Share

บทที่ 9

โรงแรมเจียงโจวเป็นโรงแรมที่ใหญ่และหรูหราที่สุดในเมืองเจียงโจว โดยคนที่มาใช้บริการที่นี่ หากไม่เป็นเศรษฐีก็เป็นผู้รากมากดีกันทั้งนั้น

และในวันนี้ บรรยากาศก็ยิ่งเต็มไปด้วยความยินดี จ้าวเลี่ยงและหลี่เวยสวมชุดคู่บ่าวสาว ยืนอยู่ที่ประตูโรงแรมเพื่อคอยต้อนรับแขก

แขกเหรื่อที่เข้ามาร่วมแสดงความยินดีนั้นมีจำนวนมาก ซึ่งในจำนวนนี้ยังมีผู้คนจากตระกูลหลักมาร่วมงานอีกต่างหาก

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตระกูลจ้าวได้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ โดยแทบจะสามารถบีบตัวให้ขึ้นทัดเทียมกับตระกูลหลักได้แล้ว

แต่ทว่าสิ่งที่สามารถดึงดูดตระกูลหลักเหล่านี้จริงๆ กลับเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง นั่นก็คือท่านประธานสูงสุดนั่นเอง

ไม่กี่วันที่ผ่านมา จ้าวเลี่ยงได้ปล่อยข่าวออกไปแล้วว่า ท่านประธานสูงสุดจะมาร่วมงานแต่งของเขาด้วย

และนี่ก็เป็นระเบิดลูกใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะหากเป็นความจริง นั่นก็หมายความว่าตระกูลจ้าวจะได้เลื่อนขั้นไปอีกระดับหนึ่งทันที โดยถือว่าเป็นหน้าเป็นตาให้กับตระกูลหลิ่วด้วย

พวกเขาสามารถไม่สนใจต่อหน้าตาของตระกูลจ้าวได้ แต่สำหรับท่านประธานสูงสุดนั้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด

จ้าวเลี่ยงรอคอยให้ท่านประธานสูงสุดปรากฏตัวมาโดยตลอด แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ยังไม่ได้เข้ามาสักที

เมื่อเห็นว่าแขกเหรื่อมาถึงที่นี่ก็พอประมาณแล้ว และพิธีแต่งก็จะเริ่มแล้วด้วย จ้าวเลี่ยงจึงทำได้เพียงแต่ถอนหายใจออกมาเท่านั้น

และตอนที่จ้าวเลี่ยงกำลังจะพาหลี่เวยเดินเข้าไปนั้น จู่ๆ ก็มีรถแท็กซี่แล่นเข้ามาจอดที่หน้าประตู จากนั้นชายหนุ่มในชุดลำลองก็ได้ก้าวลงมา

ชายหนุ่มสองมือล้วงกระเป๋า และก้าวเข้ามาอย่างมั่นคง

"ไอ้ขอทาน แกมาที่นี่ได้ยังไง?"

ทันทีที่จ้าวเลี่ยงมองเห็นเฉินเทียน ใบหน้าของเขาก็ได้มืดลงในทันที

"มันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย!"

ก็แค่ตัวตลกตัวหนึ่งเท่านั้น เฉินเทียนขี้เกียจที่จะสนใจเขา พอพูดจบเขาก็เตรียมที่จะเดินเข้าไป

"หยุดเดี๋ยวนี้นะ!"

จ้าวเลี่ยงยื่นมือเข้าไปขวางเฉินเทียนเอาไว้ "วันนี้เป็นงานแต่งของฉันและเวยเวย ฉันได้เหมาทั้งโรงแรมเอาไว้แล้ว หรือว่าแกยังอยากจะมาดื่มฟรีกินฟรี?"

ลี่เวยกลอกตามองบน แล้วพูดอย่างรังเกียจขึ้นมาว่า "ฉันไม่เคยเห็นใครหน้าด้านหน้าทนเท่ากับนายมาก่อน นี่ขนาดวิ่งมากินฟรีที่งานแต่งของอดีตคู่หมั้นเลยอย่างนั้นเหรอ นายมีความละอายบ้างจะได้หรือเปล่า?"

จ้าวเลี่ยงยิ่งขู่ขึ้นมาโดยตรงว่า "ไอ้ขอทาน ฉันจะเตือนแกเอาไว้เลยนะ การแต่งงานของแกกับเวยเวยนั้นมันจบลงแล้ว ฉลาดก็รีบไสหัวออกไป ถ้าแกอยากจะเข้ามาสร้างปัญหาแล้วละก็ ฉันจะจัดการแกให้สาสมไปเลย!"

"นายแน่ใจนะว่า นายได้จองโรงแรมเอาไว้ทั้งหมดแล้ว?" เฉินเทียนยิ้มเยาะ

"แน่นอน ยกเว้นห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวห้องหนึ่งเท่านั้น" จ้าวเลี่ยงพูดอย่างหยิ่งผยอง

เดิมทีเขาตั้งใจจะจองทั้งหมด แต่ห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวหนึ่งห้องได้ถูกคนจองเอาไว้แล้ว และก็ยังเป็นคนใหญ่คนโตอีกต่างหาก

"ก็ใช่น่ะสิ ฉันจะไปห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวห้องนั้น ไม่ใช่งานแต่งของพวกนาย หลีกทางด้วย" เฉินเทียนค่อนข้างจะหมดความอดทน

"แกต้องการจะไปห้องจัดเลี้ยงส่วนตัว?"

จ้าวเลี่ยงพูดแขวะออกมาว่า "ไอ้หนุ่ม แกรู้ว่าคนที่จองห้องจัดเลี้ยงส่วนตัวนั้นเป็นใครหรือเปล่า? นั่นมันคนของตระกูลหลิ่วเลยนะ ตระกูลหลักในเมืองเจียงโจว วันนี้พวกเขาเชิญแขกคนสำคัญมา แกคงจะไม่บอกว่า แกเป็นแขกคนสำคัญคนนั้นหรอกนะ"

เฉินเทียนพยักหน้า "ใช่ ฉันคือแขกคนสำคัญที่พวกเขาเชิญมา"

"ฮ่าฮ่าฮ่า..."

จ้าวเลี่ยงและหลี่เวยต่างก็หัวเราะออกมาเสียงดังโดยไม่คำนึงถึงภาพพจน์แต่อย่างใด

"แกคงไม่ได้ตั้งใจจะมาเล่นตลกหรอกใช่ไหม ขอทานตัวเหม็นๆ คนหนึ่ง ยังกล้าบอกว่าตัวเองเป็นแขกคนสำคัญของตระกูลหลิ่วอีก ทำไมไม่หัดตักน้ำใส่กะโหลกแล้วชะโงกมองเงาของตัวเองบ้าง" จ้าวเลี่ยงพูดอย่างไม่แยแส

หลี่เวยบุ้ยๆ ปากแล้วพูดว่า "ไอ้ขอทาน แกอย่างคิดว่าแกรู้จักกับคุณหนูใหญ่ตระกูลหลิ่วแล้วจะแสร้งทำเป็นแขกคนสำคัญของตระกูลหลิ่วใครเขาได้นะ ฉันได้ไปสอบถามมาแล้ว แกเป็นแค่นักต้มตุ๋นคนหนึ่งที่หลอกคุณหนูใหญ่ตระกูลหลิ่วว่าเป็นหมอเทวดา วันนั้นคุณหนูหลิ่วพาแกไปตรวจอาการป่วยปู่ของเธอที่โรงพยาบาล"

"ผลลัพธ์ก็คือไปเจอหมอเทวดาตู๋กูเข้า จึงถูกเปิดโปงโดยตรง จากนั้นคนในตระกูลหลิ่วก็ให้คนไล่ตะเพิดแกออกมา ฉันพูดถูกหรือเปล่า?"

"แล้วคุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป?" เฉินเทียนถามขึ้นมา

หลี่เวยหัวเราะเยาะ "ยังจะต้องให้พูดอีกเหรอ ก็ต้องเป็นหมอเทวดาตู๋กูอยู่แล้วที่รักษาคุณท่านหลิ่วจนหาย แกอยากจะเป็นต้มตุ๋นฉันไม่อยากจะสนใจหรอก แต่ถ้าแกอยากจะมาหลอกในงานแต่งของฉันแบบนี้แล้วละก็ เชื่อหรือไม่ว่าฉันจะให้คนมากระทืบแกจนขาหักไปเลย!"

แสงเย็นๆ แวบขึ้นมาในดวงตาของเฉินเทียน "ตอนแรกผมก็ไม่อยากจะถือสาอะไรพวกคุณหรอกนะ แต่พวกคุณกลับยืนกรานจะมายั่วผมแบบนี้ งั้นงานแต่งของพวกคุณก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดอีกต่อไปแล้ว"

"ไสหัวออกไป!"

พอพูดจบ เฉินเทียนก็ได้ผลักหลี่เวยออกไป และก้าวฉับๆ เข้าไปข้างในทันที

"ไอ้ขอทาน แกกล้าดียังไงถึงมาผลักฉันแบบนี้!" หลี่เวยโกรธจัด และรีบวิ่งตามจ้าวเลี่ยงเข้าไป

หลังจากที่เดินเข้ามา เฉินเทียนก็หาที่นั่ง ในเมื่อจ้าวเลี่ยงและหลี่เวยอยากจะเล่น งั้นเขาก็พร้อมที่จะเล่นกับพวกเขาให้ดีๆ เสียสักตั้ง

"นี่มันอดีตคู่หมั้นของคุณหนูหลี่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงมาที่นี่?"

"นี่กล้ามาร่วมงานแต่งของอดีตคู่หมั้น เขาคิดอะไรอยู่?"

"คนคนนี้หน้าด้านหน้าทนเสียจริงๆ ถ้าเป็นฉันก็คงจะมุดดินหนีไปแล้วล่ะ"

"เขาเป็นแค่ขอทานคนหนึ่ง หน้าจะไม่ด้านได้ยังไง"

แขกเหรื่อต่างพากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์อย่างเหน็บแนม พวกเขาส่วนใหญ่เคยเห็นเฉินเทียนมาก่อน ดังนั้นจึงรู้จักเป็นธรรมดา

โดยที่หลังจากเฉินเทียนได้ออกไปในวันนั้น ตระกูลหลี่ก็ได้ส่งคนไปสะกดรอยตามอย่างเงียบๆ อยากรู้ว่าเฉินเทียนและหลิ่วชิงหลานมีความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่

ผลที่ได้ก็คือ พวกเขาแอบฟังอยู่ที่ประตูและรู้ว่าเฉินเทียนเป็นแค่ต้มตุ๋นคนหนึ่ง เขาถูกหมอเทวดาตู๋กูเปิดโปงในทันที จากนั้นคนตระกูลหลิ่วก็ไล่ตะเพิดเขาออกมาแล้ว

ในเมื่อตอนนี้ยืนยันได้แล้วว่าเฉินเทียนเป็นแค่ขอทานที่ไม่มีพิษสงอะไร ทุกคนจึงหัวเราะเยาะเขาตามใจชอบอย่างไม่ต้องสงสัย

ในเวลานี้จ้าวเลี่ยงและหลี่เวยก็ได้วิ่งตามเข้ามา เดิมทีทั้งสองอยากจะฟาดงวงฟาดงา แต่เมื่อคิดถึงแขกเหรื่อจำนวนมากที่อยู่ในงาน อีกทั้งท่านประธานสูงสุดก็ยังไม่มาแบบนี้ พวกเขาจึงทำได้เพียงอดกลั้นเอาไว้เท่านั้น

จ้าวเลี่ยงเดินเข้ามาหาเฉินเทียน ตบไหล่ของเขาเบาๆ แล้วพูดว่า "ไอ้หนุ่ม วันนี้เป็นวันมงคลของฉัน เรื่องที่แกมาสร้างปัญหาในงานแต่งของฉัน ฉันจะไม่ถือสาหาความ แกอยากจะกินจะดื่มก็ได้ ฉันจะเตรียมเอาไว้ให้นายหนึ่งชุด"

"เข้ามา เตรียมอาหารหมาวางไว้ที่หน้าประตูสักชุดนะ"

บางโรงแรมจะมีอาหารสุนัขจัดเตรียมเอาไว้ ในไม่ช้าก็มีคนนำอาหารสุนัขมาวางไว้ที่หน้าประตู

จ้าวเลี่ยงพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ไอ้หนุ่ม นี่เป็นอาหารสุนัขอย่างดีเลยนะ ปกติแกไม่มีปัญหาที่จะกินหรอก รีบเข้าไปกินสิ"

"ฮ่าฮ่าฮ่า..."

ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา หัวเราจนโยกหน้าโยกหลัง ปากหุบไม่ได้เลยทีเดียว

เฉินเทียนไม่ได้โกรธอย่างที่ใครๆ คิดเอาไว้ เขาแค่หลับตาแล้วแตะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ

"คุณเจียงมาถึงแล้ว"

เมื่อได้ยินว่าเจียงยวี่โหรวมาถึงแล้ว จ้าวเลี่ยงก็ไม่มีเวลาสนใจเฉินเทียนแต่อย่างใด และรีบดึงหลี่เวยออกไปต้อนรับในทันที

"เชิญเลยครับคุณเจียง ต้องขออภัยด้วยนะครับ" จ้าวเลี่ยงเดินเข้าไปทักทาย พร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ "คุณเจียงครับ ท่านประธานสูงสุดล่ะครับ?"

"ท่านประธานสูงสุดมาถึงนานแล้วนี่" เจียงยวี่โหรวพูดด้วยรอยยิ้ม

"อยู่ที่ไหรหรือครับ? ทำไมมองไม่เห็นเลย?" จ้าวเลี่ยงสับสน

"ท่านประธานสูงสุดกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องพักของโรงแรม" เจียงยวี่โหรวพูดพร้อมกับหยิบการ์ดห้องออกมาแล้วยื่นให้หลี่เวย "คุณเข้าไปพบท่านประธานสูงสุดก่อนเถอะ คุณชายจ้าว ฉันมีเรื่องจะต้องคุยกับคุณสักหน่อย"

เมื่อได้รับการ์ดห้องแล้วนั้น หลี่เวยก็แทบจะรอไม่ไหวที่จะวิ่งเข้าไปในทันที ตอนนี้เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะท้ายที่สุดแล้ว เธอก็มีโอกาสพบกับท่านประธานสูงสุดจนได้

และการอยู่ตามลำพังเพียงสองต่อสองในห้องพักในโรงแรมก็เปรียบเสมือนสวรรค์สำหรับเธอ

เธอตั้งในเอาไว้แล้วว่า อีกเดี๋ยวเธอจะต้องพยายามใช้ร่างกายยั่วยวนท่านประธานสูงสุดให้ได้ แม้ว่าจะต้องกลายเป็นเมียเก็บของเขา เธอก็ยินยอมพร้อมใจ

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ท่านประธานสูงสุดเป็นเสมือนเทพบนทรวงสวรรค์ เพียงเขายื่นมือออกมาคว้าตัวเธอ เธอก็สามารถบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้แล้ว

หลังจากที่มาถึงประตู หลี่เวยก็กดกริ่งหน้าประตู จากนั้นก็รออย่างใจจดใจจ่อ

"เข้ามา"

เสียงของชายคนหนึ่งดังมาจากข้างใน หลี่เวยรู้สึกว่าเสียงนั้นมันช่างคุ้นเคยเสียเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป แต่เมื่อเธอเห็นคนที่อยู่ข้างใน เธอก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจในทันที

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status