ตำรวจข้ามภาพท่อนนั้น ก่อนจะเห็นฉันที่ถูกรถชนยามเดินสติเลื่อนลอยจากกล้องวงจรปิดริมถนนตำรวจดูด้วยความสงสาร ตบบ่าของหลินลู่หมิงแต่ไม่เอ่ยคำใดหลินลู่หมิงทรุดนั่งลงกับพื้น ดวงตาเหม่อลอย สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวราวกับสมัยก่อน ตอนที่เขายังเป็นเด็กอายุสิบขวบมองน้องสาวที่เพิ่งลืมตาดูโลกและแม่ที่เพิ่งจากโลกนี้ไปหากเทียบความเจ็บปวดในคราวนั้นกับตอนนี้แล้ว ไม่ได้ย่อหย่อนไปกว่ากันเลยการจะหาศพฉันให้เจอสำหรับหลินลู่หมิงแล้วใช้เวลาไม่มากนักฉันนอนนิ่งอยู่ตรงนั้นร่างขาวซีด ทั้งเย็นเฉียบทั้งยังแข็งทื่อคนจากโรงพยาบาลรู้สึกสงสาร “สาวน้อยน่าสงสารเสียจริง ได้ยินว่าเพิ่งอายุสิบแปด”จากนั้นก็เริ่มตำหนิ“ตั้งนานแล้ว ครอบครัวเพิ่งจะมาตามหา”สายตากวาดมองหลินลู่หมิงหัวจรดเท้า ดูท่าแล้วไม่ใจเขาสักเท่าไหร่นั่นสินะ ฉันในชาตินี้ถูกหลินลู่หมิงทำร้ายเสียส่วนใหญ่อีกส่วนหนึ่งก็ถูกหลินเสี่ยวหย่าทำร้ายสองพี่น้องคู่นี้ คือฆาตกรหลินลู่หมิงกอดศพของฉันเอาไว้ “โยวโยว พี่มารับเธอกลับบ้านแล้วนะ”“เธอหนาวหรือเปล่า”เขาหนาวจนสั่นสะท้านแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ สองมือยังคงลูบใบหน้าขาวซีดของฉันไม่หยุด
หลินอีกกับเยว่เยว่ขอเถ้ากระดูกฉันจากหลินลู่หมิงพวกเขาสองคนร้องไห้จนตาบวมฉันรู้สึกความรู้สึกของคนเรานั้นไม่อาจวัดได้ด้วยเวลา ยกตัวอย่างเช่น ฉันกับพี่ชายที่ใช้ชีวิตด้วยกันมาสิบแปดปี แต่พี่ไม่เคยกอดฉันสักครั้งไม่เคยรักฉันเลยสักนิดแต่ความรักที่ฉันสัมผัสได้ยามที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกบนนี้นั้นมาจากเยว่เยว่และหลินอีเกือบทั้งหมดฉันตายในคืนที่ตั้งใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่“เอาเถ้ากระดูกของโยวโยวคืนให้พวกเรา”สีหน้าของเยว่เยว่ไร้อารมณ์ “โยวโยวไม่อยากอยู่กับนาย สิ่งสุดท้ายที่เธอทำ คือหนีไปจากนาย”“ไม่ใช่หรือไง”เยว่เยว่ไม่ได้ด่าพี่ชายฉันสาดเสียเทเสียเหมือนตอนอยู่กับฉันเธอพยายามรักษามารยาทเพราะเธอไม่อยากฉันต้องถูกคนดูแคลนเพราะมีเพื่อนพูดจาหยาบคายแบบเธอ“หลินลู่หมิง ฉันรู้ นายเกลียดโยวโยวไม่ใช่รึไง?”เยว่เยว่จ้องมองหลินลู่หมิงเขาหลุบตาลง ในมือกุมเถ้ากระดูกของฉันไว้ทว่าไม่ตอบโต้นั่นสินะ เขาจะพูดอะไรได้เล่า?ทว่าเยว่เยว่ไม่คิดจะปล่อยเขาไป“ไม่อย่างนั้น ทำไมนายถึงได้รวมหัวกับน้องสาวลูกบุญธรรมหลินเสี่ยวหย่า บีบคั้นจนน้องสาวแท้ ๆ ของตัวเองตาย”“เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเสี่ยวหย่า? อย
หลินลู่หมิงตรวจสอบสิ่งที่ฉันประสบพบเจอก่อนจะจากโลกนี้ไปถึงได้รู้ว่าหลินเสี่ยวหย่าทำอะไรไว้มากมายลับหลังเขาที่แท้เขานั้นไม่เข้าใจอะไรเลยฉันคิดว่าเขารู้ทุกอย่างเสียอีกฉันมองเขาเรียกหลินเสี่ยวหย่าที่กำลังเรียนอยู่ออกมาจากห้องเรียน ก่อนจะลากเธอไปที่ห้องน้ำหญิงก่อนจะทำทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับฉันทั้งยังเรียกคนมาถ่ายรูปเธอในสภาพงามหน้าหลังจากนั้นก็ให้คนโพสต์อย่างนิรนามบนเว็บบอร์ดต่าง ๆ ของโรงเรียนรวมถึงเรื่องที่เธอปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับฉัน ยกพวกมารังแกฉันในโรงเรียนเมื่อคนร้ายกลับใจนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าหลินเสี่ยวหย่าเดือดดาลสิ่งที่เธอได้รับนั้นรุนแรงยิ่งกว่าฉันในตอนนั้นเป็นร้อยเป็นพันเท่าเธอคุกเข่าอยู่หน้าประตูห้อง อ้อนวอนให้หลินลู่หมิงไว้ชีวิตตัวเองเธอไม่เข้าใจว่าทั้ง ๆ ที่หลินลู่หมิงเกลียดน้องสาวของตัวเอง แถมอีกฝ่ายยังตายแล้วด้วย แล้วทำไมถึงไม่ดีใจ?ทำไมถึงได้คิดแค้นกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ติดบัญชีทีละเรื่องแก้แค้นคนที่เคยกลั่นแกล้งเธอทุกคนราวกับเขานั้นเป็นห่วงน้องสาวของตัวเองเหลือเกินส่วนคนร้ายข่มขืนคนนั้นจู่ ๆ ก็ถูกพบว่าตายโดยไม่รู้สาเหตุเสียอย่างนั้น ศพที
ราวกับได้ยินเสียงในใจของฉันพี่ชายพลันเงยหน้าขึ้น มองห้องอันว่าเปล่า นั่นคือที่ที่ฉันเคยอาศัยตอนยังมีชีวิตอยู่สะอาดเหมือนไม่เคยมีคนอยู่มาก่อนนั่นสินะ ที่หลินเสี่ยวหย่ามี ฉันไม่มีเลยสักอย่าง“โยวโยว เธอยังอยู่ที่นี่ใช่ไหม”“พี่รู้สึกว่าเธอยังอยู่ที่นี่ตลอด”พี่ชายเหมือนวิญญาณหลุดลาย นั่งอยู่ในห้องป้าหวังเดินออกมาก่อนจะถอนหายใจ“ลู่หมิง เราต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ”“โยวโยวเป็นห่วงเรามา”“แต่ก่อนเวลาเราเมา ซุปแก้เมาค้างกับโจ๊กข้าวฟ่างพวกนั้น โยวโยวเขาเตรียมให้เราทั้งหมดเลย”“แล้วก็ของบำรุงสายตาบนโต๊ะเราพวกนั้นด้วย”“เสื้อเชิ้ต เสื้อผ้าต่าง ๆ ของเรา โยวโยวก็เป็นคนช่วยรีดให้เรา”จู่ ๆ หลินลู่หมิงก็คิดถึงสมัยก่อนตอนที่ดื่มจนเมา พอเข้าประตูบ้านมาก็เห็นน้องสาวชะโงกหัวออกมาจากห้อง แอบมองมาที่ตัวเอง ตอนนั้นเธอเพิ่งขึ้นมัธยมหนึ่ง แต่ตัวเขาต้องกินเลี้ยงกับลูกค้าที่บริษัทไม่หยุดหย่อนตอนนั้นเขาทำอะไรลงไป?เขาพยายามนึก“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ”“ฉันคงไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้”“ฉันเกลียดเธอ หลินโยวโยว”เขาเห็นดวงตาสุกใสของน้องสาวค่อยเอ่อคลอด้วยน้ำตา เขารู้สึกสะใจมาก หลังจากนั้นก็รู้สึกผิดน
ฉันมองใบหน้าของหลินลู่หมิงที่กำลังยิ้มแย้มรู้สึกสงสัยไม่น้อยสองแขนของเขาอ้าออกหันมาหาฉัน“โยวโยว น้องสาวของพี่ พี่ได้เจอเธอ”ฉันหันหลังกลับด้วยความรังเกียจ“หลินลู่หมิง”“ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือ”“ฉันจะไม่เรียกนายว่าพี่อีก แล้วฉันก็ไม่ใช่น้องสาวของนาย”ความตื่นเต้นในแววตาของเขาค่อย ๆ จางหาย ท่อนแขนก็ค่อย ๆ ลดลงเขาเอ่ยเสียงแผ่วเบา “น้องสาว พี่ตายแล้ว เธอจะไม่ดีใจสักนิดหรือ”น้ำเสียงอ้อนวอนนั้นยากจะอธิบาย“ไม่”“ถ้าเป็นไปได้ ฉันขอให้นาย”เขาเงียบเพื่อฟัง มุมปากยกยิ้มบาง ใบหน้านั้นจริงใจจนแทบจะเหมือนคนเสียสติ“อายุยืนร้อยปี”“อยู่อย่างโดดเดี่ยวไปจนแก่เฒ่า”รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแข็งค้าง “โยวโยว เธอพูดอะไรน่ะ”“ฉันพูดว่า นายห้ามตาย”“เพราะฉันไม่อยากเห็นหน้านาย”“หลินลู่หมิง ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน ฉันก็ไม่อยากพบเจอนายอีก”วันที่ฉันจากโลกมนุษย์ไป ได้ไปเจอหลินอีและเยว่เยว่เป็นครั้งสุดท้ายพวกเขากำลังยืนอยู่หน้าหลุมศพของฉันรำลึกถึงฉันสายลมพัดมา ฉันมองดูพวกเขาเผยยิ้มก่อนจะล่องลอยไปไกลแสนไกลลืมเลือนต่างหากคืออิสระที่แท้จริง
หลินเสี่ยวหย่าพบเจอกับความรุนแรงในโรงเรียนได้ครึ่งปีก็อดทนต่อไปไม่ไหวจนกระโดดตึกลงมาตอนที่ยืนอยู่ริมตึก เธอเคยคิดว่า เด็กผู้หญิงที่ดูเหมือนอ่อนแอคนนั้นความจริงแล้วเข้มแข็งมากจริง ๆในเมื่อเธอถูกพี่ชายเมินเฉยมากว่าสิบแปดปีถูกตัวเองรังแกที่โรงเรียนมาหกปี ตั้งแต่มัธยมต้นปีหนึ่งจนถึงมัธยมปลายปีสามแต่ก็ยังไม่ฆ่าตัวตาย ทว่าสุดท้ายกลับถูกรถชนตายเสียอย่างนั้นน่าตลกเสียจริง พอได้ยินข่าวของหลินลู่หมิง ก็ได้แต่แค่นหัวเราะเสียงเย็น “สมน้ำหน้า”ก่อนจะเสริมอีกประโยค “ไม่สาสมกับเธอเลย”ทุกคนต่างรู้ว่าประธานใหญ่ของธุรกิจตระกูลหลินนั้นเป็นคนหนุ่มมากความสามารถในบ้านนั้นแขวนรูปขนาดใหญ่ ได้ยินมาว่าเป็นน้องสาวของเขาหลินลู่หมิงค้นทั้งบ้านและโทรศัพท์ของตัวเองกลับไม่มีรูปถ่ายของหลินโยวโยวสักใบเดียวสุดท้ายได้โทรศัพท์มือถือของน้องสาวกลับมาถึงได้พบว่ามีรูปหนึ่งที่เขาถ่ายไว้น้องสาวในภาพ ใส่ชุดกระโปรงสีขาวฟูฟ่อง สวมมงกุฎเจ้าหญิง บนนั้นฝังล้อมไปด้วยเพชรแวววาว เปล่งประกายภายใต้แสงอาทิตย์น้องสาวยิ้มตาเป็นเส้นโค้ง ใบหน้าสดใน ในมือถือเค้กวันเกิดหน้าเค้กเขียนว่า “สุขสันต์วันเกิดน้องสาวของฉัน”น
ฉันตายแล้วหลินโยวโยวตายจากไปในวัยสิบแปดปีที่งดงามที่สุดความเจ็บปวดอันรุนแรงจู่โจมเข้าในทันใด โชคดีที่ฉันตายในทันทีเพียงแต่ศพนั้นดูไม่จืดสักเท่าไหร่ฉันลอยละล่องอยู่กลางอากาศ ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างส่ายหน้าทอดถอนใจฉันตามศพไปยังโรงพยาบาลหลังจากช่วยชีวิตพอเป็นพิธีแล้วก็เข็นฉันเข้าห้องดับจิตหมอพลิกเสื้อเก่าโทรมของฉันหาทุกซอกทุกมุมแล้วแต่ก็ไม่เจอสิ่งที่ยืนยันตัวตนของฉันได้“น่าสงสารจริง ๆ”“สาวน้อยหน้าตาสะสวย ดูท่าคงยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ”“เฮ้อ ไม่รู้ว่าถ้าคนที่บ้านรู้แล้วจะเสียใจแค่ไหน”อ๋อ ใช่แล้วหลังจากทะเลาะกับพี่ชายแล้ววิ่งหนีออกมา กระเป๋าตังกับบัตรประชาชนของฉัน รวมถึงโทรศัพท์มือถือก็ถูกผู้ชายคนหนึ่งจี้ไปแถมเขายังกระชากของอีกอย่างหนึ่งของฉันไปด้วย แต่ฉันลืมไปแล้วพยาบาลน้ำตาไหลขณะเช็ดคราบเลือดบนร่างกายของฉันอย่างละเอียดจนสะอาดหมดจด ฉันคิดในใจว่า ถ้าพี่ชายรู้แล้วไม่รู้ว่าเขาจะดีใจมากแค่ไหนฉันเหม่อมองศพของตัวเองครุ่นคิดว่าอีกนานแค่ไหนพี่ชายถึงจะมารับศพฉันกันนะ?
ฉันลอยละล่องกลับมาที่บ้านคฤหาสน์หรูหลังหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ในเขตชานเมืองราวกับสัตว์ป่าจำศีลท่ามกลางความมืดมิดนั้น คือบ้านที่ไม่เคยมอบความอบอุ่นให้ฉันเลยแม้แต่นิดแสงของโคมไฟสะท้อนแววตาดุดันของพี่ชายอย่างนุ่มนวล เขากำลังจัดการงานของบริษัทเรียวคิ้วขมวดเข้าหากันเขามองเวลาบนโทรศัพท์มือถือ แววตาเริ่มหมดความอดทน ราวกับกำลังหงุดหงิดผ่านไปครู่หนึ่ง เขาเปิดโทรศัพท์มือถือ พยายามโทรหาใครสักคนแต่ดูเหมือนว่าจะโทรไม่ติด เขาสถบแล้วตัดสายทิ้งกวาดของทุกอย่างบนโต๊ะทิ้งพี่ชายอารมณ์ร้อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ฉันรู้ดี“โยวโยว เธอปีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ”“กล้าดียังไงถึงได้บล็อกเบอร์กับวีแชตของฉัน!”พี่ชายปาข้าวของระบายอารมณ์“แน่จริงชาตินี้ก็อย่ากลับมาอีก”“จะไปตายที่ไหนก็ไป”จมูกฉันพลันแสบร้อนขึ้นมาถึงจะตายแล้วก็เถอะพอได้ยินคำพูดแบบนั้น ฉันเองก็อยากร้องไห้เหมือนกัน“พี่คะ สมใจพี่แล้วล่ะ”“น้องสาวของพี่ หลินโยวโยวตายแล้วจริง ๆ”ฉันมองแสงอาทิตย์ยามเย็นที่อยู่ไกลออกไปค่อย ๆ เลือนหายราวกับอุณหภูมิองศาสุดท้ายของร่างกายฉันเองก็ถูกพรากไปด้วย