คิดได้ดังนั้น นลินทราจึงรีบเดินออกจากงานเลี้ยงแล้วหยิบโทรศัพท์มาต่อสายหานพฤทธิ์ทันที สัญญาณดังขึ้นแค่ครั้งเดียวปลายสายก็กดรับเสียงหวาน
“ครับผม”
“พี่ซีคะ นิ้งขอเบอร์พี่ธามหน่อยค่ะ” เพราะน้ำเสียงร้อนรนของเธอกระมัง จึงทำให้นพฤทธิ์ไม่ล้อเล่นกับเธออีก
“มีอะไรรึเปล่านิ้ง” ได้ยินเขาถามอย่างนั้น เธอจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟังโดยไม่มีตกหล่น
“หายไปเกินครึ่งชั่วโมงแล้วนะคะ นิ้งว่าผิดปกติมาก ๆ”
“โอเคครับ นิ้งใจเย็นนะ พี่จะโทร. หาธามให้แล้วพี่จะติดต่อกลับนะ”
“ได้ค่ะ ได้เรื่องยังไงรีบโทร. หานิ้งนะคะพี่ซี” นลินทรากดวางสายแล้วลองเดินไปทางห้องน้ำของโรงแรมขณะที่รอความคืบหน้าจากนพฤทธิ์
ในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศไว้เย็นฉ่ำ แต่ร่างเกือบเปลือยของหนุ่มสาวคู่หนึ่งกลับใกล้ชิดสนิทแนบจนแทบเสียดสีกันด้วยความร้อนรุ่ม เสียงครางแผ่วแว่วหวานของหญิงสาวดังขึ้นไม่ขาดสาย ขณะที่ชายหนุ่มนั้นได้แต่ซุกหน้ามัวเมาอยู่กับทรวงสล้างอย่างหลงใหล กึ่งกลางกายก็บดเบียดเข้าห
นลินทราหน้าแดงก่ำเมื่อจินตวาตีเน้นที่คำว่าดูด ซึ่งไม่ต้องขยายความก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร“น้าจินนี่อะ”“แหม พูดแล้วก็เปรี้ยวปาก นี่ฉันไม่ได้ดูดบุรุษมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย”จินตวาตีพูดพลางส่งสายตาให้หนุ่มผู้จัดการโรงแรมที่มาคอยดูแลความเรียบร้อยให้ในงาน“นิ้งได้ข่าวว่าเพิ่งชวนพี่เจสซี่กับเพื่อน ๆ ไปบาร์โฮสต์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เองไม่ใช่หรือคะน้าจินนี่” นลินทราพูดเบา ๆ เพราะไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ใส่ใจนัก จินตวาตีหัวเราะคิกคักแล้วพูดเต็มเสียงว่า“อุ๊ยตาย! รู้กันด้วยหรือ แหม...หล่อนต้องลองสักครั้งนะยะ เพราะน้ากล้าพูดได้เลยว่าแซ่บทุกคน”นลินทรามองไปรอบตัวด้วยท่าทางเลิ่กลั่กเพราะกลัวคนอื่นได้ยิน ก่อนจะถอนหายใจแผ่วเมื่อไม่มีคนสนใจพวกตน“แล้วนี่น้าจินนี่จะไม่ลองโทรศัพท์ไปหายายพลอยบ้างหรือคะ”เธอไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไรว่าพลอยพัดชาจะยินดีขึ้นห้องไปกับธามจริง ๆ เพราะหากป่วยหรือเป็นไข้จริงจนต้องนอนพัก พลอยพัดชาน่าจะโทร. มาบอกตนหรือน้าจินนี่ก่อน ไม่
ธามหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดคราบขุ่นข้นบนหน้าท้องของพลอยพัดชาให้อย่างเบามือก่อนจะหยิบผ้าห่มมาคลุมร่างเปล่าเปลือยของหญิงสาวจนมิดถึงคอ เพราะหากปล่อยให้เธอนอนอวดความเย้ายวนยั่วใจอยู่อย่างนี้ คนที่ต้องลำบากและทรมานจากความอดกลั้นก็คงต้องเป็นเขานั่นเองชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับคนหมดแรง เขาหันไปมองใบหน้าหลับใหลของหญิงสาวแล้วก็อดเอื้อมมือไปหยิกแก้มเธอไม่ได้“ยายตัวแสบ เก่งนักเรื่องป่วนชาวบ้านเนี่ย นอนเฉย ๆ ยังไม่วายทำคนอื่นเขาเดือดร้อน”ตอนนี้เขาเดือดร้อนเพราะพลอยพัดชาจริง ๆ เพราะตั้งแต่เธอนอนหลับไป ไอ้ตัวดีของเขาใช่ว่าจะยอมหลับตามไปด้วย มันตื่นแล้วตื่นอีก และเขาก็ต้องคอยจัดการให้มันสงบอยู่หลายครั้ง เพียงเพราะเขาไม่อาจสลัดภาพความเซ็กซี่ของเธอออกไปจากหัวเขาได้เลยพลันนั้น ธามก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นได้ เขาหันไปมองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนนิด ๆ จึงรีบลุกจากที่นอนแล้วใช้โทรศัพท์บนโต๊ะข้างเตียงต่อสายไปยังแผนกรักษาความปลอดภัยทันที“ฮัลโหล ผมธามนะครับ ไม่ทราบว่านั่นใครพูด คุณองอาจหรือคุณวิริยะ” เขาไม่แน่ใจว่าว
“ปากแข็ง เธออยากแต่งงานกับพี่ขนาดนั้นเลยหรือ”เขาเลิกคิ้วขึ้นราวกับคาดคั้น ทั้งที่ความจริงแล้วประโยคเมื่อครู่ต้องสลับตำแหน่งของสรรพนามกันถึงจะถูก เพราะตอนนี้คนที่อยากผูกมัดให้เธอมาแต่งงานด้วยคือเขาต่างหากอีกทั้งเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว คืนที่ผ่านมาเขาเองก็เอาเปรียบพลอยพัดชาไปตั้งมากมาย อย่างไรเสียเขาก็ต้องแต่งงานกับเธอให้ได้ ถ้าเธอไม่ยอมก็คงต้องหาวิธีมามัดมือชกเอาจนได้นั่นแหละ“เมื่อก่อนใช่ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว และจะบอกอะไรให้นะ...” เธอพูดถึงตรงนี้ก็ยกมือขึ้นปิดปากแล้วมองไปรอบห้องอย่างลนลาน จากนั้นก็ลุกขึ้นวิ่งเข้าห้องน้ำไปเขาได้ยินเสียงโอ้กอ้ากดังออกมาจากห้องน้ำ จึงรู้ว่าพลอยพัดชาคงอาเจียนทุกอย่างออกมาจนหมดแน่ ซึ่งก็ดีแล้วเพราะเขาเชื่อว่าหลังจากนี้อาการของเธอจะดีขึ้นธามอมยิ้มพลางฮัมเพลงเบา ๆ ขณะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวจากตู้เสื้อผ้ามาคลุมท่อนล่างแทนการคลุมด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำเพราะเขาจงใจให้พลอยพัดชาเห็นร่องรอยที่เธอทำไว้บนตัวเขาตอนแรกเขาคิดจะหยิบเสื้อผ้าของเธอเอามาวางไว้ให้บนเตียง แต่คิดไปคิดมา ให้หญิงสาวเห็นสภาพกระจัดกระจา
ธามยิ้มกว้าง สายตาวาววับราวกับหมาป่าเจ้าเล่ห์กำลังจะหลอกล่อเหยื่อ ทำให้เธอรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นทันที“อยากฟังความจริงหรืออยากฟังเรื่องแต่งล่ะ”พลอยพัดชาตวัดสายตาค้อนขวับให้เขา “งั้นไม่ต้องเล่าก็ได้ค่ะ!”ธามหัวเราะร่า “ถามจริง จำอะไรไม่ได้เลยหรือ เมื่อคืนพลอยน่ะ...”เขาหยุดพูดไปทันทีเมื่อเห็นว่าหญิงสาวทำหูผึ่งอย่างรอฟัง เป็นเวลาเดียวกับที่เสียงออดหน้าประตูดังขึ้น เขาจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนไปเมื่อธามออกจากห้องไปแล้ว พลอยพัดชาก็รีบใส่ชุดชั้นในให้เรียบร้อย จากนั้นก็ตามด้วยเสื้อเชิ้ตที่เขาเอามาให้ และเพราะเสื้อของเขาตัวใหญ่จนคลุมสะโพกได้ เธอจึงไม่ต้องหากางเกงจากในตู้เสื้อผ้าของเขามาใส่อีกกลิ่นหอมของข้าวต้มทรงเครื่องลอยมายั่วยวนจนกระเพาะของเธอร้องโครกครากขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวรีบเอามือกดท้องเอาไว้แล้วเดินเร็ว ๆ ไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว ครั้นพอมองหน้าคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม เธอก็ได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น“พี่ไม่ใส่เสื้อรึไง นุ่งแต่ผ้าขนหนูผืนเดียวเดินไปเดินมาอยู่ได้”ธามยักไหล่ราวกับไม่ยี่หระ
“พลอยเห็นรอยคิสมาร์กตรงนั้นของพี่แล้วใช่ไหมล่ะ นั่นแหละฝีมือพลอยทั้งนั้น” เขายิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับกดสะโพกลงมาจนจุดอ่อนไหวแนบชิดกันยิ่งกว่าเดิม“และพลอยก็เห็นรอยตรงแถว ๆ หน้าอกกับต้นขาพลอยแล้วใช่ไหมล่ะ นั่นน่ะฝีมือพี่”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง ทันใดนั้น คำพูดของจินตวาตีก็ผุดขึ้นมาในหัวโดยอัตโนมัติ‘ของแบบนี้มันต้องทดลองใช้สินค้าย่ะ ถ้าของเขาดีแถมยังลีลาดีไม่น่าเบื่อก็คบต่อ แต่ถ้าหล่ออย่างเดียวแล้วเรื่องบนเตียงห่วยมันก็ไม่ไหวนะยะ แบบนั้นน่ะอย่าไปเสียเวลาทนคบ พวกหล่อนยังสาวยังแส้ จะมาบอกว่าเรื่องเซ็กซ์ไม่สำคัญนี่ฉันจะหัวเราะให้ อีพวกที่หย่ากันเลิกกันส่วนหนึ่งก็เพราะเซ็กซ์มันไปกันไม่ได้นี่แหละย่ะ’ความคิดซุกซนอย่างหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของพลอยพัดชาทันที ถ้าจะมีอะไรกับใครสักคนเธอก็อยากมีกับคนที่ตนรัก และคน ๆ นั้นก็อยู่เบื้องหน้าเธอนี่แล้ว หญิงสาวไม่อยากหลอกตัวเองว่าไม่อยากลอง ทั้งที่ในใจโอนอ่อนตามเขาไปตั้งแต่เดินมานั่งอยู่ใกล้เขาบนเตียงในห้องสองต่อสองแต่ถ้าเธอยอมเขาง่ายเกินไป เขาจะหาว่าเธอแรดหรือเ
“เป็นไงยะแม่คุณ โดนฉีดยาไปกี่เข็ม แล้วเข็มใหญ่มะ คิก ๆ” เสียงหัวเราะคิกคักของน้าสาวลอยมาตามสาย ทำให้พลอยพัดชาอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้เมื่อนึกถึงเข็มเล่มใหญ่ที่ตนโดนฉีดไปเมื่อเช้า“ตอนนี้น้าจินนี่อยู่ไหนคะ อยู่บ้านรึเปล่า พลอยจะได้แวะไปหาที่บ้านค่ะ” เธอไม่ตอบผู้เป็นน้าว่าโดนจัดไปกี่เข็ม เพราะกว่าธามจะยอมปล่อยเธอกลับคอนโดมิเนียมก็ปาเข้าไปบ่ายแก่แล้ว โดยที่ชายหนุ่มขับรถมาส่ง ส่วนรถของจินตวาตีที่เธอขับมาเมื่อวานนั้นยังจอดเอาไว้ที่โรงแรมอยู่เลย“อยู่บ้านนี่แหละย่ะ ฉันจะมีปัญญาไปไหนได้ รถก็ไม่มีขับ เพราะใครบางคนมันได้ผัวแล้วลืมน้า นี่ถ้าไม่ได้นังนิ้งขับมาส่งบ้าน ฉันคงถูกหนุ่มที่ไหนฉุดไปปู้ยี่ปู้ยำแล้ว”“น้าจินนี่อะ” พลอยพัดชาทำหน้ายู่ ตอนนี้เธอก็ไม่มีรถใช้เช่นกันเพราะรถของเธอจอดไว้ที่บ้านใหญ่ แต่กุญแจรถอยู่ที่ตัวเอง จินตวาตีจึงไม่สามารถเอาไปขับได้“งั้นเดี๋ยวพลอยไปหานะ มีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ”หลังจากวางสายแล้ว พลอยพัดชาจึงเปลี่ยนจากชุดลำลองอยู่บ้านเป็นชุดที่ดูทะมัดทะแมง หญิงส
ฟังผู้เป็นน้าพูดจบ พลอยพัดชาก็หัวเราะก๊ากขึ้นทันทีเพราะหญิงสาวดันนึกภาพตามไปด้วย“แล้วคืนนี้หล่อนจะนอนที่นี่ไหมยะ หรือจะกลับไปนอนโรงแรม”จินตวาตียกไวน์ขึ้นจิบอย่างกรีดกราย“ค่ำขนาดนี้แล้วก็คงนอนที่นี่แหละ เพราะอยากคุยกับน้าจินนี่เรื่องไอ้หนูตัวผู้นั่นอีกหน่อย พลอยอยากวางยาเบื่อหนูน่ะ”ตอนแรกเธอคิดจะรอเวลาสักพักค่อยหาวิธีจัดการ แต่พอคิดอีกที กว่าทุกอย่างจะลงตัวก็คงนานเกินไป เธอไม่ใช่คนใจเย็นพอที่จะเห็นคนที่จ้องเล่นงานตนเดินลอยนวลอยู่ในสังคมต่อไปได้“ถ้าอยากเล่นงานมันจริง ๆ ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี ว่าแต่หล่อนเถอะ เมื่อคืนใส่ถุงรึเปล่ายะ ระวังอย่าปล่อยให้ท้องละ”“รู้แล้วน่า” พลอยพัดชาค้อนให้น้า ก่อนจะยกไวน์ขึ้นดื่มจนหมดแก้ววันต่อมา พลอยพัดชาพาจินตวาตีมาที่ร้านพัดชา เจมส์ด้วยเพราะอีกฝ่ายต้องมาเอารถที่จอดไว้ในโรงแรม หลังจากแยกย้ายกันแล้ว หญิงสาวเดินมาเช็กยอดขายในช่วงสองวันที่ผ่านมาที่ตนไม่ได้เข้าร้าน รวมถึงมีสินค้าใหม่ที่ส่งมาจากจันทบุรีบางส่วน ซึ่งมีทั้งแบบที่เป็น
“เอ๊าไอ้นี่ ก็แกไม่ใช่คบอยู่กับหนูพลอยมาหลายปีแล้วรึ พ่อก็เห็นพวกแกสามวันดีสี่วันทะเลาะกันอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ยังประคับประคองกันมาได้ตั้งนาน แกมันชอบดุน้อง แต่พอดุเขาเสร็จก็วิ่งโร่ไปง้อเขา เวลาแกได้ยินใครพูดชมหนูพลอยเหมือนจะเข้ามาจีบ แกก็กันท่าไม่ให้มายุ่งเพราะแกหวงน้อง แล้วเวลาแกสองคนทะเลาะกันงอนกันทีไร วันนั้นแกก็อารมณ์เสียไปทั้งวัน ใครก็เข้าหน้าไม่ติด ไอ้อาการที่พ่อว่ามาทั้งหมดนี้ แกอย่าบอกนะว่าพวกแกสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันน่ะ”ธามยิ้มเจื่อน จริงอย่างที่บิดาพูดไว้ทุกคำ ก่อนหน้านี้เขาเป็นแบบนั้นกับพลอยพัดชาจริง ๆ แต่ไม่เคยยอมรับ เขาเอาแต่บอกตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่ารักเธออย่างน้องสาวคนหนึ่ง เพราะอย่างไรเสียเธอก็สนิทกับธีรนาฏแต่ทุกครั้งที่มีปัญหากัน เขาไม่เคยอยู่อย่างเป็นสุขเลยสักครั้ง สุดท้ายต้องลงไปหาวิธีง้อเธอแบบแนบเนียน และพอง้อสำเร็จ เขาก็กลับเข้าสู่โหมดบ้างานตามปกติ วนเวียนไปมาอยู่อย่างนี้จนกระทั่งวันหนึ่งพลอยพัดชาประกาศต่อหน้าเขาว่าจะไม่มายุ่งกับเขาอีกต่อไป และเธอก็ทำจริงอย่างที่พูดไว้ ทำเอาเขาถึงกับนั่งไม่ติด สุดท้ายก็ต้องเป็นฝ่ายวิ่งตามเธอเสียเอง
พลอยพัดชาอมยิ้มขณะที่อ่านข่าวเหล่านั้นจากโทรศัพท์มือถือของตน ตอนที่เธอกับจินตวาตีคาดเดาความสัมพันธ์ของกวินภพกับปวีณาเมื่อคราวนั้น เธอยังอดสงสารฝ่ายหญิงไม่ได้ที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ราวกับคนที่ทำผิดกฎหมาย แต่มาวันนี้ความสงสารไม่มีเหลืออยู่แล้ว หลังจากที่ได้เห็นภาพและคลิปต่าง ๆ ที่ธามนำมาให้ดู เธอจึงรู้ทันทีว่าสองคนนี้ร่วมมือกัน“จริงสิ พี่ธามให้ใครส่งรูปพวกนั้นให้พวกเพจข่าวหรือคะ ไหนจะพวกที่ไปตอบคอมเมนต์ว่าเป็นคนหมู่บ้านเดียวกับสองคนนั้นอีก เขาเป็นจริง ๆ รึเปล่า แล้วไม่กลัวโดนฟ้องหรือไง”ธามยิ้มอ่อนพลางตอบว่า “จะใครเล่า ก็ยายนาฏไง”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ยายนาฏหรือ อ้าว! แล้วแอคเคาน์พวกนี้ล่ะ”“เป็นแอคเคาน์สำรองของเพื่อน ๆ เขาที่อเมริกาน่ะ ถ้าคิดจะฟ้องก็เชิญตามสบาย” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะตักกุ้งทอดซอสมะขามใส่ในจานข้าวให้หญิงสาวแล้วพูดว่า“กินข้าวเถอะ อย่าไปสนใจข่าวพวกนั้นเลย รอดูฟีดแบ็กที่ตามมาดีกว่า”“พลอยอยากเห็นหน้านายก้าวจริง ๆ ว่าถ้าเห็นข่าวพวกนี้แล้ว
“พี่ธามพอแล้ว พลอยหายใจไม่ทัน” หญิงสาวหอบจนตัวโยนราวกับวิ่งมาหลายกิโลเมตร ธามเห็นแล้วสงสารจึงหยุดมือ แต่ก็อดหยิกแก้มของอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยวไม่ได้“คิดจะไปส่องแขกหล่อ ๆ งั้นหรือ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย”ธามคาดโทษหญิงสาวอย่างไม่จริงจังนักเพราะรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีว่าช่างยั่วยวนและยั่วอารมณ์ให้มีน้ำโหอยู่บ่อย ๆ“ก็แขกส่วนใหญ่หล่อจริง ๆ นี่นา แต่ก็สู้หล่อมาดเข้มแบบพี่ไม่ได้หรอกน่า จริงไหม” พลอยพัดชายิ้มประจบ“ก็เพราะปากหวานช่างยั่วอย่างนี้นี่ไง พี่ถึงไปไหนไม่รอด” ชายหนุ่มเชยคางของเธอขึ้นแล้วจุ๊บเบา ๆ“ให้มันจริงเถอะ พลอยกลัวว่าพอหมดช่วงโปร พี่ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมน่ะสิ คนนิสัยเสีย”“ไม่เป็นแล้ว สัญญา” เขาชี้สามนิ้วขึ้น เธอจึงยู่หน้าใส่เขา“เชอะ พี่น่ะชอบใจร้ายกับพลอย จะง้อก็ไม่มาง้อดี ๆ กลับส่งขนมมาล่อ แถมยังเป็นคุกกี้ถั่วอีกต่างหาก แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพี่เอาใจใส่พลอยมากแค่ไหน”ธามได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้างพลางทำหน้างุนงงสงสัย เพราะเขาจำไม่ได้ว่าส่
พลอยพัดชาพยักหน้าเพราะเห็นด้วยกับคำพูดของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“เฮ้อ ตั้งแต่เคยถูกผู้ชายกอดมานะ มีอีตาคนนี้นี่แหละที่พลอยรู้สึกรังเกียจที่สุด”ธามหูผึ่งขึ้นมาทันที จากนั้นก็ชี้หน้าเธออย่างเอาเรื่อง“ยั่วโมโหอีกแล้วนะ เดี๋ยวจะโดน”พลอยพัดชาหัวเราะคิกคัก แล้วถามว่า“ว่าแต่...พี่จะทำอะไรเขาหรือคะ”พลอยพัดชาอดอยากรู้ไม่ได้ แต่มั่นใจว่าคนอย่างธามจะไม่มีการส่งนักเลงไปดักซ้อมกวินภพแน่นอน เพราะเขาไม่ชอบทำอะไรที่เป็นการให้ผลแค่ระยะสั้น คนอย่างเขาถ้าคิดลงมือเล่นงานใคร จะต้องเกิดผลเสียกับอีกฝ่ายในระยะยาว“ก็มันอยากเป็นข่าวนักไม่ใช่หรือ พี่ก็จะจัดให้ไง” ธามหันมายิ้มให้ ก่อนจะจับแก้มของเธอไว้ทั้งสองข้างแล้วดึงเบา ๆ พลางพูดว่า“คราวนี้ก็ยิ้มได้แล้วนะ ลงไปหาเค้กกินแก้เครียดกันดีกว่าเนอะ”หญิงสาวยิ้มออกทันที รู้สึกสมองโล่งขึ้นมาในทันใด อีกทั้งยังรู้สึกว่าหัวใจอุ่นวาบอย่างบอกไม่ถูก เพราะตั้งแต่บิดามารดาจากไป ชีวิตของเธอก็มีแต่น้าจินนี่คอยกางปีกปกป้องเสมอมา แต่ในบางครั
พลอยพัดชาเดินเข้ามาในโรงแรมพลางโทรศัพท์หานลินทราไปด้วย แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย หญิงสาวจึงคิดว่าเพื่อนน่าจะวุ่นอยู่กับการซ้อมบทจึงไม่คิดโทร. ไปรบกวนอีกหญิงสาวกดลิฟต์ไปชั้นสิบเอ็ดแล้วเดินไปยังห้องที่ข้อความบอกเอาไว้ เมื่อมาถึงห้องหมายเลยหนึ่งหนึ่งศูนย์สี่ จึงเคาะเบา ๆ แล้วรอให้ทีมงานมาเปิดประตูเมื่อประตูเปิดแง้มออก พลอยพัดชาได้ยินเสียงนลินทราดังแว่วมาจึงลองชะโงกหน้าเข้าไปแล้วเรียกเพื่อนเบา ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีมือแข็งแรงจากด้านในฉุดข้อมือของเธอจนถลาไปตามแรงนั้น และในที่สุดก็ต้องมายืนอยู่ในห้องจนได้พลอยพัดชาหน้าเหวอทันทีเพราะเห็นแล้วว่าไม่มีคนอยู่ในห้องนี้เลย และเสียงของนลินทราที่ได้ยินก็เป็นเสียงจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขก เธอจึงรีบหันหลังกลับทันที แต่พอหันมาก็ต้องเจอกับใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่เธอไม่คิดอยากเจอที่สุดในโลกยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งหมายความว่าเมื่อครู่เขาแอบอยู่หลังประตู และเป็นคนฉุดเธอเข้ามาในห้องนี้อีกด้วย“ถอยไป!” เรื่องราวเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว พลอยพัดชาจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดดี ๆ กับอีกฝ่ายอีก&ldqu
พลอยพัดชาอมยิ้มเมื่อเห็นธามตัวเกร็งขึ้นมาทันทีแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ นั่นก็เพราะการกรีดแผ่นหลังของเขาแบบนี้เป็นการกระตุ้นอารมณ์ของชายหนุ่มให้ตื่นเพริด ยิ่งถ้าเธอทำตอนนัวเนียกันอยู่บนเตียง เขาจะแหงนหน้าขึ้นแล้วครางออกมาอย่างลืมตัวเสมอ“แขกของพี่ธามนี่เขาไม่ได้เรียนมารยาทมาหรือคะ เห็นมาทีไรก็มาตอนเที่ยงทุกที เขาไม่รู้หรือไงว่าตอนเที่ยงพนักงานทุกคนก็ต้องพักเที่ยงไปกินข้าวกินปลา”พลอยพัดชาเห็นกนกลดากำหมัดแน่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ยิ่งเห็นร่องรอยบนใบหน้าซึ่งเกิดจากฝีมือของตนครั้งนั้นก็ยิ่งรู้สึกสะใจไม่น้อย ครั้นพอเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างเธอจึงชิงพูดขึ้นก่อนเพราะไม่ต้องการปล่อยให้อีกฝ่ายได้พูด“อ๋อรู้แล้ว ที่มาตอนเที่ยงทุกครั้งก็หมายความว่าเป็นเพราะเขาอยากชวนพี่ไปกินกลางวันด้วยใช่ไหมคะ อุ๊ยตาย ช่างมีความพยายามสูงส่งซะจริ๊ง”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ! ฉันมาคุยเรื่องงานกับพี่ธาม”กนกลดาแทบเค้นเสียงพูด สีหน้าแววตามีแต่ความกรุ่นโกรธอัดแน่นเต็มที่ แต่พลอยพัดชากลับไม่สนใจ เธอเปิดฝากล่องข้าวหน้าเนื้อจนกลิ่นหอมของอาหารโชยเข้าจมู
“ใกล้ถึงวันเกิดของเขาน่ะ แต่พี่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้เขาดีก็เลยคิดว่าน่าจะซื้อแหวนให้สักวง”“แล้วพี่พัฒน์คิดว่าจะหมั้นกันเร็ว ๆ นี้รึเปล่าคะ หรือว่ายังไม่ได้กำหนด”พลอยพัดชาลองเลียบเคียงถาม เพราะจะได้เลือกสินค้าให้เขาได้ตรงตามความต้องการของอีกฝ่าย“ยังไม่ได้คิดเรื่องหมั้นเลย พี่เพิ่งคบกับเขาได้เดือนสองเดือนนี่เอง” สีหน้าของชายหนุ่มมีความขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด“ถ้าอย่างนั้นพลอยแนะนำว่าเป็นต่างหูหรือสร้อยคอสร้อยข้อมืออะไรพวกนี้ดีกว่าไหมคะ เพราะว่าถ้าให้แหวนกัน คนรับอาจจะคิดว่านี่คือการขอหมั้นทางอ้อม”เธอแนะนำอย่างเป็นกลาง เพราะอย่างไรเสียการให้แหวนกันนั้น อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าคนให้ต้องการหมั้นหมายก็เป็นได้จากที่ฟังเขาพูดมา ดูเหมือนรพีพัฒน์ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นนั้นเพราะเพิ่งคบหากันได้ไม่นาน ซึ่งหากฝ่ายหญิงยังไม่ได้คิดถึงเรื่องหมั้นเช่นกัน แต่จู่ ๆ ฝ่ายชายก็ให้แหวนแทนใจ อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเขาต้องการผูกมัดทางอ้อม และสิ่งที่จะตามมาก็คือความอึดอัดถ้าหากเจ้าตัวยังไม่พร้อมพูดถึงเรื่องนี้&ldqu
“ฉันไม่น่ารับปากยายปลาแล้วเอามันมาอยู่ในสังกัดเลย ชักศึกเข้าบ้านตัวเองแท้ ๆ”“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดน่าน้าจินนี่ อีกอย่างนะ เขาเองก็กำลังดังเป็นพลุแตก ใคร ๆ ก็อยากได้เขากันทั้งนั้น” พลอยพัดชาเอ่ยปลอบใจผู้เป็นน้า“เรื่องยายปลาน้าไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร เพราะพอจะเดาได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เรื่องนั้นน่ะสิ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไอ้ก้าวมันจะทำได้”“พลอยก็ว่างั้นแหละ เขาไม่กลัวคนจะจำได้เลยเนอะ เวลาออกสื่อน่ะ”จินตวาตีนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “น้าคิดว่าก็คงมีคนจำได้บ้างนั่นแหละ และก็รู้กันแค่วงในไม่กี่คน แต่เขาไม่เอามาพูดกัน เพราะสมัยนี้เอะอะอะไรก็ฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล คนมันต้องทำมาหากิน ไม่มีใครว่างพอจะมานั่งติดตามเรื่องพวกนี้หรอก”พลอยพัดชาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ก็จริงเนอะ คนกลุ่มเล็ก ๆ แค่ไม่กี่คนกับคนกลุ่มใหญ่ที่รู้จักฐานะของเขาว่าเป็นพระเอกคนดัง ยังไงกลุ่มหลังเสียงมันก็ดังกว่า”“นี่ถ้านังแอ๊ดดี้กับนังเบนซ์มันรู้เข้าคงได้หัวเราะเยาะฉันจนกรามค้างแน่ พวกนั้นมันยิ่งรอดูฉันล้ม
ธามยิ้มมุมปาก ตอนแรกเขาคิดจะใช้เรื่องคีย์การ์ดมาจัดการกับพิษณุด้วยการยื่นหนังสือให้ฝ่ายบริหารทุกคนทราบว่าอีกฝ่ายทำผิดกฎร้ายแรง และไล่ออกให้พ้นจากบริษัทไป แต่วันนี้หลังจากที่ตรวจไซต์งานเสร็จเรียบร้อย เขาก็เปลี่ยนใจ เพราะคิดว่าการไล่ออกให้พ้นจากตำแหน่งดูจะลงโทษน้อยไปหน่อย“พี่คิดว่าไหน ๆ ก็จะเอาเรื่องเขาแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด การไล่ออกโทษมันเบาไปหน่อย เพราะแผนที่พี่วางเอาไว้น่ะนอกจากจะไล่ออกแล้ว ยังส่งพวกมันเข้าคุกและฟ้องร้องเรียกเงินค่าเสียหายได้อีกด้วย โทษฐานทุจริต”พลันนั้นเขานึกถึงสายตาคับแค้นของกฤษณ์ตอนที่มองพลอยพัดชาจึงอดเตือนเธอไม่ได้“พลอยต้องระวังตัวหน่อยนะ เพราะพี่ไม่รู้ว่าดากับพ่อของเขาจะมาเล่นงานพลอยรึเปล่า พ่อลูกคู่นี้น่ะเล่นงานคนอื่นมาเยอะ พี่ไม่อยากให้พลอยเป็นอะไร เพราะฉะนั้นพี่ว่าพลอยย้ายมาอยู่กับพี่ที่เพนต์เฮาส์เถอะ”“โน!”“ไม่คิดจะกลับไปตัดสินใจก่อนหรือ พี่เป็นห่วงพลอยจริง ๆ นะ”“อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วพี่น่ะ ทำมาเป็นพูดดี ไม่ต้องเลย ต่างคนต่างอยู่ไปนั่น
ธามยักไหล่ “แน่นอนอยู่แล้ว เพอร์เฟกต์อย่างพี่น่ะหาไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะจะบอกให้ เพราะฉะนั้นพลอยต้องจับไว้ให้แน่น ๆ ห้ามปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาดเลยนะ”พลอยพัดชาเบ้ปากใส่ทันที “ขอโทษนะคะ ประโยคนั้นพลอยควรเป็นคนพูดมากกว่าค่ะ”“ครับผม ยอมแล้วครับ แต่ก่อนอื่น กรุณาอย่าหลับในรถนะครับคนสวย มันอันตรายนะคุณผู้หญิง ถ้าคิดจะงีบก็กรุณาเลื่อนกระจกลงมาสักนิดก็ยังดี”“ก็ตอนแรกไม่คิดว่าจะหลับสักหน่อย เล่นมือถืออยู่ดี ๆ เล่นไปเล่นมาหลับตอนไหนยังไม่รู้เลย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่มาเคาะกระจกเรียกนั่นแหละ ปกติพลอยไม่เคยหลับตอนกลางวันเลยนะ เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่ล้วน ๆ ที่ทำให้พลอยต้องนอนไม่อิ่ม” เธอค้อนให้เขาธามหัวเราะเบา ๆ พลางเอื้อมไปจับมือของเธอให้มาวางไว้บนตักของตัวเอง จากนั้นก็เอ่ยปากถามว่า“พลอยค้างกับพี่อีกคืนได้ไหม เดี๋ยวคืนนี้พี่พาไปเที่ยวที่เด็ด ๆ”“ที่ไหน บาร์อะโกโก้หรือ” หญิงสาวปรายตามองเขา“เฮ้ย รู้ได้ไง” เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ“ใช่แล้ว พี่จะพาพลอยไปเที่ยวบาร์อะโกโก้ แต่มันไม่ใช่บาร์อนาจารแบบที่พลอยเข้าใจนะ ที่นั่นจะมีผู้หญิงเต้น