นางสายสุนีย์ต้องนอนดูอาการอยู่ที่รพ.ถึงสามวัน กว่าหมอจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ วันนี้กิตติยศขับรถยนต์มารับป้าสะใภ้และน้องสาวกลับบ้าน เพราะสายป่านติดต่อพ่อไม่ได้อีกตามเคย เธอถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ ที่พ่อไม่เคยเห็นแม่อยู่ในสายตาบ้างเลย
เมื่อแม่กลับถึงบ้านแล้ว เธอก็ดูแลแม่เป็นอย่างดี ส่วนพ่อเธอ หลังจากกลับมาบ้านก็ไม่ได้ถามไถ่อะไรลูกเมียตัวเองเลยสักคำ เดินขึ้นห้องส่วนตัวที่แยกกันนอนกับแม่ตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อน ก่อนที่แม่จะป่วยนั่นแหละ ดังนั้นอาการป่วยของแม่เธอก็คงไม่พ้นจากอาการตรอมใจแบบที่ใคร ๆ เขาพูดกัน เพราะแม่เองก็รู้ดีถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งของพ่อกับผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้น แต่แม่เลือกที่จะเงียบ และไม่ตอบโต้อะไร สายป่านก็ย้ายไปนอนกับแม่ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“แม่คะ ตอนนี้หนูปิดเทอมแล้วนะคะ เดี๋ยวก็จะได้เรียนมหาลัยแล้ว หนูจะเรียนคณะบริหารธุรกิจเหมือนแม่ ดีไหมคะ”
สายป่านนอนหนุนตักมารดา ในขณะที่นางสายสุนีย์ยิ้ม พลางลูบหัวบุตรสาว สายป่านเป็นเด็กเรียนดี และขยันตั้งแต่เด็ก ๆ ใครๆ ก็เอ็นดูเธอ ปีนี้เธอเป็นสาวเต็มตัวแล้ว แถมรูปร่างหน้าตายังสะสวย สูงโปร่ง อกเอวสะโพกกลมกลึงสมส่วน ผิวขาวอมชมพูเหมือนแม่ เธอยิ้มสวย และเป็นคนพูดเก่ง ใครเห็นใครก็รักทั้งนั้น จะติดอยู่หน่อยก็ตรงนิสัยห้าวหาญ และไม่ยอมใคร จนทำให้นางสายสุนีย์ต้องคอยปรามลูกสาวคนเดียวของเธอบ่อยๆ
วันนี้สายป่านนัดกับเพื่อน ๆ ไว้ว่าจะไปดูมหาลัยที่หมายตากันไว้ว่าจะไปเรียนต่อกันที่นั่น เธอจึงนัดกับกลุ่มเพื่อนไปพร้อมๆ กัน หลังจากที่ดูรายละเอียดคณะที่จะเรียนกันแล้ว เธอก็ขอตัวกลับทันทีเพราะเป็นห่วงแม่ที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว โดยพ่อบอกว่ามีธุระด่วนอีกตามเคย ช่วงหลัง ๆ นี้พ่อเธอมักจะไปค้างที่ปางไม้บ่อย ๆ โดยอ้างว่างานยุ่ง แต่สายป่านเองก็รู้เหตุผลที่แท้จริงนั้นดี เพราะคนที่ปางไม้หูตายังกับสัปปะรด แถมปากยื่นปากยาวเสียยิ่งกว่าอะไรซะอีก ไม่ว่าพ่อจะทำอะไรก็มักจะมีพวกปากสว่างคาบข่าวมาบอกเป็นประจำ แต่เธอก็ยังคงเก็บเงียบไว้ ไม่ได้บอกอะไรให้แม่รับรู้
ในขณะที่เธอกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เธอมองที่หน้าจอเห็นชื่อกิตติยศก็รีบกดรับทันที
“ว่าไงคะพี่ยศ โทรเช็คป่านอีกแล้วนะ กำลังจะกลับแล้วค่ะ ไม่เถลไถลที่ไหนหรอกน่า”สายป่านกรอกเสียงตอบกลับไปยังปลายสาย เพราะวันนี้เธอฝากให้กิตติยศช่วยดูแม่แทนให้ ในระหว่างที่เธอไม่อยู่
“ป่าน .. ป่านอยู่ไหนรีบมารพ. ด่วนเลยนะ ป้าณีอยู่รพ.” กิตติยศบอกกับน้องสาว สายป่านตกใจมาก เธอรีบไปที่รพ.ทันที
ที่หน้าห้องฉุกเฉินของรพ. BKK สายป่านรีบวิ่งเข้ามาหากิตติยศที่นั่งรออย่างกระวนกระวายใจ เธอวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายแล้วถามถึงอาการของแม่ทันที
“เมื่อตอนกลางวันพี่เอาข้าวไปให้ป้าณี แกก็กินข้าวปกติ หลังจากนั้นพี่ก็เลยเก็บจานชามไปล้างในครัว อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงป้าณีร้องเรียกเลยวิ่งไปดู เห็นแกนอนอยู่ที่พื้นแล้วก็หมดสติไป พี่เลยรีบพาแกมารพ.นี่แหละป่าน” กิตติยศบอกน้องสาว
ในขณะที่ทั้งสองรออย่างใจจดใจจ่ออยู่นั้น สักพักหนึ่ง คุณหมอก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน สองพี่น้องรีบตรงเข้าไปหาหมอทันที
“ญาติคุณสายสุนีย์ใช่ไหมคะ” สองพี่น้องพยักหน้ารับคำ คุณหมอทำหน้าไม่สู้ดีนัก ทำให้สายป่านถึงกับใจหาย
“หมอไม่อยากต้องมาแจ้งข่าวแบบนี้เลย แต่ก็ต้องบอกญาติตามความเป็นจริงนะคะ คนไข้มีอาการหัวใจวายเฉียบพลันและหยุดหายใจก่อนหน้าที่จะมาถึงรพ.แล้วค่ะ หมอพยายามปั๊มหัวใจและช็อตไฟฟ้าช่วยแล้ว แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตคนไข้ให้กลับมาได้ หมอพยายามจนถึงที่สุดแล้วค่ะ เสียใจด้วยนะคะ ”
สายป่านยืนนิ่งไม่ไหวติง หัวสมองรู้สึกมันอื้ออึงและดูงง ๆ จับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก รู้แต่ว่าน้ำตาไหลออกมามากมาย สักพักเธอก็ร้องไห้โฮ แล้วล้มตัวลงนั่งร้องไห้อยู่กับพื้นทางเดินนั่น โดยมีกิตติยศกอดปลอบอยู่ไม่ห่าง
สายป่านพยายามติดต่อพ่อเพื่อทำเรื่องรับศพแม่กลับไปบำเพ็ญกุศล แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เธอจึงขอให้กิตติยศขับรถพาเธอไปที่ปางไม้ เพราะมั่นใจเหลือเกินว่าพ่อของเธอจะต้องอยู่ที่นั่นแน่นอน เมื่อรถขับมาจอดยังปางไม้ สายป่านก็เห็นรถของพ่อจอดอยู่ที่นั่นจริง ๆ เธอรีบเปิดประตูรถ และเดินดุ่ม ๆ ไปที่บ้านพักของปางไม้ทันที โดยมีกิตติยศกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามไป เมื่อถึงบ้านพัก เธอเห็นพ่อกับวิไลรัมภากำลังนั่งคุยกันอยู่ โดยที่ผู้หญิงหิวเงินคนนั้นกำลังนั่งตักของพ่อเธอ เมื่อหล่อนเห็นสายป่านเดินเข้ามาก็แกล้งทำเป็นไม่เห็น และออดอ้อนพ่อของเธอต่อไป สายป่านเดินเข้าไปกระชากผมของวิไลรัมภาอย่างแรง จนร่างนั้นเซถลาลงพื้น นายปิยะเวชผู้เป็นพ่อรีบถลันเข้าไปช่วยประคองชู้รัก และต่อว่าลูกสาวทันที
“แกเป็นบ้าอะไรฮะ !! ยัยป่าน”
พ่อตะคอกเธอเสียงดัง พลางประคองชู้รักยืนขึ้น วิไลรัมภาแกล้งทำเป็นเจ็บเพื่อเรียกร้องความสนใจ จนสายป่านถลันเข้าไปทำท่าจะตบอีกฝ่าย จนกิตติยศต้องเข้าไปรวบตัวน้องสาวเอาไว้
“พ่อ .. พ่อรักมัน ปกป้องมัน พ่อรู้ไหม แม่ตายแล้ว แม่ตายแล้วได้ยินไหม สมใจพ่อรึยัง ฮือๆๆๆ”
สายป่านทิ้งตัวลงร้องไห้ที่พื้นอย่างหมดแรง หัวใจเธอเจ็บเหมือนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เธอก้มหน้าร้องไห้สะอื้นไม่หยุด นายปิยะเวชเข้ามากอดปลอบลูกสาวไว้ด้วยความสงสาร โดยมีวิไลรัมภายืนยิ้มอย่างสะใจอยู่ข้าง ๆ
งานศพของนางสายสุนีย์ได้ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สายป่านเองยังคงทำใจไม่ได้กับการสูญเสียในครั้งนี้ เมื่อไม่มีแม่แล้ว เธอก็เหมือนอยู่ตัวเดียว ในช่วงแรกตอนที่แม่เสียใหม่ ๆ พ่อก็ยังอยู่ที่บ้านกับเธอทุกวัน และนอนที่บ้านทุกคืน แต่พอเวลาผ่านไปได้ราว ๆ สักสองสัปดาห์ พ่อก็เริ่มไม่กลับบ้าน แต่สายป่านไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะอย่างน้อยเธอก็ยังมีกิตติยศ ที่ยังคอยมาดูแลเธออยู่เสมอ
เช้าวันนี้สายป่านตื่นมาหุงหาอาหารและใส่บาตรในตอนเช้าเพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้แม่เหมือนกับทุก ๆ วัน หลังจากนั้นก็เข้าไปเก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน เธอได้ยินเสียงรถยนต์ของพ่อแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน“กลับมาได้สักทีสินะ หายไปตั้งหลายวัน” เธอคิดอยู่ในใจแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก จากนั้นก็ได้ยินเสียงพ่อเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับเสียงพูดคุยกับใครบางคนดังแว่วมา “พ่อมากับใคร?”เธอจึงเดินออกไปดูต้นเสียงนั้น“พี่เวชแน่ใจนะคะว่าจะให้วิมาอยู่กับพี่ที่นี่ได้ ลูกสาวพี่จะยอมเหรอ” วิไลรัมภาเอ่ยถามหลังจากเดินตามหลังนายปิยะเวช ที่กำลังถือกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตของเธอเข้าไปในบ้าน“ที่นี่มันบ้านพี่นะ พี่มีสิทธิ์จะให้ใครอยู่หรือไม่ให้ใครอยู่ก็ได้” นายปิยะเวชตอบเสียงหนักแน่น ทำให้วิไลรัมภายิ้มอย่างพอใจ“ทีนี้แหละ.. จะได้เห็นคนอกแตกตายกันบ้าง หึหึ” เธอนึกกระหยิ่มอยู่ในใจ นั่นไง... ยัยตัวร้ายเดินมานั่นแล้ว..สายป่านเดินออกมา เธอมองด้วยความไม่พอใจทันทีที่เห็นพ่อพาวิไลรัมภาเข้ามาที่บ้าน เมื่อเห็นกระเป๋าสัมภาระเยอะแยะแบบนี้เธอก็พอจะเดาเหตุการณ์ได้“พ่อ .. นี่มันอะไรกันคะ พาผู้หญิงคนนี้เข้ามาในบ้านเราทำไม” เธอเอ่ยกับบิดาเสียง
สายป่านเดินเข้ามาในห้อง เธอนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่บนเตียง เวลานี้เธอคิดถึงแม่ที่สุด สายป่านลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่หลังตู้ลงมา เก็บเสื้อผ้าและสิ่งของที่จำเป็นใส่กระเป๋า เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไปตายเอาดาบหน้า ดีกว่าต้องทนอยู่ที่นี่ เพราะวันนี้พ่อทำให้เธอเห็นแล้วว่า ระหว่างเมียของเขากับลูกอย่างเธอ พ่อเลือกเมียของเขาอย่างไม่ต้องสงสัยสายป่านเดินลากกระเป๋าออกมาจากห้องนอน เห็นพ่อกำลังทำแผลให้กับนังมารร้ายอยู่ เธอก็เดินผ่านไปโดยไม่คิดจะหันกลับไปมอง“สายป่าน ..แกจะไปไหน” เสียงพ่อตะโกนถามเธอเสียงดัง แต่เธอไม่สนใจอีกแล้ว เธอถือกระเป๋าแล้วเดินออกจากบ้านทันที หูยังได้ยินเสียงตะโกนของพ่อไล่หลังมาอีก“เออ..ไปเลย อวดดีนักนะ ถ้าแกคิดว่าไปรอดก็ไปเลย แล้วไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้าอีกล่ะ” สายป่านน้ำตาไหล ปวดร้าวกับคำพูดของพ่อเหลือเกินเธอเดินไปที่บ้านอากิตติศักดิ์ เพื่อไปหากิตติยศ เขาตกใจมากเมื่อรับรู้เรื่องราวจากปากของน้องสาว ใบหน้าของเธอบวมแดงเพราะโดนตบ เขาเอามือลูบหน้าเรียวเล็กนั้นน้ำตาคลอ“ป่าน แล้วป่านจะไปไหน เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวมันอันตรายนะ อยู่กับพี่ที่บ้านนี้ก็ได้ อย่าไปเลย” กิตติยศพยายามร
ชีวิตการเป็นนักศึกษาเทอมแรกของสายป่านผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เธอเริ่มคุ้นเคยกับชีวิตในกรุงเทพบ้างแล้ว เริ่มรู้จักเส้นทางและสถานที่ต่าง ๆ มากขึ้น จนตอนนี้สายป่านคิดว่าเธอน่าจะพร้อมแล้ว ที่จะหางานพิเศษทำเสียที โดยเธอเลือกสมัครงานที่คาเฟ่แห่งหนึ่งไม่ไกลจากหอพักมากนัก โดยเลือกทำในช่วงห้าโมงเย็นจนถึงสามทุ่ม เจ้าของร้านชื่อพี่ลูกปัด เธอเป็นสาวสวยที่ใจดีมาก สายป่านจึงทำงานอย่างมีความสุข วันหนึ่งเธอได้เจอกับลูกค้าคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสาวสองแสนสวย เธอเข้ามาดื่มกาแฟ และทานขนมในร้าน พอมีจังหวะที่ลูกค้าซาลงเพราะร้านใกล้จะปิดแล้ว สาวสองแสนสวยก็เรียกเธอเข้าไปพูดคุยด้วยอย่างมีไมตรี“สวัสดีค่ะน้อง พี่ชื่อพี่ปุ๊กกี้นะคะ น้องเป็นนักศึกษามาทำงานพิเศษเหรอคะ ขยันจังเลย เรียนอยู่ไหนคะเนี่ย” ปุ๊กกี้ยิ้มให้ร่างบางตรงหน้า สายตาจ้องมองอย่างพินิจพิจารณา ... “สวย ..หุ่นดี ผิวพรรณก็ดี ลุคหวานอมเปรี้ยว ดูมีเสน่ห์มากๆ” เธอคิดในใจ“อ้อ..สวัสดีค่ะ หนูชื่อสายป่านค่ะ เรียนอยู่มหาลัย BB คณะบริหารธุรกิจ ปี1ค่ะพี่” เธอตอบรับพลางยิ้มให้อีกฝ่ายจนตาหยี ดูน่ารักมาก ปุ๊กกี้รู้สึกถูกชะตากับคนตัวเล็กขึ้นมาทันทีหลังจากวันนั้นเป็นต้นมาพี
@สนามบิน ผู้โดยสารขาเข้าชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลเข้ม ใบหน้าหล่อเหลา สวมแว่นกันแดดสีดำ เดินลากกระเป๋าเข้ามาบริเวณสนามบิน เขาสอดส่ายสายตามองหาเพื่อนสนิท ที่รับปากกับเขาเมื่ออาทิตย์ก่อนว่าจะมารับที่สนามบิน เขาเดินเข้ามาได้สักพักก็สะดุดตาชายหนุ่มรูปร่างสูง 190 ซม.ที่ยืนนิ่งอยู่ เขาจึงรีบเดินไปหาทันที สองหนุ่มทักทายกัน เซดริกตบไหล่เพื่อนรักของเขา พลางพากันเดินออกไปยังลานจอดรถ ครู่เดียวรถสปอร์ตหรูก็พุ่งทะยานออกจากสนามบิน มุ่งหน้าสู่โรงแรมหรูระดับห้าดาวกลางกรุง“ทำไมมึงไม่มาเครื่องบินส่วนตัววะ” เซดริกเอ่ยถามเพื่อนรักขณะใช้คีย์การ์ดเปิดห้องหรูชั้นบนสุดของโรงแรม ซึ่งเขาจะใช้สำหรับรับรองบุคคลในครอบครัว หรือคนสนิทเท่านั้น ซึ่งจะมีห้องลักษณะแบบนี้ไว้หลายห้อง ในชั้นบนสุดของทุกโรงแรม เผื่อเวลาเขาไปดูงาน หรือสำหรับญาติเข้าพัก“ไม่อ่ะ กูขี้เกียจวุ่นวาย แบบนี้สบายกว่า”แอลตันตอบกลับเซดริก ซึ่งเขาก็พยักหน้ารับรู้ เพราะเพื่อนของเขาคนนี้เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่เรื่องมากมาตั้งแต่ไหนแต่ไร“เออ มึงมาช่วงนี้ก็ดีแล้ว เดี๋ยวสัปดาห์หน้าโรงแรม M จะเปิดใหม่พอดี กูจะให้มึงเป็นเลขาช่วยงานกู” เซดริกบอกกับเพื
หลังจากที่สายป่านเริ่มรับงานเอ็นฯ ได้สักพัก เธอก็ค่อย ๆ ปรับตัวได้ โดยแรกเริ่มเธอก็จะไปกับรุ่นพี่ก่อน เพราะพวกรุ่นพี่จะคอยดูแลให้ เวลาทำงานก็คอยเตือนและดูแลความปลอดภัยให้ด้วย อย่างงานไหนต้องดื่มก็ช่วยบอกลูกค้าว่าน้องยังเป็นนักศึกษาอยู่ ขอดื่มเล็กน้อยตามมารยาท ซึ่งลูกค้าของพวกเธอส่วนมากจะเป็นลูกค้าดีมีมารยาทด้วยกันทั้งนั้น สายป่านจึงไม่เคยพบปัญหาเลยสักครั้ง เย็นวันหนึ่งหลังจากเลิกเรียนแล้ว สายป่านก็กลับมาที่ห้องตามปกติ เพราะวันนี้เธอไม่ได้รับงาน ส่วนมากเธอจะเลือกรับงานที่ไม่เสี่ยงมาก ไม่ดึก แล้วก็ไม่ดื่ม เพราะจะต้องมาเรียนในวันถัดไป ถ้างานไหนไปได้เธอก็จะไป แต่ถ้าไม่ได้ เธอก็จะให้พี่ ๆ เขาไปกันแทน ส่วนเรื่องการแต่งตัวที่ต้องเซ็กซี่เปิดนั่นโชว์นี่ก็ต้องมีบ้าง “เห้อ... เหนื่อยชะมัดเลย” สายป่านวางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะหนังสือ แล้วโดดขึ้นไปนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน กะเอาไว้ว่าจะนอนเล่นสักพักแล้วค่อยไปอาบน้ำ แต่เธอก็เผลอหลับไปจนได้ มารู้สึกตัวอีกทีก็เพราะเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมา เธอควานหามันสักพักก็เจอ หลังจากเห็นชื่อโชว์หน้าจอ เธอก็กดรับสายทันที “ฮาโหยววว ส
สายป่านจะดื่มต่ออีก แต่กิตติยศไม่ให้ดื่มแล้ว เพราะกลัวว่าเธอจะเมามากไปกว่านี้“ป่าน!! พอแล้วๆ เธอเมาแล้วเนี่ย เดี๋ยวก็ได้อ้วกบนรถพี่เหมือนเมื่อคราวก่อนอีก พี่ไม่ไหวนะ..บอกเลย” กิตติยศทำหน้าดุใส่น้องสาว เพราะยัยสายป่วนเมาทีไรเป็นต้องอ้วกทุกที เธอยิ้มตาหยีให้พี่ชาย พลางลุกขึ้นยืน เซ ๆ นิดหน่อย“เคๆๆ พอก็ได้ ..งั้นพี่เช็คบิลแล้วไปรอที่รถเลยละกัน ป่านไปเข้าห้องน้ำแป๊บ แล้วเดี๋ยวตามไป” คนตัวเล็กบอกเสียงอู้อี้ ยืนโงนเงน“ไหวป่าววะเนี่ย .. ให้พี่ไปเป็นเพื่อนมั้ย” กิตติยศถามน้องสาวด้วยความเป็นห่วง“โอ้ยย .. ไม่ขนาดนั้นหรอกพี่ยศ ป่านไหวน่า ไปละ ๆ ปวดฉี่” กิตติยศเรียกพนักงานเพื่อเช็คบิล ส่วนสายป่านเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางเดินเธอต้องเดินผ่านโต๊ะของโจเซฟด้วยพอดี“สวัสดีครับน้องป่าน” โจเซฟเอ่ยทักคนตัวเล็ก“อ้อ .. สวัสดีค่ะพี่โจเซฟ”เธอตอบกลับชายหนุ่มตรงหน้า พลางส่งยิ้มหวานให้กับทุกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะนั้น ส่วนแอลตันมองเธอตาไม่กระพริบ เขารีบปล่อยแขนที่โอบกอดสองสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ลงอย่างอัตโนมัติ .. โอ้โห!! เห็นไกลๆ ว่าสวยแล้ว นี่เห็นใกล้ๆ ยิ่งสวยหนักกว่าเดิมอีก“วันนี้มาทำง
หลังจากร่างบางเดินโซเซมาถึงลานจอดรถ กิตติยศก็เปิดประตูให้น้องสาว สายป่านก้าวขึ้นรถด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม บางคราวก็เงียบ บางคราวก็หัวเราะ ทำเอากิตติยศถึงกับงง“ป่าน แกเป็นไรเนี่ย เมามากจนเพี้ยนหรือไง หัวเราะอะไรนักหนา” ชายหนุ่มมองหน้าน้องสาวพลางส่ายหน้า“ก็คนมันอารมณ์ดีงัยพี่ ฮ่าๆๆ อุ๊บ..เอิ๊กกก” สายป่านหัวเราะพร้อมกับเรอเสียงดัง ทำให้กิตติยศถึงกับสะดุ้ง“เฮ้ย!!! ป่าน นี่แกจะอ้วกอีกไหมวะเนี่ย” กิตติยศหน้าตาเลิ่กลั่กขึ้นมาทันที“โอ้ยย .. ไม่อ้วกหรอกพี่ยศ ป่านอ้วกไปเรียบร้อยก่อนขึ้นรถแล้วแหละ ฮ่าๆๆๆ” เธอหัวเราะร่า .. ยังขำหน้าอีตาคนบ้ากามนั่นไม่หายเลย สมน้ำหน้า ด้านแอลตัน หลังจากเจอฤทธิ์ของยัยสายป่วนเข้าให้ ก็รีบเดินไปยังห้อง VIP ที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที เขาถอดเสื้อผ้าราคาแพงนั้นออกจนหมด แล้วรีบโทรหาเซดริกที่ทานอาหารอยู่ชั้นล่าง “เฮ้ยมึง .. กูอยู่ห้อง VIP 009 มึงบอกให้ไอ้โจเซฟขึ้นมาหากูเดี๋ยวนี้ ด่วนเลยนะ” แอลตันบอกกับเซดริกทันทีหลังเขารับสาย “แล้วมึงขึ้นไปทำอะไรของมึงวะ แล้วสาวๆ สองคนนี่จะให้ทำยังงัย” เซดริกถามแอลตันพลางส่ายหัวให้กับความเอาแต่ใจของเ
สายป่านขับรถไปยังผับหรูตามที่ได้นัดหมายกันใน Line ของโมเดลลิ่ง งานนี้เป็นงานสังสรรค์แบบธรรมดา โดยมีลูกค้าชายเป็นนักธุรกิจสามคน และต้องการเด็กเอ็นฯทั้งหมดสามคนเช่นกัน“สงสัยจะเป็นลูกค้าเก่าที่เคยดูแลกันมาก่อนแน่ ๆ เลย ถึงได้รีเควสเรามา ก็ดีเหมือนกัน ลูกค้าเก่าจะได้ไม่มีปัญหาอะไรเยอะ”สายป่านบอกกับตัวเอง ขาคู่เรียวสวยก้าวลงจากรถ เธอ Line หาเพื่อนร่วมงานทั้งสองคน โดยสองสาวแจ้งว่ารออยู่ที่บริเวณประตูทางเข้าของผับแล้ว สายป่านจึงเดินออกไปเพื่อไปที่จุดนัดพบ ระหว่างที่เธอกำลังจะก้าวไปข้างหน้า รถสปอร์ตหรูที่จอดห่างออกไปข้างหน้านั้นดูสะดุดตาเธอมาก เธอหยุดเพ่งมองในขณะที่ประตูรถหรูนั้นเปิดออก ร่างสูงสง่าของหนุ่มหล่อชาวฝรั่งเศสคนนั้น เธอจำเขาได้ดี ชายหนุ่มที่เธอฝากอ้วกไว้ให้เขาเมื่อสองวันก่อนนั่นแหละ ร่างบางรีบเดินหลบไปยังรถที่จอดอยู่ตรงหน้าเพื่อบังสายตาจากชายหนุ่มคนนั้นทันที“โอ้ยย ... วันนี้วันอะไรวะเนี่ยไอ้ป่านเอ้ย .. ดันเจอโจทก์ซะได้ ซวยจริงเชียว” เธอบ่นพึมพำ และค่อย ๆ ชะเง้อดู เห็นร่างสูงเดินเข้าไปในผับ เธอรออยู่สักครู่จึงเดินตามเข้าไป หลังจากเจอกับเพื่อนร่วมงานแล้ว ทั้งหมดก็พากันขึ้นไปยังชั้น
ครืดดด~ครืดดด เสียงสมาร์ทโฟนของสายป่านสั่นระรัว ในขณะที่เธอเพิ่งหลับไปได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ คนตัวเล็กงัวเงียลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู หน้าจอปรากฏชื่อของปริณ น้องชายของมาลารินทร์ สายป่านขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนที่จะรีบรับสายทันที"ว่าไงปริณ""พี่ป่านครับ วันนี้พี่มีธุระที่ไหนหรือเปล่าครับ พอดีผมมีเรื่องจะรบกวนพี่สักหน่อย" ปริณเอ่ยด้วยน้ำเสียงแสดงความเกรงใจอย่างเห็นได้ชัด"ไม่มีธุระที่ไหนหรอก มีอะไรให้พี่ช่วยบอกได้เลยจ้ะ" สายป่านตอบกลับเด็กหนุ่มซึ่งเธอเองก็รักเขาเหมือนน้องชายคนหนึ่งเช่นเดียวกัน"พอดีวันนี้หมอนัดตรวจแม่น่ะพี่ แต่รถผมดันมาเกเร สตาร์ทยังงัยก็ไม่ติด จะโทรหาพี่รินทร์ก็เกรงใจเขา ป่านนี้คงวุ่นกับการเตรียมตัวไปเจอพ่อกับแม่ของพี่เซดริกตอนเย็น ผมก็เลยต้องรบกวนพี่ป่าน" ปริณสาธยายยืดยาว"ได้ๆ แหม..เรื่องแค่นี้เองแม่เธอก็เหมือนแม่พี่แหละน่า.. ทำเป็นคนอื่นคนไกลกันไปได้ ว่าแต่จะไปกี่โมงล่ะ เดี๋ยวพี่ขับรถไปรับที่บ้าน""หมอนัดบ่ายสองครับพี่ โรงพยาบาลเดิมที่แม่ผ่าตัดนั่นแหละครับ""โอเคจ้ะ งั้นเดี๋ยวราวๆ เที่ยงครึ่งพี่ไปรับที่บ้านนะ""ครับพี่ป่าน ขอบคุณมากนะครับ"หลังจากวางสายจา
"อ๊ะ~อ๊ะ~อ๊าาาา~"เสียงครวญครางด้วยความเสียวกระสัน พร้อมกับเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องนอนขนาดใหญ่ ร่างแกร่งยืนซ้อนหลังคนตัวเล็ก ในขณะที่เธอใช้ฝ่ามือดันผนังห้องเอาไว้เพื่อรองรับแรงกระแทกกระทั้นของคนตัวโต"อื้มมมม"เสียงทุ้มต่ำของแอลตันร้องครางออกมา เนื่องจากช่องทางรักของคนตัวเล็กที่ตอดรัดความเป็นชายของเขาแน่นๆ จนหวิดจะเสร็จอยู่รอมร่อ"อื๊อ.. พี่แอลขา ไปต่อที่เตียงได้ไหมคะ ป่านยืนไม่ไหวแล้ว ขาสั่นไปหมดเลย"สายป่านออดอ้อนคนรัก ก็จะให้เธอยืนไหวได้อย่างไร เพราะเมื่อคืนเขาจับเธอกินเกือบทั้งคืน พอเสร็จสมก็พากันนอนหลับไปพร้อมกัน พอเขารู้สึกตัวตื่นก็จับเธอกินต่อ วนลูปไปเรื่อยๆ จนตอนนี้เกือบจะสิบโมงเช้าอยู่แล้วร่างแกร่งอุ้มกระเตงคนตัวเล็กเดินไปที่เตียง แล้ววางเธอลงอย่างนุ่มนวล เขาจับคนตัวเล็กคุกเข่าแล้วหันหลังมาทางเขา แอลตันจับแท่งรักสอดเข้าไปยังร่องสวาทที่ตอนนี้เป็นสีแดงเข้มจากการเสียดสีมาเกือบทั้งคืน ครืดดดด~ครืดดดด เสียงโทรศัพท์ของสายป่านสั่นอยู่ใกล้ๆ เธอมองไปที่หน้าจอแสดงชื่อของมาลารินทร์เธอจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที ในขณะที่คนตัวโตยังกระแทกแท่งรักเข้าใส่เธออย่างต่อเนื่อง"อ๊ะ..อ๊า
หลังจากกิตติยศกลับไปแล้ว แอลตันก็มองดูคนตัวเล็กที่ตอนนี้เธอกำลังนั่งพิงโซฟาอยู่ ดวงตาคู่สวยของเธอหวานเชื่อมมากๆ ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ๆ แล้วก้มหน้าลงหวังจะจูบเธอให้หายคิดถึง แต่ฝ่ามือเรียวสวยกลับดันใบหน้าของเขาออกอย่างช้าๆ"พี่แอลจาทำอารายคะ ห้ามทามอารายป่านเลยนะ ตอนนี้เราเป็นแค่รูมเมทกันเฉยๆ น้าาา.." สายป่านอ้อแอ้พูด เสียงยานคาง"เปล่า พี่ไม่ได้จะทำอะไรนะครับ แค่จะดูว่ายัยตัวเล็กของพี่เมาแบบที่พี่ยศบอกหรือเปล่า จะได้เก็บเหล้า" แอลตันทำทีพูดจาขึงขัง แล้วเอื้อมมือจะเก็บเหล้าดองลำไยในโหลนั้น"อื้อๆ..อย่าเพิ่งเก็บ ป่านจากินอีก ยังม่ายเมาสักหน่อย ..""งั้นพี่ให้ดื่มต่ออีกหน่อยก็ได้" แอลตันยิ้มอย่างใจดี"อื๊อ..แฟนป่านน่ารัก ใจดีที่สุดเลย" สายป่านโน้มตัวชายหนุ่มเข้ามากอดแอลตันรินเหล้าดองลำไยเพิ่มให้แฟนสาวและสำหรับตัวเอง เขายอมรับว่ารสชาติของมันช่างหอมหวานจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่แฟนสาวชอบดื่มมันเอามากๆ ดังนั้นแผนการมอมเหล้าเมียเพื่ออัพเกรดสถานะตัวเองจึงทำได้อย่างง่ายดายครึ่งชั่วโมงผ่านไป..."พี่แอลขา ป่านร้อนจังค่ะ"ยัยตัวเล็กของเขาใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงก่ำ เธอเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของตัวเองออก
สายป่านใช้ชีวิตช่วงนี้อยู่แต่ที่เพนท์เฮาส์ของแอลตัน ตอนเช้าก็ทำอาหารง่าย ๆ ให้แอลตันทานก่อนไปทำงาน ส่วนเวลากลางวันก็มีออกไปช้อปปิ้งหรือซื้อของสดเข้าครัวบ้าง บางวันก็มีนัดทานข้าวกับเจษนิพิฐและมิกกี้ ซึ่งแอลตันก็ไม่ได้ห้ามอะไร เขาปล่อยอิสระให้กับเธออย่างเต็มที่ ส่วนช่วงบ่าย เธอจะเข้าครัวเพื่อเตรียมทำอาหารเย็นไว้รอกินข้าวเย็นกับแอลตัน ซึ่งเขาก็มักจะให้ทำอาหารไทยชนิดนั้นชนิดนี้ที่ได้ยินเซดริกเอามาขิงว่ารินทร์ทำให้เขากินแล้วอร่อยมาก มาขอให้เธอทำให้กินอยู่เสมอวันนี้หลังจากแอลตันไปทำงานแล้ว สายป่านก็ทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เสร็จแล้วก็มานั่งเล่นอยู่มุมห้องด้านที่เป็นกระจกทั้งหมด เพ้นท์เฮาส์นี้อยู่ชั้นบนสุดของตึกซึ่งอยู่ริมแม่น้ำ จึงเห็นวิวมุมสูงได้ค่อนข้างกว้างและสวยมาก ๆ เลยทีเดียวครืดดดด...ครืดดดดด..เสียงโทรศัพท์ของสายป่านสั่นขึ้น หน้าจอบอกชื่อของกิตติยศ พี่ชายของเธอ“เฮลโหลวววว พี่ชายที่รัก ว่ายังงัยคะ” เธอกรอกเสียงไปยังปลายสายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ว่างัยยัยสายป่วน เงียบหายไปเลย ไม่โทรหากันเลยนะ” กิตติยศค่อนขอดน้องสาว“ป่านยุ่งๆ เรื่องเรียนกับสอบน่ะค่ะพี่ยศ แต่ตอนนี้สอบเสร็จแล้วนะ คิดถึงพี่
หลังจากสายป่านลงจากรถไปแล้ว แอลตันก็กำลังจะขับรถออกจากมหาลัย เพื่อจะไปรอคนตัวเล็กอยู่ที่หอพักของเธอก่อน อีกสักสองสามชั่วโมงค่อยไลน์หาว่าเธอเสร็จธุระแล้วหรือยัง แต่ยังไม่ทันจะสตาร์ทรถ เขาก็เห็นรถหรูของเซดริกขับเข้ามาจอดอยู่ตรงบริเวณโดมด้านข้างอีกฝั่งหนึ่ง ไม่ไกลกันมากนัก ชายหนุ่มรั้งร่างเล็กของมาลารินทร์เข้าไปจูบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ร่างสูงหุ่นดีในชุดนักศึกษาของเธอจะลงมาจากรถ แล้วก้าวเดินออกไปยังจุดนัดพบที่สองสาวได้นัดกันไว้ ครืดดดด... ครืดดดดด...เสียงโทรศัพท์ของเซดริกสั่นขึ้น เขาหยิบมาดูชื่อสายเรียกเข้า แล้วกดรับสายทันที“มาส่งเมียแค่นี้ทำยังกับจะลาไปออกรบเลยนะมึง แหม..ต้องมีเลิฟซีนกันด้วย ไม่ดูสถานที่เลยนะมึง” แอลตันส่งเสียงกระแนะกระแหนมาตามสาย“แล้วยังงัย อิจฉากู?” เซดริกตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงยียวน พร้อมกับมองหาเจ้าของเสียงกวนประสาทไปรอบ ๆ ก็เห็นรถสปอตคันหรูจอดอยู่อีกฝั่ง“อ้อ..มึงว่างมากใช่มั้ยไอ้แอล งานการไม่ทำ มาทำเหี้ยอะไรที่นี่”“กูก็มาส่งเมียกูสิ เมียกูก็มี จะอิจฉามึงทำเหี้ยอะไรล่ะ” แอลตันตอบยียวนแบบคงเส้นคงวา“เมียมึงเรียนที่นี่เหรอ แหม! ได้เมียเด็กซะด้วย อ๊ะ..หรือว่าเป็นอาจา
หลังจากทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว แอลตันก็พาคนตัวเล็กไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าหรูกลางใจเมือง เขาขอให้เธอแวะโซนซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเลือกซื้อของสดเข้าครัวที่เพนต์เฮาส์ เพราะหลังจากนี้สายป่านจะต้องไปอยู่กับเขาตามสัญญา เพราะตอนนี้สอบเสร็จและปิดเทอมแล้ว"คราวนี้แหละ พี่จะได้ทานอาหารไทยฝีมือเมียแบบไอ้เซดริกทุกวันมั่ง หมั่นไส้มันชอบมาอวดว่าเมียทำอาหารให้กินตลอด" แอลตันบอกคนตัวเล็ก เธอส่ายหน้าเบาๆ ให้กับคนตัวโตที่ยังทำนิสัยเป็นเด็กๆ อยู่ได้ สายป่านเดินหาซื้อของสดและของแห้งได้ครบจำนวนแล้วก็พากันเดินออกไปชำระเงินแล้วเตรียมเดินทางกลับรถสปอตคันหรูพุ่งทะยานออกจากลานจอดรถของห้างแล้วมุ่งหน้าสู่เพนต์เฮาส์ทันที"อ้าว..พี่แอลคะ ทำไมไม่ไปส่งป่านที่หอล่ะคะ พรุ่งนี้ป่านมีนัดกับรินทร์นะ" สายป่านถามแฟนหนุ่ม"ก็พี่คิดถึงหนิ ไม่ได้นอนกอดมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ ไม่สงสารพี่บ้างเลยเหรอ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ขับรถไปส่งก็ได้ครับ นะ..คนดีนะ" แอลตันออดอ้อน สายป่านกรอกตาเป็นเลขแปด เหนื่อยหน่ายกับความเจ้าเล่ห์ของแฟนหนุ่มหลังจากเก็บของสดและของแห้งใส่ตู้เรียบร้อยแล้ว แอลตันก็อาบน้ำและใส่กางเกงนอนผ้าพริ้วเพียงตัวเดียวส่วนด้านบ
สัปดาห์ของการสอบผ่านพ้นไปได้ด้วยดี สายป่านค่อนข้างมั่นใจกับผลการสอบครั้งนี้มากๆ เพราะเธอทำมันอย่างเต็มที่ที่สุด หลังจากนี้ก็จะเป็นเวลาปิดเทอมให้ได้หยุดพักผ่อนราวๆ สองเดือนเลยทีเดียวคนตัวเล็กกำลังจัดเตรียมเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวบางส่วน เพื่อกลับไปอยู่เพนต์เฮาส์ของแอลตันตามที่ได้คุยกันไว้ เธอยังนึกขำสถานะใหม่ของเขากับเธอ รูมเมท ... "คิดไปได้ไงวะเรา ฮ่าๆๆ"ครืดดด~ครืดดด~ เสียงโทรศัพท์เคลื่อนที่ของสายป่านที่อยู่บนโต๊ะสั่นขึ้น เธอรีบเดินไปหยิบมาดูแล้วกดรับทันที"ว่างัยคะคุณนายมาร์ติน" สายป่านเอ่ยกระเซ้าเพื่อนรัก"แหม..แซวใหญ่เลยนะ" มาลารินทร์ตอบกลับพลางกลั้วหัวเราะ"วันนี้คุณสามีไม่อยู่รึไง ถึงได้โทรมาหาเพื่อนได้""ฉันโทรหาแกออกจะบ่อย พูดแบบนี้น้อยใจละ" มาลารินทร์ทำเสียงกระเง้ากระหงอด"ล้อเล่นน่า โทรมามีไรเปล่า" สายป่านถาม"ฉันว่าเทอมหน้าจะกลับไปเรียนแล้วนะ พี่เซดริกอนุญาติเรียบร้อย แถมเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการอีกด้วย ฉันก็เลยอยากจะชวนแกไปเป็นเพื่อนทำเรื่องที่มหาลัยสักหน่อย""ก็ดีสิ แล้วแกจะไปวันไหนล่ะ นัดมาเลย" สายป่านบอกเพื่อนรัก"เป็นวันพรุ่งนี้เลยได้ไหม" มาลารินทร์เอ่
เช้าวันใหม่บรรยากาศสดใส พระอาทิตย์กำลังจะโผล่พ้นขอบฟ้า แสงสีส้มอ่อนๆ ค่อยๆ สาดแสงเข้ามาในห้องนอนที่กั้นด้วยกระจกใส ที่ตอนนี้ผ้าม่านถูกเปิดอยู่ ดวงตาคู่สวยของสายป่านค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพื่อปรับแสง ร่างเล็กเปลือยเปล่าของเธอถูกกอดรัดด้วยร่างเปลือยของคนตัวโต"อุ่นจัง" คนตัวเล็กค่อยๆ ขยับตัวเปลี่ยนท่าเพราะรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด เธอพลิกตัวหันหลังโดยมีร่างแกร่งซ้อนหลังเธออยู่"อุ๊ย" สายป่านร้องอุทานขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงแท่งรักที่กำลังขยายตัวเต็มที่ ที่ตอนนี้ถูไถอยู่บริเวณรอยแยกของกลีบดอกไม้งามทางด้านหลัง"อ๊าาา..~~.." สายป่านครางเบาๆ เมื่อฝ่ามือหนาที่โอบเอวกิ่วของเธออยู่ได้เลื่อนต่ำลงมาบดคลึงที่ยอดเกสรเบาๆ จนน้ำหวานสีใสค่อยๆ ไหลออกมาหล่อลื่นจนเต็มร่องสวาทร่างแกร่งค่อยๆ ขยับกายขึ้นแล้วยกขาเรียวของคนตัวเล็กไว้ที่แขนแกร่ง และดันสะโพกหนาให้แท่งรักสอดใส่เข้าไปยังร่องสวาทจนมิดลำ"Morning Sex กันหน่อยนะครับเมีย" แอลตันกระซิบเสียงแหบพร่า แล้วค่อยๆ ขยับกระแทกแท่งรักตอกอัดร่องสวาทของสายป่าน จนคนตัวเล็กหัวสั่นหัวคลอน" อ๊ะ อ๊ะ ... ~ ซี๊ดดด" สายป่านร้องครางเสียงหวานปั่ก ปั่ก ปั่ก ปั่ก เสียงเนื้อกร
ครืดดด.. ครืดดดด...เสียงโทรศัพท์เคลื่อนที่ของสายป่านที่อยู่ในกระเป๋าของเจสั่นขึ้นมา เขาล้วงมือเข้าไปหยิบมันขึ้นมาดูที่หน้าจอ ที่แสดงชื่อคนที่เขาคิดไว้ในใจจริง ๆ“สวัสดีครับคุณแอลตัน ผมเจครับ”“สวัสดีครับคุณเจ ตอนนี้ผมอยู่ที่รีสอร์ทแล้วนะครับ ป่านเป็นยังงัยบ้าง” แอลตันรีบเอ่ยถามถึงแฟนสาวด้วยความเป็นห่วง“ก็อย่างที่คุณเห็นในวิดีโอคอลแหละครับ เมาเละ ตอนนี้หลับไปแล้ว คุณรออยู่ตรงไหนครับ เดี๋ยวผมเดินไปรับ”เมื่อคุยกันเป็นที่เรียบร้อย เจจึงไปรับแอลตันมาส่งที่ห้องพักของสายป่าน“ฝากเพื่อนผมด้วยนะครับคุณแอลตัน ผมหวังว่าคุณกับป่านคงจะเคลียร์กันให้รู้เรื่องนะครับ ถึงป่านมันไม่ค่อยแสดงออก แต่มันแคร์คุณมากนะ ชีวิตมันเจอเรื่องร้าย ๆ มามาก ถ้าคุณไม่คิดจะจริงจังกับมันผมก็ขอร้องว่าให้คุณปล่อยมันไปเถอะ” เจบอกความในใจของตัวเองให้แอลตันได้รู้ เพราะเขาเองก็สงสารสายป่านมากเหมือนกัน“ผมยืนยันว่าผมไม่มีอะไรกับใครทั้งนั้น ผมรักป่านคนเดียวครับ ขอบคุณคุณเจที่ช่วยดูแลป่านนะครับ” เจพยักหน้าตอบรับ แล้วเดินออกจากห้องไปแอลตันเดินตรงไปยังห้องนอน เขาเปิดประตูเข้าไปก็เห็นสายป่านกำลังนอนอยู่บนเตียง มีผ้าห่มผืนหนาคลุมต