Home / รักโบราณ / เล่ห์ปีศาจ / ตอนที่ 5 ต่อปากต่อคำ

Share

ตอนที่ 5 ต่อปากต่อคำ

Author: JIeC
last update Last Updated: 2025-02-28 19:30:00

ตอนแรกเสียนเปาคิดว่างานเลี้ยงที่อู่หางพูดถึงจะเป็นดั่งเช่นที่นางได้ยินมาจากพี่สาวปีศาจตอนยังเด็ก ซึ่งทุกอย่างถูกประดับตกแต่งอย่างหรูหรา ทว่าผิดคาดไปนิด เมื่อมาถึงสถานที่จัดงานเลี้ยงนางกลับเห็นเป็นเพียงแค่งานเลี้ยงรอบกองไฟธรรมดาเท่านั้น เหล่าชายฉกรรจ์ต่างพากันนั่งร่ำสุรา ดูจากสีหน้าของพวกเขาที่แดงเพราะฤทธิ์สุราก็รู้ว่างานเลี้ยงเริ่มมานานพอสมควร ชายฉกรรจ์เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดวาบหวิวเดินเข้ามา สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องอยู่ที่ตัวนางไม่ห่าง พลางนึกถึงค่ำคืนอันเร่าร้อนที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน สายตาเหล่านั้นทำให้เสียนเปาน้อยรู้สึกรำคาญเล็กน้อย ฉับพลันสองหูก็ได้ยินเสียงหัวเราะเสียงดังของบุรุษดังมาจากภายในกระโจมใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ที่นางยืนอยู่ สายลมพัดกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งมาปะทะจมูกจนสาวน้อยต้องหันหน้าหนี จู่ ๆ นางก็ถูกผลักให้เดินเข้าไปข้างในกระโจมนั้นโดยไม่บอกไม่กล่าว

พอมีสาวงามปรากฏตัวขึ้นภายในกระโจม สายตาหลายคู่ก็เพ่งมายังตัวนาง ส่วนมากคงจับจ้องอยู่ที่เนินอกอวบอิ่มซึ่งโผล่พ้นเศษผ้าเสียมากกว่า แม้จะถูกมองมาหลายต่อหลายครั้งเสียนเปาก็อดประหม่าไม่ได้เพราะครานี้จำนวนคงช่างมากเกินไป มือน้อยรีบดึงกระโปรงบางที่แหวกกว้างเกือบจะเห็นโหนกขาวเข้าไว้ด้วยกัน วินาทีนั้นเองที่ดวงตาคู่งามสบเข้ากับดวงตาของบุรุษผู้หนึ่งที่มองมาด้วยความเย้ยหยันเจือแววขบขันอยู่นิดหน่อย ราวกับเห็นเหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเรื่องสนุกที่เขาจะพลาดไม่ได้

หวังเหว่ยกระตุกยิ้มขึ้นเมื่อสบตากับนาง หลังจากนั้นเขาจึงทำทีเป็นไม่สนใจโดยการแกล้งเมินแล้วปล่อยให้หญิงสาวยืนอยู่ท่ามกลางสายตาหื่นกระหายของบรรดาลูกน้องตน

ฉับพลันก็มีชายผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น "พี่ใหญ่ไม่น่าให้นางใส่เสื้อผ้าเช่นนี้เลย"

"จริงด้วย ข้าอยากเห็นนางเปลือยกายเสียมากกว่า"เมื่อมีคนหนึ่งเริ่มเปิดปาก ชายฉกรรจ์คนอื่นก็เริ่มพูดจาแทะโลมร่างบางอย่างเปิดเผย

หวังเหว่ยได้ยินก็เพียงกระตุกยิ้มทว่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใดตอบกลับ เมื่อไม่ได้รับอนุญาตคนอื่นก็ทำเพียงพูดจาแทะโลมและมองนางด้วยตาเปล่า แต่ไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปกระชากเสื้อที่ปกปิดเรือนกายน้อยชิ้นนั้นออกให้พ้นสายตา เพราะยังมีความเกรงใจต่อบุรุษได้ขึ้นชื่อว่าหัวหน้าตนอยู่

เสียนเปายืนฟังพวกผู้ชายพูดจาแทะโลมตนอย่างหน้าตาเฉย คนพวกนี้วัน ๆ มีแต่เรื่องอย่างว่า มิน่าถึงเป็นได้แค่โจรไร้ประโยชน์ ในจังหวะที่นางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยกลับเห็นหวังเหว่ยกวักมือเรียกนาง ร่างบางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจแต่นางก็เดินฝ่าฝูงชนเข้าไปตรงหน้าอีกฝ่ายโดยไม่หวั่นเกรง

หวังเหว่ยกวาดสายตามองร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกครั้งเงียบ ๆ  ผิวขาวกระจ่างเกือบจะทำเอาใจของเขาหวั่นไหว วินาทีนั้นเองที่ชายหนุ่มเหลือบไปเห็นมือขาวบางกำชายกระโปรงที่แหวกกว้างเข้าไว้ด้วยกันเพื่อปกปิดส่วนสงวนมากที่สุดเอาไว้ คิ้วหนาเลิกขึ้นอย่างสงสัย แต่เสียนเปากลับรับรู้ได้ถึงความกวนประสาท

"จะปิดทำไม ไม่ใช่ว่าปกติเจ้าชอบโชว์หรือ" พอชายหนุ่มพูดจบก็สมทบด้วยเสียงหัวเราะยียวน จนดรุณีน้อยรู้สึกหนังตากระตุกขึ้นมา นางทำเพียงยิ้มรับแต่กลับไม่ตอบคำถาม กระนั้นอีกฝ่ายก็ยังไม่หยุดที่จะกลั่นแกล้งนางอยู่ดี

"คนพวกนี้ก็เคยเห็นเจ้าเปลือยกันหมดแล้วทั้งนั้น เปิด ๆ ให้พวกเขาเห็นอีกสักครั้งไม่ดีหรือ"

แววตาของหญิงสาวทอประกายขึ้นมาเล็กน้อย ในหัวเกิดความคิดประหลาดขึ้น นางรีบเยื่อย่างเข้าไปใกล้บุรุษตรงหน้าก่อนจะย้ายสะโพกกลมลงไปนั่งบนตักของอีกฝ่าย สองแขนโอบรอบลำคอแกร่งพลางเอ่ยกระซิบข้างใบหูของหวังเหว่ยด้วยเสียงหวานฉ่ำ "พวกเขาเห็นข้า แล้วท่านอย่างเห็นบ้างหรือไม่"

น้ำเสียงทรงเสน่ห์พร้อมแววตาออดอ้อนที่มองมาราวกับลูกแมวน้อยนั้นทำให้หวังเหว่ยสะท้านไปครู่หนึ่ง ต่อมาหัวคิ้วขอชายหนุ่มก็ขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ "ออกไป"

"ไม่"

ครั้นเห็นว่าอีกฝ่ายปฏิเสธโดยไม่หยุดคิด ดวงตาของหวังเหว่ยก็หรี่เล็กลงอย่างอันตราย แต่คนตัวน้อยหาได้สะทกสะท้านไม่ ชายหนุ่มจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด เขาใช้มือดันไหล่ของดรุณีออกให้ห่าง ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยินยอมเริ่มใช้สองแขนโอบรอบคอเขาแน่นจนอกอวบอิ่มเสียดสีกับแผงอกกำยำ หวังเหว่ยได้แต่ขบกรามแน่นอย่างเดือดดาลกับความดื้อด้านของหญิงผู้นี้ เสียงที่เปล่งออกมาในลำคอเยือกเย็นจนลูกน้องของเขาที่นั่งอยู่ได้ยินเริ่มตัวสั่น "เจ้าคงไม่อยากใส่เสื้อผ้าแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่"

"ต่อให้ท่านคิดจะแก้ผ้าข้า ข้าก็ไม่ปล่อย" ดรุณีน้อยยิ้มหน้าแป้นตอบกลับ ราวกับคำขู่ของอีกฝ่ายใช้ไม่ได้ผลกับนางเลยสักนิด ฝ่ามือนุ่มนิ่มเริ่มลูบไล้ใบหน้าที่อยู่ในระยะประชิดอย่างหลงใหล จะว่าไปถ้าไม่นับเรื่องนิสัยกับปากเน่า ๆ ของคนผู้นี้ เขาก็หล่อเหลาไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้ชื่นชมให้หนำใจกลับโดนมือของอีกฝ่ายหยุดยั้งไว้เสียก่อน ตามมาด้วยถ้อยคำบาดหูเสียจนร่างเล็กแทบรับไม่ได้

"ออกไป ข้าหนัก"

"หนักบ้าบออะไรของท่าน!" นางล่ะอยากจะเอาแขนรัดคอเขาให้ตายเสียตอนนี้

"เหอะ..." หวังเหว่ยเค้นเสียงพร้อมกลอกตามองบน จนหญิงสาวเห็นต้องจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

งานเลี้ยงยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ ในขณะที่มีหวังเหว่ยเหมือนจะเลือกอะไรไม่ค่อยได้จึงได้แต่ปล่อยให้สาวน้อยนั่งอยู่บนตักไปนิ่ง ๆ แต่เมื่อไหร่ที่สบโอกาสเหมาะเขาก็พร้อมจะดันนางออกไป น่าเสียดายที่ทั้งมือทั้งแขนของนางเกาะแน่นเสียยิ่งกว่าอะไรจนคนตัวใหญ่เริ่มถอดใจขึ้นมา สุดท้ายชายหนุ่มจึงหันมายกจอกสุรากระดกเข้าปากหลายจอก ดรุณีน้อยที่นั่งเงียบอยู่จู่ ๆ ก็เอ่ยขึ้นพร้อมสีหน้าบิดเบี้ยว

"เหม็น"

"เหม็นก็ออกไป"

เสียนเปาน้อยเบะปาก สองแขนกระชับกอดบุรุษตรงหน้าแน่น ก่อนจะซุกไซร้ใบหน้าลงกับซอกคอของเขาด้วยท่าทีราวกับลูกแมวออดอ้อน "ไม่เอา"

ชายฉกรรจ์ที่เหลือในกระโจมต่างร่ำสุรากันไปหลายจอกจนนานเข้าก็เริ่มเกิดอาการเมามาย ยิ่งเมาแต่ละคนก็ยิ่งใช้สายตาหื่นกระหายจ้องมองสตรีเพียงหนึ่งเดียวในกระโจมนี้ ต่อให้รู้ว่านางกำลังนั่งอยู่บนตักลูกพี่ของตนก็ไม่มีใครอดใจได้ไหว แต่ละคนแทบจะรอไม่ได้ที่จะได้ลิ้มลองรสบุปผาในคืนนี้อีกครั้ง บางคนถึงกับเอ่ยชวนหวังเหว่ยอย่างใจกล้าทั้งที่ปกติเขาไม่คิดทำ

"เสียงครางของนางช่างหวานนัก มิสู้คืนนี้พี่ใหญ่ลองฟังกับพวกข้าดีหรือไม่"

หวังเหว่ยเองที่เริ่มจะเมาเพราะสุรา เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เผลอใช้แขนโอบรอบเอวบาง พลางก้มลงกระซิบกับร่างน้อย "พวกเขาบอกว่าเสียงครางเจ้าหวาน ไหนลองครางให้ข้าฟังหน่อย"

ดรุณีน้อยรีบเงยหน้าขึ้นมองสบตากับหวังเหว่ย ก่อนจะแยกเขี้ยวใส่เขา นางตวัดสายตามองชายที่เอ่ยชวนหวังเหว่ยอย่างหงุดหงิด ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปมีหวังนางคงต้องโดนชายพวกนั้นปู้ยี่ปู้ยำจนไม่ได้พักอีกคืนเป็นแน่ เมื่อคิดได้ดังนั้นสองแขนก็เริ่มกระชับกอดพร้อมซุกใบหน้าลงกับแผงอกของหวังเหว่ยอีกที

"คืนนี้ข้าจะนอนกับท่าน"

เนื่องจากใบหน้าของนางซุกอยู่กับแผงอกกำยำในขณะเอ่ย จึงทำให้เสียงที่หวังเหว่ยได้ยินนั้นอู้อี้ แต่เขาก็พอจับใจความได้ว่าคืนนี้นางจะมานอนกับเขา ชายหนุ่มปฏิเสธโดยไม่คิดว่าจะเป็นการหักหน้าคนตัวน้อย "ไม่เอา"

"ข้าไม่ฟัง"

เหมือนจะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อคำพูดของตน สาวน้อยจึงรีบยกมือขึ้นปิดหูตนราวกับเด็กน้อยไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ ก่อนจะกลับไปสวมกอดเอวแกร่งของเขาอีกครั้งไม่ยอมปล่อย เพราะกลัวว่าเขาจะใช้โอกาสนี้ผลักนาง

หวังเหว่ยเห็นท่าทีเช่นนั้นก็พ้นล้มหายใจออกมา เขาพยายามใช้มือแกะแขนที่โอบแน่นราวกับปลิงนั้นออกอย่างไม่ยอม จนเสียนเปาต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของมือแกร่งอย่างขัดใจ "ท่านอย่าขัดขืนข้า!"

หวังเหว่ยจ้องดวงหน้าน้อยที่บัดนี้แก้มพองเป็นลูกซาลาเปาตาเขม็ง ก่อนจะเริ่มเถียงกับนาง "เจ้าก็ไปนอนกับเจ้าพวกนั้นสิ มายุ่งอะไรกับข้า"

"ไม่เอา ข้าเจ็บอยู่" เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ใจอ่อน ร่างบางก็รีบซุกหน้าลงกับแผงอกแกร่งอย่างเด็กเอาแต่ใจ หากคืนนี้ยังโดนพวกนั้นทารุณอีก พรุ่งนี้นางต้องลุกไม่ได้เป็นแน่ แล้วนางหนียังไง!

"แล้วมันเกี่ยวอะไร" หวังเหว่ยก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

"ก็เจ็บไง เจ้านี่...!"

ขณะที่ภายในงานเลี้ยงต่างคนต่างสนุกสนานร่ำสุรากัน แต่ในมุมเล็ก ๆ ของกระโจมยังคงมีคนคู่หนึ่งต่อปากต่อคำกันจนใกล้จบงานเลี้ยง

หวังเหว่ยมองคนที่ซุกหน้าอยู่กับแผงอกแกร่งอย่างทอดถอนใจ แม้จะไม่พอใจแต่ครั้งนี้เขากลับขี้เกียจจะพูดอะไรอีก ใบหน้ายังคงบูดบึ้งเนื่องจากอารมณ์เสียไปจนกระทั่งงานเลี้ยงจบ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 6 ทะเลาะกันราวกับเด็ก

    เมื่อกลับมาที่กระโจมของหวังเหว่ย ดรุณีน้อยที่เดินตามมาติด ๆ ก็ไม่รอช้ารีบปีนขึ้นไปบนฟูกนุ่มนิ่มก่อนจะเหยียดตัวนอนอย่างสบายใจ หวังเหว่ยซึ่งเดินตามหลังเข้ามาเมื่อเห็นว่าเตียงของตนถูกคนตัวเล็กยึดไปเป็นที่เรียบร้อย ใบหน้ายิ่งบูดบึ้งจนนึกว่าไปโดนผึ้งที่ไหนต่อย ร่างสูงเดินเข้าไปข้างเตียงก่อนจะเอื้อมมือไปดึงขาคนตัวน้อยลากลงจากเตียง "ออกไปจากเตียงข้า" เสียนเปาเหลือบมองข้อเท้าของตน ก่อนจะรีบสะบัดมือที่เกาะกุมข้อเท้าอยู่นั้นออก "ท่านช่างไม่เป็นสุภาพบุรุษเสียจริง เตียงใหญ่ถึงเพียงนี้เราแบ่งกันนอนก็ได้" เหตุใดคนผู้นี้ถึงขี้งกจริงเชียว "ข้าไม่อยากนอนกับเจ้า" หวังเหว่ยส่วนกลับอย่างหงุดหงิด เขายืนเท้าเอวมองคนตัวเล็กที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงอย่างเอาเรื่อง "เช่นนั้นท่านก็ไปนอนพื้น" ดรุณีน้อยพูดเสร็จก็คร้านจะสนใจ นางนอนตะแคงข้างหันหลังให้อีกฝ่ายจนหวังเหว่ยเห็นถึงกับโกรธจัด เขาขบกรามแน่นพลางชี้นิ้วด่ากราดเสียงแข็ง "เจ้า...!" ทว่าต่อให้เสียงของเขาจะดังแต่ก็ไม่อาจเรียกให้ดรุณีสนใจ นางยังคงนอนเอกเขนกอยู่เช่นเดิม จนร่างสูงตัดสินใจเดินเข้าไปอุ้มนางขึ้นมาจากเตียงแล้วโยนลงพื้นอย่างไม่กลัวนางจะเจ็บ เสื้อผ้า

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 7 หัวขโมย

    ​ เสียนเปาตื่นขึ้นมาอีกก็ล่วงเข้ายามซื่อ[1]แล้ว นางยันตัวลุกจากฟูกด้วยสีหน้างัวเงียพลางบิดขี้เกียจ มือน้อยลูบท้องเพราะเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมา ครั้นก้มมองเรือนร่างของตนที่ยังคงสวมใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น สีหน้าก็ฉายแววครุ่นคิดเพียงชั่วอึดใจ ดวงตากระจ่างใสเหลือบไปเห็นเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ที่แขวนอยู่ใกล้ ๆ ในเมื่ออยู่ในกระโจมของหวังเหว่ยเสื้อตัวนี้ก็ต้องเป็นของบุรุษผู้นั้น หญิงสาวไม่รีรอที่จะหยิบมันมาคลุมทับเรือนร่างของตัวเอาไว้ ก่อนจะเดินออกจากกระโจมไปอย่างสบายใจ แต่เมื่อออกนอกกระโจมก็ต้องรู้สึกแปลกใจ เพราะดูแล้วคนในค่ายโจรค่อนข้างน้อยกว่าเมื่อวาน นางสงสัยนักว่าพวกเขาหายไปไหนกันหมด แต่ยังไม่ทันได้ขบคิดไปมากกว่านี้ก็เห็นแผ่นหลังของหวังเหว่ยหายเข้าไปในกระโจมหนึ่งที่ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากตรงที่นางยืน ร่างบางรีบวิ่งเข้าไปหาเขาทันทีจนหวังเหว่ยได้ยินแล้วหันกลับมามองตามเสียงฝีเท้า ดวงตาคู่คมหรี่เล็กลงยามที่เห็นเสื้อคลุมตัวโปรดของตนกำลังถูกหญิงสาวสวมใส่ "ถอดออกมา" น้ำเสียงของเขาดุดันจนใครได้ยินก็ต้องนึกหวั่น ร่างบางเองก็ไม่อยากจะต่อปากต่อคำกั

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 8 โรงเตี๊ยมกลางป่า

    เส้นทางสู่หั่งโจวรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ แม้เมืองหั่งโจวในคำบอกกล่าวของเหล่าปีศาจจะเหมือนดั่งแดนสวรรค์ แต่ระหว่างทางกลับเต็มไปด้วยความอันตราย เนื่องจากไม่ว่าปีศาจตนใดก็ล้วนอยากเดินทางไปที่แห่งนั้น ทำให้ยิ่งเข้าใกล้หั่งโจวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีปีศาจให้เห็นได้ชัดมากหน้าหลายตา เสียนเปาน้อยใช้เงินที่ขโมยมาเช่ารถม้าสักคันเพื่อเดินทางไปให้ถึงหั่งโจวโดยเร็ว แต่ก็ต้องใช้เวลาอีกสองวันกว่าจะเห็นกำแพงเมืองสูงตระหง่านเสียงล้อลากของรถม้าดังมาตลอดทาง เวลากลางวันไม่ได้มีแค่เพียงนางที่สัญจรผ่านถนนสายนี้ ไกลออกไปยังเห็นรถม้าของพ่อค้าเร่และคนต่างถิ่นอีกสองสามคัน ไม่รู้ว่าเพราะความเบื่อหน่ายหรือเปล่า จึงทำให้นางเอ่ยถามอะไรบางอย่างกับคนขับรถม้า"ตาเฒ่า เจ้าเคยเจอปีศาจบ้างหรือไม่""ย่อมต้องเคยอยู่แล้วแม่นางน้อย ตัวข้าเองทำงานรับจ้างจึงต้องขับรถม้าตระเวนไปทุกที บ่อยครั้งที่มีคนเร่งรีบ ข้าก็ต้องขับรถม้าไปส่งผู้นั้นตอนกลางคืน" ราวกับประโยคที่นางเอ่ยจุดประเด็นหัวข้อสนทนาของคนทั้งสอง ตาเฒ่าขับรถม้าก็เริ่มเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาของตนให้นางฟัง บ่อยครั้งที่นางเผลอหลุดขำให้กับความเชื่อผิด ๆ

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 9 ข้าไม่ชอบนาง

    บรรยากาศภายในโรงเตี๊ยมตกอยู่ในความเงียบสงัดราวกับไร้ผู้คนอยู่รอบข้าง มีเพียงเสียงฝีเท้าของสตรีนางหนึ่งที่เดินลงมาจากชั้นบนของโรงเตี๊ยม และเสียงลมที่พัดพากิ่งไม้ด้านนอกให้สั่นไหว ชุดสีม่วงราวกับสีดอกกล้วยไม้ขับเน้นให้หญิงผู้นั้นดูทรงเสน่ห์ หางตาที่เชิดขึ้นเต็มไปด้วยความยโสช่างเข้ากับแววตาที่เต็มไปด้วยความหยิ่งทะนงของนาง จมูกโด่งรั้นและริมฝีปากที่แต่งแต้มสีแดงชาด เมื่อทุกอย่างมาหลอมรวมกันจึงทำให้หญิงผู้นั้นดูงดงามเกินกว่าใครจะเปรียบเสียนเปาจับจ้องสตรีผู้มาใหม่ตาไม่กะพริบ เหมือนคนผู้นั้นก็ดูเหมือนจะสนใจนางเช่นเดียวกัน ร่างอรชรเดินลงมาจากบนชั้นสองอย่างเชื่องช้า ทุกย่างก้าวแลดูงดงามสะกดสายตา จนกระทั่งเจ้าของร่างเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเสียนเปา ดวงตาสีม่วงมองสำรวจร่างบางตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แต่ทั้งคู่กลับไม่มีผู้ใดคิดจะเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เป็นเสี่ยวเอ้อร์หนุ่มที่ดูเหมือนจะเห็นว่าบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนเต็มไปด้วยความอึดอัดจึงเอ่ยขึ้น "เถ้าแก่เนี้ย"เสียนเปาได้ยินคำของเสี่ยวเอ้อร์หนุ่ม ดวงตาหรี่เล็กลง ครั้นพอเหลือบไปเห็นว่าชายหนุ่มกำลังค้อมหัวเคารพหญิงตรงห

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 10 ม้าวิ่งเตลิด

    หลังจากที่เสียนเปาออกเดินทางตั้งแต่เช้า ไม่ถึงครึ่งวันนางก็เห็นกำแพงเมืองจากที่ไกล ๆ คาดว่าอีกไม่ถึงครึ่งชั่วยามนางคงจะได้เห็นหั่งโจวเสียที เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ก็ทำให้ดรุณีอารมณ์ดีขึ้นตลอดการเดินทาง ท่ามกลางเสียงล้อรถม้าลากจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของหนึ่งผู้โดยสารกับหนึ่งสารถีเมื่อรถม้าเคลื่อนมาหยุดตรงหน้าประตูเมืองขนาดยักษ์ ทั้งสองก็จำต้องร่ำลากันแต่เพียงเท่านี้"ขอบใจเจ้ามากตาเฒ่า หวังว่าเราคงได้พบกันอีก" เสียนเปากระโดดลงรถม้าพร้อมหันมาเอ่ยกับตาแก่ที่บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม เขาพยักหน้ารับก่อนจะตอบ "โชคดีแม่นาง"เสียนเปายืนมองรถม้าคันเก่าวิ่งย้อนกลับไปเส้นทางที่จากมาจนลับสายตา แล้วจึงหันกลับมาเพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ประตูเมืองใหญ่ เนื่องจากหั่งโจวเป็นเมืองที่เปิดกว้างและอิสระ ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจตราคัดคนเข้าเมืองอย่างเคร่งงวดสักเท่าไหร่ ดรุณีน้อยจึงสามารถผ่านเข้าไปได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องทำอะไรมากนักบนถนนสายหนึ่งที่มีผู้คนสัญจรอยู่คับคั่ง ร้านรวงและแผงอาหารตั้งเรียงรายกันตลอดเส้นทางไปจนสดสาย สตรีรูปร่างบอบบางผู้มีใบหน้างดงามกำลังเดินปะปนกับฝู

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 11 คุณชายแสนดีผู้นั้น (18+)

    ตระกูลอี้เป็นหนึ่งในหกตระกูลใหญ่แห่งหั่งโจว เสียนเปาเองก็เพิ่งรู้ตอนที่มายืนอยู่หน้าจวนของอี้จางหมิ่นผู้นั้น แค่เพียงเห็นประตูจวนที่ทำด้วยหินแกะสลักสีดำเงาวับ กำแพงล้อมรอบจวนกินพื้นที่ไปทั่วทั้งตอกแถบนี้ ดรุณีก็รู้สึกราวกับบุญหล่นทับขึ้นมาทันทีหลังจากที่มาถึงจวนของอี้จางหมิ่น อี้จางหมิ่นก็ให้บ่าวไปจัดเตรียมห้องพักไว้ให้เสียนเปาก่อนที่ตนจะเป็นฝ่ายพาหญิงสาวเดินชมความหรูหราในจวนด้วยตนเอง ครั้นเห็นว่าแววตาคู่งามทอประกายตื่นเต้นยามมองสิ่งต่าง ๆ ก็ยิ่งรู้สึกกระหยิ่มใจเสียนเปาเองก็ยอมรับว่าตั้งแต่เกิดมานางไม่เคยเห็นความหรูหรามากถึงเพียงนี้มาก่อนเลย ความตื่นเต้นยินดีนี้นางมิได้เสแสร้งอย่างที่เคย ในขณะที่เดินชมสวนแห่งหนึ่งอยู่ดรุณีน้อยจึงเอ่ยขึ้นกับอีกฝ่าย "ข้าไม่นึกว่าคุณชายอี้จะร่ำรวยถึงเพียงนี้""แม่นางพูดเกินเหตุ แค่นี้จะเรียกว่าร่ำรวยได้อย่างไร จวนแห่งนี้ท่านปู่เพียงแค่มอบให้ข้าตอนวันเกิดอายุครบสิบแปดเท่านั้น" แม้ถ้อยคำของอีกฝ่ายจะถ่อมตน แต่สีหน้ากลับมิได้เป็นเช่นนั้น อี้จางหมิ่นยังเอ่ยต่ออีกอย่างภูมิใจนัก "หากแม่นางได้เห็นจวนใหญ่ของสกุลอี้คงตกตะลึงเป็นแน่"

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 12 ฮั๋วหราน

    ตั้งแต่เกิดเรื่องในคืนนั้น ทุกวันอี้จางหมิ่นจะไปหาเสียนเปาที่เรือนพักในเวลากลางคืนและกลับออกมาอีกครั้งช่วงดึก ในบางคืนเขาก็มักจะค้างอยู่ที่นั่นจนถึงเช้า บ่าวไพร่ในเรือนต่างรู้กันว่าคุณชายของพวกเขามีปฏิสัมพันธ์อย่างไรกับหญิงที่เขาเก็บมาจากข้างนอก และเหมือนทุกคนจะชินกับเรื่องจำพวกนี้ไปกันเสียหมด แม้ตัวเสียนเปาเองจะถูกคนภายนอกมองเหมือนเป็นเพียงสาวใช้อุ่นเตียงผู้หนึ่ง แต่นางก็มิได้รู้สึกรังเกียจเพราะสิ่งที่แลกมาได้นั้นมากมายเป็นพิเศษ ทุกวันนี้นอกจากจะรองรับอารมณ์ใคร่ของอี้จางหมิ่น นางก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ข้าวปลาอาหารก็มีพร้อมไว้ให้ เสื้อผ้าสวยงามก็ประเคนเข้ามาจนแทบจะรับไว้ไม่หมดวันเวลาล่วงเลยไปถึงเจ็ดวัน นับแต่ที่นางได้ย่างกรายเข้ามาสู่จวนหลังนี้ ในคราวแรกเสียนเปาก็ยังคงต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นหวาดกลัวคุณชายอี้อยู่ แต่พอหลัง ๆ มาก็เริ่มจะขี้เกียจตีหน้าซื่อแล้ว ส่วนอี้จางหมิ่นเองก็มิได้รู้สึกว่าหญิงสาวมีอะไรแปลก เพราะเขาคงเคยพบเจอสตรีมาเกือบทุกรูปแบบเช่นกัน คงคิดว่าเสียนเปาเองก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่คิดจะหันมาพึ่งใบบุญคุณชายตระกูลใหญ่ผู้ร่ำรวยโดยแลกกับร่างกาย แม้ในความจริงแล้ว

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 13 ข้อแลกเปลี่ยนของปีศาจ

    บัดนี้พระอาทิตย์ของเมืองหั่งโจวตกไปได้กว่าครึ่งชั่วยามแล้ว ถนนสายต่าง ๆ เริ่มเงียบสงัด ทว่าย่านใจกลางเมืองซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสถานเริงรมย์กลับค่อย ๆ คึกคัก บนท้องถนนเริ่มมีบุรุษสตรีเดินพลุกพล่าน ร้านค้าต่าง ๆ รายล้อมเคหสถานขนาดใหญ่ จุดศูนย์กลางของหั่วโจวมีหอคอยเจ็ดชั้นขนาดยักษ์ตั้งสูงตระหง่านดูแล้วช่างโดดเด่นเป็นสง่ากว่าใคร เบื้องล่างตรงหน้าประตูทางเข้าหอคอยประดับโคมไฟหลากสีสัน แม้จะไร้แสงตะวันแต่สถานที่แห่งนี้กลับยังคงสว่างไสว รถม้าของจวนสกุลใหญ่ ๆ มากมายต่างหยุดลงเบื้องหน้าประตูทางเข้าหอคอยแห่งนั้น กล่าวได้ว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก 'ฮั๋วหราน' สถานที่อันโด่งดังของหั่งโจวทันทีที่รถม้าของเสียนเปามาหยุดที่หน้าประตู นางก็รู้ได้ทันทีว่าฮั๋วหรานที่อี้จางหมิ่นพูดถึงมิได้ต่างจากที่นางคิดเอาไว้มากนัก คุณชายเจ้าสำราญอย่างเขาจะอยากไปที่ไหนกันหากไม่ใช่สถานเริงรมย์พวกนี้ ทว่าฮั๋วหรานแห่งนี้กลับมีทั้งบุรุษและสตรีเข้าออก การที่สตรีตัวคนเดียวอย่างเสียนเปาเดินเข้าไปจึงไม่เป็นที่สะดุดตามากเมื่อเข้ามาภายในฮั๋วหราน เสียนเปาก็ถึงกับตกตะลึงกับความหรูหราที่ได้เห็นตรงหน้า แม้จะบอกว่าจวน

    Last Updated : 2025-03-01

Latest chapter

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 21 เดินทางไกล

    ต้นไม้ของป่าซิงเฉียงกินพื้นที่ไปหลายร้อยลี้ เสียงสายลมเย็นและเสียงนกกระจิบกำลังสอดผสานและขับขานกลายเป็นท่วงทำนองดนตรี กลิ่นหอมของหญ้าอ่อนลอยโชยไปทั่วทุกสารทิศ แสงแดดจากตะวันยามสายสาดส่องเข้ามาผ่านทางปากถ้ำจนกระทบใบหน้างดงามของดรุณีที่กำลังหลับใหล แสงนั้นแยงตาจนร่างบางที่กำลังฝันหวานถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา นางขมวดคิ้วมองไปรอบ ๆ อย่างขัดใจ ทว่าความเหนื่อยล้าจากศึกหนักที่ผ่านทำให้ร่างน้อยลุกขึ้นไม่ไหว เสียนเปาทำได้เพียงหันหลังให้กับแสงแดดนั้นแล้วนอนขดตัวหลับตาอีกครั้งฉับพลันเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งก็ดังมาจากด้านหลังหน้าปากถ้ำ พร้อมกับเสียงที่นางรู้สึกคุ้นเคย "ยังไม่ตื่นอีกหรือ"ดรุณีน้อยรู้สึกเหนื่อยล้าเกินจะตอบอีกฝ่าย นางหลับตาพริ้มแสร้งทำว่าไม่ได้ยินที่เขาพูดหวังเหว่ยมองร่างเล็กที่ขดตัวอยู่บนเสื้อคลุมตัวใหญ่ของตนอย่างจำนน ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายตื่นอยู่แต่กลับเลือกที่จะไม่ตอบเขา ก็ทำใจกล้าโกรธนางไม่ลงเหมือนเก่า ฉับพลันร่างสูงก็สาวเท้าตรงเข้าไปนั่งข้างอีกฝ่าย พลางใช้มือลูบหัวน้อย ๆ เพื่อปลอบประโลมนางเสียนเปาสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่ส่งผ่านฝ่ามือนั้น เพียงไ

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 20 เอาคืน (18+)

    เสียนเปารู้สึกเหมือนโดนท้าทายอำนาจ นางจึงก้มลงกัดอีกฝ่ายจนจมเขี้ยวทันที คราวนี้หวังเหว่ยเหมือนจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว ใบหน้าของเขาจึงไม่เปลี่ยนสีหรือแสดงความรู้สึกเจ็บปวดออกมาอีก มีเพียงมุมปากที่ปรากฏรอยยิ้มแปลกประหลาด เป็นเวลานานกว่าเสียนเปาจะรู้สึกพอใจแล้วจึงถอนเขี้ยวออกจากลำแขนของชายที่พยายามกักขังนาง ดวงหน้างดงามเชิดใส่อีกฝ่ายอย่างดื้อรั้นไม่ยอมพ่าย หวังเหว่ยมองท่าทีลำพองใจของร่างบางก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "คราวนี้ตาข้ากัดเจ้าบ้างแล้ว" "ว่ายังไงนะ...?" ยังไม่ได้ทันจะสิ้นเสียงของร่างบาง เบื้องหน้าของเสียนเปาพลันมีเงาดำโถมเข้ามาอย่างรวดเร็วจนนางตั้งตัวไม่ทัน ดวงตาคู่งามเบิกกว้างทั้งยังสั่นระริกเมื่อริมฝีปากบางถูกครอบงำด้วยริมฝีปากอุ่นร้อน ตอนนั้นเองที่รับรู้ได้ว่าจูบนี้ของหวังเหว่ยไม่มีความปรานีเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย มันเต็มไปด้วยความรู้สึกต้องการและความกระหายอยาก ยามที่ลิ้นร้อนสอดเข้ามาในโพรงปากเพื่อควานหาความหวานและไล่ต้อนลิ้นน้อยจนหมดทางถอย ทำเอาเสียนเปารู้สึกวูบวาบบริเวณท้องน้อยจนต้องหนีบเรียวขาเ

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 19 ลองดู

    รัตติกาลล่วงเลยผ่านไปไวราวกับสายน้ำ หลังจากที่วุ่นอยู่กับการถอนพิษครึ่งค่อนคืนนั้นเวลาก็ล่วงเข้าสู่ยามโฉ่ว เสียนเปานั่งมองใบหน้าของหวังเหว่ยซึ่งในเวลานี้เจ้าตัวกำลังหลับสนิทอยู่ ตามหน้าผากมีเหงื่อซึมออกมาจนชุ่มบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังมีไข้ นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อก่อนจะบรรจงซับเหงื่อให้อีกฝ่ายอย่างเบามือ ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมา เสียนเปาสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากร่างกายของหวังเหว่ย นางชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนถอนหายใจออกมาตอนหลับเจ้าก็ดูจะไม่มีพิษมีภัย เหตุใดพอตื่นขึ้นมาถึงได้ชอบกวนประสาทข้านักเสียนเปาคิดพลางเอานิ้วจิ้มแก้มของอีกฝ่ายอย่างเงียบ ๆ ฉับพลันนางก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปที่ปากถ้ำเพื่อนำผ้าเช็ดหน้าไปรองน้ำฝนที่ไหลลงมาตามหิน ก่อนจะเดินย้อนกลับมาเช็ดตัวที่ร้อนผ่าวให้อีกฝ่ายในทันทีไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดจนหวังเหว่ยที่หมดแรงแล้วหลับไปพลันลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาคมคู่หนึ่งเหลือบมองฝ่ามือเนียนนุ่มที่กอบกุมมือของตนเองไว้แน่น พร้อมสัมผัสเย็นชื้นจากผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกเหมย ดูเหมือนคนตัวน้อยจะเหม่อลอยจนไม่รู้สึกตัวเลยว่าหวังเหว่ยได้สติ

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 18 พิษ

    "เจ้าเป็นอะไร!" เสียนเปารีบเข้าไปพยุงอีกฝ่ายขึ้นมาดูอาการ สีหน้าของชายหนุ่มในตอนนี้แลดูเจ็บปวดนักทั้งที่ตามเนื้อตัวของเขาไม่ปรากฏบาดแผลใด ๆ แต่เพียงไม่นานนางก็รู้ต้นต่อที่สร้างความทรมานให้อีกฝ่าย"กู่พิษ"สีหน้าของเสียนเปายิ่งดูไม่ดีเมื่อเห็นบางสิ่งกำลังชอนไชอยู่ใต้ผิวหนังของอีกฝ่าย วินาทีนั้นเองที่นางรับรู้ได้ว่าหวังเหว่ยกำลังเจ็บปวดเป็นที่สุด ตามกรอบหน้าอาบย้อมไปด้วยเม็ดเหงื่อจนเปียกชื้น ริมฝีปากที่เปรอะเปื้อนเลือดขบเม้มเข้าหากันเพื่ออดกลั้นความเจ็บปวดที่ปะทุขึ้นมาจนแทบรับไม่ไหวตั้งแต่ตอนไหนกัน...อี้จางหมิ่นเมื่อนึกถึงตัวการที่วางพิษ เสียนเปาก็ขบกรามแน่นด้วยความรู้สึกโกรธอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่เมื่อรู้สึกตัวว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดเริ่มกระอักโลหิตขึ้นมาอีกครั้ง ความโกรธชั่ววูบของนางพลันมลายหายไปเหลือเพียงแค่ความห่วงใยปรากฏในสายตา"เจ้าทนไหวหรือไม่ เราเข้าไปหลบในถ้ำข้างหน้าก่อน"แม้หวังเหว่ยจะเจ็บแต่ก็ยังมีสติอยู่ เขาพยักหน้ารับคำร่างบางก่อนจะปล่อยให้นางพยุงร่างเขาเข้าไปในถ้ำที่อยู่ไม่ไกลเสียงน้ำหยดลงมาจากหินย้

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 17 ติดตาม

    จู่ ๆ ความเงียบเข้ากลืนกินบรรยากาศภายในคุกอีกครั้ง เสียนเปาทำได้เพียงเงียบเพราะไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไรกับเจ้าของคำถามดี นางรู้สึกประหม่าเมื่อหวังเหว่ยหรี่ตามองมาอย่างจับผิด ดวงตาคู่นั้นราวกับจะมองทะลุเข้าไปถึงข้างในจนนางไม่รู้จะทำตัวอย่างไร แต่เป็นหวังเหว่ยเองเอ่ยตัดบทไปเอง "ไปกันเถอะ ตอนนี้พวกนั้นยังไม่รู้ตัว" สิ้นคำร่างสูงก็เดินนำออกไป เสียนเปาเห็นเช่นนั้นจึงเดินตามหลังอีกฝ่าย ระหว่างทางทั้งคู่ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดต่อกันตอนนี้ทั้งคู่หลบหนีออกมาจากจวนสกุลอี้ได้อย่างไม่ลำบาก และทั้งสองกำลังเดินเรียบไปตามตอกมืดเล็ก ๆ มุมหนึ่งของเมือง ระหว่างทางเดินหวังเหว่ยเองก็เหลือบมองคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังเป็นระยะ เห็นเพียงอีกฝ่ายเอาแต่เงียบและเดินก้มหน้าราวกับไม่อยากสบตากับเขา หวังเหว่ยรู้สึกว่ามันเงียบเกินไปจึงทำลายความเงียบลงด้วยการเปิดหัวข้อสนทนา "หลังออกจากหั่งโจวแล้วเจ้าจะไปที่ใด""ตูเถา"เสียนเปามิได้คิดปิดบังจุดหมายของตนกับอีกฝ่าย แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้หวังเหว่ยขมวดคิ้ว "ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน"หากเจ้าเคยได้ยินน่ะสิแปลก เพราะตูเถาที่นางเพิ่งพูดถึ

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 16 ออกไปจากเมืองนี้

    หลังจากคืนนั้นที่หวังเหว่ยและเสียนเปาถูกจับมาขังในคุกใต้ดินวันเวลาก็ผ่านมาถึงสามวันเศษ ตกดึกในคืนที่เมืองหั่งโจวมีลมพายุแรง สายลมกรรโชกราวกับจะพัดบ้านเรือนลอยหายไปทั้งหลัง ไม่ว่าจะเป็นตามตรอกซอกซอยใดล้วนตกอยู่ในความเงียบ ถนนหนทางไร้ผู้คนเดินเที่ยวเล่นเหมือนอย่างเคย แม้กระทั่งย่านที่เคยคึกคักบัดนี้หลงเหลือแค่เพียงไม่กี่ชีวิตที่ยังคงทำงานหาเลี้ยงชีพอยู่ สาเหตุที่ทั้งเมืองตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เป็นเพราะพายุที่ไม่ทราบที่มาลูกนี้กำลังรุนแรงขึ้น ทั้งที่สองสามวันก่อนท้องฟ้ายังแจ่มใสอยู่เลยแท้ ๆ ทว่าในคุกที่มืดและชื้นแฉะ กลับไม่รู้ถึงภัยธรรมชาติร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นข้างนอก นักโทษที่โดนทารุณต่างเหน็ดเหนื่อยจนนอนหลับสนิท ในคุกมีเพียงเสียงน้ำหยดจากบนเพดานหินและเสียงลมที่พัดผ่านช่องระบายอากาศ ความเงียบผิดจากปกติธรรมดาช่วยเสริมบรรยากาศทำให้คุกนี้ดูน่าวังเวง มันเงียบสงัดราวกับที่แห่งนี้ไร้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ทว่าในส่วนที่ลึกสุดของคุกแห่งนี้ หากลองเงียหูฟังให้ดีจะพบว่ามีเสียงของคนสองคนกำลังคุยกันด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย ราวกับการที่พวกเขาถูกจับมาขังที่นี่ไม่ได้สร้างความหวาด

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 15 รู้จัก

    "คุณชายอี้..." ใช่แล้ว...เจ้าของเสียงเมื่อครู่นี้คืออี้จางหมิ่นที่นางคุ้นเคย แล้วเหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่? แต่ช่างเทิด...ตอนนี้มีสิ่งที่ทำให้นางตกใจยิ่งกว่า เพราะว่าใบหน้าของอี้จางหมิ่นในเวลานี้บิดเบี้ยวจนน่าเกลียด แววตายามที่มองไปทางหวังเหว่ยทอประกายความโกรธเกลียดอย่างไม่คิดปิดบัง แม้เสียงของนางจะไม่ดัง แต่นางเชื่อว่าอี้จางหมิ่นนั้นได้ยิน แต่อีกฝ่ายกลับไม่คิดจะหันมามองนางที่กำลังสนทนาอยู่กับเขา ความสนใจทั้งหมดของเขายังคงตกอยู่เพียงบุรุษผู้เดียวที่ชื่อหวังเหว่ย ในขณะที่เสียนเปายังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่ เสียงของหวังเหว่ยพลันดังขึ้นมาเรียกความสนใจของนางได้สำเร็จ "ไม่ได้เจอกันนานนะคุณชายอี้..." ราวกับสายอัสนีฟาดลงกลางศีรษะน้อย ๆ คำทักทายเมื่อครู่บ่งบอกได้ว่าคนทั้งสองเคยรู้จักกัน และสายตาสองคู่นั้นยังบอกชัดว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ค่อยจะลงรอย นางหันไปมองหวังเหว่ยอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมเขาต้องเอาตัวเองมาเสี่ยง ทั้งที่รู้ว่าจวนหลังนี้เป็นของผู้ใด แต่สุดท้ายนางก็รู้ว่าไม่มีทางได้คำตอบจากเขาอยู่ด

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 14 คนคุ้นเคย

    บัดนี้ริมระเบียงเหลือเพียงแค่เสียนเปา ส่วนจ้าวหนี่ไป๋นั้น หลังจากที่ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการก็จากไปอย่างรวดเร็ว ร่างบางเท้าคางกับราวระเบียงพลางเหม่อมองออกไปนอกกำแพงสูงซึ่งปกป้องเมืองหั่งโจวเอาไว้ ดวงจันทร์ยังคงทอแสงประกายในค่ำคืนที่มืดมิด แสงจันทร์นั้นสาดส่องไปยังมุมหนึ่งของหั่งโจวที่มีชุมชนเล็ก ๆ แออัดกันอยู่ หลังคาเรือนเก่าซอมซ่อเรียงกันเบียดเสียด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้นต่างพากันดับไฟเตรียมเข้านอนกันหมดแล้ว ช่างเป็นสถานที่ที่ให้อารมณ์แตกต่างกับจุดที่นางยืนอยู่ตอนนี้พอสมควรเสียงถอนหายใจแผ่วเบาของดรุณีน้อยดังขึ้น ชั่วขณะที่หญิงสาวตั้งใจจะเดินกลับเข้าไปด้านในนั้น เบื้องหน้าบังเกิดเงามืดดำรูปร่างสูงใหญ่มาขว้างทาง คนผู้นี้สูงเสียจนระดับสายตาของคนตัวน้อยเหลือเพียงแค่อกกำยำของเขา กลิ่นอายเฉพาะตัวที่คุ้นเคยนำพาให้เสียนเปาเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาอย่างหวาดหวั่น จังหวะต่อมาดวงตาคู่งามพลันสั่นระริกอย่างยากจะควบคุม นางเกือบจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกตะลึง แต่คนผู้นั้นกลับใช้มือหยาบกระดากอุดปากนางเอาไว้ ก่อนจะลากตัวสาวน้อยเข้าไปในมุมลับสายตามุมหนึ่งเสียนเปาพยายามดิ้นรนขัด

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 13 ข้อแลกเปลี่ยนของปีศาจ

    บัดนี้พระอาทิตย์ของเมืองหั่งโจวตกไปได้กว่าครึ่งชั่วยามแล้ว ถนนสายต่าง ๆ เริ่มเงียบสงัด ทว่าย่านใจกลางเมืองซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสถานเริงรมย์กลับค่อย ๆ คึกคัก บนท้องถนนเริ่มมีบุรุษสตรีเดินพลุกพล่าน ร้านค้าต่าง ๆ รายล้อมเคหสถานขนาดใหญ่ จุดศูนย์กลางของหั่วโจวมีหอคอยเจ็ดชั้นขนาดยักษ์ตั้งสูงตระหง่านดูแล้วช่างโดดเด่นเป็นสง่ากว่าใคร เบื้องล่างตรงหน้าประตูทางเข้าหอคอยประดับโคมไฟหลากสีสัน แม้จะไร้แสงตะวันแต่สถานที่แห่งนี้กลับยังคงสว่างไสว รถม้าของจวนสกุลใหญ่ ๆ มากมายต่างหยุดลงเบื้องหน้าประตูทางเข้าหอคอยแห่งนั้น กล่าวได้ว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก 'ฮั๋วหราน' สถานที่อันโด่งดังของหั่งโจวทันทีที่รถม้าของเสียนเปามาหยุดที่หน้าประตู นางก็รู้ได้ทันทีว่าฮั๋วหรานที่อี้จางหมิ่นพูดถึงมิได้ต่างจากที่นางคิดเอาไว้มากนัก คุณชายเจ้าสำราญอย่างเขาจะอยากไปที่ไหนกันหากไม่ใช่สถานเริงรมย์พวกนี้ ทว่าฮั๋วหรานแห่งนี้กลับมีทั้งบุรุษและสตรีเข้าออก การที่สตรีตัวคนเดียวอย่างเสียนเปาเดินเข้าไปจึงไม่เป็นที่สะดุดตามากเมื่อเข้ามาภายในฮั๋วหราน เสียนเปาก็ถึงกับตกตะลึงกับความหรูหราที่ได้เห็นตรงหน้า แม้จะบอกว่าจวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status