Share

เพียงชั่ววูบ 32

Author: DILEMMA 28
last update Last Updated: 2025-02-18 13:17:38

วินตรามองกระจกหลังเป็นระยะด้วยความเคยชิน แล้วก็เห็นรถคันดังกล่าวขับตามมาตั้งแต่ตอนร้านอาหารจนถึงที่พักของเขา

อีกอย่างเขาอยู่ในที่สว่างและวินตราก็เหนื่อยที่จะต้องหลบๆซ่อนและทำได้เพียงแค่หนีแบบนี้อีกต่อไปแล้วเขากำพวงมาลัยอย่างแน่นก่อนจะถอนหายใจออกมาช้าๆจอดรถแล้วรีบเดินขึ้นห้องของตัวเองไปอีกอย่างคอนโดที่นี่ก็หนึ่งในเครือของศศิภักดีความปลอดภัยแม้จะดีในระดับหนึ่งแต่หากพวกนั้นไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการก็ไม่มีทางเลิกราโดยเฉพาะไอ้ชั่วนั่น

วินตราแตะบัตรเข้าห้องของตัวเองด้วยอารมณ์ดิ่งอีกครั้งแล้วเขาก็ไม่ชอบใจนักที่ตัวเองเป็นอย่างนี้ถุงขยะหลายถุงกองสุมกันอยู่ที่ทางเข้าประตูตอนนี้เขาเหนื่อยล้าจนไม่อยากจะทำอะไรวันเสาร์วันอาทิตย์ก็แทบไม่ได้พักดีที่ว่าเสื้อผ้าส่งซักไม่งั้นเขาคงใส่เสื้อผ้าซ้ำๆสภาพจิตใจที่บอบช้ำมาอย่างหนักไม่มีทางจะหายดีในเร็ววันข้อนั้นเขารู้ดีเพียงแต่…แค่อยากจะยิ้มให้กับเรื่องง่ายๆแต่เขากลับทำไม่ได้เวลาร่างกายตึงเครียดมากที่สุดกลับกลายเป็นว่าต่อมน้ำตาของเขาเหมือนถูกปิดตายไม่ยอมทำงานเสียดื้อๆร่างกายเครียดจนไม่สามารถร้องไห้เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจออกมาผ่านหยดน้ำตาได้อารมณ์ของเขามันดำดิ่งและลึกมากกว่านั้นลึกจนมองไม่เห็นหลุมดำที่ติดอยู่ในใจที่คอยกัดกินพลังงานในการใช้ชีวิตของเขาอย่างหนักใบหน้าที่เรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆเพราะว่าตัวเองต้องฝืนลุกมาทำหน้าที่ๆไม่ชอบ

เขาอยากจะนั่งโง่ๆไม่อยากทำอะไรนั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเพียงลำพังอยากจะโอบกอดตัวเองให้มากหน่อยแต่บางครั้งสิ่งแวดล้อมผู้คนก็เคี่ยวกรำให้ต้องกล้ำกลืนบาดแผลพวกนั้นลงไปเจ็บปวดปางตายแค่ไหนก็ต้องตื่นมาทำงานในสังคมการทำงานไม่มีใครพยายามจะมาเข้าใจใครว่าใครป่วยเป็นอะไรเราต่างก็เป็นฟันเฟืองตัวเล็กๆของบริษัทแม้จะไม่สำคัญแต่ก็ขาดไม่ได้

ต่อให้สภาพจิตใจย่ำแย่มากแค่ไหนก็ทำได้เพียงแต่ปลอบตัวเองว่าวันนี้จะผ่านไปนานวันเข้าใบหน้านั้นก็ไร้อารมณ์ไม่สุขไม่เศร้ากลับว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

วินตราไปหาหมอตามนัดเป็นประจำแต่เพราะบาดแผลวัยเด็กที่ได้รับมันเปราะบางเปราะบางเสียจนไม่กล้าที่จะเปิดปากเล่าออกไปง่ายๆกลัวว่าจะเป็นการเปิดแผลใจใช้คนอื่นซ้ำเติมแม้ว่าบุคคลตรงหน้าจะเป็นจิตแพทย์ก็ตามวินตรากดความรู้สึกพวกนั้นลงไปจนมิดและไม่รู้เมื่อไหร่ที่มันจะระเบิดออกมา

วัยเด็กวัยเยาว์ที่วินตราไม่อยากหวนคิดถึงและอยากให้มันตายไปกับกาลเวลากำลังผุดเหตุการณ์ไล่เรียงลำดับขึ้นมาในหัวสมองเขาเรื่อยๆมือสั่นเทาประคองยาเข้าปากก่อนจะซุกตัวอยู่ใต้โต๊ะทานข้าวโอบกอดตัวเองที่กำลังสั่นเทาอยู่อย่างนั้นตามลำพังจวบจนเช้าวันใหม่มาถึง

วันจันทร์วินตราก็ขับรถไปรับท่านประธานเช่นเคยแต่เพิ่มเติมคือตอนนี้เขาเป็นคนนั่งคอยป้อนข้าวป้อนน้ำแล้วก็ชอบกินจังไอ้ข้าวเหนียวหมูทอดห่อใบตองเจ้าที่ขายหน้าคอนโดของเขากินยากไม่พอต้องมาคอยป้อนอีก

“ทำไมคุณไม่ทานเอง”

“ฉันขับรถนี่ไง” วินตรามุมปากกระตุกเพราะเจ้านายทำตัวแบบนี้ในกระเป๋าของเขาถึงต้องมีพวกถุงมือพลาสติกตะเกียบไม้เพิ่มขึ้นมา

ข้าวเหนียวห่อใบตองที่ต้องปั้นทีละก้อนป้อนหมูทอดทีละชิ้น

“มีถุงมือด้วย?”

“เพราะใครล่ะครับ”

“นี่จะบอกให้นะฉันขับรถให้นายนั่งก็ดีเท่าไหร่แล้วแม้แต่คุณนิติพลยังไม่มีโอกาสนี้ด้วยซ้ำ” วินตราจ้องมองสีหน้าด้านข้างที่ท่านประธานเคี้ยวข้าวแก้มตุ่ยพลางพูดโอ้อวดอย่างภูมิใจ

“งั้นผมควรจะดีใจใช่ไหมครับ”

“แน่นอน”

“แล้วคุณนิติพลต้องมาป้อนข้าวป้อนน้ำแบบนี้ให้ท่านประธานด้วยหรือเปล่า”​

“อย่าหวังฉันจะใช้นายคนเดียวเท่านั้นทำไม…นายมีปัญหา” วินตราเหยียดยิ้ม “คนที่มีปัญหาคือบอร์ดบริหารต่างหากทานให้อิ่มตุนไว้เยอะๆเถอะครับ” เดนีสแทบสำลักข้าวเหนียวตาย

“แค่ก” วินตรายกน้ำให้อย่างรู้งานเดนีสตบพวงมาลัยอย่างหัวเสีย

“แม่งมู้ดดีๆในเช้าวันจันทร์อย่างนี้หายหมด” เดนีสสีหน้าไม่สบอารมณ์ทันทีแต่วินตรากับยิ้มกริ่มก่อนจะจัดการขยะพวกนั้นแล้วมองตรงไปข้างหน้าไม่สนใจสายตาของท่านประธานที่จ้องมองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้ออีก

วินตราและเดนีสหัวหมุนตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมานอกจากจะวิ่งวุ่นหาซัพพลายเออร์เจ้าใหม่แล้วการไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ซ้ำยังเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ก้าวขึ้นมานั่งตำแหน่งบริหารไม่แปลกที่เดนีสศศิภักดีจะถูกคนอื่นดูแคลนโดยเฉพาะนักธุรกิจรุ่นพ่อเดนีสหน้าม้านเมื่อเจอคำสบประมาทตรงๆ

“ต่อให้ท่านเจ้าสัวมาเองผมก็คงไม่สามารถเจียดวัตถุดิบในมือให้ได้” แม้ในใจจะก่นด่าอีกฝ่ายยี่สิบตลบแต่ทำได้เพียงค้อมหัวให้ด้วยความเคารพพออยู่ด้วยกันเพียงสองคนกับรุ่นเลขาเท่านั้นแหละ

“แม่งฉีกหน้ากันซึ่งๆหน้าเลย” เดนีสหัวเสียแต่ทำอะไรไม่ได้ทำได้เพียงบ่นกับวินตราเท่านั้น

“ก็ช่วยไม่ได้นี่ครับแม้แต่สัตว์ก็มักจะให้การยอมรับตัวผู้ที่เหนือกว่าเป็นจ่าฝูงขอแค่อีกฝ่ายล้มตัวเองได้คนเราเองก็เหมือนกันหากอยากได้ความเคารพจากรุ่นพ่อก็ต้องมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันต่อยอดธุรกิจที่มีในมือให้เติบโตมากกว่าที่รุ่นพ่อทำเอาไว้”

“ให้ตายเถอะเหมือนง่าย”

“ก็ไม่ง่ายจริงๆแหละครับอีกอย่างเพราะว่าตัวธุรกิจเองก็คงที่ไม่มีอะไรให้ต้องปรับเปลี่ยนไปตามวิกฤตมนุษย์เราเมื่อสบายก็ไม่อยากจะคิดอะไรให้ยุ่งยากอย่างเรื่องต่อยอดแตกไลน์ใหม่ใครๆก็รักสบายแต่หารู้ไม่ว่าความสบายนั้นบางทีก็ทำให้เราหมดไฟเสียดื้อๆไม่ดิ้นรนแข่งขันอะไรเพราะว่าโมเดลเดิมดีอยู่แล้วค่อยๆสูญเสียศักยภาพที่ตนมีไปช้าๆ”

เดนีสเป็นคนมีศักยภาพแต่กลับไม่เคยได้นำออกมาใช้ได้แต่เออออไปตามโมเดลธุรกิจที่ปูมาไว้แล้วแต่ต้นความรู้ความสามารถที่ร่ำเรียนมาก็นำมาประยุกต์ใช้ได้น้อยมากๆคิดวิเคราะห์อะไรก็มีคุณนิติพลและวินตราเป็นมันสมองให้ทั้งหมดเขาทำหน้าที่แค่อ่านและเซ็นอย่างเดียว

“เหมือนนายกำลังด่าฉันอ้อมๆยังไงไม่รู้”

“ถ้าปราศจากอคติจะได้ยินว่าผมกำลังเตือนด้วยความหวังดี”

“เหอะ” เดนีสเบ้ปากแต่ก็ยอมรับกลายๆว่าที่วินตราเอ่ยเตือนนั้นเป็นความจริงเขาเหมือนหุ่นเชิดหุ่นกระบอกพอบอร์ดบริหารแย้งเขาก็เออออผสมโรงเพราะไม่อยากมีปัญหาไม่มีแนวความคิดเป็นของตัวเองใครว่าดีเขาก็ว่าดีแต่ไม่ควรจะมีอยู่ในตัวผู้นำที่นั่งบริหารบริษัทขนาดใหญ่ขนาดนี้ที่กำชะตาชีวิตลูกน้องหลายพันคนไว้ในมือจะว่าไปเขาก็ไม่มีศักยภาพมากพอที่จะให้คนเคารพจริงๆแหละตอนนี้

สภาพ!

เขาปวดขาเมื่อยขบไปทั้งตัวเพราะเดินทางเหมือนนกเลยช่วงนี้แม่งเอ๊ยสะใจเพียงไม่กี่วันต้องมาตามเช็ดตามล้างเป็นแรมเดือนนอนก็ไม่หลับมิหนำซ้ำต้องขึ้นเหนือลงใต้ไปเจรจากับคู่ค้าอย่างพ่อเลี้ยงดนัยด้วยตัวเองหอบกระเช้าไปขอโทษขอโพยด้วยตัวเอง

Related chapters

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 33

    วินตราที่ติดต่อเลขาพ่อเลี้ยงดนัย รู้ว่าช่วงนี้พ่อเลี้ยงมาดูแลสาขาอุดรธานีก็จองตั๋วเครื่องบินทันที “นายไปคนเดียวก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ” เดนีสถามเมื่อนั่งอยู่บนเครื่องบินหน้าตาบูดบึ้งเพราะเมื่อวานกว่าจะได้นอนปาไปค่อนคืนวันนี้ต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่วิ่งสับตีนแตกมาขึ้นเครื่องไฟลท์ตอนเจ็ดโมงครึ่งอีกเดนีสบ่นกระปอดกระแปดรองเท้าที่สวมใส่หากไม่ใช่หนังแท้อย่างดีป่านนี้คงสึกหรอไปหมดแล้วชีพจรลงเท้าแทบไม่ได้นั่งอยู่ติดที่วันนี้เองก็เช่นกันวินตราถอนหายใจ“เป็นการแสดงความขอโทษอย่างจริงใจยังไงล่ะครับท่านเจ้าสัวเองก็ให้ความสำคัญกับพ่อเลี้ยงขนาดไหนคุณคงจะทราบดี”“แล้ว?” วินตราหันหน้าไปมองด้วยสีหน้าเอือมระอาอีกฝ่ายน่าจะคุ้นชินการพบปะเข้าสังคมมากกว่าเขาและเข้าใจสังคมใส่หน้ากากพวกนี้ดีกว่าเด็กบ้านนอกอย่างเขาแต่ที่ไหนได้“ท่านประธานไม่เคยตามท่านเจ้าสัวไปออกงานเหรอครับ”“เคย…ทำไม? แต่ฉันไม่ชอบสังคมใส่หน้ากากจีบปากจีบคอเยินยอกันไปมาแบบนั้นหรอก” เดนีสไหวไหล่วินตราหางตากระตุก“การที่ท่านประธานไปครั้งนี้คือแสดงความจริงใจว่าคุณเป็นฝ่ายผิด”“เฮ้—” เดนีสที่อ้าปากจะแย้งหุบปากฉับ“สามร้อยล้านถ้าไม่เสียดายงั้นก็จองต

    Last Updated : 2025-02-18
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 34

    แล้วท่านประธานก็โดนบอร์ดบริหารโขกสับเละเป็นโจ๊กในที่ประชุม แถมท่านเจ้าสัวยังนั่งหัวโด่อยู่ตรงตำแหน่งหัวโต๊ะ เดนีสหน้าหดเหลือสองนิ้ว พอถึงจังหวะที่โดนจี้เข้ามาก ๆ กำลังจะอ้าปากเถียงวินตราก็สอดกระดาษโพสอิสใบเล็ก ๆ วางไว้ที่หน้าเอกสาร เดนีสก้มหน้าลงตามเดิม ก่อนจะเอ่ยขอโทษขอโพยการบริหารที่ผิดพลาดและจะชดใช้โดยการไม่รับเงินเดือนประจำตำแหน่ง 6 เดือน รวมไปถึงปันผลประจำปี ไตรมาสละ 2 ครั้ง สมทบเพื่อเป็นโบนัสและขวัญกำลังใจพนักงานต่อไปห้องประชุมที่กำลังสาดน้ำลายกันอย่างดุเดือดเลือดพล่านถึงได้เย็นลงมาบ้าง เดนีสหน้าตึงแต่ก็เก็บอารมณ์เป็นอย่างดี ไม่ได้เถียงข้าง ๆ คู ๆ แถมยังยืนก้มหัวโค้งคำนับรับความผิดพลาด แต่ความเป็นจริงวินตราหยิกสีข้างของท่านประธานไม่รู้กี่สิบรอบท่านเจ้าสัวมองลูกชายตัวเองด้วยสีหน้าพึงพอใจการบริหารมันก็มีผิดพลาดกันได้ผิดพลาดเพื่อเติบโตและพอเห็นท่าทีของลูกชายที่สงบเสงี่ยมขึ้นก็เบาใจแต่เพราะอยู่ในที่ประชุมท่านเจ้าสัวจึงต้องตีหน้านิ่งไม่อาจส่งสายตาปลาบปลื้มให้เจ้าลูกชายได้อย่างออกนอกหน้า แล้วอีกอย่างปัญหานี้ก็แก้ได้อย่างถูกวิธีและทันเวลาพอดีท่านเจ้าสัวมองเลยไปยังวินตราไม่ถึงหนึ่งปีล

    Last Updated : 2025-02-18
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 35

    เดนีสออกจากบริษัทตั้งแต่สี่โมงครึ่งเขาผิวปากพาดสูทที่แขนหันไปมองคุณเลขาที่ดูรายงานในไอแพด“วินตราวันนี้นายกลับไปพักได้”“ขอบคุณครับ” วินตรารับคำอย่างว่าง่ายตั้งแต่ทำงานเกือบปีนับครั้งได้ที่เขากลับเร็วพระอาทิตย์ยังไม่ตกดินแบบนี้วินตราเดินตามออกไปเดนีสที่นานๆจะเอ่ยถามไถ่ปรียานุชทำเอาหญิงสาวเก้ๆกังๆที่จะพูดคุยด้วย“คุณนุช”“คะคะ” ปรียานุชกุลีกุจอลุกสายตาละจากหน้าจอจดจ้องท่านประธานที่ดูอารมณ์ดี“ไม่ต้องลุกหรอกผมแค่จะบอกว่าวันนี้เลิกงานเร็วหน่อยก็ได้” ปรียานุชปรายตามองนาฬิกาบนโต๊ะก่อนจะฉีกยิ้มด้วยความดีใจ“ค่ะขอบคุณมากค่ะท่านประธาน” ปรียานุชค้อมหัวให้ด้วยความเคารพก่อนจะรีบเคลียร์งานให้เสร็จเพื่อที่จะได้ไปรับลูกสาวเร็วๆสักวันสัปดาห์ละครั้งก็ยังดีเดนีสเดินแกว่งกุญแจรถออกไปสีหน้าที่ยิ้มแย้มทำเอาพนักงานอย่างปรียานุชอดที่จะยิ้มตามไม่ได้“มีเรื่องอะไรดีๆเหรอคะคุณวินตรา”“หลังเคลียร์ปัญหาไปได้เห็นเบื้องบนคุยกันไว้ว่าจะเพิ่มโบนัสให้อย่าบอกใครนะครับ” วินตราขยิบตาให้ลับหลังวินตราปรียานุชก็ยิ้มหน้าบานรีบเก็บของลุกตามไปอีกคนบรรยากาศระหว่างคนสามคนที่ทำงานร่วมกันพลันดีและสดใสขึ้นไม่เพียงท่านประธานแม้แต

    Last Updated : 2025-02-21
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 36

    เสียงเคาะประตูหน้าห้องรวมไปถึงร่างที่ก้าวเท้าเข้ามาสีหน้าและท่าทางเหมือนมีความกดดันอะไรบางอย่างใต้ตาที่ดำคล้ำสภาพเหมือนคนไม่ได้นอนของคุณเลขาทำเอาเดนีสขมวดคิ้วมุ่น“วันนี้มีงานอื่นอีกไหม”“ไม่มีครับ”“นายโอเคนะ” เดนีสเลียบเคียงถามแพขนตาที่หลุบลงไหนจะฝ่ามือที่เหมือนจะสั่นน้อยๆเวลาจับไอแพดทำเอาเดนีสอดเป็นห่วงไม่ได้“ครับ” แถมวันนี้ยังพูดน้อยไม่ต่อปากต่อคำกับเขาอีกบรรยากาศเย็นยะเยือกที่ปล่อยออกมานั้นเหน็บหนาวเสียยิ่งกว่าแอร์ที่จ่อตรงหัวซะอีก “ถ้าไม่สบายพักก็ได้นะงานตอนบ่ายฉัน—”“ไม่เป็นไรจริงๆครับ”​ บทสนทนาความห่วงใยระหว่างลูกน้องกับเจ้านายจบลงแค่นั้นเมื่อปรียานุชเคาะประตูแล้วนำเครื่องดื่มเข้ามาให้เดนีสถอดแมสออกหลังจากเหลือเพียงสองคน “ซี้ด” มุมปากที่มีเลือดซิบโหนกแก้มที่ฟกช้ำวินตราเงยหน้าขึ้นมาจากไอแพดเมื่อได้ยินเสียงสูดปากเขาไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไปอีกฝ่ายก็ละล่ำละลักบอกมาเอง“เมื่อวานมีปัญหานิดหน่อย” “แล้วจะนัดทานข้าวกับคุณอัคนีได้ยังไงครับความจริงเป็นนัดที่สามารถเลื่อนได้เลื่อนไปก่อนดีกว่าไหมครับ” “ไม่เป็นไร” เดนีสโบกมือ “ปกติฝ่ายนั้นไม่ได้อะไรอยู่แล้วกาแฟไม่พร่องก็ลุกออกไปแล้ว”​“ค

    Last Updated : 2025-02-21
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 37

    เดนีสกำลังก้มหน้าดูลิสต์รายการอาหารในมือ “นายจะเอาอะไรอีกหรือเปล่า” เพราะความเครียดจู่โจมกระเพาะเหมือนจะไม่ทำงานพอได้กลิ่นไก่ย่างหอม ๆ แบบนี้ก็ชวนน้ำลายสอ อีกอย่างเข้าแต่ร้านภัตตาคารพวกนั้นก็เลี่ยนเหมือนกัน ได้กลับมากินของที่คุ้นลิ้นก็ดีเหมือนกัน “ตำหมูยอแคบหมูอีกสองห่อก็พอละครับ” เห็นได้ชัดเลยว่าสีหน้าของคุณเลขาดีขึ้นแต่เขาไม่ทักหรอกแต่ใบหน้าที่ฟกช้ำนั้นก็ดูตลกมากกว่าจะดูน่าสงสารวินตราเท้าคางปิดปากเสไปมองทางอื่น“อยากจะหัวเราะเยาะฉันก็หัวเราะออกมาเถอะ” วินตราหันหน้ามามองไม่พูดอะไรแต่สายตาดูเหมือนจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาเล็กน้อยไม่รู้สิเพราะทำงานด้วยกันมานานและอีกฝ่ายก็เป็นคนเก่งจริงๆที่เขาให้การยอมรับจากใจและก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอ่อนข้อให้คนตรงหน้าตั้งเมื่อไหร่ไม่รู้เมื่อไหร่อีกเหมือนกันว่าที่เขาคอยจับสังเกตสีหน้าและแววตาของคุณเลขาอยากจะรู้จักให้มากขึ้น…อาจจะเป็นผลดีในเรื่องงานน่ะนะฝีปากยกยิ้มน้อยๆ “ทำไมถึงมาทานที่นี่ล่ะครับ”“กินก่อนแล้วฉันจะบอก” ท่านประธานยักคิ้วกวนๆให้สองสามทีวินตราถอนหายใจกับสีหน้าแพรวพราวของท่านประธานที่เหมือนหลอกเด็กน้อยได้แต่ก็ช่างเถอะ…วันนี้เขาเหนื่อยล้าจะยอม

    Last Updated : 2025-02-21
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 38

    วินตราที่เมื่อก่อนในตอนพักเที่ยง หรือตอนที่ท่านประธานคุยกับคู่ค้าเพียงลำพัง เขาและเลขาของอีกบริษัทต่างก็หาที่หลบมุม บ้างก็นั่งคุยกันอยู่ใกล้ ๆ แต่พักหลัง ๆ วินตราที่นาน ๆ ครั้งจะสูบบุหรี่ที ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเขาอัดนิโคตินเข้าปอดแทบจะทุก 3 ชั่วโมงที่มีโอกาสเลยก็ว่าได้ แม้จะเลือกยี่ห้อที่ไม่ฉุน รวมไปถึงน้ำหอมและน้ำยาดับกลิ่นปากแล้ว เดนีสก็ยังได้กลิ่นควันบุหรี่ตามเนื้อตามตัวของคุณเลขา เขาย่นคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจ คุณเลขาพักหลัง ๆ ทำตัวแปลก ๆ สายตาล่อกแล่กเหมือนระแวงบางสิ่ง บางสิ่งที่เดนีสเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไรถ้าอีกฝ่ายไม่คิดปริปากบอกกันเขาก็หาทางช่วยไม่ได้หรืออีกฝ่ายอาจคิดว่าเขาไม่น่าจะช่วยอะไรได้? วินตราเป็นคนทำงานเก่งไม่ใช่คนขี้เม้าแล้วไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องใครง่ายๆไม่น่าจะเป็นคนในที่ทำงานเดนีสวิเคราะห์เชี่ย! หรือว่าจะเป็นแฟนเก่าเมื่อกลับจากพบปะลูกค้าตามตารางงานเดนีสก็อดที่จะถามคุณเลขาข้างกายไม่ได้สงบปากสงบคำผิดปกติมาสองสามวันแล้วปกติถ้าไม่ด่าต้องใช้สายตานิ่งๆดุๆนั้นปราบเขาบ้างนี่อะไรไม่หือไม่อือกับพฤติกรรมของเขาเลยสักนิดยอมไม่ได้!“นายทำตัวลับๆล่อๆทำไมมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ”

    Last Updated : 2025-02-21
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 39

    “ซี้ด” วินตราจิกเล็บจนต้นคออีกฝ่ายเลือดซิบ คนร้ายหัวเราะในคอเบา ๆ “ชอบรุนแรงก็ไม่บอก”​ สองมือพยายามแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างรีบเร่งบ้างก็รีบปลดเข็มขัดจนมีจังหวะให้วินตราตีเข่าจังๆตรงกลางลำตัววินตราล็อกคอตีเข่าจนร่างกายอีกฝ่ายกระเด็นกระดอนกระอักเลือดออกมา“แม่มึงกล้าแตะต้องกู” ก่อนจะตะโกนร้องสุดเสียง“ช่วยด้วยช่วยด้วย” เดนีสที่หัวเสียเมื่อไม่เห็นคุณเลขาที่รถพลันได้ยินเสียงร้องจากมุมหนึ่งของตึกสองเท้ารีบสับตีนแตกไปยังที่มาของเสียงพร้อมร้องเรียกรปภ.ไปด้วย “เชี่ย”​ เดนีสรีบวิ่งสุดฝีเท้าก่อนจะเห็นคนร้ายที่กำลังตะเกียกตะกายจากพื้นขึ้นมาจิกผมวินตราจากทางข้างหลังก่อนจะพลิกตัวคุณเลขามาชกที่ท้องแรงๆหลายครั้งวินตราที่เพลี่ยงพล้ำล้มไปกองที่พื้นกำลังจะถูกคนร้ายกระทืบซ้ำเดนีสที่ตกใจกับภาพเบื้องหน้าที่เห็นถลากระโดดถีบจนอีกฝ่ายปลิวไปชนรถคันที่จอดอยู่เสียงสัญญาณกันขโมยดังขึ้นพร้อมกับรปภ.ของห้างที่กรูกันเข้ามาหมวกแก๊ปสีดำตกลงพื้นเดนีสจึงตามไปสาวหมัดใส่ไม่ยั้ง“ไอ้ห่ามึงตายมึงตายเชี่ย” เดนีสสาวหมัดใส่อีกฝ่ายจนสันกระดูกมือมีแผลแตกเลือดซิบไม่รู้เลือดของใครเป็นของใครเขาชกจนคนร้ายคอพับไปแล้วเลยปล่อยร่างที่

    Last Updated : 2025-02-21
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 40

    “ฉันเป็นห่วงเกิดพวกมันกลับมาทำร้ายนายอีกจะทำยังไงฉันไม่ทำอะไรนายหรอกน่าอีกอย่างนายก็ไม่ใช่สเปก” หลุบตามองฝ่ามือที่กุมกันอยู่อย่างนั้นปากพูดไปงั้นแต่ใบหูกลับแดงระเรื่อ “อ้อ” วินตราขานรับโลกที่มืดมนของเขาเปิดแง้มให้คนตรงหน้าทีละน้อยโดยที่ไม่รู้ตัวเหมือนกันตอนที่เขาหันหลังจะวิ่งหนีความจริงเขาอย่างจะตะโกนเรียกชื่ออีกฝ่ายดังๆแต่ทำได้เพียงร้องเรียกอย่างอื่น ท่านประธานเฮงซวยและไม่เอาไหนในตอนแรกอาจเป็นคนเดียวกับที่วินตราเรียกร้องขอความช่วยเหลือแต่อีกใจหนึ่งเขาก็อยากให้ความลับอันโสมมนี้มันตายไปกับตัวเองการบอกเล่าเรื่องราวที่ประสบพบเจอมาใช่ว่าจะเป็นการระบายของเสียภายในจิตใจเสียอย่างเดียวซะเมื่อไหร่ไม่แน่ว่าอาจเป็นการเปิดแผลใจให้อีกฝ่ายไว้ใช้เพื่อทิ่มแทงตัวเขาเองอีกครั้งในวันหน้าวินตราหวาดกลัวและอยากจะลืมมลทินพวกนั้นไปให้สิ้นแต่ภายในหัวสมองเหมือนไม่ยอม แม้อยากจะลืมให้สิ้นแต่กลับจดจำได้ทุกสิ่งและเป็นสิ่งที่ทำให้เขาถามคำถามย้ำๆกับตัวเองเขาเกิดมาเพื่ออะไร? บางครั้งความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแต่การอยู่ด้วยความหวาดกลัวและระแวงอย่างนี้มากกว่าที่น่ากลัวมากกว่าความตายกลิ่นตัวที่คลื่นเหียนกลิ่นเหล้

    Last Updated : 2025-02-21

Latest chapter

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 80

    “ถอยไปเลยไป” “ด่าฉันด้วยสายตาอีกแล้ว” วินตรารีบคลุมสาบเสื้อชุดคลุมของตัวเองรัดสายคาดเอวอย่างแน่นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นเคืองในกระจกเดนีสก็หอมกระหม่อมคุณเขาซ้ำๆอยู่นั่นไม่สนใจสายตาที่อยากจะสับเขาเป็นชิ้นๆของคุณเลขาในกระจกสักนิดวินตราหวานไปทั้งตัวเหมือนช็อกโกแลตที่ข้างนอกแข็งขึ้นเป็นรูปต่างๆได้แต่พอวางอยู่ในอุ้งมือหรือในโพรงปากก็ละลายออกมาหวานละมุนกลิ่นโกโก้ชั้นดีตีขึ้นในโพรงจมูกจนอยากจะอมไว้ในปากทั้งวันไม่อยากให้ใครได้เห็นได้กลิ่นวินตราเป็นของเขาของเขาคนเดียวเท่านั้นสภาพท่านประธานในตอนนี้เหมือนอยากจะอมหัวเขาเหมือนหมาโกลเด้นที่ออดอ้อนออเซาะเจ้าของไม่รู้จักเบื่อนี่นะเหรอ…ข้าวใหม่ปลามันที่หลายคนพูดถึงแต่วินตราก็ยังเป็นวินตราคนเดิมเขาเป็นคนแสดงออกไม่เก่งแต่ก็ไม่ได้รังเกียจสัมผัสของอีกฝ่ายคนในกระจกเป็นคนแรกและคนเดียวที่วินตราค่อยๆแง้มประตูที่ปิดตายเอาไว้ให้รู้จักตัวตนที่แท้จริงความไม่สมประดีของตัวเองแผลใจไหนจะขยะที่ซุกซ่อนไว้ในใจรวมไปถึงในห้องคอนโดของตัวเองผู้ชายคนนี้ได้รับความรักความอบอุ่นจากครอบครัวจนมันแผ่มาถึงคนนอกอย่างเขาได้ง่ายๆวินตราคิดว่าการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้แย่เพราะเขากลัวว่า

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 79

    “รเร็วกว่านี้” เดนีสยันแขนแต่เอวก็เคลื่อนไหวเนิบช้าแต่ออกสุดตอกจนสุดเช่นกันวินตราแหงนหน้าเมื่อส่วนล่างถูกบดขยี้บี้ซ้ำๆจนสุดโคนจนรู้สึกถึงเส้นขนหยาบแข็งๆกระทบแก้มก้น“เรียกที่รักก่อนสิ” เดนีสซุกที่ซอกคอวินตราพร้อมกับขมเม้มเบาๆก่อนจะงับติ่งหูขาวนั้นดูดดึงจนวินตราครางไม่เป็นภาษาจะหนีไปไหนก็ไม่ได้เดนีสยกยิ้มมุมปาก ‘ติ่งหู’ เป็นอีกจุดที่ไวต่อสัมผัสของคุณเลขาคนสวยวินตราเม้มปากแน่นจนเอื้อมมือไปกำผมของไอ้ประธานเฮงซวยที่ทำตัวขบถแม้กระทั่งจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มอย่างนี้“อึก” เดนีสหัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงกระชาก“แม่งนี่นายเล่นกระชากหัวผัวตัวเองเลยเหรอฉันก็ปรนเปรออยู่นี่ไงที่รัก…อย่าใจร้อน” แถมยังแลบเลียริมฝีปากอย่างมาดร้ายเขาสะบัดหัวจากการกอบกุมจัดท่าขาสองข้างพาดบ่าวินตราตอนนี้ตัวจะม้วนกลับหลังอยู่แล้ว “เอาล่ะทำใจดีๆฉันจะแทงไปจนถึงแกนโลกเลยล่ะ” “อะไอ้!” เดนีสเหมือนนั่งยองแทงซ้ำๆดั่งปากว่าจุดกระสันถูกแทงซ้ำๆอย่างนั้นวินตรากัดปากตัวเองอย่างแรงความเสียวตีรื้นขึ้นมาอีกระลอก “มะไม่ไหว” วินตราส่ายหน้าสะบัดไปมาจนผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมดจังหวะที่เร็วและแรงขึ้นส่งทั้งตัวเองและวินตราไปถึงฝั่งฝันอย่างรวดเร็

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 78

    หรือไม่…อาจไม่เคยเดินสวนทางกันด้วยซ้ำไปเมื่อเห็นวินตราไม่ตอบเดนีสเลยพูดต่ออีกอย่างเขาไม่เชื่อคำสัญญาของวินตราสักเท่าไหร่คุณเลขาของเขาน่ะใจร้ายได้เสมอ“สัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างกันไปจนกว่าจะแก่เฒ่า”“นายเอาจริง?” วินตราถามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเชื่อถืออีกฝ่ายสักเท่าไหร่ตลอดกาลมีจริงๆเหรอแต่ตอนนี้ไม่มีเวลาให้คิดมากนัก “อือฉันเอาจริงและจริงจังถ้านายกล้าทิ้งฉัน…ฉันจะออกตามหานายสุดล่าฟ้าเขียวจะทิ้งทุกสิ่งไปตามหานายไหนๆฉันก็เป็นคุณชายหัวขบถอยู่แล้ว” วินตราดึงแก้มเขาอย่างแรง“ท่านประธานเอาแต่ใจเกินไปแล้ว”“แล้วรักหรือเปล่าล่ะ” วินตราไม่ตอบได้แต่จ้องมองไปยังนัยน์ตานั้นมองภาพใบหน้าตัวเองที่ฉายชัดอยู่ในนัยน์ตาสองคู่นี้“ต้องคิดด้วยเหรอ” เดนีสเย้าแหย่ วินตรายกหัวจุมพิตข้างริมฝีปากนั้นเบาๆก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “ฉันไม่รู้ว่าความรักเป็นยังไงแต่…กับนายมันพิเศษกว่าคนอื่นและสองมือนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดมันทั้งอบอุ่นและปลอดภัยอ้อมอกนี้ก็เช่นกัน” เดนีสมองวินตราอึ้งๆก่อนจะยิ้มโค้งจนตาหยี“นายรักฉันแหละฉันดูออกมาตั้งนานแล้ว” ริมฝีปากประกบกันอีกครั้งครั้งนี้วินตราโอนอ่อนผ่อนตามเปิดเปลือยให้อีกฝ่ายได้ชักนำแ

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 77

    “ฉันปวดไหล่” “นายจ่ายไหวเหรอฉันคิดค่าบริการแพงนะ”“จะเท่าไหร่กันเชียวอย่าลืมฉันถือแบล็กการ์ด”“ฮ่าๆ” เดนีสหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมจุมพิตที่แผ่นหลังขาวเนียนนั้นหนึ่งทีเบาๆ “แสบจริงๆใครไม่รู้คงคิดว่านายเป็นเมียฉัน” “ฝันไปเถอะ” “ใจร้าย”​ นิ้วมือลงน้ำหนักนวดโดยผ่อนแรงลากขึ้นลงเดนีสชอบนวดสปาน้ำมันเขาจึงรู้วิธีการนวดมาบ้าง วินตรานอนใบหน้าข้างหนึ่งแนบที่ท่อนแขนจ้องมองเงาในกระจกที่คุณชายหัวขบถตั้งใจนวดแผ่นหลังให้เขาอย่างมุ่งมั่นวินตรายกยิ้มที่มุมปากบางครั้งท่านประธานของเขาก็ซื่อบื้อของแท้…“สบายหรือเปล่า”​“อือ” “ฉันจะบอกให้ไม่มีใครกล้าใช้ฉันนอกจากนาย…วินตราเพราะฉะนั้นเป็นแฟนฉันได้แล้ว”​“ไม่”“นี่ฉันจริงจังนะ”“ไม่” เดนีสพลิกร่างวินตราให้นอนหงายโดยที่เขาคร่อมทับเค้นเอาคำตอบอย่างเอาเป็นเอาตายหัวคิ้วขมวดจนเป็นปม“ทำไมเป็นแฟนฉันไม่ดีตรงไหน”“ทุกตรง” “หา…อย่างฉันเนี่ยนะไม่ดีฉันดีมากเลยขอบอก” โอ้อวดตัวเองเก่งเป็นที่หนึ่ง“แล้ว” เดนีสก้มหน้าต่ำกระซิบเสียงแหบต่ำข้างหูคุณเลขา“ฉันก็รักนายอย่างสุดหัวใจ” พร้อมจุมพิตไหล่เปลือยเปล่านั้นแผ่วเบา เดนีสพยายามจ้องหน้าคุณเลขาไม่หลุบตามองต่ำไปมากกว่าน

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 76

    “นี่ลองชิมดูเป็นไวน์ตัวใหม่ของ ONLY U แอลฯเพียง 6% น้องชายฉันคิดค้นและปรับปรุงมาตลอดจนได้ไวน์รสชาตินี้ออกมาดื่มง่ายลองสิ” วินตรารับไวน์มาจิบอย่างว่าง่ายตอนนี้เขาไม่ได้กินยารักษาสภาพจิตใจแล้วพร้อมกับเข้าตรวจร่างกายชุดใหญ่ตามคำสั่งของท่านประธานวินตราเป็น (New Male) ที่สามารถตั้งครรภ์ได้ก็จริงแต่เพราะปัญหาทางใจที่รุมเร้ามาตลอดเขาเลยมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนเรียกได้ว่าฮอร์โมนทำงานได้ไม่เต็มที่มดลูกเลยไม่สามารถพัฒนาได้เต็มที่เหมือนคนเป็นหมันแต่ในอนาคตก็ไม่แน่เรื่องราวภายในของคนเรานั้นซับซ้อนวินตราและเดนีสต่างก็นั่งฟังหมออธิบายรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างเดนีสเองก็เข้าตรวจสุขภาพร่างกายประจำปีด้วยเช่นกัน แม้จะมีแอลกอฮอล์ผสมเพียง 6% แต่ดื่มเองไปเกือบขวดวินตราเองก็มึนๆเหมือนกันนานเท่าไหร่แล้วที่เขาทำตัวอยู่ในกรอบไม่ได้ปล่อยตัวปล่อยใจให้แตะต้องของพวกนี้อีกทั้งยังกินยาต่อเนื่องมาหลายปีทำให้ไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พวกนี้ได้บางครั้งชีวิตคนเราก็ต้องการรสชาติที่หลากหลายการพบเจอผู้คนเดิมๆงานเดิมๆก็ทำให้ชีวิตซ้ำซากจำเจอยู่เหมือนกัน โลกของเขาที่คับแคบก็เริ่มเปิดกว้างขึ้นมาเมื่อได้เจอกับเดนีสเด

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 75

    “นายโกหก” น้ำเสียงแผ่วเบาจนสัมผัสถึงของเหลวอุ่นๆที่หยดตรงลาดไหล่ของตัวเองเพราะเดนีสรู้จักวินตราเกินไปต่างหากหากเขายอมปล่อยมือตอนนี้อีกฝ่ายคงหลุดลอยไปไกลอาจไกลเสียจนเขาไม่มีทางตามอีกฝ่ายพบวินตรายังคงเป็นวินตราที่เข้มแข็งโดดเดี่ยวจนถึงขั้นใจดำที่จะหันหลังให้เขาอย่างเลือดเย็นแต่ทว่าเดนีสเองไม่สามารถปล่อยวินตราไปได้ แล้วเขาก็เป็นลูกคนรวยหัวกรวยหัวขบถที่อยากได้อะไรต้องได้ยังไงต้องมีคุณเลขามือทองคนนี้คอยกำราบ! สองแขนของวินตรายกโอบกอดกลับไปเช่นกัน ต่างคนต่างร้องไห้เงียบ ๆ ลูบหลังปลอบประโลมกันอยู่อย่างนั้น“ไปกับฉันที่หนึ่งสิ” เดนีสพูดพลางสูดจมูกไปด้วยเขาไม่อายเลยสักนิดที่จะร้องไห้ออดอ้อนต่อหน้าวินตราวินตราไม่ตอบแต่พยักหน้าเป็นอันว่าตกลงเดนีสยกยิ้มมาดร้ายที่มุมปากคิดจะหนีไปจากเขางั้นเหรอ…ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกวินตรา!เดนีนสบถอย่างหัวเสียเมื่อคุณนิติพลรายงานเรื่องประธานตัวจริงที่ยังมีชีวิตอยู่ขอลาต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ตอนนี้ที่บริษัทก็ผ่านช่วงวิกฤตมาได้พร้อมกับกำจัดเห็บไรไปได้หลายตัวแถมยังดำเนินการภายใต้แฝดน้องอย่างเดนีนที่แสร้งตีหน้าขรึมเป็นเดนีสแฝดพี่เพราะความเป็นแฝดที่เหมือนกันจนแทบจะโคลนกัน

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 74

    “ผมว่าจะขอลาออกครับ” ท่านเจ้าสัวเอนพนักพิงเก้าอี้จ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ก้มหน้าเอ่ยบอกความต้องการ“แล้วเดนีสล่ะ” วินตราเม้มปากแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป “วินตราฉันเห็นเธอเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่งอดีตก็คืออดีตฉันยอมรับที่ความสามารถของเธอมากกว่าเรื่องอื่นเป็นรอง” “ผมทราบครับ”​“วันไหนที่เธอเปลี่ยนใจกลับมาที่นี่ได้เสมอ” “ครับ” วินตรายกมือไหว้ท่านเจ้าสัวอย่างนอบน้อมตั้งแต่เกิดเรื่องเขาก็เก็บตัวอยู่ที่บ้านท่านเจ้าสัวตลอดตอนนี้เหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายแล้วเขาเองก็ควรจะมีชีวิตของตัวเองสักที ตอนนั้นที่เขาหนีกบดานเอาชีวิตรอดจากสาสินก็นึกถึงท่านเจ้าสัวเป็นคนแรกตอนแรกก็กล้าๆกลัวเพราะหลักฐานที่มีนอกจากจะไม่สามารถรักษาชีวิตตัวเองได้แล้วหลักฐานพวกนี้อาจจะเป็นเถ้าถ่านในกองไฟก็เป็นได้แต่แล้ววินตราก็ไม่ผิดหวังนึกถึงคำถามนั้นที่ท่านเจ้าสัวได้ให้ไว้กับตัวเอง“ฉันรู้ว่าเธอเองก็ลำบากใจแต่วันไหนที่เธอเข้มแข็งและสามารถหยัดยืนเผชิญหน้ากับเรื่องพวกนี้ได้เมื่อไหร่ขอเพียงเธอเอ่ยปากฉันจะช่วยเธออย่างสุดความสามารถ” ตอนนั้นวินตรายังคิดไม่ตกอย่างที่เคยบอกเหตุการณ์เหล่านั้นกัดกินใจเขาจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคนวินตราเด็

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 73

    การออกมาปรากฏตัวและให้สัมภาษณ์สื่อของวินตราในฐานะเหยื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคมอย่างมหาศาลเด็กทุนที่ลังเลที่เคยตกเป็นเหยื่อไม่กล้าเปิดเผยตัวและผู้คนที่ถูกคุกคามทางเพศไม่ว่าจะเป็นบ้านที่ทำงานสถานศึกษาต่างก็ตบเท้าเข้ามาให้ปากคำอย่างไม่ขาดสาย ต่างก็แชร์เรื่องราวของตัวเองผ่านโลกออนไลน์สร้างความตื่นตัวและตระหนักรู้ในสังคมเป็นอย่างมากอย่าอายจนลืมที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหนก็ไม่มีใครควรถูกคุกคามทางเพศ!วินตรายืนอยู่ตรงหน้าช่องบรรจุอัฐของวัดแห่งหนึ่งย่านปริมณฑลก่อนตายจินตะได้พูดว่าอยากจะบวชสักครั้งก่อนตายแต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างใจนึกวินตราจึงตัดสินใจควักเงินเก็บตัวเองก้อนใหญ่ออกมาซื้อสถานที่จัดเก็บอิฐเอาไว้ตามปรารถนาสุดท้ายของจินตะตอนนั้นวินตราเป็นเพียงนักศึกษาปริญญาตรีปีหนึ่งคนหนึ่งไม่รู้เลยว่าในโลกนี้มีการจัดเก็บอัฐิไว้ 4 รูปแบบด้วยกันคือ1.) ช่องจัดเก็บอิฐตามกำแพงวัด2.) จัดเก็บตามเสาไฟของวัด3.) จัดเก็บตามอาคารศาลาหรือกุฏิซึ่งจะเตรียมช่องจัดเก็บอัฐิไว้บนขื่อหรือหน้าประตูตามความเหมาะสมของสถานที่4.) ห้องไว้สำหรับจัดเก็บอัฐิโดยเฉพาะซึ่งสถานที่จะเป็นที่จัดเก

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 72

    ก้องการุณย์ลั่นไกโดยที่ไม่ต้องคิดเมื่อเจนจัดหันปลายกระบอกปืนมายังผู้บริสุทธิ์ที่ด้านล่างแม้จะเล็งที่ข้อมือข้างที่ถือปืนแต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจนจัดจะถนัดยิงปืนทั้งสองข้างอีกฝ่ายตะเกียกตะกายพลิกร่างกายอย่างรวดเร็วจ่อปากกระบอกปืนที่ขมับของตัวเองคนอย่างเจนจัดไม่มีทางจนตรอกหากจะตายก็ต้องตายด้วยน้ำมือตัวเองเท่านั้น…ปัง! แต่ทว่าสวรรค์คงมีตาไม่อยากให้คนชั่วได้ตายง่ายๆแม้ว่าจะเล็งที่ขมับของตัวเองแต่ก็พลาดเฉียดไปเท่านั้นงานนี้เจนจัดได้นอนทรมานติดเตียงยาวนานพอที่จะลิ้มรสความทุกข์และบาปกรรมที่ได้ทำลงไปอย่างเต็มที่แม้อยากจะตายก็ตายไม่ได้อยู่ฟังเสียงผู้คนก่นด่าสาปแช่งและประณามจนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง ศิราณีเองก็ร่ำไห้ปานจะขาดใจเธอไม่ได้ร้องไห้ให้กับไอ้สามีเฮงซวยนั้นแต่ร้องไห้ให้กับความขี้ขลาดของตัวเองหากเธอกล้ายืนหยัดและเชื่อในคำพูดของลูกชายตั้งแต่เนิ่นๆเรื่องราวคงไม่บานปลายจนมาถึงขั้นนี้ไอ้เจนจัดทำลูกคนอื่นไม่พอยังทำลูกตัวเองด้วยสารเลว! แม้จะไม่ใช่การล่วงละเมิดทางเพศแต่การลูบคลำก็ทำให้ลูกชายและลูกสาวมีแผลใจและรังเกียจพ่อตัวเองหมามันยังไม่คิดอกุศลกับลูกตัวเองศิราณีปิดหน้าร่ำไห้กับพื้นอย่าง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status