“ใช่! แกอย่ามาใส่ร้ายแฟนฉันแบบนี้นะ เมื่อคืนฉันยืนยันได้ว่าเต้อยู่กับฉันตลอด!เขาไม่มีทางทำเรื่องบ้าๆ แบบนั้น” เปรมสุดาเลือกที่จะเข้าข้างคนรักแต่ก็ไม่วายตวัดตาไปมองอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
จบเรื่องตรงนี้เมื่อไหร่...เธอกับเขามีเรื่องต้องคุยกันยาว!
“นางไม่ได้โกหกจริงๆ นะคะ”
“โกหก!”
“พอได้แล้วทั้งคู่ หยุดพูดสักที!” เป็นดวงกมลที่ตวาดขึ้นก่อนจะหันไปมองคนรักด้วยสายตาผิดหวังจับใจ ผิดหวังกับเรื่องบ้าๆ ที่เกิดขึ้น
”คุณจะเอายังไงต่อคะจิณ” เธอเลือกที่จะถามคนรัก เพราะอยากจะรู้ว่าเขาจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง
“ดวง…ผมไม่ได้ตั้งใจ จะให้ผมไปสาบานที่ไหนก็ได้ ผมรักแค่คุณจริงๆ” เขาจะไปมีอะไรกับใครเธอไม่ว่าเลย แต่นี่คือน้องสาวของเธอ แม้จะคนละแม่ แต่เธอรับเรื่องบ้าๆ นี้ไม่ได้จริงๆ มันเกินใจจะทน
“ดวงไม่อยากเชื่ออะไรอีกแล้วตอนนี้ เอาเป็นว่าจนกว่าคุณจะคิดได้ว่าควรทำยังไงกับเรื่องนี้ ดวงว่าเราห่างกันสักพักเถอะค่ะจิณ” เมื่อตัดสินใจดีแล้วดวงกมลถึงเอ่ยขึ้นก่อนจะพาตัวเองเดินหนีออกไป ทิ้งไว้แต่เสียงร้องจากคนรักที่ดังขึ้นตามหลัง แต่เธอก็ไม่คิดหันกลับมา
กว่าจะรู้ว่าทุกคนรวมถึงพี่สาวกลับไปแล้วเวลาก็ผ่านไปจนเกือบเที่ยงวัน เพราะความอ่อนล้าทำให้คณานางค์หลับสนิท กว่าจะรู้ตัวว่าถูกทิ้ง ก็เหลือแค่เธอกับแม่บ้านพร้อมหลานสาวอยู่ในบ้านแล้ว
“เดินไปอีกหน่อยจะเจอท่ารถค่ะคุณ นั่งไปต่อเดียวถึงกรุงเทพเลย” หญิงสาวยิ้มรับต่อคำบอกกล่าวนั้นก่อนจะเอ่ยลาสองป้าหลานแล้วเดินออกมาจากบ้านหลังนั้น พร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าขนาดเล็กของตัวเอง ทว่าออกเดินมาได้ไม่เท่าไหร่ก็มีรถคันหรูคันหนึ่งขับเข้ามาปาดหน้าพร้อมกับเสียงตวาดของคนที่เธอจำได้ในทันทีว่าเขาเป็นใครดังขึ้น
“ขึ้นรถ!”
“คุณจิณ”ด้วยไม่คิดว่าเขาจะยังอยู่ที่นี่จึงทำให้เธอตกใจไม่น้อย
“หูหนวกรึไง ฉันบอกให้ขึ้นรถ!” เกิดความสับสนอยู่ร่วมนาที แต่สุดท้ายเธอก็ยอมขึ้นมาบนรถตามคำสั่งของเขา แต่ยังไม่ทันจะได้คาดเข็มขัดคนใจร้ายก็ออกรถอย่างแรง ไม่สนเลยว่าการกระทำนั้นของตัวเองจะทำให้คนนั่งข้างๆ ได้รับบาดเจ็บรึเปล่า เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องมาสนใจ นาทีนี้เขาสนเพียงอย่างเดียว คืออยากรู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น และคนเดียวที่จะให้คำตอบในเรื่องนี้กับเขาได้ก็มีแค่เธอ
“บอกฉันมา ว่าเธอทำแบบนั้นทำไม!”
คำถามที่มาพร้อมกับรถที่ถูกเบรกกะทันหัน พร้อมกับต้นแขนที่ถูกกระชากอย่างแรงทำให้คณานางค์ตกใจ เพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำรุนแรงกับเธอถึงเพียงนี้ หากรู้เธอคงไม่กล้าที่จะขึ้นรถมาด้วย
“นางเจ็บค่ะคุณจิณ” แรงบีบที่ต้นแขนสร้างความเจ็บแก่คนถูกกระทำไม่น้อย แต่แทนที่เขาจะเมตตา กลับตวาดใส่กันอย่างไม่ไยดี
“เจ็บก็รีบพูดมา! ว่าเธอทำแบบนี้ทำไม”
“จะให้นางตอบอีกกี่ครั้งคำตอบก็เหมือนเดิม นางไม่รู้จริงๆ” หญิงสาวยังคงยืนยันเหมือนเดิม แต่เขากลับไม่คิดปักใจเชื่อกันอยู่ดี
“ลงไป!” เขาตวาดสั่งพร้อมกับผลักหล่อนออกจากตัวอย่างแรง จะว่ารังเกียจก็ได้ แต่คิดอีกทีเขารู้สึกขยะแขยงมากกว่า ไม่คิดว่าเห็นหน้าซื่อๆ จะร้ายลึกได้ขนาดนี้ และไม่ว่าเธอจะทำไปเพื่ออะไร บอกไว้ตรงนี้เลยว่ามันไม่มีวันได้ผล ถึงยังไงคนที่เขารักก็มีแค่ดวงกมลเท่านั้น
“ฉันบอกให้ลงไป!”
“คุณจิณ” คณานางค์ตัดพ้อคนใจร้ายผ่านม่านน้ำตา ใช่ว่าอยากจะอยู่กับเขา แต่เพราะสถานที่ที่เขาจอดรถอยู่ในตอนนี้สองข้างทางมีแต่ป่ารก ความกลัวถึงอันตรายทำให้เธอไม่กล้าที่จะก้าวขาลงไป
“ไม่ลงใช่ไหม ได้!” สิ้นเสียงร่างสูงใหญ่ก็เป็นฝ่ายเดินลงจากรถก่อนจะอ้อมมายังฝั่งที่เธอนั่งอยู่ เขาไม่พูดอะไรสักคำ แต่เลือกที่จะกระชากประตูให้เปิดออก ก่อนจะลากเธอลงจากรถพร้อมกับข้าวของที่เธอนำติดตัวมาด้วยอย่างไม่ไยดี
“คุณจิณอย่าทิ้งนางไว้ที่นี่เลยนะคะ นางกลัว...” น้ำตาและคำอ้อนวอนของเธอแทบไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะเขาไม่แม้แต่จะหันมามองกันด้วยซ้ำในจังหวะที่เดินอ้อมกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไป ทิ้งให้เธอยืนร้องไห้เงียบๆ อยู่ตามลำพังท่ามกลางความรู้สึกกลัวสุดใจ
คนใจร้าย
เพราะสถานที่ที่ถูกทิ้งทำให้กว่าจะหาทางกลับบ้านได้เวลาก็ผ่านเลยไปเกือบสองทุ่ม โชคดีที่เธอบังเอิญได้พบกับคุณป้าผู้แสนจะใจดี แทนที่จะเจอโจรผู้ร้าย ถึงพาตัวเองกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย
“แกกล้าดียังไงถึงทำกับลูกสาวฉันแบบนี้ห๊ะอีนาง! อีเนรคุณ!” ทว่าทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในบริเวณบ้าน สิ่งแรกที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นเสียงด่าที่มาพร้อมฝ่ามือหนักๆ ของใครบางคน แรงตบนั้นรุนแรงจนคนถูกกระทำหน้าหัน และยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เนื้อตัวก็ถูกทุบตีอย่างแรงด้วยฝีมือของแม่เลี้ยงที่ทันทีที่ได้รู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น คุณสินีก็เกิดอาการโกรธจัด คิดไม่ถึงว่าเชื้อแม่มันจะแรงถึงเพียงนี้ เมื่อก่อนแม่มันก็เคยแย่งผัวเธอไปทีแล้ว พอถึงคราวลูกยังกล้าแย่งคนรักของลูกสาวเธอไปอีก แค่นี้ยังไม่สาสมเลยกับสิ่งที่พวกมันสองคนทำ!
แม้จะเจ็บแค่ไหนคณานางค์ก็ไม่ปัดป้อง ด้วยสำนึกเสมอว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ต่างอะไรจากแม่แท้ๆ ของตัวเอง แม้ว่าท่านจะไม่ได้รักเอ็นดูเธอเท่าพี่ แต่ก็เมตตาส่งเสียให้เรียนจนจบ สิ่งเดียวที่ทำให้รู้สึกสะอึกในใจ เห็นจะเป็นพี่สาวที่ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาห้ามเหมือนทุกครั้ง แต่กลับเลือกที่จะยืนดูอยู่เฉยๆ ด้วยสายตาเย็นชาที่เธอไม่เคยได้เห็นมาก่อน “พอแล้วคุณ! เดี๋ยวมันได้ตายกันพอดี!” เป็นบวรที่ทนดูภาพตรงหน้าต่อไปไม่ไหวตัดสินใจร้องห้ามพร้อมพาตัวเองเข้ามาแทรกกลางระหว่างคนทั้งคู่ ใช่ว่าจะไม่รู้สึก แต่สิ่งที่ภรรยาทำอยู่มันเกินไป “ให้มันตายไปเลย กาฝากอย่างมันแค่ต้องใช้อากาศร่วมด้วยฉันก็ขยะแขยงเต็มทน วันนี้คุณต้องจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาด! เพราะฉันกับลูกจะไม่ทนอีกแล้ว!” สิ้นคำขาดนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นตามมา “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง” “คุณต้องไล่มันออกไปจากบ้านหลังนี้ เดี๋ยวนี้!” “คุณนี / คุณแม่!” สองพ่อลูกต่างตกใจไม่น้อยกับคำขาดที่ดังขึ้น แม้แต่คณานางค์ยังตกใจ แต่เธอจะพูดอะไรได้ในเมื่อเวลานี้ทุกคนต่างลงความเห็นว่าเธอผิด ถึงพูดอะไรไปตอนนี้ก็คงกลา
“นาง..ไม่รู้ค่ะ” คำตอบนั้นสั้นเกินกว่าจะเข้าใจอะไรได้ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ถามต่อ เพราะคิดว่าคงเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นที่หัวหินแน่ แต่ไม่คิดว่าผลจากเรื่องในวันนั้น จะส่งผลร้ายได้มากขนาดนี้ “ถ้าคุณนางยังไม่รู้จะไปไหน ไปอยู่บ้านผมก่อนไหมครับ” คำชวนนั้นสร้างความตกใจแก่คนไร้ที่พึ่งไม่น้อย มันทำให้เธอแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ความโดดเดี่ยวที่กำลังเผชิญทำให้รู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งกายและใจ แต่เป็นเขาที่ยื่นมือเข้าช่วย ทั้งที่เธอกับเขาคุยกันแทบจะนับคำได้ ความช่วยเหลือที่ไม่คาดคิดนี้ของเขาทำให้เธอซาบซึ้งอย่างถึงที่สุด แล้วมันจะผิดมากไหมถ้าเธอจะขอรับความช่วยเหลือนี้เอาไว้ “คิดเสียว่าผมเป็นเพื่อนคนหนึ่งของคุณก็ได้ นะครับ” เธอไม่เคยมีเพื่อน ถึงต่อให้มี ทุกคนก็คบหาเพียงเพราะอยากได้ผลประโยชน์ เมื่อถึงคราวหมดประโยชน์คนเหล่านั้นก็ค่อยๆ ตีตัวออกห่างไปทีละคน ภวินทร์พาคนที่ตลอดทางเอาแต่นั่งเงียบขับรถมาถึงบ้านสวนของผู้เป็นแม่แทนที่จะกลับไปคอนโดของตัวเองเพราะไม่อยากให้หญิงสาวเสียหายไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งแม่ของเขาก็ยินดีที่จะเปิดบ้านต้อนรับโดยไม่ถามอะไรเห
ความปวดร้าวบนร่างกายคือสิ่งแรกที่ คณานางค์ เกษมรัตน์ รู้สึกเมื่อลืมตาขึ้น หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความสับสน เพราะจำไม่ได้ว่าที่นี่คือที่ไหน และมันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเธอ จนเมื่อหันไปเห็นเข้ากับบางสิ่ง ดวงตาคู่โศกถึงได้เบิกกว้างขึ้น ตกใจจนเนื้อตัวสั่นเมื่อได้เห็นสิ่งมีชีวิตเพศชายคนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่ข้างๆ กันในสภาพเปลือยเปล่า สิ่งที่เห็นทำให้หญิงสาวผุดลุกขึ้นมานั่งในทันที ก่อนจะก้มมองสำรวจตัวเองแล้วพบกับความน่าตกใจยิ่งกว่า นั่นคือเธอเอง ก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไม่ต่างอะไรกับ ‘เขา’ เลย ร่างกายที่ไร้อาภรณ์ ร่องรอยหลายจุดบนร่างกายทำให้รู้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นภายในห้องนี้บ้าง ที่ไม่รู้คือมันเกิดขึ้นได้ยังไง! ไม่รู้เลยจริงๆ ภาพจำครั้งสุดท้ายเริ่มกลับเข้ามาในหัวอย่างช้าๆ ก่อนจะจำได้ว่าเธอถูก ดวงกมล พี่สาวต่างมารดาลากให้มาเที่ยวที่บ้านพักตากอากาศของจิณ ชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นคนรักของพี่สาว เพื่อฉลองวันเกิดของเขา โดยมีเพื่อนๆ ของพี่เธอ และของเจ้าของงานตามมาร่วมสนุกด้วยหลายสิบคน เธอที่ไม่รู้จะพาตัวเองไปอยู่ตรงส่วนไหนของงาน
“ฉันถามว่าเธอมาทำบ้าอะไรในห้องนี้คณานางค์!” เสียงตวาดนั้นทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเสียขวัญสะอื้นไห้ คณานางค์ได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ เธอไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมถึงได้มาอยู่ในห้องนี้ได้ “ออกไป!” เมื่อถามแล้วไม่ได้รับคำตอบก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ผู้หญิงคนนี้จะอยู่ในห้องนี้ต่อ เพราะหากมีใครบังเอิญมาเห็นหล่อนเข้าคงไม่ดีแน่ “ฮึก” “ฉันบอกให้ออกไป!” หนนี้ไม่รอให้เขาออกปากไล่กันอีกรอบ คณานางค์ค่อยๆ ฝืนความเจ็บลุกขึ้น ก่อนจะก้มลงไปหยิบเศษเสื้อผ้าที่กองอยู่ที่พื้นมาสวมใส่อย่างรีบเร่ง เธอไม่รู้ว่า ‘เขา’ จะยังมองกันอยู่ไหม นาทีนี้สิ่งเดียวที่ต้องทำคือพาตัวเองออกไปจากที่นี่ ก่อนที่เรื่องมันจะแดงขึ้นมา เธอจะถือเสียว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ฝันร้ายเท่านั้น ทว่าเมื่อประตูห้องเปิดออก เธอกลับพบว่ามีใครหลายคนยืนอยู่ และหนึ่งในนั้นคือพี่สาวของเธอ! ดวงกมลบอกไม่ถูกว่าควรรู้สึกอะไรมากกว่ากันระหว่าง ตกใจ กับ เสียใจ ที่จู่ๆ ก็ได้มาเห็นน้องสาวอยู่ในห้องนอนของคนรักในสภาพที่ต่อให้เธอไม่มีประสบการณ์ในด้านนั้น ก็พอจะเดาได
“นาง..ไม่รู้ค่ะ” คำตอบนั้นสั้นเกินกว่าจะเข้าใจอะไรได้ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ถามต่อ เพราะคิดว่าคงเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นที่หัวหินแน่ แต่ไม่คิดว่าผลจากเรื่องในวันนั้น จะส่งผลร้ายได้มากขนาดนี้ “ถ้าคุณนางยังไม่รู้จะไปไหน ไปอยู่บ้านผมก่อนไหมครับ” คำชวนนั้นสร้างความตกใจแก่คนไร้ที่พึ่งไม่น้อย มันทำให้เธอแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ความโดดเดี่ยวที่กำลังเผชิญทำให้รู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งกายและใจ แต่เป็นเขาที่ยื่นมือเข้าช่วย ทั้งที่เธอกับเขาคุยกันแทบจะนับคำได้ ความช่วยเหลือที่ไม่คาดคิดนี้ของเขาทำให้เธอซาบซึ้งอย่างถึงที่สุด แล้วมันจะผิดมากไหมถ้าเธอจะขอรับความช่วยเหลือนี้เอาไว้ “คิดเสียว่าผมเป็นเพื่อนคนหนึ่งของคุณก็ได้ นะครับ” เธอไม่เคยมีเพื่อน ถึงต่อให้มี ทุกคนก็คบหาเพียงเพราะอยากได้ผลประโยชน์ เมื่อถึงคราวหมดประโยชน์คนเหล่านั้นก็ค่อยๆ ตีตัวออกห่างไปทีละคน ภวินทร์พาคนที่ตลอดทางเอาแต่นั่งเงียบขับรถมาถึงบ้านสวนของผู้เป็นแม่แทนที่จะกลับไปคอนโดของตัวเองเพราะไม่อยากให้หญิงสาวเสียหายไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งแม่ของเขาก็ยินดีที่จะเปิดบ้านต้อนรับโดยไม่ถามอะไรเห
แม้จะเจ็บแค่ไหนคณานางค์ก็ไม่ปัดป้อง ด้วยสำนึกเสมอว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ต่างอะไรจากแม่แท้ๆ ของตัวเอง แม้ว่าท่านจะไม่ได้รักเอ็นดูเธอเท่าพี่ แต่ก็เมตตาส่งเสียให้เรียนจนจบ สิ่งเดียวที่ทำให้รู้สึกสะอึกในใจ เห็นจะเป็นพี่สาวที่ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาห้ามเหมือนทุกครั้ง แต่กลับเลือกที่จะยืนดูอยู่เฉยๆ ด้วยสายตาเย็นชาที่เธอไม่เคยได้เห็นมาก่อน “พอแล้วคุณ! เดี๋ยวมันได้ตายกันพอดี!” เป็นบวรที่ทนดูภาพตรงหน้าต่อไปไม่ไหวตัดสินใจร้องห้ามพร้อมพาตัวเองเข้ามาแทรกกลางระหว่างคนทั้งคู่ ใช่ว่าจะไม่รู้สึก แต่สิ่งที่ภรรยาทำอยู่มันเกินไป “ให้มันตายไปเลย กาฝากอย่างมันแค่ต้องใช้อากาศร่วมด้วยฉันก็ขยะแขยงเต็มทน วันนี้คุณต้องจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาด! เพราะฉันกับลูกจะไม่ทนอีกแล้ว!” สิ้นคำขาดนั้นก็เกิดความเงียบขึ้นตามมา “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง” “คุณต้องไล่มันออกไปจากบ้านหลังนี้ เดี๋ยวนี้!” “คุณนี / คุณแม่!” สองพ่อลูกต่างตกใจไม่น้อยกับคำขาดที่ดังขึ้น แม้แต่คณานางค์ยังตกใจ แต่เธอจะพูดอะไรได้ในเมื่อเวลานี้ทุกคนต่างลงความเห็นว่าเธอผิด ถึงพูดอะไรไปตอนนี้ก็คงกลา
“ใช่! แกอย่ามาใส่ร้ายแฟนฉันแบบนี้นะ เมื่อคืนฉันยืนยันได้ว่าเต้อยู่กับฉันตลอด!เขาไม่มีทางทำเรื่องบ้าๆ แบบนั้น” เปรมสุดาเลือกที่จะเข้าข้างคนรักแต่ก็ไม่วายตวัดตาไปมองอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง จบเรื่องตรงนี้เมื่อไหร่...เธอกับเขามีเรื่องต้องคุยกันยาว! “นางไม่ได้โกหกจริงๆ นะคะ” “โกหก!” “พอได้แล้วทั้งคู่ หยุดพูดสักที!” เป็นดวงกมลที่ตวาดขึ้นก่อนจะหันไปมองคนรักด้วยสายตาผิดหวังจับใจ ผิดหวังกับเรื่องบ้าๆ ที่เกิดขึ้น ”คุณจะเอายังไงต่อคะจิณ” เธอเลือกที่จะถามคนรัก เพราะอยากจะรู้ว่าเขาจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง “ดวง…ผมไม่ได้ตั้งใจ จะให้ผมไปสาบานที่ไหนก็ได้ ผมรักแค่คุณจริงๆ” เขาจะไปมีอะไรกับใครเธอไม่ว่าเลย แต่นี่คือน้องสาวของเธอ แม้จะคนละแม่ แต่เธอรับเรื่องบ้าๆ นี้ไม่ได้จริงๆ มันเกินใจจะทน “ดวงไม่อยากเชื่ออะไรอีกแล้วตอนนี้ เอาเป็นว่าจนกว่าคุณจะคิดได้ว่าควรทำยังไงกับเรื่องนี้ ดวงว่าเราห่างกันสักพักเถอะค่ะจิณ” เมื่อตัดสินใจดีแล้วดวงกมลถึงเอ่ยขึ้นก่อนจะพาตัวเองเดินหนีออกไป ทิ้งไว้แต่เสียงร้องจากคนรักที่ดังขึ้นตามหลัง แต่
“ฉันถามว่าเธอมาทำบ้าอะไรในห้องนี้คณานางค์!” เสียงตวาดนั้นทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในสภาวะเสียขวัญสะอื้นไห้ คณานางค์ได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ เธอไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมถึงได้มาอยู่ในห้องนี้ได้ “ออกไป!” เมื่อถามแล้วไม่ได้รับคำตอบก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ผู้หญิงคนนี้จะอยู่ในห้องนี้ต่อ เพราะหากมีใครบังเอิญมาเห็นหล่อนเข้าคงไม่ดีแน่ “ฮึก” “ฉันบอกให้ออกไป!” หนนี้ไม่รอให้เขาออกปากไล่กันอีกรอบ คณานางค์ค่อยๆ ฝืนความเจ็บลุกขึ้น ก่อนจะก้มลงไปหยิบเศษเสื้อผ้าที่กองอยู่ที่พื้นมาสวมใส่อย่างรีบเร่ง เธอไม่รู้ว่า ‘เขา’ จะยังมองกันอยู่ไหม นาทีนี้สิ่งเดียวที่ต้องทำคือพาตัวเองออกไปจากที่นี่ ก่อนที่เรื่องมันจะแดงขึ้นมา เธอจะถือเสียว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ฝันร้ายเท่านั้น ทว่าเมื่อประตูห้องเปิดออก เธอกลับพบว่ามีใครหลายคนยืนอยู่ และหนึ่งในนั้นคือพี่สาวของเธอ! ดวงกมลบอกไม่ถูกว่าควรรู้สึกอะไรมากกว่ากันระหว่าง ตกใจ กับ เสียใจ ที่จู่ๆ ก็ได้มาเห็นน้องสาวอยู่ในห้องนอนของคนรักในสภาพที่ต่อให้เธอไม่มีประสบการณ์ในด้านนั้น ก็พอจะเดาได
ความปวดร้าวบนร่างกายคือสิ่งแรกที่ คณานางค์ เกษมรัตน์ รู้สึกเมื่อลืมตาขึ้น หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความสับสน เพราะจำไม่ได้ว่าที่นี่คือที่ไหน และมันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเธอ จนเมื่อหันไปเห็นเข้ากับบางสิ่ง ดวงตาคู่โศกถึงได้เบิกกว้างขึ้น ตกใจจนเนื้อตัวสั่นเมื่อได้เห็นสิ่งมีชีวิตเพศชายคนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่ข้างๆ กันในสภาพเปลือยเปล่า สิ่งที่เห็นทำให้หญิงสาวผุดลุกขึ้นมานั่งในทันที ก่อนจะก้มมองสำรวจตัวเองแล้วพบกับความน่าตกใจยิ่งกว่า นั่นคือเธอเอง ก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไม่ต่างอะไรกับ ‘เขา’ เลย ร่างกายที่ไร้อาภรณ์ ร่องรอยหลายจุดบนร่างกายทำให้รู้ว่าค่ำคืนที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นภายในห้องนี้บ้าง ที่ไม่รู้คือมันเกิดขึ้นได้ยังไง! ไม่รู้เลยจริงๆ ภาพจำครั้งสุดท้ายเริ่มกลับเข้ามาในหัวอย่างช้าๆ ก่อนจะจำได้ว่าเธอถูก ดวงกมล พี่สาวต่างมารดาลากให้มาเที่ยวที่บ้านพักตากอากาศของจิณ ชายหนุ่มผู้ซึ่งเป็นคนรักของพี่สาว เพื่อฉลองวันเกิดของเขา โดยมีเพื่อนๆ ของพี่เธอ และของเจ้าของงานตามมาร่วมสนุกด้วยหลายสิบคน เธอที่ไม่รู้จะพาตัวเองไปอยู่ตรงส่วนไหนของงาน