ลลินปรือตาขึ้นมอง เห็นเขาส่งนิ้วเข้าปากตนเองแล้วดูดคราบรักของตนแล้วก็ใจสั่น แก่นกายของเขาดุนดันกางเกงชั้นในจนเห็นเป็นลำเอ็น เธอรู้สึกลำคอแห้งผาก เผลอเลียริมฝีปากไม่รู้ตัวราชันจูบเธออีกครั้ง คราวนี้ลลินแลกลิ้นไม่ยอมแพ้ เขารูดกางเกงชั้นในลงไปพ้นตัว ลำเอ็นแข็งขันคลอเคลียขาอ่อน เขายกขาเธอขึ้นเกี่ยวเอวของเขา“กอดผม” เขาสั่ง ลมหายใจหอบแรงเพราะข่มความต้องการที่เอ่อล้นสองแขนยื่นไปคล้องคอเขา ราชันจับเรียวขาอีกข้างขึ้นเกี่ยวเอว ยกสะโพกเธอขึ้นแล้วกดแก่นกายของตนเองเข้าไปในร่องรักที่ฉ่ำแฉะ“อ๊า!” ลลินร้องเสียงหลง เขาบดเบียดแก่นกายรุกล้ำเข้ามาจนสุด ความวาบหวิวผสมกับความเสียวซ่าน ทุกครั้งที่เขายกสะโพกเธอขึ้นกระแทกกับแก่นกาย ความเสียวซ่านระลอกแล้วระลอกเล่าถาโถมจนเธอได้แต่ส่งเสียงครวญครางออกมา“อื้ม...แน่นอะไรแบบนี้” ราชันอดรำพึงไม่ได้ เขาไม่แคร์เรื่องที่เคยแต่งงานมาก่อน แต่ไม่คิดว่าร่องรักของหญิงสาวจะแน่นขนาดนี้ เขาต้องฝืนตัวเองไม่ให้เร็วไป แต่ความอ่อนนุ่มชุ่มชื้นที่ตอดรัดทำให้เขาเร่งโยกสะโพกเร็วขึ้นเหมือนถูกผลักขึ้นสู่ที่สูง ครั้งแล้วครั้งเล่า เธอแอ่นกายเข้าหา เรียวขากอดรัดเอวสอบเขาฝากฝังตัว
ลลินโค้งกายลงปิดปากเขาด้วยจูบของเธอ สองมือของราชันจับเอวคอดไว้มั่นแล้วเด้งสะโพกใส่จนรับรู้ได้ว่าหญิงสาวถึงจุดสุขสม ร่างเกร็งกระตุกและตอดรัดจนเขาต้องครางในลำคอ และรวดเร็วอย่างไม่ทันตั้งตัว ราชันพลิกตัวให้หญิงสาวอยู่ด้านล่างทั้งที่ยังไม่ถอนแก่นกายออก คราวนี้เขาขยับโยกเนิบช้า ความเสียวซ่านวาบหวิวก่อตัวขึ้นอีกครั้ง เหงื่อร้อนหยดลงบนหน้าอกที่กระเพื่อมไหวตามแรงกระแทกกระทั้นที่ถี่กระชั้นขึ้น เรียวขางามเกี่ยวรัดเอวสอบ เสียงลมหายใจแรงขึ้น ลลินครางกระเส่า เรียกร้องด้วยเสียงหวาน ร่างงามบิดเร่าและสั่นระริก ทุกสัมผัสของเขาทำให้ร่างกายร้อนเร่า และบ้าคลั่ง “ชอบไหม?” ลลินพูดไม่ออกได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก “เสียวไหม?” เขาโน้มหน้าลงขบเม้มที่ซอกคอจนเกิดรอยคิสมาร์ก “คุณยอดเยี่ยมเหลือเกิน” เขาดื่มด่ำกับรสสวาทของหญิงสาว ขยับโยกไหวจนเตียงลั่น เสียงหวานครวญครางใต้ร่างกลับยิ่งทำให้เขาฮึกเหิม ร่างกายเคลื่อนไหวเร็วขึ้น ลึกล้ำ เสียดเสียวจนเขาไม่อาจต้านทานได้อีก กดแก่นกายเข้าไปจนสุด ซบหน้าคำรามกับอกสวยพร้อมกับหลั่งน้ำรักจนล้นทะลักอีกครั้ง จะกี่ครั้งเขาก
“เพราะไม่เคยถาม เพราะเชื่อใจ เขาถึงได้แอบคบแฟนเก่าได้ตั้งนานสองนาน” ได้พูดแล้วก็หลุดปากพูดออกมาจนหมดราชันเห็นสีหน้าไม่พอใจปนเศร้าสร้อยของลลินแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ สาวเท้าเข้ามาจับไหล่หญิงสาวไว้“โอเค. ผมเข้าใจแล้ว เอาเป็นว่าต่อไปนี้คุณอยากรู้เรื่องอะไร ถามผมได้ ผมอยากให้คุณถาม ผมอยากถูกคนใส่ใจ คุณอยากรู้เงินในบัญชีผมก็จะเปิดให้ดู เอาประวัติผมไปค้นได้เลย ผมไม่มีแฟน ยังไม่มีทะเบียนสมรสกับใครด้วย เราเป็นอะไรกันแล้ว คุณมีสิทธิ์ในตัวผมทุกอย่าง”“เป็นอะไร...” โกรธกันอยู่ดีๆ เขามาหยอดเสียงหวานใส่แบบนี้ ถึงกับตั้งตัวไม่ทัน “ไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย”“ตอบแบบนี้ต้องทบทวนหน่อยไหมว่าเราเป็นอะไรกัน” เขายื่นหน้ามาใกล้ “หรือคุณไม่คิดจะรับรับผิดชอบผม”ลลินถอยหลังหนีอย่างไม่รู้ตัวจนเกือบสะดุดขาตัวเองแต่ราชันจับไหล่สองข้างของเธอไว้ได้ทันก่อนจะหงายหลังล้มลงไป เขาหัวเราะในลำคออารมณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อครู่ ผู้หญิงคนนี้ช่างน่ารักจริงๆ“คุณลินคะ ช่วยมาดูทางนี้สักประเดี๋ยวได้ไหมคะ มีเด็กไม่ค่อยสบายมาค่ะ”“ได้ค่ะได้...” ลลินรีบพูดขึ้น ราชันก็ปล่อยมือออกจากไหล่อย่างง่ายดาย เธอรีบเดินตามหลังหญิงสาวคนหนึ่งไปหาห
“ถามตอนนี้ช้าไปหน่อยนะ” เขาหัวเราะจนแผ่นอกกระเพื่อม อันที่จริง เขาคิดว่าเธอรู้อยู่แล้ว แต่คงอยากได้ยินจากปากของเขามากกว่า “ผมยังไม่เคยแต่งงาน มีคนที่เคยคบจริงจังด้วยแต่เลิกกันไปแล้ว เราจบกันด้วยดีไม่ต้องห่วงว่าใครจะมาทำร้ายคุณได้หรอก” “ครอบครัวคุณละคะ” “พ่อแม่ผมเสียไปตั้งแต่ผมยังเด็ก เด็กเท่ากับไอ้เปี้ยกที่เจอวันนี้” ราชันยิ้มให้ความทรงจำ ปลายนิ้วพันเกี่ยวเส้นผมยาวสลวยไว้ “พ่อแม่ผมประสบอุบัติเสียชีวิตทั้งคู่ ตอนนั้นผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย พ่อแม่ตาย คนแถวบ้านช่วยจัดงานศพ ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ชีวิตเคว้งคว้างมาก จำไม่ได้ว่าใครติดต่อนักสังคมสงเคราะห์มารับตัวผม ส่งไปที่นั้นที่นี่ ผมไม่ชอบแอบหนีออกมา กลับมาที่บ้านของพ่อแม่แต่ไม่มีเงินเลย หิวก็หิว ก็แอบไปขโมยของกินบ้านคนอื่น ถูกจับ ถูกตี ใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่ครึ่งปี ก็มีคุณตากับคุณยายมารับผม” “คุณตากับคุณยายเหรอคะ” “อื้ม” เขารับคำยกเส้นผมเธอขึ้นมาสูดดม เขาชอบกลิ่นผม กลิ่นกายของเธอ “แม่ผมเป็นลูกผู้ดีมีเงินหนีตามพ่อมาอยู่ต่างจังหวัด ผมมารู้ทีหลังตอนที่คุณตามารับไปอยู่ด้วยแล้ว คุณตามีลูกชายสองคนแล
“เฮียใหญ่เป็นอะไร?” เขานึกถึง ‘อลังการ’ หรือ ‘คุณใหญ่’ ญาติห่างๆ แต่สนิทสนมกันมาก ในช่วงวัยรุ่น ราชันมีอลังการคอยชี้แนะเรื่องการใช้ชีวิต“ก็ชอบทำตัวให้คนแก่เป็นห่วง” ปกรณ์ยักไหล่ “แต่ไม่เป็นอะไรแล้ว มีเมียแล้วสบายใจได้”“หา! เฮียใหญ่มีเมียแล้วเหรอ”“เออ เมียเด็กด้วย แต่คนนี้ใช้ได้ อาชอบ” ปกรณ์ยิ้มๆ แล้วอดมองทางลลินไม่ได้“คุณอามีอะไรก็พูดมาเถอะ ระหว่างผมกับลลิน เราไม่มีความลับต่อกัน” ราชันบีบมือลลินไว้ไม่ยอมให้ลุกหนีไปไหน“อาไม่ได้มาตามเพราะเรื่องไอ้ใหญ่หรอกนะ” ปกรณ์แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นอาการของราชัน ผู้ชายบ้านนี้ รักแรง หวงแรง จริงๆ“แล้วมีเรื่องอะไรล่ะครับ”“คุณตาท่านต้องผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ท่านไม่ยอมรับการผ่าตัดถ้าไอ้ เอ่อ คุณยักษ์ไม่แต่งงานกับคุณเดหลี”“เดหลี? เดหลีไหน? เดหลีที่เป็นผู้ช่วยพยาบาลดูแลคุณยายนะเหรอ”“ใช่”“คนนั้นก็ไม่เลวนะ ท่าทางจะจัดการเจ้ายักษ์ได้อยู่มือ”“เรื่องนั้นช่างเถอะ ถ้าคุณยักษ์ไม่แต่งงานกับคุณเดหลี คุณท่านจะไม่ยอมผ่าตัด” ปกรณ์เอ่ยย้ำ “และคุณราชันควรกลับบ้านไปดูแลคุณท่านได้แล้ว มีเรื่องอะไรคาราคาซังก็กลับไปจัดการให้มันจบๆ”ราชันพยักหน้ารับ เขามีคุณตาที่เ
ลลินขมวดคิ้ว เมื่อก่อนเธอชอบคำพูดคะ-ขาของปุณณภพ เขาเป็นผู้ชายพูดจาไพเราะหวานหู เคยทะเลาะขึ้นเสียงกันบ้างแต่ไม่เคยทำร้ายร่างกาย นั้นนับว่าเป็นเรื่องดีของเขา “พี่ภพจะทำแบบนี้ทำไมคะ เรื่องของเรามันจบไปแล้ว เราต่างก็มีทางเดินของตัวเอง” ลลินถอนหายใจหนักๆ “แต่พี่ยังรักน้องลินอยู่นะคะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะค่ะ พี่พร้อมปรับปรุงตัวเอง ขอให้น้องลินยังอยู่เคียงข้างพี่ ให้โอกาสพี่อีกครั้ง” “แต่ลินรักพี่ภพอีกไม่ได้แล้วค่ะ” เธอจ้องตาเขาด้วยความแน่วแน่ “เมื่อก่อนลินเคยรักพี่ภพมาก มากจนเคยคิดว่าไม่อาจรักใครได้มากไปกว่านี้อีก แต่เมื่อพี่ภพทำร้ายหัวใจและความรักของลิน ลินก็รู้แล้วว่า ลิน กลับไปรักพี่ภพ หรือใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็นมาไม่ได้อีกแล้ว” “น้องลิน” เสียงสัญญาณลิฟต์ดังขึ้นช่วยชีวิตหญิงสาว ลลินดันปุณณภพออกแล้วเบี่ยงตัวเดินออกมาจากลิฟต์ ปุณณภพรีบก้าวเท้าเดินตามออกมา แต่ต้องชะงักเท้า เมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งลุกขึ้นจากเก้าอี้รับแขกของโถงกลางหน้าจุดประชาสัมพันธ์ของบริษัท เพียงเจ้าของร่างสูงใหญ่กำยำในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มถอดแว่นกันแดดออก
“จะไปไหนก็ไป อย่ามายืนเกะกะลูกตา” พนักงานเสิร์ฟโชคร้ายได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินออกมา เอ็มเจย์ปรายตามองลูกขาสาวที่ติดหนี้เขาอยู่ก็กวาดตามองเรือนร่างของผู้หญิงตรงหน้าแล้วเอ่ย “อยากกินขนมไหม ออกไปด้วยกันสิ” “ได้” แพรวาโปรยยิ้มหวานเดินเข้าไปคล้องแขนเอ็มเจย์ด้วยท่าทีสนิทสนม ทั้งสองเดินออกไปที่ลานจอดรถ เขาเปิดประตูรถเก๋งคันหรูให้แพรวาขึ้นไปนั่งแล้วเดินอ้อมมาฝั่งคนขับ “เธอยังติดเงินฉันอยู่นะ” “รู้น่า” แพรวายื่นมือไปลูบเป้ากางเกงของอีกฝ่าย “เงินไม่กี่หมื่นเอง อย่าซีเรียสสิ” “เห็นฉันใจดีหรือไง” เอ็มเจย์หลุบตามองมือเรียวปลดเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงเขาลง “ได้ยินว่าเป็นหนี้บาคาร่าหลักแสนแล้วไม่ใช่เหรอ” “ไม่ถึงมั้ง” แพรวาส่งยิ้มยั่วยวน “ใช้งานฉันบ่อยๆ หน่อยสิ จะได้มีเงินใช้หนี้” เอ็มเจย์ยื่นมือไปจับท้ายทอยของแพรวาที่กำลังใช้มือกำรูดแท่งเอ็นของเขาจนมันตั้งเป็นเสาหิน แต่เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องหนี้สินที่แพรวาติดค้างเขาไว้ “เมื้อกี้เธอถามฉันเรื่องผู้ชายคนนั้น อยากได้มันมากนักเหรอ”
“ผมบอกแล้วไง ผมมั่นใจว่าผมทำให้คุณรักผมได้” เขาใช้นิ้วเรียวเร่งเร้าจนร่างบางอ่อนระทวย “ผมอยากให้คุณรู้จักผม อยากให้คุณเจอคนในครอบครัวของผม เราคบกันแบบนี้ก็เหมือนอยู่ก่อนแต่ง คุณได้ศึกษาดูนิสัยใจคอผม ผมได้รู้จักคุณมากขึ้น กิจการทั้งหมดของผม คุณช่วยดูแล หรือคุณอยากลองทำอะไร ผมก็จะสนับสนุนสุดแรง” “อ๊า!” ลลินหลุดเสียงหวีดร้องออกมาเมื่อถูกนิ้วร้ายกายนำพาไปถึงจุดสุดยอด เขาถอนนิ้วออกจากร่องรัก แล้วส่งนิ้วที่เปื้อนคราบน้ำหวานวาววับเข้าปากดูดกลืนน้ำหวานจากกายสาวของเธอ “ครอบครัวผมเป็นครอบครัวใหญ่ แต่เราไม่ถือสาเรื่องพวกนี้ คุณตาคุณยายมีลูกชายสองคน แต่มีลูกสาวคนเดียวคือแม่ของผมที่จากไปแล้ว ตอนเป็นวัยรุ่นผมค่อนข้างเกเร มีเฮียใหญ่กับอาปกรณ์ไม่ใช่ญาติแต่ก็เหมือนญาติ เป็นครอบครัวที่สนิทสนมกับครอบครัวเรา เฮียใหญ่กับอาปกรณ์คอยจิกหัวให้กลับมาเข้าร่องเข้ารอยไม่เสียคนไม่เสียก่อน ส่วนไอ้ยักษ์มันเป็นลูกของคุณลุงของผม-พี่ชายแม่ แต่มันอายุน้อยกว่าผม น่าจะเท่าคุณนี่แหละ ไอ้นี้มันก็ร้ายไม่เบา คงทำอะไรไว้จนคุณตาต้องบังคับให้แต่งงาน” “แล้ว...คุณคิดว่า คุณตาท่านจะยอมรับลินได้