“ฉันไม่น่ายอมรับปากทำเรื่องนี้ให้คุณเลย” เธอไม่น่าเอาคอตัวเองไปพาดเขียงแบบนั้น ตอนแรกที่รับปากก็เพราะเห็นว่าค่าจ้างดี อีกทั้งยังได้แหวนพลอยล้อมเพชรของแท้เอามาขายต่อได้อีกด้วย ตอนที่เธอไปซื้อแหวนวงนั้นในร้าน เธอเห็นว่าเจ้าของร้านเป็นเพียงหญิงสาวอายุยี่สิบต้น ๆ ดูแล้วน่าจะหลอกต้มได้ง่าย สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าเธอเจอของแข็งเข้าให้แล้ว
“หึ! แต่คุณก็รับปากและลงมือทำไปแล้ว แค่นี้นะ มีธุระ”
ปลายสายวางหูไปแล้ว แต่เธอยังคงเดินวนเวียนอยู่ในห้องพักของตัวเองอย่างร้อนรน สัญชาตญาณกำลังบอกว่าอีกไม่นานเธอจะเจอปัญหาใหญ่แน่นอน
“หนูกับธามเป็นยังไงบ้างลูก ไปถึงไหนกันแล้ว”
เสียงทุ้มจากบิดา ทำให้กนกลดาเงยหน้าจากเอกสารบนโต๊ะ หญิงสาวเอนหลังพิงพนักเก้าอี้พลางถอนหายใจแผ่ว ก่อนพูดว่า
“คงยากค่ะคุณพ่อ พี่ธามเขา...ยังไงดีล่ะ”
เธอไม่รู้จะนิยามผู้ชายอย่างธามว่าอย่างไรดี เขาไม่ใช่คนโลเลหรือหวั่นไหวง่าย อีกทั้งเธอยังรู้สึกว่าเขาเว้นระยะห่างกับเธอไว้ประมาณหนึ่งเสมอ คือไม่สนิทสนมเกินไป แต่ก็ไม่ถึงกั
“ทีนี้เรามาดูกันค่ะว่าจุดไหนบ้างที่ทำให้พลอยมั่นใจว่าแหวนวงนั้นคือของที่ทำเลียนแบบจากของจริงที่ซื้อไปจากร้านพัดชา เจมส์”จากนั้นหญิงสาวก็เลี่ยงไปยืนอยู่ข้างจอแอลซีดีขนาดใหญ่ที่ตั้งไว้ด้านหลังของตน แล้วเปิดคลิปที่เธอถ่ายแหวนวงนั้นเอาไว้ให้ทุกคนที่ดูไลฟ์สดครั้งนี้ได้เห็นไปพร้อมกัน“จุดแรกเลยนะคะ ขอให้ทุกคนดูที่รอยปั๊มโลโก้ของชื่อร้านที่อยู่ด้านในแหวนค่ะ” ภาพบนจอแอลซีดีหยุดค้างเอาไว้ จากนั้นพลอยพัดชาก็นำแหวนหลายวงจากในร้านซูมให้ดูใกล้ ๆ ว่าแตกต่างกันตรงไหนบ้าง“สังเกตไหมคะว่าแหวนของร้านพัดชา เจมส์ทุกวงรอยปั๊มตรงนี้จะเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นความคมชัดของตัวหนังสือ หรือฟอนต์ตัวอักษร แล้วทีนี้มาดูของที่ลูกค้าท่านนั้นเอามากันค่ะ เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเลยใช่ไหมคะว่านอกจากความคมชัดจะไม่เท่ากันแล้วเนี่ย ฟอนต์หรือตัวอักษรยังแตกต่างกันด้วย”จากนั้นหญิงสาวก็ปล่อยให้คลิปเล่นต่อ แล้วก็หยุดลงตอนที่ภาพฉายด้านในของแหวนและซูมภาพนั้นขึ้นมา พลอยพัดชาปล่อยภาพค้างไว้แบบนั้นแล้วเดินมาหน้ากล้อง ชูแหวนอีกวงขึ้นมาแล้วหงายให้ดูด้านในพร้อมกับใช
หญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งเดินก้มหน้าก้มตาไปทางแผนกสูตินรีเวชของโรงพยาบาลเอกชนย่านชานเมือง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมาที่นี่ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วเพราะต้องมาทุกเดือนตามที่แพทย์นัด วันนี้เธอตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะอายุครรภ์สิบเจ็ดสัปดาห์แล้วจึงสามารถดูเพศของลูกในท้องได้ แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย เธอก็รักทั้งนั้นเพราะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอกับเขาหลังจากไหว้ทักทายแพทย์ที่ตนฝากครรภ์และนั่งคุยเกี่ยวกับพัฒนาการของทารกไปพอสมควร เธอก็ต้องขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วเปิดเสื้อบริเวณท้องที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นพยาบาลก็นำเจลใสทาไปทั่วท้อง และแพทย์ก็นำเครื่องมือมากดเบา ๆ บริเวณนั้นพลางมองไปที่จอมอนิเตอร์ข้างตัวไปด้วย“อยู่นี่ไง เอาแขนไขว้กันด้วย” น้ำเสียงของแพทย์หญิงพูดอย่างอ่อนโยน ขณะที่คนนอนบนเตียงนั้น หยาดน้ำเริ่มเอ่อคลอเต็มสองตาจนภาพตรงหน้าพร่าเบลอ“ผู้หญิงหรือผู้ชายคะคุณหมอ” เธอถามแพทย์เสียงสั่น อีกฝ่ายจึงหันมาตอบทั้งรอยยิ้มว่า“เป็นสาวน้อยค่ะ นี่ไงคะ ตรงนี้คือปาท่องโก๋น้อย” แพทย์ชี
“หืม...ถามจริง! ไอจีของคุณก้าวเนี่ยนะมีแต่รูปพลอย” เรื่องนี้เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย เพราะไม่ได้สนใจเข้าไปดูไอจีของกวินภพเลยสักครั้ง“ถ้าไม่เชื่อก็ลองเข้าไปดูสิ ไม่งั้นน้าจะมาถามเธอหรือว่าคิดยังไงกับตาก้าว” จินตวาตีมองค้อนหลานสาว“ถ้าคุณก้าวกับผู้จัดการเขาเป็นผัวเมียกันจริงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพลอยหรอก เพราะพลอยไม่ได้คบกับคุณก้าวสักหน่อย แล้วก็ไม่คิดจะคบด้วย” พลอยพัดชายักไหล่อย่างไม่ยี่หระ“แต่คนอื่นเขาไม่คิดกันอย่างนั้นน่ะสิยะ ตาก้าวน่ะออกตัวแรงมากเรื่องของหล่อนน่ะ เฮ้อ...ถ้าพลอยยืนยันมาอย่างนี้น้าก็สบายใจ จะได้ไปปรามตาก้าวว่าอย่าทำอะไรให้คนอื่นเข้าใจผิด”“โห เหมือนในซีรีส์เลยเนอะน้าจินนี่ ที่ผู้หญิงกับผู้ชายคบกันมาก่อน แล้วผู้ชายได้เป็นดารา ผู้หญิงก็เลยมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ แต่ความจริงแล้วเป็นแฟนกัน พอผู้หญิงท้องก็เลยต้องหลบไปอยู่ที่อื่นเพื่อให้ผู้ชายได้เป็นดาราต่อไป เพราะอาชีพนักแสดงมันทำเงินได้เยอะก็เลยต้องยอมอยู่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ”“แต่ส่วนใหญ่ ถ้ามาทรงนี้มักจบไม่สวยนะคะลูก เพราะอีผู
พลอยพัดชาตาลุกวาวเมื่อเห็นถนนที่มีรถราขวักไขว่ และสองข้างทางที่มีแต่ป้ายไฟทั้งตัวอักษรไทยและจีนปะปนกัน ร้านอาหารริมทางที่ตั้งอยู่บนทางเท้าเรียงรายกันไปตลอดทาง แม้จะนั่งอยู่ในรถที่ไม่ได้กลิ่นใด ๆ เล็ดลอดเข้ามา กระนั้นหญิงสาวก็ยังรู้สึกราวกับว่ากลิ่นหอมของอาหารเหล่านั้นกำลังยั่วยวนน้ำย่อยในกระเพาะจนรู้สึกหิวขึ้นมาทันทีที่นี่คือเยาวราชเธอแทบจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่มาเยาวราชนั้นคือปีไหน ถ้าจำไม่ผิด ตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยกระมัง“มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย อุ๊ย เดี๋ยวเราต้องแวะร้านนี้ด้วยนะ ขนมปังเขาอร่อยมากเลยพี่ธาม แต่คิวยาวมาก”เธอตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก อาหารตามสองข้างทางช่างยั่วน้ำลายดีแท้ ทำให้รู้สึกอยากกินไปเสียทุกอย่าง“ติ่มซำร้านนี้ก็อร่อย เฮ้อ เห็นแบบนี้แล้วพลอยเครียดนะเนี่ย” เธอไม่ได้หันไปมองเขาเพราะแทบไม่อยากละสายตาไปจากอาหารข้างทางเลย“เครียดอะไร มีอะไรให้เครียดด้วยหรือ”ได้ยินเขาถามมาอย่างนั้นเธอจึงหันไปมองเขา“จะไม่ให้เครียดได้ยังไง ก็พลอ
“ได้ พูดมาเถอะ” จินตวาตีนั่งกอดอกรอฟังอย่างจดจ่อ เขาลอบยิ้มอยู่ในใจพร้อมกับเปิดปากเล่า“ความจริงแล้วพี่ปลาเขามีแฟนอยู่คนหนึ่งครับ เพียงแต่พี่เขาต้องแอบคบกับผู้ชายคนนั้นอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะเขามีเมียอยู่แล้ว ทีนี้พี่ปลาดันพลาดท้องขึ้นมา พี่เขาไม่อยากเอาเด็กออกก็เลยตัดสินใจเก็บเด็กไว้ แต่ก็อย่างที่รู้กันนั่นแหละครับว่าถ้าทุกคนเห็นพี่ปลาท้องอยู่ ก็ต้องพากันมาถามนั่นถามนี่ว่าแฟนเป็นใคร แต่งงานตั้งแต่เมื่อไร อะไรพวกนี้น่ะ ผมก็เลยช่วยพี่ปลาหาทางออกด้วยการให้หลบไปอยู่ไกล ๆ ก่อนดีกว่า ส่วนแฟนเขาตอนนี้ก็ยังไม่มีคำตอบเป็นที่แน่นอนเลยครับว่าจะรับผิดชอบพี่ปลายังไงบ้าง แต่เท่าที่ผมดูแล้วเนี่ย ผมว่าเขาไม่เลิกกับเมียหลวงแน่นอน”กวินภพพูดจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับยกภูเขาออกจากอก จากนั้นก็ลอบมองสีหน้าของจินตวาตีว่าจะเชื่อเรื่องที่ตนเล่าไปเมื่อครู่หรือไม่ ครั้นพอเห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าครุ่นคิด เขาจึงพูดไปว่า“พี่คิดว่าผมควรทำยังไงดีล่ะ แต่เรื่องพี่ปลาผมก็พูดออกไปไม่ได้จริง ๆ ว่าเขาแอบคบกับคนมีครอบครัวแล้ว เพราะถ้าทางบ้านพี่เขารู้เข้าต้องเป็นเรื่องใหญ่
ธามมาหาพลอยพัดชาที่ร้านพัดชา เจมส์เช่นเคย ชายหนุ่มเหมือนเป็นแขกประจำของร้านนี้ไปแล้ว แม้เขาจะไม่ได้มาอุดหนุนสินค้า แต่บรรดาพนักงานต่างก็ทราบกันดีว่าเขามีความพิเศษต่างจากแขกหรือลูกค้าคนอื่นอย่างไร ดังนั้นเวลาที่ธามมาถึงแล้วพลอยพัดชาไม่อยู่ที่หน้าร้าน พนักงานก็จะรีบบอกให้เขารู้โดยไม่ต้องถามทันทีว่าเจ้านายสาวไปไหน“รอสักครู่นะคะ คุณพลอยนั่งทำงานอยู่ชั้นสองค่ะ”ชั้นสองของร้านตกแต่งเป็นห้องรับแขก ออฟฟิศ และเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของพนักงาน หลายครั้งที่พลอยพัดชาต้องการคุยธุระสำคัญกับแขกที่มาติดต่อเรื่องงาน หรืออยากนั่งทำงานเงียบ ๆ คนเดียว รวมไปถึงสัมภาษณ์พนักงานใหม่ ก็จะขึ้นไปที่ชั้นสองของร้าน“ไม่เป็นไรครับ ผมขึ้นไปเองดีกว่า พลอยไม่ได้มีแขกอยู่ใช่ไหม” ธามถามเพื่อความแน่ใจ เพราะถ้ามีแขกอยู่ เขาจะได้ไม่ขึ้นไปรบกวน“ไม่มีค่ะ คุณพลอยอยู่คนเดียว”ได้ยินอย่างนั้นธามจึงผงกศีรษะเป็นเชิงรับรู้แล้วเดินเข้าไปด้านในขึ้นบันไดไปชั้นสองด้วยตัวเองอย่างคุ้นเคย ชายหนุ่มเคาะประตูกระจกเพื่อบอกคนข้างในให้รับรู้ก่อ
“เพื่อนเก่าที่เคยเรียนด้วยกันสมัยมหา’ลัยน่ะค่ะคุณพ่อ”กนกลดาพยายามบังคับเสียงและสีหน้าให้เรียบนิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าตนเสียอาการจากความสุขุมเรียบร้อยอันเป็นเอกลักษณ์ของตน“แล้วเขามางานนี้ได้ยังไง ดูไม่มีมารยาทเลย” กฤษณ์ทำหน้าเคร่ง“พลอยเขาเป็นลูกสาวของเพื่อนคุณพ่อครับ เรารู้จักกันมานานแล้ว”ธามพูดเสียงห้วนกว่าปกติ กฤษณ์นึกว่าชายหนุ่มก็ไม่พอใจพฤติกรรมของพลอยพัดชาเช่นกันจึงถามว่า“แล้วพ่อแม่เขาอยู่ไหน ทำธุรกิจอะไร”“พ่อแม่ของพลอยเขาเสียไปนานแล้วค่ะตั้งแต่มัธยมปลายมั้ง น้าของพลอยก็เลยเป็นคนเลี้ยงดูพลอยมาตลอด น้าเขาเป็น เอ่อ...สาวประเภทสองน่ะค่ะ” ประโยคสุดท้ายกนกลดาพูดไม่เต็มเสียงเท่าไร“มิน่าละ ถูกพวกวิปริตผิดเพศเลี้ยงดูมานี่เองถึงได้เป็นอย่างนี้” กฤษณ์แค่นเสียงอย่างดูถูก“สมัยนี้เขาเรียกว่าผู้หญิงข้ามเพศนะครับ และคนกลุ่มนี้ก็ไม่ใช่วิปริตผิดเพศ น้าของพลอยน่ะเป็นผู้จัดการให้กับนักแสดงชื่อดังระดับท็อปของประเทศหลายคนเลย แ
โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่เจ้าของหอพักที่เป็นผู้ว่าจ้างก็ได้ตั้งทนายฟ้องร้องบริษัทของเขาในข้อหาทุจริตปลอมแปลงเอกสาร ฉ้อโกง และอีกหลายคดี เขาใช้เงินไม่น้อยในการปิดข่าวแม้จะปิดได้ไม่มิดนัก รวมถึงใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อสร้างภาพ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่กำลังดีลธุรกิจกันอยู่“บ้าจริง ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้นะ”กนกลดามีสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที หญิงสาวมองไปทางที่ธามยืนคุยกระหนุงกระหนิงอยู่กับพลอยพัดชาแล้วก็รู้สึกว่าเธอคงไม่สามารถเข้าหาเขาได้อีกแล้ว เพราะเชื่อว่าธามจะต้องรู้เรื่องนั้นแล้วแน่นอนสองสัปดาห์ถัดมา พลอยพัดชาก็ได้รับการติดต่อจากดาริกา ทนายความที่หญิงสาวให้จัดการเรื่องคดีฉ้อโกงและหมิ่นประมาท รวมไปถึงคดีที่เกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ว่าทางฝั่งคู่กรณีต้องการเจรจาเพื่อขอให้ยอมความ แต่เพราะพลอยพัดชาคาดการณ์เอาไว้แต่แรกแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ฉะนั้นคำตอบของเธอจึงมีแค่สองคำเท่านั้นว่า“ไม่ค่ะ”“ดีแล้วค่ะ พี่ก็คิดอยู่แล้วละว่าคุณพลอยต้องไม่มีทางยอมแน่นอน อ้อจริงสิ เมื่อวานเขายอมเปิดปากพูดแ
พลอยพัดชาอมยิ้มขณะที่อ่านข่าวเหล่านั้นจากโทรศัพท์มือถือของตน ตอนที่เธอกับจินตวาตีคาดเดาความสัมพันธ์ของกวินภพกับปวีณาเมื่อคราวนั้น เธอยังอดสงสารฝ่ายหญิงไม่ได้ที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ราวกับคนที่ทำผิดกฎหมาย แต่มาวันนี้ความสงสารไม่มีเหลืออยู่แล้ว หลังจากที่ได้เห็นภาพและคลิปต่าง ๆ ที่ธามนำมาให้ดู เธอจึงรู้ทันทีว่าสองคนนี้ร่วมมือกัน“จริงสิ พี่ธามให้ใครส่งรูปพวกนั้นให้พวกเพจข่าวหรือคะ ไหนจะพวกที่ไปตอบคอมเมนต์ว่าเป็นคนหมู่บ้านเดียวกับสองคนนั้นอีก เขาเป็นจริง ๆ รึเปล่า แล้วไม่กลัวโดนฟ้องหรือไง”ธามยิ้มอ่อนพลางตอบว่า “จะใครเล่า ก็ยายนาฏไง”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ยายนาฏหรือ อ้าว! แล้วแอคเคาน์พวกนี้ล่ะ”“เป็นแอคเคาน์สำรองของเพื่อน ๆ เขาที่อเมริกาน่ะ ถ้าคิดจะฟ้องก็เชิญตามสบาย” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะตักกุ้งทอดซอสมะขามใส่ในจานข้าวให้หญิงสาวแล้วพูดว่า“กินข้าวเถอะ อย่าไปสนใจข่าวพวกนั้นเลย รอดูฟีดแบ็กที่ตามมาดีกว่า”“พลอยอยากเห็นหน้านายก้าวจริง ๆ ว่าถ้าเห็นข่าวพวกนี้แล้ว
“พี่ธามพอแล้ว พลอยหายใจไม่ทัน” หญิงสาวหอบจนตัวโยนราวกับวิ่งมาหลายกิโลเมตร ธามเห็นแล้วสงสารจึงหยุดมือ แต่ก็อดหยิกแก้มของอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยวไม่ได้“คิดจะไปส่องแขกหล่อ ๆ งั้นหรือ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย”ธามคาดโทษหญิงสาวอย่างไม่จริงจังนักเพราะรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีว่าช่างยั่วยวนและยั่วอารมณ์ให้มีน้ำโหอยู่บ่อย ๆ“ก็แขกส่วนใหญ่หล่อจริง ๆ นี่นา แต่ก็สู้หล่อมาดเข้มแบบพี่ไม่ได้หรอกน่า จริงไหม” พลอยพัดชายิ้มประจบ“ก็เพราะปากหวานช่างยั่วอย่างนี้นี่ไง พี่ถึงไปไหนไม่รอด” ชายหนุ่มเชยคางของเธอขึ้นแล้วจุ๊บเบา ๆ“ให้มันจริงเถอะ พลอยกลัวว่าพอหมดช่วงโปร พี่ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมน่ะสิ คนนิสัยเสีย”“ไม่เป็นแล้ว สัญญา” เขาชี้สามนิ้วขึ้น เธอจึงยู่หน้าใส่เขา“เชอะ พี่น่ะชอบใจร้ายกับพลอย จะง้อก็ไม่มาง้อดี ๆ กลับส่งขนมมาล่อ แถมยังเป็นคุกกี้ถั่วอีกต่างหาก แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพี่เอาใจใส่พลอยมากแค่ไหน”ธามได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้างพลางทำหน้างุนงงสงสัย เพราะเขาจำไม่ได้ว่าส่
พลอยพัดชาพยักหน้าเพราะเห็นด้วยกับคำพูดของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“เฮ้อ ตั้งแต่เคยถูกผู้ชายกอดมานะ มีอีตาคนนี้นี่แหละที่พลอยรู้สึกรังเกียจที่สุด”ธามหูผึ่งขึ้นมาทันที จากนั้นก็ชี้หน้าเธออย่างเอาเรื่อง“ยั่วโมโหอีกแล้วนะ เดี๋ยวจะโดน”พลอยพัดชาหัวเราะคิกคัก แล้วถามว่า“ว่าแต่...พี่จะทำอะไรเขาหรือคะ”พลอยพัดชาอดอยากรู้ไม่ได้ แต่มั่นใจว่าคนอย่างธามจะไม่มีการส่งนักเลงไปดักซ้อมกวินภพแน่นอน เพราะเขาไม่ชอบทำอะไรที่เป็นการให้ผลแค่ระยะสั้น คนอย่างเขาถ้าคิดลงมือเล่นงานใคร จะต้องเกิดผลเสียกับอีกฝ่ายในระยะยาว“ก็มันอยากเป็นข่าวนักไม่ใช่หรือ พี่ก็จะจัดให้ไง” ธามหันมายิ้มให้ ก่อนจะจับแก้มของเธอไว้ทั้งสองข้างแล้วดึงเบา ๆ พลางพูดว่า“คราวนี้ก็ยิ้มได้แล้วนะ ลงไปหาเค้กกินแก้เครียดกันดีกว่าเนอะ”หญิงสาวยิ้มออกทันที รู้สึกสมองโล่งขึ้นมาในทันใด อีกทั้งยังรู้สึกว่าหัวใจอุ่นวาบอย่างบอกไม่ถูก เพราะตั้งแต่บิดามารดาจากไป ชีวิตของเธอก็มีแต่น้าจินนี่คอยกางปีกปกป้องเสมอมา แต่ในบางครั
พลอยพัดชาเดินเข้ามาในโรงแรมพลางโทรศัพท์หานลินทราไปด้วย แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย หญิงสาวจึงคิดว่าเพื่อนน่าจะวุ่นอยู่กับการซ้อมบทจึงไม่คิดโทร. ไปรบกวนอีกหญิงสาวกดลิฟต์ไปชั้นสิบเอ็ดแล้วเดินไปยังห้องที่ข้อความบอกเอาไว้ เมื่อมาถึงห้องหมายเลยหนึ่งหนึ่งศูนย์สี่ จึงเคาะเบา ๆ แล้วรอให้ทีมงานมาเปิดประตูเมื่อประตูเปิดแง้มออก พลอยพัดชาได้ยินเสียงนลินทราดังแว่วมาจึงลองชะโงกหน้าเข้าไปแล้วเรียกเพื่อนเบา ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีมือแข็งแรงจากด้านในฉุดข้อมือของเธอจนถลาไปตามแรงนั้น และในที่สุดก็ต้องมายืนอยู่ในห้องจนได้พลอยพัดชาหน้าเหวอทันทีเพราะเห็นแล้วว่าไม่มีคนอยู่ในห้องนี้เลย และเสียงของนลินทราที่ได้ยินก็เป็นเสียงจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขก เธอจึงรีบหันหลังกลับทันที แต่พอหันมาก็ต้องเจอกับใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่เธอไม่คิดอยากเจอที่สุดในโลกยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งหมายความว่าเมื่อครู่เขาแอบอยู่หลังประตู และเป็นคนฉุดเธอเข้ามาในห้องนี้อีกด้วย“ถอยไป!” เรื่องราวเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว พลอยพัดชาจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดดี ๆ กับอีกฝ่ายอีก&ldqu
พลอยพัดชาอมยิ้มเมื่อเห็นธามตัวเกร็งขึ้นมาทันทีแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ นั่นก็เพราะการกรีดแผ่นหลังของเขาแบบนี้เป็นการกระตุ้นอารมณ์ของชายหนุ่มให้ตื่นเพริด ยิ่งถ้าเธอทำตอนนัวเนียกันอยู่บนเตียง เขาจะแหงนหน้าขึ้นแล้วครางออกมาอย่างลืมตัวเสมอ“แขกของพี่ธามนี่เขาไม่ได้เรียนมารยาทมาหรือคะ เห็นมาทีไรก็มาตอนเที่ยงทุกที เขาไม่รู้หรือไงว่าตอนเที่ยงพนักงานทุกคนก็ต้องพักเที่ยงไปกินข้าวกินปลา”พลอยพัดชาเห็นกนกลดากำหมัดแน่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ยิ่งเห็นร่องรอยบนใบหน้าซึ่งเกิดจากฝีมือของตนครั้งนั้นก็ยิ่งรู้สึกสะใจไม่น้อย ครั้นพอเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างเธอจึงชิงพูดขึ้นก่อนเพราะไม่ต้องการปล่อยให้อีกฝ่ายได้พูด“อ๋อรู้แล้ว ที่มาตอนเที่ยงทุกครั้งก็หมายความว่าเป็นเพราะเขาอยากชวนพี่ไปกินกลางวันด้วยใช่ไหมคะ อุ๊ยตาย ช่างมีความพยายามสูงส่งซะจริ๊ง”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ! ฉันมาคุยเรื่องงานกับพี่ธาม”กนกลดาแทบเค้นเสียงพูด สีหน้าแววตามีแต่ความกรุ่นโกรธอัดแน่นเต็มที่ แต่พลอยพัดชากลับไม่สนใจ เธอเปิดฝากล่องข้าวหน้าเนื้อจนกลิ่นหอมของอาหารโชยเข้าจมู
“ใกล้ถึงวันเกิดของเขาน่ะ แต่พี่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้เขาดีก็เลยคิดว่าน่าจะซื้อแหวนให้สักวง”“แล้วพี่พัฒน์คิดว่าจะหมั้นกันเร็ว ๆ นี้รึเปล่าคะ หรือว่ายังไม่ได้กำหนด”พลอยพัดชาลองเลียบเคียงถาม เพราะจะได้เลือกสินค้าให้เขาได้ตรงตามความต้องการของอีกฝ่าย“ยังไม่ได้คิดเรื่องหมั้นเลย พี่เพิ่งคบกับเขาได้เดือนสองเดือนนี่เอง” สีหน้าของชายหนุ่มมีความขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด“ถ้าอย่างนั้นพลอยแนะนำว่าเป็นต่างหูหรือสร้อยคอสร้อยข้อมืออะไรพวกนี้ดีกว่าไหมคะ เพราะว่าถ้าให้แหวนกัน คนรับอาจจะคิดว่านี่คือการขอหมั้นทางอ้อม”เธอแนะนำอย่างเป็นกลาง เพราะอย่างไรเสียการให้แหวนกันนั้น อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าคนให้ต้องการหมั้นหมายก็เป็นได้จากที่ฟังเขาพูดมา ดูเหมือนรพีพัฒน์ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นนั้นเพราะเพิ่งคบหากันได้ไม่นาน ซึ่งหากฝ่ายหญิงยังไม่ได้คิดถึงเรื่องหมั้นเช่นกัน แต่จู่ ๆ ฝ่ายชายก็ให้แหวนแทนใจ อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเขาต้องการผูกมัดทางอ้อม และสิ่งที่จะตามมาก็คือความอึดอัดถ้าหากเจ้าตัวยังไม่พร้อมพูดถึงเรื่องนี้&ldqu
“ฉันไม่น่ารับปากยายปลาแล้วเอามันมาอยู่ในสังกัดเลย ชักศึกเข้าบ้านตัวเองแท้ ๆ”“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดน่าน้าจินนี่ อีกอย่างนะ เขาเองก็กำลังดังเป็นพลุแตก ใคร ๆ ก็อยากได้เขากันทั้งนั้น” พลอยพัดชาเอ่ยปลอบใจผู้เป็นน้า“เรื่องยายปลาน้าไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร เพราะพอจะเดาได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เรื่องนั้นน่ะสิ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไอ้ก้าวมันจะทำได้”“พลอยก็ว่างั้นแหละ เขาไม่กลัวคนจะจำได้เลยเนอะ เวลาออกสื่อน่ะ”จินตวาตีนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “น้าคิดว่าก็คงมีคนจำได้บ้างนั่นแหละ และก็รู้กันแค่วงในไม่กี่คน แต่เขาไม่เอามาพูดกัน เพราะสมัยนี้เอะอะอะไรก็ฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล คนมันต้องทำมาหากิน ไม่มีใครว่างพอจะมานั่งติดตามเรื่องพวกนี้หรอก”พลอยพัดชาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ก็จริงเนอะ คนกลุ่มเล็ก ๆ แค่ไม่กี่คนกับคนกลุ่มใหญ่ที่รู้จักฐานะของเขาว่าเป็นพระเอกคนดัง ยังไงกลุ่มหลังเสียงมันก็ดังกว่า”“นี่ถ้านังแอ๊ดดี้กับนังเบนซ์มันรู้เข้าคงได้หัวเราะเยาะฉันจนกรามค้างแน่ พวกนั้นมันยิ่งรอดูฉันล้ม
ธามยิ้มมุมปาก ตอนแรกเขาคิดจะใช้เรื่องคีย์การ์ดมาจัดการกับพิษณุด้วยการยื่นหนังสือให้ฝ่ายบริหารทุกคนทราบว่าอีกฝ่ายทำผิดกฎร้ายแรง และไล่ออกให้พ้นจากบริษัทไป แต่วันนี้หลังจากที่ตรวจไซต์งานเสร็จเรียบร้อย เขาก็เปลี่ยนใจ เพราะคิดว่าการไล่ออกให้พ้นจากตำแหน่งดูจะลงโทษน้อยไปหน่อย“พี่คิดว่าไหน ๆ ก็จะเอาเรื่องเขาแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด การไล่ออกโทษมันเบาไปหน่อย เพราะแผนที่พี่วางเอาไว้น่ะนอกจากจะไล่ออกแล้ว ยังส่งพวกมันเข้าคุกและฟ้องร้องเรียกเงินค่าเสียหายได้อีกด้วย โทษฐานทุจริต”พลันนั้นเขานึกถึงสายตาคับแค้นของกฤษณ์ตอนที่มองพลอยพัดชาจึงอดเตือนเธอไม่ได้“พลอยต้องระวังตัวหน่อยนะ เพราะพี่ไม่รู้ว่าดากับพ่อของเขาจะมาเล่นงานพลอยรึเปล่า พ่อลูกคู่นี้น่ะเล่นงานคนอื่นมาเยอะ พี่ไม่อยากให้พลอยเป็นอะไร เพราะฉะนั้นพี่ว่าพลอยย้ายมาอยู่กับพี่ที่เพนต์เฮาส์เถอะ”“โน!”“ไม่คิดจะกลับไปตัดสินใจก่อนหรือ พี่เป็นห่วงพลอยจริง ๆ นะ”“อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วพี่น่ะ ทำมาเป็นพูดดี ไม่ต้องเลย ต่างคนต่างอยู่ไปนั่น
ธามยักไหล่ “แน่นอนอยู่แล้ว เพอร์เฟกต์อย่างพี่น่ะหาไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะจะบอกให้ เพราะฉะนั้นพลอยต้องจับไว้ให้แน่น ๆ ห้ามปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาดเลยนะ”พลอยพัดชาเบ้ปากใส่ทันที “ขอโทษนะคะ ประโยคนั้นพลอยควรเป็นคนพูดมากกว่าค่ะ”“ครับผม ยอมแล้วครับ แต่ก่อนอื่น กรุณาอย่าหลับในรถนะครับคนสวย มันอันตรายนะคุณผู้หญิง ถ้าคิดจะงีบก็กรุณาเลื่อนกระจกลงมาสักนิดก็ยังดี”“ก็ตอนแรกไม่คิดว่าจะหลับสักหน่อย เล่นมือถืออยู่ดี ๆ เล่นไปเล่นมาหลับตอนไหนยังไม่รู้เลย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่มาเคาะกระจกเรียกนั่นแหละ ปกติพลอยไม่เคยหลับตอนกลางวันเลยนะ เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่ล้วน ๆ ที่ทำให้พลอยต้องนอนไม่อิ่ม” เธอค้อนให้เขาธามหัวเราะเบา ๆ พลางเอื้อมไปจับมือของเธอให้มาวางไว้บนตักของตัวเอง จากนั้นก็เอ่ยปากถามว่า“พลอยค้างกับพี่อีกคืนได้ไหม เดี๋ยวคืนนี้พี่พาไปเที่ยวที่เด็ด ๆ”“ที่ไหน บาร์อะโกโก้หรือ” หญิงสาวปรายตามองเขา“เฮ้ย รู้ได้ไง” เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ“ใช่แล้ว พี่จะพาพลอยไปเที่ยวบาร์อะโกโก้ แต่มันไม่ใช่บาร์อนาจารแบบที่พลอยเข้าใจนะ ที่นั่นจะมีผู้หญิงเต้น