Share

บทที่ 5

มิ่งขวัญเม้มริมฝีปากแน่น มือที่จับกระดาษแผ่นนั้นสั่นเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้สืบเรื่องของเธอและลูกด้วยเช่นนั้นหรือ  โอ้...นี่หรือคนมีเงิน เมื่อปรารถนาสิ่งใดก็ใช้สิ่งนี้แลกมาได้ง่ายดาย ไม่เว้นแม้แต่วิญญาณของความเป็นคน

            “ขอบคุณในความเมตตา แต่คุณกรุณาเอาเช็คนี่กลับไปเถิดค่ะ”คำพูดของมิ่งขวัญมีพลังพอที่จะทำให้ดวงตาของผู้ยื่นข้อเสนอวาวโรจน์และยิ่งเมื่อกระดาษแผ่นน้อยถูกวางกลับคืนที่เดิมอย่างไม่ใยดียิ่งทำให้คุณหญิงแทบเต้น

 “นี่เธอ!....อ้อ...ใช่สิ ฉันลืมไป ตัวลูกชายของฉันคงจะมีค่ามากกว่าเงินหนึ่งล้านนี่เป็นแน่แท้ พวกเธอมันก็นักธุรกิจเหมือนกันนี่ คนต่อเงิน เธอก็คิดได้เหมือนกันรึ ฉันคิดว่าคนเป็นครูให้ความรู้เด็กจะไม่รู้จักคิดเรื่องการต่อรอง ฉันประมาณพวกเธอผิดไปมาก”

            มิ่งขวัญกลืนน้ำลายลงคอที่เหมือนตีบตันมากขึ้นทุกขณะ ผู้หญิงคนนี้มองเธอเป็นอะไร เอาเงินมาใช้เป็นเครื่องต่อรอง พอถูกปฏิเสธกลับพูดจาหมิ่นแคลนราวกับคนที่ตนกำลังสนทนาอยู่ด้วยไม่มีเลือดเนื้อความเป็นมนุษย์ หญิงวัยกลางคนพยายามเก็บความเจ็บปวดนั้นให้อยู่ลึกลงไปใต้จิตสำนึก ยังไว้แต่ความเข้มแข็งเป็นเกราะป้องกันตนเองแม้มันจะเปราะบางก็ตามที

            “ค่ะ....ดิฉันเป็นครู งานของดิฉันคือการให้ความรู้แก่เด็ก สั่งสอนเขาให้รู้จักค่าของความเป็นคน อย่าตีราคาคนอื่นให้เป็นแค่วัตถุ โตขึ้นเขาจะได้เป็นมนุษย์ที่เป็นเจ้าของจิตใจอันงดงาม ไม่รู้จักดูถูกคนอื่น ไม่ใช้ความดีของคนอื่นมาเป็นเครื่องทำลายเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ใช่ค่ะ....ดิฉันไม่ใช่นักธุรกิจจึงไม่รู้จักการตีค่าลูกของตัวเองเป็นของมีราคาค่างวด เพราะคนเป็นครูเยี่ยงฉันลูกเป็นสิ่งสูงค่าเกินกว่าจะไปเที่ยวบอกใครต่อใครว่าเขามีค่าตัวเท่าไหร่ แต่ถ้าจะให้บอกใครต่อใครว่าความดีที่ฉันสั่งสอนให้เขาทำมีมากแค่ไหน ฉันยินดีจะบอก”

            “นี่เธอกำลังพูดส่อเสียดฉัน หาว่าฉันตีค่าลูกชายตัวเองเป็นเงินทอง เธอกล้าดียังไงมาใช้วาจาเหน็บแนมฉันแบบนี้!”

            “มิได้ค่ะ คุณหญิงปารมี ดิฉันจะไปกล้าพูดจาเสียดสีคนมียศถาบรรดาศักดิ์เช่นคุณได้อย่างไร ดิฉันเจียมตัวค่ะว่าเป็นแค่ครูจนๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มีธุรกิจพันล้าน ไม่ได้มีเงินทองล้นฟ้า...คุณหญิงวางใจเถิดค่ะ ลูกชายของคุณหญิงจะได้พบกับคนที่คู่ควร และคนๆ นั้น ....จะไม่ใช่ลักษมีลูกสาวของดิฉันอย่างแน่นอน”

            มิ่งขวัญเพียรกลืนก้อนที่แล่นขึ้นมาจากในลำคออย่างยากลำบาก ยากเหลือเกินที่จะกลั้นหยาดน้ำใสในดวงตาไว้ได้เมื่ออีกฝ่ายจากไปพร้อมความพึงพอใจในคำมั่นสัญญาที่นางมีให้ โลกนี้ช่างอยุติธรรม คนรวยกับคนจนหาได้ต่างจากผืนน้ำที่ไม่มีวันบรรจบกับแผ่นฟ้าไม่ นับจากนี้สิ่งที่ยากลำบากสำหรับมิ่งขวัญคือการที่ต้องปรับความเข้าใจกับบุตรสาวในเรื่องที่แม่ย่อมรู้ดีว่าลูกไม่มีวันเข้าใจ

            “อะไรนะคะ....แม่ว่าอะไรนะคะ”ลักษมีวางช้อนกับส้อมในมือลงทั้งที่ตักอาหารเข้าปากไม่ถึงสามคำ

            “แม่บอกให้ลูกลาออกจากที่ทำงานที่ลูกทำอยู่ และเลิกคบกับนายราชนั่น”

            “หนูหูฝาดใช่มั๊ยคะแม่ แต่แม่คะ แม่ไม่เคยเห็นราชเลยนะคะ แล้วแม่รู้......”

            “ก็เพราะแม่รู้ไง” พูดพลางน้ำก็รื้นขึ้นมาที่ดวงตา “มีมี่ฟังแม่นะ วันนี้แม่ของผู้ชายคนนั้นไปหาแม่ที่โรงเรียน เขายืนยันกับแม่ว่าเขาไม่ต้องการให้ลูกเขาคบกับคนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า....ลูกรู้ใช่มั๊ยว่าเขาหมายความว่ายังไง เขาก็หมายความอย่างที่เขาพูด ได้โปรดเถิดลูก ลูกต้องยอมรับความจริงว่าเรากับเขาต่างกันแค่ไหน เราไม่เหมือนเขา ลูก....ต้องเลิกกับผู้ชายคนนั้น”

            น้ำเสียงสั่นเครือของคนเป็นแม่ยิ่งกว่าคำสั่งประหาร ลักษมีนั่งนิ่ง ดวงตาคู่นั้นเหม่อลอย ความเจ็บปวดใดก็มิเทียบได้กับผู้เป็นแม่ มิ่งขวัญต้องสะกดความรู้สึกรวดร้าวภายในอย่างยิ่งยวดเพราะแต่ละคำที่พรั่งพรูออกมาก็เหมือนนางใช้ปลายมีดกรีดลงไปที่หัวใจตัวเองทีละแผลๆ ก็ไม่ปาน ลักษมีร้องไห้แต่ไม่ฟูมฟาย เธอยินดีทำตามที่มารดาขอร้องแม้นั่นจะหมายถึงการที่ต้องฉีกหัวใจตัวเองออกเป็นชิ้นๆ ก็ตาม แม้บุตรสาวจะมีทีท่าประหนึ่งว่ายอมรับความเจ็บปวดนั้นได้แล้ว ทว่ามิ่งขวัญกลับรู้สึกได้ถึงแรงกระเพื่อมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลักษมีไม่ได้เป็นลักษมีคนเดิมอีกต่อไป เวลาเท่านั้นที่จะช่วยเยียวยาหัวใจที่แตกสลายดวงนั้นได้

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status