Share

บทที่ 3

ในเวลาเดียวกันนี้ ในวิลล่าของบ้านตระกูลหลี่ก็ได้มีการจัดงานพิธีหมั้นขึ้นมา

ภายในเต็มไปด้วยแขกเหรื่อและเพื่อนฝูง วันนี้ตระกูลหลี่ได้จัดงานพิธีหมั้นขึ้นมา โดยแขกที่มาร่วมงานต่างก็เป็นคนมีหน้ามีตาในเมืองเจียงโจวด้วยกันเสียทั้งนั้น พูดได้ว่าไม่ร่ำรวยก็มียศถาบรรดาศักดิ์กันทุกคน

ในขณะนี้เฉินเทียนก็ได้มาถึง หลังจากที่หลี่ลี่ฉวินหัวหน้าตระกูลหลี่รับรู้แล้วนั้น เขาก็ได้ออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง

"คุณเฉินมาเยี่ยมอย่างกะทันหันแบบนี้ ต้องขออภัยจริงๆ นะครับที่เสียมารยาท ท่านผู้เฒ่าสบายดีหรือเปล่าครับ?"

สิ่งนี้ต่างหากที่หลี่ลี่ฉวินเป็นกังวลมากที่สุด เพราะสิบห้าปีก่อนเขาป่วยหนัก เชิญหมอจากทั่วทุกสารทิศมารักษาก็ไม่หาย ในตอนที่เขากำลังจะไม่ไหวแล้วนั้น ผู้เฒ่าคนหนึ่งได้ยื่นมือมาช่วยเขาเอาไว้ และเพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้เฒ่า เขาก็ได้หมั้นหมายลูกสาวของตัวเองไว้ โดยให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองแต่งงานกับลูกศิษย์ของผู้เฒ่า ซึ่งนั่นก็คือเฉินเทียนนั่นเอง

"อาจารย์ของผมท่านสิ้นไปแล้วล่ะครับ" เฉินเทียนดูเศร้าโศก เพราะพ่อและแม่ของเขาได้เสียไปตั้งแต่เขายังเด็ก และเขาก็ได้รับการเลี้ยงดูจากท่านอาจารย์ตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ โดยยังสืบทอดทักษะทุกอย่างจากเขา พูดได้เลยว่าเขาเป็นคนที่ใกล้ชิดกับท่านอาจารย์ที่สุด แต่กลับต้องมาจากกันไปตลอดกาลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

"อะไรนะครับ! ท่านอาจารย์สิ้นไปแล้ว!"

"ช่างน่าเสียดายจริงๆ" ใบหน้าของหลี่ลี่ฉวินเต็มไปด้วยความเศร้าโศก จากนั้นเขาก็มองไปยังเฉินเทียน แล้วถามขึ้นมาว่า "แล้วคุณได้เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์มาจากท่านอาจารย์มากน้อยแค่ไหน?"

"น่าละอายใจจริงๆ ครับ ทักษะการแพทย์ของอาจารย์ไม่มีใครเทียบได้ ผมเรียนรู้มาได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น"

เฉินเทียนนั้นถ่อมตัวมาก ความจริงแล้วเขาได้เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์แทบจะทุกอย่างของอาจารย์ และกระทั่งในบางด้านก็ยังเหนือกว่าอาจารย์ของเขาเสียอีก

"แค่เล็กน้อย?"

"งั้นคุณมาที่นี่ทำไม?"

ใบหน้าของหลี่ลี่ฉวินมืดลงไปในทันที และท่าทางกลับตาลปัตรราวกับเป็นคนละคน

เขาให้ความสำคัญต่ออาจารย์ของเฉินเทียน หากเฉินเทียนได้สืบทอดทักษะเหล่านั้นมาก็คงจะดี แต่เขากลับบอกว่าเรียนรู้ได้แค่เล็กน้อย แล้วมันจะมีประโยชน์กะผีอะไรล่ะ

"ผมมาทำตามข้อตกลงที่ได้ตกลงกันเอาไว้น่ะครับ" ขณะที่พูด เฉินเทียนก็ได้หยิบสัญญาการแต่งงานออกมา

"ไอ้งั่งนี่มาจากไหนกัน ถือสัญญาการแต่งงานสับปะรังเคออกมาเพราะอยากจะแต่งงานกับคุณหนูตระกูลหลี่ เหมือนกับคางคกอย่างจะกินเนื้อหงส์อย่างไงอย่างงั้น"

"ก็ใช่น่ะสิ ไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกมองเงาตัวเองจริงๆ ส่องกระจกเสียบ้างสิ ยังคิดจะมาขอคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่อีก ช่างหน้าไม่อายเสียจริงๆ"

"ไอ้ขอทาน แกรีบไสหัวออกไปจากตระกูลหลี่ของเราเดี๋ยวนี้นะ!"

ทุกคนต่างพูดจาเยาะเย้ยถากถาง ส่วนใหญ่เป็นเพราะเฉินเทียนแต่งตัวเรียบง่าย ราวกับเพิ่งจะเดินออกมาจากภูเขา แต่ตระกูลหลี่นั้นเป็นตระกูลใหญ่ และหลี่เวยคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลี่ก็ทั้งฉลาดและหน้าตาสะสวย คนหนึ่งสูงศักดิ์ราวกับหงส์ฟ้า อีกครั้งต่ำต้อยราวกับคางคก มันช่างแตกต่างกันเสียจริงๆ

วันนี้เป็นวันหมั้นหมายของหลี่เวย ทุกคนมาที่นี่ก็เพราะต้องการจะแสดงความยินดีกับเธอ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเป็นว่าเฉินเทียนได้นำสัญญาการแต่งงานสับปะรังเคแบบนี้มาด้วย มันจึงทำให้ผู้คนมากมายต่างก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก

โดยคนในตระกูลหลี่ก็ยิ่งเสียหน้า ซึ่งสีหน้าของหลี่ลี่ฉวินก็ยิ่งมืดมนแบบสุดๆ

เขาไม่ได้ลืมสัญญาการหมั้นหมายของลูกสาว เพียงแต่ว่าผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ผู้เฒ่านั้นก็ไม่ได้ถามไถ่อะไร เขายังคิดว่าใครเขาอาจจะลืมไปหรือละทิ้งไปแล้ว ดังนั้นเขาก็เลยให้ลูกสาวหมั้นหมายใหม่อีกครั้ง

และการที่จู่ๆ เฉินเทียนก็ได้มาหาแบบนี้ มันทำให้เขาตกตะลึงและทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อทราบว่าผู้เฒ่านั้นตายไปแล้ว มันจึงทำให้เขาคิดว่าการตัดสินใจของเขานั้นมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องเป็นที่สุด

"ก่อนหน้านี้แม้ว่าพวกคุณจะเคยหมั้นหมายกันเอาไว้ แต่ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ฉันยังคิดว่าพวกคุณละทิ้งไปแล้วเสียอีก ดังนั้นก็เลยจัดพิธีหมั้นหมายนี้ขึ้นมาน่ะสิ" หลี่ลี่ฉวินพูดออกมาอย่างเย็นชา

เฉินเทียนยิ้มๆ โดยที่รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยการเสียดสี "ในตอนนั้นชีวิตของคุณแขวนอยู่บนเส้นด้าย หากไม่ได้อาจารย์ของผมช่วยเอาไว้แล้วละก็ คุณก็คงตายไปตั้งแต่สิบห้าปีก่อนแล้ว และตอนนี้คุณจะมาล้มเลิกงานแต่ง จิตใจของคุณทำไมถึงได้ต่ำทรามขนาดนี้?"

"แกกล้าดียังไง!" หลี่ลี่ฉวินฉุนเฉียว "นี่ไอ้หนุ่ม เพื่อเห็นแก่หน้าของอาจารย์แก ครั้งนี้ฉันจะไม่ถือสาเอาความอะไร แต่หากมีครั้งหน้า อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน"

"ฉันจะแต่งงานกับขอทานตัวเหม็นอย่างแกได้ยังไง รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ แกอยู่ที่นี่ก็รนแต่จะทำให้ฉันพลอยเสียลูกตาไปเสียเท่านั้น"

หลังจากที่เสียงแหลมเล็กที่เต็มไปด้วยความประชดประชันได้ดังขึ้น หญิงสาวคนหนึ่งก็ได้เดินเข้ามาด้วยเช่นกัน

หญิงสาวมีรูปร่างที่ดี แถมหน้าตาก็สะสวย แต่มันเทียบไม่ได้เลยกับหลิ่วชิงหลาน ซึ่งเธอก็คือหลี่เวยนั่นเอง

โดยยังมีชายหนุ่มอีกคนที่เดินออกมากับหลี่เวยด้วย ชายคนนั้นคว้าหลี่เวยเข้ามาไว้ในอ้อมแขน แล้วพูดว่า "ไอ้หนุ่ม ฉันขอแนะนำตัวเองหน่อยนะ ฉันจ้าวเลี่ยงคุณชายใหญ่ของตระกูลจ้าว ทายาทเพียงคนเดียวของจ้าวซื่อกรุ๊ป คนบ้านนอกอย่างแกยังคิดจะมาแย่งผู้หญิงของฉัน ช่างไม่เจียมตัวเลยจริงๆ"

"รีบไสหัวออกไปซะ ไม่งั้นฉันจะเรียกคนให้มากระทืบขาแกซะ!" หลี่เวยตะโกนออกมาอย่างเย็นชา พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจและขยะแขยง

เธอเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลหลี่ และเป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลเศรษฐี แล้วจะแต่งกับคนขอทานแบบนี้ได้ยังไง จ้าวเลี่ยงต่างหากที่เป็นคู่ครองของเธอ เป็นทายาทสายตรงของวงศ์ตระกูลด้วยเช่นกัน

เมื่อมองเห็นใบหน้าที่น่ารังเกียจของคนพวกนี้ เฉินเทียนก็กระตุกรอยยิ้มที่ประชดประชันขึ้นมาทันที

"หลี่ลี่ฉวิน ก่อนที่ท่านอาจารย์จะจากไปได้กำชับฉันเอาไว้ ให้ฉันต่อชีวิตให้คุณอีกสิบปี แต่ตอนนี้คงจะไม่จำเป็นอีกแล้วล่ะ"

"ฉันแข็งแรงจะตายไป ไม่ต้องให้แกมาต่ออายุให้หรอก" หลี่ลี่ฉวินตะคอกอย่างเย็นชาออกมา

"ไอ้ขอทานตัวเหม็นช่างหน้าด้านหน้าทนเสียจริงๆ ให้แกไสหัวออกไปแกยังไม่ไปอีก เร็วเข้า กระทืบมันให้ขาหักแล้วโยนออกไปซะ!" หลี่เวยสั่งการอย่างเย็นชา

วันนี้เป็นวันหมั้นของเธอและจ้าวเลี่ยง เธอไม่ยอมให้ใครมาทำลายอย่างเด็ดขาด

และกลุ่มบอดี้การ์ดก็รีบกระโจนเข้ามา พร้อมที่จะลงมือในทันที

"พอได้แล้ว!"

หลี่ลี่ฉวินหยุดการกระทำของกลุ่มบอดี้การ์ดเอาไว้ วันนี้เป็นวันที่ดีที่เขาจะได้เป็นดองกับตระกูลจ้าว เขาไม่อยากจะให้เกิดเรื่องขึ้นมา จากนั้นเขาก็เขียนเช็คห้าล้านแล้วโยนไปที่เฉินเทียนทันที

"ห้าล้านนี่ถือว่าเป็นค่าชดเชยก็แล้วกัน รับเงินแล้วรีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้เลย!"

"ยังไม่รีบหยิบเงินแล้วไสหัวออกไปอีก แกเป็นแค่ขอทานคนหนึ่ง ชีวิตนี้ก็หาเงินมากมายแบบนี้ไม่ได้หรอก รีบเอาสัญญาแต่งงานออกมา แล้วรีบไสหัวออกไปซะ!" ท่าทางของหลี่เวยเต็มไปด้วยการดูแคลน

เฉินเทียนไม่ได้ดูเช็คเสียด้วยซ้ำ เขาจ้องไปที่หลี่ลี่ฉวินแล้วพูดว่า "อายุสิบห้าปีของคุณมันมีค่าแค่ห้าล้านเองงั้นเหรอ? ดูเหมือนชีวิตของคุณจะไม่มีค่าเท่าไหร่เลยนะ"

เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่ลี่ฉวินก็เดือดดาลขึ้นมาทันที "ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้คืบจะเอาศอกนะ สภาพอย่างแก ไปทำงานโรงงานก็ไม่มีใครเขาเอาหรอก และชาตินี้ก็หาเงินได้ไม่มาก ถ้าแกยังไม่ออกไป ก็อย่าหวังว่าจะได้สักแดงเดียว!"

หลี่เวยก้าวไปแย่งสัญญาแต่งงานจากมือของเฉินเทียน แล้วฉีกมันออกเป็นชิ้นๆ

เฉินเทียนไม่ได้ต่อต้าน เพียงหัวเราะเบาๆ ออกมา "หวังว่าคุณจะไม่เสียใจกับการกระทำของตัวเองในวันนี้นะ แล้วยังจะตระกูลจ้าวของพวกคุณอีก สักวันหนึ่ง อย่ามาคุกเข่าขอร้องฉันก็แล้วกัน"

"ขอร้องแก? แกประสาทหรือเปล่า? ตระกูลหลี่ของเราเป็นถึงตระกูลใหญ่ ตอนนี้ก็ยิ่งได้เกี่ยวดองกับตระกูลจ้าว คนบ้านนอกคอกนาอย่างแกแค่จะเงยหน้ามามองเราก็ยังไม่มี คนที่ยิ่งใหญ่จะไปข้อร้องมดแมลงเม่าอย่างแกหรือไง?"

"ฮ่าฮ่าฮ่า..."

ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา พร้อมกับมองมาที่เฉินเทียนราวกับมองดูไอ้งั่งคนหนึ่งอยู่

"คุณหนูหลิ่วมาถึงแล้วครับ!"

เมื่อได้ยินเสียงที่ดังแว่วมาจากข้างนอก จู่ๆ ทุกคนก็สงบลงในทันที โดยสมองได้ผุดตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองเจียงโจวขึ้นมา ซึ่งมันก็คือตระกูลหลิ่วแห่งเมืองเจียงโจวนั่นเอง

ทุกคนต่างเงยหน้าและหันไปมองด้านนอก และก็ได้พบกับหญิงสาวในชุดฮั่นฝูสีขาวปักลายได้เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

รูปร่างของเธอไม่มีใครเทียบได้ โดยที่หน้าตานั้นก็ไร้ที่ติ ราวกับนางฟ้าที่เดินออกมาจากภาพวาด สวยจนทุกคนต้องตกตะลึง

และหลี่เวยที่คิดว่าตัวเองเป็นสาวสวยมาโดยตลอดนั้น แต่ในเวลานี้ เธอกลับรู้สึกด้อยกว่าเป็นอย่างมาก

ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้น แต่ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นคุณหนูหรือคุณหญิงคุณนายต่างก็แสดงความตกตะลึงและอิจฉาตาร้อนออกมาอย่างปกปิดเอาไว้ไม่อยู่ในขณะนี้

"ช่างสวยจริงๆ ราวกับนางฟ้าเดินดินอย่างไงอย่างงั้น"

"ได้ยินมานานแล้วว่า คุณหนูตระกูลหลิ่วสวยอย่างกับนางฟ้า เป็นคนสวยประจำเมืองเจียงโจวของเรา วันนี้มาได้เห็นกับตา ช่างสวยสมคำร่ำลือจริงๆ"

ส่วนพวกผู้ชายที่อยู่ตรงนั้น เมื่อได้เห็นหลิ่วชิงหลานแล้วต่างก็ตกตะลึงและดวงตาเต็มไปด้วยความเร่าร้อน

จ้าวเลี่ยงเองที่เดิมทีก็กะล่อนเป็นปกติอยู่แล้ว เมื่อเห็นหลิ่วชิงหลานแล้วนั้น ดวงตาของเขาก็ได้เผยความโลภมากออกมาเช่นกัน และจู่ๆ ก็รู้สึกว่าหลี่เวยที่อยู่ข้างกายนั้นไม่ได้สวยอีกต่อไป

"คุณหนูหลิ่วมาที่นี่ได้ยังไง? หรือว่าเธอก็มาร่วมงานหมั้นของคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลี่ด้วยเหมือนกัน?"

"คุณหนูหลิ่วเป็นตัวแทนของตระกูลใหญ่ประจำเมืองเจียงโจวของเรา ถ้าเธอมาร่วมงานหมั้นจริงๆ งั้นตระกูลหลี่ก็คงจะได้หน้ามากเลยนะ"

"คาดว่าน่าจะเห็นแก่หน้าตระกูลจ้าวด้วยล่ะมั้ง แม้ว่าตระกูลจ้าวจะไม่ทัดเทียมกับตระกูลหลิ่ว แต่ยังไงเสียก็เป็นตระกูลใหญ่ลำดับต้นๆ ด้วยเหมือนกัน"

ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน พร้อมกับดวงตาที่ร้อนระอุ

ทุกคนในบ้านตระกูลหลี่รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และหลี่ลี่ฉวินก็รีบเข้ามาทักทายในทันที "ลำบากคุณหนูหลิ่วเดินทางมาไกล ช่างเป็นเกียรติกับตระกูลหลี่ของเราจริงๆ กระผมไม่ได้ออกมาต้อนรับอย่างทันท่วงที ต้องขออภัยจริงๆ นะครับ"

สมาชิกในตระกูลหลี่คนอื่นๆ ก็รีบกรูเข้ามาด้วยเช่นกัน โดยที่แขกเหรื่อทั้งหลายก็ไม่อยากจะพลาดทำความรู้จักกับหลิ่วชิงหลาน แค่ให้เธอเห็นหน้าก็ยังดี

เพราะขอแค่หลิ่วชิงหลานจำพวกเขาได้ ต่อไปก็จะเข้าหาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

"ไอ้ขอทานหลีกไปไกลๆ อย่ามาขวางทางฉันนะ!" หลี่เวยถลึงตาใส่เฉินเทียนด้วยความรังเกียจ จากนั้นก็รีบเดินอ้อมเขาเข้าไปหาหลิ่วชิงหลานในทันที

"เป็นเธอไปได้ยังไง?" เฉินเทียนรู้สึกประหลาดใจมาก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่เคยนอนกับเขาเมื่อคืนที่ผ่านมาจะเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองเจียงโจวไปได้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status