หนึ่งในนั้นคือผู้กองชนะเทพ ส่วนเธอนั้นเป็นเจ้าภาพส่งขนมนมเนยหรือนมกล่องให้เด็กๆ ตามกำลังทรัพย์ของตน“ผมได้ยินว่าคุณลินหาช่างมาซ่อมไฟ เครื่องสำรองไฟเสียใช่ไหมครับ”“อ้อ! ใช่ค่ะ ฝนตกหนักเมื่อสองสามวันก่อน ไฟฟ้าดับหลายชั่วโมงเลยเพิ่งรู้ว่าเครื่องสำรองไฟมันไม่ทำงาน”“นั้นแหละครับ ให้ผมดูให้นะครับ”“จะดีหรือคะ เกรงใจผู้กอง”“เรื่องเล็กน้อยเอง ให้ผมดูให้ก่อน ถ้าเกินความสามารถจะให้จ่าแจ็คมาช่วยซ่อมให้”ลลินยิ้มแหย เธอเข้าใจความหวังดีแต่ก็อดเกรงใจไม่ได้ และที่สำคัญ เธอคิดว่าเธอเข้าใจสายตาของผู้กองชนะเทพไม่ผิด สายตาที่มองเธอมีความหมายเกินเพื่อนไปไกลแล้ว ก่อนที่เขาจะเข้าใจผิดว่าเธอมีใจเอียงเอนหลงเสน่ห์ลักยิ้มที่ข้างแก้ม หรือผมสั้นเกรียนกับกลิ่นน้ำหอมCalvin Kleinและความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร อันที่จริงควรบอกว่าองค์ประกอบของผู้ชายที่ชื่อชนะเทพต่างหากที่ทำให้ลลินหวั่นไหวแต่มันไม่ใช่เวลานี้ หัวใจเธอยังมีแผล หากวันหนึ่งเธอจะรักใครสักคน ก็อยากรักคนๆนั้น ด้วยหัวใจที่หายดี“ไอ้เครื่องสำรองไฟนั้นนะแค่สายไฟขาดเท่านั้น สงสัยหนูจะแทะสายไฟ”น้ำเสียงเนิบช้าเหมือนคนเกียจคร้านดังขึ้นเรียกสติของลลิน ร่า
“ใครทำอะไรคุณ” เขาถามพลางใช้นิ้วโป้งคลึงริมฝีปากเธอเบาๆ “สามีเก่าคุณเหรอ”ลลินตั้งสติได้ก็ส่ายหน้าไปมา เขาดึงมือกลับแต่รั้งให้เธอเข้ามาอยู่ในวงแขน ปลายนิ้วไล้วนหัวไหล่ของหญิงสาวเบาๆ เป็นเชิงปลอบโยน“ผมทำให้คุณตกใจ” เขาอ้ำอึ้งครู่หนึ่งก่อนพูดต่อ “ขอโทษ”ดูเหมือนผู้ชายคนนี้จะไม่ได้พูดคำว่าขอโทษกับใครบ่อยสินะ ลลินตั้งคำถามในใจ ท่าทางเขาเป็นคนยอมใครเป็นจริงๆ นั้นแหละ“เขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายฉันหรอกค่ะ” ลลินตอบลังเลอยู่เล็กน้อยแล้วจึงพูดต่อ “เรารู้จักกันครึ่งปีเขาขอฉันแต่งงาน ฉันก็ตอบตกลง พ่อแม่ของฉันท่านเสียไปหมดแล้ว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เราไม่ได้จัดงานแต่งงานอะไร แค่...แค่เข้าไปไหว้พ่อแม่ของเขาแล้วก็จดทะเบียนสมรสกัน เราทำงานอยู่บริษัทเดียวกันแต่คนละแผนก ฉันไว้ใจและเชื่อใจ ไม่เคยสงสัยอะไรในตัวเขา ชีวิตของเราราบรื่นดี อยู่ด้วยกันมาสองปี เราก็ปรึกษาเรื่องซื้อบ้านของตัวเอง ฉันคิดว่ามันเป็นสองปีที่แสนวิเศษ แต่หลังจากที่เราตกลงใจจะซื้อบ้านด้วยกัน เที่ยวตระเวนดูหลายโครงการ ฉันก็ทำงานพิเศษหารายได้เพิ่ม เพื่อวันข้างหน้าจะได้มีเงินทุนหมุนเวียนไม่ขัดสน อาจเพราะฉันมุ่งมั่นกับการหาเงินมากไป เลยไม่
ถ้าเธอร้องโวยวายด่าทอตบตีเขา เขาอาจจะรู้สึกดีกว่านี้ แต่เธอกลับนิ่งเงียบไป บ้านที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มสดใสของเธอมันจางหาย บ้านไม่เป็นบ้านเหมือนเดิม เขาไม่รู้จะขอโทษลลิน อย่างไรให้กลับมาเป็นอย่างเดิม “ลินเข้าใจพี่ภพค่ะ”เขายังจำวันนั้นได้ดี “น้องลินหายโกรธพี่แล้วใช่ไหมคะ” “ลินไม่โกรธพี่ภพ” เธอส่ายหน้าไปมา “แต่เราหย่ากันเถอะค่ะ” “น้องลิน...พี่ไม่อยากเสียน้องลินไป พี่รักน้องลินนะครับ” “ถ้าพี่ภพรักลิน เรื่องพวกนี้ไม่เกิดขึ้นหรอกค่ะ” เธอยังยิ้มให้เขาแต่เป็นรอยยิ้มแสนเศร้า “พี่ภพไม่ต้องเป็นห่วง ลินไม่ทำร้ายตัวเองและไม่ทำร้ายคนของพี่ภพ เราจบกันด้วยดีนะคะ” “แต่พี่ไม่อยากเสียลินไป” “พี่ภพเสียลินไปตั้งแต่...มีอะไรกับแฟนเก่าแล้วค่ะ” “น้องลิน” “ลินคิดดีแล้ว พี่ภพก็...จะได้ใช้ชีวิตกับคนที่พี่ภพอยากทุ่มเทเวลาให้จริงๆ” ลลินเก็บเสื้อผ้าออกจากห้องเขาไป ตอนนั้นทั้งสองยังเช่าคอนโดอยู่ บ้านที่เคยดูไว้และคิดจะซื้อร่วมกันกลายเป็นฝันสลาย เธอไม่ยอมพบหน้าเขา ขอให้เขาไปเซ็นใ
ไม่รู้ทำไมลลินถึงยอมให้คนๆ นี้พักในบ้านหลังเดียวกันได้ ห้องของเธออยู่ปีกซ้าย ส่วนห้องปีกขวาเป็นห้องเดิมของพ่อแม่ เธอให้เขาพักห้องนั้นไปก่อน เธอเข้าสวนเพาะต้นไม้ทุกวัน ดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ซึ่งมีลุงพงษ์และลูกน้องจัดการงาน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ ระยะหลังเธอเข้ามาดูแลเรื่องพวกนี้ด้วยตนเอง ขยายช่องทางการขายต้นไม้ โดยสั่งซื้อออนไลน์ส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชน สะดวก รวดเร็ว ทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่าการรอให้คนมาซื้อที่สวนแรกทีเดียวเธอคิดว่าราชันจะ ‘ซ่อนตัว’ อยู่ในบ้านอย่างเงียบเฉียบ แต่เขากลับทำทุกอย่างตรงข้ามกับที่เธอคิด เริ่มแรกทำทีเป็นขอติดรถเข้าเมืองซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ถึงเขาไม่มีกระเป๋าสตางค์แต่เบิกจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ แถมยัดเงินใส่มือให้เธอเป็นค่าอาหารที่ทำให้เขากิน ติดตามเธอไปโน้นมานี่เป็นเงาตามตัว เธอซื้อขนมไปเลี้ยงเด็กๆ เขาก็ตามไปด้วย เธอไม่อยากนึกถึงสีหน้าของชนะเทพที่เห็นผู้ชายตัวโตๆ เดินตามเธอต้อยๆ แบบนี้เลย เขาใช้เวลาแค่สองสัปดาห์ทำให้คนทั้งตำบลรู้ว่าเธอพาผู้ชายเข้าบ้านลาก่อนชีวิตสงบสุขของลลินราชันแสร้งทำเป็นไม่รับรู้ความรู้สึกของลลิน ยิ่งเธอพ
ลลินปรือตาขึ้นมอง เห็นเขาส่งนิ้วเข้าปากตนเองแล้วดูดคราบรักของตนแล้วก็ใจสั่น แก่นกายของเขาดุนดันกางเกงชั้นในจนเห็นเป็นลำเอ็น เธอรู้สึกลำคอแห้งผาก เผลอเลียริมฝีปากไม่รู้ตัวราชันจูบเธออีกครั้ง คราวนี้ลลินแลกลิ้นไม่ยอมแพ้ เขารูดกางเกงชั้นในลงไปพ้นตัว ลำเอ็นแข็งขันคลอเคลียขาอ่อน เขายกขาเธอขึ้นเกี่ยวเอวของเขา“กอดผม” เขาสั่ง ลมหายใจหอบแรงเพราะข่มความต้องการที่เอ่อล้นสองแขนยื่นไปคล้องคอเขา ราชันจับเรียวขาอีกข้างขึ้นเกี่ยวเอว ยกสะโพกเธอขึ้นแล้วกดแก่นกายของตนเองเข้าไปในร่องรักที่ฉ่ำแฉะ“อ๊า!” ลลินร้องเสียงหลง เขาบดเบียดแก่นกายรุกล้ำเข้ามาจนสุด ความวาบหวิวผสมกับความเสียวซ่าน ทุกครั้งที่เขายกสะโพกเธอขึ้นกระแทกกับแก่นกาย ความเสียวซ่านระลอกแล้วระลอกเล่าถาโถมจนเธอได้แต่ส่งเสียงครวญครางออกมา“อื้ม...แน่นอะไรแบบนี้” ราชันอดรำพึงไม่ได้ เขาไม่แคร์เรื่องที่เคยแต่งงานมาก่อน แต่ไม่คิดว่าร่องรักของหญิงสาวจะแน่นขนาดนี้ เขาต้องฝืนตัวเองไม่ให้เร็วไป แต่ความอ่อนนุ่มชุ่มชื้นที่ตอดรัดทำให้เขาเร่งโยกสะโพกเร็วขึ้นเหมือนถูกผลักขึ้นสู่ที่สูง ครั้งแล้วครั้งเล่า เธอแอ่นกายเข้าหา เรียวขากอดรัดเอวสอบเขาฝากฝังตัว
ลลินโค้งกายลงปิดปากเขาด้วยจูบของเธอ สองมือของราชันจับเอวคอดไว้มั่นแล้วเด้งสะโพกใส่จนรับรู้ได้ว่าหญิงสาวถึงจุดสุขสม ร่างเกร็งกระตุกและตอดรัดจนเขาต้องครางในลำคอ และรวดเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัว ราชันพลิกตัวให้หญิงสาวอยู่ด้านล่างทั้งที่ยังไม่ถอนแก่นกายออก คราวนี้เขาขยับโยกเนิบช้า ความเสียวซ่านวาบหวิวก่อตัวขึ้นอีกครั้ง เหงื่อร้อนหยดลงบนหน้าอกที่กระเพื่อมไหวตามแรงกระแทกกระทั้นที่ถี่กระชั้นขึ้น เรียวขางามเกี่ยวรัดเอวสอบ เสียงลมหายใจแรงขึ้น ลลินครางกระเส่า เรียกร้องด้วยเสียงหวาน ร่างงามบิดเร่าและสั่นระริก ทุกสัมผัสของเขาทำให้ร่างกายร้อนเร่า และบ้าคลั่ง “ชอบไหม?” ลลินพูดไม่ออกได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก “เสียวไหม?” เขาโน้มหน้าลงขบเม้มที่ซอกคอจนเกิดรอยคิสมาร์ก “คุณยอดเยี่ยมเหลือเกิน” เขาดื่มด่ำกับรสสวาทของหญิงสาว ขยับโยกไหวจนเตียงลั่น เสียงหวานครวญครางใต้ร่างกลับยิ่งทำให้เขาฮึกเหิม ร่างกายเคลื่อนไหวเร็วขึ้น ลึกล้ำ เสียดเสียวจนเขาไม่อาจต้านทานได้อีก กดแก่นกายเข้าไปจนสุด ซบหน้าคำรามกับอกสวยพร้อมกับหลั่งน้ำรักจนล้นทะลักอีกครั้ง จะกี่ครั้งเขาก
“เพราะไม่เคยถาม เพราะเชื่อใจ เขาถึงได้แอบคบแฟนเก่าได้ตั้งนานสองนาน” ได้พูดแล้วก็หลุดปากพูดออกมาจนหมดราชันเห็นสีหน้าไม่พอใจปนเศร้าสร้อยของลลินแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ สาวเท้าเข้ามาจับไหล่หญิงสาวไว้“โอเค. ผมเข้าใจแล้ว เอาเป็นว่าต่อไปนี้คุณอยากรู้เรื่องอะไร ถามผมได้ ผมอยากให้คุณถาม ผมอยากถูกคนใส่ใจ คุณอยากรู้เงินในบัญชีผมก็จะเปิดให้ดู เอาประวัติผมไปค้นได้เลย ผมไม่มีแฟน ยังไม่มีทะเบียนสมรสกับใครด้วย เราเป็นอะไรกันแล้ว คุณมีสิทธิ์ในตัวผมทุกอย่าง”“เป็นอะไร...” โกรธกันอยู่ดีๆ เขามาหยอดเสียงหวานใส่แบบนี้ ถึงกับตั้งตัวไม่ทัน “ไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย”“ตอบแบบนี้ต้องทบทวนหน่อยไหมว่าเราเป็นอะไรกัน” เขายื่นหน้ามาใกล้ “หรือคุณไม่คิดจะรับรับผิดชอบผม”ลลินถอยหลังหนีอย่างไม่รู้ตัวจนเกือบสะดุดขาตัวเองแต่ราชันจับไหล่สองข้างของเธอไว้ได้ทันก่อนจะหงายหลังล้มลงไป เขาหัวเราะในลำคออารมณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อครู่ ผู้หญิงคนนี้ช่างน่ารักจริงๆ“คุณลินคะ ช่วยมาดูทางนี้สักประเดี๋ยวได้ไหมคะ มีเด็กไม่ค่อยสบายมาค่ะ”“ได้ค่ะได้...” ลลินรีบพูดขึ้น ราชันก็ปล่อยมือออกจากไหล่อย่างง่ายดาย เธอรีบเดินตามหลังหญิงสาวคนหนึ่งไปหาห
“ถามตอนนี้ช้าไปหน่อยนะ” เขาหัวเราะจนแผ่นอกกระเพื่อม อันที่จริง เขาคิดว่าเธอรู้อยู่แล้ว แต่คงอยากได้ยินจากปากของเขามากกว่า “ผมยังไม่เคยแต่งงาน มีคนที่เคยคบจริงจังด้วยแต่เลิกกันไปแล้ว เราจบกันด้วยดีไม่ต้องห่วงว่าใครจะมาทำร้ายคุณได้หรอก” “ครอบครัวคุณละคะ” “พ่อแม่ผมเสียไปตั้งแต่ผมยังเด็ก เด็กเท่ากับไอ้เปี้ยกที่เจอวันนี้” ราชันยิ้มให้ความทรงจำ ปลายนิ้วพันเกี่ยวเส้นผมยาวสลวยไว้ “พ่อแม่ผมประสบอุบัติเสียชีวิตทั้งคู่ ตอนนั้นผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย พ่อแม่ตาย คนแถวบ้านช่วยจัดงานศพ ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ชีวิตเคว้งคว้างมาก จำไม่ได้ว่าใครติดต่อนักสังคมสงเคราะห์มารับตัวผม ส่งไปที่นั้นที่นี่ ผมไม่ชอบแอบหนีออกมา กลับมาที่บ้านของพ่อแม่แต่ไม่มีเงินเลย หิวก็หิว ก็แอบไปขโมยของกินบ้านคนอื่น ถูกจับ ถูกตี ใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่ครึ่งปี ก็มีคุณตากับคุณยายมารับผม” “คุณตากับคุณยายเหรอคะ” “อื้ม” เขารับคำยกเส้นผมเธอขึ้นมาสูดดม เขาชอบกลิ่นผม กลิ่นกายของเธอ “แม่ผมเป็นลูกผู้ดีมีเงินหนีตามพ่อมาอยู่ต่างจังหวัด ผมมารู้ทีหลังตอนที่คุณตามารับไปอยู่ด้วยแล้ว คุณตามีลูกชายสองคนแล