Share

11 - ยังไงก็ต้องรับผิดชอบ

ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกลั้นใจตอบ “ใช่! เป็นฉันเอง” 

หากว่าเขาไม่ดูถูก ฉันก็คงไม่พูดออกไปหมดเปลือกแบบนี้ ไม่คิดว่าเขาจะจำฉันไม่ได้ เพราะเมื่อเดือนก่อนตอนที่เจอเขาที่บริษัทยังทำเหมือนคุ้นๆ กับฉันอยู่เลย หากรู้ว่าจะลืมง่ายขนาดนี้ฉันคงไม่ต้องลาออกจากงาน 

“แกจะเอายังไง ลูกสาวฉันท้อง ถึงจะเป็นความผิดพลาดยังไงก็ต้องรับผิดชอบ!!” พ่อประกาศลั่นอีกครั้ง 

“ตอนนี้ผมยุ่งกับงานที่บริษัท…” 

“พูดแบบนี้แปลว่าแกจะไม่รับผิดชอบใช่ไหม” พ่อลุกขึ้นพรวดจ้องหน้าคุณคานส์อย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อเห็นว่าพ่อลุกขึ้นฉันก็รีบจับแขนพ่อไว้เพราะกลัวว่าพ่อจะไปทำอะไรเขา 

ฉันไม่ได้เป็นห่วงคุณคานส์แต่เป็นห่วงพ่อ นี่มันบ้านของเขาหากพ่อทำอะไรไป เขาคงไม่เอาพ่อไว้แน่ๆ ดูจากที่บ้านมีลูกน้องมากมายก็พอจะเดาได้ว่าเขาเป็นคนที่มีอิทธิพลมากขนาดไหน 

สายตาของคุณคานส์ไม่ได้มองพ่อ เขากลับเอาแต่มองหน้าฉัน สายตาเย็นชาไร้ความรู้สึกแบบนั้นมันทำให้ฉันต้องก้มหน้าลง เพราะไม่อยากถูกจ้องมอง 

“ผมยังไม่ได้พูดว่าจะไม่รับผิดชอบ อีกสองวันธุระที่บริษัทจะเสร็จ ผมจะไปเคลียร์เรื่องนี้ที่บ้านของคุณ” 

“พูดแบบนี้แปลว่าแกจะชิ่ง!!” พ่อยังคงไม่เชื่อคำพูดของผู้ชายตรงหน้า

“ถ้าผมไม่ไปตามที่พูด คุณลุงก็เอาปืนมายิงผมได้เลย” 

“พะ พ่อกลับกันเถอะนะคะ เขาพูดแล้วคงไม่ผิดคำพูด” ฉันพยายามพูดให้พ่อกลับ ไม่อยากที่จะอยู่นานมากกว่านี้แล้ว

“ก็ได้ฉันจะเชื่อสักครั้ง แต่ถ้าแกไม่ทำตามที่พูด ฉันจะฆ่าแกเอง!!” มันรู้สึกโล่งอกที่พ่อยอม ทำให้ฉันลอบถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ 

พูดจบพ่อก็ดึงตัวฉันให้เดินตามตัวเองออกมาจากห้องรับแขก สายตาของคุณคานส์เขาก็ยังคงเอาแต่มองฉัน รู้สึกไม่ชอบสายตาของเขาเลยจริงๆ  

#บ้าน

กว่าจะมาถึงบ้านก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง พอมาถึงพ่อก็ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นบอกให้ฉันเข้าห้องนอนซะ เพราะตอนนี้มันก็ตีสามแล้ว 

พอเข้ามาใรห้องก็เห็นแพรนอนหลับอยู่ ฉันไม่ได้ปลุกเธอขึ้นมาเล่าเหตุการณ์ในวันนนี้ เพราะนี่คือเวลานอน และตอนนี้ฉันเองก็ง่วงมากๆ 

เช้าวันต่อมา ฉันที่คิดว่าจะตื่นสายเพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอน แต่ความเป็นจริงนั้นฉันตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเพราะรู้สึกคลื่นไส้ และหลังจากอ้วกเสร็จมันก็นอนต่อก็ไม่ได้ มันรู้สึกอยากอ้วกตลอดเวลา จนทำให้แพรตื่น 

“แพ้หนักเลยหรอแก” แพรถามฉันที่เดินออกมาจากห้องน้ำเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ 

“อื้อ” ฉันพยักหน้าตอบเหมือนคนหมดแรงแล้วนั่งลงที่เตียง 

“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” 

“ประมาณตีสามน่ะ” 

“พ่อแกพาไปไหนทำไมถึงนานขนาดนั้น” 

“…ไปบ้านคุณคานส์” 

“ห๊ะ!! ทะ ทำไมพ่อแกรู้ที่อยู่เขาเร็วขนาดนั้น” ฉันไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ส่ายหน้า 

“แล้วเขาว่ายังไงแก” แพรรีบถามต่อด้วยความอยากรู้

“เขาจำฉันไม่ได้” พอบอกไปแบบนั้นแพรก็สะตั้นไปครู่หนึ่งก่อนจะพูด “เกินไปไหม ถึงขนาดจำไม่ได้เชียวหรอ คงจะผ่านผู้หญิงมาเยอะล่ะสิ” 

“ฉันก็เลยพูดเหตุการณ์ในคืนนั้น เขาถึงจำได้” 

แพรถอนหายใจออกมาเบาๆ “อย่างน้อยก็ดีที่จำได้ นึกว่าจำไม่ได้แล้วจะไม่ยอมรับผิดชอบอะไร” 

“…….” 

“แล้วเขาว่ายังไง รับผิดชอบใช่ไหม” 

ฉันส่ายหน้าไปมา “ไม่รู้เหมือนกัน เขาบอกว่าอีกสองวันจะมาที่บ้านของฉัน” 

“แล้วเขารู้จักบ้านแกด้วยหรอ” 

“คงไม่ยากสำหรับเขาหรอก” 

“ฉันก็อยากจะอยู่กับแกต่อนะ แต่ต้องกลับวันนี้แล้ว” 

“อื้อ แค่แกมาหาฉันก็ดีใจมากแล้ว ขอบคุณนะแพร ^_^”

ฉันกับแพรคุยกันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะอาบน้ำแล้วออกมากินข้าว แต่ก็ไม่เห็นว่าพ่ออยู่บ้าน 

“ลุงปลูกคะ พ่อไปไหนหรอคะ” 

“ไปธุระคงกลับเย็นๆ นู้นแหละครับคุณหนู” 

“อ๋อค่ะ” 

“แกนั่งรอก่อน เดี๋ยวฉันไปหาข้าวมาให้กิน” ฉันบอกแพร แต่แพรกลับเป็นฝ่ายดึงให้ฉันนั่ง “แกท้องอยู่ ฉันหาให้แกกินดีกว่า” 

ได้ยินคำว่าท้องอยู่มันรู้สึกหดหู่ยังไงก็ไม่รู้ เฮ้อ… 

นั่งรอไม่นานแพรก็ยกอาหารมาให้ ที่บ้านฉันมักจะทำพวกน้ำพริกผักกินซะส่วนใหญ่ ฉันมองชามที่แพรยกมาเสริฟเห็นว่าเป็นแกงฟักทองน้ำตามันก็จะไหลออกมาให้ได้ 

ฉันรู้ว่าพ่อยังโกรธ และโกรธมากๆ แต่พ่อก็ยังทำแกงฟังทองให้ฉันกินเพราะรู้ว่าฉันเหม็นอาหารทุกอย่าง กินได้แค่แกงฟักทองอย่างเดียว

หลังจากที่กินข้าวเสร็จฉันก็เดินมาส่งแพรที่รถ บอกลากันครู่หนึ่งแพรก็ขับรถออกไปจากบ้าน ส่วนฉันก็ไม่รู้จะทำอะไรจึงเข้าห้องนอน 

ฉันคิดว่าคงต้องโทรไปหาพี่เอ็มว่าขอลาออก อาการแพ้ท้องหนักมากขนาดนี้ฉันคงทำงานไม่ได้แน่ๆ แต่ที่ยังไม่ได้โทรไปก็เพราะว่าคิดไม่ออกว่าจะอ้างกับพี่เอ็มยังไงดี เรื่องที่จะลาออกจากงาน

สองวันผ่านไป…

วันนี้ฉันค่อนข้างที่จะไม่มีสมาธิ จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว เพราะคุณคานส์บอกว่าจะมาที่บ้านฉันในอีกสองวันซึ่งนี่มันก็ครบกำหนดแล้ว 

ฉันไม่อยากให้เขามา ไม่อยากให้เขารับผิดชอบ ได้แต่ภาวนาขอให้เขาผิดคำพูด ดูจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้อยากจะรับผิดชอบรักหรอก หากพ่อไม่ขู่เขาก็ไม่ใส่ใจเลยด้วยซ้ำ 

ก๊อกๆ เสียงเคาะห้องดังขึ้นทำให้ฉันที่นั่งเหมอลอยอยู่สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้อง เห็นว่าเป็นลุงปลูกที่เป็นคนมาเคาะ 

“มีอะไรหรือเปล่าคะ” 

“พ่อกำนันเรียกให้ไปพบครับคุณหนู” 

“…ค่ะ” 

ตึกตัก! ตึกตัก! จู่ๆ หัวใจดวงน้อยของฉันมันก็เต้นแรง ฉันยืนขาแข็งอยู่ที่หน้าประตูห้องพักใหญ่ จึงเรียกสติของตัวเองให้กลับมาแล้วเดินออกจากห้องไปหาพ่อ 

ทันทีที่เดินมาถึงขาของฉันมันก็ต้องหยุดชะงักกะทันหันเพราะสายตามองเห็นผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับพ่อ 

คุณคานส์… 

เป็นเขาจริงๆ เขามาที่บ้านของฉันตามคำพูดที่เคยพูดไว้ แบบนี้แปลว่าจะรับผิดชอบอย่างนั้นหรอ มะ ไม่นะ ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้น 

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status