Share

เพียงชั่ววูบ 28

Author: DILEMMA 28
last update Last Updated: 2025-02-18 12:53:50

“ภาพลักษณ์คุณต่อองค์กรนอกจากมันไม่ดูภูมิฐานเหมือนได้ตำแหน่งมาเพราะเป็นลูกท่านเจ้าสัวอีกทั้งคุณไม่ได้วางตัวเป็น Leader ที่ดีแต่คุณใช้อำนาจกดให้พวกเขากลัวไม่มีลูกจ้างที่ไหนจะชอบนายจ้างแบบนี้แต่เพราะปากท้องเขาจึงต้องยอมทนกลับกันถ้าคุณเป็นนายจ้างที่ใส่ใจรายละเอียดของลูกน้องบางทีเพียงเอ่ยปากถามไถ่สภาพความเป็นอยู่เพียงไม่กี่ประโยคมันก็สื่อให้เห็นว่าพวกเขาคือครอบครัวกำลังใจในการทำงานสำคัญอย่างคุณปรียานุชเองที่เขามาทำงานเช้าทุกวันคุณรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไร” เดนีสส่ายหน้า

“เพราะเขามีลูกในวัยอนุบาลหากคุณถามไถ่ถึงลูกเขาสักสองสามคำเชื่อไหมบรรยากาศในการทำงานระหว่างคุณกับเลขาหน้าห้องจะดีกว่านี้มากการเป็นเจ้านายที่ดีต้องใช้พระเดชและพระคุณในการปกครองคน”

“แล้วตอนนี้มีคนที่คุณพอจะใช้งานหรือฝากผีฝากไข้ในบริษัทได้สักกี่คนบอร์ดบริหารถึงได้สับคุณเละทุกครั้งที่เข้าประชุมในสายตาพวกเขาคุณค้านสายตาและไม่เหมาะกับตำแหน่งประธานที่ท่านเจ้าสัวฝากไว้ในสองมือของคุณเลยสักนิด” วินตราเอ่ยเสียงเรียบแต่ละคำแต่ละประโยคไม่ได้เจือด้วยความขุ่นเคืองเหมือนรุ่นพี่หรือพี่ชายที่สั่งสอนน้องชายเสียมากกว่าเดนีสสะอึกพูดไม่ออกสักคำที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยรู้สึกรู้สาที่บอร์ดบริหารสับเขาและอยากจะกวนใจพวกนั้นให้ขุ่นเคืองเสมอเดนีสคิดว่าเขาเป็นลูกชายของท่านเจ้าสัวยังไงเขาต้องได้รับการยอมรับอยู่แล้วไม่ว่าฝ่ายไหนจะค้านอะไรก็ตามเพราะเขามีศักดิ์ตามสายเลือดแต่การบริหารบริษัทขนาดใหญ่ไม่ใช่การเล่นขายของ

“เป็นเจ้านายไม่ใช่ว่าจะไม่สนใจสีหน้าและแววตาของลูกน้องแต่ละคำแต่ละประโยคจะพูดอะไรจะทำอะไรต้องคิดและไตร่ตรองให้ดีเพราะคุณเป็นคนที่มีอำนาจในมือ” เดนีสเท้าศอกกับโต๊ะกุมหน้าตัวเองก่อนจะเปลี่ยนไปขยุ้มผมด้วยความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

“นายรู้ไหมตอนฉันเป็นเด็กตามก้นพ่อตัวเองไปดูงานผู้คนต่างเรียกพ่อฉันว่า ‘ท่านประธาน’ มันดูขลังมากแววตาพวกเขามีความยินดีเป็นล้นพ้นเวลาเจอหน้าพ่อฉันบ้างก็เดินมาจับมือตอนนั้นฉันเห็นแผ่นหลังของพ่อเห็นเงาของพ่อที่ทาบทับมายังที่ฉันยืนอยู่บางทีฉันอาจจะเป็นลูกของพ่อตลอดไปเป็นลูกที่ยืนอยู่ใต้เงาพ่อของตัวเองตลอดไป” วินตราส่ายหน้า

“ไม่หรอกประสบการณ์ของคุณกับท่านเจ้าสัวต่างกันมากอย่าลืม…คุณก้าวเข้าสู่ผู้บริหารเป็นนักธุรกิจได้เพียงปีครึ่งบารมีสู้ท่านเจ้าสัวไม่ได้อยู่แล้วอีกอย่างที่คนให้การยอมรับท่านเจ้าสัวนั่นก็คือ…ความสามารถที่แท้จริงเหมือนฮ่องเต้ที่ชิงบังลังก์น่ะง่ายแต่การจะปกครองคนบริหารงานน่ะยากอำนาจบารมีนอกจากจะให้คนหวาดกลัวแล้วยังบีบให้คนต้องก้มหัวให้แม้ในใจจะไม่ยินยอมแต่ถ้าอำนาจบารมีที่มาพร้อมกับความสามารถที่แท้จริงล่ะผู้คนจะก้มหัวและยอมรับคุณจากใจจริงโดยไม่สนว่าคุณจะเป็นลูกเต้าเหล่าใครอายุเท่าไหร่มันขึ้นกับผลงานที่ทำว่าจะทำให้คนอื่นยอมรับในตัวคุณมากน้อยแค่ไหนอีกอย่างเรื่องนี้เรื่องใหญ่คุณปิดท่านเจ้าสัวไม่ได้หรอกบอร์ดบริหารเองก็เช่นกันแต่ในทางตรงกันข้ามก็เป็นคุณเองที่จะต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสอีกครั้ง”

ใบหน้าเดนีสเต็มไปด้วยความทึ่งระคนแปลกใจเหมือนดินแห้งแล้งที่แตกละเอียดได้หยดฝนโปรยปรายลงมาอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือคุณเลขาแต่วินตราไวกว่าชักมือกลับทันที

“วินตราขอโทษฉันดีใจจนลืมตัวไปหน่อยแฮะๆ” พร้อมกับยกนิ้วโป้งสองนิ้วให้หน้าระรื่น

“นายมีแผนการรับมืออะไรดีๆแล้วใช่ไหม” เดนีสเลียบเคียงถามแต่วินตราไม่ยอมให้ท่านประธานได้ใจหรอกตีเหล็กต้องตีตอนร้อนๆท่านประธานจะต้องโดนสั่งสอนให้รู้สำนึกเสียก่อนจะได้หลาบจำ

“ยังหรอกครับ”

“อ้าว” เมื่อเห็นสายตาคุณเลขาที่มองมาเดนีสก็ได้แต่ยิ้มแห้งไม่พูดอะไรอีกก้มหน้าก้มตาอ่านรายละเอียดของวัสดุวัตถุดิบรวมไปถึงกระบวนการผลิตต่างๆเพื่อเตรียมตัวเจรจาในตอนบ่าย

ตอนบ่ายที่บริษัทของกิตติกรในห้องประชุมเล็กของเขามีผู้คนกลุ่มเล็กกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดการประชุมในวันนี้ไม่เป็นทางการเป็นการประชุมเพื่อแก้วิกฤตของแต่ละฝั่งเสียมากกว่าอีกทั้งกิตติกรเองยังเป็นตัวกลางจึงนั่งฟังอยู่ที่หัวโต๊ะด้วย

“เอาเป็นว่าตกลงตามนี้” ก้องกิจสรุปตัดบทก้องกิจทำธุรกิจเรื่องบรรจุภัณฑ์เหมือนกันแต่ว่าเขากำลังจะปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่จึงต้องการจะระบายวัตถุดิบที่กักตุนไว้อยู่พอดีเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์แถมยังต้องใช้เงินเพื่อบำรุงและรักษาอีก

เดนีสยิ้มแห้งการเจรจาต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลักแต่ครั้งนี้มัน…

“ถ้าไม่คิดว่าไม่คุ้มก็กลับไปคิดดูก่อนได้” ก้องกิจเอ่ยยิ้มๆ

“แต่ถ้าเลขาของคุณไปทานมื้อค่ำกับผมข้อเสนอที่ทางคุณเสนอมาก่อนหน้าผมจะรับเอาไว้ทันทีตกลงไหม” เดนีสที่กำลังจะอ้าปากฉะวินตราก็เหยียบเท้าเขาอย่างแรงเดนีสตีหน้านิ่งแต่โกรธจนหน้าดำหน้าแดงปั้นยิ้มแกนๆก่อนจะผายมือไปยังคุณเลขาที่นั่งอยู่ด้านข้าง

“ต้องถามความสมัครใจของคุณเลขาอีกอย่างวินตราเป็นเลขาส่วนตัวเป็นพนักงานของ SS GROUP อยู่ในความดูแลของบริษัททางเราไม่เห็นด้วยที่จะเจรจากันด้วยวิธีนี้” ก้องกิจป้องปากหัวเราะน้อยๆ

“แล้วเราล่ะคิดว่าไงวินตรา” วินตรายิ้มให้

“ยินดีครับ” เดนีสหันขวับมามองคุณเลขาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อแถมยังฉีกยิ้มให้ก้องกงก้องกิจที่เจอกันเป็นครั้งแรกด้วยทำงานกันมาจะเป็นปีไม่เคยฉีกยิ้มหวานแบบนี้ให้เขาเลยสักครั้งเดนีสลอบส่งสายตาถมึงทึงให้คุณเลขาก่อนจะปั้นหน้ายิ้มยื่นเอกสารไปอีกฟาก

“ถ้ายินยอมทั้งสองฝ่ายงั้นก็เซ็นสัญญากันเลยนะครับ” เมื่อเหลือกันอยู่สองคนที่มุมหนึ่งของตึกท่านประธานก็โวยลั่น

“นายตอบรับไปได้ยังไงถึงแม้จะเป็นวิธีการเดียวแต่ฉันก็ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวจะให้นายเอาตัวเข้าแลกหรอกนะวินตรา”

“นายโง่หรือเปล่าฮะ” เดนีสเดือดดาลอีกฝ่ายแม่งก็เจ้าเล่ห์จ้องมองคนของเขาไม่วางตาตั้งแต่ก้าวเข้าไปในห้องประชุมแล้วแม่ง! อยากจะควักลูกตานั้นทิ้งซะ

“แล้วคุณจะหัวร้อนไปทำไมครับ”

“ก็นายจะไปกินข้าวกับมันรู้หรือเปล่าว่าบางทีอาจไม่จบที่กินข้าวอย่างเดียว”

“รู้ครับ”

“รู้แล้วยังไปนายไม่ชอบให้ใครถูกเนื้อต้องตัวนี่” ประโยคหลังเสียงอ่อนลงเดนีสเองก็ไม่รู้ตัว

“ก็เพราะใครล่ะครับ”

“วินตราฟังนะ” มือที่พยายามจะเกากุมไหล่ค้างที่กลางอากาศก่อนจะปล่อยทิ้งแนบลำตัวเหมือนเดิมเดนีสหลับตาก่อนจะลืมตาขึ้นมาเอ่ยช้าๆชัดๆ

“ฉันไม่อนุญาต”

“ไม่ไปคงไม่ได้” เดนีสเบิกตากว้างอ้าปากพะงาบๆอยากจะสบถหยาบๆใส่หน้าหลายๆคำแต่ทำได้เพียงกัดฟัน

“นี่นายจะขัดคำสั่งฉันงั้นเหรอ”

“ท่านประธานได้ฟังจนจบหรือเปล่าครับ”​ เดนีสเลิกคิ้ว

“ก็อาหารค่ำมื้อนี้ท่านชายกิตติกรเป็นเจ้ามืออีกอย่างผมกับคุณก้องกิจรู้จักกันมานานแล้วหลายปีท่านประธานเองก็ต้องไปด้วยมันเป็นธรรมเนียมที่ต้องเลี้ยงอยู่แล้วไม่ไปไม่ได้”

“ฉัน…”

กิตติกรที่เผอิญเดินผ่านมาพอดีกอดอกฟังอย่างตั้งใจแค่ได้ฟังก็เห็นได้ชัดว่าเพื่อนรักกำลังเสียอาการมากแค่ไหนอีกทั้งสีหน้าในห้องประชุมเมื่อกี้ก็ตลกเป็นบ้ากิตติกรกับก้องกิจรู้จักกันมานานเป็นคู่ค้าที่ทำการค้ามาร่วมกันหลายชั่วอายุคนเหมือนลูกพี่ลูกน้องกันเลยก็ว่าได้และที่ก้องกิจตอบรับความช่วยเหลือนั้นหนึ่งในเหตุผลก็คือวินตราเมื่อวานซืนเขาเองก็ได้รับสายจากคนที่ไม่คิดว่าจะติดต่อมาหากันง่ายๆก้องกิจคิดไว้แล้วว่าต่อให้อีกฝ่ายจะออกปากขอความช่วยเหลืออะไรเขาจะช่วยอย่างไม่ลังเล

และเขาเองก็หวังผลจากการช่วยเหลือครั้งนี้เช่นกันไม่แน่ว่าสายใยบางๆในกาลก่อนอาจจะก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาใหม่ก็เป็นได้

Related chapters

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 29

    อาหารค่ำในภัตตาคารห้าดาวไม่ได้รับความสนใจจากกระเพาะของเดนีสมากนัก ก็คู่ตรงหน้าที่คุยกันกะหนุงกะหนิงทำเอารู้สึกหงุดหงิดเป็นบ้า เพิ่งรู้ว่าก้องกิจเป็นอดีตรุ่นพี่ที่มหา’ลัยของคุณเลขาหน้าตึง แต่พออยู่กับก้องกิจเหมือนเป็นคนละคน อีกฝ่ายดูผ่อนคลายเป็นตัวของตัวเอง แม้ทั้งสองจะไม่ได้นั่งตัดติดกันแต่เคมีนั้น…เรียกได้ว่าเข้ากันสุด ๆ กิตติกรแลหางตามองดูเพื่อนรักที่หั่นสเต๊กตรงหน้าอย่างแรง กัดปากกัดฟันขมุบขมิบจนอดที่จะถองศอกกระซิบกระซาบถามไม่ได้“ไม่ถูกปาก?”“อือ” “เป็นเอามาก”“อะไรไอ้กร”“อาการเหมือนของขาด”“พูดมาก” เดนีสยกไวน์แดงขึ้นมาจิบพอเห็นเครื่องดื่มข้างมือคุณเลขาก็หงุดหงิดขึ้นมาอีกเหตุการณ์ก่อนหน้าก่อนจะสั่งอาหาร“วินยังชอบDuc De Montaigne Non-Alcohol Sparking Wineอยู่หรือเปล่า” เป็นไวน์โรเซ่ (Rose) สีขาวของประเทศเบลเยียมส่วนก้องกิจชอบสีชมพูยี่ห้อเดียวกันกับที่วินตราชอบไวน์ขาวทานคู่กับเนื้อปลาส่วนไวน์แดงทานคู่กับเนื้อแดงถึงจะเข้ากันอีกอย่างวินตราไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้วก้องกิจเลยดื่มยี่ห้อนี้เป็นเพื่อนเขา“พอได้ครับ” “ทานคู่กับสเต๊กปลาพอดี”​“ขอบคุณครับ” ก้องกิจสั่งเสร็จก็ยิ้ม

    Last Updated : 2025-02-18
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 30

    จิตวิทยา ภาษากายสำคัญ และต้องปั้นหน้าให้เป็นปกติสุขที่สุดไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์แบบไหนก็ตาม อย่างเช่นในตอนนี้ที่เขาถูกกิตติกรลอบสำรวจและประเมินในใจคร่าว ๆ กิตติกรเป็นลูกพี่ลูกน้องของก้องกิจ วินตราเชื่อว่าอีกฝ่ายรู้จักเขาผ่านปากของก้องกิจมาไม่มากก็น้อยส่วนท่านประธานก็เอาแต่จ้องเขาไม่วางตาด้วยสายตาแปลกประหลาดส่วนก้องกิจไม่ต้องพูดถึงอีกฝ่ายมองเขาด้วยสายตาแบบไหนวินตรารู้ดีและเขาไม่ลืมที่จะขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์ให้เหมือนเดิมวินตราขออนุญาตลุกไปเข้าห้องน้ำเพราะว่านั่งอยู่ด้านในก้องกิจหลีกทางให้สักพักก็ลุกตามออกไปอีกทั้งร้านอาหารยังเป็นแบบกึ่งผับกึ่งบาร์ที่นั่งของพวกเขาสี่คนอยู่ในมุมไพรเวทสองคนนั้นคงจะหาที่ไปคุยกันแน่ๆ เดนีสวางส้อมในมือใส่จานดังเคร้งก่อนจะคว้าแก้วไวน์มาดื่มรวดเดียวจนหมด “เป็นห่าอะไร” “ก้องกิจแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ”“อือฮึ”“แม่งมองเลขากูไม่วางตา” เดนีสทำท่าทำทางประกอบกิตติกรกระตุกยิ้มที่มุมปาก“แล้ว?”“แม่งขัดลูกตากูชะมัดถ้าไม่เห็นแก่สัญญากูอยากจะล้มโต๊ะเสียให้รู้แล้วรู้รอด”“แล้วมึงฉุนเฉียวเพราะอะไรล่ะเพราะพี่ก้องหรือเพราะคุณเลขา” เดนีสมุมปากกระตุก“ไอ้กรกูแค่เป็นคนดีเกิดเม

    Last Updated : 2025-02-18
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 31

    “วินกลับเข้าไปก่อนเลยพี่ขออยู่ตรงนี้อีกสักพัก” “ครับ” วินตราเดินหันหลังเดินกลับไปอย่างไม่ลังเลใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อครู่กลับมาแข็งกร้าวพร้อมกับแผ่นหลังที่เหยียดตรงไม่หลงเหลือแววตาและสีหน้าที่อ่อนโยนเมื่อครู่เดนีสที่แอบฟังอยู่ตรงพุ่มไม้ยืนมองทั้งสองคุยกันแต่พอวินตราเดินออกไปเขาก็โล่งอกแต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเดินอ้อมมากอดอกยืนอยู่ข้างหลังเขาอย่างเงียบเชียบพร้อมเอ่ยถามเสียงเย็นยะเยือก“สนุกไหมครับแอบฟังคนอื่นเขาคุยกัน” เดนีสสะดุ้งโหยงแทบจะหน้าคะมำไปข้างหน้าใบหน้าจืดเจื่อน“ฉันเปล่าพอดีผ่านมาเฉยๆ” ท่านประธานทำหน้าไขสือแต่แววตาหลุกหลิกนั่นสิ…พิรุธสุดๆวินตราหรี่ตาจับผิดค่อยๆเดินเข้ามาประชิดทีละก้าวเดนีสฝ่ามือชื้นไปด้วยเหงื่อเหงื่อโง่ที่เขาว่าคงจะเป็นอาการแบบนี้น่ะแหละสายตาที่คุณเลขาจ้องเขานั้นเหมือนอยากจะฟาดฝ่ามือใส่เขาสักป๊าบยังไงยังงั้น“ฉันเผอิญเดินผ่านมาจริงๆไม่ได้ยินอะไรเลย”“ผมยังไม่ได้ถาม” “ฉันกลัวนายจะเข้าใจผิด” “อ้อ” “ผมแค่จะถามว่าท่านประธานจะกลับเลยหรือเปล่า” เสียงนี้เย็นยะเยือกเชียว “กลับเลยๆก็ได้” “ครับงั้นเชิญ” วินตราผายมือเดนีสเดินนำออกไปก่อนจะลูบหน้าอกตัวเองป้อยๆภายในหัวสม

    Last Updated : 2025-02-18
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 32

    ก้องกิจที่กลับบ้านมาก็เจอภรรยากำลังนั่งไขว่ห้างจิบไวน์อยู่ที่โซฟาแววตาที่จ้องมองมาไม่เป็นมิตรเขาเห็นแต่ไม่อยากจะทักและก็เป็นอย่างที่ก้องกิจคิดในใจเมื่อรูปถ่ายระหว่างเขากับวินตราปลิวว่อนอยู่ที่พื้นเป็นภาพถ่ายที่ยืนคุยกันสองต่อสองที่ดาดฟ้าเมื่อครู่‘สมกับเป็นเจ้าพ่อสื่อ’ “แล้ว?” ก้องกิจไม่ได้หยิบรูปพวกนั้นขึ้นมาดูแต่กลับถามด้วยเสียงเย็นไม่เหมือนกับตอนที่คุยกับวินตราสีหน้าและแววตาอ่อนโยนแบบนั้นดารากรไม่เคยได้รับมันมาก่อนอีกฝ่ายเป็นใครมีดีอะไรถึงได้รับสิ่งเหล่านี้จากสามีเขา“พี่ก้อง” ดารากรตวาดเสียงดังลั่นห้องรับแขกพลางวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะอย่างแรงลุกขึ้นเดินมาเผชิญหน้า “เรื่องหย่าฝันไปเถอะถ้ากรไม่สมหวังอย่าหวังว่าใครหน้าไหนจะสมหวังเลย”“อ้อ” “พี่ก้องตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาพี่เคยรักกรบ้างหรือเปล่า” ดารากรตวาดเริ่มฟูมฟายน้ำเสียงอ้อแอ้อีกฝ่ายตะเบ็งเสียงใส่เขาจนหน้าดำหน้าแดงก้องกิจและดารากรถูกเลี้ยงดูมาต่างกันการตะคอกก่นด่าแบบนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นในรั้วสลาลินและเกียรติคณาและเป็นสิ่งที่ก้องกิจเกลียดมากที่สุด“อย่าตะคอกใส่พี่” ก้องกิจเอ่ยเสียงเรียบพลางเบนสายตาไปที่อื่น “ทำไมกรผิดอะไรวินตราอะไร

    Last Updated : 2025-02-18
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 32

    วินตรามองกระจกหลังเป็นระยะด้วยความเคยชิน แล้วก็เห็นรถคันดังกล่าวขับตามมาตั้งแต่ตอนร้านอาหารจนถึงที่พักของเขา อีกอย่างเขาอยู่ในที่สว่างและวินตราก็เหนื่อยที่จะต้องหลบๆซ่อนและทำได้เพียงแค่หนีแบบนี้อีกต่อไปแล้วเขากำพวงมาลัยอย่างแน่นก่อนจะถอนหายใจออกมาช้าๆจอดรถแล้วรีบเดินขึ้นห้องของตัวเองไปอีกอย่างคอนโดที่นี่ก็หนึ่งในเครือของศศิภักดีความปลอดภัยแม้จะดีในระดับหนึ่งแต่หากพวกนั้นไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการก็ไม่มีทางเลิกราโดยเฉพาะไอ้ชั่วนั่น วินตราแตะบัตรเข้าห้องของตัวเองด้วยอารมณ์ดิ่งอีกครั้งแล้วเขาก็ไม่ชอบใจนักที่ตัวเองเป็นอย่างนี้ถุงขยะหลายถุงกองสุมกันอยู่ที่ทางเข้าประตูตอนนี้เขาเหนื่อยล้าจนไม่อยากจะทำอะไรวันเสาร์วันอาทิตย์ก็แทบไม่ได้พักดีที่ว่าเสื้อผ้าส่งซักไม่งั้นเขาคงใส่เสื้อผ้าซ้ำๆสภาพจิตใจที่บอบช้ำมาอย่างหนักไม่มีทางจะหายดีในเร็ววันข้อนั้นเขารู้ดีเพียงแต่…แค่อยากจะยิ้มให้กับเรื่องง่ายๆแต่เขากลับทำไม่ได้เวลาร่างกายตึงเครียดมากที่สุดกลับกลายเป็นว่าต่อมน้ำตาของเขาเหมือนถูกปิดตายไม่ยอมทำงานเสียดื้อๆร่างกายเครียดจนไม่สามารถร้องไห้เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจออกมาผ่านหยดน้ำตาได้อารมณ์ของเขามันดำดิ

    Last Updated : 2025-02-18
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 33

    วินตราที่ติดต่อเลขาพ่อเลี้ยงดนัย รู้ว่าช่วงนี้พ่อเลี้ยงมาดูแลสาขาอุดรธานีก็จองตั๋วเครื่องบินทันที “นายไปคนเดียวก็เพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอ” เดนีสถามเมื่อนั่งอยู่บนเครื่องบินหน้าตาบูดบึ้งเพราะเมื่อวานกว่าจะได้นอนปาไปค่อนคืนวันนี้ต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่วิ่งสับตีนแตกมาขึ้นเครื่องไฟลท์ตอนเจ็ดโมงครึ่งอีกเดนีสบ่นกระปอดกระแปดรองเท้าที่สวมใส่หากไม่ใช่หนังแท้อย่างดีป่านนี้คงสึกหรอไปหมดแล้วชีพจรลงเท้าแทบไม่ได้นั่งอยู่ติดที่วันนี้เองก็เช่นกันวินตราถอนหายใจ“เป็นการแสดงความขอโทษอย่างจริงใจยังไงล่ะครับท่านเจ้าสัวเองก็ให้ความสำคัญกับพ่อเลี้ยงขนาดไหนคุณคงจะทราบดี”“แล้ว?” วินตราหันหน้าไปมองด้วยสีหน้าเอือมระอาอีกฝ่ายน่าจะคุ้นชินการพบปะเข้าสังคมมากกว่าเขาและเข้าใจสังคมใส่หน้ากากพวกนี้ดีกว่าเด็กบ้านนอกอย่างเขาแต่ที่ไหนได้“ท่านประธานไม่เคยตามท่านเจ้าสัวไปออกงานเหรอครับ”“เคย…ทำไม? แต่ฉันไม่ชอบสังคมใส่หน้ากากจีบปากจีบคอเยินยอกันไปมาแบบนั้นหรอก” เดนีสไหวไหล่วินตราหางตากระตุก“การที่ท่านประธานไปครั้งนี้คือแสดงความจริงใจว่าคุณเป็นฝ่ายผิด”“เฮ้—” เดนีสที่อ้าปากจะแย้งหุบปากฉับ“สามร้อยล้านถ้าไม่เสียดายงั้นก็จองต

    Last Updated : 2025-02-18
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 34

    แล้วท่านประธานก็โดนบอร์ดบริหารโขกสับเละเป็นโจ๊กในที่ประชุม แถมท่านเจ้าสัวยังนั่งหัวโด่อยู่ตรงตำแหน่งหัวโต๊ะ เดนีสหน้าหดเหลือสองนิ้ว พอถึงจังหวะที่โดนจี้เข้ามาก ๆ กำลังจะอ้าปากเถียงวินตราก็สอดกระดาษโพสอิสใบเล็ก ๆ วางไว้ที่หน้าเอกสาร เดนีสก้มหน้าลงตามเดิม ก่อนจะเอ่ยขอโทษขอโพยการบริหารที่ผิดพลาดและจะชดใช้โดยการไม่รับเงินเดือนประจำตำแหน่ง 6 เดือน รวมไปถึงปันผลประจำปี ไตรมาสละ 2 ครั้ง สมทบเพื่อเป็นโบนัสและขวัญกำลังใจพนักงานต่อไปห้องประชุมที่กำลังสาดน้ำลายกันอย่างดุเดือดเลือดพล่านถึงได้เย็นลงมาบ้าง เดนีสหน้าตึงแต่ก็เก็บอารมณ์เป็นอย่างดี ไม่ได้เถียงข้าง ๆ คู ๆ แถมยังยืนก้มหัวโค้งคำนับรับความผิดพลาด แต่ความเป็นจริงวินตราหยิกสีข้างของท่านประธานไม่รู้กี่สิบรอบท่านเจ้าสัวมองลูกชายตัวเองด้วยสีหน้าพึงพอใจการบริหารมันก็มีผิดพลาดกันได้ผิดพลาดเพื่อเติบโตและพอเห็นท่าทีของลูกชายที่สงบเสงี่ยมขึ้นก็เบาใจแต่เพราะอยู่ในที่ประชุมท่านเจ้าสัวจึงต้องตีหน้านิ่งไม่อาจส่งสายตาปลาบปลื้มให้เจ้าลูกชายได้อย่างออกนอกหน้า แล้วอีกอย่างปัญหานี้ก็แก้ได้อย่างถูกวิธีและทันเวลาพอดีท่านเจ้าสัวมองเลยไปยังวินตราไม่ถึงหนึ่งปีล

    Last Updated : 2025-02-18
  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 35

    เดนีสออกจากบริษัทตั้งแต่สี่โมงครึ่งเขาผิวปากพาดสูทที่แขนหันไปมองคุณเลขาที่ดูรายงานในไอแพด“วินตราวันนี้นายกลับไปพักได้”“ขอบคุณครับ” วินตรารับคำอย่างว่าง่ายตั้งแต่ทำงานเกือบปีนับครั้งได้ที่เขากลับเร็วพระอาทิตย์ยังไม่ตกดินแบบนี้วินตราเดินตามออกไปเดนีสที่นานๆจะเอ่ยถามไถ่ปรียานุชทำเอาหญิงสาวเก้ๆกังๆที่จะพูดคุยด้วย“คุณนุช”“คะคะ” ปรียานุชกุลีกุจอลุกสายตาละจากหน้าจอจดจ้องท่านประธานที่ดูอารมณ์ดี“ไม่ต้องลุกหรอกผมแค่จะบอกว่าวันนี้เลิกงานเร็วหน่อยก็ได้” ปรียานุชปรายตามองนาฬิกาบนโต๊ะก่อนจะฉีกยิ้มด้วยความดีใจ“ค่ะขอบคุณมากค่ะท่านประธาน” ปรียานุชค้อมหัวให้ด้วยความเคารพก่อนจะรีบเคลียร์งานให้เสร็จเพื่อที่จะได้ไปรับลูกสาวเร็วๆสักวันสัปดาห์ละครั้งก็ยังดีเดนีสเดินแกว่งกุญแจรถออกไปสีหน้าที่ยิ้มแย้มทำเอาพนักงานอย่างปรียานุชอดที่จะยิ้มตามไม่ได้“มีเรื่องอะไรดีๆเหรอคะคุณวินตรา”“หลังเคลียร์ปัญหาไปได้เห็นเบื้องบนคุยกันไว้ว่าจะเพิ่มโบนัสให้อย่าบอกใครนะครับ” วินตราขยิบตาให้ลับหลังวินตราปรียานุชก็ยิ้มหน้าบานรีบเก็บของลุกตามไปอีกคนบรรยากาศระหว่างคนสามคนที่ทำงานร่วมกันพลันดีและสดใสขึ้นไม่เพียงท่านประธานแม้แต

    Last Updated : 2025-02-21

Latest chapter

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 80

    “ถอยไปเลยไป” “ด่าฉันด้วยสายตาอีกแล้ว” วินตรารีบคลุมสาบเสื้อชุดคลุมของตัวเองรัดสายคาดเอวอย่างแน่นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นเคืองในกระจกเดนีสก็หอมกระหม่อมคุณเขาซ้ำๆอยู่นั่นไม่สนใจสายตาที่อยากจะสับเขาเป็นชิ้นๆของคุณเลขาในกระจกสักนิดวินตราหวานไปทั้งตัวเหมือนช็อกโกแลตที่ข้างนอกแข็งขึ้นเป็นรูปต่างๆได้แต่พอวางอยู่ในอุ้งมือหรือในโพรงปากก็ละลายออกมาหวานละมุนกลิ่นโกโก้ชั้นดีตีขึ้นในโพรงจมูกจนอยากจะอมไว้ในปากทั้งวันไม่อยากให้ใครได้เห็นได้กลิ่นวินตราเป็นของเขาของเขาคนเดียวเท่านั้นสภาพท่านประธานในตอนนี้เหมือนอยากจะอมหัวเขาเหมือนหมาโกลเด้นที่ออดอ้อนออเซาะเจ้าของไม่รู้จักเบื่อนี่นะเหรอ…ข้าวใหม่ปลามันที่หลายคนพูดถึงแต่วินตราก็ยังเป็นวินตราคนเดิมเขาเป็นคนแสดงออกไม่เก่งแต่ก็ไม่ได้รังเกียจสัมผัสของอีกฝ่ายคนในกระจกเป็นคนแรกและคนเดียวที่วินตราค่อยๆแง้มประตูที่ปิดตายเอาไว้ให้รู้จักตัวตนที่แท้จริงความไม่สมประดีของตัวเองแผลใจไหนจะขยะที่ซุกซ่อนไว้ในใจรวมไปถึงในห้องคอนโดของตัวเองผู้ชายคนนี้ได้รับความรักความอบอุ่นจากครอบครัวจนมันแผ่มาถึงคนนอกอย่างเขาได้ง่ายๆวินตราคิดว่าการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้แย่เพราะเขากลัวว่า

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 79

    “รเร็วกว่านี้” เดนีสยันแขนแต่เอวก็เคลื่อนไหวเนิบช้าแต่ออกสุดตอกจนสุดเช่นกันวินตราแหงนหน้าเมื่อส่วนล่างถูกบดขยี้บี้ซ้ำๆจนสุดโคนจนรู้สึกถึงเส้นขนหยาบแข็งๆกระทบแก้มก้น“เรียกที่รักก่อนสิ” เดนีสซุกที่ซอกคอวินตราพร้อมกับขมเม้มเบาๆก่อนจะงับติ่งหูขาวนั้นดูดดึงจนวินตราครางไม่เป็นภาษาจะหนีไปไหนก็ไม่ได้เดนีสยกยิ้มมุมปาก ‘ติ่งหู’ เป็นอีกจุดที่ไวต่อสัมผัสของคุณเลขาคนสวยวินตราเม้มปากแน่นจนเอื้อมมือไปกำผมของไอ้ประธานเฮงซวยที่ทำตัวขบถแม้กระทั่งจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มอย่างนี้“อึก” เดนีสหัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงกระชาก“แม่งนี่นายเล่นกระชากหัวผัวตัวเองเลยเหรอฉันก็ปรนเปรออยู่นี่ไงที่รัก…อย่าใจร้อน” แถมยังแลบเลียริมฝีปากอย่างมาดร้ายเขาสะบัดหัวจากการกอบกุมจัดท่าขาสองข้างพาดบ่าวินตราตอนนี้ตัวจะม้วนกลับหลังอยู่แล้ว “เอาล่ะทำใจดีๆฉันจะแทงไปจนถึงแกนโลกเลยล่ะ” “อะไอ้!” เดนีสเหมือนนั่งยองแทงซ้ำๆดั่งปากว่าจุดกระสันถูกแทงซ้ำๆอย่างนั้นวินตรากัดปากตัวเองอย่างแรงความเสียวตีรื้นขึ้นมาอีกระลอก “มะไม่ไหว” วินตราส่ายหน้าสะบัดไปมาจนผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมดจังหวะที่เร็วและแรงขึ้นส่งทั้งตัวเองและวินตราไปถึงฝั่งฝันอย่างรวดเร็

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 78

    หรือไม่…อาจไม่เคยเดินสวนทางกันด้วยซ้ำไปเมื่อเห็นวินตราไม่ตอบเดนีสเลยพูดต่ออีกอย่างเขาไม่เชื่อคำสัญญาของวินตราสักเท่าไหร่คุณเลขาของเขาน่ะใจร้ายได้เสมอ“สัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างกันไปจนกว่าจะแก่เฒ่า”“นายเอาจริง?” วินตราถามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเชื่อถืออีกฝ่ายสักเท่าไหร่ตลอดกาลมีจริงๆเหรอแต่ตอนนี้ไม่มีเวลาให้คิดมากนัก “อือฉันเอาจริงและจริงจังถ้านายกล้าทิ้งฉัน…ฉันจะออกตามหานายสุดล่าฟ้าเขียวจะทิ้งทุกสิ่งไปตามหานายไหนๆฉันก็เป็นคุณชายหัวขบถอยู่แล้ว” วินตราดึงแก้มเขาอย่างแรง“ท่านประธานเอาแต่ใจเกินไปแล้ว”“แล้วรักหรือเปล่าล่ะ” วินตราไม่ตอบได้แต่จ้องมองไปยังนัยน์ตานั้นมองภาพใบหน้าตัวเองที่ฉายชัดอยู่ในนัยน์ตาสองคู่นี้“ต้องคิดด้วยเหรอ” เดนีสเย้าแหย่ วินตรายกหัวจุมพิตข้างริมฝีปากนั้นเบาๆก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “ฉันไม่รู้ว่าความรักเป็นยังไงแต่…กับนายมันพิเศษกว่าคนอื่นและสองมือนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดมันทั้งอบอุ่นและปลอดภัยอ้อมอกนี้ก็เช่นกัน” เดนีสมองวินตราอึ้งๆก่อนจะยิ้มโค้งจนตาหยี“นายรักฉันแหละฉันดูออกมาตั้งนานแล้ว” ริมฝีปากประกบกันอีกครั้งครั้งนี้วินตราโอนอ่อนผ่อนตามเปิดเปลือยให้อีกฝ่ายได้ชักนำแ

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 77

    “ฉันปวดไหล่” “นายจ่ายไหวเหรอฉันคิดค่าบริการแพงนะ”“จะเท่าไหร่กันเชียวอย่าลืมฉันถือแบล็กการ์ด”“ฮ่าๆ” เดนีสหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมจุมพิตที่แผ่นหลังขาวเนียนนั้นหนึ่งทีเบาๆ “แสบจริงๆใครไม่รู้คงคิดว่านายเป็นเมียฉัน” “ฝันไปเถอะ” “ใจร้าย”​ นิ้วมือลงน้ำหนักนวดโดยผ่อนแรงลากขึ้นลงเดนีสชอบนวดสปาน้ำมันเขาจึงรู้วิธีการนวดมาบ้าง วินตรานอนใบหน้าข้างหนึ่งแนบที่ท่อนแขนจ้องมองเงาในกระจกที่คุณชายหัวขบถตั้งใจนวดแผ่นหลังให้เขาอย่างมุ่งมั่นวินตรายกยิ้มที่มุมปากบางครั้งท่านประธานของเขาก็ซื่อบื้อของแท้…“สบายหรือเปล่า”​“อือ” “ฉันจะบอกให้ไม่มีใครกล้าใช้ฉันนอกจากนาย…วินตราเพราะฉะนั้นเป็นแฟนฉันได้แล้ว”​“ไม่”“นี่ฉันจริงจังนะ”“ไม่” เดนีสพลิกร่างวินตราให้นอนหงายโดยที่เขาคร่อมทับเค้นเอาคำตอบอย่างเอาเป็นเอาตายหัวคิ้วขมวดจนเป็นปม“ทำไมเป็นแฟนฉันไม่ดีตรงไหน”“ทุกตรง” “หา…อย่างฉันเนี่ยนะไม่ดีฉันดีมากเลยขอบอก” โอ้อวดตัวเองเก่งเป็นที่หนึ่ง“แล้ว” เดนีสก้มหน้าต่ำกระซิบเสียงแหบต่ำข้างหูคุณเลขา“ฉันก็รักนายอย่างสุดหัวใจ” พร้อมจุมพิตไหล่เปลือยเปล่านั้นแผ่วเบา เดนีสพยายามจ้องหน้าคุณเลขาไม่หลุบตามองต่ำไปมากกว่าน

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 76

    “นี่ลองชิมดูเป็นไวน์ตัวใหม่ของ ONLY U แอลฯเพียง 6% น้องชายฉันคิดค้นและปรับปรุงมาตลอดจนได้ไวน์รสชาตินี้ออกมาดื่มง่ายลองสิ” วินตรารับไวน์มาจิบอย่างว่าง่ายตอนนี้เขาไม่ได้กินยารักษาสภาพจิตใจแล้วพร้อมกับเข้าตรวจร่างกายชุดใหญ่ตามคำสั่งของท่านประธานวินตราเป็น (New Male) ที่สามารถตั้งครรภ์ได้ก็จริงแต่เพราะปัญหาทางใจที่รุมเร้ามาตลอดเขาเลยมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนเรียกได้ว่าฮอร์โมนทำงานได้ไม่เต็มที่มดลูกเลยไม่สามารถพัฒนาได้เต็มที่เหมือนคนเป็นหมันแต่ในอนาคตก็ไม่แน่เรื่องราวภายในของคนเรานั้นซับซ้อนวินตราและเดนีสต่างก็นั่งฟังหมออธิบายรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างเดนีสเองก็เข้าตรวจสุขภาพร่างกายประจำปีด้วยเช่นกัน แม้จะมีแอลกอฮอล์ผสมเพียง 6% แต่ดื่มเองไปเกือบขวดวินตราเองก็มึนๆเหมือนกันนานเท่าไหร่แล้วที่เขาทำตัวอยู่ในกรอบไม่ได้ปล่อยตัวปล่อยใจให้แตะต้องของพวกนี้อีกทั้งยังกินยาต่อเนื่องมาหลายปีทำให้ไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พวกนี้ได้บางครั้งชีวิตคนเราก็ต้องการรสชาติที่หลากหลายการพบเจอผู้คนเดิมๆงานเดิมๆก็ทำให้ชีวิตซ้ำซากจำเจอยู่เหมือนกัน โลกของเขาที่คับแคบก็เริ่มเปิดกว้างขึ้นมาเมื่อได้เจอกับเดนีสเด

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 75

    “นายโกหก” น้ำเสียงแผ่วเบาจนสัมผัสถึงของเหลวอุ่นๆที่หยดตรงลาดไหล่ของตัวเองเพราะเดนีสรู้จักวินตราเกินไปต่างหากหากเขายอมปล่อยมือตอนนี้อีกฝ่ายคงหลุดลอยไปไกลอาจไกลเสียจนเขาไม่มีทางตามอีกฝ่ายพบวินตรายังคงเป็นวินตราที่เข้มแข็งโดดเดี่ยวจนถึงขั้นใจดำที่จะหันหลังให้เขาอย่างเลือดเย็นแต่ทว่าเดนีสเองไม่สามารถปล่อยวินตราไปได้ แล้วเขาก็เป็นลูกคนรวยหัวกรวยหัวขบถที่อยากได้อะไรต้องได้ยังไงต้องมีคุณเลขามือทองคนนี้คอยกำราบ! สองแขนของวินตรายกโอบกอดกลับไปเช่นกัน ต่างคนต่างร้องไห้เงียบ ๆ ลูบหลังปลอบประโลมกันอยู่อย่างนั้น“ไปกับฉันที่หนึ่งสิ” เดนีสพูดพลางสูดจมูกไปด้วยเขาไม่อายเลยสักนิดที่จะร้องไห้ออดอ้อนต่อหน้าวินตราวินตราไม่ตอบแต่พยักหน้าเป็นอันว่าตกลงเดนีสยกยิ้มมาดร้ายที่มุมปากคิดจะหนีไปจากเขางั้นเหรอ…ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกวินตรา!เดนีนสบถอย่างหัวเสียเมื่อคุณนิติพลรายงานเรื่องประธานตัวจริงที่ยังมีชีวิตอยู่ขอลาต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ตอนนี้ที่บริษัทก็ผ่านช่วงวิกฤตมาได้พร้อมกับกำจัดเห็บไรไปได้หลายตัวแถมยังดำเนินการภายใต้แฝดน้องอย่างเดนีนที่แสร้งตีหน้าขรึมเป็นเดนีสแฝดพี่เพราะความเป็นแฝดที่เหมือนกันจนแทบจะโคลนกัน

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 74

    “ผมว่าจะขอลาออกครับ” ท่านเจ้าสัวเอนพนักพิงเก้าอี้จ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ก้มหน้าเอ่ยบอกความต้องการ“แล้วเดนีสล่ะ” วินตราเม้มปากแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป “วินตราฉันเห็นเธอเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่งอดีตก็คืออดีตฉันยอมรับที่ความสามารถของเธอมากกว่าเรื่องอื่นเป็นรอง” “ผมทราบครับ”​“วันไหนที่เธอเปลี่ยนใจกลับมาที่นี่ได้เสมอ” “ครับ” วินตรายกมือไหว้ท่านเจ้าสัวอย่างนอบน้อมตั้งแต่เกิดเรื่องเขาก็เก็บตัวอยู่ที่บ้านท่านเจ้าสัวตลอดตอนนี้เหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายแล้วเขาเองก็ควรจะมีชีวิตของตัวเองสักที ตอนนั้นที่เขาหนีกบดานเอาชีวิตรอดจากสาสินก็นึกถึงท่านเจ้าสัวเป็นคนแรกตอนแรกก็กล้าๆกลัวเพราะหลักฐานที่มีนอกจากจะไม่สามารถรักษาชีวิตตัวเองได้แล้วหลักฐานพวกนี้อาจจะเป็นเถ้าถ่านในกองไฟก็เป็นได้แต่แล้ววินตราก็ไม่ผิดหวังนึกถึงคำถามนั้นที่ท่านเจ้าสัวได้ให้ไว้กับตัวเอง“ฉันรู้ว่าเธอเองก็ลำบากใจแต่วันไหนที่เธอเข้มแข็งและสามารถหยัดยืนเผชิญหน้ากับเรื่องพวกนี้ได้เมื่อไหร่ขอเพียงเธอเอ่ยปากฉันจะช่วยเธออย่างสุดความสามารถ” ตอนนั้นวินตรายังคิดไม่ตกอย่างที่เคยบอกเหตุการณ์เหล่านั้นกัดกินใจเขาจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคนวินตราเด็

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 73

    การออกมาปรากฏตัวและให้สัมภาษณ์สื่อของวินตราในฐานะเหยื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคมอย่างมหาศาลเด็กทุนที่ลังเลที่เคยตกเป็นเหยื่อไม่กล้าเปิดเผยตัวและผู้คนที่ถูกคุกคามทางเพศไม่ว่าจะเป็นบ้านที่ทำงานสถานศึกษาต่างก็ตบเท้าเข้ามาให้ปากคำอย่างไม่ขาดสาย ต่างก็แชร์เรื่องราวของตัวเองผ่านโลกออนไลน์สร้างความตื่นตัวและตระหนักรู้ในสังคมเป็นอย่างมากอย่าอายจนลืมที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหนก็ไม่มีใครควรถูกคุกคามทางเพศ!วินตรายืนอยู่ตรงหน้าช่องบรรจุอัฐของวัดแห่งหนึ่งย่านปริมณฑลก่อนตายจินตะได้พูดว่าอยากจะบวชสักครั้งก่อนตายแต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างใจนึกวินตราจึงตัดสินใจควักเงินเก็บตัวเองก้อนใหญ่ออกมาซื้อสถานที่จัดเก็บอิฐเอาไว้ตามปรารถนาสุดท้ายของจินตะตอนนั้นวินตราเป็นเพียงนักศึกษาปริญญาตรีปีหนึ่งคนหนึ่งไม่รู้เลยว่าในโลกนี้มีการจัดเก็บอัฐิไว้ 4 รูปแบบด้วยกันคือ1.) ช่องจัดเก็บอิฐตามกำแพงวัด2.) จัดเก็บตามเสาไฟของวัด3.) จัดเก็บตามอาคารศาลาหรือกุฏิซึ่งจะเตรียมช่องจัดเก็บอัฐิไว้บนขื่อหรือหน้าประตูตามความเหมาะสมของสถานที่4.) ห้องไว้สำหรับจัดเก็บอัฐิโดยเฉพาะซึ่งสถานที่จะเป็นที่จัดเก

  • เพียงชั่ววูบเดียว [MPREG]   เพียงชั่ววูบ 72

    ก้องการุณย์ลั่นไกโดยที่ไม่ต้องคิดเมื่อเจนจัดหันปลายกระบอกปืนมายังผู้บริสุทธิ์ที่ด้านล่างแม้จะเล็งที่ข้อมือข้างที่ถือปืนแต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจนจัดจะถนัดยิงปืนทั้งสองข้างอีกฝ่ายตะเกียกตะกายพลิกร่างกายอย่างรวดเร็วจ่อปากกระบอกปืนที่ขมับของตัวเองคนอย่างเจนจัดไม่มีทางจนตรอกหากจะตายก็ต้องตายด้วยน้ำมือตัวเองเท่านั้น…ปัง! แต่ทว่าสวรรค์คงมีตาไม่อยากให้คนชั่วได้ตายง่ายๆแม้ว่าจะเล็งที่ขมับของตัวเองแต่ก็พลาดเฉียดไปเท่านั้นงานนี้เจนจัดได้นอนทรมานติดเตียงยาวนานพอที่จะลิ้มรสความทุกข์และบาปกรรมที่ได้ทำลงไปอย่างเต็มที่แม้อยากจะตายก็ตายไม่ได้อยู่ฟังเสียงผู้คนก่นด่าสาปแช่งและประณามจนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง ศิราณีเองก็ร่ำไห้ปานจะขาดใจเธอไม่ได้ร้องไห้ให้กับไอ้สามีเฮงซวยนั้นแต่ร้องไห้ให้กับความขี้ขลาดของตัวเองหากเธอกล้ายืนหยัดและเชื่อในคำพูดของลูกชายตั้งแต่เนิ่นๆเรื่องราวคงไม่บานปลายจนมาถึงขั้นนี้ไอ้เจนจัดทำลูกคนอื่นไม่พอยังทำลูกตัวเองด้วยสารเลว! แม้จะไม่ใช่การล่วงละเมิดทางเพศแต่การลูบคลำก็ทำให้ลูกชายและลูกสาวมีแผลใจและรังเกียจพ่อตัวเองหมามันยังไม่คิดอกุศลกับลูกตัวเองศิราณีปิดหน้าร่ำไห้กับพื้นอย่าง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status