Share

บทที่ 10

เธอเห็นเพียงชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟาเท่านั้น และหากจะพูดให้ถูกก็คือ เขาเป็นชายชราคนหนึ่ง

และบุคคลคนนี้ก็คือเฉินเทียน แต่ทว่าใบหน้าของเขาได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่เพียงผมขาวโพลนไปทั้งหัว แต่ยังเต็มไปด้วยรอยตีนกา และรอยแผลเป็นอีกมากมาย ดูแล้วน่าสยดสยองเป็นที่สุด

"ท่านคือท่านประธานสูงสุดหรือคะ?" หลี่เวยถามออกมาอย่างหวาดกลัว มีความรู้สึกอยากจะหันหลังกลับในทันที

แม้จะมีข่าวลือบอกว่าท่านประธานสูงสุดทั้งแก่ทั้งน่าเกลียด และเธอก็ได้เตรียมใจตั้งแต่เนิ่นๆ เอาไว้แล้ว แต่นี่มันแก่เกินไปและน่าเกลียดเกินไปด้วย อายุของเขาสามารถเป็นปู่ของเธอได้แล้ว รูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ และยังเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น แค่เห็นก็รู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมาแล้ว

"เธอกล้าสงสัยในตัวตนของฉันงั้นเหรอ?"

ทันทีที่เฉินเทียนถลึงตาใส่ หลี่เวยก็ตกใจจนขาแทบอ่อนแรง "ฟุ่บ" จากนั้นเธอก็คุกเข่าลงไปที่พื้นโดยตรง "ดิฉันไม่กล้า ท่านประธานสูงสุดอย่าถือสาเลยนะคะ"

"ลุกขึ้นเถอะ" เฉินเทียนพูด

"ขอบคุณค่ะท่านประธาน"

หลังจากที่หลี่เวยลุกขึ้นยืน เธอก็ถอนหายใจออกมา พร้อมกับระงับความกลัวภายในจิตใจเอาไว้

เธอปลงตกแล้วว่า ไม่ว่าท่านประธานสูงสุดจะมีหน้าตาแบบไหน เธอก็จะคิดหาวิธียั่วยวนเขาให้ได้

ซึ่งเธอก็มั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเองมาก ประกอบกับวันนี้เธอเป็นเจ้าสาว สวมชุดแต่งงานที่ขาวบริสุทธิ์ มันเป็นเวลาที่เธอสวยที่สุดในชีวิต

เธอมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ขอแค่เป็นผู้ชาย ไหนเลยจะไม่ใจเต้น

"ท่านประธานสูงสุดคะ ฉันอยากเข้าไปนั่งใกล้ๆ ท่าน ท่านจะว่าอะไรไหมคะ?" หลี่เวยลองถามหยั่งเชิง

เฉินเทียนพยักหน้า

หลี่เวยรู้สึกดีใจแบบสุดๆ จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปหาเฉินเทียน และพยายามนั่งให้ใกล้ได้มากที่สุด และยังวางมือข้างหนึ่งเอาไว้บนขาของเฉินเทียนอีกต่างหาก

เมื่อเห็นว่าเฉินเทียนไม่โกรธ เธอก็ยิ่งกล้ามากยิ่งขึ้น โดยที่ค่อยๆ นอนราบไปบนตัวของเฉินเทียน พร้อมกบฝากรอยจูบไปบนหน้าและลำคอของเขาอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังได้จับมือของเฉินเทียนมาวางทาบบนลำตัวของเธอ ให้เขาได้สัมผัสกับจุดที่อ่อนนุ่มที่สุด

ในตอนที่เธอกำลังจะจูบปากของเฉินเทียนนั้น กลับถูกเฉินเทียนยกมือมาหยุดเอาไว้ "วันนี้คุณเป็นเจ้าสาวนะ ทำแบบนี้มันไม่ค่อยดีมั้ง"

"การได้รับใช้ท่านประธานสูงสุดเป็นความปรารถนาสูงสุดในชีวิตของฉัน ขอแค่ท่านเอ่ยมาเพียงหนึ่งคำ งานแต่งงานในวันนี้จะล้มเลิกทั้งหมด"

หลี่เวยมองเฉินเทียนอย่างคาดหวัง

"พวกคุณกำลังจะแต่งงานกันแล้วนะ หรือว่าพวกคุณไม่ได้รู้สึกอะไรเลย?" เฉินเทียนถามขึ้นมา

"ฉันจะรู้สึกอะไรกับเศษสวะแบบนั้นได้" หลี่เวยพูดอย่างเหยียดหยามออกมา "ท่านประธานสูงสุดคะ ท่านไม่รู้อะไร จ้าวเลี่ยงไอ้เศษสวะนั่น ก่อนหน้านี้ก็มั่วไปทั่ว สูญเสียความสามารถของผู้ชายไปตั้งนานแล้วค่ะ ฉันแต่งงานกับเขาก็แค่ผลประโยชน์ของครอบครัวเท่านั้น แล้วจะมีความรู้สึกอะไรได้ล่ะคะ"

"จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังบริสุทธิ์อยู่ ขอให้ฉันได้มอบครั้งแรกที่แสนจะสำคัญให้กับท่านเถอะนะคะ"

หลี่เวยเผยความเขินอายออกมา จากนั้นเธอก็ถอดชุดแต่งงานนั้นออก และนอนราบไปกับโต๊ะ เพื่อรอคอยการเข้ามาคุกคามของเฉินเทียน

เฉินเทียนกระตุกริมฝีปากด้วยรอยยิ้มที่เย้ยหยัน ผู้หญิงคนนี้ไร้ยางอายเสียจริงๆ แม้แต่ในวันวิวาห์แบบนี้ เธอก็กล้าที่จะแอบเจ้าบ่าวมามอบตัวให้กับผู้ชายคนอื่นแบบนี้ได้

โชคดีเหลือเกินที่สัญญาการแต่งงานได้ถูกยุติลง ไม่อย่างนั้นหากแต่งผู้หญิงแบบนี้เข้ามา ไม่ช้าก็เร็วจะต้องสวมเขาให้กับเขาอย่างแน่นอน

"หลี่เวย ก่อนหน้านี้คุณยังมีอดีตคู่หมั้นด้วยไม่ใช่เหรอ เพื่อแต่งกับจ้าวเลี่ยง คุณได้ประกาศยกเลิกการแต่งงาน วันนี้รู้สึกเสียใจภายหลังบ้างหรือเปล่า?" เฉินเทียนถามอย่างมีความหมายออกมา

"คุณหมายถึงเฉินเทียนไอ้บ้านนอกนั่นนะเหรอ แค่เห็นเขาฉันก็อยากจะอ้วกแล้วล่ะค่ะ" หลี่เวยพูดอย่างมีความหวังเป็นอย่างยิ่ง "ท่านประธานสูงสุด เราอย่าพูดเรื่องนี้เลยดีกว่านะคะ คุณรีบเข้าเถอะค่ะ"

"หลี่เวย คุณหันกลับมาดูสิว่าฉันเป็นใคร"

"ท่านก็ต้องเป็นท่านประธานสูงสุด…"

หลี่เวยหันกลับไปมองอย่างอัตโนมัติ และพบกับเฉินเทียนที่ได้ถอดหน้ากากพิเศษออกมา เผยใบหน้าที่หล่อเหลาออกมาทันที

"เฉินเทียน เป็นนายไปได้ยังไง?"

หลี่เวยตกตะลึง

"คิดไม่ถึงล่ะสิ ผู้ชายที่คุณพยายามประจบเอาใจ กลับเป็นผู้ชายบ้านนอกที่คุณได้พูดเอาไว้" เฉินเทียนพูดอย่างไร้ความเมตตา

"ไอ้สารเลว แกกล้าดียังไงถึงมาปลอมตัวเป็นท่านประธานสูงสุด แกกล้ามาเลยนะ" หลี่เวยทั้งตกใจทั้งโกรธเกรี้ยว และมากไปกว่านั้นก็คือความอับอาย

และเมื่อเธอนึกถึงฉากที่ตัวเองกำลังหลอกล่อเฉินเทียนเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็แทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปให้ได้

"คุณพูดว่าผมปลอมตัวเป็นท่านประธานสูงสุด ใครสามารถยืนยันได้ล่ะ?" เฉินเทียนหัวเราะเยาะ

"แกคอยดูนะ ฉันจะไม่ปล่อยแกไปง่ายๆ แน่นอน"

หลี่เวยโกรธจัด หลังจากทิ้งคำพูดเอาไว้ เธอก็รีบออกไปในทันที

จ้าวเลี่ยงกำลังต้อนรับแขกเหรื่ออยู่ในห้องโถง เมื่อเห็นหลี่เวยเดินลงมา เขาก็รีบเข้าไปถามทันทีว่า "ท่านประธานสูงสุดล่ะ?"

"เราถูกเจียงยวี่โหรวหลอกแล้วล่ะ ไม่มีใครอยู่ในห้องเลย" หลี่เวยพูดด้วยความโกรธ

เธอไม่ได้บอกเรื่องของเฉินเทียน ไม่อย่างนั้นแล้วเรื่องนี้คงจะบานปลาย หากเฉินเทียนได้พูดเรื่องนี้ออกไป งั้นเธอก็คงยากที่จะอธิบาย

"เจียงยวี่โหรว นังแพศยา รับของฉันแล้วไม่ทำงาน ไม่ช้าก็เร็วเธอจะได้เห็นดีแน่!" จ้าวเลี่ยงโกรธจัด

แต่ทว่าเขาก็ไม่กล้าจะไปคิดบัญชีกับเจียงยวี่โหรว เพราะคนแบบนี้ไม่สามารถรุกรานได้

ในขณะนี้ จู่ๆ รูปภาพก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่

หลี่เวยที่เป็นเจ้าสาวได้ปรากฏตัวอยู่ในนั้น เริ่มตั้งแต่ที่เธอยั่วยวนเฉินเทียน

ในภาพ ใบหน้าของเฉินเทียนได้ถูกเซนเซอร์เอาไว้ แต่ใบหน้าของหลี่เวยนั้นกลับชัดเจนเป็นอย่างมาก

แขกเหรื่อที่อยู่ในงานต่างก็เบิกตากว้าง พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา

"หลี่เวยคนนี้มองภายนอกก็เหมือนกุลสตรี แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะหน้าด้านหน้าทน นี่ถึงขั้นกับไปยั่วผู้ชายคนอื่นในชุดแต่งงานแบบนี้เลยเหรอ ช่างแพศยาเสียสิ้นดี"

"จะพูดได้หรือเปล่าว่า หลี่เวยคนนี้ช่างร่านจริงๆ จะสงสารก็แต่คุณชายจ้าว ยังไม่แต่งเข้าบ้านก็ถูกสวมเขาซะยาวเชียว"

สายตาของหลายๆ คนที่มองหลี่เวยเปลี่ยนไปทันที มันดูเร่าร้อน และยังเกิดความคิดที่จะหาโอกาสได้ลองเล่นดูสักครั้ง

ซึ่งจ้าวเลี่ยงและหลี่เวยได้หันหลังให้กับจอภาพ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของแขกเหรื่อผิดปกติไป พวกเขาจึงรีบหันกลับไปมองทันที

จู่ๆ ใบหน้าของหลี่เวยก็แดงก่ำจนถึงใบหู โดยที่ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

แต่ทว่าจ้าวเลี่ยงกลับโกรธจัดจนควันออกหู "ปิด รีบปิดเร็วๆ เข้า!"

จ้าวเลี่ยงตะคอกเสียงดัง กระทั่งหลังจากที่ภาพหายไปแล้วหนึ่งนาที จ้าวเลี่ยงที่โกรธจัดจนแทบจะกระอักเป็นเลือดก็ได้หันมามองหลี่เวย สายตานั้นเต็มไปด้วยความอาฆาต

หลี่เวยตัวสั่นด้วยความกลัว "ที่รัก คุณฟังฉันอธิบายก่อนนะ เรื่องทุกอย่างมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกนะ"

"กลับไปค่อยคิดบัญชีกับคุณ!" จ้าวเลี่ยงถลึงตาใส่เธอ จากนั้นก็หันมาบีบยิ้มแห้งๆ กับเหล่าบรรดาแขกเหรื่อ "ภาพเมื่อครู่เป็นของปลอมทั้งหมดน่ะครับ จะต้องมีคนคิดร้ายกับเราอย่างแน่นอน ทุกท่านอย่าได้เชื่อนะครับ"

แต่ไม่ว่าเขาจะอธิบายอย่างไร ทุกคนก็ไม่ได้เชื่อเลยแม้แต่น้อย

จ้าวเลี่ยงก็เข้าใจในเรื่องนี้ดี และเขาก็โกรธแทบจะปวดฉีกแล้ว

ในเวลานี้ เฉินเทียนก็ได้เดินลงมาจากฉันบน จ้าวเลี่ยงจึงรีบกระโจนเข้าไปทันที "ไอ้สารเลว แกเป็นคนทำเรื่องพวกนี้ใช่ไหม?"

"ไอ้สารเลว แกกล้าใส่ร้ายฉัน ฉันจะฆ่าแกซะ!"

หลี่เวยโกรธจัดจนควันออกหู จากนั้นก็แยกเขี้ยวแยกฟันกระโจนเข้าไปหาเฉินเทียนในทันที

"เพี้ยะ!"

ด้วยเสียงตบที่ชัดเจนและดังสนั่น เฉินเทียนได้ตบหน้าของหลี่เวยอย่างรุนแรง

"แกกล้าตบฉัน?"

หลี่เวยกุมใบหน้าที่แสบร้อนของตัวเองด้วยความไม่เชื่อ

"แกมันรนหาที่ตาย!"

จ้าวเลี่ยงโกรธจัด ยกมือขึ้นมาจะฟาดไปที่เฉินเทียน

"เพี้ยะ!"

ด้วยเสียงตบที่ดังสนั่น รอยนิ้วมือห้านิ้วได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจ้าวเลี่ยง พร้อมกับเลือดสดๆ ที่ได้ไหลออกมาจากมุมปาก

"สบายดีหรือเปล่า? นี่คือผลลัพธ์ที่นายกล้ามาคุกคามฉัน" หลังจากพูดจบ เฉินเทียนก็ชกไปที่หน้าของเขาอีกครั้ง

จ้าวเลี่ยงถูกทุบตีอย่างหนักจนเขาล้มลงไปนั่งกับพื้น

"ไอ้หมอนี่มันกล้ามากจริงๆ นี่กล้าชกคุณชายจ้าวเลยเหรอ รนหาที่ตายชัดๆ"

"หัวหน้าตระกูลจ้าวมาแล้ว ไอ้หนุ่มนี่ต้องตายแน่ๆ"

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคน ชายคนหนึ่งก็รีบเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว "ใคร ใครมันทุบตีลูกฉัน?"

"พ่อครับ พอมาทันเวลาพอดี"

จ้าวเลี่ยงรีบวิ่งเข้าไปหาเขาทันที จากนั้นก็ชี้นิ้วมาที่เฉินเทียน แล้วพูดอย่างคับข้องใจและเดือดดาลขึ้นมาว่า "ไอ้สารเลวคนนั้นครับ ผมจะฆ่ามันให้ตายไปเลย"

"แกนั่นเอง!"

จ้าวหมิงฮุยต้องจำเฉินเทียนได้อยู่แล้ว "ไอ้เด็กเหลือขอ ฉันว่าแกจะกล้าเกินไปแล้วนะ เร็วเข้า ตีให้แขนขาของมันหัก แล้วโยนออกไปซะ"

ด้วยคำสั่งของจ้าวหมิงฮุย นักเลงในตระกูลจ้าวก็รีบกระโจนเข้าใส่เฉินเทียนอย่างดุร้ายในทันที

"หยุดนะ!"

บอดี้การ์ดหลายคนรีบวิ่งไปหาเฉินเทียนอย่างรวดเร็ว ขณะที่พวกเขากำลังจะลงมือ ผู้หญิงคนหนึ่งก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในห้องโถง

"คุณหลิ่ว คุณมาที่นี่ทำไม?"

คนที่มาก็คือหลิ่วชิงหลานนั่นเอง

จ้าวหมิงฮุยรีบเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้มทันที

"พวกคุณกำลังทำอะไร?" หลิ่วชิงหลานถามอย่างเฉียบขาดขึ้นมา

จ้าวหมิงฮุยชี้ไปที่เฉินเทียนแล้วพูดว่า "ไอ้หมอนี่มาสร้างปัญหาในงานแต่งของลูกชายผม และยังทุบตีลูกชายและลูกสะใภ้ของผมด้วย ผมกำลังจะให้คนสั่งสอนเขาอยู่พอดี ช่างน่าอายจริงๆ เลยครับ"

"คุณเฉินเป็นแขกตระกูลหลิ่วของเรา ใครก็ตามที่กล้าแตะต้องเขา ฉันจะถือว่าเป็นศัตรูกับตระกูลหลิ่วของเรา"

หลิ่วชิงหลานยืนอยู่หน้าเฉินเทียนในเวลานี้ และในตอนนี้เธอเหมือนดั่งราชินีผู้มีอำนาจและสูงศักดิ์ ออร่าแข็งแกร่งจนทำให้คนอื่นไม่กล้ามองสบตา

เฉินเทียนโน้มตัวเข้ามาข้างหนูเธอ แล้วกระซิบออกมา "คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะใส่ใจผมขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าคุณจะเกิดชอบผมขึ้นมาแล้วนะ?"

"คุณคิดมากไปแล้วล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะปู่ของฉัน ฉันก็ขี้เกียจจะมาสนใจคุณเสียด้วยซ้ำ" หลิ่วชิงหลานตะคอกอย่างเย็นชา

ระหว่างเธอและเฉินเทียน แม้จะพูดไม่ได้ว่าเกลียด แต่นั่นไม่ใช่ความรู้สึกดีๆ อยู่แล้ว

"คุณปู่ของคุณชอบผมมาก พวกเรายังมีความสัมพันธ์กันอีกด้วย งั้นคุณก็แต่งกับผมให้แล้วๆ กันไป" เฉินเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม

หลิ่วชิงหลานหันกลับมามองเฉินเทียน แล้วพูดอย่างโกรธๆ ว่า "ฉันเตือนคุณแล้วนะ เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ต่อไปอย่าพูดขึ้นมาอีก ไม่งั้นจะได้เห็นดีกันแน่"

ในอีกด้านหนึ่ง ตระกูลจ้าวและตระกูลหลี่ก็ได้ปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียดด้วยเช่นกัน

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการทำให้ตระกูลหลิ่วขุ่นเคืองใจ แต่เจ้าสาวเจ้าบ่าวถูกทุบตีแบบนี้ หากปล่อยไปมันก็คงจะทำให้ใครเขาหัวเราะจนฟังร่วง ต่อไปจะอยู่ในสังคมได้อย่างไรกัน?

หลังจากได้ปรึกษาหารือกันอย่างคร่าวๆ แล้ว พวกเขาก็มาหากหลิ่วชิงหลานทันที

"คุณหลิ่วคะ คุณว่าใบหน้าของลูกชายและลูกสะใภ้ผมถูกตีจนกลายเป็นแบบไหนแล้ว?" จ้าวหมิงฮุยพูดด้วยความโกรธ "ในเวลาปกติ เพื่อเห็นแก่หน้าตระกูลหลิ่วของพวกคุณ ผมสามารถยอมลดราวาศอกให้ได้ แต่วันนี้เป็นวันมงคลสำหรับพวกเขา แต่กลับต้องมาอับอายขายหน้าต่อแขกเหรื่อแบบนี้ หากความแค้นนี้ไม่ได้รับการชำระ ต่อไปตระกูลจ้าวและตระกูลหลี่จะมีที่ยืนอยู่ในเมืองเจียงโจวได้อย่างไร!"

หลี่ลี่ฉวินก็โกรธมากเช่นกัน "ถูกต้อง ไอ้หมอนี่จะต้องชดใช้!"

"คุณเฉินคือผู้มีพระคุณของปู่ฉัน ฉันไม่สามารถนิ่งดูดายได้ งั้นเอาแบบนี้ดีไหม เราถอยกันคนละก้าว ฉันจะให้เขาขอโทษพวกคุณ อีกทั้งฉันจะให้ห้าล้านเพื่อเป็นค่าชดเชยสำหรับพวกคุณด้วย" หลิ่วชิงหลานพูดออกมา

"ไม่ได้!"

จ้าวหมิงฮุยปฏิเสธออกมาโดยตรง พร้อมพูดอย่างเย็นชาออกมาว่า "เพื่อเห็นแก่หน้าของตระกูลหลิ่วของพวกคุณ เราสามารถถอยกันคนละก้าวได้ แต่หากจะให้ขอโทษง่ายๆ แบบนี้ มันดูจะฉาบฉวยเกินไปหรือเปล่า"

"งั้นความหมายของคุณคืออะไรล่ะ?" หลิ่วชิงหลานถามขึ้นมา

"ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!"

จ้าวหมิงฮุยพูดอย่างเย็นชาว่า "ให้ลูกชายและลูกสะใภ้ผมทุบตีกลับ นอกเหนือจากนั้นไม่ต้องพูดกัน"

"ยังจะต้องลอดใต้หว่างขาฉันไปด้วย ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่หายแค้น!" จ้าวเลี่ยงตะคอกอย่างโกรธๆ ออกมา

"ลอดใต้หว่างขามันดูจะเกินไปแล้ว" หลิ่วชิงหลานพูดขึ้นมา

จ้าวเลี่ยงระงับความโกรธแล้วพูดออกมาว่า "คุณหลิ่ว เห็นแก่คุณผมจะไม่ให้เขาลอดใต้หว่างขาก็ได้ แต่ผมจะต้องชกเขาเพิ่มอีกสองหมัด"

หลิ่วชิงหลานมองไปที่เฉินเทียน "คุณเฉินคะ ฉันได้พยายามแล้ว คุณให้พวกเขาชกกลับเถอะนะ"

เฉินเทียนยิ้มๆ และรอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย "ฉันเป็นคนที่ตบหน้าคนอื่นมาโดยตลอด คิดจะตบหน้าฉันงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ"

"คุณหลิ่ว คุณก็ได้ยินแล้วนะ พวกเราพยายามคุยดีด้วยแล้ว ไอ้หมอนี่มันรนหาที่ตายเอง ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็คงไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว"

"เข้ามา หักแขนหักขาเขาแล้วโยนออกไป!"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status