“ได้ พูดมาเถอะ” จินตวาตีนั่งกอดอกรอฟังอย่างจดจ่อ เขาลอบยิ้มอยู่ในใจพร้อมกับเปิดปากเล่า
“ความจริงแล้วพี่ปลาเขามีแฟนอยู่คนหนึ่งครับ เพียงแต่พี่เขาต้องแอบคบกับผู้ชายคนนั้นอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะเขามีเมียอยู่แล้ว ทีนี้พี่ปลาดันพลาดท้องขึ้นมา พี่เขาไม่อยากเอาเด็กออกก็เลยตัดสินใจเก็บเด็กไว้ แต่ก็อย่างที่รู้กันนั่นแหละครับว่าถ้าทุกคนเห็นพี่ปลาท้องอยู่ ก็ต้องพากันมาถามนั่นถามนี่ว่าแฟนเป็นใคร แต่งงานตั้งแต่เมื่อไร อะไรพวกนี้น่ะ ผมก็เลยช่วยพี่ปลาหาทางออกด้วยการให้หลบไปอยู่ไกล ๆ ก่อนดีกว่า ส่วนแฟนเขาตอนนี้ก็ยังไม่มีคำตอบเป็นที่แน่นอนเลยครับว่าจะรับผิดชอบพี่ปลายังไงบ้าง แต่เท่าที่ผมดูแล้วเนี่ย ผมว่าเขาไม่เลิกกับเมียหลวงแน่นอน”
กวินภพพูดจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับยกภูเขาออกจากอก จากนั้นก็ลอบมองสีหน้าของจินตวาตีว่าจะเชื่อเรื่องที่ตนเล่าไปเมื่อครู่หรือไม่ ครั้นพอเห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าครุ่นคิด เขาจึงพูดไปว่า
“พี่คิดว่าผมควรทำยังไงดีล่ะ แต่เรื่องพี่ปลาผมก็พูดออกไปไม่ได้จริง ๆ ว่าเขาแอบคบกับคนมีครอบครัวแล้ว เพราะถ้าทางบ้านพี่เขารู้เข้าต้องเป็นเรื่องใหญ่
ธามมาหาพลอยพัดชาที่ร้านพัดชา เจมส์เช่นเคย ชายหนุ่มเหมือนเป็นแขกประจำของร้านนี้ไปแล้ว แม้เขาจะไม่ได้มาอุดหนุนสินค้า แต่บรรดาพนักงานต่างก็ทราบกันดีว่าเขามีความพิเศษต่างจากแขกหรือลูกค้าคนอื่นอย่างไร ดังนั้นเวลาที่ธามมาถึงแล้วพลอยพัดชาไม่อยู่ที่หน้าร้าน พนักงานก็จะรีบบอกให้เขารู้โดยไม่ต้องถามทันทีว่าเจ้านายสาวไปไหน“รอสักครู่นะคะ คุณพลอยนั่งทำงานอยู่ชั้นสองค่ะ”ชั้นสองของร้านตกแต่งเป็นห้องรับแขก ออฟฟิศ และเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของพนักงาน หลายครั้งที่พลอยพัดชาต้องการคุยธุระสำคัญกับแขกที่มาติดต่อเรื่องงาน หรืออยากนั่งทำงานเงียบ ๆ คนเดียว รวมไปถึงสัมภาษณ์พนักงานใหม่ ก็จะขึ้นไปที่ชั้นสองของร้าน“ไม่เป็นไรครับ ผมขึ้นไปเองดีกว่า พลอยไม่ได้มีแขกอยู่ใช่ไหม” ธามถามเพื่อความแน่ใจ เพราะถ้ามีแขกอยู่ เขาจะได้ไม่ขึ้นไปรบกวน“ไม่มีค่ะ คุณพลอยอยู่คนเดียว”ได้ยินอย่างนั้นธามจึงผงกศีรษะเป็นเชิงรับรู้แล้วเดินเข้าไปด้านในขึ้นบันไดไปชั้นสองด้วยตัวเองอย่างคุ้นเคย ชายหนุ่มเคาะประตูกระจกเพื่อบอกคนข้างในให้รับรู้ก่อ
“เพื่อนเก่าที่เคยเรียนด้วยกันสมัยมหา’ลัยน่ะค่ะคุณพ่อ”กนกลดาพยายามบังคับเสียงและสีหน้าให้เรียบนิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าตนเสียอาการจากความสุขุมเรียบร้อยอันเป็นเอกลักษณ์ของตน“แล้วเขามางานนี้ได้ยังไง ดูไม่มีมารยาทเลย” กฤษณ์ทำหน้าเคร่ง“พลอยเขาเป็นลูกสาวของเพื่อนคุณพ่อครับ เรารู้จักกันมานานแล้ว”ธามพูดเสียงห้วนกว่าปกติ กฤษณ์นึกว่าชายหนุ่มก็ไม่พอใจพฤติกรรมของพลอยพัดชาเช่นกันจึงถามว่า“แล้วพ่อแม่เขาอยู่ไหน ทำธุรกิจอะไร”“พ่อแม่ของพลอยเขาเสียไปนานแล้วค่ะตั้งแต่มัธยมปลายมั้ง น้าของพลอยก็เลยเป็นคนเลี้ยงดูพลอยมาตลอด น้าเขาเป็น เอ่อ...สาวประเภทสองน่ะค่ะ” ประโยคสุดท้ายกนกลดาพูดไม่เต็มเสียงเท่าไร“มิน่าละ ถูกพวกวิปริตผิดเพศเลี้ยงดูมานี่เองถึงได้เป็นอย่างนี้” กฤษณ์แค่นเสียงอย่างดูถูก“สมัยนี้เขาเรียกว่าผู้หญิงข้ามเพศนะครับ และคนกลุ่มนี้ก็ไม่ใช่วิปริตผิดเพศ น้าของพลอยน่ะเป็นผู้จัดการให้กับนักแสดงชื่อดังระดับท็อปของประเทศหลายคนเลย แ
โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่เจ้าของหอพักที่เป็นผู้ว่าจ้างก็ได้ตั้งทนายฟ้องร้องบริษัทของเขาในข้อหาทุจริตปลอมแปลงเอกสาร ฉ้อโกง และอีกหลายคดี เขาใช้เงินไม่น้อยในการปิดข่าวแม้จะปิดได้ไม่มิดนัก รวมถึงใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อสร้างภาพ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่กำลังดีลธุรกิจกันอยู่“บ้าจริง ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้นะ”กนกลดามีสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที หญิงสาวมองไปทางที่ธามยืนคุยกระหนุงกระหนิงอยู่กับพลอยพัดชาแล้วก็รู้สึกว่าเธอคงไม่สามารถเข้าหาเขาได้อีกแล้ว เพราะเชื่อว่าธามจะต้องรู้เรื่องนั้นแล้วแน่นอนสองสัปดาห์ถัดมา พลอยพัดชาก็ได้รับการติดต่อจากดาริกา ทนายความที่หญิงสาวให้จัดการเรื่องคดีฉ้อโกงและหมิ่นประมาท รวมไปถึงคดีที่เกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ว่าทางฝั่งคู่กรณีต้องการเจรจาเพื่อขอให้ยอมความ แต่เพราะพลอยพัดชาคาดการณ์เอาไว้แต่แรกแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ฉะนั้นคำตอบของเธอจึงมีแค่สองคำเท่านั้นว่า“ไม่ค่ะ”“ดีแล้วค่ะ พี่ก็คิดอยู่แล้วละว่าคุณพลอยต้องไม่มีทางยอมแน่นอน อ้อจริงสิ เมื่อวานเขายอมเปิดปากพูดแ
น่าแปลกที่จู่ ๆ ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาหายเงียบไปเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขายังหมั่นโทรศัพท์มาคุย หรือไม่ก็ลงมาหาเธอที่ร้านแล้วชวนไปกินข้าว หรือชวนไปนั่นไปนี่ตลอด แต่หลายวันมานี้ อย่าว่าแต่โทรศัพท์เลย แม้กระทั่งข้อความก็ไม่มีสักประโยค จนเธออดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเปล่าพลอยพัดชาเคยคิดจะโทรศัพท์หาเขาหลายครั้งแต่ก็ติดที่ศักดิ์ศรียังค้ำคอ เพราะหากว่าการที่เขาไม่ติดต่อเธอเป็นเพราะเขาเบื่อจึงเลิกสนใจเธอแล้ว แล้วจู่ ๆ เธอเป็นฝ่ายติดต่อเขาไปก่อน เขาคงต้องคิดแน่นอนว่าเธอไปง้อเขา และยังตัดใจจากเขาไม่ขาด ดังนั้นในเมื่อเขาไม่โทร. มาเธอก็ไม่โทร. ไป และปล่อยให้เรื่องมันคาราคาซังอยู่อย่างนี้ธามไม่มายุ่งวุ่นวายแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน คราวนี้เธอคงตัดใจจริง ๆ สักที“ยายพลอย!”เสียงแหลมแต่ไม่ดังมากนักของนลินทรา ปลุกให้พลอยพัดชาตื่นจากภวังค์ หญิงสาวหันไปมองหน้าเพื่อนพลางเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย นลินทราจึงถอนหายใจแล้วถามว่า“เป็นอะไรของแกวะ นี่เรียกตั้งหลายครั้งแล้วนะแต่แกไม่ได้ยิน ใจลอยไปไหนยะ” พูดถึงตรงนี้นลินทราก็หรี่ตามองอย่า
กวินภพได้แต่ข่มความตื่นเต้นเอาไว้แม้ว่าหัวใจจะเต้นกระหน่ำรัวเร็วจนเขาต้องลอบกำมือไว้เพื่อไม่ให้มือสั่นตามไปด้วย เขาไม่เคยต้องทำอะไรแบบนี้มาก่อน และเป็นครั้งแรกเช่นกันที่มีความคิดว่าอยากเป็นหนูตกถังข้าวสารเขาอายุสามสิบสองปีแล้ว จะเป็นพระเอกไปได้อีกสักกี่ปี อย่างไรเสียเขาก็ไม่คิดจะเป็นนักแสดงไปตลอดชีวิตแน่นอน เขาต้องหาหลักไว้ยึด หรือหาถังข้าวสารสักแห่งเอาไว้เพื่อต่อยอดไปในอนาคต และถังข้าวสารที่ว่าก็คงไม่มีใครจะเหมาะไปกว่าพลอยพัดชาอีกแล้ว“สาว ๆ เอาเครื่องดื่มอะไรกันไหมครับ ไวน์หน่อยไหม ผมไปสั่งให้”กวินภพอาสาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาคิดว่าต้องเริ่มแผนสักทีก่อนที่คนจะเริ่มเข้ามาในงานกันเยอะเกินไปแล้วเขาจะทำอะไรไม่สะดวก เขาไม่รู้ว่ายาเสียสาวที่ได้มาจะออกฤทธิ์ตอนไหนหากเขาหยดลงไปในแก้วของเธอ แม้คนขายจะบอกเขาว่าแค่สิบนาทีก็ได้เรื่องแล้วนลินทราพยักหน้าให้อีกฝ่าย “นิ้งขอไวน์แดงละกันค่ะ รบกวนด้วยนะคะพี่ก้าว”“พวกหนูมีแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ก้าว” สองสาวนักแสดงหน้าใหม่ยิ้มให้ชายหนุ่ม“พลอยขอไวน์ขาว
ตอนแรกเขาไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นข่าวดังนัก แต่พอนึกถึงนิสัยของพลอยพัดชาที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองสูง และไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยต่าง ๆ เขาก็นึกกังวลขึ้นมาว่าเธออาจจะไม่ยี่หระเรื่องนอนกับเขาแค่คืนเดียวก็เป็นได้ ดังนั้นเขาจึงต้องอาศัยนักข่าวบันเทิงช่วยเป็นกระบอกเสียงเพื่อกดดันเธอกลาย ๆ ให้ยอมรับรักจากเขาเสียและถ้าเป็นไปได้ หากเธอสามารถตั้งครรภ์ขึ้นมา นั่นจึงจะถือว่าแผนของเขาสำเร็จเกินความคาดหมายแล้ว เขาจะได้เป็นหนูตกถังข้าวสารโดยสมบูรณ์กวินภพก้าวเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อเห็นแผ่นหลังของพลอยพัดชาอยู่เบื้องหน้า แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องหยุดชะงักเมื่อจู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งโผล่เข้ามาโอบเอวประคองเธอเอาไว้พร้อมกับเรียกเชื่อเธออย่างสนิทสนม“พลอย! เป็นอะไรน่ะ อาการแพ้กำเริบรึเปล่าเนี่ย”หัวคิ้วของกวินภพขมวดมุ่น เมื่อเห็นพลอยพัดชาเกาะเอวของผู้ชายคนนั้นเช่นกัน หนำซ้ำยังเอนซบอีกฝ่ายไปทั้งตัวราวกับไว้เนื้อเชื่อใจ“พี่ธาม พลอยเวียนหัวจะอ้วก พื้นมันโคลงเคลงไปหมดเลย”กวินภพกำหมัดแน่นเมื่อรู้ว่าพลอยพัดชาก็รู้จักกับผู้ชายคนนั้น และดูท่าทางจะไม
คิดได้ดังนั้น นลินทราจึงรีบเดินออกจากงานเลี้ยงแล้วหยิบโทรศัพท์มาต่อสายหานพฤทธิ์ทันที สัญญาณดังขึ้นแค่ครั้งเดียวปลายสายก็กดรับเสียงหวาน“ครับผม”“พี่ซีคะ นิ้งขอเบอร์พี่ธามหน่อยค่ะ” เพราะน้ำเสียงร้อนรนของเธอกระมัง จึงทำให้นพฤทธิ์ไม่ล้อเล่นกับเธออีก“มีอะไรรึเปล่านิ้ง” ได้ยินเขาถามอย่างนั้น เธอจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟังโดยไม่มีตกหล่น“หายไปเกินครึ่งชั่วโมงแล้วนะคะ นิ้งว่าผิดปกติมาก ๆ”“โอเคครับ นิ้งใจเย็นนะ พี่จะโทร. หาธามให้แล้วพี่จะติดต่อกลับนะ”“ได้ค่ะ ได้เรื่องยังไงรีบโทร. หานิ้งนะคะพี่ซี” นลินทรากดวางสายแล้วลองเดินไปทางห้องน้ำของโรงแรมขณะที่รอความคืบหน้าจากนพฤทธิ์ในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศไว้เย็นฉ่ำ แต่ร่างเกือบเปลือยของหนุ่มสาวคู่หนึ่งกลับใกล้ชิดสนิทแนบจนแทบเสียดสีกันด้วยความร้อนรุ่ม เสียงครางแผ่วแว่วหวานของหญิงสาวดังขึ้นไม่ขาดสาย ขณะที่ชายหนุ่มนั้นได้แต่ซุกหน้ามัวเมาอยู่กับทรวงสล้างอย่างหลงใหล กึ่งกลางกายก็บดเบียดเข้าห
นลินทราหน้าแดงก่ำเมื่อจินตวาตีเน้นที่คำว่าดูด ซึ่งไม่ต้องขยายความก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร“น้าจินนี่อะ”“แหม พูดแล้วก็เปรี้ยวปาก นี่ฉันไม่ได้ดูดบุรุษมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย”จินตวาตีพูดพลางส่งสายตาให้หนุ่มผู้จัดการโรงแรมที่มาคอยดูแลความเรียบร้อยให้ในงาน“นิ้งได้ข่าวว่าเพิ่งชวนพี่เจสซี่กับเพื่อน ๆ ไปบาร์โฮสต์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เองไม่ใช่หรือคะน้าจินนี่” นลินทราพูดเบา ๆ เพราะไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ใส่ใจนัก จินตวาตีหัวเราะคิกคักแล้วพูดเต็มเสียงว่า“อุ๊ยตาย! รู้กันด้วยหรือ แหม...หล่อนต้องลองสักครั้งนะยะ เพราะน้ากล้าพูดได้เลยว่าแซ่บทุกคน”นลินทรามองไปรอบตัวด้วยท่าทางเลิ่กลั่กเพราะกลัวคนอื่นได้ยิน ก่อนจะถอนหายใจแผ่วเมื่อไม่มีคนสนใจพวกตน“แล้วนี่น้าจินนี่จะไม่ลองโทรศัพท์ไปหายายพลอยบ้างหรือคะ”เธอไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไรว่าพลอยพัดชาจะยินดีขึ้นห้องไปกับธามจริง ๆ เพราะหากป่วยหรือเป็นไข้จริงจนต้องนอนพัก พลอยพัดชาน่าจะโทร. มาบอกตนหรือน้าจินนี่ก่อน ไม่
“พลอย” เขาเรียกเธอเสียงพร่า หญิงสาวจึงแกล้งละเลงลิ้นลงบนกล้วยอีกครั้งพลางตอบรับเบา ๆ“ขา พี่อยากทำงานก็ทำไปสิคะ พลอยก็แค่...หิว”พูดจบเธอก็ส่งกล้วยเข้าปากไปอีกครั้ง และเช่นเคยที่เธอไม่ยอมกัดกินมัน แต่กลับเอาออกมาแล้วส่งเข้าไปใหม่อีกสองสามครั้ง จนในที่สุดธามก็พับหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงเพื่อปิดเครื่อง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง“อุ๊ย!” สายตาของพลอยพัดชาหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงเขาทันที เพราะตอนนี้มันเป็นรูปเป็นร่างจนเห็นเด่นชัด“ตื่นแล้วอะ ทำยังไงดีน้า” หญิงสาวใช้นิ้วชี้ลากเบา ๆ ไปตามรอยที่นูนขึ้นมาอย่างยั่วเย้า“ยั่วเก่งดีนักนะ แล้วอย่ามาบ่นละกันว่าปวดขาปวดเอว”เขาพูดจบก็คว้าสูทมาพาดไว้ที่แขนเพื่อเป็นการบังเป้ากางเกงไปด้วย มืออีกข้างก็โอบเอวภรรยาจอมยั่วพลางกระซิบว่า“กล้วยนี้มันไม่อร่อยหรอก ขึ้นไปกินกล้วยกับพี่บนห้องดีกว่า อร่อยกว่าเยอะแถมกินได้ไม่อั้น”พลอยพัดชายิ้มกริ่มพลางทิ้งกล้วยหอมนั้นลงถังขยะทันที จากนั้นก็เดินตามสามีออกจากห้องทำงานแล้วขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบนสุ
สองปีต่อมาพลอยพัดชามองเงาตัวเองในกระจกแล้วอดยิ้มไม่ได้ ตอนนี้พุงของเธอป่องมากราวกับลูกโป่งใบใหญ่ เธอตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว อีกไม่นานก็จะได้เจอหน้าสาวน้อยที่อยู่ในพุง หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นเสียจนแทบนับวันถอยหลังรอแต่คนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อ เพราะตั้งแต่รู้ว่าเด็กในครรภ์เป็นลูกสาว ธามก็ลงทุนจัดห้องไว้รอรับด้วยตัวเอง ตั้งแต่ทาสีผนังเป็นสีชมพูอ่อน ซื้อเตียงและเปลเจ้าหญิงเอาไว้รอ รวมถึงเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ล้วนเป็นสีชมพูและไม่ใช่แค่ธามเท่านั้นที่เตรียมห้องไว้รอบุตรสาวคนแรก จินตวาตีก็เช่นกันที่จัดเตรียมห้องไว้รอต้อนรับหลานสาวคนแรกที่จะได้เรียกตนว่าคุณยายหญิงสาวหยิบโลชั่นสำหรับกันรอยแตกลายมาทาเบา ๆ ที่หน้าท้อง เพราะแม้จะใกล้ได้เป็นคุณแม่แล้ว แต่ร่างกายส่วนอื่นของพลอยพัดชาก็ยังคงสภาพเดิม มีเพียงหน้าอกเท่านั้นที่ขยายใหญ่ขึ้นมาอีกเล็กน้อยเพื่อเป็นแหล่งอาหารของเจ้าตัวเล็กในครรภ์ทว่าตอนนี้คนที่ดูจะคลั่งไคล้กับหน้าอกที่ขยายใหญ่ขึ้นของเธอเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นสามีของเธออ้อมกอดอบอุ่นจากด้านหล
พลอยพัดชากับนลินทรายืนมองผืนน้ำสีเขียวมรกตด้วยแววตาระยิบระยับ นานมากแล้วที่ไม่ได้มาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ เพราะฉะนั้นมาทะเลครั้งนี้พวกเธอจะต้องเก็บเกี่ยวความสุขเอาไว้เติมพลังชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้“พี่ธามไปไหนน่ะ” นลินทราถามถึงแฟนหนุ่มของเพื่อน“ไม่รู้สิ เห็นมีโทรศัพท์มาเมื่อกี้แล้วก็เดินไปคุยที่อื่นน่ะ” พลอยพัดชาตอบก่อนจะหันไปโบกมือให้จินตวาตีที่กำลังนั่งทาครีมกันแดดอยู่ในที่ร่ม“น้าจินนี่เอาชุดว่ายน้ำกับพร็อพมาเพียบเลยแก ทั้งหมวกเอย ผ้าคลุมเอย คือนางไม่ได้จะมาเล่นน้ำหรอก แต่จะมาเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ เห็นบอกว่าจะเก็บไว้ดูตอนแก่” พลอยพัดชาได้ที จึงแอบเม้าท์ผู้เป็นน้า“ว่าแต่น้าจินนี่ ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะยะ มาเที่ยวแค่สี่วันแต่กระเป๋าเดินทางตั้งสองใบ อีบ้า ทำอย่างกับจะมาอยู่เป็นเดือน” นลินทราค้อนให้เพื่อน พลอยพัดชาจึงได้แต่หัวเราะคิกคักทั้งสองสาวเห็นว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกมาที่ชายหาดกันบ้างแล้วจึงหันไปมองหน้ากัน“ฉันว่าเราไป
“เจ้าค่า...คราวนี้ก็ออกกันยกแผงเลยสิคะ”“ใช่ ตอนนี้ให้ฝ่ายบุคคลของส่วนกลางประกาศรับพนักงานใหม่แล้ว ส่วนคนที่จะไปแทนตำแหน่งของพิษณุกับโชคชัยนั้น พี่ว่าจะลองคุยกับคุณพ่อดูว่าจะคัดเลือกคนเก่ง ๆ ของที่นี่ไปประจำอยู่สาขานั้นดีไหม ถือเป็นการเลื่อนตำแหน่งไปในตัว แล้วพลอยล่ะเป็นไงมั่ง”“ตอนนี้ที่ร้านได้พนักงานใหม่มาเพิ่มแล้วค่ะ หน่วยก้านดีใช้ได้ ไลฟ์สดเก่งด้วยเพราะเขาเคยไลฟ์ขายเสื้อผ้ามาก่อนก็เลยคล่องมากตอนอยู่หน้าจอ ส่วนน้าจินนี่อาการดีขึ้นมากแล้ว เริ่มให้พวกพี่เลี้ยงที่ดูแลศิลปินเข้าไปคุยเรื่องงานโดยตรงในห้องพักได้แล้วค่ะ เพราะจะได้ช่วยฟื้นความจำด้วย”“พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงไอ้ก้าว ตอนนี้ฝากขังไว้ที่เรือนจำแล้วละ รอศาลตัดสินโทษ แต่คิดว่าคงติดคุกไม่นานหรอก ไม่กี่ปี แต่เรื่องของเพื่อนพลอยนี่สิ กว่าคดีจะเสร็จสิ้นคงอีกนานเลย น่าจะเป็นปี”พลอยพัดชาได้ยินอย่างนั้นก็รู้ทันทีว่าเขาหมายถึงกนกลดา“ว้าย อย่ามาพูดอย่างนี้นะ นางไม่ใช่เพื่อนพลอยสักหน่อย แค่คนรู้จักยังไม่อยากจะเป็นเลย เท่ากับว่าตอนนี้นางกับพ่อก็ยัง
พลอยพัดชาตื่นขึ้นมาช่วงสายเพียงลำพังบนเตียงนอนหลังใหญ่ ไม่รู้ธามไปไหน แต่เดาว่าเขาคงลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสของโรงแรมตามเคยหญิงสาวพาร่างที่เมื่อยขบของตนไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ครึ่งชั่วโมงถัดมาเธอก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยความสดชื่น แต่แล้วสายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่กล่องกำมะหยี่สีแดงกล่องใหญ่บนเตียง ดูแล้วเหมือนกล่องใส่เครื่องประดับที่สามารถใส่ได้หลายชิ้นทั้งแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล และต่างหู“หรือว่าจะเป็นกล่องใส่นาฬิกาของพี่ธาม” เธอรู้ว่าธามเป็นคนที่ชอบสะสมนาฬิกา ก็เลยคิดว่าเขาคงหยิบมาเลือกใส่จึงไม่ได้สนใจมันอีก จากนั้นก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดของตนออกมาสวม“จะไม่เปิดดูหน่อยหรือ” เสียงทุ้มดังขึ้นจากหน้าประตูห้องนอน หญิงสาวจึงหันไปมองตามเสียง ธามยืนเปลือยท่อนบน ใส่เพียงกางเกงลำลองอยู่บ้านสบาย ๆ กำลังยืนกอดอกและส่งยิ้มมาให้“กล่องนาฬิกาของพี่ธามรึเปล่าล่ะคะ”“ไม่ใช่ กล่องนั้นของพลอยทั้งกล่องเลย”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ถามจริง”เธอแขวนชุดไว
“เม็ดสีเหลืองคือพลอยปลอม วิธีสังเกตอย่างง่ายเลยก็คือให้ดูประกายของมันเวลาส่องกับแสง ถ้ามีประกายรุ้งคือปลอมชัวร์ เป็นพลอยที่สังเคราะห์ขึ้นมา และอีกวิธีที่สังเกตด้วยตาเปล่าได้ก็คือให้ดูที่เส้นของพลอย พลอยบางเม็ดมันจะมีเส้นตรงเรียง ๆ กันเป็นแถบให้เห็นกันเลย แต่บางเม็ดเราก็อาจจะต้องใช้ลูปหรือกล้องส่องพระขยายดูข้างในว่ามันมีเส้น ๆ พวกนี้ไหม จำไว้ว่าต้องเป็นเส้นตรงเท่านั้น ถ้ามีเส้นโค้งให้เห็นนั่นคือปลอม และถ้าใช้ลูปส่องดูแล้วมีฟองอากาศหรือรูปร่างกลม ๆ เหมือนโดนัทกระจายอยู่ นั่นก็ปลอมเหมือนกัน” พลอยพัดชาลองให้วนิตาใช้ลูปส่องพลอยดูด้วยตัวเอง“เส้นหรือแถบสีในเนื้อพลอยมันก็เหมือนลายนิ้วมือของคนเรานั่นแหละ แต่ละเม็ดก็จะแตกต่างกันไป ไม่มีเม็ดไหนที่เหมือนกันหรอก”พลอยพัดชาอธิบายพลางเดินไปหยิบถ้วยสีขาวในตู้มารองน้ำแล้วกลับมานั่งที่เดิม“และอีกวิธีที่ง่ายในการดูด้วยตาเปล่าก็คือการจุ่มน้ำ” เธอหยิบพลอยเม็ดสีเขียวมาจุ่มลงไปในน้ำแล้วถามว่า“นิตาเห็นอะไรไหม”“เห็นค่ะ มันเป็นแถบสีเป็นเส้น ๆ” วนิตาตอบ&
“ถ้าไม่มีผมก็ขอปิดประชุมครับ อ้อจริงสิ ผมลืมไป ผู้ช่วยคุณพิษณุกับคุณโชคชัยอย่าลืมไประงับการก่อสร้างเอาไว้นะครับ ส่วนคนงานพวกนั้นก็ให้กลับบ้านไปได้เลยเพราะเป็นคนของเคบี บิลท์ และเพิ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยอีกสี่คนเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน”ธามพูดจบก็หันไปพยักหน้ากับบิดา จากนั้นก็พากันลุกเดินออกไปจากห้องประชุมทันที ซึ่งหลังจากคล้อยหลังคนทั้งสามแล้ว ในห้องประชุมก็มีแต่เสียงโอดครวญเพราะรู้อนาคตของตัวเองแล้วว่าจะเป็นอย่างไรกฤษณ์กลับถึงบ้านด้วยสีหน้าเครียดขึ้ง กนกลดาจึงรีบเดินมาหาบิดาทันที“เป็นไงบ้างคะคุณพ่อ”“มันมีหลักฐานครบทุกอย่างเลย งานนี้เราจบแน่”“แล้วเราจะทำยังไงดีคะ เราต้องติดคุกหรือคะคุณพ่อ” กนกลดาถามเสียงสั่น กฤษณ์ยืนใช้ความคิดครู่หนึ่งก็บอกบุตรสาวว่า“เราต้องหนีไปต่างประเทศแล้วละ แต่ก่อนอื่นเราต้องหาทางถ่ายโอนทรัพย์สินและเงินทั้งหมดไปไว้กับป้าของแกก่อน ไม่อย่างนั้นเราถูกยึดทรัพย์หมดตัวแน่”“แล้วพวกพนักงานที่บริษัทล่ะคะ”
“ว่าไงครับ ทำไมเงียบกันล่ะ” ธามยิ้มมุมปาก เพราะเข้าใจดีว่าพิษณุกับโชคชัยคงกำลังสงสัยและกังวลไม่น้อยว่าเขารู้อะไรมาบ้าง แต่ด้วยความที่วางตัวเป็นคนใหญ่คนโตมานานเกินไป จึงได้แต่เชิดหน้าอย่างหยิ่งผยอง“เธอมาไล่บี้กับพวกอาอย่างนี้ไม่ถูกนะ รู้ไหมว่าสมัยที่พ่อเธอ...” โชคชัยทำท่าขึงขัง แต่ธามไม่เปิดโอกาสให้พูดจบ“พ่อผมก็ส่วนพ่อผมครับไม่เกี่ยวกัน นั่นมันสมัยเมื่อกี่สิบปีมาแล้วล่ะ คนเรามันต้องเดินหน้าครับ ธุรกิจก็เช่นกัน ยิ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการโรงแรมหรือการท่องเที่ยวยิ่งย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ ทุกอย่างต้องเห็นแก่ประโยชน์ขององค์กรเป็นหลักครับไม่ใช่ตัวบุคคล ไอ้ระบบพวกมากลากไปหรือระบบผู้อาวุโสต้องถืออภิสิทธิ์เหนือคนอื่น คิดอยากจะมาทำงานวันไหนก็มาแต่เงินเดือนรับเต็มเดือน แล้วก็พวกใช้เส้นสายยัดญาติพี่น้องตัวเองเข้ามาทำงานแล้วแต่งตั้งตำแหน่งกันเอง ผมบอกตรงนี้เลยว่าผมไม่เอา”ชายหนุ่มลากเก้าอี้ออกแล้วหย่อนตัวลงนั่งพลางกวาดตามองหน้าผู้เข้าร่วมประชุมไปทีละคนอย่างช้า ๆ เพราะคนเหล่านี้ล้วนแต่ถืออภิสิทธิ์ชนทั้งสิ้น บางคนมาทำง
“คุณพ่อว่าไงนะ พี่ธามพาทีมวิศวกรมาตรวจเองโดยไม่บอกใครหรือคะ” กนกลดาถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าเมื่อครู่ตนไม่ได้หูฝาด“ก็ใช่น่ะสิ แสดงว่ามันคอยสบโอกาสเล่นงานเราอยู่แน่ ๆ”กฤษณ์หงุดหงิดจนไม่สามารถนั่งอยู่เฉย ๆ ได้ ต้องลุกเดินไปเดินมาเพื่อคลายความร้อนรุ่มในใจ“แต่ดาว่าก็แค่ตัวเลขบางจุดไม่ตรงกันกับคราวก่อน เขาไม่น่าจะเล่นงานเราได้นะคะ”“เฮอะ! นี่แกคิดว่าคนอย่างไอ้ธามมันจะจ้างทีมวิศวกรลงมาตรวจงานเล่น ๆ หรือ มันทำแบบนี้ก็หมายความว่ามันมีหลักฐานที่สามารถเอาผิดพวกเราได้อยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว”กนกลดานิ่งไปทันทีที่ได้ยินบิดาพูดจบ “แล้วนี่เราจะทำยังไงกันดีคะ หรือถ้าเราไม่ยอมรับเสียอย่าง เขาจะทำอะไรเราได้ คุณพ่อคิดว่าหลักฐานที่เขามีจะทำให้เราล้มได้เลยหรือ”กฤษณ์หันมามองหน้าบุตรสาวครู่หนึ่งแล้วพูดว่า“ถ้าพวกเราไม่ล้มแล้วมันจะทำอย่างนี้ไปทำไม”เขาพยักหน้าช้า ๆ เมื่อนึกถึงสีหน้าเย็นชากับสายตาที่เป็นอริของธามยามมองมาที่ตน“ไอ้ธามมันอดทนอดกลั้นได้ด