสมน้ำหน้าตัวเอง แต่ช่างเถอะ อย่างน้อยเมื่อคืนก่อนเธอกับเขาก็ไม่ได้เลยเถิดจนถึงขั้นมีอะไรกัน ถึงแม้ว่ามันจะ 'เกือบ' ก็เถอะศรีษะทุยสวยสะบัดเบาๆเพื่อขับไล่ความคิดที่กำลังตีกันจนสับสนวุ่นวายทิ้งแล้วจึงคิดว่าหันกลับมาโฟกัสที่กระเป๋าใบข้างหน้าต่อไปจะดีกว่า ต่อจากนี้ไปเธอจะอยู่ให้ห่างไกลจากเขาและไม่มีทางยุ่งเกี่ยวด้วยอีกเด็ดขาด"ห่างกันวันเดียว คุ
จิรัสยายังคงนั่งเฉยแถมตอนนี้ใจดวงน้อยทำเหมือนราวกับว่ามันกำลังเต้นรัว เธออยากหายตัวออกไปจากตรงนี้เสียเหลือเกิน ไม่อยากจะเห็นไม่อยากรับรู้ ทั้งปัญหาจากคนเก่าแถมตอนนี้เธอก็ 'เกือบ' จะเผลอตัวไปยุ่งกับคนใหม่ปัทมะที่ตอนแรกมัวแต่สนใจเธอ พอได้เงยหน้าขึ้นไปมองว่าโต๊ะที่พึ่งเดินเข้ามาใหม่คือใคร ใบหน้าคมเข้มก็ยิ้มกริ่มออกมาทันที"พี่บอกจีแล้วใช่มั้ย ว่าไม่มีใครรักจีได้เท่าพี่อีกแล้ว"จิรัสยาพอได้สติก็รีบดึงมือตัวเองกลับมา หากแต่ว่าปัทมะก็ยังคงจับเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย"ปล่อยจีค่ะพี่ปาล์ม" ริมฝีปากบางค่อยๆเค้นเสียงออกมาราวกับว่าต้องการพูดให้เบาที่สุด เธอไม่อยากพูดเสียงดังไปมากกว่านี้เพราะเกรงว่ามันจะไปกระทบกับโสตประสาทของคนที่เธอไม่ต้องการอยากให้ได้ยินเข้า"จี พี่รักจีนะ ได้โปรดให้โอกาสพี่อีกครั้งเถอะนะครับ พี่รักจีนะ พี่ขาดจีไม่ได้จริงๆ พี่อยากให้พี่ทำอะไรพี่ยอมจีหมดทุกอย่าง ขอแค่ได้จีกลับคืนมาล" แม้ว่าจิรัสยาจะพยายามพูดเปล่งเสียงออกมาให้เบาที่สุดแล้วหากแต่ปัทมะกลับพูดจาฉาดฉานราวกับว่าต้องการให้มันดังกระทบไปเข้าหูของคนที่นั่งอยู่ด้านหลังของจิรัสยา ซึ่งแน่นอนว่านั่นคือ ทิม"จีจะขอพูดเป็นครั้งสุดท้
จิรัสยายังคงนอนนิ่งและหลับตาลง ภายในสมองต่างกำลังประมวลผลว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างเธอกับทิมตอนนี้คืออะไร เหตุใดเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาแบบเธอจึงต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับไฮโซร้อยล้านพันล้านอย่างเขาด้วย ซึ่งเธอไม่อยาก เขากำลังจะทำให้ชีวิตของเธอวุ่นวาย ด้วยอำนาจเงินเธอไม่มีทางรู้เลยว่าเขาสามารถทำสิ่งใดได้บ้าง ขนาดเบอร์โทรของเธอจู่ๆเขาก็ยังไปสรรหามา แต่เรื่องนี้ก็ยังคงพอเข้าใจได้ว่าเขาอาจจะไปถามมาจากภาคินหรือชนัญญาไวน์หมดขวดแล้ว นี่เธอดื่มเข้าไปเยอะขนาดนี้เลยเชียวหรือ จิรัสยาค่อยๆลุกขึ้นยืน ตอนนี้เธอแน่ใจว่าใช่ เธอกำลังเมา เรียวขางามค่อยๆก้าวออกมาจากอ่างอาบน้ำอย่างช้าแล้วจึงเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่วางพับอยู่บนชั้นซึ่งห่างออกไปไม่ไกลนัก ก่อนจะค่อยๆเดินออกมาบิดลูกบิดประตู แล้วจึงก้าวเข้าไปภายในห้อง"นี่คุณ!"จิรัสยาร้องขึ้นมาเต็มเสียง มันเป็นไปได้อย่างไรกัน ที่เวลานี้บนเตียงนอนของเธอมีทิมนั่งไขว่ห้างรออยู่ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยพร้อมด้วยสายตาที่มองมาอย่างไม่สามารถคาดเดาได้ออก"คุณเข้ามาได้อย่างไง ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะคุณทิม"ปมผ้าขนหนูถูกกระชับขึ้นมาจนแน่นก่อนที่ขาเรียวสวยจะค่อยๆขยับถอยหลัง"ไม่ค
จิรัสยาพอได้ฟังคำถามจากทิมก็ถึงกับตาโตด้วยความตกใจ มีอย่างที่ไหนกันที่จู่ๆคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกันจะมาถามอะไรกันแบบนี้ ว่าทิมบ้าแล้วตัวเธอเองก็คงจะบ้ายิ่งกว่า ทั้งๆที่ตั้งปณิธานเอาไว้อย่างหนักแน่น ทั้งๆที่คอยปฏิญาณตนว่าชีวิตนี้จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายเจ้าชู้ แต่ทำไปทำมาทำไมเธอกลับกำลังจะยิ่งถลำลึกเข้าไปทุกที"จี ผมอยากได้คุณ"สายตาของทิมสื่อความปรารถนาของเขาออกมาอย่างเด่นชัด เสียงแหบพร่ากระเส่าของเขาทำเอาเธอรู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้าอย่างไม่รู้ตัว จนในที่สุดเขาก็ขยับใกล้เข้ามา ปมผ้าขนหนูค่อยๆถูกเขากระตุกออกอีกครั้งหลังจากที่เธอพึ่งใส่มันไปเมื่อสักครู่ จนกระทั่งเผยให้เห็นสองเต้าอวบอิ่มแสนงดงามที่ต่างก็ปรากฎอยู่ด้านหน้า ลิ้นอุ่นแฉะถูกเลียอยู่ที่ริมฝีปากหนา ทิมมองมันด้วยสายตาหื่นกระหายก่อนจะก้มลงไปครอบครองมันด้วยริมฝีปากร้อนและมือแกร่งทันที ข้างหนึ่งบีบ ข้างหนึ่งลูบเลียเค้นคลึงจนจิรัสยาต้องเเอ่นหลังขึ้นด้วยความเสียวซ่าน"อ๊ะ คุณทิม ยะ..อย่าค่ะ"ฟังเสียที่ไหน คำร้องคัดค้านของเธอมันคงจะเบาเกินไป ทิมยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างคล่องแคล่วชำนาญ จากด้านบนค่อยๆเคลื่อนลงสู่ด้านล่า
จิรัสยาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เตรียมตัวลงไปหาเพื่อนๆตามเวลานัดหมายข้างล่าง เที่ยวบินกลับของเธอวันนี้คือเวลาบ่ายสองโมงสิบห้านาที ระหว่างรอนั้นพอนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมงใบหน้าขาวนวลก็เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความอายขึ้นมาอีกจนได้เมื่อเวลาตีห้ากว่าๆเธอถูกทิมปลุกขึ้นมาเพื่อบอกว่าเขาต้องกลับออกไปแล้ว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีใครมาเห็นและเอาเธอไปต่อว่าได้ว่าเธอนั้นทำผิดกฏการปฏิบัติงาน โดยกฏของการทำงานมีอยู่ว่าห้ามไม่ให้พนักงานพาบุคคลภายนอกเข้ามาพักด้วยระหว่างที่ยังรอสแตนบายเพื่อปฏิบัติหน้าที่โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถูกตักเตือนและถูกพิจารณาชั่วโมงการทำงานก่อนจะไปทิมดึงเธอเข้ามาหอมและกอดแถมยังขอ 'มอนิ่งคิส' ก่อนไปหนึ่งที ซึ่งมันยาวนานและเนิ่นนานมากกว่าทิมจะยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระอีกครั้ง จิรัสยาคิดในใจว่าตกลงเมื่อคืนที่ผ่านมาเธอและทิมมีอะไรเกินเลยกันไปแล้วจริงๆอย่างนั้นหรือ แต่ทำไมเธอถึงยังรู้สึกว่าร่างกายของเธอยังรู้สึกปกติสุขดีราวกับว่าไม่เคยมีการผ่านเรื่องราวใดๆมาก่อน ด้วยความสงสัยลังเลคงจะแสดงออกมาบนใบหน้าเธอ จึงได้ลองเปิดผ้าห่มดูแล้วทิมก็พูดขึ้นมาว่า"ทุกอย่างของคุณยังอย
หลังเสร็จจากเที่ยวบินไฟล์ทนี้จิรัสยาก็รีบมุ่งหน้ากลับบ้านทันทีโดยไม่ได้คิดสนใจใครอีก ในหัวของเธอตอนนี้มันกำลังตื้อไปหมด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินทำเอาจิรัสยารู้สึกว้าวุ่นและกระวนกระวายใจกับมันอย่างบอกไม่ถูกสายตาของผู้หญิงคนนั้นตอนที่มองมายังเธอราวกับว่ากำลังมีเรื่องเคียดแค้นอยู่ภายในใจ ก็คงจะใช่ อาจเพราะเจ้าตัวดันบังเอิญเดินกลับเข้ามาเห็นตอนที่เธอล้มเซลงไปนั่งอยู่ที่บนตักของว่าที่คู่หมั้นตัวเองสินะ มิหนำซ้ำก่อนออกจากเครื่องเจ้าหล่อนยังมองเหยียดและจิกสายตามองมาที่เธออย่างที่ดูก็รู้แล้วว่าไม่มีทางเป็นมิตรไม่มีคำถามและไม่มีการอธิบาย จิรัสยาปล่อยผ่านให้มันทิ้งไว้อยู่อย่างนั้น หวังว่าวันหนึ่งก็คงจะเลือนรางจางหายไปเอง แม้ว่าจะพยายามปลอบใจตัวเองแล้ว แต่ภายในใจก็ยังคงมิวายว้าวุ่นอยู่อย่างนั้น จึงได้แต่พยายามเตือนตัวเองอีกครั้งว่าช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว ทางที่ดีนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปเธอจะต้องไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกเป็นอันขาด ผู้ชายที่ชื่อ ทิม เศวตตระกูล เธอจะขอหลีกหนีจากเขานับตั้งแต่วันนี้ไป ดีแค่ไหนแล้วที่มันยังไม่ทันได้เกิดเรื่องราวเกินเลยขึ้นระหว่างเขากับเธอศรีษะทุย
หลังจากที่เปิดสงครามขนาดย่อมๆไปกับหญิงสาวผู้ที่เธอไม่ได้รู้จักและไม่อยากที่จะรู้จัก แต่อยากเลือกที่จะโทรมาหาเรื่องเธอก่อน จิรัสยาก็ขอจัดให้แบบพอหอมปากหอมคอ อย่าคิดว่าจะโทรมาหาเรื่องเธอก่อนแบบนี้แล้วเธอจะยอม เพราะเรื่องนี้ถ้าจะโทษก็ควรจะไปโทษตัวฝ่ายชายมากกว่าที่ไม่รู้จักพอเอง ก็ในเมื่อทั้งๆที่ตัวเองมีเจ้าของอยู่แล้วแท้ๆ แต่กลับมายุ่งวุ่นวายกับเธอไม่หยุดจนเป็นสาเหตุให้เธอต้องถูกไล่ออกจากงานมาสดๆร้อนๆพอพูดถึงตัวต้นเหตุแล้วจิรัสยาก็อดที่จะเกิดความรู้สึกแปลกๆไม่ได้ เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร รู้เพียงแค่ว่าภายในใจกำลังรู้สึกปั่นป่วนกระวนกระวายจนอยากจะทึ้งหน้าใครเข้าสักคน ดูเอาเถอะ ก่อเรื่องสร้างความวุ่นวายให้ชีวิตเธอมาขนาดนี้แต่เขากลับเงียบหายไป นี่เขาจะรับรู้บ้างหรือเปล่าว่ากำลังสร้างปัญหาให้กับชีวิตเธอขนาดไหน ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาสองสามที พอเดินเข้าไปส่องดูที่ช่องตาแมวก็เห็นว่าชนัญญายืนอยู่"พี่ฝ้ายมีอะไร""จี แกถูกให้ออกจากงานจริงๆหรอ เห็นหนูนาโทรมาบอกเมื่อกี้ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น" ชนัญญาเขย่าแขนจิรัสยาหน้าตาตื่นด้วยความเป็นห่วงรุ่นน้องคนสนิท"ก็ตามที่เจ้รู้มานั่นแหละ ส่วนส
พอถึงเวลาพักจิรัสยาก็รีบเก็บข้าวของแล้วกะว่าจะแอบรีบแอบหลบไปพักสมองที่ไหนสักแห่งเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอหน้าคนที่ไม่อยากเห็น นี่อุตส่าห์ว่าหนีมาไกลขนาดนี้แล้ว ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรทำให้เธอถึงยังต้องกลับมาพบเจอกับคนที่ไม่อยากพบเจออีกขาเรียวงามรีบก้าวเดินอย่างฉับไว ค่อยๆลัดเลาะไปตามแนวหมู่ละแมกไม้ที่ถูกตกแต่งเอาไว้เป็นเพื่อใช้เป็นฉากม่านบังกั้นสายตาระหว่างโซนโรงแรมกับโซนสระว่ายน้ำจนในที่สุดเธอก็เดินมาโผล่ยังอีกส่วนหนึ่งของทางด้านหลังของโรงแรม และถึงแม้ว่าเธอจะพึ่งเริ่มทำงานที่นี่ แต่เธอก็พอจะรู้ๆอยู่บ้างว่าควรจะเข้าออกซอกไหนซอยไหน"รีบเดินมาขนาดนี้นี่ตั้งใจจะหลบหน้าพี่ใช่มั้ย"จู่ๆเสียงที่ไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น จิรัสยาถอนหายใจหนึ่งทีแล้วจึงหันกลับไปมอง"พี่ปาล์ม ตามมาถูกได้ยังไงคะ""พี่มองดูจีอยู่ เห็นพอถึงเวลาพักแล้วจีรีบเดินมาทางนี้พี่ก็เลยรีบเดินตามมา"จิรัสยามองหน้าปัทมะด้วยความเต็มตาอีกครั้ง ผู้ชายคนนี้เคยเป็นคนที่เธอหลงมอบหัวใจให้ คิดว่าเขาจะคือคนที่แตกต่าง แต่เปล่าเลย เขากลับทรยศหักหลังความรักและหัวใจเธออย่างไม่มีชิ้นดี"พี่ปาล์มมีธุระอะไรจะคุยกับจีคะ""พี่คิดถึงจี"ปัทมะแทบจะพูด
"อ๊ะ ๆ อ๊า ไม่ไหวแล้วค่ะคุณทิม จีไม่ไหว"เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังกระทบกันจนสั่นผืนน้ำนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน พอกลับมาจากกรุงเทพได้ ทิมก็เอาเรือออกแล้วนำมาจอดลอยไว้อยู่กลางทะเล วันๆไม่ทำอะไร ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่เรื่องอย่างว่า นี่สามวันมาแล้ว ทิมยังเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเธอโดยไม่คิดจะทำอย่างอื่น มิหนำซ้ำพ่อคนบ้ากามยังมาบังคับให้เธอทำมันไปกับเขาด้วย"ขย่มอีกสิครับยาหยี ขย่มผมแรงๆ""แต่จีเหนื่อยจนหมดแรงแล้วนะคะ วันนี้คุณเล่นให้จีขย่มมาตั้งแต่เช้า จนตรงนั้น..ของจี บานนน ไปหมดแล้วค่ะ""จี! พูดจาน่าเกลียดแบบนั้นได้ยังไง ของจีออกจะทั้งนุ่มแล้วก็ยังฟิต บานเบินอะไรกันครับ""พูดจริงๆค่ะ คุณทิมหัดทำอย่างอื่นบ้างเถอะค่ะ ไม่ใช่คิดว่าตัวเองรวยแล้วไม่ยอมทำอะไร คนบ้าอะไรมานอนจอดเรือข้ามคืนข้ามวันเพื่อมีเซ็กซ์""ก็ผมชอบบรรยากาศนี่ โรแมนติกดีออก ยิ่งได้'เอา'จีวันละสี่ห้ารอบแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกกระชุ่มกระชวยดีชะมัด""คุณกระชุ่มกระชวยอยู่คนเดียวน่ะสิคะ ส่วนจีจะ บานแล้วบานอีก""จี! หยุดพูดจาห่ามๆแบบนี้เดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าจีบอกว่าไหนๆจีก็บานแล้ว งั้นมานอนอ้าขาตรงนี้เร็ว ขอเสียบอีกรอบ เพราะว่าเมื่อกี้ผมยังไม่แตกเลย"
สรุปก็คือพราวฟ้าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเธออีกเพราะว่าไม่สามารถทนเป็นเพื่อนกับใครก็ตามที่ได้หัวใจของทิมไปครองได้ เธอบอกว่าสำหรับเธอแล้วทิมคือเจ้าของหัวใจของเธอมานานและเป็นเพียงเขาคนเดียวมาตลอด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้และไม่เคยรู้ แม้จะรู้ตัวเองดีว่าไม่มีทางที่ทิมจะหันมามองแต่เธอก็ไม่สามารถทำใจได้จริงๆกับความจริงที่ว่าทิมรักคนอื่น เธอขอให้จิรัสยาใช้ชีวิตกับทิมให้มีความสุขแต่ขอแค่อย่ามายุ่งเกี่ยวกับเธออีกเพราะเธอคงไม่สามารถทนเห็นภาพความเจ็บปวดนั้นได้ "เป็นอะไรครับหน้าเครียดเชียว"ทิมหันมาจับมือเธอเอาไว้หลังจากที่เครื่องบินลงจอดและตอนนี้เธอกับเขาก็นั่งอยู่บนรถตู้คันใหญ่มุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของเธอ "บ้านดารารัตน์" ซึ่งเวลานี้มีมารดาของเธออาศัยอยู่กับแม่บ้านคนสนิทอีกสองคนรถตู้สีดำคันใหญ่ค่อยจอดเรียบไปกับบริเวณริมรั้ว จิรัสยามองบ้านหลังนี้แล้วก็น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ ในที่สุดเธอก็ได้กลับมายังบ้านหลังนี้อีกครั้ง บ้านที่เธอเติบโตมาและได้วิ่งเล่นมาตั้งแต่ยังเด็ก"เข้าไปหาคุณแม่ของจีกันเถอะ ผมอยากเข้าไปฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกเขยจะแย่แล้ว""แน่ใจหรอคะว่าแม่จีจะอนุญาต""เชื่อมือผมสิ"จิรัสยาพาทิม
เช้านี้จิรัสยาลืมตาตื่นมาท่ามกลางเตียงสีขาวสะอาดตาขนาดหกฟุต เมื่อคืนหลังจากตกลงกับทิมในเรื่องของบทพิสูจน์รักแท้จนเป็นที่น่าพอใจแล้ว เขาก็จัดการให้เธอมาพักที่ในส่วนนี้โดยมีข้อแม้ว่าระหว่างนี้เขาจะต้องไม่ฉวยโอกาสกับเธอโดยเด็ดขาดและเป็นอันว่าทิมเองก็ตกลงแค่มีข้อแม้ว่าเธอจะต้องอยู่ให้เขาพิสูจน์รักเเท้ที่นี่ขาเรียวยาวค่อยๆก้าวลงจากเตียงค่อยๆ เสื้อผ้าข้าวของๆเธอถูกเก็บออกมาจากที่พักพนักงานตั้งแต่เมื่อวานด้วยฝีมือของเขา และยังกับชับกับเธออีกว่าให้อยู่เฉยๆที่นี่โดยที่ไม่ต้องทำอะไร ระหว่างนี้เขายังคงจ่ายเงินเดือนให้เธอตามปกติ จิรัสยายืนมองตัวเองในกระจกก่อนจะเกาศรีษะแกรกๆ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันที่อยู่ๆจะมาบอกให้เธออยู่เฉยๆ คนเคยทำงานมาตลอด ถ้าขืนเป็นแบบนี้เธอคงได้เป็นบ้า"ตื่นแล้วหรอครับ ผมเตรียมอาหารเช้าให้จีเสร็จแล้ว ออกไปทานเลยมั้ย" ทิมเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กก่อนจะหอมจุ๊บลงไปที่บนหน้าผากหนึ่งทีจากนั้นจึงจูงมือเธออกไป ขณะที่กำลังถูกทิมประเคนป้อนนั่นป้อนนี่ให้ เสียงข้อความจากมือถือก็ดังขึ้น จิรัสยาจึงหยิบมันขึ้นมาดู ปรากฎว่าคือข้อความจากชนัญญาที่แนบไฟล์ภาพมาด้วย'ไหนบอกว่าเกลียด อ๊ะๆยังไงน้า
ข้อมือน้อยๆยังคงถูกทิมดึงให้เดินตามหลังเขาไปติดๆจนมาถึงด้านข้างของโรงแรมทิมก็พาเธอขึ้นมานั่งบนรถของทางโรงแรมที่จอดรออยู่ ก่อนจะบอกให้คนขับมุ่งหน้าตรงไปยังวิลล่าส่วนตัวของเขา"ต่อไปนี้จีไม่ต้องไปทำงานที่นั่นอีกแล้วนะ""นี่คุณไล่จีออกหรอคะ" จิรัสยาหน้าเครียด"ใช่ ผมไล่จีออกจากการเป็นพนักงานของทางโรงแรม""ใจร้าย ไม่มีเหตุผล ทั้งๆที่ผู้หญิงของคุณเป็นคนมาหาเรื่องจีก่อนแท้ๆ แต่คุณกลับคิดว่าจีเป็นคนผิด นี่มันครั้งที่สองแล้วนะคะที่ผู้หญิงของคุณทำจีเดือดร้อนจนถึงกับต้องออกจากงาน" จิรัสยายังคงต่อว่าออกมาปาวๆยาวเหยียดอย่างอดไม่ได้ เธอทั้งโกรธ เสียใจและน้อยใจที่ชีวิตตั้งแต่เจอเขามามีแต่เรื่องวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นพอจังหวะที่รถจอดจิรัสยาก็เปิดประตูก้าวลงไปทันที ขาเรียวเดินตรงเข้ามาในวิลล่าหรูอย่างลืมตัวก่อนจะเปิดประตูเข้าไปราวกับว่าตัวเองนั้นคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ดี"จี" ทิมเดินตามเข้ามาแล้วหยุดเรียก พอได้สติและเห็นว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหนจิรัสยาก็ได้แต่อึกอัก"ขอโทษค่ะจีลืมตัวจนถือวิสาสะเดินเข้ามาในที่ส่วนตัวของคุณ" ใบหน้างามก้มลงน้อยๆและไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตา"ผมไม่ได้ว่าอะไร จีสามารถไปที่ไหนก
ช่วงนี้จิรัสยาทำงานแบบไม่ค่อยจะมีสมาธิเท่าไหร่หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปหลังจากพาเธอกลับมาจากเกาะส่วนตัวแล้วจิรัสยาก็ไม่ได้เจอหน้าทิมอีกเลย มีแค่เพียงข้อความที่เขามักจะส่งมาหาเธออยู่เสมอๆ แต่นั่นก็ทำเอาจิรัสยาอดนอยด์ขึ้นมาไม่ได้ว่าเธอก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงหน้าโง่คนหนึ่งที่ถูกทิมหลอกให้รักนึกแล้วก็ได้แต่สมน้ำหน้าตัวเอง เกลียดดีนักพวกผู้ชายเจ้าชู้ แล้วในที่สุดเธอก็พลาดท่าเสียทีให้กับผู้ชายเจ้าชู้จนได้ ดั่งคำโบราณที่ว่า 'เกลียดอะไร ก็มักจะได้อย่างนั้น' ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสนกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แต่ก็ยังพยายามปลอบใจตัวเองเอาไว้ ว่าถึงแม้ว่าหัวใจเธอกำลังรู้สึกไม่โอเค แต่อย่างน้อยในตอนนี้เธอก็ได้สิ่งที่ต้องการกลับคืนมา บ้านดารารัตน์ถูกโอนให้เป็นชื่อของเธอเรียบร้อยแล้ว นั่นทำให้มารดาของเธอดีใจอย่างมากที่ได้มันกลับคืนมา "ในที่สุดแม่ก็ได้บ้านคืนมา จีหนูทำได้ยังไงกันลูก""จีทำได้ทุกอย่างเพื่อแม่ค่ะ ทุกอย่าง"ทิมหายหน้าหายตาไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ และเมื่อวันสองวันมานี้ก็เริ่มมีข่าวลืออักษรย่อออกมาให้เห็นตามแหล่งหน้าสื่อออนไลน์ติดๆกัน'ท่าทางจะไม่ได้เห็นงานหมั้นระดับช้างเนื่องจาก ไฮโซ ท ปฏิเสธแอบสะบั้นรักว่
แม้ว่าเเวลาจะผ่านไปแล้วแต่จิรัสยายังคงนิ่งเงียบและหนักใจกับคำถามที่ทิมยังคงรอฟังคำตอบ หลังจากที่พาเธอเดินทัวร์จนเกือบจะทั่วฟาร์มแล้ว ตอนใกล้จะกลับจู่ๆทิมก็ถามคำถามที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากเขาออกมา เเละเธอยังไม่ได้ตอบจนกระทั่งเขาพาเดินกลับมาจนถึงที่พักทิมต้องการขอคบกับเธอ เขาบอกแบบนั้น แต่เขากำลังลืมอะไรหรือเปล่าว่าเขาว่าสถานะของเขาตอนนี้นั้นคือคนที่กำลังจะหมั้น "อ้าวนาย มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะเนี่ย ป้าไม่เห็นรู้เลย" หญิงสูงวัยอีกคนหนึ่งที่กำลังเดินขึ้นมาจากชานระเบียงร้องทักขึ้น"มาถึงเมื่อตอนสายๆนี่เองครับป้าจวน""จีครับ นี่ป้าจวนเป็นแม่บ้านที่คอยดูแลที่นี่ แล้วก็เป็นภรรยาของลุงรงค์ที่จีไปเจอมาเมื่อสักครู่" จิรัสยายกมือขึ้นไหว้หญิงสูงวัยตรงหน้า ทำเอาหญิงสูงวัยยกมือขึ้นรับไหว้แทบไม่ทัน"อ้าวแล้วนี่คุณทิม พาใครมาด้วยล่ะคะเนี่ย""ผมพา 'ว่าที่' นายหญิงของที่นี่มาดูกิจการน่ะครับ" ทิมพูดยิ้มๆก่อนจะหันมามองเธออีกแล้ว"ว๊าย ตายแล้ว นี่นายกำลังจะมีนายหญิงแล้วจริงๆหรอคะเนี่ย โอ๊ยป้าจะเป็นลม" พอเห็นว่าหญิงสูงวัยตกใจจนต้องยกมือขึ้นมาทาบจับที่หน้าอกคล้ายจะเป็นลม จิรัสยาก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยพยุ
หลังจากจัดการมื้อค่ำที่ค่อนข้างจะเป็นมื้อดึกเสียมากกว่าโดยฝีมือทิมเสร็จแล้ว เวลานี้ทั้งสองคนต่างนอนกอดอยู่ในอ้อมแขนของกันและกันที่ดาดฟ้าของเรือ ท้องฟ้าคืนนี้โปร่งใส ดวงดาวต่างพร่างพราวส่องแสงระยิบระยับเป็นประกายอยู่เต็มท้องฟ้า"เมื่อกี้คุณบอกว่าอะไรนะคะ""ผมหลงรักคุณตั้งแต่แรกเห็น""น้ำเน่าค่ะ ไม้นี้อาจจะใช้ได้ผลกับผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่กับจีค่ะ""ผมพูดจริงๆจี ผมตกหลุมรักคุณตั้งแต่ตอนเห็นคุณเปิดประตูรถก้าวลงมา จากนั้นผมก็กดลิฟท์เปิดค้างเอาไว้เพื่อรอคุณ""อ๋อ ที่แท้ก็เริ่มใช้กลยุทธ์กับจีตั้งแต่ตอนนั้นเลยหรอคะ"ทิมขำกับประโยคที่จิรัสยาพูดออกมา นี่เขาคงจะเป็นเอามาก เพราะไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ดูน่ารักน่าใคร่ไปเสียหมด"แล้วผมก็มีเรื่องจะสารภาพว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์เป็นฝือมือของผมทั้งหมด จริงๆแล้วผมไม่ได้มีธุระอะไรที่นั่นหรอก ผมแค่อยากหาข้ออ้างบินไปกับคุณ ผมอยากทำความรู้จักคุณให้เร็วที่สุด""คุณทิม! นี่ฉันไม่คิดเลยนะคะว่าคุณจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ อ่อฉันนึกออกแล้ว รวมถึงเรื่องที่ฉันต้องไปติดพายุหิมะอยู่บนยอดเขากับคุณนั่นก็ด้วยสินะคะ" จากดวงตากลมโตหวานหยอดย้อยเวลานี้เริ่มเปลี่ยนเป
หลังจากที่ไม่สามารถยืนมองภาพนั้นได้อีก ขายาวๆก็ก้าวขึ้นเตียงไปหาเรือนร่างยั่วยวนที่เวลานี้แอ่นอ้ารอคอยเขาอย่างเชิญชวน ทิมขยับใกล้เข้าไปหาและจับสองขางามนั้นให้ตั้งฉากขึ้นก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะก้มลงโน้มลงไปยังจุดหมายที่หมายตาอยู่ ลิ้นร้อนๆถูกขยับปาดเลียไปที่ใจกลางเกสรอย่างนุ่มนวลก่อนจะร้อนแรงและบ้าคลั่งขึ้นมาเรื่อยๆจนจิรัสยาส่งเสียงครางระงม"อ๊ะ อ๊า คุณทิม อ๊า เสียวค่ะ"สะโพกน้อยบิดเร่าไปมา ในขณะที่ทิมเองก็ไม่ได้คิดจะผ่อนปรน ข้างบนดูด ข้างล่างแหย่ ทั้งลิ้นทั้งนิ้วต่างสร้างความสุขหรรษาให้จิรัสยาอย่างไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ เธอชอบมัน ทุกๆสัมผัสที่ทิมเสนอให้ ทิมยังคงดูดย้ำอยู่ตรงนั้น ยิ่งเขาสัมผัสบริเวณปุ่มเกสรมันกลับยิ่งสร้างเสียงร้องครวญครางของเธอให้ดังชัดเจนยิ่งขึ้นจนเธอแทบจะทนไม่ไหว "คุณทิมคะ ยะ..หยุดก่อนค่ะ""ทำไมล่ะ ไม่ชอบหรอ""คือว่า..ฉันอยากเสร็จพร้อมคุณ"จิรัสยาอ้อมแอ้มตอบเพียงเบาๆ แต่คำตอบอีกประโยคของเธอกลับยิ่งทำให้ทิมยิ้มกว้างขึ้นไปอีก"ฉันชอบเวลาที่คุณเข้ามาอยู่แล้วเสร็จในตัวฉัน""งั้นคืนนี้ผมจะอยู่ในตัวจีทั้งคืนเลยดีมั้ย"เสียงดังครวญครางยังดังแข่งกันมาเป็นระยะๆ ผ่านไปร่วมเก
จิรัสยาเดินมาเข้างานตามปกติ เช้านี้อากาศสดใสแต่สมองและหัวใจยังเบลอๆ ตอนนี้ไม่ว่าจะเปิดไปทางไหนก็มักจะต้องเห็นข่าวงานหมั้นยักษ์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า "อ้าวจี มาแต่เช้าเลยนะ""ค่ะพี่เอม""วันนี้สงสัยคงต้องเหนื่อยหน่อยนะ เพราะยัยพราวลาป่วยน่ะ เหลือแค่พี่กับจีแค่สองคน""อ้าว นี่พี่พราวเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ""ไม่หรอก โรคทางใจน่ะ จีเห็นข่าวแล้วใช่มั้ยล่ะเรื่องที่คุณทิมกำลังจะหมั้น ยัยพราวเห็นแล้วรับไม่ได้ก็เลยเฮิร์ทหนัก""นี่พี่พราวเขาชอบคุณทิมขนาดนี้เลยหรอคะ""ยัยพราวน่ะมันหลงรักคุณทิมมาตั้งแต่เริ่มเข้าทำงานที่นี่แรกๆแล้วล่ะ รักมาตลอดแต่ก็ไม่เคยสมหวังสักที อย่างว่าแหละนะพูดไปก็จะเหมือนนินทาเจ้านาย คุณทิมน่ะผู้หญิงรายล้อมรอบตัวขนาดนั้น เขาคงจะมาชายตาแลพนักงานต้อนรับธรรมดาๆอย่างยัยพราวหรอก นี่ขนาดพี่เตือนไปหลายรอบแล้วก็ยังไม่ฟัง"พนักงานต้อนรับธรรมดาๆ..เธอเองก็เป็นแค่นั้นเหมือนกัน แล้วมีหรือที่เขาจะหันมามองตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ ทิมหายสาบสูญไปราวกับไม่มีตัวตน นี่เขาคงไม่ได้กำลังผิดคำพูดเรื่องบ้านดารารัตน์ของเธอใช่มั้ย คิดไปจิรัสยาก็เริ่มกังวล แต่ถ้าถึงทิมจะไม่ยอมเอาบ้านดารารั