Home / รักโบราณ / เล่ห์ปีศาจ / ตอนที่ 9 ข้าไม่ชอบนาง

Share

ตอนที่ 9 ข้าไม่ชอบนาง

Author: JIeC
last update Last Updated: 2025-03-01 19:40:00

บรรยากาศภายในโรงเตี๊ยมตกอยู่ในความเงียบสงัดราวกับไร้ผู้คนอยู่รอบข้าง มีเพียงเสียงฝีเท้าของสตรีนางหนึ่งที่เดินลงมาจากชั้นบนของโรงเตี๊ยม และเสียงลมที่พัดพากิ่งไม้ด้านนอกให้สั่นไหว ชุดสีม่วงราวกับสีดอกกล้วยไม้ขับเน้นให้หญิงผู้นั้นดูทรงเสน่ห์ หางตาที่เชิดขึ้นเต็มไปด้วยความยโสช่างเข้ากับแววตาที่เต็มไปด้วยความหยิ่งทะนงของนาง จมูกโด่งรั้นและริมฝีปากที่แต่งแต้มสีแดงชาด เมื่อทุกอย่างมาหลอมรวมกันจึงทำให้หญิงผู้นั้นดูงดงามเกินกว่าใครจะเปรียบ

เสียนเปาจับจ้องสตรีผู้มาใหม่ตาไม่กะพริบ เหมือนคนผู้นั้นก็ดูเหมือนจะสนใจนางเช่นเดียวกัน ร่างอรชรเดินลงมาจากบนชั้นสองอย่างเชื่องช้า ทุกย่างก้าวแลดูงดงามสะกดสายตา จนกระทั่งเจ้าของร่างเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเสียนเปา ดวงตาสีม่วงมองสำรวจร่างบางตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แต่ทั้งคู่กลับไม่มีผู้ใดคิดจะเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เป็นเสี่ยวเอ้อร์หนุ่มที่ดูเหมือนจะเห็นว่าบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนเต็มไปด้วยความอึดอัดจึงเอ่ยขึ้น "เถ้าแก่เนี้ย"

เสียนเปาได้ยินคำของเสี่ยวเอ้อร์หนุ่ม ดวงตาหรี่เล็กลง ครั้นพอเหลือบไปเห็นว่าชายหนุ่มกำลังค้อมหัวเคารพหญิงตรงหน้าจึงรู้ว่าอีกฝ่ายคือเจ้าของโรงเตี๊ยม สตรีผู้นั้นทำเพียงพยักหน้าให้เสี่ยวเอ้อร์เท่านั้น ความสนใจทั้งหมดยังคงอยู่ที่ตัวเสียนเปา

"ปีศาจน้อยเช่นเจ้ามาทำอะไรที่นี่"

ราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางศีรษะเมื่อดรุณีน้อยโดนเปิดเผยตัวตน ใครจะคาดคิดว่าอีกฝ่ายแค่มองนางปราดเดียวก็รู้ว่านางไม่ใช่มนุษย์ แม้จะนึกหวั่นทว่าภายนอกยังคงตีสีหน้าเรียบเฉยพร้อมตอบกลับเสียงราบ

"ข้ากำลังจะเดินทางไปหั่งโจว เผอิญผ่านมาเจอโรงเตี๊ยมเลยแวะพักเท่านั้น"

สตรีรูปงามหรี่ตามองเสียนเปาอย่างไม่ค่อยจะเชื่อคำพูดของนาง ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจย่อมต้องถูกระแวง "เจ้าคงไม่ได้คิดจะจับแขกของข้ากินใช่หรือไม่"

"ไม่ ไม่" ดรุณีน้อยรีบโบกมือเป็นพัลวัน "ข้าเคยมีความคิดจะทำเช่นนั้นเสียที่ไหน" หน้าตานางดูชั่วร้ายหรือไง อีกอย่างหนังมนุษย์หยาบเสียขนาดนั้น

"เช่นนั้นหรอกหรือ?" สตรีผู้นั้นดูจะยังไม่ค่อยเชื่อ แต่นางก็ถือวิสาสะนั่งลงเก้าอี้ด้านข้างเสียนเปา เสี่ยวเอ้อร์หนุ่มผู้รู้งานรีบเดินเข้าไปโรงครัวด้านหลังเพื่อยกน้ำชาร้อน ๆ มาวางไว้ให้นาง สตรีอาภรณ์สีม่วงมองไอร้อนกรุ่นในถ้วยชาก่อนมือเรียวบางจะยกมันขึ้นมาจิบ ระหว่างทั้งคู่เกิดความเงียบขึ้นมาอีกครั้ง ไม่มีใครคิดจะเอ่ยปาก เนิ่นนานกว่าที่สตรีในอาภรณ์สีม่วงจะวางถ้วยชาในมือลงแล้วทำลายความเงียบ

"หั่งโจวมีอะไรดีกัน"

เสียนเปาขบคิดอยู่สักพักใหญ่ "ข้าก็ยังไม่เคยไป แต่คนที่ข้ารู้จักต่างบอกว่าดี"

"เจ้าเชื่อพวกเขาทั้งที่ยังไม่เคยเห็นกับตา"

"ไปเยือนดูสักครั้งก็จะรู้เอง" เสียนเปาตอบโดยมิได้หยุดคิด นางเหลือบมองสตรีด้านข้างที่จู่ ๆ ก็เงียบไปพลางนึกสงสัย "หั่งโจวอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ท่านถามราวกับไม่เคยเห็นมัน"

"ข้าไม่เคยเห็น"

แม้เสียนเปาเองจะยังไม่เข้าใจคำตอบดีไปเสียทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้ถามต่ออีกเพราะกังวลว่าจะไปอยากรู้สิ่งที่อีกฝ่ายไม่ต้องการให้ถาม แต่เป็นนางที่เอ่ยขึ้นมาอีก "ปีศาจน้อย เจ้าชื่ออะไร"

"เสียนเปา" หญิงสาวตอบกลับโดยที่ไม่คิดจะหันไปมองสีหน้าของอีกฝ่าย เพราะนางคงเดาออกจากน้ำเสียงที่ราบเรียบ ความอุ่นร้อนจากถ้วยชาทำให้นางรู้สึกสงบใจลงได้เมื่อต้องมองเผชิญหน้ากับสตรีที่ไม่รู้ความเป็นมา แค่ครู่เดียวก็โดนอีกฝ่ายรับรู้ถึงตัวตนทุกอย่าง สตรีผู้นี้ไม่ควรเข้าไปข้องเกี่ยว

ดวงตาคู่งามเหลือบมองเสี่ยวเอ้อร์ที่ได้ยินบทสนทนาทุกอย่าง ดูเมื่อเขาจะชินชากับสถานการณ์ตรงหน้าเสียยิ่งกระไร ฉับพลันนางจึงเอ่ย "ข้าควรเรียกท่านว่าอะไรดี"

"เจียงหลัน" เพียงสองคำที่สตรีผู้นั้นตอบ

ขณะนั้นเองมีลูกค้าสองสามคนเดินลงมาจากบนชั้นสอง เสี่ยวเอ้อร์หนุ่มจึงต้องขอตัวออกไปทำหน้าที่ดูแลแขก เหลือแค่เสียนเปากับเจียงหลันที่นั่งทำสงครามเงียบกันอีกครั้ง ความอึดอัดทำให้เสียนเปาเป็นฝ่ายยอมแพ้

"เหตุใดโรงเตี๊ยมจึงมาตั้งอยู่แถวนี้" หางตาของหญิงสาวเหลือบเห็นมือของเจียงหลันที่กำลังเตรียมจะยกถ้วยชาขึ้นจิบชะงัก ดูเหมือนนางจะไม่ค่อยพอใจกับคำถามที่ได้ยินสักเท่าไหร่ กระนั้นร่างบางเองก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและนั่งรอฟังคำตอบต่อไป อีกฝ่ายจะเลือกไม่ตอบก็ยังได้ และก็เป็นไปตามที่คาดคิด

"เกี่ยวอะไรกับปีศาจน้อยเช่นเจ้า เจ้าผ่านมาพักเพียงคืนเดียวอยากจะรู้มากไปไย" น้ำเสียงของนางยังคงราบเรียบเหมือนเคย ส่วนเสียนเปาก็ยังไม่ลดละความพยายาม

"กลางป่ากลางเขาเช่นนี้ ไม่มีผู้ใดเขาทำกัน ถึงโรงเตี๊ยมของเจ้าถึงมิได้หรูหรานักแต่ก็ควรเลือกทำเลที่เหมาะสมกว่านี้" โรงเตี๊ยมสภาพดีเช่นนี้กลับมาตั้งอยู่กลางป่าโดดเดี่ยว จะเรียกแขกเหรื่อมาพักได้สักเท่าไหร่ เว้นเสียแต่ว่านางจะมีเหตุผลอื่นที่ไปไหนไม่ได้

เพียงชั่วพริบตาก็ดูเหมือนว่าความคิดของดรุณีน้อยจะโดนเจียงหลันรู้เข้า น้ำเสียงของหญิงสาวเริ่มฉายแววไม่พอใจ "จะด้วยเหตุผลอันใด ข้าก็ไม่จำเป็นต้องบอกเจ้า"

เสียนเปาได้ยินจิ๊ปาก "น่าเสียดายจริง ๆ "

เจียงหลันตวัดสายตามองหญิงข้างกายอย่างขุ่นเคือง เพียงครู่หนึ่งก็เบนสายตากลับมามองไอร้อนในถ้วยชาเพื่อสงบสติ เมื่อเห็นเช่นนั้นเสียนเปาก็หมดสนุกจึงมิได้พูดอะไรต่อไป

ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบ ไม่ต่างอะไรกับโถ่งชั้นล่างของโรงเตี๊ยมที่ค่อย ๆ ไร้สุ้มเสียงของแขกเหรื่อที่มาพักอาศัย ในความมืดของราตรีเสียงจิ้งหรีดร้องเรไรค่อย ๆ เงียบลง เนิ่นนานกระทั่งแขกเหรื่อจากไปจากชั้นล่างจากไปจนหมด หลงเหลือเพียงดรุณีสองคนนั่งนิ่งอยู่ในความเงียบ ราวกับทั้งคู่ติดอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเอง ไม่มีใครรู้ว่าอีกฝ่ายต่างกำลังขบคิดเรื่องอันใด น้ำชาในถ้วยค่อย ๆ เย็นลงจนดูไม่น่าอร่อย เจียงหลันลูบถ้วยชาในมืออย่างเหม่อลอย ดวงตาคู่สวยกะพริบสองสามทีก่อนจะฟื้นคืนสติ ร่างงดงามลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะหันหลังเดินจากไป แต่ยังมิวายหันกลับมาเตือนสตรีนางน้อยที่นั่งอยู่แถวนี้

"อย่าได้คิดทำอะไรไม่ดีกับลูกค้าข้า" เสียนเปาหันมาสบแววตาดุดันของคู่สนทนา สุดท้ายจำต้องยอมพยักหน้ารับอย่างจำใจ ครั้นเมื่อเห็นสตรีผู้นั้นเดินจากไปจึงได้ถอนหายใจออกมา ฉับพลันนางก็ยู่ปาก

ไอ้เรื่องไม่ดีที่ว่ารวมถึงเรื่องบนเตียงนั้นด้วยหรือไม่ เช่นนั้นก็น่าเสียดายแล้ว!

หญิงสาวส่ายศีรษะก่อนจะลุกขึ้นไปนอนพักเอาแรง ก็เห็นเสี่ยวเอ้อร์หนุ่มที่หายตัวไปตั้งแต่เมื่อคราวนู้นเพิ่งปรากฏตัวขึ้นมา ชายหนุ่มตรงดิ่งเข้ามาเก็บถ้วยชาที่วางไว้ ร่างบางจึงเอ่ยถามอีกฝ่ายอย่างสนอกสนใจ "เจ้าก็เป็นปีศาจด้วยหรือ" นางไม่น่าจะมองผิดที่อีกฝ่ายยังคงเป็นแค่มนุษย์ แต่ทุกครั้งที่สบตากับบุรุษผู้นี้ทำให้นางรู้สึกแปลก ๆ

เสี่ยวเอ้อร์หนุ่มเงยหน้าขึ้นมาพร้อมยิ้มละมุนให้คนตัวเล็ก "ข้าไม่ใช่"

คำตอบของเขาทำให้เสียนเปานึกเอะใจ "เช่นนั้นเหตุใดจึงมารับใช้นาง" ทั้งตอนที่รู้ว่านางเป็นปีศาจกลับไม่มีท่าทางหวาดกลัว

"ตอนที่ข้าลำบาก...นายหญิงเป็นคนช่วยข้าไว้" ชายหนุ่มเหมือนอยากจะพูดอะไรต่อ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดมันออกมา เสียนเปาเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังขบคิดบาง ฉับพลันน้ำเสียงราบเรียบก็เอ่ยกับชายตรงหน้า "เวลาของมนุษย์สั้นนัก...เจ้ารู้หรือไม่"

เสี่ยวเอ้อร์หนุ่มยิ้ม "ข้าเต็มใจ"

"แม้นางจะเป็นปีศาจ?"

เสี่ยวเอ้อร์หนุ่มได้ยินแล้วก็ได้แต่ขบขัน "ท่านก็เป็นปีศาจมิใช่หรือไง"

เสียนเปาขมวดคิ้วเล็กน้อย "เกี่ยวอะไรกับข้ากัน" ครั้นเห็นรอยยิ้มไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเขานั้น เสียนเปาก็คร้านจะพูดกับอีกฝ่าย "เอาเถอะ ๆ ข้าไม่อยากคุยกับเจ้าแล้ว" พูดเสร็จร่างบางก็รีบเดินขึ้นชั้นสองของโรงเตี๊ยมไปโดยไม่คิดจะสนใจว่าอีกฝ่ายจะมองนางเช่นไรอีก

รัตติกาลพัดผ่านไป หลังจากที่เสียนเปาพักผ่อนเอาแรงเรียบร้อยก็ไม่คิดจะอยู่ที่โรงเตี๊ยมนี้ต่อ นางอยากจะมุ่งหน้าไปยังหั่วโจวให้ได้เร็วไว สตรีอาภรณ์สีม่วงยืนมองร่างน้อยหายลับไปอยู่บนห้องชั้นสองผ่านกรอบหน้าต่าง ข้างกายมีเสี่ยวเอ้อร์หนุ่มคนสนิทยืนอยู่ด้วย

"นาน ๆ ทีจะมีปีศาจที่กล้าคุยกับท่านเช่นนี้ เหตุใดท่านไม่รั้งนางไว้อีกสักหน่อย"

"ข้าไม่ชอบนาง" เสี่ยวเอ้อร์หนุ่มได้ยินก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่รอยยิ้มนั้นเผอิญถูกอีกฝ่ายหันมาเห็นเข้าพอดี นางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความไม่พอใจ "เจ้าไม่เชื่อข้าก็ย่อมได้"

"ข้ายังไม่ได้พูดเช่นนั้นเลยนายหญิง" แม้จะเอ่ยออกมาเช่นนี้แต่รอยยิ้มของชายหนุ่มกลับแฝงไปด้วยความหยอกเย้าอยู่เล็กน้อย เจียงหลันเห็นแล้วก็ขัดใจอยู่หน่อย ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ร่างบางหันกลับไปมองนอกหน้าต่างบานเมื่อครู่ ทว่าคราวนี้เงาเล็ก ๆ ที่นางเคยเห็นจากที่ไกล ๆ กลับหายไป หลงเหลือเพียงความว่างเปล่าที่ปกคลุมไปด้วยสีเขียวขจีของกิ่งไม้ เนิ่นนานกว่านางถอนหายใจออกมา ร่างบางหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องอย่างเงียบเชียบ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 10 ม้าวิ่งเตลิด

    หลังจากที่เสียนเปาออกเดินทางตั้งแต่เช้า ไม่ถึงครึ่งวันนางก็เห็นกำแพงเมืองจากที่ไกล ๆ คาดว่าอีกไม่ถึงครึ่งชั่วยามนางคงจะได้เห็นหั่งโจวเสียที เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ก็ทำให้ดรุณีอารมณ์ดีขึ้นตลอดการเดินทาง ท่ามกลางเสียงล้อรถม้าลากจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของหนึ่งผู้โดยสารกับหนึ่งสารถีเมื่อรถม้าเคลื่อนมาหยุดตรงหน้าประตูเมืองขนาดยักษ์ ทั้งสองก็จำต้องร่ำลากันแต่เพียงเท่านี้"ขอบใจเจ้ามากตาเฒ่า หวังว่าเราคงได้พบกันอีก" เสียนเปากระโดดลงรถม้าพร้อมหันมาเอ่ยกับตาแก่ที่บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม เขาพยักหน้ารับก่อนจะตอบ "โชคดีแม่นาง"เสียนเปายืนมองรถม้าคันเก่าวิ่งย้อนกลับไปเส้นทางที่จากมาจนลับสายตา แล้วจึงหันกลับมาเพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ประตูเมืองใหญ่ เนื่องจากหั่งโจวเป็นเมืองที่เปิดกว้างและอิสระ ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจตราคัดคนเข้าเมืองอย่างเคร่งงวดสักเท่าไหร่ ดรุณีน้อยจึงสามารถผ่านเข้าไปได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องทำอะไรมากนักบนถนนสายหนึ่งที่มีผู้คนสัญจรอยู่คับคั่ง ร้านรวงและแผงอาหารตั้งเรียงรายกันตลอดเส้นทางไปจนสดสาย สตรีรูปร่างบอบบางผู้มีใบหน้างดงามกำลังเดินปะปนกับฝู

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 11 คุณชายแสนดีผู้นั้น (18+)

    ตระกูลอี้เป็นหนึ่งในหกตระกูลใหญ่แห่งหั่งโจว เสียนเปาเองก็เพิ่งรู้ตอนที่มายืนอยู่หน้าจวนของอี้จางหมิ่นผู้นั้น แค่เพียงเห็นประตูจวนที่ทำด้วยหินแกะสลักสีดำเงาวับ กำแพงล้อมรอบจวนกินพื้นที่ไปทั่วทั้งตอกแถบนี้ ดรุณีก็รู้สึกราวกับบุญหล่นทับขึ้นมาทันทีหลังจากที่มาถึงจวนของอี้จางหมิ่น อี้จางหมิ่นก็ให้บ่าวไปจัดเตรียมห้องพักไว้ให้เสียนเปาก่อนที่ตนจะเป็นฝ่ายพาหญิงสาวเดินชมความหรูหราในจวนด้วยตนเอง ครั้นเห็นว่าแววตาคู่งามทอประกายตื่นเต้นยามมองสิ่งต่าง ๆ ก็ยิ่งรู้สึกกระหยิ่มใจเสียนเปาเองก็ยอมรับว่าตั้งแต่เกิดมานางไม่เคยเห็นความหรูหรามากถึงเพียงนี้มาก่อนเลย ความตื่นเต้นยินดีนี้นางมิได้เสแสร้งอย่างที่เคย ในขณะที่เดินชมสวนแห่งหนึ่งอยู่ดรุณีน้อยจึงเอ่ยขึ้นกับอีกฝ่าย "ข้าไม่นึกว่าคุณชายอี้จะร่ำรวยถึงเพียงนี้""แม่นางพูดเกินเหตุ แค่นี้จะเรียกว่าร่ำรวยได้อย่างไร จวนแห่งนี้ท่านปู่เพียงแค่มอบให้ข้าตอนวันเกิดอายุครบสิบแปดเท่านั้น" แม้ถ้อยคำของอีกฝ่ายจะถ่อมตน แต่สีหน้ากลับมิได้เป็นเช่นนั้น อี้จางหมิ่นยังเอ่ยต่ออีกอย่างภูมิใจนัก "หากแม่นางได้เห็นจวนใหญ่ของสกุลอี้คงตกตะลึงเป็นแน่"

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 12 ฮั๋วหราน

    ตั้งแต่เกิดเรื่องในคืนนั้น ทุกวันอี้จางหมิ่นจะไปหาเสียนเปาที่เรือนพักในเวลากลางคืนและกลับออกมาอีกครั้งช่วงดึก ในบางคืนเขาก็มักจะค้างอยู่ที่นั่นจนถึงเช้า บ่าวไพร่ในเรือนต่างรู้กันว่าคุณชายของพวกเขามีปฏิสัมพันธ์อย่างไรกับหญิงที่เขาเก็บมาจากข้างนอก และเหมือนทุกคนจะชินกับเรื่องจำพวกนี้ไปกันเสียหมด แม้ตัวเสียนเปาเองจะถูกคนภายนอกมองเหมือนเป็นเพียงสาวใช้อุ่นเตียงผู้หนึ่ง แต่นางก็มิได้รู้สึกรังเกียจเพราะสิ่งที่แลกมาได้นั้นมากมายเป็นพิเศษ ทุกวันนี้นอกจากจะรองรับอารมณ์ใคร่ของอี้จางหมิ่น นางก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ข้าวปลาอาหารก็มีพร้อมไว้ให้ เสื้อผ้าสวยงามก็ประเคนเข้ามาจนแทบจะรับไว้ไม่หมดวันเวลาล่วงเลยไปถึงเจ็ดวัน นับแต่ที่นางได้ย่างกรายเข้ามาสู่จวนหลังนี้ ในคราวแรกเสียนเปาก็ยังคงต้องเสแสร้งแกล้งทำเป็นหวาดกลัวคุณชายอี้อยู่ แต่พอหลัง ๆ มาก็เริ่มจะขี้เกียจตีหน้าซื่อแล้ว ส่วนอี้จางหมิ่นเองก็มิได้รู้สึกว่าหญิงสาวมีอะไรแปลก เพราะเขาคงเคยพบเจอสตรีมาเกือบทุกรูปแบบเช่นกัน คงคิดว่าเสียนเปาเองก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่คิดจะหันมาพึ่งใบบุญคุณชายตระกูลใหญ่ผู้ร่ำรวยโดยแลกกับร่างกาย แม้ในความจริงแล้ว

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 13 ข้อแลกเปลี่ยนของปีศาจ

    บัดนี้พระอาทิตย์ของเมืองหั่งโจวตกไปได้กว่าครึ่งชั่วยามแล้ว ถนนสายต่าง ๆ เริ่มเงียบสงัด ทว่าย่านใจกลางเมืองซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสถานเริงรมย์กลับค่อย ๆ คึกคัก บนท้องถนนเริ่มมีบุรุษสตรีเดินพลุกพล่าน ร้านค้าต่าง ๆ รายล้อมเคหสถานขนาดใหญ่ จุดศูนย์กลางของหั่วโจวมีหอคอยเจ็ดชั้นขนาดยักษ์ตั้งสูงตระหง่านดูแล้วช่างโดดเด่นเป็นสง่ากว่าใคร เบื้องล่างตรงหน้าประตูทางเข้าหอคอยประดับโคมไฟหลากสีสัน แม้จะไร้แสงตะวันแต่สถานที่แห่งนี้กลับยังคงสว่างไสว รถม้าของจวนสกุลใหญ่ ๆ มากมายต่างหยุดลงเบื้องหน้าประตูทางเข้าหอคอยแห่งนั้น กล่าวได้ว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก 'ฮั๋วหราน' สถานที่อันโด่งดังของหั่งโจวทันทีที่รถม้าของเสียนเปามาหยุดที่หน้าประตู นางก็รู้ได้ทันทีว่าฮั๋วหรานที่อี้จางหมิ่นพูดถึงมิได้ต่างจากที่นางคิดเอาไว้มากนัก คุณชายเจ้าสำราญอย่างเขาจะอยากไปที่ไหนกันหากไม่ใช่สถานเริงรมย์พวกนี้ ทว่าฮั๋วหรานแห่งนี้กลับมีทั้งบุรุษและสตรีเข้าออก การที่สตรีตัวคนเดียวอย่างเสียนเปาเดินเข้าไปจึงไม่เป็นที่สะดุดตามากเมื่อเข้ามาภายในฮั๋วหราน เสียนเปาก็ถึงกับตกตะลึงกับความหรูหราที่ได้เห็นตรงหน้า แม้จะบอกว่าจวน

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 14 คนคุ้นเคย

    บัดนี้ริมระเบียงเหลือเพียงแค่เสียนเปา ส่วนจ้าวหนี่ไป๋นั้น หลังจากที่ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการก็จากไปอย่างรวดเร็ว ร่างบางเท้าคางกับราวระเบียงพลางเหม่อมองออกไปนอกกำแพงสูงซึ่งปกป้องเมืองหั่งโจวเอาไว้ ดวงจันทร์ยังคงทอแสงประกายในค่ำคืนที่มืดมิด แสงจันทร์นั้นสาดส่องไปยังมุมหนึ่งของหั่งโจวที่มีชุมชนเล็ก ๆ แออัดกันอยู่ หลังคาเรือนเก่าซอมซ่อเรียงกันเบียดเสียด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้นต่างพากันดับไฟเตรียมเข้านอนกันหมดแล้ว ช่างเป็นสถานที่ที่ให้อารมณ์แตกต่างกับจุดที่นางยืนอยู่ตอนนี้พอสมควรเสียงถอนหายใจแผ่วเบาของดรุณีน้อยดังขึ้น ชั่วขณะที่หญิงสาวตั้งใจจะเดินกลับเข้าไปด้านในนั้น เบื้องหน้าบังเกิดเงามืดดำรูปร่างสูงใหญ่มาขว้างทาง คนผู้นี้สูงเสียจนระดับสายตาของคนตัวน้อยเหลือเพียงแค่อกกำยำของเขา กลิ่นอายเฉพาะตัวที่คุ้นเคยนำพาให้เสียนเปาเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาอย่างหวาดหวั่น จังหวะต่อมาดวงตาคู่งามพลันสั่นระริกอย่างยากจะควบคุม นางเกือบจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกตะลึง แต่คนผู้นั้นกลับใช้มือหยาบกระดากอุดปากนางเอาไว้ ก่อนจะลากตัวสาวน้อยเข้าไปในมุมลับสายตามุมหนึ่งเสียนเปาพยายามดิ้นรนขัด

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 15 รู้จัก

    "คุณชายอี้..." ใช่แล้ว...เจ้าของเสียงเมื่อครู่นี้คืออี้จางหมิ่นที่นางคุ้นเคย แล้วเหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่? แต่ช่างเทิด...ตอนนี้มีสิ่งที่ทำให้นางตกใจยิ่งกว่า เพราะว่าใบหน้าของอี้จางหมิ่นในเวลานี้บิดเบี้ยวจนน่าเกลียด แววตายามที่มองไปทางหวังเหว่ยทอประกายความโกรธเกลียดอย่างไม่คิดปิดบัง แม้เสียงของนางจะไม่ดัง แต่นางเชื่อว่าอี้จางหมิ่นนั้นได้ยิน แต่อีกฝ่ายกลับไม่คิดจะหันมามองนางที่กำลังสนทนาอยู่กับเขา ความสนใจทั้งหมดของเขายังคงตกอยู่เพียงบุรุษผู้เดียวที่ชื่อหวังเหว่ย ในขณะที่เสียนเปายังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่ เสียงของหวังเหว่ยพลันดังขึ้นมาเรียกความสนใจของนางได้สำเร็จ "ไม่ได้เจอกันนานนะคุณชายอี้..." ราวกับสายอัสนีฟาดลงกลางศีรษะน้อย ๆ คำทักทายเมื่อครู่บ่งบอกได้ว่าคนทั้งสองเคยรู้จักกัน และสายตาสองคู่นั้นยังบอกชัดว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ค่อยจะลงรอย นางหันไปมองหวังเหว่ยอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมเขาต้องเอาตัวเองมาเสี่ยง ทั้งที่รู้ว่าจวนหลังนี้เป็นของผู้ใด แต่สุดท้ายนางก็รู้ว่าไม่มีทางได้คำตอบจากเขาอยู่ด

    Last Updated : 2025-03-01
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 16 ออกไปจากเมืองนี้

    หลังจากคืนนั้นที่หวังเหว่ยและเสียนเปาถูกจับมาขังในคุกใต้ดินวันเวลาก็ผ่านมาถึงสามวันเศษ ตกดึกในคืนที่เมืองหั่งโจวมีลมพายุแรง สายลมกรรโชกราวกับจะพัดบ้านเรือนลอยหายไปทั้งหลัง ไม่ว่าจะเป็นตามตรอกซอกซอยใดล้วนตกอยู่ในความเงียบ ถนนหนทางไร้ผู้คนเดินเที่ยวเล่นเหมือนอย่างเคย แม้กระทั่งย่านที่เคยคึกคักบัดนี้หลงเหลือแค่เพียงไม่กี่ชีวิตที่ยังคงทำงานหาเลี้ยงชีพอยู่ สาเหตุที่ทั้งเมืองตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เป็นเพราะพายุที่ไม่ทราบที่มาลูกนี้กำลังรุนแรงขึ้น ทั้งที่สองสามวันก่อนท้องฟ้ายังแจ่มใสอยู่เลยแท้ ๆ ทว่าในคุกที่มืดและชื้นแฉะ กลับไม่รู้ถึงภัยธรรมชาติร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นข้างนอก นักโทษที่โดนทารุณต่างเหน็ดเหนื่อยจนนอนหลับสนิท ในคุกมีเพียงเสียงน้ำหยดจากบนเพดานหินและเสียงลมที่พัดผ่านช่องระบายอากาศ ความเงียบผิดจากปกติธรรมดาช่วยเสริมบรรยากาศทำให้คุกนี้ดูน่าวังเวง มันเงียบสงัดราวกับที่แห่งนี้ไร้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ทว่าในส่วนที่ลึกสุดของคุกแห่งนี้ หากลองเงียหูฟังให้ดีจะพบว่ามีเสียงของคนสองคนกำลังคุยกันด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย ราวกับการที่พวกเขาถูกจับมาขังที่นี่ไม่ได้สร้างความหวาด

    Last Updated : 2025-03-02
  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 17 ติดตาม

    จู่ ๆ ความเงียบเข้ากลืนกินบรรยากาศภายในคุกอีกครั้ง เสียนเปาทำได้เพียงเงียบเพราะไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไรกับเจ้าของคำถามดี นางรู้สึกประหม่าเมื่อหวังเหว่ยหรี่ตามองมาอย่างจับผิด ดวงตาคู่นั้นราวกับจะมองทะลุเข้าไปถึงข้างในจนนางไม่รู้จะทำตัวอย่างไร แต่เป็นหวังเหว่ยเองเอ่ยตัดบทไปเอง "ไปกันเถอะ ตอนนี้พวกนั้นยังไม่รู้ตัว" สิ้นคำร่างสูงก็เดินนำออกไป เสียนเปาเห็นเช่นนั้นจึงเดินตามหลังอีกฝ่าย ระหว่างทางทั้งคู่ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดต่อกันตอนนี้ทั้งคู่หลบหนีออกมาจากจวนสกุลอี้ได้อย่างไม่ลำบาก และทั้งสองกำลังเดินเรียบไปตามตอกมืดเล็ก ๆ มุมหนึ่งของเมือง ระหว่างทางเดินหวังเหว่ยเองก็เหลือบมองคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังเป็นระยะ เห็นเพียงอีกฝ่ายเอาแต่เงียบและเดินก้มหน้าราวกับไม่อยากสบตากับเขา หวังเหว่ยรู้สึกว่ามันเงียบเกินไปจึงทำลายความเงียบลงด้วยการเปิดหัวข้อสนทนา "หลังออกจากหั่งโจวแล้วเจ้าจะไปที่ใด""ตูเถา"เสียนเปามิได้คิดปิดบังจุดหมายของตนกับอีกฝ่าย แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้หวังเหว่ยขมวดคิ้ว "ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน"หากเจ้าเคยได้ยินน่ะสิแปลก เพราะตูเถาที่นางเพิ่งพูดถึ

    Last Updated : 2025-03-02

Latest chapter

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 21 เดินทางไกล

    ต้นไม้ของป่าซิงเฉียงกินพื้นที่ไปหลายร้อยลี้ เสียงสายลมเย็นและเสียงนกกระจิบกำลังสอดผสานและขับขานกลายเป็นท่วงทำนองดนตรี กลิ่นหอมของหญ้าอ่อนลอยโชยไปทั่วทุกสารทิศ แสงแดดจากตะวันยามสายสาดส่องเข้ามาผ่านทางปากถ้ำจนกระทบใบหน้างดงามของดรุณีที่กำลังหลับใหล แสงนั้นแยงตาจนร่างบางที่กำลังฝันหวานถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา นางขมวดคิ้วมองไปรอบ ๆ อย่างขัดใจ ทว่าความเหนื่อยล้าจากศึกหนักที่ผ่านทำให้ร่างน้อยลุกขึ้นไม่ไหว เสียนเปาทำได้เพียงหันหลังให้กับแสงแดดนั้นแล้วนอนขดตัวหลับตาอีกครั้งฉับพลันเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งก็ดังมาจากด้านหลังหน้าปากถ้ำ พร้อมกับเสียงที่นางรู้สึกคุ้นเคย "ยังไม่ตื่นอีกหรือ"ดรุณีน้อยรู้สึกเหนื่อยล้าเกินจะตอบอีกฝ่าย นางหลับตาพริ้มแสร้งทำว่าไม่ได้ยินที่เขาพูดหวังเหว่ยมองร่างเล็กที่ขดตัวอยู่บนเสื้อคลุมตัวใหญ่ของตนอย่างจำนน ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายตื่นอยู่แต่กลับเลือกที่จะไม่ตอบเขา ก็ทำใจกล้าโกรธนางไม่ลงเหมือนเก่า ฉับพลันร่างสูงก็สาวเท้าตรงเข้าไปนั่งข้างอีกฝ่าย พลางใช้มือลูบหัวน้อย ๆ เพื่อปลอบประโลมนางเสียนเปาสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่ส่งผ่านฝ่ามือนั้น เพียงไ

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 20 เอาคืน (18+)

    เสียนเปารู้สึกเหมือนโดนท้าทายอำนาจ นางจึงก้มลงกัดอีกฝ่ายจนจมเขี้ยวทันที คราวนี้หวังเหว่ยเหมือนจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว ใบหน้าของเขาจึงไม่เปลี่ยนสีหรือแสดงความรู้สึกเจ็บปวดออกมาอีก มีเพียงมุมปากที่ปรากฏรอยยิ้มแปลกประหลาด เป็นเวลานานกว่าเสียนเปาจะรู้สึกพอใจแล้วจึงถอนเขี้ยวออกจากลำแขนของชายที่พยายามกักขังนาง ดวงหน้างดงามเชิดใส่อีกฝ่ายอย่างดื้อรั้นไม่ยอมพ่าย หวังเหว่ยมองท่าทีลำพองใจของร่างบางก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "คราวนี้ตาข้ากัดเจ้าบ้างแล้ว" "ว่ายังไงนะ...?" ยังไม่ได้ทันจะสิ้นเสียงของร่างบาง เบื้องหน้าของเสียนเปาพลันมีเงาดำโถมเข้ามาอย่างรวดเร็วจนนางตั้งตัวไม่ทัน ดวงตาคู่งามเบิกกว้างทั้งยังสั่นระริกเมื่อริมฝีปากบางถูกครอบงำด้วยริมฝีปากอุ่นร้อน ตอนนั้นเองที่รับรู้ได้ว่าจูบนี้ของหวังเหว่ยไม่มีความปรานีเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย มันเต็มไปด้วยความรู้สึกต้องการและความกระหายอยาก ยามที่ลิ้นร้อนสอดเข้ามาในโพรงปากเพื่อควานหาความหวานและไล่ต้อนลิ้นน้อยจนหมดทางถอย ทำเอาเสียนเปารู้สึกวูบวาบบริเวณท้องน้อยจนต้องหนีบเรียวขาเ

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 19 ลองดู

    รัตติกาลล่วงเลยผ่านไปไวราวกับสายน้ำ หลังจากที่วุ่นอยู่กับการถอนพิษครึ่งค่อนคืนนั้นเวลาก็ล่วงเข้าสู่ยามโฉ่ว เสียนเปานั่งมองใบหน้าของหวังเหว่ยซึ่งในเวลานี้เจ้าตัวกำลังหลับสนิทอยู่ ตามหน้าผากมีเหงื่อซึมออกมาจนชุ่มบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังมีไข้ นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อก่อนจะบรรจงซับเหงื่อให้อีกฝ่ายอย่างเบามือ ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมา เสียนเปาสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากร่างกายของหวังเหว่ย นางชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนถอนหายใจออกมาตอนหลับเจ้าก็ดูจะไม่มีพิษมีภัย เหตุใดพอตื่นขึ้นมาถึงได้ชอบกวนประสาทข้านักเสียนเปาคิดพลางเอานิ้วจิ้มแก้มของอีกฝ่ายอย่างเงียบ ๆ ฉับพลันนางก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปที่ปากถ้ำเพื่อนำผ้าเช็ดหน้าไปรองน้ำฝนที่ไหลลงมาตามหิน ก่อนจะเดินย้อนกลับมาเช็ดตัวที่ร้อนผ่าวให้อีกฝ่ายในทันทีไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดจนหวังเหว่ยที่หมดแรงแล้วหลับไปพลันลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาคมคู่หนึ่งเหลือบมองฝ่ามือเนียนนุ่มที่กอบกุมมือของตนเองไว้แน่น พร้อมสัมผัสเย็นชื้นจากผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกเหมย ดูเหมือนคนตัวน้อยจะเหม่อลอยจนไม่รู้สึกตัวเลยว่าหวังเหว่ยได้สติ

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 18 พิษ

    "เจ้าเป็นอะไร!" เสียนเปารีบเข้าไปพยุงอีกฝ่ายขึ้นมาดูอาการ สีหน้าของชายหนุ่มในตอนนี้แลดูเจ็บปวดนักทั้งที่ตามเนื้อตัวของเขาไม่ปรากฏบาดแผลใด ๆ แต่เพียงไม่นานนางก็รู้ต้นต่อที่สร้างความทรมานให้อีกฝ่าย"กู่พิษ"สีหน้าของเสียนเปายิ่งดูไม่ดีเมื่อเห็นบางสิ่งกำลังชอนไชอยู่ใต้ผิวหนังของอีกฝ่าย วินาทีนั้นเองที่นางรับรู้ได้ว่าหวังเหว่ยกำลังเจ็บปวดเป็นที่สุด ตามกรอบหน้าอาบย้อมไปด้วยเม็ดเหงื่อจนเปียกชื้น ริมฝีปากที่เปรอะเปื้อนเลือดขบเม้มเข้าหากันเพื่ออดกลั้นความเจ็บปวดที่ปะทุขึ้นมาจนแทบรับไม่ไหวตั้งแต่ตอนไหนกัน...อี้จางหมิ่นเมื่อนึกถึงตัวการที่วางพิษ เสียนเปาก็ขบกรามแน่นด้วยความรู้สึกโกรธอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่เมื่อรู้สึกตัวว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดเริ่มกระอักโลหิตขึ้นมาอีกครั้ง ความโกรธชั่ววูบของนางพลันมลายหายไปเหลือเพียงแค่ความห่วงใยปรากฏในสายตา"เจ้าทนไหวหรือไม่ เราเข้าไปหลบในถ้ำข้างหน้าก่อน"แม้หวังเหว่ยจะเจ็บแต่ก็ยังมีสติอยู่ เขาพยักหน้ารับคำร่างบางก่อนจะปล่อยให้นางพยุงร่างเขาเข้าไปในถ้ำที่อยู่ไม่ไกลเสียงน้ำหยดลงมาจากหินย้

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 17 ติดตาม

    จู่ ๆ ความเงียบเข้ากลืนกินบรรยากาศภายในคุกอีกครั้ง เสียนเปาทำได้เพียงเงียบเพราะไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไรกับเจ้าของคำถามดี นางรู้สึกประหม่าเมื่อหวังเหว่ยหรี่ตามองมาอย่างจับผิด ดวงตาคู่นั้นราวกับจะมองทะลุเข้าไปถึงข้างในจนนางไม่รู้จะทำตัวอย่างไร แต่เป็นหวังเหว่ยเองเอ่ยตัดบทไปเอง "ไปกันเถอะ ตอนนี้พวกนั้นยังไม่รู้ตัว" สิ้นคำร่างสูงก็เดินนำออกไป เสียนเปาเห็นเช่นนั้นจึงเดินตามหลังอีกฝ่าย ระหว่างทางทั้งคู่ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดต่อกันตอนนี้ทั้งคู่หลบหนีออกมาจากจวนสกุลอี้ได้อย่างไม่ลำบาก และทั้งสองกำลังเดินเรียบไปตามตอกมืดเล็ก ๆ มุมหนึ่งของเมือง ระหว่างทางเดินหวังเหว่ยเองก็เหลือบมองคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังเป็นระยะ เห็นเพียงอีกฝ่ายเอาแต่เงียบและเดินก้มหน้าราวกับไม่อยากสบตากับเขา หวังเหว่ยรู้สึกว่ามันเงียบเกินไปจึงทำลายความเงียบลงด้วยการเปิดหัวข้อสนทนา "หลังออกจากหั่งโจวแล้วเจ้าจะไปที่ใด""ตูเถา"เสียนเปามิได้คิดปิดบังจุดหมายของตนกับอีกฝ่าย แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้หวังเหว่ยขมวดคิ้ว "ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน"หากเจ้าเคยได้ยินน่ะสิแปลก เพราะตูเถาที่นางเพิ่งพูดถึ

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 16 ออกไปจากเมืองนี้

    หลังจากคืนนั้นที่หวังเหว่ยและเสียนเปาถูกจับมาขังในคุกใต้ดินวันเวลาก็ผ่านมาถึงสามวันเศษ ตกดึกในคืนที่เมืองหั่งโจวมีลมพายุแรง สายลมกรรโชกราวกับจะพัดบ้านเรือนลอยหายไปทั้งหลัง ไม่ว่าจะเป็นตามตรอกซอกซอยใดล้วนตกอยู่ในความเงียบ ถนนหนทางไร้ผู้คนเดินเที่ยวเล่นเหมือนอย่างเคย แม้กระทั่งย่านที่เคยคึกคักบัดนี้หลงเหลือแค่เพียงไม่กี่ชีวิตที่ยังคงทำงานหาเลี้ยงชีพอยู่ สาเหตุที่ทั้งเมืองตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เป็นเพราะพายุที่ไม่ทราบที่มาลูกนี้กำลังรุนแรงขึ้น ทั้งที่สองสามวันก่อนท้องฟ้ายังแจ่มใสอยู่เลยแท้ ๆ ทว่าในคุกที่มืดและชื้นแฉะ กลับไม่รู้ถึงภัยธรรมชาติร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นข้างนอก นักโทษที่โดนทารุณต่างเหน็ดเหนื่อยจนนอนหลับสนิท ในคุกมีเพียงเสียงน้ำหยดจากบนเพดานหินและเสียงลมที่พัดผ่านช่องระบายอากาศ ความเงียบผิดจากปกติธรรมดาช่วยเสริมบรรยากาศทำให้คุกนี้ดูน่าวังเวง มันเงียบสงัดราวกับที่แห่งนี้ไร้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ทว่าในส่วนที่ลึกสุดของคุกแห่งนี้ หากลองเงียหูฟังให้ดีจะพบว่ามีเสียงของคนสองคนกำลังคุยกันด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย ราวกับการที่พวกเขาถูกจับมาขังที่นี่ไม่ได้สร้างความหวาด

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 15 รู้จัก

    "คุณชายอี้..." ใช่แล้ว...เจ้าของเสียงเมื่อครู่นี้คืออี้จางหมิ่นที่นางคุ้นเคย แล้วเหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่? แต่ช่างเทิด...ตอนนี้มีสิ่งที่ทำให้นางตกใจยิ่งกว่า เพราะว่าใบหน้าของอี้จางหมิ่นในเวลานี้บิดเบี้ยวจนน่าเกลียด แววตายามที่มองไปทางหวังเหว่ยทอประกายความโกรธเกลียดอย่างไม่คิดปิดบัง แม้เสียงของนางจะไม่ดัง แต่นางเชื่อว่าอี้จางหมิ่นนั้นได้ยิน แต่อีกฝ่ายกลับไม่คิดจะหันมามองนางที่กำลังสนทนาอยู่กับเขา ความสนใจทั้งหมดของเขายังคงตกอยู่เพียงบุรุษผู้เดียวที่ชื่อหวังเหว่ย ในขณะที่เสียนเปายังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่ เสียงของหวังเหว่ยพลันดังขึ้นมาเรียกความสนใจของนางได้สำเร็จ "ไม่ได้เจอกันนานนะคุณชายอี้..." ราวกับสายอัสนีฟาดลงกลางศีรษะน้อย ๆ คำทักทายเมื่อครู่บ่งบอกได้ว่าคนทั้งสองเคยรู้จักกัน และสายตาสองคู่นั้นยังบอกชัดว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ค่อยจะลงรอย นางหันไปมองหวังเหว่ยอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมเขาต้องเอาตัวเองมาเสี่ยง ทั้งที่รู้ว่าจวนหลังนี้เป็นของผู้ใด แต่สุดท้ายนางก็รู้ว่าไม่มีทางได้คำตอบจากเขาอยู่ด

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 14 คนคุ้นเคย

    บัดนี้ริมระเบียงเหลือเพียงแค่เสียนเปา ส่วนจ้าวหนี่ไป๋นั้น หลังจากที่ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการก็จากไปอย่างรวดเร็ว ร่างบางเท้าคางกับราวระเบียงพลางเหม่อมองออกไปนอกกำแพงสูงซึ่งปกป้องเมืองหั่งโจวเอาไว้ ดวงจันทร์ยังคงทอแสงประกายในค่ำคืนที่มืดมิด แสงจันทร์นั้นสาดส่องไปยังมุมหนึ่งของหั่งโจวที่มีชุมชนเล็ก ๆ แออัดกันอยู่ หลังคาเรือนเก่าซอมซ่อเรียงกันเบียดเสียด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนั้นต่างพากันดับไฟเตรียมเข้านอนกันหมดแล้ว ช่างเป็นสถานที่ที่ให้อารมณ์แตกต่างกับจุดที่นางยืนอยู่ตอนนี้พอสมควรเสียงถอนหายใจแผ่วเบาของดรุณีน้อยดังขึ้น ชั่วขณะที่หญิงสาวตั้งใจจะเดินกลับเข้าไปด้านในนั้น เบื้องหน้าบังเกิดเงามืดดำรูปร่างสูงใหญ่มาขว้างทาง คนผู้นี้สูงเสียจนระดับสายตาของคนตัวน้อยเหลือเพียงแค่อกกำยำของเขา กลิ่นอายเฉพาะตัวที่คุ้นเคยนำพาให้เสียนเปาเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาอย่างหวาดหวั่น จังหวะต่อมาดวงตาคู่งามพลันสั่นระริกอย่างยากจะควบคุม นางเกือบจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกตะลึง แต่คนผู้นั้นกลับใช้มือหยาบกระดากอุดปากนางเอาไว้ ก่อนจะลากตัวสาวน้อยเข้าไปในมุมลับสายตามุมหนึ่งเสียนเปาพยายามดิ้นรนขัด

  • เล่ห์ปีศาจ   ตอนที่ 13 ข้อแลกเปลี่ยนของปีศาจ

    บัดนี้พระอาทิตย์ของเมืองหั่งโจวตกไปได้กว่าครึ่งชั่วยามแล้ว ถนนสายต่าง ๆ เริ่มเงียบสงัด ทว่าย่านใจกลางเมืองซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสถานเริงรมย์กลับค่อย ๆ คึกคัก บนท้องถนนเริ่มมีบุรุษสตรีเดินพลุกพล่าน ร้านค้าต่าง ๆ รายล้อมเคหสถานขนาดใหญ่ จุดศูนย์กลางของหั่วโจวมีหอคอยเจ็ดชั้นขนาดยักษ์ตั้งสูงตระหง่านดูแล้วช่างโดดเด่นเป็นสง่ากว่าใคร เบื้องล่างตรงหน้าประตูทางเข้าหอคอยประดับโคมไฟหลากสีสัน แม้จะไร้แสงตะวันแต่สถานที่แห่งนี้กลับยังคงสว่างไสว รถม้าของจวนสกุลใหญ่ ๆ มากมายต่างหยุดลงเบื้องหน้าประตูทางเข้าหอคอยแห่งนั้น กล่าวได้ว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก 'ฮั๋วหราน' สถานที่อันโด่งดังของหั่งโจวทันทีที่รถม้าของเสียนเปามาหยุดที่หน้าประตู นางก็รู้ได้ทันทีว่าฮั๋วหรานที่อี้จางหมิ่นพูดถึงมิได้ต่างจากที่นางคิดเอาไว้มากนัก คุณชายเจ้าสำราญอย่างเขาจะอยากไปที่ไหนกันหากไม่ใช่สถานเริงรมย์พวกนี้ ทว่าฮั๋วหรานแห่งนี้กลับมีทั้งบุรุษและสตรีเข้าออก การที่สตรีตัวคนเดียวอย่างเสียนเปาเดินเข้าไปจึงไม่เป็นที่สะดุดตามากเมื่อเข้ามาภายในฮั๋วหราน เสียนเปาก็ถึงกับตกตะลึงกับความหรูหราที่ได้เห็นตรงหน้า แม้จะบอกว่าจวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status