ในเวลาเดียวกัน พลอยพัดชาก็กำลังนั่งดื่มด่ำกับไวน์รสเลิศริมสระว่ายน้ำในบ้านหลังใหญ่ โดยมีจินตวาตีนั่งดื่มอยู่ด้วย สองน้าหลานนั่งฟังเพลงที่เปิดจากโทรศัพท์มือถือแล้วต่อเข้ากับลำโพงบลูทูธด้วยสีหน้าผ่อนคลายทั้งคู่
“พลอยอยากให้น้าจัดการอะไรไหมล่ะ” จินตวาตีถามขึ้นเบา ๆ ทั้งที่ยังหลับตาพลางโยกศีรษะอย่างเชื่องช้าไปตามจังหวะเพลง
“น้าคิดว่าไงละ แต่พลอยไม่ซีเรียสนะเพราะพลอยไม่ใช่ดาราหรือเซเลบที่ไปไหนมาไหนจะต้องมีคนจำหน้าได้ และมีนักข่าวคอยแอบถ่ายรูปไปทำข่าว”
พลอยพัดชายิ้มอ่อน ตามองน้ำในสระที่กระเพื่อมเล็กน้อยตามแรงลมแล้วกระทบกับแสงไฟสีส้มจนเกิดเป็นประกายระยิบระยับสวยงามจับตา
“ถ้าเป็นข่าวบ่อยเข้า อีกหน่อยมันก็ไม่แน่หรอกย่ะ” จินตวาตีลืมตาขึ้นพลางเอื้อมไปหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบ
“เขาจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันล่ะ เขาก็ดังพอตัวอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ก็ไหนว่างานละครกับงานอีเวนต์เพียบ ไหนจะเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้สินค้าตั้งหลายอย่าง แต่มาอยากเป็นข่าวกับพลอยเนี่ยนะ”
จินตวาตีเงียบไปครู่หนึ่ง สักพักก็พูดขึ้นเบา ๆ
“ตาก้าวน่าจะชอบแกนะพลอย”
พลอยพัดชาแค่นยิ้ม “ก็พอมองออกอยู่บ้างแหละ ตอนงานวันเกิดน้าจินนี่ เขาก็มองพลอยตาหวานเชียว แต่ถึงเขาจะชอบพลอยยังไง ถ้ามาทำแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ พลอยถือว่าเขาไม่จริงใจ ยิ่งมาวางแผนโน่นนี่พลอยยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่ เขาคงคิดละมั้งว่าพลอยไม่รู้เรื่องรู้ราว”
“แล้วถ้าเขาไปตามจีบแกที่ร้านแล้วชวนไปกินข้าว ชวนไปนั่นไปนี่อีกล่ะ แกจะไปไหม” ผู้เป็นน้าถาม
“ไปสิ ทำไมจะไม่ไปล่ะ พลอยเคยบอกเขาแล้วว่าพลอยมองเขาเป็นเพื่อน ส่วนไอ้เรื่องที่เขาวางแผนเป็นข่าวกับพลอยนั่นก็ปล่อยให้เขาทำไป ถึงเวลาจริง ๆ เดี๋ยวเขาก็หน้าแหกไปเองนั่นแหละ เพราะถ้ามีนักข่าวหรือมีใครมาถามพลอยตรง ๆ ว่าคบกันแบบไหน พลอยก็ยืนยันคำเดิมว่าเป็นเพื่อนกันค่ะ ไม่มีอะไรกันจริง ๆ นะคะ เฮ้อ...คิดแล้วก็ตลกดีที่เขามองพลอยเป็นสาวน้อยผู้หวั่นไหวกับความอ่อนโยนของชายหนุ่มรูปงาม”
ประโยคหลัง พลอยพัดชาทำเสียงเล็กเสียงน้อยพร้อมกับทำท่าทางเหมือนกำลังแสดงละครเวที ทำเอาจินตวาตีได้แต่หัวเราะ
“เห็นยายนิ้งมันเล่าให้น้าฟังเรื่องแฟนเก่าแกมาเทียวไล้เทียวขื่อ แล้วไหนจะพ่อยอดชายนายธามอะไรนั่นอีก ตกลงยังไงกันแน่จ๊ะ แม่ไฮโซสาวเจ้าเสน่ห์ แหม...ฉันละหมั่นไส้ อีตอนไม่มีก็หายหัวไปไหนกันหมดไม่รู้ แต่พอมีขึ้นมาก็ชุกชุมเหลือเกินจนไม่รู้จะไปกับผู้ชายคนไหน เป็นฉันหน่อยไม่ได้ แม่จะฟาดให้เรียบเลย”
พลอยพัดชาหัวเราะคิกคัก ก่อนตอบว่า “พี่พัฒน์ที่เป็นแฟนเก่าน่ะ ไม่มีอะไรกันจริง ๆ น้า คุยกันปรับความเข้าใจกันแล้วและก็ตกลงเป็นเพื่อน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันนั่นแหละ ถ้าวันไหนมีโอกาสก็มากินมาดื่มกันได้ตามปกติน่ะ ส่วนพี่ธาม พลอยก็ไม่รู้ว่าจะยังไงต่อไปดี เฮ้อ...”
“ก็ถ้าไม่คิดจะคบก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา แต่ถ้าคิดจะคบ แกก็ลากขึ้นเตียงไปทดลองใช้สินค้าก่อน ถ้าสินค้าดี ขนาดคุ้มค่าคุ้มราคา ใช้งานได้ทนทานก็คบต่อ แต่ถ้ามันห่วยประเภทแบตหมดเร็ว หรือไอ้พวกที่เปิดผ้ามาแล้วต้องใช้มือคลำหา อันนั้นก็อย่าคบเชียวนะยะ เสียเวลาย่ะ เอาเงินไปซื้อกินยังฟินกว่าเยอะ”
ได้ยินอย่างนั้นพลอยพัดชาก็ยิ่งขำก๊าก ก่อนจะพูดกลั้วหัวเราะว่า
“แหม...พลอยไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้นะคุณน้าขา”
“อยากลองไหมล่ะยะ น้าจะพาไป รับประกันเลยว่ามีแต่หนุ่มหล่อ ๆ ลีลาดี ๆ กันทั้งนั้น ยิ่งถ้าหล่อนเปย์ไม่อั้น คืนนั้นหล่อนได้ขึ้นสวรรค์ทั้งคืนแน่ย่ะ สมัยนี้แล้วหล่อนไม่ต้องอาย ในนั้นมีแต่สาวสวยกระเป๋าหนักเขาไปซื้อกินเอาทั้งนั้นแหละย่ะ จะไปง้อทำไมกันอีพวกผู้ชายเล่นตัวทั้งหลาย เราทำงานเหนื่อย เราหาเงินเองได้ ทำไมจะหาความสุขใส่ตัวบ้างไม่ได้” จินตวาตีพูดยาวเหยียด ก่อนจะถามตบท้ายมาอีกว่า
“ตกลงจะไปไหมยะ ถ้าไปพรุ่งนี้ก็เตรียมตัว”
“เชิญคุณน้าตามสบายเลยเจ้าค่ะ” พลอยพัดชายิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี พลางเอื้อมไปหยิบขวดไวน์มาเทใส่แก้วให้ผู้เป็นน้า ครั้นพอนึกถึงธาม เธอก็เหยียดยิ้มมุมปากพลางพูดว่า
“ความจริงแล้วการที่พลอยเป็นข่าวกับคุณก้าวก็ดีเหมือนกันนะน้าจินนี่ เพราะพลอยอยากยั่วใครบางคนน่ะ น้าเคยบอกพลอยหลายครั้งแล้วว่าให้เลิกตามพี่ธาม เลิกสนใจเขา ยายนิ้งก็บอกแบบนี้เหมือนกัน พลอยก็เลยลองทำดูทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าจะออกหัวหรือออกก้อย” เธอหยุดพูดแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นจิบอึกหนึ่ง ก่อนพูดต่อ
“พลอยอยากรู้ว่าถ้าพลอยหายหน้าไป พี่เขาจะรู้สึกอะไรบ้างรึเปล่า ถ้าเขาเฉย ๆ พลอยก็ต้องตัดใจให้ได้ แต่ถ้าเขาเป็นฝ่ายมาตามพลอยบ้าง พลอยก็จะเอาคืนเขาให้ยิ่งกว่าที่เขาเคยทำกับพลอยไว้เป็นสองเท่าเลย พอดีกับที่ช่วงนี้พี่พัฒน์กลับจากเมืองนอก แล้วไหนจะเป็นข่าวกับคุณก้าวอีก มันโป๊ะเชะเลยใช่ไหมละ พลอยอยากรู้จริง ๆ ว่าพี่เขาจะรู้สึกอะไรบ้างรึเปล่า ให้รู้เสียบ้างว่าพลอยไม่ใช่ของตาย พลอยก็มีทางไปเหมือนกัน”
“มันต้องอย่างนี้สิคะ หลานสาวคนสวยของน้า น้าเลี้ยงเธอมาให้เธอเป็นสาวมั่น ให้เธอท่องหน้ากระจกกับตัวเองทุกวันว่าฉันสวย รวย เริ่ด เธอก็เป็นได้อย่างที่น้าต้องการเลย น้าภูมิใจในตัวเธอจริง ๆ แม่เด็กน้อยของน้า”
จินตวาตีเอนศีรษะไปซบกับศีรษะของพลอยพัดชาพร้อมกับลูบเบา ๆ อย่างแสนรัก ใครจะเชื่อว่าเธอจะเลี้ยงดูเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งให้เติบโตมาเป็นหญิงสาวผู้เพียบพร้อมได้ขนาดนี้ ต้องขอบคุณแรงกดดัน และคำสบประมาทต่าง ๆ นานาจากญาติห่าง ๆ ที่ต่างพากันพูดว่าสาวประเภทสองอย่างเธอน่ะหรือจะเลี้ยงหลานให้ดีได้ ทว่าตอนนี้เธอทำให้คนพวกนั้นได้เห็นด้วยตาตนเองแล้ว
พลอยพัดชาเอื้อมหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองมาเปิดเครื่องเพราะปิดเอาไว้ตั้งแต่ขับรถออกมาจากโรงแรม ครั้นพอเครื่องมีสัญญาณแล้ว ข้อความต่าง ๆ ก็เด้งเข้ามารัว ๆ หลายข้อความ จนหญิงสาวต้องมาไล่อ่านไปทีละคน และหนึ่งในนั้นก็มีข้อความจากธามรวมอยู่ด้วย
‘วันนี้พี่รอพลอยเป็นชั่วโมงแน่ะ นึกว่าพลอยจะขึ้นมาหาพี่’
‘พรุ่งนี้พี่ต้องไปพัทยาสองวันนะ แล้วพี่จะโทรมาหา รับสายพี่หน่อยละกัน’
พลอยพัดชาเหยียดยิ้มเมื่ออ่านข้อความเหล่านั้นจบ เมื่อก่อนคนที่ต้องพิมพ์ข้อความเหล่านั้นคือเธอ แม้จะรู้ว่าต่อให้ส่งข้อความไปมากเท่าไร ธามก็ไม่เคยตอบกลับมาเลยแม้แต่ข้อความเดียว เวลาเธอขึ้นไปชวนเขากินข้าวกลางวันหรือไปดินเนอร์ น้อยครั้งที่เขาจะรับปากยอมไปด้วย แค่นั้นเธอก็ดีใจจนยิ้มได้ทั้งวันแล้ว
เกมนี้คงต้องลองดูสักตั้ง เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าพอมาสลับตำแหน่งกันอย่างนี้ ผู้ชายถือตัวอย่างธามจะทนตามเธอได้สักกี่น้ำกัน
ธามยืนมองพื้นที่กว้างใหญ่ตรงหน้าด้วยแววตาครุ่นคิด ที่ดินตรงนี้ไถกลบหน้าดินเรียบร้อยแล้ว แบบแปลนการก่อสร้างต่าง ๆ ล้วนพร้อมที่จะลงมือได้ทันที เพราะทรัพยากรทุกอย่างตระเตรียมเอาไว้พร้อมหมด ขาดก็แค่ลายเซ็นอนุมัติจากบิดาของเขา ซึ่งเขายังดึงเรื่องเอาไว้อยู่เพราะอยากดูท่าทีจากบริษัทที่รับผิดชอบในการรับเหมาก่อสร้าง และก็ไม่ผิดไปจากที่คาดเท่าไรนักเพราะกฤษณ์ บิดาของกนกลดาส่งบุตรสาวมาคอยเทียวไล้เทียวขื่อเขาบ่อย ๆ หวังให้เขากับกนกลดาลงเอยกันในแบบคนรัก เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจในอนาคต
ชายหนุ่มได้แต่แค่นยิ้มอย่างดูแคลน...เห็นเขาเป็นพวกบ้าผู้หญิงไปได้!
“อ้าว ว่าไงพ่อธาม มานานรึยัง”
เสียงคุ้นหูของชายวัยกลางคน ทำให้ธามต้องหันไปมองเจ้าของเสียง เมื่อเห็นว่าเป็นพิษณุ หุ้นส่วนและผู้บริหารคนหนึ่งของลักซ์ แกรนด์ มิราจ สาขาภาคตะวันออก เขาจึงยกมือไหว้อีกฝ่ายในฐานะที่พิษณุอาวุโสกว่า
“เพิ่งมาไม่นานครับ ผมเห็นว่าอีกหลายชั่วโมงกว่าจะประชุม ก็เลยขับรถมาดูที่นี่ก่อน แล้วคุณอามาทำอะไรที่นี่หรือครับ” เขาถามไปอย่างนั้น เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นชวนคุยเรื่องอะไรก่อน แต่พิษณุก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเองตามคาด
“วันนี้พวกคนงานจะเริ่มมาก่อสร้างเพิงพักคนงานแล้วน่ะ ตรงที่เขาปักธงแดง ๆ โน่นน่ะเห็นไหม เมื่อวานอาให้ซินแสมาช่วยดู เขาบอกว่าฤกษ์งามยามดีในการลงเสาเอกคือวันพฤหัสนี้นะ ไม่งั้นคงต้องรอกันอีกหลายเดือนเลย”“งั้นหรือครับ” ธามยิ้มมุมปาก ไม่ได้มีท่าทีเห็นด้วยหรือตื่นเต้นกับข้อมูลที่ได้รับรู้เลยแม้แต่น้อย“วันพฤหัสงั้นหรือ ก็อีกแค่สองวันนี่เองสิ เร็วไปรึเปล่าครับ ท่านประธานใหญ่ยังไม่ได้เซ็นอนุมัติก่อสร้างเลย”บิดาของเขายังไม่ได้เซ็นอนุมัติ แต่คนทางนี้กลับกระเหี้ยนกระหือรืออยากเร่งก่อสร้างเต็มที ถ้าไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ที่กฤษณ์ บิดาของกนกลดาเสนอให้อย่างเป็นกอบเป็นกำ พิษณุก็คงไม่ตื่นตัวขนาดนี้“เฮ้อ...อย่าหาว่าอาสอนเลยนะตาธาม เราก็รู้กันอยู่ว่าอย่างไรเสียโครงการรีสอร์ตสวนน้ำก็ต้องก่อสร้างอยู่วันยังค่ำ ในเมื่อตอนนี้บริษัทเคบี บิลท์เขาประมูลงานได้ราคาต่ำสุด ตามกฎธุรกิจแล้วเราก็ต้องว่าจ้างเขาอยู่ดี”“เรื่องนั้นผมรู้ดีครับ แต่งานนี้สำคัญมาก ผมกับคุณพ่อก็ต้องพิจารณานานหน่อย เอกสารทางกฎหมายและสัญญาต่าง ๆ ก็ต้องรอ
“เชิญค่ะ จะไปพร้อมกันตอนนี้เลยไหมคะ สถานีตำรวจอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไร ขับรถไม่เกินสิบนาทีก็ถึง ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจอดรถไว้ที่ไหนคะ”พลอยพัดชาพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสุภาพราบเรียบ สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ขณะที่ฝ่ายลูกค้านั้นแสดงท่าทางเกรี้ยวกราดเต็มที่ อีกทั้งยังชี้หน้าพลอยพัดชาพร้อมกับพูดว่า“ฉันจะไปแจ้งตำรวจ คอยดูเถอะฉันจะทำให้ร้านของแกเสียชื่อเสียงจนไม่มีคนมาซื้อเลยเพราะขายของปลอมทั้งร้าน” อีกฝ่ายขู่เสียงดังลั่นร้าน แต่พลอยพัดชาก็ยังคงนิ่ง“แต่ถ้าแกไม่อยากเสียชื่อก็คืนเงินฉันมา เรื่องทุกอย่างก็จบ ฉันจะไม่เอาเรื่องเอาราว ฉันเสียเงินหลายหมื่นก็อยากได้ของดี ๆ แต่พวกแกเอาของปลอมมาหลอกขายแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน คืนเงินฉันมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”พลอยพัดชามองมือที่อีกฝ่ายแบมาตรงหน้าตนพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มอ่อนแล้วพูดว่า“คงไม่ได้ค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วตอนต้นว่าร้านเราขายของแท้เท่านั้น ถ้าคุณต้องการจะขายคืนให้กับทางร้าน คุณก็ต้องเอาสินค้าของร้านเรามาคืนค่ะ แต่แหวนวงนี้ไม่ใช่ของที่ร้าน
“ใบเซอร์นี้น่ะ เราให้สถาบันอัญมณีศาสตร์ทำการตรวจสอบให้โดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งคุณตำรวจสามารถเอาเอกสารตัวนี้ไปเช็กตามที่อยู่ด้านหลังได้เลยว่าใบเซอร์นี้เป็นของแท้รึเปล่า และที่สำคัญก็คือรายละเอียดในใบเซอร์จะบอกน้ำหนัก และความกว้างยาวของพลอยเอาไว้ค่อนข้างละเอียด แต่พลอยเม็ดนี้” พูดถึงตรงนี้ พลอยพัดชาก็หยิบแหวนวงที่เป็นปัญหาขึ้นมาให้ตำรวจดู ก่อนจะพูดต่อ“สามารถเอาไปเช็กได้เลยค่ะว่าน้ำหนักและขนาดของมันตรงตามใบเซอร์รึเปล่า แหม...พูดแล้วก็คันปาก ขอเล่านิดนะคะคุณตำรวจ เมื่อก่อนที่ร้านก็เคยเจอปัญหาแบบนี้ค่ะ มีลูกค้าคนหนึ่งซื้อของจริงจากร้านไป พอสองสามวันถัดมาก็เอาของปลอมมาโวยวายบอกว่าจะเอาเงินคืน เพราะสร้อยนั้นเป็นพลอยปลอม แต่สุดท้ายทางร้านก็พิสูจน์ได้ว่าเจอพวกต้มตุ๋น ก็เลยโดนร้านเราฟ้องเรียกค่าเสียหายหลายล้านเชียวค่ะ”พลอยพัดชาจีบปากจีบคอพูด ขณะที่พูดก็สังเกตสีหน้าของคู่กรณีไปด้วย ซึ่งแววตาของอีกฝ่ายดูหลุกหลิกก่อนจะชี้หน้าต่อว่าเธอเสียงดังลั่น“แกหาว่าฉันเป็นพวกต้มตุ๋นหรือ ฉันจะแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท คุณตำรวจคะ...”“อุ๊ย! ฉ
พลอยพัดชาต้องไปรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อเอามาฟาดยายสิบแปดมงกุฎคนนั้น ร้านพัดชา เจมส์เปิดมาหลายปีแล้ว ฉะนั้นพลอยทุกเม็ด แหวนทุกวงย่อมตรวจสอบที่มาที่ไปได้ ตั้งแต่ช่างทำตัวเรือน ช่างเจียระไน ไปจนถึงแหล่งที่มาของพลอยเม็ดนั้น ๆ ว่ามาจากบ่อไหน ประเทศอะไร และที่สำคัญ ช่างจิวเวลรี่แต่ละคนก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวใส่ลงไปในเนื้องานอีกด้วยเมื่อกลับถึงร้านพัดชา เจมส์ หญิงสาวก็พบว่ากวินภพมานั่งรออยู่ในร้านก่อนแล้ว“อ้าวคุณก้าว มานานรึยังคะ จะมาไม่เห็นโทร. มาบอกพลอยก่อน พลอยก็เอ้อระเหยอยู่ที่สน. ตั้งนาน” ความจริงแล้วเธอต่อว่าเขาทางอ้อม เพราะการที่เขาจะมาหาเธอที่ร้านก็ควรโทรศัพท์มาบอกก่อนล่วงหน้า ไม่ใช่นึกอยากมาก็มาราวกับคนสนิทกันมาก เพราะขนาดเพื่อนสนิทอย่างนลินทรายังโทร. มาถามเธอก่อนทุกครั้งเลยว่าอยู่ร้านหรือเปล่า“ผมต้องขอโทษด้วยครับที่มาโดยไม่บอกกล่าว คือผมมาทำธุระแถวนี้น่ะก็เลยลองแวะมาหาคุณพลอยดู ถามน้อง ๆ เขาก็บอกว่าคุณพลอยไปแจ้งความที่สน. ผมเลยนั่งรอ แล้วนี่...คุณพลอยไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ”ชายหนุ่มมีสีหน้าเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด พลอยพัดชายิ้
พลันนั้น จู่ ๆ เขาก็เกิดความคิดห่าม ๆ ขึ้นมาว่าถ้าพลอยพัดชามาเต้นแบบนี้ให้เขาดูต่อหน้าบ้างจะเป็นอย่างไร คงต้องเซ็กซี่มากเป็นแน่ แต่ที่สำคัญคือเขาคงไม่สามารถทนดูจนจบได้ เพราะเขาคงจัดการกินเธอจนเรียบเสียก่อนหลังการแสดงจบลง ธามหยิบธนบัตรใบสีเทายื่นให้พนักงานเสิร์ฟเพื่อนำไปให้สาวนักเต้นบนเวที แต่พนักงานคนนั้นกลับถามว่า“ออฟไหมพี่”ธามส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ทิปเฉย ๆ เพราะเขาเต้นสวยดี”แต่หลังจากที่หญิงสาวคนนั้นได้เงินค่าทิปไปแล้ว เจ้าตัวกลับลงมานั่งคุยเป็นเพื่อนกับสองหนุ่มอยู่เป็นนาน ธามจึงเลี้ยงเบียร์เธอไปอีกสามขวด เพราะเขาเข้าใจดีว่าหญิงสาวจะได้เงินจากตรงนี้อีกด้วยธามกับศตายุปล่อยให้สาวนักเต้นคลอเคลียใกล้ชิดอย่างจงใจ เพราะศตายุสังเกตเห็นว่ามีผู้ชายสองคนคอยลอบมองมาทางโต๊ะของเขาอยู่หลายครั้ง เขาจึงแอบสะกิดเพื่อนและส่งสายตาให้อย่างรู้กันคืนนั้น หลังจากที่พลอยพัดชาอาบน้ำเสร็จและเตรียมตัวจะเข้านอน เสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีข้อความส่งเข้ามาทางไลน์ ตอนแรกหญิงสาวค
“พี่มาทำอะไรแถวนี้เนี่ย” ธามเห็นสายตาที่พลอยพัดชามองมาด้วยความสงสัย เขาไม่ทันได้นึกคำตอบดี ๆ ไว้เพราะไม่คิดเช่นกันว่าจะเจอเธอที่นี่ จึงยกมือไหว้ผู้ชายที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานก่อนเพราะอีกฝ่ายอาวุโสกว่า ก่อนจะตอบไปว่า“คือว่า...วันนี้พี่ว่างน่ะก็เลยขับรถเล่นมาเรื่อย ๆ จนมาถึงจันทบุรี นึกขึ้นได้ว่าแถวนี้มีตลาดพลอยอยู่ก็เลยลองแวะเข้ามาดู ไม่คิดว่าจะเจอเราที่นี่เหมือนกันนะเนี่ย”ธามได้แต่คิดในใจว่าช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้ เขายิ้มให้เธอบาง ๆ แต่เห็นแววตาของหญิงสาวที่เขม้นมองเหมือนไม่เชื่อที่เขาพูดออกไปเลยแม้แต่น้อย และต้องการคาดคั้นเอาคำตอบให้ได้ เขาจึงต้องรีบเบี่ยงเบนความสนใจของเธอทันที“ไหน ๆ ก็เจอกันแล้ว แถวนี้มีอะไรอร่อย ๆ แนะนำพี่บ้างไหม พี่ว่าเราไปหาอะไรกินกันเถอะ”“หนูพลอยกินอะไรมารึยังล่ะ ไปกินกับเพื่อนก่อนก็ได้ บะหมี่เกี๊ยวตรงหัวมุมฝั่งโน้นอร่อยนะ พาเพื่อนไปกินสิ” ประสิทธิ์แย้มยิ้มอย่างใจดี ราวกับมองออกว่าชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้สนใจพลอยพัดชา จึงคิดสนับสนุนเต็มที่พลอยพัดชาครุ่
“ถ้างั้นสนใจอยากไปเที่ยวภูเก็ตไหมล่ะ ที่พักกับอาหารฟรีทุกมื้อเพราะพักโรงแรมพี่เอง ชวนคุณนิ้งไปเที่ยวด้วยกันก็ได้ เพราะถ้าคุณนิ้งไป เจ้าซีเพื่อนพี่มันต้องตามไปด้วยแน่นอน”พลอยพัดชาช้อนตาขึ้นมองเขา เห็นเพียงสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอาการใด ๆ ราวกับว่าเมื่อครู่เขากำลังชวนออกไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้ออย่างไรอย่างนั้น เห็นแล้วก็รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขาคงคิดกระมังว่าถ้าเอ่ยปากชวนแล้วเธอจะต้องตอบรับทันทีด้วยความดีอกดีใจ...คนหลงตัวเอง!แม้ในใจจะลอบต่อว่าเขาอย่างนั้น แต่พอเห็นชามก๋วยเตี๋ยวของเขาที่มีกระเทียมเจียวเยอะจนผิดปกติ และรู้ดีว่าธามไม่ชอบกิน พลอยพัดชาจึงพูดขึ้นตามความเคยชิน“พี่ธามตักกระเทียมเจียวมาใส่จานพลอยก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องเขี่ยไปเขี่ยมา” เธอพูดจบ ธามก็ยิ้มทันที“นอกจากคนในครอบครัวของพี่แล้วก็มีพลอยนี่แหละที่รู้ใจพี่ที่สุด” เขาตักกระเทียมเจียวเหล่านั้นมาใส่ในจานของเธอโดยที่รอยยิ้มยังเกลื่อนใบหน้าแต่พลอยพัดชาหารู้ไม่ว่า เป็นธามเองที่เดินไปบอกคนทำก๋วยเตี๋ยวว่าให้ใส่กระเทียมเจียวมากหน่อย!พลอยพั
“ฉันไม่น่ายอมรับปากทำเรื่องนี้ให้คุณเลย” เธอไม่น่าเอาคอตัวเองไปพาดเขียงแบบนั้น ตอนแรกที่รับปากก็เพราะเห็นว่าค่าจ้างดี อีกทั้งยังได้แหวนพลอยล้อมเพชรของแท้เอามาขายต่อได้อีกด้วย ตอนที่เธอไปซื้อแหวนวงนั้นในร้าน เธอเห็นว่าเจ้าของร้านเป็นเพียงหญิงสาวอายุยี่สิบต้น ๆ ดูแล้วน่าจะหลอกต้มได้ง่าย สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าเธอเจอของแข็งเข้าให้แล้ว“หึ! แต่คุณก็รับปากและลงมือทำไปแล้ว แค่นี้นะ มีธุระ”ปลายสายวางหูไปแล้ว แต่เธอยังคงเดินวนเวียนอยู่ในห้องพักของตัวเองอย่างร้อนรน สัญชาตญาณกำลังบอกว่าอีกไม่นานเธอจะเจอปัญหาใหญ่แน่นอน“หนูกับธามเป็นยังไงบ้างลูก ไปถึงไหนกันแล้ว” เสียงทุ้มจากบิดา ทำให้กนกลดาเงยหน้าจากเอกสารบนโต๊ะ หญิงสาวเอนหลังพิงพนักเก้าอี้พลางถอนหายใจแผ่ว ก่อนพูดว่า“คงยากค่ะคุณพ่อ พี่ธามเขา...ยังไงดีล่ะ”เธอไม่รู้จะนิยามผู้ชายอย่างธามว่าอย่างไรดี เขาไม่ใช่คนโลเลหรือหวั่นไหวง่าย อีกทั้งเธอยังรู้สึกว่าเขาเว้นระยะห่างกับเธอไว้ประมาณหนึ่งเสมอ คือไม่สนิทสนมเกินไป แต่ก็ไม่ถึงกั
“พลอย” เขาเรียกเธอเสียงพร่า หญิงสาวจึงแกล้งละเลงลิ้นลงบนกล้วยอีกครั้งพลางตอบรับเบา ๆ“ขา พี่อยากทำงานก็ทำไปสิคะ พลอยก็แค่...หิว”พูดจบเธอก็ส่งกล้วยเข้าปากไปอีกครั้ง และเช่นเคยที่เธอไม่ยอมกัดกินมัน แต่กลับเอาออกมาแล้วส่งเข้าไปใหม่อีกสองสามครั้ง จนในที่สุดธามก็พับหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงเพื่อปิดเครื่อง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง“อุ๊ย!” สายตาของพลอยพัดชาหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงเขาทันที เพราะตอนนี้มันเป็นรูปเป็นร่างจนเห็นเด่นชัด“ตื่นแล้วอะ ทำยังไงดีน้า” หญิงสาวใช้นิ้วชี้ลากเบา ๆ ไปตามรอยที่นูนขึ้นมาอย่างยั่วเย้า“ยั่วเก่งดีนักนะ แล้วอย่ามาบ่นละกันว่าปวดขาปวดเอว”เขาพูดจบก็คว้าสูทมาพาดไว้ที่แขนเพื่อเป็นการบังเป้ากางเกงไปด้วย มืออีกข้างก็โอบเอวภรรยาจอมยั่วพลางกระซิบว่า“กล้วยนี้มันไม่อร่อยหรอก ขึ้นไปกินกล้วยกับพี่บนห้องดีกว่า อร่อยกว่าเยอะแถมกินได้ไม่อั้น”พลอยพัดชายิ้มกริ่มพลางทิ้งกล้วยหอมนั้นลงถังขยะทันที จากนั้นก็เดินตามสามีออกจากห้องทำงานแล้วขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบนสุ
สองปีต่อมาพลอยพัดชามองเงาตัวเองในกระจกแล้วอดยิ้มไม่ได้ ตอนนี้พุงของเธอป่องมากราวกับลูกโป่งใบใหญ่ เธอตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว อีกไม่นานก็จะได้เจอหน้าสาวน้อยที่อยู่ในพุง หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นเสียจนแทบนับวันถอยหลังรอแต่คนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อ เพราะตั้งแต่รู้ว่าเด็กในครรภ์เป็นลูกสาว ธามก็ลงทุนจัดห้องไว้รอรับด้วยตัวเอง ตั้งแต่ทาสีผนังเป็นสีชมพูอ่อน ซื้อเตียงและเปลเจ้าหญิงเอาไว้รอ รวมถึงเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ล้วนเป็นสีชมพูและไม่ใช่แค่ธามเท่านั้นที่เตรียมห้องไว้รอบุตรสาวคนแรก จินตวาตีก็เช่นกันที่จัดเตรียมห้องไว้รอต้อนรับหลานสาวคนแรกที่จะได้เรียกตนว่าคุณยายหญิงสาวหยิบโลชั่นสำหรับกันรอยแตกลายมาทาเบา ๆ ที่หน้าท้อง เพราะแม้จะใกล้ได้เป็นคุณแม่แล้ว แต่ร่างกายส่วนอื่นของพลอยพัดชาก็ยังคงสภาพเดิม มีเพียงหน้าอกเท่านั้นที่ขยายใหญ่ขึ้นมาอีกเล็กน้อยเพื่อเป็นแหล่งอาหารของเจ้าตัวเล็กในครรภ์ทว่าตอนนี้คนที่ดูจะคลั่งไคล้กับหน้าอกที่ขยายใหญ่ขึ้นของเธอเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นสามีของเธออ้อมกอดอบอุ่นจากด้านหล
พลอยพัดชากับนลินทรายืนมองผืนน้ำสีเขียวมรกตด้วยแววตาระยิบระยับ นานมากแล้วที่ไม่ได้มาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ เพราะฉะนั้นมาทะเลครั้งนี้พวกเธอจะต้องเก็บเกี่ยวความสุขเอาไว้เติมพลังชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้“พี่ธามไปไหนน่ะ” นลินทราถามถึงแฟนหนุ่มของเพื่อน“ไม่รู้สิ เห็นมีโทรศัพท์มาเมื่อกี้แล้วก็เดินไปคุยที่อื่นน่ะ” พลอยพัดชาตอบก่อนจะหันไปโบกมือให้จินตวาตีที่กำลังนั่งทาครีมกันแดดอยู่ในที่ร่ม“น้าจินนี่เอาชุดว่ายน้ำกับพร็อพมาเพียบเลยแก ทั้งหมวกเอย ผ้าคลุมเอย คือนางไม่ได้จะมาเล่นน้ำหรอก แต่จะมาเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ เห็นบอกว่าจะเก็บไว้ดูตอนแก่” พลอยพัดชาได้ที จึงแอบเม้าท์ผู้เป็นน้า“ว่าแต่น้าจินนี่ ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะยะ มาเที่ยวแค่สี่วันแต่กระเป๋าเดินทางตั้งสองใบ อีบ้า ทำอย่างกับจะมาอยู่เป็นเดือน” นลินทราค้อนให้เพื่อน พลอยพัดชาจึงได้แต่หัวเราะคิกคักทั้งสองสาวเห็นว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกมาที่ชายหาดกันบ้างแล้วจึงหันไปมองหน้ากัน“ฉันว่าเราไป
“เจ้าค่า...คราวนี้ก็ออกกันยกแผงเลยสิคะ”“ใช่ ตอนนี้ให้ฝ่ายบุคคลของส่วนกลางประกาศรับพนักงานใหม่แล้ว ส่วนคนที่จะไปแทนตำแหน่งของพิษณุกับโชคชัยนั้น พี่ว่าจะลองคุยกับคุณพ่อดูว่าจะคัดเลือกคนเก่ง ๆ ของที่นี่ไปประจำอยู่สาขานั้นดีไหม ถือเป็นการเลื่อนตำแหน่งไปในตัว แล้วพลอยล่ะเป็นไงมั่ง”“ตอนนี้ที่ร้านได้พนักงานใหม่มาเพิ่มแล้วค่ะ หน่วยก้านดีใช้ได้ ไลฟ์สดเก่งด้วยเพราะเขาเคยไลฟ์ขายเสื้อผ้ามาก่อนก็เลยคล่องมากตอนอยู่หน้าจอ ส่วนน้าจินนี่อาการดีขึ้นมากแล้ว เริ่มให้พวกพี่เลี้ยงที่ดูแลศิลปินเข้าไปคุยเรื่องงานโดยตรงในห้องพักได้แล้วค่ะ เพราะจะได้ช่วยฟื้นความจำด้วย”“พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงไอ้ก้าว ตอนนี้ฝากขังไว้ที่เรือนจำแล้วละ รอศาลตัดสินโทษ แต่คิดว่าคงติดคุกไม่นานหรอก ไม่กี่ปี แต่เรื่องของเพื่อนพลอยนี่สิ กว่าคดีจะเสร็จสิ้นคงอีกนานเลย น่าจะเป็นปี”พลอยพัดชาได้ยินอย่างนั้นก็รู้ทันทีว่าเขาหมายถึงกนกลดา“ว้าย อย่ามาพูดอย่างนี้นะ นางไม่ใช่เพื่อนพลอยสักหน่อย แค่คนรู้จักยังไม่อยากจะเป็นเลย เท่ากับว่าตอนนี้นางกับพ่อก็ยัง
พลอยพัดชาตื่นขึ้นมาช่วงสายเพียงลำพังบนเตียงนอนหลังใหญ่ ไม่รู้ธามไปไหน แต่เดาว่าเขาคงลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสของโรงแรมตามเคยหญิงสาวพาร่างที่เมื่อยขบของตนไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ครึ่งชั่วโมงถัดมาเธอก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยความสดชื่น แต่แล้วสายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่กล่องกำมะหยี่สีแดงกล่องใหญ่บนเตียง ดูแล้วเหมือนกล่องใส่เครื่องประดับที่สามารถใส่ได้หลายชิ้นทั้งแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล และต่างหู“หรือว่าจะเป็นกล่องใส่นาฬิกาของพี่ธาม” เธอรู้ว่าธามเป็นคนที่ชอบสะสมนาฬิกา ก็เลยคิดว่าเขาคงหยิบมาเลือกใส่จึงไม่ได้สนใจมันอีก จากนั้นก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดของตนออกมาสวม“จะไม่เปิดดูหน่อยหรือ” เสียงทุ้มดังขึ้นจากหน้าประตูห้องนอน หญิงสาวจึงหันไปมองตามเสียง ธามยืนเปลือยท่อนบน ใส่เพียงกางเกงลำลองอยู่บ้านสบาย ๆ กำลังยืนกอดอกและส่งยิ้มมาให้“กล่องนาฬิกาของพี่ธามรึเปล่าล่ะคะ”“ไม่ใช่ กล่องนั้นของพลอยทั้งกล่องเลย”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ถามจริง”เธอแขวนชุดไว
“เม็ดสีเหลืองคือพลอยปลอม วิธีสังเกตอย่างง่ายเลยก็คือให้ดูประกายของมันเวลาส่องกับแสง ถ้ามีประกายรุ้งคือปลอมชัวร์ เป็นพลอยที่สังเคราะห์ขึ้นมา และอีกวิธีที่สังเกตด้วยตาเปล่าได้ก็คือให้ดูที่เส้นของพลอย พลอยบางเม็ดมันจะมีเส้นตรงเรียง ๆ กันเป็นแถบให้เห็นกันเลย แต่บางเม็ดเราก็อาจจะต้องใช้ลูปหรือกล้องส่องพระขยายดูข้างในว่ามันมีเส้น ๆ พวกนี้ไหม จำไว้ว่าต้องเป็นเส้นตรงเท่านั้น ถ้ามีเส้นโค้งให้เห็นนั่นคือปลอม และถ้าใช้ลูปส่องดูแล้วมีฟองอากาศหรือรูปร่างกลม ๆ เหมือนโดนัทกระจายอยู่ นั่นก็ปลอมเหมือนกัน” พลอยพัดชาลองให้วนิตาใช้ลูปส่องพลอยดูด้วยตัวเอง“เส้นหรือแถบสีในเนื้อพลอยมันก็เหมือนลายนิ้วมือของคนเรานั่นแหละ แต่ละเม็ดก็จะแตกต่างกันไป ไม่มีเม็ดไหนที่เหมือนกันหรอก”พลอยพัดชาอธิบายพลางเดินไปหยิบถ้วยสีขาวในตู้มารองน้ำแล้วกลับมานั่งที่เดิม“และอีกวิธีที่ง่ายในการดูด้วยตาเปล่าก็คือการจุ่มน้ำ” เธอหยิบพลอยเม็ดสีเขียวมาจุ่มลงไปในน้ำแล้วถามว่า“นิตาเห็นอะไรไหม”“เห็นค่ะ มันเป็นแถบสีเป็นเส้น ๆ” วนิตาตอบ&
“ถ้าไม่มีผมก็ขอปิดประชุมครับ อ้อจริงสิ ผมลืมไป ผู้ช่วยคุณพิษณุกับคุณโชคชัยอย่าลืมไประงับการก่อสร้างเอาไว้นะครับ ส่วนคนงานพวกนั้นก็ให้กลับบ้านไปได้เลยเพราะเป็นคนของเคบี บิลท์ และเพิ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยอีกสี่คนเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน”ธามพูดจบก็หันไปพยักหน้ากับบิดา จากนั้นก็พากันลุกเดินออกไปจากห้องประชุมทันที ซึ่งหลังจากคล้อยหลังคนทั้งสามแล้ว ในห้องประชุมก็มีแต่เสียงโอดครวญเพราะรู้อนาคตของตัวเองแล้วว่าจะเป็นอย่างไรกฤษณ์กลับถึงบ้านด้วยสีหน้าเครียดขึ้ง กนกลดาจึงรีบเดินมาหาบิดาทันที“เป็นไงบ้างคะคุณพ่อ”“มันมีหลักฐานครบทุกอย่างเลย งานนี้เราจบแน่”“แล้วเราจะทำยังไงดีคะ เราต้องติดคุกหรือคะคุณพ่อ” กนกลดาถามเสียงสั่น กฤษณ์ยืนใช้ความคิดครู่หนึ่งก็บอกบุตรสาวว่า“เราต้องหนีไปต่างประเทศแล้วละ แต่ก่อนอื่นเราต้องหาทางถ่ายโอนทรัพย์สินและเงินทั้งหมดไปไว้กับป้าของแกก่อน ไม่อย่างนั้นเราถูกยึดทรัพย์หมดตัวแน่”“แล้วพวกพนักงานที่บริษัทล่ะคะ”
“ว่าไงครับ ทำไมเงียบกันล่ะ” ธามยิ้มมุมปาก เพราะเข้าใจดีว่าพิษณุกับโชคชัยคงกำลังสงสัยและกังวลไม่น้อยว่าเขารู้อะไรมาบ้าง แต่ด้วยความที่วางตัวเป็นคนใหญ่คนโตมานานเกินไป จึงได้แต่เชิดหน้าอย่างหยิ่งผยอง“เธอมาไล่บี้กับพวกอาอย่างนี้ไม่ถูกนะ รู้ไหมว่าสมัยที่พ่อเธอ...” โชคชัยทำท่าขึงขัง แต่ธามไม่เปิดโอกาสให้พูดจบ“พ่อผมก็ส่วนพ่อผมครับไม่เกี่ยวกัน นั่นมันสมัยเมื่อกี่สิบปีมาแล้วล่ะ คนเรามันต้องเดินหน้าครับ ธุรกิจก็เช่นกัน ยิ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการโรงแรมหรือการท่องเที่ยวยิ่งย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ ทุกอย่างต้องเห็นแก่ประโยชน์ขององค์กรเป็นหลักครับไม่ใช่ตัวบุคคล ไอ้ระบบพวกมากลากไปหรือระบบผู้อาวุโสต้องถืออภิสิทธิ์เหนือคนอื่น คิดอยากจะมาทำงานวันไหนก็มาแต่เงินเดือนรับเต็มเดือน แล้วก็พวกใช้เส้นสายยัดญาติพี่น้องตัวเองเข้ามาทำงานแล้วแต่งตั้งตำแหน่งกันเอง ผมบอกตรงนี้เลยว่าผมไม่เอา”ชายหนุ่มลากเก้าอี้ออกแล้วหย่อนตัวลงนั่งพลางกวาดตามองหน้าผู้เข้าร่วมประชุมไปทีละคนอย่างช้า ๆ เพราะคนเหล่านี้ล้วนแต่ถืออภิสิทธิ์ชนทั้งสิ้น บางคนมาทำง
“คุณพ่อว่าไงนะ พี่ธามพาทีมวิศวกรมาตรวจเองโดยไม่บอกใครหรือคะ” กนกลดาถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าเมื่อครู่ตนไม่ได้หูฝาด“ก็ใช่น่ะสิ แสดงว่ามันคอยสบโอกาสเล่นงานเราอยู่แน่ ๆ”กฤษณ์หงุดหงิดจนไม่สามารถนั่งอยู่เฉย ๆ ได้ ต้องลุกเดินไปเดินมาเพื่อคลายความร้อนรุ่มในใจ“แต่ดาว่าก็แค่ตัวเลขบางจุดไม่ตรงกันกับคราวก่อน เขาไม่น่าจะเล่นงานเราได้นะคะ”“เฮอะ! นี่แกคิดว่าคนอย่างไอ้ธามมันจะจ้างทีมวิศวกรลงมาตรวจงานเล่น ๆ หรือ มันทำแบบนี้ก็หมายความว่ามันมีหลักฐานที่สามารถเอาผิดพวกเราได้อยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว”กนกลดานิ่งไปทันทีที่ได้ยินบิดาพูดจบ “แล้วนี่เราจะทำยังไงกันดีคะ หรือถ้าเราไม่ยอมรับเสียอย่าง เขาจะทำอะไรเราได้ คุณพ่อคิดว่าหลักฐานที่เขามีจะทำให้เราล้มได้เลยหรือ”กฤษณ์หันมามองหน้าบุตรสาวครู่หนึ่งแล้วพูดว่า“ถ้าพวกเราไม่ล้มแล้วมันจะทำอย่างนี้ไปทำไม”เขาพยักหน้าช้า ๆ เมื่อนึกถึงสีหน้าเย็นชากับสายตาที่เป็นอริของธามยามมองมาที่ตน“ไอ้ธามมันอดทนอดกลั้นได้ด