Share

ตอนที่ 5 หลินเหยาซื่อ – มนุษย์เป็ด

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-12 21:03:26

            ตอนนี้นางรู้แค่ว่ามีรายรับแค่เดือนละหนึ่งหมื่นหยวน บ้านหลังนี้มีบริเวณเลยสามารถเพาะปลูกเล็กๆน้อยๆ และเลี้ยงไก่เก็บกินไข่ได้ ประสบการณ์จากอยู่สถานสงเคราะห์ทำให้เธอรู้ว่าจะเอาตัวรอดได้อย่างไร แต่การมีชีวิตน้อยๆ ที่เติบโตอย่างช้าๆ ก็เป็นความท้าทายให้หลินเหยาซื่อต้องลองสู้ดูสักตั้ง วันนี้เธอออกมาข้างนอกเพียงลำพัง อาศัยคำอธิบายของป้าฮุ่ยซิว หลายวันก่อนเอาฟิลม์มาล้างและที่ร้านนัดรับวันนี้ออกมารับภาพเอง ตั้งใจว่าจะเดินสำรวจบริเวณนี้ ถ้าอยู่ในปี2023 เธอมีวุฒิปริญญาตรีก็ยังพาหางานทำได้ไม่ยาก แต่ที่นี่เธอจบแค่มัธยมปลาย แม้อาจสูงกว่าคนทั่วไปแต่ก็ยังนับว่าเป็นอุปสรรคในการหางานทำอยู่ดี    เอาเถอะ อย่างน้อยก็ยังมี ‘บ้าน’ อยู่ ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า แค่นี้ก็ประหยัดไปได้มากแล้ว

            หญิงสาวเดินตรงไปที่ร้านอัดรูป เพียงผลักบานประตูก็ได้ยินเสียงกรุ๋งกริ๋ง ในร้านมีลูกค้าสาวอยู่ก่อนแล้ว  เจ้าของร้านเห็นลูกค้าก็ยิ้มกว้างออกมาต้อนรับอย่างดี ดีเสียจนหลินเหยาซื่อนึกแปลกใจ

            “มารับรูปค่ะ”  เธอเอ่ยบอกแล้วยื่นบัตรนัดรูปไว้ เจ้าของหยิบซองใส่ภาพพร้อมฟิล์มที่ล้างแล้วส่งให้  เธอดูภาพเพื่อตรวจสอบความถูกต้องไม่สลับกับของคนอื่น เป็นภาพที่ถ่ายวันไปสวนสนุก แค่เห็นรอยยิ้มของสองแฝดก็ทำให้เธอยิ้มออกมาได้

            “คุณผู้หญิงถ่ายรูปได้สวยมาก คงพอมีความรู้ด้านมุมกล้องใช่ไหมครับ”  เจ้าของร้านชวนคุย

            “นิดหน่อยค่ะ”  หลินเหยาซื่อเคยเรียนถ่ายภาพเป็นคอร์สสั้นๆ แต่ตอนนั้นใช้กล้องดิจิตอล ไม่เหมือนตอนนี้ที่ใช้กล้องฟิล์ม ก่อนไปเที่ยวเธอต้องลองหยิบจับปรับโฟกัสให้คุ้นมือเสียก่อน กลัวว่าจะถ่ายภาพเสีย   แล้วหลินเหยาซื่อก็ต้องทำตาโตเมื่อเจ้าของร้านหยิบรูปถ่ายขนาดใหญ่ส่งให้เธอดู

            “ฉันไม่ได้สั่งอัดภาพขนาดใหญ่นี่คะ”  เธอทักท้วงแต่เห็นภาพสามคนแม่ลูกแบบนี้แล้วก็รู้สึกชอบ เหมาะแก่การขยาดใหญ่แล้วใส่กรอบสวยๆจริงๆ เอาเถอะ ถึงจะเหมือนมัดมือชกแต่ให้จ่ายเงินเพิ่มก็ยอม

            “รูปนี้อัดให้ฟรี แต่ขอแลกกับการติดรูปประดับที่ร้านของเรา” 

            หลินเหยาซื่อเข้าใจความหมายในทันที  เธอพอจะจำได้ในวัยเด็กเคยเดินผ่านร้านล้าง-อัดรูป จะมีภาพติดที่หน้าร้าน

            “เข้าใจแล้วค่ะ จะติดที่ไหนคะ”

            “หน้าร้านเลย” เจ้าของร้านยิ้มกว้าง “รูปสวยมากจริงๆ ให้ช่างภาพที่ไหนถ่ายให้หรือครับ”

            “ถ่ายเองค่ะ”  หลินเหยาซื่อยิ้มกว้าง  วันนั้นที่สวนสนุก เธออยากถ่ายรูปหมู่ครอบครัวแต่ป้าฮุ่ยซิวเกรงอกเกรงใจไม่ยอมถ่ายรูปด้วย เธอก็เลยตั้งกล้องถ่ายรูปสามคนแม่ลูก จำได้ว่าในบ้านมีแต่รูปตอนที่จางหย่งจางลี่ยังเด็กกว่านี้  ตอนนี้เธอเป็นแม่ของพวกเขาแล้ว จะถ่ายรูปเด็กๆ ทุกช่วงวัย ไม่เหมือนเธอที่แทบไม่มีรูปตอนเด็กเลย

            ไม่รู้ว่าการสนทนาของเธอกับเจ้าของร้านเรียกความสนใจจากลูกค้าอีกคน หล่อนยื่นหน้ามองแล้วที่รูป

            “สวยจริงๆ”  หญิงสาวคนนั้นพูดขึ้น “เสื้อผ้านี่เก๋เชียว ไม่ทราบว่าซื้อจากห้างร้านไหนเหรอ”

            “ตัดเองค่ะ”  หลินเหยาซื่อหัวเราะเขินๆ

            “ว้าว! ยอดเลย! ฉันชอบมาก ไม่เคยเห็นชุดเป็นเซ็ตแม่ลูกแบบนี้ที่ไหนเลย”

เสียงร้องชื่นชมจริงใจทำเอาหลินเหยาซื่อแทบตัวลอย 

“ขอโทษที ฉันชื่อหวังเข่อซิง เพิ่งย้ายมาอยู่เมืองนี้ได้เดือนกว่าๆนี้เอง”    หวังเข่อซิงแนะนำตัวเอง

“ฉันหลินเหยาซื่อค่ะ” 

“อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย เสื้อผ้าที่เธอใส่ดูสะดุดตามากทีเดียว นี่ก็ตัดเองเหรอ”

“ค่ะ”  หลินเหยาซื่อก้มมองตัวเอง วันนี้ใส่ชุดเดรสกระโปรงยาวคลุมเข่า ใช้ผ้าเย็บเป็นเข็มขัดเส้นใหญ่รัดใต้ฐานอก ขับเน้นรูปร่างได้สัดส่วนแต่ไม่เย้ายวนจนเกินไป เธอไม่ชอบใส่รองเท้าส้นสูงจึงสวมแบบส้นเตี้ยซึ่งในบ้านก็มีหลายคู่นับได้ว่ารสนิยมเดียวกัน

“เธอเป็นช่างเย็บผ้าเหรอ”

“ไม่ใช่ค่ะ แต่ชอบค่ะ”

“แล้วได้เสื้อมาจากไหนเหรอ”

“ออกแบบเองค่ะ”

“ว้าว! สุดยอด” หวังเข่อซิงร้องแล้วกวาดตามอง “สวยเก๋แปลกตาจริงๆ เอาจริงๆนะ ฉันมีร้านที่ตัดเย็บเสื้อผ้าได้ประณีต แต่การออกแบบไม่ถูกใจเลย ต่อให้เปิดแมกกาซีนฝรั่งก็ยังทำไม่ได้”

“มันอยู่ที่การสร้างแพทเทิร์นด้วยค่ะ”

“นั้นแหละๆ”

ในบ้านไม่มีกระดาษสำหรับเขียนแพทเทิร์นหรือแบบสำหรับตัดเย็บเสื้อผ้า ตอนนั้นเธอจึงใช้กระดาษหนังสือพิมพ์แทน ใช้แก้ขัดไปก่อน ตอนที่อยู่สถานสงเคราะห์ เธอได้ฝึกวิชาชีพมาบ้างก็เลยทำได้ไม่ยากนัก ก็ใช่สิ เหยาซื่อคือมนุษย์เป็ด ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่ได้ดีสักอย่าง

“นี่ถ้าฉันให้ออกแบบเสื้อผ้าเอาแบบชุดพ่อแม่ลูกแบบนี้บ้างจะได้ไหม”

“คะ?”

“ตายจริง ฉันก็ใจร้อน พอเห็นอะไรถูกใจก็กลัวจะหลุดมือ”  หวังเข่อซิงหัวเราะคิกคัก “เอาอย่างนี้ เรานัดเจอกันก็ได้ อีกสองวันเจอกันที่ค๊อฟฟี่ช็อป สักสิบโมงเป็นอย่างไร ฉันไปส่งลูกสาวเรียนบัลเล่ต์แล้วก็พอมีเวลาอยู่บ้าง”

“คุณนายหวังเป็นเจ้าของตึกแถวมุมถนนนั้นไง เชื่อถือได้”  เจ้าของร้านถ่ายรูปช่วยยืนยัน

            ได้ยินแบบนี้แล้วหลินเหยาซื่อจึงพยักหน้ารับทันที “ได้ค่ะ สิบโมงเช้าเจอกันนะคะ”

            “จ๊ะ ฉันจะรอนะ”

            ทั้งสองพูดคุยกันอีกเล็กน้อย หลินเหยาซื่อจ่ายค่าอัดรูปแล้วจึงเดินออกมา ใบหน้าหวานยิ้มระรื่น เธอเดินตรงไปที่ร้านขายเครื่องเขียน ตั้งใจไว้ว่าจะซื้ออุปกรณ์ฝึกเขียนอักษร  จางหย่งจางลี่อายุสามขวบแล้ว นิ้วมือเล็กๆ ควรได้รับการฝึกฝนจับดินสอและปั้นดินน้ำมัน เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง

หญิงสาวเลือกอุปกรณ์ที่ต้องการ เหลือบไปเห็นสมุดสเก็ตช์ภาพ เธอลังเลครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจหยิบมาพร้อมดินสอหลายขนาด มันนานมากแล้วที่มนุษย์เป็ดอย่างเหยาซื่อเคยวาดรูป แต่ถ้าได้รื้อฟื้นเสียหน่อย เธอเชื่อว่าต้องทำได้อย่างแน่นอน  นั้นคือจุดแข็งของมนุษย์เป็ดที่ชื่อเหยาซื่อ

            หญิงสาวเดินบนถนนเส้นเดิม มุ่งหน้ากลับบ้านด้วยรถโดยสาร เธอเดินผ่านร้านล้างอัดรูปอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ เจ้าของร้านกำลังนำรูปของเธอกับลูกชายหญิงฝาแฝดมาติดที่หน้าร้าน เธออดหยุดยืนมองไม่ได้ ใบหน้าของเด็กฝาแฝดที่ยิ้มกว้างจนดวงตาเป็นประกาย ด้านหลังเป็นภาพเครื่องเล่นในสวนสนุก รอยยิ้มเปี่ยมสุขนี่แหละ ที่จะเป็นแรงผลักดันในให้เธอใช้ชีวิตใหม่ในยุค80นี้ให้มีความสุข

            เจ้าของร่างเพรียวบางเดินจากไปแล้ว โดยไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองจนแผ่นหลังของหญิงสาวหายลับตาไป ทว่าภาพครอบครัวสุขสันต์ที่อยู่หน้าร้านถ่ายรูป ที่มองอย่างไรก็รู้ว่านี่เป็นรูปแม่และลูกชายหญิงฝาแฝด  ภาพนี้ทำให้เจ้าของดวงตาคมเข้มคู่นั้นจ้องเขม็ง เขาขบฟันแน่นจนเป็นสันนูน

ผู้หญิงคนนั้นมีลูก! ลูกกับใครกัน!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 6. นิ้วมือเล็กๆ

    “กั๋ว-จาง-หย่ง- กั๋ว-จาง-ลี่” หญิงสาวพูดพลางให้เด็กๆ จับดินสอเขียนชื่อตัวเอง นิ้วมือเล็กๆ จับดินสออย่างตั้งใจ หลายวันก่อนซื้ออุปกรณ์สำหรับฝึกเขียนอักษร รวมทั้งหนังสือคัดอักษร เด็กแฝดทั้งสองหัวไวกว่าที่เธอคิดไว้มาก ซ้ำยังสนุกกับการขีดๆ เขียนๆ รวมทั้งวาดรูปจนเลอะเทอะให้ป้าฮุ่ยชิวบ่นอุบอยู่บ้าง แต่ก็ทำให้บ้านเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ“เดี๋ยวฉันเย็บผ้ากันเปื้อนให้เด็กๆใส่แล้วกัน เวลาเด็กๆ ทำเลอะจะได้ไม่เลอะไปถึงเสื้อผ้า”“ก็ดีเจ้าค่ะ”ป้าฮุ่ยชิวหัวเราะเบาๆ นางก็บ่นไปอย่างนั้น แต่บ้านที่มีเสียงหัวเราะแบบนี้สิ ถึงจะเป็นบ้าน นางทำงานที่นี่ตั้งแต่สาวยันแก่ บรรยากาศในบ้านมักจะเงียบนิ่งเสมอ แม้กระทั่งก่อนหน้านี้ก็ตาม วันๆ คุณนายก็เอาแต่ตามหาสามีที่หายไป นางเข้าใจคนมั่นในรักอย่างหลินเหยาซื่อ แต่สามีที่หายไปสามปี หากยังมีชีวิตอยู่ก็ควรกลับมาหาลูกหาเมียสิ แต่นี่หายไปไร่ร่องรอยเหมือนคนไม่ต้องการกลับมาที่นี่อีก แต่หลังจากคุณนายฟื้นขึ้นก็ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เลิกตามหาคุณผู้ชาย และทุ่มเทดูแลคุณหนูคุณชายน้อยทั้งสอง เห็นเช่นนี้แล้วนางก็พลอยดีใจกับคุณหนูทั้งสองที่ได้มารดากลับคืน“หลิ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-14
  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 7. ทำไมต้องเป็นหวง

    “กั๋วซีฮัน...” หลินเหยาซื่อพยักหน้ารับ เธอพอนึกออกอยู่บ้างเพราะในสมุดบันทึกของ ‘หลินเหยาซื่อ’ มีเขียนถึงกั๋วซีฮันซึ่งเป็นพี่ชายของกั๋วคังเหริน “ป้าฮุ่ยซิวพาเด็กๆไปกินขนมก่อนนะคะ ฉันจะดูแลคุณ เอ่อ พี่ซีฮันเอง” กั๋วซีฮันมองหญิงสาวที่พูดคุยกับเด็กฝาแฝดที่ลอบมองทางเขาก่อนสะบัดหน้าเดินไปพร้อมกับแม่บ้าน ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มซ่อนความชิงชังไว้อย่างมิดชิด เด็กสองคนนั้นหน้าตาคล้าย ‘กั๋วคังเหริน’ เสียเหลือเกิน ใครจะรู้ว่าไอ้ไก่อ่อนอย่างกั๋วคังเหรินจะทิ้งทายาทไว้ให้เป็นเสี้ยนหนามชีวิตอีก “พี่ซีฮัน รับน้ำชานะคะ” เธอเอ่ยถามแต่ตัวเองเดินไปรินน้ำร้อนใส่กาน้ำชาเรียบร้อยแล้ว “ให้พี่ช่วยดีกว่าครับ” กั๋วซีฮันปาดเข้าไปยกถาดน้ำชาด้วยตนเอง “เรานั่งที่เก้าอี้สนามหน้าบ้านดีไหม” “ค่ะ” หยินเหยาซื่อพยักหน้ารับ เธอไม่อยากอยู่กับผู้ชายสองต่อสองในบ้านอยู่พอดี พอเขาเสนอให้ไปนั่งด้านนอกก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง “ต้องขอโทษด้วยนะคะ ช่วงที่ไม่สบายหลับไปหลายวัน ตื่นมาอีกทีก็มึนๆ งงๆ จำใครไม่ค่อยได้” “น้องเหยาซื่อไปหาหมอหรือยัง ให้คุณหมอตรวจร่างกายหน่อยดีไหมครับ”

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-14
  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 8.  เอาไปสิ

    หลินเหยาซื่อตรวจดูของในกระเป๋าแล้วก้าวออกจากบ้าน เธอสำรวจเส้นทางจนคุ้นชินไม่จำเป็นต้องเรียกแท็กซี่แล้ว การใช้รถโดยสารก็ไม่ได้ลำบากอะไร การแต่งตัวที่โดดเด่นสะดุดตากลายเป็นเป้าสายตาอยู่บ้าง แต่เธอก็เลือกที่จะเชิดใบหน้าขึ้น หญิงสาวมาถึงค๊อฟฟี่ช็อฟก่อนเวลาเล็กน้อย เธอเลือกโต๊ะที่นั่งสบายและมองเห็นประตูทางเข้า สั่งกาแฟร้อนให้ตัวเองแล้วนั่งกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนรับงานเป็นตัวประกอบ เธอก็เคยทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านกาแฟขณะคิดอะไรเพลินๆ ร่างของหวังเข่อซิงก็เดินเข้ามา หลินเหยาซื่อลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม หวังเข่อซิงเดินเข้ามาใกล้แล้วจับไหล่ของหญิงสาวไว้ กวาดสายตามองพร้อมรอยยิ้ม “สวยมากจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าแค่เปลี่ยนลวดลายก็ดูสวยแปลกตาขึ้น” “ขอบคุณค่ะ” “มาๆ นั่งก่อน” หวังเข่อซิงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วเรียกพนักงานมาสั่งเครื่องดื่ม “เค้กร้านนี้อร่อยนะคะ ซื้อไปฝากเด็กๆที่บ้านก็ได้นะ” หลินเหยาซื่อใจชื้นขึ้น ดูท่าทางหวังเข่อซิงจะเป็นคนคุยง่ายอยู่เหมือนกัน “วันนี้ฉันเอาแบบร่างเสื้อผ้ามาให้ดูค่ะ เผื่อว่ามาดามจะชอบ” หวังเข่อซิง

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-14
  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 9.คุณพ่อกลับมาแล้ว

    หลินเหยาซื่อทำแป้งโดว์ให้เด็กทั้งสองเล่นและสอนปั้นเป็นรูปทรงต่างๆ จางหย่ง จางลี่ ต่างก็ชื่นชอบกันมาก “ไม่คิดว่าแป้งสาลี่จะเอามาทำแป้งปั้นแบบนี้ได้นะคะ” “ใช้ดีกว่าดินน้ำมันอีก” หลินเหยาซื่อหัวเราะคิกคัก นั่งมองเด็กๆ ปั้นแป้งเป็นรูปสัตว์ต่างๆ “ให้เด็กๆ เล่นหน้าบ้านสักยี่สิบนาทีแล้วพาเข้าบ้านนะคะ ฉันจะไปทำงานก่อน” “เจ้าค่ะ คุณผู้หญิง” ป้าฮุ่ยชิวนั่งดูเด็กๆ ปั้นดิน ตอนนี้หลินเหยาซื่อใช้ห้องนั่งเล่นเป็นห้องทำงานตัดเย็บเสื้อผ้าตัวอย่าง จึงไม่อยากให้เด็กๆ เข้าไปรบกวนเวลาทำงาน “ไข่ น้องไก่ไข่แล้วไปเก็บไข่กัน” จางลี่พูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงแม่ไก่ร้องกระต๊ากๆ “เก็บไข่ๆ” จางหย่งพูดขึ้นและทำท่าจะวิ่งไปที่เล้าไก่ใกล้ๆ “ใจเย็นๆค่ะคุณหนูคุณชาย” ป้าฮุ่ยชิวหัวเราะออกมา จางลี่เป็นผู้หญิงแต่นิสัยใจกล้าอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กผู้ชาย แต่จางหย่งเป็นเด็กชายกลับนิสัยอ่อนโยนว่าง่ายราวเด็กผู้หญิง “เดี๋ยวป้าเก็บเอง คุณๆ รออยู่ตรงนี้ อ้อ เล่นลูกบอลนี้ก็ได้ค่ะ” ป้าฮุ่ยชิวส่งลูกบอลให้จางหย่งแล้วเดินไปทางเล้าไก่ คร

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-14
  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 10. ไม่ใช่ภรรยาผู้แสนว่านอนสอนง่ายคนนั้น

    เพียงเดินเข้ามาในบ้าน กั๋วคังเหรินพลันรู้สึกได้สัมผัสความคุ้นเคยที่ห่างหายไปนาน เขาปรายตามองไปยังชั้นผนังห้องด้านหนึ่ง เป็นรูปวาดสเก็ตภาพด้วยดินสอ เป็นรูปครอบครัวสี่คนพ่อแม่และลูกแฝดทั้งสอง ภาพงานแต่งงานยังคงประดับอยู่ที่ผนังห้อง รูปภาพเหล่านั้นไม่มีฝุ่นเกาะเลยสักนิด แสดงว่าถูกทำความสะอาดหรือหยิบดูบ่อยๆ นี่คงเป็นเหตุผลที่เด็กสองคนที่ไม่เคยเห็นตัวจริงของเขา แต่กลับเรียกเขาว่าพ่อได้เต็มปากเต็มคำ“คุณหนู คุณชาย มาทางนี้ก่อนค่ะ”ป้าฮุ่ยชิวพยักหน้าเรียกเด็กทั้งสอง แต่จางหย่งกอดคอชายหนุ่มแน่นไม่ยอมปล่อย จางลี่มองด้วยตาแดงๆ อยากกอดคุณพ่อบ้าง หลินเหยาซื่อเกรงว่าเด็กจะร้องไห้ออกมาเลยส่งลูกให้ป้าฮุ่ยชิว“หย่งหย่ง ลี่ลี่ อยู่กับคุณป้าก่อนนะคะ คุณ...เอ่อ...คุณพ่อไม่ไปไหนหรอกค่ะ เราสัญญากันว่าจะไม่ดื้อและเชื่อฟังแม่ใช่ไหม”เด็กสองคนมองหน้ากันแล้วพยักหน้ารับ จางหย่งยอมปล่อยมือแล้วเดินไปจับมือกับจางลี่ที่ยังมองใบหน้าของผู้ชายที่เหมือนในรูปถ่ายก่อนจะจับมือป้าฮุ่ยชิวไปในครัวเมื่อไม่มีคนอื่นแล้ว หยินเหยาซื่อจึงจ้องมองชายคนหน้าเต็มตา เช่นเดียวกับกั๋วคังเหริน ที่กวาดสายตามองหญิงสาวตรงหน้า ไม่เจอกันเ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-14
  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 11. กลับบ้าน

    “อืม” เขาพยักหน้ารับ “ผมขอเข้าห้องตัวเองได้ไหม” “ค่ะ” เธอพยักหน้าหงึกหงัก “ป้าฮุ่ยชิวทำความสะอาดเป็นประจำ เผื่อคุณกลับมาก็ใช้ห้องนั้นได้ทันที” เขาชะงักไปเล็กน้อย เกือบสี่ปีที่หายไป เธอคงหวังให้เขากลับมาเสมอเลยสินะ กั๋วคังเหรินหลุบตาลงแล้วลุกขึ้นยืน เดินในบ้านที่คุ้นเคย มันคือบ้านหลังเดิมที่เขารู้จักมานานกว่าสิบปี ตั้งแต่เขายังเป็นนักศึกษา ท่านประธานหลินให้ทุนการศึกษากับเขามาตลอด เรียนจบก็กลับมาทำงานรับใช้ท่าน ที่ผ่านมาเขารู้ว่าสายตาของหลินเหยาซื่อมองเขาด้วยความรู้สึกมากกว่าพี่ชาย แต่ตัวเขาไม่เคยคิดเกินเลย จนกระทั่งคำขอของท่านประธานทำให้เขาแต่งงานกับเธอ แม้แต่งงานกัน แต่แยกห้องนอน เขามีห้องส่วนตัวบนชั้นสองของบ้าน แม้บ้านก็ยังคงเป็นบ้านหลังเดิม เพียงแต่บรรยากาศต่างไป อาจเพราะมีเด็กเล็กๆ อยู่ในบ้าน ความสดใสจึงละลายความหมองหม่นที่ปกคลุมมานาน หลินเหยาซื่อเดินตามแผ่นหลังของเขา เพียงอยากสังเกตว่าเขาจำข้าวของของตัวเองได้หรือไม่ ดูเหมือนเขาจะเดินตรงไปที่ห้องของตัวเองจริงๆ ห้องของเขาไม่ได้ล็อกไว้ ในบ้านตอนนี้มีแค่ป้าฮุ่ยชิว เธอกับลูกแฝด ไม่มีคนอ

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-16
  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 1 2.  คุณพ่อ

    “คุณพ่อ” เสียงเด็กชายตัวน้อยยังพูดไม่ชัดนักแต่เรียกกั๋วคังเหรินให้ตื่นจากภวังค์ ยังไม่ทันเอ่ยปากพูดอะไร ป้าฮุ่ยชิวก็เดินเร็วๆ ตรงมาทางเขา “ขอโทษค่ะคุณผู้ชาย คุณหนูกับคุณชายน้อยไปรบกวนหรือเปล่าเจ้าคะ” “ไม่หรอก” เขาตอบแล้วยกมือวางบนศีรษะของเด็กทั้งสอง “ทำไมเด็กๆ ตื่นเช้ากันจัง” “คุณหนูกับคุณชายน้อยตื่นพร้อมป้าเจ้าค่ะ” นางพูดเพราะกลัวว่าคุณผู้ชายจะเข้าใจผิดว่านางดูแลเด็กไม่ดีให้ตื่นไม่เป็นเวลา “ปกติป้านอนห้องเดียวกับคุณหนู ส่วนคุณผู้หญิงทำงานดึกนอนไม่เป็นเวลา เกรงว่าจะรบกวนเวลานอนของลูกเลยแยกไปนอนอีกห้อง แต่เพิ่งแยกห้องนอนไม่นานนี่นะเจ้าค่ะ ปกติคุณนายดูแลคุณหนูทั้งสองดีมาก ต้องอ่านนิทานให้ลูกฟัง กล่อมจนกว่าจะหลับถึงจะออกไปทำงาน” ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาไม่มีสิทธิตำหนิหลินเหยาซื่อด้วยซ้ำ “ก่อนหน้านี้คุณผู้หญิงล้มป่วยหมดสติไปเจ็ดวัน คุณหนูทั้งสองกลัวคุณผู้หญิงจะไม่ตื่นจึงชอบมาปลุกด้วยตัวเอง เอ่อ...ประเดี๋ยวป้าพาคุณหนูคุณชายลงไปชั้นล่างเองเจ้าค่ะ” “ไม่เป็นไร ผมพาไปเอง ป้าไปทำอาหารเช้า

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-16
  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 13.พี่น้อง 

    กั๋วคังเหรินไม่ได้เอ่ยอะไรอีก เขากินโจ๊กในชามตัวเองแล้วคอยดูลูกๆ กินข้าว เสียดายที่ไม่ได้อยู่ตอนที่พวกเขาเกิด ไม่ได้อุ้มตอนที่พวกเขายังแบเบาะ ต่อไปนี้เขาจะชดเชยเวลาที่ขาดหายไปให้ดีที่สุด และเอาทุกสิ่งที่ควรเป็นของหลินเหยาซื่อกลับคืนมา“ลูกแม่เก่งมากๆ” หลินเหยาซื่อพูดขึ้นเมื่อเห็นลูกกินข้าวได้เองแต่พร่องไปเกือบหมดชามแล้ว กั๋วคังเหรินกวาดตามองภรรยาตัวเล็กที่สวมเสื้อผ้าแปลกตา ที่ผ่านมาเขาเห็นเธอมักสวมกระโปรงแต่งกายเรียบร้อยอยู่เสมอแม้จะอยู่บ้านก็ตาม แต่ตอนนี้เธอสวมเสื้อเชิ้ตคอจีนแบบพอดีตัว แต่เป็นแบบเสื้อแขนกุด อวดเรียวแขนขาวผ่อง กับกางเกงทรงประหลาด ดูคล้ายเป็นกางเกงสแล็คของผู้ชายแต่ตัดให้พอดีกับรูปร่าง ผ้าสีครีมทำให้เธอดูอ่อนนุ่มไปทั้งตัว ผมยาวถูกรวบขึ้นอย่างง่ายๆ รับกับผมม้าน่ารัก“คุณแม่หม่ำๆ” จางลี่พูดแล้วยิ้มกว้าง“คุณแม่กินข้าว” จางหย่งไม่ยอมแพ้“จ๊ะๆ แม่กินข้าวด้วยนะ” เพียงหลินเหยาซื่อนั่งลง ป้าฮุ่ยชิวก็ยกโจ๊กมาให้เธอ “ขอบคุณค่ะ”“ขอบคุณค่ะ” จางลี่พูดเลียนแบบแม่“ขอบคุณค่ะ” จางหย่งรีบพูดขึ้นบ้างหลินเหยาซื่อหัวเราะเบาๆ “หย่งหย่งต้องพูดว่าครับ ลี่ลี่พูดว่าค่ะ”“คับ/ค่ะ”ถึงจะพูด

    Terakhir Diperbarui : 2024-11-16

Bab terbaru

  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 49. ตอนพิเศษ 3.

    จู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกอบอุ่นผูกพันในแววตาคู่นั้น หลินเหยาซื่อไม่แน่ใจว่า ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้คืออะไร ทำไมเธอรู้สึกว่าเขาคือคนที่เคยกุมมือไว้ก่อนที่จะสิ้นใจดวงตาหลังแว่นสายตาตื่นตกใจที่เห็นดวงตาคู่สวยมีหยดน้ำตา “คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า มีอะไรผิดปกติไหม”หญิงสาวใส่หน้าไปมา “ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ทำไมตัวเองถึงมีน้ำตา”เธอพยายามหัวเราะเช่นทุกครั้ง เวลามีอะไรเธอมักจะหัวเราะเสมอ กระทั่งครั้งนี้เธอก็หัวเราะทั้งที่มีน้ำตา ชายหนุ่มยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่เปื้อนแก้ม“สัญญากันแล้วนี่นา ว่าจะไม่หลับไปนานแบบนี้อีก”คราวนี้หญิงสาวตกใจกับคำพูดของเขา“เมื่อกี้คุณหมอพูดว่าอะไรนะคะ”‘คุณหมอ’ ชายหนุ่มยิ้มเศร้า เธอคงจำเขาไม่ได้สินะ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วขยับตัวรักษาระยะห่างระหว่างหมอกับคนป่วย ทั้งที่เขาอยากคว้าเธอมากอดแนบอกเหลือเกิน‘จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่เขาจำเธอได้ก็พอ’ชายหนุ่มมองดวงตากลมโตที่ยังมีแววสงสัย เรื่องแบบนี้เล่าไปจะมีใครเชื่อ ตัวเขาเองยังไม่อยากจะเชื่อเลยหลังจากภรรยาตายจากได้ห้าปี เช้าวันหนึ่งเขาก็ตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าของร่างนี้ป่ว

  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 48. ตอนพิเศษ 2.

    หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ มองตัวเองในกระจก ยกมือขึ้นเปิดเส้นผมที่ปรกหน้าเห็นรอยแผลจากการถูกกระแทกต้องเย็บยี่สิบเข็ม คุณหมอแจ้งว่าถ้าเธอต้องการทำศัลยกรรมเพื่อลบรอยแผลเป็นก็ทำได้ เธอจำได้ว่าตอนนั้นเธอหัวเราะและตอบไปว่า“ไม่เป็นไรค่ะ แผลเป็นนิดเดียว”แต่จริงๆเธอเสียเงินหลายหมื่นหยวน ในปีค.ศ. 2023 นี้ เธอคือผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดา เหลือเงินติดบัญชีอยู่ไม่เท่าไหร่ โชคยังดีที่บริษัทภาพยนตร์ที่เธอรับงานเป็นตัวประกอบเห็นใจให้เงินค่าทำขวัญมาจำนวนหนึ่ง ส่วนค่ารักษาพยาบาลนั้นมาจากประกันอุบัติเหตุ เธอจึงไม่ต้องเป็นหนี้สินล้มละลายเพราะการรักษาตัวเอง แต่ข่าวที่เธอช่วยชีวิตคนอื่นก็ทำให้เธอกลายเป็นที่สนใจ ตอนนี้แม้เธอเป็นแค่ตัวประกอบ แต่ก็มีหลายบริษัทอยากให้เธอไปร่วมเล่นซีรีย์บทเล็กๆ ถึงอย่างไรหน้าตาเธอก็ไม่ได้สะสวยพอจะเป็นถึงนางเอกได้ และยิ่งตอนนี้มีแผลเป็นที่หน้าผากอีก ต่อให้ใช้ make up ปิดบังยังไง ก็ยังเห็นอยู่ดี แผลเป็นไม่ได้น่าเกลียดเท่าไหร่ เห็นแล้วก็อดคิดถึงแผลเป็นของผู้ชายคนนึงไม่ได้ แผลเป็นของเขาใหญ่กว่าเธอมาก ผ่านมาหลายปี แผลเป็นนั้นก็เป็นรอยจางๆหลินเหยาซื่อต้องทำกายภาพบำบัดที่โรงพยา

  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 47. ตอนพิเศษ 1.

    “ผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ พ่อก็รักไม่น้อย ปกว่ากัน แล้วพวกลูกล่ะ จะรักน้อง ไม่ว่าน้องจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายหรือเปล่า”“แน่นอนครับค่ะ พวกเรารักน้อง อยากให้น้องออกมาเร็วๆ จะช่วยคุณแม่เลี้ยงน้องและเล่นกับน้อง” คนเป็นแม่หัวเราะเสียงใส จะช่วยแม่เลี้ยงน้องหรืออยากเล่นกับน้องก็ไม่รู้เสียงหัวเราะของคนในครอบครัว ละลายความหม่นเศร้าที่เคยปกคลุมในบ้านหายไปหมดสิ้น ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือไปตรงหน้า“เข้าบ้านเถอะเย็นแล้ว อากาศเย็น เดี๋ยวคุณจะไม่สบายเอา”หญิงสาวมองมือใหญ่แข็งแกร่งที่ยื่นมาตรงหน้า เธอรู้ว่ามือคู่นี้จะคอยประคองเธอไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่นเดียวกับเธอที่สัญญาไว้กับเขาว่าจะจับมือเขาไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบางที...นี่อาจเป็นเหตุผลที่โชคชะตาส่งเธอมาในปีนี้ 1980 เพื่อได้รับใครสักคน และเพื่อให้หัวใจได้ถูกรัก.จบ.ลืมตาอีกครั้งหญิงสาวลืมตาขึ้นแล้วพบว่า ตัวเองอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ต้องตั้งสติอยู่นานกว่าจะรู้ว่า ตัวเองตื่นมาในปีค.ศ. 2023 เธอคือผู้รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ในอุบัติเหตุรถบัสตกเขาลงแม่น้ำหลินเหยาซื่อจำได้ว่าตอนที่ฟื้นขึ้นมา เธอสบตากับดวงตาคู่หนึ่งแม้เขาจะสวมหน้ากากอนา

  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 46.   หอมกลิ่นความรัก

    คราวนี้เห็นทีจะจบเรื่องแล้วจริงๆ หลินเหยาซื่อถอนหายใจอย่างหอบเหนื่อย เธอถึงกับหมดแรงนั่งลงไปกับพื้น สามีเห็นแล้วก็รีบเข้าไปประคองอุ้มเธอขึ้นมาไว้บนเตียง เขาสั่งการกับเว่ยฉือให้จัดการเรื่องทั้งหมดแทนเขา เมื่อในห้องไม่มีคนนอกแล้ว ลูกทั้งสองคนก็ได้รับอนุญาตให้เข้ามาหาแม่ได้“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นครับ/ค่ะ”เด็กน้อยสองคน ปีนขึ้นเตียงรีบเข้ามากอดแม่ เด็กฝาแฝดคนแย่งกันพูดเสียงดัง บรรยากาศกลับสดใสอีกครั้ง หลินเหยาซื่อส่ายหน้าไปมา บทเรียนต่อไปเธอต้องสอนให้ลูกพูดเสียงให้เบาลงกว่านี้ แต่เอาเถอะ เวลานี้เสียงของลูก ไพเราะที่สุดแล้ว“ขอแม่หอมแก้มเพิ่มพลังหน่อยสิ” หญิงสาวพูดขึ้น เด็กน้อยสองคนก็รุมหอมแก้มกันใหญ่สามีถอนหายใจแล้วค่อยยิ้มออกมา ทั้งที่เมื่อครู่เจอเรื่องอันตรายมากแต่เธอก็ยังยิ้มได้ คนที่บ้าที่สุดอาจจะเป็นภรรยาของเขาก็ได้ คิดแล้วเขาก็หัวเราะออกมาหลินเหยาซื่อเสียงสามีหัวเราะ ก็หันไปทำหน้ายู่ใส่“หัวเราะอะไรคะ”“หัวเราะอะไรคะ/ครับ” ลูกสองคนพูดเลียนแบบแม่“ไม่มีอะไรครับ”คนเป็นพ่อพูดแล้วโบกมือไปมา แต่หลินเหยาซื่อสบตากับลูกทั้งสองส่งสัญญาณ คนเป็นสามีรู้สึกไม่ค่อยน่าไว้ใจแสร้งถอยหลัง แต

  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 45. ภาพที่เห็นตรงหน้า

    ภาพที่เห็นตรงหน้า ทำให้ดาราสาวปวดใจแทบเป็นบ้า ยิ่งเห็นกั๋วคังเหรินโอบกอดหลินเหยาซื่ออย่างปกป้องและความห่วงใย ครั้งหนึ่งอ้อมกอดนั้นเคยเป็นของเธอมาก่อน ทำไมมันถึงมาจุดนี้ได้ ทำไมไม่ใช่เธอที่อยู่ในอ้อมกอดเขา ดาราสาวแหงนหน้าหัวเราะ ท่าทางไม่ต่างจากคนเสียสติ โลกไม่ยุติธรรมเสียเลย เธอมองหน้าชายที่เคยรักผ่านม่านน้ำตา“ทำไมคะ ทำไมคุณไม่รักฉัน ทำไมคุณต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น”ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง เขาประคองร่างของภรรยาขึ้น มองเห็นหยดเลือดจากที่เธอกระชากสายน้ำเกลือออกก็ปวดใจ โชคดีที่ลูกสาวลูกชายไม่ได้อยู่ในห้องนี้ เขาไม่อยากให้ลูกๆ ต้องมาเห็นภาพแบบนี้“เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว คุณจะรื้อฟื้นทำไม คุณเองก็ไม่ได้มีผมเพียงคนเดียว ระหว่างที่เราคบกัน ก็ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณมีคนอื่น” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ได้ยินดังนี้ ดาราสาวถึงกับหน้าซีดไป เพราะเธอคิดเสมอว่าเขาไม่เคยรู้เรื่องราวด้านมืดของเธอเลยชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง“ให้มันจบแค่นี้เถอะ คุณมีชีวิตของคุณ ผมมีชีวิตของผม ผมมีภรรยาและลูกที่รักมากและผมต้องดูแลพวกเขา นอกจากหลินเหยาซื่อแล้ว ชีวิตนี้ผมไม่อาจรักใครได้อีกแล้ว เห็นแก่ควา

  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 44. ความจริง

    หลังจากมั่นใจว่า ในห้องไม่มีคนอื่นอยู่แล้ว หลินเหยาซื่อจึงลุกขึ้นจากเตียงนอน เธอรู้สึกรำคาญสายน้ำเกลืออยู่บ้าง แต่จะทำอย่างไรได้ก็สถานะตอนนี้เป็นคนป่วยนี้นะเธอไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเองอีกเมื่อไหร่ เธอจะหลับไปแบบนี้อีกไหม หลับไปยาวนานถึง 7 วัน ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเธอ แม้กระทั่งหมอ แต่ตัวเธอเอง ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า ชีวิตที่ได้มาใหม่นี้ จะใช้ได้ยาวนานเพียงใด แต่ที่สุดแล้ว ก็ยังมีลมหายใจอยู่ โดยเฉพาะในชาตินี้ เธอรู้ดีว่า มีสิ่งที่สำคัญที่สุดรออยู่ นั่นก็คือ ลูกชายหญิงฝาแฝดของเธอ ที่แม้ซนเหมือนลิง แต่เธอก็รักพวกเขามากแม้ไม่มีความทรงจำที่อุ้มท้องพวกเขา แต่เธอก็รู้สึกว่าทั้งสองเป็นลูกของเธอจริงๆหญิงสาว มองไปที่โต๊ะตรงหัวเตียง มีกระเช้าผลไม้ตั้งอยู่ มีผลไม้หลากชนิด เธอเอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ลสีสวย เห็นแล้วก็คิดถึงงานที่ทำค้างอยู่ Collection ใหม่ครั้งหน้า เธอน่าจะออกแบบลายผ้า เป็นรูปผลไม้เด็กๆชอบผลไม้สีสันสดใส น่าจะทำลายผ้าแล้ว ทำของอย่างอื่นด้วยก็ดีนะหลินเหยาซื่อคิดฝันไปไกลถึงกิจการของตัวเอง และเม็ดเงินที่จะเข้ากระเป๋า เมื่อมีเงินมาก เธอก็สามารถท

  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 43.  ทำให้เป็นห่วง

    แม้จะไม่ได้อาบน้ำแต่ก็สบายตัวขึ้น หลินเหยาซื่ออารมณ์ดีขึ้น เธอเดินกลับมานั่งบนเตียง ผู้ชายตัวโตบังคับให้เธอลงนอน แต่เธอตีแขนเขาเบาๆ “นอนเยอะแล้วค่ะ ให้นั่งบ้างเถอะ” เธอกวาดตามองเขาแล้วดึงแขนให้เขามานั่งข้างๆ ยื่นมือไปแตะบริเวณที่จำได้ว่าเคยเห็นเลือดไหล “หลังก็มีแผลเป็น หน้าจะมีแผลเป็นอีกไหมนะ” “คุณกลัวเหรอ” เขาถามยิ้มๆ เขาเป็นผู้ชาย แผลเป็นไม่ได้สำคัญกับเลยสักนิด “เปล่าเสียหน่อย ฉันเป็นห่วงคุณต่างหาก คุณให้คุณหมอตรวจร่างกายหรือยังคะ ทุกอย่างโอเค.ไหม” “ผมบาดเจ็บเล็กน้อย คุณต่างหากที่หลับไป หมอก็หาสาเหตุไม่เจอ” “ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะคะ” “ผมต่างหากที่ทำให้คุณต้องบาดเจ็บ” “ก็บอกแล้วไงว่าตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของคุณ-เรื่องของฉัน แต่เป็นเรื่องของเราแล้วค่ะ” นอกจากแม่แล้ว เขาก็ไม่เคยมีใครใกล้ชิดแบบนี้ แม้แต่ตอนที่คบกับเดซี่ แม้ภายนอกใกล้ชิดกันแต่ระยะห่างของหัวใจนั้นไกลมาก เสียงประตูห้องเปิดออก กั๋วคังเหรินคิดว่าลูกๆกลับมาแล้ว แต่เมื่อหันไปดูจึงพบว่าเป็นคนที่เขาไม่อยากเจอหน้

  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 42.  ตื่นพบความจริง

    ทันทีที่ลืมตา ภาพที่เห็นคือเด็กน้อยสองคนที่หน้าตาคล้ายกันจนเหมือนพิมพ์เดียวกันนั่งจ้องหน้าด้วยแววตาวิตกกังวล ทำให้เธอยื่นมือไปตั้งใจจะคว้าเอาเด็กสองคนมากอด แต่มีสายน้ำเกลือติดที่แขนทำให้ชะงักไป หลินเหยาซื่อทำหน้างุนงงและสับสนว่าเธออยู่ในปีค.ศ.ไหนกันแน่ “คุณแม่ตื่นแล้ว!” จางลี่กับจางหย่งผสานเสียงขึ้นพร้อมกันเสียงดังจนหลินเหยาซื่อต้องหยีตาและทำให้กั๋วคังเหรินที่ยืนคุยกับคุณหมอรีบสาวเท้ามาข้างเตียงภรรยาสาว “เหยาซื่อ...ได้ยินผมไหม?” กั๋วคังเหรินถามเสียงสั่น เขาเองก็กลัวว่าเธอจะไม่ฟื้นขึ้นมา แต่ไม่อาจแสดงความอ่อนแอได้ เพราะลูกยังต้องการเขาอยู่ “เกิดอะไรขึ้น” เธอถามและพบว่าน้ำเสียงแหบแห้งเหลือเกิน “ฉันอยู่ที่ไหน” “โรงพยาบาล...” เขาเอ่ยชื่อออกไป “คุณหลับไปเจ็ดวันเลยทีเดียว” “เจ็ดวัน...” หลินเหยาซื่อยังมึนงงอยู่ แต่เมื่อยื่นมือไปแตะใบหน้าที่โน้มลงมาใกล้สัมผัสไออุ่นที่คุ้นเคยก็ทำให้มั่นใจว่าไม่ได้ฝันไป “ขอโทษที่หลับไปนานนะคะ” เธอหันไปมองลูกทั้งสองที่ทำตาแดงๆ มองเธอ “แม่หลับไปหลายวัน ดื้อกับคุณพ่อหรือเปล่า

  • เมื่อตัวประกอบทะลุมิติมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดียวยุค 80's    ตอนที่ 41. ผมไม่เป็นไร

    หลินเหยาซื่อถูกแรงกระแทกทำให้ผวาตื่น เธอหันซ้ายแลขวาอย่างตื่นตระหนก รถยนต์ส่ายไปมาอย่างน่ากลัว ความทรงจำสุดท้ายก่อนจะมาฟื้นในปี1980คือรถบัสที่ส่ายไปมาและพุ่งตกเขา เธอตื่นตระหนกด้วยคิดว่าตัวเองกลับไปสู่เหตุการณ์ในปี2023 แต่มือที่กุมมือแน่นอยู่นั้นทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ในปี1980กับผู้ชายที่ชื่อกั๋วคังเหริน“เกิดอะไรขึ้นคะ”“เชื่อใจผม” เขาโอบเธอไว้ในอ้อมกอดกดศีรษะเธอให้ซุกกับแผ่นอกของเขา“เว่ยฉือ”“พวกมันมากันหลายคน ผมจะพยายามสลัดพวกมันให้หลุด อ๊ะ!”รถยนต์คันนั้นพุ่งเข้าชนจากท้ายรถอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันดันให้ไปด้านหน้า เว่ยซือจะหักพวกมาลัยหลบแต่รถยนต์อีกคันมาขนาบข้าง ดวงตาดำจ้องมองผ่านหน้าต่างรถ กั๋วคังเหรินเห็นปากกระบอกปืนส่องมาตรงมาทางเขาก็รีบกดร่างหลินเหยาซื่อให้หมอบลงไป เว่ยซือเห็นท่าไม่ดีเหยียดคันเร่งหนีให้พ้นวิถีปืน ทว่ารถยนต์เสียหลักออกนอกเส้นทางพุ่งตกลงไปในแม่น้ำ!รวดเร็วจนหลินเหยาซื่อไม่ทันกรีดร้อง เธอรู้สึกว่าร่างกระเด็นกระดอนในรถยนต์ แต่ก็มีกั๋วคังเหรินกอดไว้แน่น เธอหูอื้อไม่ยินเสียงใดทั้งนั้น ราวกับเคยเกิดเรื่องนี้มาก่อน ใช่ ...มันเคยเกิดขึ้นในรถบัสที่เธอนั่งเดินไปเป็น

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status