Share

บทที่ 4

เมื่อได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากทุกคน หลิ่วชิงหลานก็ทำได้เพียงแค่พยักหน้าไปตามมารยาท และค้นหาในฝูงชนต่อไป แต่เฉินเทียนถูกบีบให้อยู่ด้านหลังสุดไปแล้ว มันจึงทำให้เธอมองไม่เห็นเขา ไม่ว่าจะค้นหาแค่ไหนก็ตาม

หลิ่วชิงหลานทำได้แค่มองไปที่หลี่ลี่ฉวิน แล้วถามขึ้นมาว่า "คุณหลี่คะ เจ้าบ่าวของพวกคุณล่ะคะ?"

เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ทุกคนก็เผยสีหน้าแบบว่าที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองออกมาทันที

"คุณหนูหลิ่วมาที่นี่เพราะคุณชายจ้าวจริงๆ ตระกูลจ้าวหน้าใหญ่จริงๆ ด้วยนะ"

"นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว อย่างน้อยตระกูลจ้าวก็เป็นตระกูลใหญ่อันดับต้นๆ คุณหนูหลิ่วก็ต้องไว้หน้าเขาเป็นธรรมดา"

ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา และจ้าวเลี่ยงก็ดูตื่นเต้นแบบสุดๆ จึงรีบเดินเข้าไปพร้อมกับยื่นมือออกมาทันที "สวัสดีครับ คุณหลิ่ว ผมคือจ้าวเลี่ยงครับ"

หลิ่วชิงหลานใช้ชีวิตโสดมาโดยตลอด แม้ว่าจะมีคนมาคอยตามจีบมากมาย แต่กลับไม่มีผู้ชายคนไหนดีพอที่จะใกล้ชิดเธอเลยสักคน

ในเวลานี้จ้าวเลี่ยงดูตื่นเต้นแบบสุดๆ เพราะเขากำลังจะได้จับมือกับหลิ่วชิงหลาน เพียงเท่านี้มันก็เพียงพอแล้วที่เขาจะได้คุยโวได้เป็นเวลานาน

และถ้าเขาสามารถได้รับการโปรดปรานจากหลิ่วชิงหลาน นั่นก็จะดีเป็นอย่างมาก โดยที่ผู้ชายทุกคนในเจียงโจวจะต้องอิจฉาเขา และหลี่เวยก็สามารถไสหัวออกไปได้แล้ว

หลังจากหลิ่วชิงหลานได้เห็นจ้าวเลี่ยงแล้ว เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที แต่ในวินาทีต่อมาเธอก็เห็นเฉินเทียนที่กำลังจะจากไป จึงรีบวิ่งตามไปในทันที

"คุณอย่าเพิ่งไป!"

เมื่อเห็นหลิ่วชิงหลานวิ่งตามเฉินเทียนไปแบบนั้น ทุกคนก็ยืนทื่อเป็นหินทันที โดยดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ

มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?

หลิ่วชิงหลานเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลิ่ว งดงามราวกับนางฟ้า เป็นหงส์ทองโดยแท้ แต่เฉินเทียนเป็นแค่ไอ้หนุ่มที่ยากจน ทั้งสองแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน จะมาพบกันได้อย่างไร?

รอยยิ้มบนใบหน้าของคนตระกูลลี่ต่างก็แข็งทื่อ เดิมทีพวกเขายังคิดว่าหลิ่วชิงหลานมาที่นี่เพื่อพวกเขา หรืออย่างน้อยที่สุดก็มาเพื่อจ้าวเลี่ยง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นเลย หลิ่วชิงหลานไม่เพียงไม่ได้มาหาพวกเขา แต่กลับมาหาขอทานในสายตาของพวกเขาเสียต่างหาก

และคนที่น่าอับอายที่สุดก็คือจ้าวเลี่ยงอย่างไม่ต้องสงสัย มือที่ยื่นออกไปชะงักอยู่ตรงนั้น จากความตื่นเต้นกลายเป็นความตกใจจนกลายเป็นความโกรธในที่สุด

เฉินเทียนที่กำลังจะเดินออกไปชะงักฝีเท้าทันที จากนั้นเขาก็เห็นหลิ่วชิงหลานวิ่งมาหาตัวเอง โดยยังคิดว่าเธอมาหาเขาเพื่อคิดบัญชีเสียต่างหาก

คงไม่ดีแน่ถ้าหลิ่วชิงหลานเกิดฟ้องเขาขึ้นมา แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็อาจจะประสบปัญหาวุ่นวายอยู่ดี

"นายอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย รีบตามฉันมาเร็วเข้า"

หลิ่วชิงหลานจับมือเฉินเทียน แล้วรีบเดินออกไปทันที

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเป็นฝ่ายเข้ามาจับมือผู้ชายก่อน แต่มันกลับดูเป็นธรรมชาติ และไม่มีการปฏิเสธในใจแต่อย่างใด

นี่อาจเป็นเพราะเธออยู่กับเฉินเทียนตลอดทั้งคืน และแน่นอนว่ายังมีอีกสาเหตุหนึ่ง นั่นก็คือเธอใจร้อนมากเกินไป

"คุณหลิ่ว คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?" หลี่ลี่ฉวินพาคนเข้ามาขวางพวกเขาสองคนเอาไว้

"คุณคิดจะทำอะไร?" หลิ่วชิงหลานถามด้วยความสงสัย

"คุณหลิ่ว ไอ้กระจอกนี่เพิ่งออกมาจากภูเขา คุณจะรู้จักมันได้ยังไง จะต้องเข้าใจผิดแน่ๆ"

"ผมรู้แล้วล่ะ คุณต้องการมาพบจ้าวเลี่ยงลูกเขยของผมใช่ไหมล่ะ เขาคนนี้ต่างหากล่ะครับ" หลี่ลี่ฉวินดึงจ้าวเลี่ยงมาหาหลิ่วชิงหลาน

"ฉันไม่ได้เข้าใจผิด คนที่ฉันตามหาก็คือเขา พวกคุณรีบถอยออกไปเถอะ" หลิ่วชิงหลานพูดอย่างหมดความอดทน

"แต่เขาเป็นไอ้บ้านนอก คุณตามหาเขาไปทำไมหรือครับ?" หลี่ลี่ฉวินถามอย่างสับสน

"นี่มันเป็นเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ! หลีกทางเดี๋ยวนี้!" หลิ่วชิงหลานไม่มีอารมณ์จะพูดเรื่องไร้สาระกับพวกเขาต่อไป จากนั้นเธอก็ดึงเฉินเทียนให้เดินอ้อมพวกเขาไป

และมันก็ทำให้สีหน้าของทุกคนในตระกูลหลี่และจ้าวเลี่ยงดูแย่เอาเสียมากๆ พวกเขาพยายามเข้ามาประจบเอาใจหลิ่วชิงหลาน แต่เธอกลับไม่สนใจพวกเขา ตรงกันข้ามกลับเข้าไปจับมือไอ้ขอทานคนนั้นออกไปแล้ว มันช่างน่าโมโหเสียจริงๆ

และแสงเย็นวาบก็ได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของจ้าวเลี่ยง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รู้สึกแค้นหลิ่วชิงหลานแต่เป็นเฉินเทียนเสียต่างหาก เขารู้สึกว่าเพราะเฉินเทียนถึงทำให้เขาอับอายขายหน้าได้ขนาดนี้

เฉินเทียนเดินไปถึงประตูและหยุดฝีเท้าลงอีกครั้ง จากนั้นก็มองไปที่หลี่ลี่ฉวินแล้วพูดว่า "ฉันเตือนคุณด้วยความหวังดีนะ รีบไปซื้อสุสานที่ฮวงจุ้ยดีๆ สักที่ คุณมีชีวิตอยู่ได้ไม่กี่วันแล้วล่ะ"

"แม่งกล้าสาปแช่งพ่อตาของฉันงั้นเหรอ ฉันจะฆ่าแกให้ตายไปเลย!" ขณะที่จ้าวเลี่ยงพูดเขาก็เงื้อมือขึ้น แล้วฟาดไปที่หน้าของเฉินเทียนทันที

แสงเย็นวาบได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของเฉินเทียน และเมื่อเขากำลังจะลงมือ จู่ๆ หลิ่วชิงหลานก็ตบหน้าจ้าวเลี่ยงในทันที

"คุณหลิ่ว คุณตบผมทำไม?" จ้าวเลี่ยงกุมใบหน้าด้วยความโกรธ แต่เขาก็ไม่กล้าแสดงอาการใดๆ ออกมา

"ถ้าคุณกล้าหยาบคายกับคุณเฉินอีกครั้ง เชื่อหรือไม่ว่าฉันจะทำให้ตระกูลจ้าวของคุณล้มละลายไปได้เลย" หลิ่วชิงหลานพูดอย่างเย็นชาออกมา

จ้าวเลี่ยงและทุกคนในตระกูลหลี่เฝ้าดูหลิ่วชิงหลานจับมือเฉินเทียนและเดินจากไป ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เพียงแต่ว่าหลิ่วชิงหลานไม่ใช่คนที่พวกเขาจะสามารถรุกรานได้

"คุณหลิ่ว คุณจะลากผมไปไหนกันแน่?"

หลังจากออกมาจากบ้านของตระกูลหลี่ เฉินเทียนก็ถามขึ้นมาอย่างสงสัย

"ไปช่วยคนกับฉัน" หลิ่วชิงหลานพูดขณะที่เปิดประตูรถและผลักเฉินเทียนขึ้นไปนั่งข้างเบาะคนขับ

"ช่วยใครเหรอ?"

"คุณปู่ของฉัน ท่านป่วยหนักมาก ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย มีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยท่านเอาไว้ได้" หลิ่วชิงหลานดูตื่นตระหนก ขณะที่พูดเธอก็รีบขับรถไปยังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว

"ป่วยก็ไปหาหมอสิ คุณมาตามหาผมทำไม?"

"ถ้าหมอรักษาได้ ฉันจะมาหาคุณทำไมกัน"

"ทำไมคุณถึงคิดว่าผมจะสามารถช่วยปู่ของคุณได้ล่ะ?" เฉินเทียนถามด้วยความสงสัย

"ตอนเช้าที่ฉันโรคหัวใจกำเริบ คุณสามารถรักษาฉันให้หายภายในไม่กี่นาที นั่นก็พิสูจน์ได้แล้วว่าทักษะทางการแพทย์ของคุณเก่งมาก ดังนั้นฉันก็เลยมาหาคุณไง" หลิ่วชิงหลานพูดอธิบาย

"จะให้ผมช่วยชีวิตคุณปู่ของคุณก็ย่อมได้ แต่ควรจะชดใช้หนี้ที่คุณติดผมไว้เสียก่อนดีไหม?" เฉินเทียนพูดขึ้นมา

"เงินทั้งหมดในกระเป๋าของฉัน มอบให้คุณทั้งหมดเลย"

"นี่คืออะไร?"

หลิ่วชิงหลานกำลังขับรถ เธอใช้หางตามองชำเลืองไป จู่ๆ ก็โกรธจัดจนควันออกหูทันที เพราะเฉินเทียนกำลังถือผ้าอนามัยชิ้นหนึ่งอยู่ในมือ และยังพลิกมันไปมาอีกต่างหาก

"มันดูเหมือนผ้าอ้อมชิ้นหนึ่งนะ คุณโตขนาดนี้แล้วยังจะใช้ของแบบนี้อีก หรือว่าคุณจะมีปัญหาอะไรที่บอกไม่ได้?" เฉินเทียนถามขึ้นมาอย่างจริงจัง

"นายน่ะสิที่มีปัญหาที่บอกไม่ได้!" หลิ่วชิงหลานโกรธจัดจนควันออกหู หากเธอไม่ได้ขับรถอยู่ หรือไม่ได้หวังจะให้เขาช่วยปู่ของเธอแล้วละก็ เธอก็อยากจะสู้กับเขาให้ตายไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว

เฉินเทียนไม่ได้ยั่วโมโหเธอต่อ จากนั้นก็มองไปในกระเป๋า และเห็นธนบัตรใหม่เอี่ยมสองมัดใหญ่ คาดว่าเธอเพิ่งจะถอนออกมาจากธนาคาร

"ช่างมันเถอะ ตอนนี้ผมไม่ร้อนเงินอะไร" เฉินเทียนใส่มันกลับเข้าไปตามเดิม

"แล้วคุณต้องการอะไรล่ะ?" หลิ่วชิงหลานถามขึ้นมา

"คุณบริการผมสักครั้งสิ"

ทันทีที่เฉินเทียนพูดจบ จู่ๆ หลิ่วชิงหลานก็ได้เบรกอย่างกะทันหัน ล้อรถได้เสียดสีกับถนนอย่างรุนแรง ส่งกลิ่นยางฉุนออกมา หากไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ คาดว่าทั้งสองคนก็อาจจะลอยออกไปแล้ว

หลังจากที่รถหยุดแล้ว หลิ่วชิงหลานก็หันมาจ้องเฉินเทียนด้วยความโกรธ ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอาฆาตราวกับจะกินคนได้อย่างไงอย่างงั้น

"อย่าโกรธเลยนะ ผมแค่ล้อคุณเล่นเอง"

"ฉันไม่ชอบเรื่องตลกแบบนี้!" หลิ่วชิงหลานจ้องเขม็งไปที่เฉินเทียน แล้วขับรถต่อไป

ในเวลานี้ ในวอร์ดวีไอพีของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ผู้คนกลุ่มหนึ่งกำลังยืนล้อมเตียงอยู่ ซึ่งในจำนวนนั้นก็คือหลี่กั๋วจื้อผู้อำนวยการโรงพยาบาลและจางไป่ฉ่าวแพทย์อันดับหนึ่งในเมืองเจียงโจว

จางไป่ฉ่าวกำลังจดจ่ออยู่กับการฝังเข็มให้กับชายชราที่นอนอยู่บนเตียง

ชายชราซูบผอมหนังหุ้มกระดูก ใบหน้าซีดขาว หายใจโรยริน ราวกับว่าจะหมดลมหายใจไปได้ทุกเมื่อ

และเมื่อจางไป่ฉ่าวดึงเข็มเงินเล่มสุดท้ายออกมาจากร่างของชายชรา ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ก็รีบถามขึ้นมาทันทีว่า "หมอเทวดาจางครับ คุณพ่อของผมเป็นอย่างไรบ้าง?"

จางไป่ฉ่าวดูสงบ จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า "คุณท่านหลิ่วป่วยหนักจนไม่สามารถที่จะรักษาได้แล้ว ผมคาดว่าน่าจะไม่พ้นคืนนี้ไปได้"

"อะไรนะ!"

สมาชิกทุกคนในตระกูลหลิ่วต่างก็ตกตะลึง

"หมอเทวดาจางครับ รบกวนท่านหมอช่วยคิดหาหนทางหน่อยนะครับ" หลิ่วไห่หลินเต็มไปด้วยการอ้อนวอน

"ใช่ครับหมอเทวดาจาง ขอแค่ท่านหมอรักษาพ่อของผมได้ ผมจะตอบรับทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไขอย่างใดเลย" หลิ่วไห่ซานก็รีบขอร้องด้วยเช่นกัน

"ขอแค่มีความหวังเพียงเล็กน้อย ผมก็จะช่วยอยู่แล้ว แต่คุณท่านหลิ่วไม่มีทางรักษาแล้วจริงๆ พวกคุณไปเตรียมงานดีกว่านะ" จางไป่ฉ่าวพูดอย่างหมดหนทาง

"คนยังไม่ตายก็ให้ไปเตรียมงานศพแล้ว นี่น่ะเหรอคือคำพูดที่ออกมาจากปากของหมอคนหนึ่ง!"

ด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ หลิ่วชิงหลานก็ได้พาเฉินเทียนและผลักประตูเดินเข้ามา

จางไป่ฉ่าวหน้าตามืดมน พร้อมกับมองไปที่เฉินเทียน "เมื่อกี้คุณเป็นคนพูดหรือเปล่า?"

"ใช่ หรือผมพูดผิดไป?" เฉินเทียนถามกลับมา

"เป็นเพราะฉันเชื่อว่าคุณท่านหลิ่วไม่มีทางรักษาแล้ว ดังนั้นก็เลยให้พวกเขาไปเตรียมงานน่ะสิ!" จางไป่ฉ่าวตอบกลับด้วยความโกรธ

"คุณบอกว่ารักษาไม่ได้ก็คือรักษาไม่ได้งั้นเหรอ? หมอต้มตุ๋นจริงๆ" เฉินเทียนพูดอย่างไม่แยแสออกมา

"อะไรนะ! คุณกล้าพูดว่าฉันเป็นหมอต้มตุ๋นอย่างนั้นเหรอ!" เมื่อได้ยินเฉินเทียนพูดแบบนี้ จางไป่ฉ่าวก็ฉุนเฉียวเป็นอย่างมาก เขาเป็นถึงหมอเทวดาอันดับหนึ่งในเมืองเจียงโจว และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่มีคนสงสัยในทักษะการแพทย์ของเขา

"แกมาจากไหนน่ะไอ้เด็กเมื่อวานซืน? แกกล้ามาพูดกับหมอเทวดาจางแบบนี้ได้ยังไง?" หลิ่วไห่หลินจ้องเฉินเทียนด้วยใบหน้าที่มืดมน และคนอื่นๆ ก็พลอยเดือดดาลไปด้วยเช่นกัน

แม้ว่าจางไป่ฉ่าวจะช่วยคุณท่านไม่ได้ในครั้งนี้ แต่ก่อนหน้านี้เขาก็ได้ต่ออายุให้กับคุณท่านมานานหลายปี ดังนั้นพวกเขาจึงซาบซึ้งและให้ความเคารพต่อจางไป่ฉ่าว และจะไม่ยอมให้ใครมาใส่ร้ายเขาแบบนี้ได้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status