Share

บทที่ 8

หลังจากที่ถอดเสื้อคลุมออก หลิ่วชิงหลานก็หยุดชะงัก พร้อมกับมองมาที่เฉินเทียนด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ "คุณช่วยหันหลังไปก่อนได้หรือเปล่า?"

"ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยเห็น ยิ่งไปกว่านั้นอีกเดี๋ยวก็ยังจะให้ผมดูไม่ใช่เหรอ" เฉินเทียนพูดด้วยรอยยิ้มขณะที่นั่งอยู่บนเตียง

หลิ่วชิงหลานคิดๆ มันก็ใช่ ดังนั้นเธอจึงกัดฟันแล้วถอดกระโปรงออก เหลือไว้เพียงชุดชั้นในเท่านั้น

เฉินเทียนนั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับชื่นชมอย่างไม่กะพริบตา แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็น แต่ทุกครั้งที่ได้ชื่นชม มันก็ทำให้เขามีความสุขเป็นอย่างมาก

หลิ่วชิงหลานหน้าแดงไปถึงใบหู แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมีอะไรกับเฉินเทียน แต่ครั้งนั้นเธอจำอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นสำหรับเธอแล้ว มันแตกต่างจากครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง

"ดื่มน้ำสักแก้วก่อน"

เฉินเทียนรินน้ำและยื่นส่งให้กับหลิ่วชิงหลาน จากนั้นเธอก็รับมาจิบไปหนึ่งอึก

รอยยิ้มขี้เล่นปรากฏบนริมฝีปากของเฉินเทียน จากนั้นเขาก็อุ้มเธอไปที่เตียง และวางเธอลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล

"คุณเบาหน่อย มันเป็นครั้งแรกของฉัน" หลิ่วชิงหลานเขินอาย เป็นกังวลและหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย

แต่ทว่าความหวาดกลัวของเธอก็อยู่ได้ไม่นาน ไม่นานเธอก็รู้สึกถึงความง่วงเหงาหาวนอนที่ถาโถมเข้ามา จากนั้นก็ผล็อยหลับไปอย่างมึนๆ งงๆ

เฉินเทียนหยิบกล่องเล็กๆ ออกมา จากนั้นก็ดึงเข็มเงินเพื่อฝังเข็มให้กับเธอ

โรคหัวใจของหลิ่วชิงหลานร้ายแรงมาก แม้ว่าครั้งที่แล้วเขาจะช่วยฝังเข็มให้กับเธอ แต่มันก็ยังไม่ได้หายขาด จึงจำเป็นที่จะต้องทำอีกครั้ง

หลังจากฝังเข็มเสร็จ เฉินเทียนก็ห่มผ้าให้กับเธอ

จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาเจียงยวี่โหรว "มารับฉันที่หน้าประตูโรงแรมเจียงตง"

ครึ่งชั่วโมงต่อมาเฉินเทียนก็เดินออกมาจากโรงแรม โดยมีเจียงยวี่โหรวขับรถเบนซ์มารอเขาอยู่ที่หน้าประตูแล้ว

"คุณเฉินคะ คุณจะไปไหน?" หลังจากเฉินเทียนเข้ามาในรถ เจียงยวี่โหรวก็ได้ถามออกมา

"กลับบริษัท!"

ช่วงนี้เฉินเทียนได้พักอยู่สำนักงานแทบจะทุกวัน ในนั้นมีห้องแยกต่างหาก โดยที่ภายในมีเตียงและสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน การพักอยู่ที่นั่นก็สะดวกสบายมาก

เขาไม่ได้ซื้อบ้าน เพราะอยู่เพียงลำพัง การซื้อบ้านจึงไม่มีความหมายอะไร

ไม่นานหลังจากที่เฉินเทียนได้กลับมาที่บริษัท จ้าวเลี่ยงก็ได้ขับรถพาหลี่เวยมาจอดที่ลานจอดรถของจื้อจุนกรุ๊ป

"ที่รักคะ ท่านประธานอยู่ในนี้จริงๆ หรือคะ?" หลี่เวยถามขึ้นมา

"มันก็ต้องจริงอยู่แล้ว พี่ชายของเพื่อนผมเป็นคนในจื้อจุนกรุ๊ป ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันท่านประธานได้เดินทางมาที่เมืองเจียงโจวของเราอย่างเงียบๆ ตอนนี้ไม่มีใครรู้ ซึ่งสำหรับเราแล้วมันเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก ขอแค่เราสามารถปีนป่ายท่านประธานได้ ตระกูลจ้าวของเราก็จะกลายเป็นตระกูลหลักอย่างแท้จริง การก้าวข้ามสี่ตระกูลหลักก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม"

ยิ่งจ้าวเลี่ยงพูดมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นแค่นั้น ราวกับว่าเขาได้เห็นภาพอนาคตที่สดใสอยู่ตรงหน้าอย่างไงอย่างงั้น

"ไปกันเถอะ เราเข้าไปกันดีกว่า"

จ้าวเลี่ยงพาหลี่เวยเดินไปที่ประตู

หลี่เวยซับหน้าขณะที่เดิน และปลดกระดุมออกอีกเม็ด เผยให้เห็นผิวขาวใสราวหิมะเป็นบริเวณกว้าง

เธอมีแผนการเล็กๆ น้อยๆ อยู่ในใจแล้ว นั่นคือดูว่าเธอจะมีโอกาสได้รับความสนใจจากท่านประธานหรือไม่

ท่านประธานยิ่งใหญ่ราวกับเทพเจ้า แม้จะเป็นกิ๊กของเขา สถานะก็จะสูงขึ้นเป็นสิบกว่าเท่าทันที แม้แต่คุณชายทั้งสี่ตระกูลก็ต้องเกรงใจเมื่อได้พบกับเธอ

"หยุด! พวกคุณจะทำอะไร?"

เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองเห็นจ้าวเลี่ยงและหลี่เวยเดินเข้ามา พวกเขาก็ถามเสียงดังขึ้นมาทันที

"ฉันชื่อจ้าวเลี่ยง คุณชายใหญ่ตระกูลจ้าว เธอคือคู่หมั้นของฉัน หลี่เวย คุณหนูใหญ่จากตระกูลหลี่ พวกเรามาขอพบท่านประธาน รบกวนแจ้งให้ท่านทราบที"

ท่าทางของจ้าวเลี่ยงดูอ่อนน้อมมาก

แม้ว่าในใจของเขา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็แค่สุนัขเฝ้าประตูตัวหนึ่ง แต่นั่นก็ต้องดูว่าเป็นสุนัขของใครด้วย

ดังคำกล่าวที่ว่า ยามที่อยู่หน้าห้องรัฐมนตรีก็คือเจ้าหน้าที่ระดับสูง และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของจื้อจุนกรุ๊ปก็คือสุนัขเฝ้าประตูระดับสูง มันก็ต้องได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไปอยู่แล้ว

"พวกคุณรออยู่ที่นี่ก่อน"

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งเดินเข้ามา

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยังไม่ได้รายงานต่อเฉินเทียน เพราะท้ายที่สุดแล้วท่านประธานไม่อนุญาตให้ใครก็สามารถเข้าพบได้ ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องรายงานต่อเจียงยวี่โหรวเสียก่อน

"ปล่อยให้พวกเขาเข้ามา"

สำหรับเจียงยวี่โหรวแล้ว จ้าวเลี่ยงและหลี่เวยไม่ได้เป็นคนแปลกหน้าแต่อย่างใด เพราะในเมืองเจียงโจวตระกูลของจ้าวเลี่ยงก็ถือว่ามีชื่อเสียง เรื่องนี้เธอรับรู้ดี

ส่วนหลี่เวยเธอก็รู้จักด้วยเช่นกัน เธอคืออดีตคู่หมั้นของท่านประธาน ล้มเลิกงานแต่งเพราะรังเกียจท่านประธานและไปหมั้นหมายกับจ้าวเลี่ยง

หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็พาจ้าวเลี่ยงและหลี่เวยไปที่ห้องทำงานของเจียงยวี่โหรว

เมื่อจ้าวเลี่ยงเห็นรูปร่างที่เพรียวบางและใบหน้าที่ละเอียดอ่อนแบบนั้นของเจียงยวี่โหรว ความโลภก็แวบเข้ามาในดวงตาของเขาในทันที

แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะแสดงมันออกมา ไม่ว่าจะในสถานะคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจียง หรือเลขาของท่านประธาน เจียงยวี่โหรวก็ไม่ใช่คนที่เขาจะรุกรานได้

"สวัสดีครับคุณเจียง ผมจ้าวเลี่ยงคุณชายใหญ่ของตระกูลจ้าว ส่วนเธอหลี่เวย คู่หมั้นของผมครับ"

จ้าวเลี่ยงและหลี่เวยต่างก็พยักหน้าและโค้งคำนับ โดยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความประจบเอาใจ

"พวกคุณต้องการพบท่านประธาน?" เจียงยวี่โหรวถามขึ้นมา

"ใช่ครับ ต้องรบกวนคุณเจียงแจ้งให้ท่านทราบด้วยนะครับ" จ้าวเลี่ยงพูดด้วยรอยยิ้มที่ประจบประแจง

"ท่านประธานงานยุ่งจะตายไป ไหนเลยจะมีเวลามาสนใจพวกคุณ ไม่มีอะไรก็รีบกลับไปเถอะ" เจียงยวี่โหรวพูดอย่างหมดความอดทน

"คุณเจียงครับ เราเตรียมจัดงานแต่งที่โรงแรมเจียงโจวในไม่กี่วันข้างหน้า ก็เลยอยากจะเชิญท่านประธานมาร่วมด้วย ต้องรับกวนคุณเจียงช่วยสักหน่อยนะครับ"

จ้าวเลี่ยงหยิบบัตรธนาคารและกล่องไม้สี่เหลี่ยมออกมาขณะที่เขาพูด "ในบัตรนี้มีเงินสองร้อยห้าสิบล้าน และในกล่องก็มีโสมพันปีอยู่หนึ่งต้น น้ำใจเล็กน้อย ขอให้คุณรับไว้ด้วยนะครับ"

"พวกคุณรออยู่ที่นี่ก่อน"

เจียงยวี่โหรวถือของเข้าไปพบเฉินเทียน

"คุณเฉินคะ จ้าวเลี่ยงและหลี่เวยกำลังจะจัดงานแต่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อยากให้ท่านไปร่วมงานด้วย ท่านว่าจะให้โยนพวกเขาออกไปไหมคะ?" เจียงยวี่โหรวขอความคิดเห็น

"ไม่จำเป็น คุณไปบอกพวกเขาว่า งานแต่งของพวกเขาฉันจะไปร่วมด้วย" เฉินเทียนมองดูโสมพันปีแวบหนึ่ง นี่เป็นของดีมากๆ มีเงินก็ยากที่จะซื้อหามาได้

"อะไรนะคะ?"

เจียงยวี่โหรวรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรมาก แค่กลับไปแจ้งข่าวให้จ้าวเลี่ยงและหลี่เวยทราบก็เท่านั้น

ทันทีที่รู้ว่าท่านประธานจะมาร่วมงานแต่งของตัวเอง ทั้งสองคนก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ขอแค่ท่านประธานมาร่วมงานแต่งของพวกเขาได้ สถานะของตระกูลจ้าวของพวกเขาก็จะสูงขึ้นทันที จากนั้นทุกครอบครัวและธุรกิจในเมืองเจียงโจวจะต้องเข้ามาประจบประแจงพวกเขาอย่างแน่นอน

เวลาครึ่งเดือนผ่านไปชั่วพริบตา

ในวันนี้เฉินเทียนกำลังอยู่ในห้องทำงาน เพลิดเพลินกับการนวดของเจียงยวี่โหรว จู่ๆ เขาก็ได้รับโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ

"ฮัลโหล! นั่นคุณเฉินหรือเปล่า?"

เสียงอันไพเราะดังมาจากโทรศัพท์มือถือ งดงามราวกับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ทำให้หัวใจสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า

"คุณคือหลิ่วชิงหลาน" เฉินเทียนถามอย่างไม่แน่ใจ

"ฉันเอง"

"คุณมีเบอร์ของผมได้ยังไง ผมจำได้ว่าไม่เคยให้คุณไว้นี่นา"

"คุณได้บันทึกตอนที่ลงชื่อเข้าพักที่โรงแรมก่อนหน้านี้น่ะ" หลิ่วชิงหลานอธิบาย

"คุณวิ่งไปที่โรงแรมเพื่อเช็กเบอร์ของผม คุณคงจะคิดถึงผมมากเลยใช่ไหม?"

รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ปรากฏบนริมฝีปากของเฉินเทียน

หลิ่วชิงหลานที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์มือถือกดฟันกรอดๆ หลังจากนอนกับเฉินเทียนสองครั้ง และทุกครั้งเธอก็หมดสติอยู่ตลอด คิดๆ แล้วก็น่าโมโหแทบจะคลุ้มคลั่ง

"พรุ่งนี้คุณปู่ของฉันจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับคุณน่ะ เขาให้ฉันมาแจ้งให้คุณทราบสักหน่อย" หลิ่วชิงหลานระงับความโกรธแล้วพูดออกมา

หากไม่ใช่เพราะคุณปู่ของเธอกำชับมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะยังไงเธอก็จะไม่เป็นฝ่ายโทรติดต่อเฉินเทียนก่อนแน่ๆ

"คุณส่งเวลาและสถานที่มาให้ผมหน่อย ผมจะไปตรงตามเวลา" หลังจากที่เฉินเทียนพูดจบ เขาก็วางสายโทรศัพท์ไปทันที

ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ได้รับข้อความที่หลิ่วชิงหลานส่งมา ซึ่งนั่นก็คือพรุ่งนี้เช้าเก้าโมง ที่โรงแรมเจียงโจว

"ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกิน"

หลังจากที่เฉินเทียนเห็นเวลาและที่อยู่แล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เพราะงานแต่งงานของจ้าวเลี่ยงและหลี่เวยก็จัดขึ้นในวันพรุ่งนี้เช่นกัน และสถานที่ก็คือโรงแรมเจียงโจวอีกต่างหาก

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status