แชร์

ตอนที่ 31 งานแต่งงาน

ผู้เขียน: Jiulin
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-31 11:05:25

ฮ่องเต้และฮองเฮาเดินเข้ามาในงานด้วยท่วงท่าสง่างามยิ่ง ฮ่องเต้นั้นสวมฉลองพระองค์ด้วยชุดสีเหลืองทองอร่ามปักลายมังกรงามสง่า ส่วนฮองเฮาสวมชุดคลุมพญาหงส์สวยตระการตาปิ่นห้อยพญาหงส์สีแดงทองทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยความสูงค่าทรงสง่าดูมีท่วงท่าของพระมารดาของแผ่นดินเป็นอย่างมาก  

บนโถงพิธีมงคลเทียนสีแดงถูกจุดสว่างตำแหน่งเก้าอี้สูงมีฮ่องเต้และฮองเฮาประทับอยู่  

ด้านนอกโถงพิธีมงคลมีขุนนางที่หลี่กงอี้เชื้อเชิญมาร่วมงานรวมตัวกันอยู่ไม่น้อย

“ได้ฤกษ์แล้ว ต้อนรับบ่าวสาว”  

ผู้ดูแลจวนเดินออกมายืนป่าวประกาศด้วยเสียงอันดังดนตรีมงคลก็เริ่มบรรเลง เกี้ยวเจ้าสาวหามมาถึงนอกประตูใหญ่ของจวนตระกูลหลี่แล้ว ซั่วอิงถูกประคองลงจากเกี้ยวขณะนั้นก็ได้ยินเสียงประทัดดังปึงปังความปีติยินดีเบิกบานลั่นทั่วทั้งท้องฟ้าพรมสีแดงถูกปูมาจนถึงใต้เท้าของนาง  

“เจ้าสาวมาแล้ว” มีคนร้องขึ้น  

ซั่วอิงถูกประคองมาถึงหน้าโถงรับแขก จากนั้นมีสาวใช้สองคนเดินเข้ามารับช่วงต่อจากจ้าวซูหลิน

สาวใช้สองคนประคองซั่วอิงซ้ายขวาเดินเข้ามาในพิธีชุดมงคลแดงปักท

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 32 คำอธิษฐานที่เป็นจริง

    -5 ปีผ่านไป-เทศกาลโคมไฟวนเวียนกลับมาในอีกรอบปีแล้ว แต่ปีนี้นั้นจ้าวซูหลินกลับรู้สึกว่าช่างเงียบเหงายิ่งนัก ในทุกๆปี นางจะนั่งชมโคมไฟรูปแบบต่างๆกับฮ่องเต้เสมอแต่มาปีนี้กลับต้องนั่งเหงาเดียวดายอยู่เพียงลำพัง“ฝ่าบาท หากชาติหน้ามีจริงขอให้พวกเรากลับมาพบกันอีกครั้งนะเพคะ”ฮ่องเต้ฮั่วจงสวรรคตไปเมื่อหนึ่งปีก่อนหลังเทศกาลโคมไฟของปีที่แล้วพอดี จ้าวซูหลินไม่อาจยื้อชีวิตพระองค์ได้อีกต่อไปแล้วอาจเพราะเครื่องมือที่มีไม่มากพอและตัวนางเองก็ไม่อยากทำให้พระองค์ต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแม้จะเป็นไปตามประวัติศาสตร์ที่ฮ่องเต้ฮั่วจงต้องสวรรคตในวัยเพียงแค่สี่สิบชันษา และแม้นางอยากที่จะยื้อชีวิตให้เขาได้อยู่กับนางนานๆมากกว่านี้แต่นางก็ไม่อยากฝืนชะตาลิขิตอีกต่อไปได้เพียงแค่หวังว่าหากชาติหน้ามีจริง นางและเขาจะกลับมาพบกันในสถานะที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในชาตินี้ มีเพียงกันและกันและสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้โดยไม่ต้องผิดต่อใคร-โรงเตี๊ยมฟู่อันหลง-เช้าวันนี้จ้าวซูหลินรู้สึกว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 1 ทะลุมิติ

    “คุณหมอคะ คุณหมอ”“มีอะไรเหรอคะ?”“มีเคสผ่าตัดด่วนเข้ามาค่ะ”“เวลานี้เป็นเวรหมอจุนไม่ใช่หรือ?”“ใช่ค่ะแต่ตอนนี้คุณหมอจุนยังมาไม่ถึงโรงพยาบาลเลยค่ะ คุณไข้อาการสาหัสรอไม่ได้แล้วนะคะ”“ได้ งั้นรีบไปกัน”“ค่ะ”นางพยาบาลรีบเดินตามคุณหมอไปอย่างรีบเร่งก่อนจะอธิบายเคสฉุกเฉินนี้ให้เธอฟังคร่าวๆ“เคสนี้เป็นเคสฉุกเฉินคนไข้เป็นทายาทของตระกูลโจวซึ่งเป็นเจ้าของโรงพยาบาลนี้ด้วยค่ะ”“โอเค เตรียมชุดกับเครื่องมือเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”“ค่ะคุณหมอ”จ้าวซูหลินเป็นหมอหญิงที่มีฝีมือผ่าตัดเป็นอันดับหนึ่งของเมืองลั่วหนานแห่งนี้ เธอจำเป็นต้องเข้าผ่าตัดให้ทายาทตระกูลโจวที่โด่งดังที่สุดในประเทศนี้แทนคุณหมอจุนเป็นการฉุกเฉินแม้จะรู้สึกตื่นเต้นมากแต่เธอก็พยายามทำทุกอย่างอย่างระมัดระวังและตั้งใจที่สุดการผ่าตัดใช้เวลายาวนานร่วม12ชั่วโมงในที่สุดการผ่าตัดก็เสร็จสิ้นลงและสำเร็จไปได้ด้วยดี จ้าวซูหลินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยอาการเหนื่อยล้าเป็นอย่างยิ่ง“คุณหมอจ้าว ขอบคุณที่เข้าผ่าตัดแทนผมนะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันได้ยินว่าคุณประสบอุบัติเหตุเป็นอะไรมากหรือเปล่าค่ะ”“อ๋อ พอดีว่ามีรถชนกันตรงกลางสะพานน่ะครับรถหลายคันรวมถึงของผมด้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 2 ซวยซ้ำซวยซ้อน

    “ข้าอาจจะเป็นอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ นั่นแหละตอนนี้ข้าก็จำอะไรไม่ได้เลย ไหนเจ้าลองเล่ามาสิว่าข้านั้นคือใครแล้วทำไมถึงต้องมาอยู่ที่นี่”“ท่านคือคุณหนูรองตระกูลจ้าวบุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านเสนาบดีจ้าวเพคะ ท่านเข้าวังมาพร้อมกับสหายเพียงคนเดียวของท่านก็คือพระสนมลิ่งเฟยแต่ตอนนั้นพระสนมลิ่งเฟยได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทเพียงผู้เดียวเพราะว่าท่านยอมสละค่ำคืนอันมีค่าให้แก่นาง ตอนนี้ท่านก็เลยต้องมานั่งหงอยเหงาอยู่ตำหนักท้ายวังเพียงลำพังโดยไร้ซึ่งนางกำนัลดูแลจะมีก็เพียงแค่หม่อมฉันคนเดียวเท่านั้นที่อยู่กับท่านจนถึงทุกวันนี้เพคะ”“สหายของข้างั้นหรือ?”“ก็พระสนมลิ่งเฟยคนที่ผลักท่านตกน้ำอย่างไรล่ะเพคะ”“อ้าว!แล้วทำไมนางถึงผลักข้าล่ะ”“คงจะกลัวว่าฝ่าบาทจะได้พบท่านกระมังเพคะ ท่านออกจะงดงามถึงเพียงนี้หากฝ่าบาทได้พบเห็นย่อมได้เป็นที่โปรดปราณของพระองค์เป็นแน่”‘อ่า…โดนสกัดดาวรุ่งว่างั้นเถอะ เฮอะๆ ’“ไม่รับใช้ฝ่าบาทก็ต้องอยู่เดียวดายเช่นนี้หรือ ข้าไม่ต้องทำอะไรหรอกหรือ”“ทำสิเพคะ ท่านต้องปักผ้าส่งไปให้ฮองเฮาในทุกๆ เดือนเลยนะเพคะ ท่านทำได้ดีเชียวล่ะถึงยังได้อยู่ที่ตำหนักแห่งนี้ต่อมีกินมีใช้จนถึงทุกวันนี้โดยไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 3 เที่ยวงานเทศกาลโคมไฟ

    “เจ้าเป็นใครเหตุใดถึงออกมาเดินยามค่ำมืดเช่นนี้?”“เอ่อ...คือว่า”“ใต้เท้าของข้าถามพวกเจ้าเหตุใดถึงไม่ตอบ”“ไม่ต้องกลัวข้าไม่บอกใครหรอกว่าพบพวกเจ้าที่นี่เพียงแค่ห่วงว่าพวกเจ้าจะเป็นอันตรายก็เท่านั้น เป็นเพียงผู้หญิงมากันลำพังสองคนไม่กลัวหรืออย่างไร”“แล้วท่านเป็นใครกันเจ้าคะมาทำลับๆ ล่อๆ ตรงรั้วราชวังทำไมกัน”“นี่เจ้า! ใต้เท้าของข้าถามพวกเจ้าอยู่นะเหตุใดเจ้าถึงมาถามพวกข้ากลับกันเล่า”“กงอี้ ถอยไป”“ขอรับใต้เท้า”“ข้าเป็นเพียงขุนนางเล็กๆ ไม่ได้เป็นคนใหญ่คนโตอะไรหรอกก็เพียงแค่แวะมาหาหลานสาวข้าที่เป็นนางกำนัลตรงตำหนักของพระสนมลิ่งเฟยก็เท่านั้นเอง”“อย่างนี้นี่เอง”“แล้วตกลงว่าพวกเจ้า?”“พวกข้าเป็นนางกำนัลตำหนักหนิงเซียงเจ้าค่ะ”“ตำหนักหนิงเซียงงั้นหรือ?”บุรุษหน้าตาหล่อเหลาผู้นั้นรีบหันไปมองใบหน้าของผู้ติดตามของเขาทันที“ข้าว่าข้าก็คุ้นชื่อตำหนักแห่งนี้อยู่บ้างขอรับใต้เท้า”“ช่างเถอะ ว่าแต่พวกเจ้าสองคนจะไปไหนกันถึงได้ออกมาเดินค่ำๆ มืดๆ เช่นนี้ เจ้านายของพวกเจ้าอนุญาตให้ออกมาเช่นนั้นหรือ”“ก็ที่ทำลับๆ ล่อๆ ก็เพราะว่าแอบออกมานี่ล่ะเจ้าค่ะ”“ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นสินะข้าก็คิดเอาไว้แล้วเชียว แล้วพวกเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 4 สนมผู้ถูกลืมเลือน

    เมื่อปล่อยโคมไฟกันเรียบร้อยแล้วจ้าวซูหลินก็พาคนอื่นๆ เดินเที่ยวทั่วทั้งงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ระหว่างทางก็หยุดแวะซื้อของกินเล่นไปพลางๆ จนซั่วอิงต้องคอยห้ามอยู่บ่อยครั้ง“กินของกินเล่นมาตลอดทางเจ้าอิ่มแล้วหรือไม่”“ยังเจ้าค่ะ ข้าก็ยังรู้สึกหิวอยู่ดี”ใต้เท้าโจวทองใบหน้าที่ทะเล้นของนางก่อนจะหลุดขำทันที“เอาเถอะมื้อนี้ข้าเลี้ยงพวกเจ้าเอง แวะโรงเตี๊ยมข้างหน้านี้กันเถอะ”จ้าวซูหลินหันมองไปตามฝ่ามือที่ผายออกไปทันที ปรากฎให้เห็นเป็นโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงแห่งนี้ หน้าโรงเตี๊ยมมีแม่น้ำไหลตัดผ่านมีเรือโดยสารแล่นผ่านไปทีละลำ บริเวณประตูหน้าประดับประดาไปด้วยโคมไฟสีแดงดูสวยงามยิ่งนัก ป้ายหน้าโรงเตี๊ยมเขียนชื่อไว้เพียงสามคำว่า ‘ฟู่อันหลง’“มันจะดูหรูหราเกินไปหรือไม่เจ้าค่ะใต้เท้า ข้าออกมาไม่ได้เอาเงินมาเยอะเสียด้วยสิ”“ก็บอกแล้วว่าข้าจะเลี้ยงพวกเจ้าเอง มาเถอะน่าอย่ากังวลไปเลย”“เช่นนั้นมื้อนี้ข้าคงต้องฝากท้องกับท่านแล้วนะเจ้าค่ะ”“ด้วยความยินดีขอรับ”น่าแปลกที่อาหารมื้อนี้พวกเขารู้สึกว่าเป็นมื้อที่อร่อยที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ เมื่อกินอาหารกันเสร็จก็เดินย่อยกันสักพักจนมาสุดท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 5 คิดจะรังแกข้า ง่ายไปหรือไม่

    จ้าวซูหลินไม่ได้ออกจากตำหนักหนิงเซียงมาเป็นเวลามากกว่าห้าวันแล้วจนนางรู้สึกเบื่อหน่ายยิ่งนักนางเอาแต่นอนเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้ยาวหน้าตำหนักหนิงเซียงมาตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว ดวงตาหงส์งามล้ำจับจ้องไปที่มวลไม้ดอกไม้ประดับที่เจ้าของร่างเดิมลงทุนปลูกด้วยตัวเองเต็มตำหนักไปหมดนางคงจะมีความเหมือนกับเจ้าของร่างเดิมอยู่แค่เพียงชื่นชอบการปลูกไม้สวนไม้ประดับเท่านั้น นอกจากความสามารถนี้แล้วนางก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้เหมือนเจ้าของร่างเดิมนี้ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเย็บปักถักร้อย เขียนกลอน ร่ายรำทำเพลง แต่ก็มีอยู่อย่างหนึ่งที่นางถนัดนั่นก็คือวิชาแพทย์‘หากจะเปิดโรงหมอก็ต้องใช้ทุนเยอะสินะ’ “เฮ้อ…”ทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้ก็ร่วมหลายวันมาแล้วแต่เหตุใดถึงได้ไม่มีความทรงจำของนางหลงเหลืออยู่เลยล่ะ ไม่รู้จักตัวตนของนางเลยแม้เพียงนิดแบบนี้ข้าก็อึดอัดแย่เลยสิ“เฮ้อ….”ในนิยายที่เคยอ่านๆผ่านมาไฉนเลยนางเอกคนอื่นๆถึงได้มีมิติวิเศษติดตัวไปด้วยเล่า แล้วเพราะเหตุใดกันข้าถึงได้มาตัวเปล่า มีก็แต่เพียงมันสมองที่บรรจุเพียงความรู้ทางการแพทย์ติดตัวมาด้วยเท่านั้น จะไปมีประโยชน์อะไรกับในวังหลวงที่สุดแสนจะน่าเบื่อหน่ายแห่งนี้กัน“เฮ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 6 หนทางสู่ความอิสระ

    “อะไร?เจ้ามองหน้าข้าแบบนั้นทำไม”“พระสนม…”“จะมาโทษข้าไม่ได้นะก็นางมาก่อกวนข้าก่อนนี่นา”“พระสนมเก่งมากเลยเพคะ แต่ท่านก็รู้ว่าฮ่องเต้โปรดปรานสนมลิ่งเฟยมากท่านอาจได้รับโทษก็เป็นได้นะเพคะ”“ข้าไม่กลัว ฆ่าข้าให้ตายไปเสียเลยสิ”“ไม่ได้สิหากข้าต้องโทษจริง ห่วงก็แต่เจ้าก็ต้องมาเดือดร้อนเพราะข้าอีกคน โว้ยยยย! หากไม่ใช่ว่านางมาหาเรื่องข้าก่อนมีหรือที่ข้าจะอารมณ์เสียได้ถึงเพียงนี้กัน”“แต่หากว่าข้าถูกทำโทษจริงเจ้าก็ไม่ต้องห่วงไปหรอก ข้าจะฟาดเจ้าด้วยไม้ท่อนนี้ให้พวกเขาเข้าใจว่าข้าสติไม่ดีทำร้ายคนไปทั่ว ตัวเจ้าเองก็จะรอดจากการถูกลงโทษในครั้งนี้แล้ว”“พระสนม!”“พอแล้วเลิกเรียกข้าเสียที เจ้าก็ดูต้นทางไปเผื่อมีทหารมาจะได้เริ่มแผนการเมื่อครู่ได้ทัน”“โธ่พระสนมหากว่าท่านถูกลงโทษข้าก็ยินดีรับโทษไปพร้อมท่านนะเพคะ พวกเราพูดความจริงทำไมต้องกลัวก็พระสนมลิ่งเฟยชอบมาข่มขู่ท่านทั้งยังใช้งานท่าน ทั้งๆที่ท่านเองก็มีตำแหน่งเทียบเท่ากับนางเพียงแค่ไม่ได้รับการโปรดปรานจากฝ่าบาทเหมือนกับนางก็เท่านั้นเอง”“ช่างเถอะข้าไม่สนใจหรอก ตอนนี้ที่ข้าสนใจคือข้าจะหาเงินจากที่ไหนมาไถ่ตัวเองออกจากวังแห่งนี้ได้เร็วๆกัน”‘เฮ้อ ไหนๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 7 พระสนมผู้มีสติฟั่นเฟือน

    -เจ็ดวันผ่านไป-“ซั่วอิง เจ้าบอกว่าข้าไปเอาเมล็ดพันธ์พวกนั้นมาจากวัดอะไรนะ?”“วัดฮุ่ยหลอเพคะ อยู่บนเนินเขาทางตอนเหนือของเมืองหลวง วัดแห่งนั้นส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครไปกันหรอกนะเพคะ”“ทำไมล่ะ?”“ก็ที่นั่นมีเพียงเจ้าอาวาสคนเดียวเท่านั้น อารามก็เก่าทรุดโทรมแล้วไม่ได้งดงามเหมือนวัดเล่อฉีที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของเมืองหลวงเพคะ”“ไม่มีใครไปก็ดีแล้วนี่ ไม่วุ่นวายดี” “เจ้าไปเอาเหล้าที่หมักไว้ออกมาสักสองไหที แล้วก็หยิบไหเล็กมาอีกสองไหด้วยนะเผื่อเอาไว้ให้ใต้เท้าโจวนะ”“ได้เพคะ”ซั่วอิงรีบเดินไปนำไหเหล้าองุ่นที่พวกนางหมักเอาไว้เป็นเวลากว่าเจ็ดวันแล้ว ที่ชั้นวางของในห้องครัวบริเวณปีกซ้ายของตำหนักหนิงเซียง ไม่นานนักนางก็หิ้วไหเหล้ามาพร้อมๆกันทั้งสี่ไหอย่างทุลักทุเลพอสมควร ซั่วอิงก้าวเดินด้วยความเชื่องช้าด้วยกลัวว่าไหเหล้าเหล่านั้นจะตกลงพื้นไปเสียก่อน“มาแล้วเพคะพระสนม”“ไหนมาให้ข้าชิมดูก่อนซิ”จ้าวซูหลินรีบหยิบไหเหล้าใบเล็กใบหนึ่งมาจากมือของซั่วอิงด้วยความว่องไว ก่อนจะเปิดผ้าที่ใช้ปิดฝาไหออกแล้วสูดดมกลิ่นของมันทันที“อืมม..หอมเสียจริง” นางดมกลิ่นสุราองุ่นก่อนจะเทลงไปในจอกใบเล็กเพียงครึ่งจอกแล้วลิ้มรสไปที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14

บทล่าสุด

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 32 คำอธิษฐานที่เป็นจริง

    -5 ปีผ่านไป-เทศกาลโคมไฟวนเวียนกลับมาในอีกรอบปีแล้ว แต่ปีนี้นั้นจ้าวซูหลินกลับรู้สึกว่าช่างเงียบเหงายิ่งนัก ในทุกๆปี นางจะนั่งชมโคมไฟรูปแบบต่างๆกับฮ่องเต้เสมอแต่มาปีนี้กลับต้องนั่งเหงาเดียวดายอยู่เพียงลำพัง“ฝ่าบาท หากชาติหน้ามีจริงขอให้พวกเรากลับมาพบกันอีกครั้งนะเพคะ”ฮ่องเต้ฮั่วจงสวรรคตไปเมื่อหนึ่งปีก่อนหลังเทศกาลโคมไฟของปีที่แล้วพอดี จ้าวซูหลินไม่อาจยื้อชีวิตพระองค์ได้อีกต่อไปแล้วอาจเพราะเครื่องมือที่มีไม่มากพอและตัวนางเองก็ไม่อยากทำให้พระองค์ต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแม้จะเป็นไปตามประวัติศาสตร์ที่ฮ่องเต้ฮั่วจงต้องสวรรคตในวัยเพียงแค่สี่สิบชันษา และแม้นางอยากที่จะยื้อชีวิตให้เขาได้อยู่กับนางนานๆมากกว่านี้แต่นางก็ไม่อยากฝืนชะตาลิขิตอีกต่อไปได้เพียงแค่หวังว่าหากชาติหน้ามีจริง นางและเขาจะกลับมาพบกันในสถานะที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในชาตินี้ มีเพียงกันและกันและสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้โดยไม่ต้องผิดต่อใคร-โรงเตี๊ยมฟู่อันหลง-เช้าวันนี้จ้าวซูหลินรู้สึกว

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 31 งานแต่งงาน

    ฮ่องเต้และฮองเฮาเดินเข้ามาในงานด้วยท่วงท่าสง่างามยิ่ง ฮ่องเต้นั้นสวมฉลองพระองค์ด้วยชุดสีเหลืองทองอร่ามปักลายมังกรงามสง่า ส่วนฮองเฮาสวมชุดคลุมพญาหงส์สวยตระการตาปิ่นห้อยพญาหงส์สีแดงทองทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยความสูงค่าทรงสง่าดูมีท่วงท่าของพระมารดาของแผ่นดินเป็นอย่างมาก บนโถงพิธีมงคลเทียนสีแดงถูกจุดสว่างตำแหน่งเก้าอี้สูงมีฮ่องเต้และฮองเฮาประทับอยู่ ด้านนอกโถงพิธีมงคลมีขุนนางที่หลี่กงอี้เชื้อเชิญมาร่วมงานรวมตัวกันอยู่ไม่น้อย“ได้ฤกษ์แล้ว ต้อนรับบ่าวสาว” ผู้ดูแลจวนเดินออกมายืนป่าวประกาศด้วยเสียงอันดังดนตรีมงคลก็เริ่มบรรเลง เกี้ยวเจ้าสาวหามมาถึงนอกประตูใหญ่ของจวนตระกูลหลี่แล้ว ซั่วอิงถูกประคองลงจากเกี้ยวขณะนั้นก็ได้ยินเสียงประทัดดังปึงปังความปีติยินดีเบิกบานลั่นทั่วทั้งท้องฟ้าพรมสีแดงถูกปูมาจนถึงใต้เท้าของนาง “เจ้าสาวมาแล้ว” มีคนร้องขึ้น ซั่วอิงถูกประคองมาถึงหน้าโถงรับแขก จากนั้นมีสาวใช้สองคนเดินเข้ามารับช่วงต่อจากจ้าวซูหลินสาวใช้สองคนประคองซั่วอิงซ้ายขวาเดินเข้ามาในพิธีชุดมงคลแดงปักท

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 30 หลี่กงอี้จะมีฮูหยินแล้ว

    เวลาล่วงเลยผ่านไปอีกปีแล้วจ้าวซูหลินยังคงอาศัยอยู่ในวังเพื่อถวายการรักษาฮ่องเต้อย่างต่อเนื่อง หลายๆครั้งที่นางพาฮ่องเต้แอบหนีออกจากวังเพื่อไปเยี่ยมเยียนชาวบ้านในหลายๆหมู่บ้าน อะไรที่เขาไม่เคยทำจ้าวซูหลินก็พาทำหมดทุกอย่างหลี่กงอี้ที่เดิมทีเป็นกังวลเกี่ยวกับพระวรกายของฝ่าบาทแต่เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ยังคงแข็งแรงไปไหนมาไหนได้ไม่รู้เหน็ดเหนื่อยเขาจึงไม่เอ่ยคัดค้านใดๆ ทำได้เพียงแค่ตามทั้งสองคนไปในทุกๆที่เท่านั้น“ท่านกงอี้”“แม่นางซูหลิน มีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้หรือขอรับ”“เปล่าเสียหน่อยข้าเพียงแค่จะถามท่านว่าท่านไม่คิดจะแต่งงานบ้างหรือ”“ข้าหรือ?”“ใช่สิเจ้าคะ”“ข้าเห็นนะ ท่านแอบไปที่โรงเตี๊ยมของข้าบ่อยๆ”“อะไรกันนั่นข้าไม่ได้สั่งเสียหน่อย เจ้าไปที่นั่นทำไม? คงไม่ได้แค่ไปกินข้าวกระมัง”“อะเอ่อ ฝ่าบาทคือว่า”“ว่าอย่างไร อ้ำอึ้งอยู่ได้”“คือว่ากระหม่อม”“เจ้าชอบซั่วอิงงั้นหรือ แค่ช

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 29 มิตรภาพของสองเรา

    “ก็ฮองเฮาอย่างไรเล่าเพคะ คนที่มีอำนาจในวังหลังมากสุดก็คือฮองเฮา ลองใครกล้านินทาหม่อมฉันดูสิฮองเฮาต้องออกหน้าจัดการแทนแน่นอน”“แล้วการที่เข้ามาดูแลรักษาอาการของพระองค์มันผิดตรงไหนกัน ใครๆก็รู้ว่าหม่อมฉันเป็นหมอ”“ข้าไม่ได้ว่าอะไร กลัวก็เพียงว่าคนที่เจ้าชอบจะมองเจ้าไม่ดี”“หม่อมฉันไม่มีลูกตาให้มองใครแล้วนะเพคะ”“แล้วเจ้ามองใครอยู่หรือ”จ้าวซูหลินยิ้มเบาๆนางไม่ตอบคำถามนี้แต่กลับกำลังค้นหาขวดยาเพื่อนำมาให้ฮ่องเต้เสวยอีกครั้ง“เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าข้ากินยาแล้วหรือ”“นั่นยาของหมอหลวง ส่วนนี่ของหม่อมฉัน”“ได้อย่างไรข้ากินแล้วนะ”“อย่าดื้อสิเพคะ หากท่านหายดีในเร็ววันหม่อมฉันจะพาพระองค์อบออกไปเที่ยวนอกวัง”“เที่ยวนอกวัง?”“ใช่แล้วเพคะ”“ไม่กี่วันข้างหน้าก็ถึงเทศกาลโคมไฟแล้วนะเพคะ หม่อมฉันอยากไปดูโคมไฟสวยๆ ฝ่าบาทก็ต้องไปกับหม่อมฉันด้วยนะเพคะ”จ้าวซูหลินยิ้มก่อนจะยื่นเม็ดยาที่นางสกัดออกมาเองใส่พระหัตถ์ของฝ่าบาทฮ่องเต้ถอนพระปัสสาสะเล็กน้อย‘เอาก็เอา อย่างน้อยถ้าหายดีก็จะได้พานางไปเที่ยวเล่

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 28 เด็กดื้อ

    “ท่านน่าจะบอกข้าให้รู้เร็วกว่านี้”“ก็ฝ่าบาทไม่ยอมให้ข้าบอกท่านนี่นา เอาแต่ขู่ข้าว่าหากข้าปากโป้งไปบอกท่านจะตัดหัวข้าทิ้งเสีย ข้าเป็นองค์รักษ์ไม่กลัวตายหรอกนะแต่ข้าเพียงแค่กลัวว่าจะไม่มีใครอยู่คอยดูแลพระองค์ก็เท่านั้นเอง”‘ไม่กลัวตายเลยจริงจริ๊ง’“ใช่สินะ ใครจะไปรู้พระทัยฝ่าบาทเท่าท่านกัน”“แต่ก็อย่างที่ข้าตำหนิท่าน หากบอกข้าเร็วกว่านี้อาการของฝ่าบาทก็จะไม่ทรุดลงเร็วเช่นนี้”“แล้วแม่นางซูหลิน ฝ่าบาทจะทรงหายดีใช่หรือไม่”“ท่านรู้จักข้ามานานรู้ใช่หรือไม่ว่าข้าไม่พูดโกหก แม้บางครั้งจะจำเป็นต้องโกหกก็ตาม”“ข้ารู้”“ฝ่าบาทร่างกายอ่อนแอลงอย่างมากสุดก็ห้าปี”“ห้าปีงั้นหรือ”“พอจะจัดการอะไรๆ ได้ใช่หรือไม่”“ข้านึกว่าจะไม่นานเพียงนั้น”“ท่านกงอี้!”“ข้าพูดเรื่องจริงทั้งไทเฮาและฮองเฮาต่างก็วิตกเพราะรัชทายาทเองก็อายุได้เพียงสิบชันษายังไ

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 27 หนทางที่นางได้เลือกแล้ว

    “สะ สนมซู ไม่ใช่ว่าเจ้าตายไปแล้วหรอกหรือ แล้วเหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่!”“ไทเฮา ฮองเฮา เรื่องนี้หม่อมฉันจะมาอธิบายทีหลังนะเพคะ ตอนนี้ให้หม่อมฉันตรวจอาการของฝ่าบาทก่อน”“เจ้ารักษาคนเป็นหรือ”“ฮองเฮาที่กระหม่อมพาพระสนมมาก็เพราะว่านางมีฝีมือทางการแพทย์พ่ะย่ะค่ะ เห็นสมควรให้นางลองรักษาฝ่าบาทไม่ดีกว่าหรือพ่ะย่ะค่ะ”ฝ่าบาทที่เดิมกำลังจะบรรทมต่อเพราะฤทธิ์ยาที่หมอหลวงให้กิน แต่ก็ต้องตื่นตกใจขึ้นมาทันทีที่ได้ยินว่าจ้าวซูหลินมาที่นี่‘มาได้อย่างไร?’ฮ่องเต้รีบทอดพระเนตรดูคนตรงหน้าทันที‘ชัดเลย จ้าวซูหลินจริงๆ! ต้องเป็นเจ้าบ้าหลี่กงอี้แน่ๆ อยากหัวหลุดจากบ่ามากหรืออย่างไรกัน’หลี่กงอี้ที่เหมือนจะรู้ตัวว่ามีสายตาอาฆาตจากฝ่าบาทมุ่งมาทางเขาก็รีบหลบไปที่หลังของจ้าวซูหลินทันที นางแปลกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆหลี่กงอี้ก็มาหลบที่หลังของนางแต่เมื่อหันไปมองดูคนบนเตียงก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ!“ตะ…ใต้เท้า!”

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 26 ความเป็นจริง

    -โรงเตี๊ยมฟู่อันหลง-“ท่านกงอี้”“แม่นางซูหลิน ข้าบอกแล้วว่าให้ท่านเรียกข้าว่ากงอี้ก็พอขอรับ”“ทำไมล่ะข้าไม่ได้เป็นพระสนมแล้วตอนนี้ท่านน่าจะมีตำแหน่งสูงกว่าข้าเสียด้วยซ้ำ คิดอะไรมากกันเจ้าคะข้าเรียกท่านตามที่คนอื่นๆเรียกน่ะถูกแล้ว”“เช่นนั้นก็ตามใจท่านเถอะ”“แล้วใต้เท้าไม่มาด้วยหรอกหรือ”“คือว่า”“มีอะไรหรือไม่เหตุใดถึงทำหน้าเช่นนั้นกัน”“ใต้เท้าทำงานหนักทุกวัน ไม่อาจมาหาท่านเหมือนเช่นเคยได้ขอรับ”“เป็นเช่นนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นท่านคอยข้าสักครู่ข้าจะไปทำอาหารฝากไปให้ใต้เท้านะเจ้าค่ะ”“ขอรับ”หลี่กงอี้อยากจะบอกนางเหลือเกินว่าตอนนี้ฝ่าบาทนั้นประชวรหนัก แม้แต่หมอหลวงยังพูดกันว่าเวลานี้ไร้หนทางรักษาแล้ว เขาเองก็เคยเห็นนางรักษาให้ชาวบ้านด้วยวิธีการต่างๆมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เคยเสนอให้ฝ่าบาทบอกความจริงกับนางแต่พระองค์ก็ไม่ยอม แล้วเขาจะทำเช่นไรต่อดี?อยากจะช่วยชีวิตของฝ่าบาทใจจะขาดแต่ก็กลัวหัวจะหลุดจากบ่า‘เฮ้อ…เกิดเป็นข้านี่ลำบากชะมัด’“นี่เจ้าค่ะ ฝากท่านดูแลใต้เท้าด้วยนะเจ้าคะแม้ว่าข้าจะไม่ได้เป็นอะไรกับใต้เท้า แต่ข้านั้นเห็นเขาเป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่งมีอะไรให้ข้าช่วย ท่านรีบมาบอกข้าได้เลย

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 25 ใต้เท้าโจวป่วย

    ‘ให้ตายสิ ใต้เท้าเป็นโรคหัวใจหรือนี่’หากเป็นยุคที่นางจากมาการรักษาโรคหัวใจก็ไม่ได้น่ากลัวถึงเพียงนั้นแต่ในยุคนี้ที่เครื่องไม้เครื่องมือไม่ทันสมัย อุปกรณ์ไม่เพียงพอเช่นนี้น่ากังวลใจยิ่งนัก เวลานี้นางรู้สึกหวาดกลัวเมื่อรู้ว่าตัวเองจะไม่สามารถยื้อชีวิตคนไข้ของนางเอาไว้ได้“กงอี้ เจ้าช่วยเคลื่อนย้ายใต้เท้าไปด้านในทีข้าต้องทำการรักษาโดยด่วน”“เช่นนั้นแม่นางซูพวกเราพานายท่านกลับจวนก่อนดีหรือไม่ขอรับ”“ตอนนี้ไม่ได้ร่างกายใต้เท้าอ่อนแอนักทำตามที่ข้าบอกเถอะ ห้องด้านในข้าทำความสะอาดเพื่อทำการรักษาคนบาดเจ็บไปเมื่อคืนนี้แล้ว ตอนนี้ห้องนั้นว่างท่านพาเขาเข้าไปเถอะ”“ก็ได้ขอรับ”หลี่กงอี้รีบสั่งให้คนที่ติดตามเขามาด้วยยกตัวฮ่องเต้ขึ้นแล้วนำร่างของเขาไปไว้ในห้องด้านในตามคำสั่งของจ้าวซูหลินทันทีจ้าวซูหลินรีบเดินตามพวกเขาไปติดๆก่อนจะไล่ให้คนอื่นๆออกไปจากห้องให้หมด แม้กงอี้อยากจะทัดทานแต่เพราะหญิงสาวตรงหน้าคืออดีตพระสนมและยังคงเป็นนางในดวงใจของฮ่องเต้ เขาจึงไม่สามารถพูดคัดค้านสิ่งใดได้จ้าวซูหลินทำการรักษาฮ่องเต้อย่างสุดความสามารถ ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วยามถึงได้เปิดประตูออกมาภายใต้การรออย่างใจจดใจจ่อของบร

  • เมื่อข้าไม่อยากเป็นสนมของฮ่องเต้   ตอนที่ 24 ชีวิตที่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

    เวลาล่วงเลยผ่านมานานนับหกเดือนแล้ว จ้าวซูหลินรู้สึกสนุกกับการใช้ชีวิตที่นี่เป็นอย่างมาก นางรู้สึกว่าชีวิตนี้ของนางมีคุณค่ามากกว่าแต่ก่อนขึ้นเยอะเลยนอกจากการหมักเหล้าองุ่นขายในโรงเตี๊ยมของนางเองแล้ว นางยังใช้วิชาการแพทย์ที่ติดตัวมาตั้งแต่อยู่ในยุคที่นางจากมา มาใช้ประโยชน์ในที่แห่งนี้อีกด้วยบริเวณรอบๆ เมืองหลวงยังมีอีกหลายหมู่บ้านน้อยใหญ่ที่ยังขาดแคลนหมอ ชาวบ้านส่วนมากยังไม่มีเงินมากพอที่จะไปหาหมอดีๆรักษาเวลาเจ็บป่วยได้ เมื่อพวกเขาเจ็บป่วยไม่มีเงินไปหาหมอในเมืองก็ทำได้เพียงแค่นอนรอความตายเท่านั้นจ้าวซูหลินเห็นถึงความยากลำบากนั้นนางจึงออกเดินทางไปในหลายๆหมู่บ้าน บ้างก็ค้างที่หมู่บ้านนั้นๆ อยู่หลายครั้งหลายคราแต่ทุกครั้งจะมีใต้เท้าโจวอยู่เคียงข้างเสมอ หรือหากเขามาไม่ได้ก็จะส่งหลี่กงอี้องค์รักษ์คนสนิทมาอยู่ดูแลนางแทนนางเป็นคนนอกครอบครัวยังดูแลดีถึงเพียงนี้ เช่นนั้นคนในครอบครัวของใต้เท้าเองก็คงอยู่ดีมีสุขร่มเย็นกันถ้วนหน้ากระมัง“ฝ่าบาท”“วันนี้นางทำอะไรงั้นหรือ”“แม่นางซูหลินออกไปรักษาบาดแผลให้กับชาวบ้านที่ถูกดินถล่มพ่ะย่ะค่ะ”“มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นเหตุใดถึงพึ่งมารายงานข้ากัน”“กระหม

DMCA.com Protection Status