กวินภพได้แต่ข่มความตื่นเต้นเอาไว้แม้ว่าหัวใจจะเต้นกระหน่ำรัวเร็วจนเขาต้องลอบกำมือไว้เพื่อไม่ให้มือสั่นตามไปด้วย เขาไม่เคยต้องทำอะไรแบบนี้มาก่อน และเป็นครั้งแรกเช่นกันที่มีความคิดว่าอยากเป็นหนูตกถังข้าวสาร
เขาอายุสามสิบสองปีแล้ว จะเป็นพระเอกไปได้อีกสักกี่ปี อย่างไรเสียเขาก็ไม่คิดจะเป็นนักแสดงไปตลอดชีวิตแน่นอน เขาต้องหาหลักไว้ยึด หรือหาถังข้าวสารสักแห่งเอาไว้เพื่อต่อยอดไปในอนาคต และถังข้าวสารที่ว่าก็คงไม่มีใครจะเหมาะไปกว่าพลอยพัดชาอีกแล้ว
“สาว ๆ เอาเครื่องดื่มอะไรกันไหมครับ ไวน์หน่อยไหม ผมไปสั่งให้”
กวินภพอาสาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาคิดว่าต้องเริ่มแผนสักทีก่อนที่คนจะเริ่มเข้ามาในงานกันเยอะเกินไปแล้วเขาจะทำอะไรไม่สะดวก เขาไม่รู้ว่ายาเสียสาวที่ได้มาจะออกฤทธิ์ตอนไหนหากเขาหยดลงไปในแก้วของเธอ แม้คนขายจะบอกเขาว่าแค่สิบนาทีก็ได้เรื่องแล้ว
นลินทราพยักหน้าให้อีกฝ่าย “นิ้งขอไวน์แดงละกันค่ะ รบกวนด้วยนะคะพี่ก้าว”
“พวกหนูมีแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ก้าว” สองสาวนักแสดงหน้าใหม่ยิ้มให้ชายหนุ่ม
“พลอยขอไวน์ขาว
ตอนแรกเขาไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นข่าวดังนัก แต่พอนึกถึงนิสัยของพลอยพัดชาที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองสูง และไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยต่าง ๆ เขาก็นึกกังวลขึ้นมาว่าเธออาจจะไม่ยี่หระเรื่องนอนกับเขาแค่คืนเดียวก็เป็นได้ ดังนั้นเขาจึงต้องอาศัยนักข่าวบันเทิงช่วยเป็นกระบอกเสียงเพื่อกดดันเธอกลาย ๆ ให้ยอมรับรักจากเขาเสียและถ้าเป็นไปได้ หากเธอสามารถตั้งครรภ์ขึ้นมา นั่นจึงจะถือว่าแผนของเขาสำเร็จเกินความคาดหมายแล้ว เขาจะได้เป็นหนูตกถังข้าวสารโดยสมบูรณ์กวินภพก้าวเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อเห็นแผ่นหลังของพลอยพัดชาอยู่เบื้องหน้า แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องหยุดชะงักเมื่อจู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งโผล่เข้ามาโอบเอวประคองเธอเอาไว้พร้อมกับเรียกเชื่อเธออย่างสนิทสนม“พลอย! เป็นอะไรน่ะ อาการแพ้กำเริบรึเปล่าเนี่ย”หัวคิ้วของกวินภพขมวดมุ่น เมื่อเห็นพลอยพัดชาเกาะเอวของผู้ชายคนนั้นเช่นกัน หนำซ้ำยังเอนซบอีกฝ่ายไปทั้งตัวราวกับไว้เนื้อเชื่อใจ“พี่ธาม พลอยเวียนหัวจะอ้วก พื้นมันโคลงเคลงไปหมดเลย”กวินภพกำหมัดแน่นเมื่อรู้ว่าพลอยพัดชาก็รู้จักกับผู้ชายคนนั้น และดูท่าทางจะไม
คิดได้ดังนั้น นลินทราจึงรีบเดินออกจากงานเลี้ยงแล้วหยิบโทรศัพท์มาต่อสายหานพฤทธิ์ทันที สัญญาณดังขึ้นแค่ครั้งเดียวปลายสายก็กดรับเสียงหวาน“ครับผม”“พี่ซีคะ นิ้งขอเบอร์พี่ธามหน่อยค่ะ” เพราะน้ำเสียงร้อนรนของเธอกระมัง จึงทำให้นพฤทธิ์ไม่ล้อเล่นกับเธออีก“มีอะไรรึเปล่านิ้ง” ได้ยินเขาถามอย่างนั้น เธอจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟังโดยไม่มีตกหล่น“หายไปเกินครึ่งชั่วโมงแล้วนะคะ นิ้งว่าผิดปกติมาก ๆ”“โอเคครับ นิ้งใจเย็นนะ พี่จะโทร. หาธามให้แล้วพี่จะติดต่อกลับนะ”“ได้ค่ะ ได้เรื่องยังไงรีบโทร. หานิ้งนะคะพี่ซี” นลินทรากดวางสายแล้วลองเดินไปทางห้องน้ำของโรงแรมขณะที่รอความคืบหน้าจากนพฤทธิ์ในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศไว้เย็นฉ่ำ แต่ร่างเกือบเปลือยของหนุ่มสาวคู่หนึ่งกลับใกล้ชิดสนิทแนบจนแทบเสียดสีกันด้วยความร้อนรุ่ม เสียงครางแผ่วแว่วหวานของหญิงสาวดังขึ้นไม่ขาดสาย ขณะที่ชายหนุ่มนั้นได้แต่ซุกหน้ามัวเมาอยู่กับทรวงสล้างอย่างหลงใหล กึ่งกลางกายก็บดเบียดเข้าห
นลินทราหน้าแดงก่ำเมื่อจินตวาตีเน้นที่คำว่าดูด ซึ่งไม่ต้องขยายความก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร“น้าจินนี่อะ”“แหม พูดแล้วก็เปรี้ยวปาก นี่ฉันไม่ได้ดูดบุรุษมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย”จินตวาตีพูดพลางส่งสายตาให้หนุ่มผู้จัดการโรงแรมที่มาคอยดูแลความเรียบร้อยให้ในงาน“นิ้งได้ข่าวว่าเพิ่งชวนพี่เจสซี่กับเพื่อน ๆ ไปบาร์โฮสต์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เองไม่ใช่หรือคะน้าจินนี่” นลินทราพูดเบา ๆ เพราะไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ใส่ใจนัก จินตวาตีหัวเราะคิกคักแล้วพูดเต็มเสียงว่า“อุ๊ยตาย! รู้กันด้วยหรือ แหม...หล่อนต้องลองสักครั้งนะยะ เพราะน้ากล้าพูดได้เลยว่าแซ่บทุกคน”นลินทรามองไปรอบตัวด้วยท่าทางเลิ่กลั่กเพราะกลัวคนอื่นได้ยิน ก่อนจะถอนหายใจแผ่วเมื่อไม่มีคนสนใจพวกตน“แล้วนี่น้าจินนี่จะไม่ลองโทรศัพท์ไปหายายพลอยบ้างหรือคะ”เธอไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไรว่าพลอยพัดชาจะยินดีขึ้นห้องไปกับธามจริง ๆ เพราะหากป่วยหรือเป็นไข้จริงจนต้องนอนพัก พลอยพัดชาน่าจะโทร. มาบอกตนหรือน้าจินนี่ก่อน ไม่
ธามหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดคราบขุ่นข้นบนหน้าท้องของพลอยพัดชาให้อย่างเบามือก่อนจะหยิบผ้าห่มมาคลุมร่างเปล่าเปลือยของหญิงสาวจนมิดถึงคอ เพราะหากปล่อยให้เธอนอนอวดความเย้ายวนยั่วใจอยู่อย่างนี้ คนที่ต้องลำบากและทรมานจากความอดกลั้นก็คงต้องเป็นเขานั่นเองชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับคนหมดแรง เขาหันไปมองใบหน้าหลับใหลของหญิงสาวแล้วก็อดเอื้อมมือไปหยิกแก้มเธอไม่ได้“ยายตัวแสบ เก่งนักเรื่องป่วนชาวบ้านเนี่ย นอนเฉย ๆ ยังไม่วายทำคนอื่นเขาเดือดร้อน”ตอนนี้เขาเดือดร้อนเพราะพลอยพัดชาจริง ๆ เพราะตั้งแต่เธอนอนหลับไป ไอ้ตัวดีของเขาใช่ว่าจะยอมหลับตามไปด้วย มันตื่นแล้วตื่นอีก และเขาก็ต้องคอยจัดการให้มันสงบอยู่หลายครั้ง เพียงเพราะเขาไม่อาจสลัดภาพความเซ็กซี่ของเธอออกไปจากหัวเขาได้เลยพลันนั้น ธามก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นได้ เขาหันไปมองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนนิด ๆ จึงรีบลุกจากที่นอนแล้วใช้โทรศัพท์บนโต๊ะข้างเตียงต่อสายไปยังแผนกรักษาความปลอดภัยทันที“ฮัลโหล ผมธามนะครับ ไม่ทราบว่านั่นใครพูด คุณองอาจหรือคุณวิริยะ” เขาไม่แน่ใจว่าว
“ปากแข็ง เธออยากแต่งงานกับพี่ขนาดนั้นเลยหรือ”เขาเลิกคิ้วขึ้นราวกับคาดคั้น ทั้งที่ความจริงแล้วประโยคเมื่อครู่ต้องสลับตำแหน่งของสรรพนามกันถึงจะถูก เพราะตอนนี้คนที่อยากผูกมัดให้เธอมาแต่งงานด้วยคือเขาต่างหากอีกทั้งเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว คืนที่ผ่านมาเขาเองก็เอาเปรียบพลอยพัดชาไปตั้งมากมาย อย่างไรเสียเขาก็ต้องแต่งงานกับเธอให้ได้ ถ้าเธอไม่ยอมก็คงต้องหาวิธีมามัดมือชกเอาจนได้นั่นแหละ“เมื่อก่อนใช่ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว และจะบอกอะไรให้นะ...” เธอพูดถึงตรงนี้ก็ยกมือขึ้นปิดปากแล้วมองไปรอบห้องอย่างลนลาน จากนั้นก็ลุกขึ้นวิ่งเข้าห้องน้ำไปเขาได้ยินเสียงโอ้กอ้ากดังออกมาจากห้องน้ำ จึงรู้ว่าพลอยพัดชาคงอาเจียนทุกอย่างออกมาจนหมดแน่ ซึ่งก็ดีแล้วเพราะเขาเชื่อว่าหลังจากนี้อาการของเธอจะดีขึ้นธามอมยิ้มพลางฮัมเพลงเบา ๆ ขณะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวจากตู้เสื้อผ้ามาคลุมท่อนล่างแทนการคลุมด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำเพราะเขาจงใจให้พลอยพัดชาเห็นร่องรอยที่เธอทำไว้บนตัวเขาตอนแรกเขาคิดจะหยิบเสื้อผ้าของเธอเอามาวางไว้ให้บนเตียง แต่คิดไปคิดมา ให้หญิงสาวเห็นสภาพกระจัดกระจา
ธามยิ้มกว้าง สายตาวาววับราวกับหมาป่าเจ้าเล่ห์กำลังจะหลอกล่อเหยื่อ ทำให้เธอรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นทันที“อยากฟังความจริงหรืออยากฟังเรื่องแต่งล่ะ”พลอยพัดชาตวัดสายตาค้อนขวับให้เขา “งั้นไม่ต้องเล่าก็ได้ค่ะ!”ธามหัวเราะร่า “ถามจริง จำอะไรไม่ได้เลยหรือ เมื่อคืนพลอยน่ะ...”เขาหยุดพูดไปทันทีเมื่อเห็นว่าหญิงสาวทำหูผึ่งอย่างรอฟัง เป็นเวลาเดียวกับที่เสียงออดหน้าประตูดังขึ้น เขาจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนไปเมื่อธามออกจากห้องไปแล้ว พลอยพัดชาก็รีบใส่ชุดชั้นในให้เรียบร้อย จากนั้นก็ตามด้วยเสื้อเชิ้ตที่เขาเอามาให้ และเพราะเสื้อของเขาตัวใหญ่จนคลุมสะโพกได้ เธอจึงไม่ต้องหากางเกงจากในตู้เสื้อผ้าของเขามาใส่อีกกลิ่นหอมของข้าวต้มทรงเครื่องลอยมายั่วยวนจนกระเพาะของเธอร้องโครกครากขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวรีบเอามือกดท้องเอาไว้แล้วเดินเร็ว ๆ ไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว ครั้นพอมองหน้าคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม เธอก็ได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น“พี่ไม่ใส่เสื้อรึไง นุ่งแต่ผ้าขนหนูผืนเดียวเดินไปเดินมาอยู่ได้”ธามยักไหล่ราวกับไม่ยี่หระ
“พลอยเห็นรอยคิสมาร์กตรงนั้นของพี่แล้วใช่ไหมล่ะ นั่นแหละฝีมือพลอยทั้งนั้น” เขายิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับกดสะโพกลงมาจนจุดอ่อนไหวแนบชิดกันยิ่งกว่าเดิม“และพลอยก็เห็นรอยตรงแถว ๆ หน้าอกกับต้นขาพลอยแล้วใช่ไหมล่ะ นั่นน่ะฝีมือพี่”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง ทันใดนั้น คำพูดของจินตวาตีก็ผุดขึ้นมาในหัวโดยอัตโนมัติ‘ของแบบนี้มันต้องทดลองใช้สินค้าย่ะ ถ้าของเขาดีแถมยังลีลาดีไม่น่าเบื่อก็คบต่อ แต่ถ้าหล่ออย่างเดียวแล้วเรื่องบนเตียงห่วยมันก็ไม่ไหวนะยะ แบบนั้นน่ะอย่าไปเสียเวลาทนคบ พวกหล่อนยังสาวยังแส้ จะมาบอกว่าเรื่องเซ็กซ์ไม่สำคัญนี่ฉันจะหัวเราะให้ อีพวกที่หย่ากันเลิกกันส่วนหนึ่งก็เพราะเซ็กซ์มันไปกันไม่ได้นี่แหละย่ะ’ความคิดซุกซนอย่างหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของพลอยพัดชาทันที ถ้าจะมีอะไรกับใครสักคนเธอก็อยากมีกับคนที่ตนรัก และคน ๆ นั้นก็อยู่เบื้องหน้าเธอนี่แล้ว หญิงสาวไม่อยากหลอกตัวเองว่าไม่อยากลอง ทั้งที่ในใจโอนอ่อนตามเขาไปตั้งแต่เดินมานั่งอยู่ใกล้เขาบนเตียงในห้องสองต่อสองแต่ถ้าเธอยอมเขาง่ายเกินไป เขาจะหาว่าเธอแรดหรือเ
“เป็นไงยะแม่คุณ โดนฉีดยาไปกี่เข็ม แล้วเข็มใหญ่มะ คิก ๆ” เสียงหัวเราะคิกคักของน้าสาวลอยมาตามสาย ทำให้พลอยพัดชาอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้เมื่อนึกถึงเข็มเล่มใหญ่ที่ตนโดนฉีดไปเมื่อเช้า“ตอนนี้น้าจินนี่อยู่ไหนคะ อยู่บ้านรึเปล่า พลอยจะได้แวะไปหาที่บ้านค่ะ” เธอไม่ตอบผู้เป็นน้าว่าโดนจัดไปกี่เข็ม เพราะกว่าธามจะยอมปล่อยเธอกลับคอนโดมิเนียมก็ปาเข้าไปบ่ายแก่แล้ว โดยที่ชายหนุ่มขับรถมาส่ง ส่วนรถของจินตวาตีที่เธอขับมาเมื่อวานนั้นยังจอดเอาไว้ที่โรงแรมอยู่เลย“อยู่บ้านนี่แหละย่ะ ฉันจะมีปัญญาไปไหนได้ รถก็ไม่มีขับ เพราะใครบางคนมันได้ผัวแล้วลืมน้า นี่ถ้าไม่ได้นังนิ้งขับมาส่งบ้าน ฉันคงถูกหนุ่มที่ไหนฉุดไปปู้ยี่ปู้ยำแล้ว”“น้าจินนี่อะ” พลอยพัดชาทำหน้ายู่ ตอนนี้เธอก็ไม่มีรถใช้เช่นกันเพราะรถของเธอจอดไว้ที่บ้านใหญ่ แต่กุญแจรถอยู่ที่ตัวเอง จินตวาตีจึงไม่สามารถเอาไปขับได้“งั้นเดี๋ยวพลอยไปหานะ มีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ”หลังจากวางสายแล้ว พลอยพัดชาจึงเปลี่ยนจากชุดลำลองอยู่บ้านเป็นชุดที่ดูทะมัดทะแมง หญิงส
“เรื่องนี้พลอยไม่แน่ใจค่ะ เพราะบอกตามตรงว่าเรื่องของคุณก้าวที่เป็นข่าวนั้นพลอยก็ไม่เคยรู้เหมือนกัน เพิ่งจะได้รู้พร้อมกับทุกคนนั่นแหละ ก็เลยไม่กล้าเดาส่งเดช”“แต่เคยได้ยินมาว่าที่คุณก้าวทำร้ายคุณจินนี่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคุณก้าวพยายามมาจีบคุณพลอยก็เลยถูกคุณจินนี่ตักเตือน นั่นเป็นความจริงรึเปล่าครับ”พลอยพัดชายิ้มกว้างก่อนตอบ “ไม่จริงค่ะ พลอยรู้จักคุณก้าวครั้งแรกตอนงานวันเกิดน้าจินนี่ที่จัดในบ้าน และหลังจากนั้นมาก็มีเจอคุณก้าวบ้างตามงานต่าง ๆ และคุณก้าวก็เคยเป็นลูกค้าของร้านพัดชา เจมส์ด้วย จึงเป็นธรรมดาที่จะรู้จักกันในแบบเพื่อน ซึ่งเรื่องนี้น้าจินนี่ก็รู้ดีอยู่แล้ว”“แต่เคยมีภาพหลุดออกมาว่าคุณพลอยนัดเจอกับคุณก้าวที่โรงแรม”เมื่อได้ยินคำถามนี้ พลอยพัดชาก็ปรายตามองไปทางคนพูด เธอจำนักข่าวคนนั้นได้ทันที เพราะเป็นคนเดียวกับที่แอบซุ่มถ่ายภาพของเธอกับกวินภพเมื่อวันก่อน“นั่นยิ่งไม่จริงเข้าไปใหญ่ วันนั้นมีการถ่ายทำละครเรื่องนางร้ายสายลับ ทีมงานหลายคนก็อยู่ด้วย คุณนิ้งก็อยู่ พลอยแค่ขึ้นไปหาคุณนิ้งแล้วบังเอิ
สักพักปวีณาก็กลับมาจากร้านสะดวกซื้อ กลิ่นอาหารปรุงสุกใหม่ ๆ ทำให้คนที่กินอาหารได้น้อยอย่างกวินภพถึงกับน้ำลายสอ เขารีบลงจากเตียงแล้วเดินมาดูของกินที่หญิงสาวซื้อมาทันทีว่ามีอะไรบ้าง ก่อนจะนำเบียร์ไปแช่ไว้ในตู้เย็น“โอ้! กะเพราหมูสับไข่ดาว ไม่ได้กินมานานแล้วนะเนี่ย กลิ่นโคตรหอมเลย” เขามีสีหน้าเริงรื่นขณะนั่งบนเก้าอี้ของชุดรับแขก พลางชะโงกไปมองอาหารในกล่องโฟมของปวีณาบ้าง“ของปลาอะไรน่ะ ผัดซีอิ๊วหรือ ต้องใช่แน่ ๆ เลยกลิ่นนี้”“อืม ปลาอยากกินน่ะ ก้าวก็มากินด้วยกันสิ” หญิงสาวยิ้มบาง ๆ พร้อมกับนั่งลงฝั่งตรงข้าม“แน่นอนอยู่แล้ว งั้นปลาเอาไข่ดาวไปกินนะ แบ่งข้าวของก้าวไปกินด้วย จะได้อิ่ม ๆ”“อืม” ปวีณายิ้ม สีหน้าดูผ่อนคลายเมื่อเห็นกวินภพไม่มีความเคร่งเครียดเหมือนเมื่อวานกระบอกตาของหญิงสาวร้อนผ่าวแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้อย่างสุดความสามารถ เพราะการแบ่งอาหารกันกินแบบนี้เหมือนเมื่อครั้งที่เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ ใหม่ ๆ เธอกับเขามีเงินติดตัวไม่มากนัก ระหว่างที่ยังหางานทำไม่ได้จึงต้องใช้เงินอย่างประหย
วันต่อมา พลอยพัดชาย้ายกลับไปนอนที่บ้านใหญ่เพราะวันนี้มีนัดประชุมงานกับผู้ดูแลนักแสดงทุกคนที่อยู่ในสังกัดของจินตวาตี ซึ่งแต่ละคนนั้นรู้จักพลอยพัดชาเป็นอย่างดีกันอยู่แล้ว การพูดคุยและอธิบายงานจึงเป็นไปอย่างราบรื่น และงานดูแลศิลปินเหล่านี้พลอยพัดชาก็พอรู้มาจากผู้เป็นน้าบ้าง จึงไม่มีอะไรต้องกังวล มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่หญิงสาวยังไม่กล้าตัดสินใจ คือการเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าแบรนด์ต่าง ๆ รวมไปถึงค่าตัวของนักแสดงแต่ละคน“เขาสนใจให้นาน่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ครีมอาบน้ำหรือ แล้วพี่ส้มคิดว่าควรเรียกค่าตัวเท่าไร”พลอยพัดชาจำได้ว่านาน่า เป็นนักแสดงหน้าใหม่ในสังกัด ดังมาจากละครเรื่องหนึ่งที่ฉายทางโทรทัศน์ ทั้งยังเป็นละครเรื่องแรกของเจ้าตัวอีกด้วย แต่กลับโด่งดังเป็นที่รู้จักของแฟน ๆ เป็นอย่างมากส้มกางมือออกทั้งห้านิ้ว พลอยพัดชาจึงพยักหน้ารับรู้แล้วถามว่า“ราคานี้คือราคาที่น้าจินนี่เสนอให้เขาไปใช่ไหมคะ เพียงแต่เขาต้องเอาไปเสนอผู้บริหารอีกที”“ใช่ เสนอไปตั้งนานแล้วละ แต่เขาเพิ่งติดต่อมาเมื่อวานซืนนี้เอง สงสัยผู้บริหารเพิ่งอนุมัติ เขาบอกว่
“แล้วนี่แกจะทำยังไงต่อ จะแคนเซิลไม่ไปแล้ว หรือว่าตกลงไปตามแพลนเดิม”“นั่นดิ เอาไงดีวะนิ้ง อยากไปก็อยากไปนะ เพราะไปเปิดตลาดใหม่ แต่ถ้าไปแล้วงานของน้าจินนี่ทางนี้ล่ะใครจะช่วยดูแล อีกอย่างน้าจินนี่ก็ยังไม่ฟื้น ฉันคงทิ้งเขาไปไหนไม่ได้หรอก”“ถ้าไม่ไปแกจะโดนค่าปรับอะไรรึเปล่าล่ะ” นลินทราถามต่อ“ก็เสียค่าบูธที่จองไว้ให้เขาไปฟรี ๆ นั่นแหละ แล้วก็มีเงินค่าดำเนินการ ค่าประกันสินค้าตอนที่ขนส่งทางเครื่องบินนั่นอีกที่ต้องเสียไปฟรี ๆ เฮ้อ...ช่างมันเถอะ คราวนี้ไม่ได้ไปก็ไว้ไปคราวหน้าก็ได้ ฉันทิ้งน้าจินนี่ไม่ได้จริง ๆ”พลอยพัดชาคุยกับนลินทราอีกไม่นานก็วางสาย จากนั้นหญิงสาวจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำเพราะตั้งใจจะนอนแช่น้ำอุ่นสักครู่แล้วค่อยแต่งตัวลงไปเคลียร์งานที่ร้านพัดชา เจมส์หญิงสาวเอนศีรษะพิงขอบอ่างพลางหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย เมื่อคืนเธอได้นอนน้อยมาก ทั้งยังต้องตื่นแต่เช้าเพื่อหนีมาที่นี่อีก แต่น่าแปลกที่กลับไม่มีอาการอ่อนล้าหรือง่วงงุนเลยแม้แต่น้อยแต่แล้วจมูกของเธอก็ได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอันแสนคุ้นเคยอยู่ใกล้ตัว
ตอนนี้เขาให้ปวีณาไปซื้ออาหารมาตุนไว้ และออกไปหาซื้อแว่นกรอบดำกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวราคาถูกมาให้เขาใส่ รวมถึงซื้อครีมรองพื้นสีเข้มมาด้วย เพราะเขาต้องเอาไว้ใช้ในการปลอมตัว โชคดีที่ตอนช่วงเช้าของที่นี่จะมีตลาดนัด อีกทั้งยังมีร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่ใกล้กับบังกะโลอีกด้วยแต่ถึงอย่างนั้น ลางสังหรณ์ของเขาก็บอกว่าเขาเหลือเวลาหลบหนีอีกไม่นานแล้วเสียงเคาะประตูห้องสองครั้ง กวินภพจึงเดินไปเปิดประตูเพราะรู้ว่าคนที่มาคือปวีณา เขาเห็นหญิงสาวถือข้าวของพะรุงพะรังเข้ามาในห้องจึงรีบเข้าไปช่วยถือ ปวีณาเดินไปนั่งพักอยู่บนเตียงพลางเอามือจับบั้นเอวของตัวเองแล้วบิดตัวเล็กน้อย ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นจึงอดรู้สึกผิดไม่ได้“ปวดหลังละสิ เดี๋ยวก้าวนวดให้ละกัน” พูดจบเขาก็ขึ้นเตียงไปนั่งซ้อนหลังของภรรยาแล้วลงมือนวดเบา ๆ“ก้าวกินข้าวก่อนเถอะ ไม่หิวหรือ ก้าวยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ”“ยังไม่หิว” เขาตอบสั้น ๆ หลังจากที่นวดไปพักหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นว่า“ปลา ถ้าก้าวถูกตำรวจจับแล้วติดคุก ปลาห้ามไปเยี่ยมก
กวินภพโกรธจนแทบคลั่ง ชายหนุ่มเดินมาถึงประตูรั้วหน้าบ้านที่จอดรถไว้ เขายืนนิ่งพลางคิดว่าไหน ๆ ชื่อเสียงของเขาก็ไม่มีเหลือแล้ว ทุกอย่างหายวับไปกับตาเพียงชั่วข้ามคืนเพราะคนเพียงคนเดียว ในเมื่อจินตวาตีต้องการให้เขาจมดิ่งลงใต้น้ำ เขาก็จะลากอีกฝ่ายลงไปด้วยคิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงเดินกลับไปที่สระว่ายน้ำอีกครั้งอย่างเงียบเชียบ เขาเห็นจินตวาตีกำลังนอนหลับตาอยู่ที่เดิม เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้หลับแต่แค่พักสายตาเท่านั้น จึงโพล่งถามออกไปตามตรง“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้เป็นฝีมือพี่ใช่ไหม”จินตวาตีลืมตาขึ้นพลางถอนหายใจแผ่วก่อนตอบว่า“ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”“โกหก! พี่ต้องเป็นคนทำแน่ ผมไม่เคยมีเรื่องกับใครที่ไหน คนเดียวที่ผมมีเรื่องด้วยก็คือคุณพลอยหลานของพี่ พี่ไม่ชอบให้ผมไปยุ่งกับเขา พี่ก็เลยจัดการผมโดยไม่ให้ผมได้อยู่ในวงการอีกใช่ไหม”“ถ้าฉันทำจริงฉันก็จะยอมรับ แต่ถ้าไม่ได้ทำฉันก็จะไม่ยอมรับเด็ดขาด และถ้าเธอเชื่อไปแล้วว่าฉันเป็นคนทำ ฉันก็คงไม่มีอะไรจะพูดอีก ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว”พูดจบจิน
หกชั่วโมงก่อนหน้า“แกเคยเป็นเด็กทำงานในโฮสต์คลับใช่ไหม”จินตวาตีพูดขึ้นลอย ๆ เมื่อเห็นปฏิกิริยาตื่นตกใจของอีกฝ่ายก็ยิ่งแน่ใจว่าข่าวที่ได้รับรู้มานั้นน่าจะถูกต้องแล้ว“ไม่จริงนะครับพี่จินนี่ ผมไม่เคยทำงานแบบนั้น”กวินภพปฏิเสธเสียงแข็ง หากแต่สายตากลับหลุกหลิกไม่กล้ามองสบตากับจินตวาตีตรง ๆ“ตามที่ฉันรู้มา แกไม่ได้เป็นเด็กโฮสต์อย่างเดียว แกยังมีคนอุปการะด้วยนี่ และไม่ใช่แค่คนหรือสองคนด้วย มีคนให้ภาพกับคลิปแบบลับเฉพาะกับฉันมา รู้ไหมว่าภาพอะไร...ภาพตอนที่แกติดเบอร์ตองเจ็ดไว้ที่ขอบกางเกงใน กับคลิปที่แกเต้นตามโต๊ะลูกค้าด้วยกางเกงในตัวเดียวแล้วมีสาว ๆ สอดเงินเข้าไปในกางเกงในไงละ”จินตวาตีรู้เรื่องนี้มาจากข้อมูลที่ธามไปสืบมาให้ ดังนั้นเธอจึงลองไปเลียบเคียงถามจากหนุ่มโฮสต์ที่สนิทกัน ตอนแรกฝ่ายนั้นดูเหมือนไม่อยากพูดอะไรมากเพราะเรื่องผ่านไปหลายปีแล้ว และเขาเองก็ไม่เคยเจอกวินภพตัวจริงสักครั้ง เคยแต่ได้ยินคนพูดกันในร้านเท่านั้นว่ากวินภพเคยทำงานที่นี่ ทั้งยังยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเรื่องจริง นอกจากนี้ย
ธามปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่งทำการเก็บหลักฐานบริเวณสระว่ายน้ำ ส่วนเขาก็พาตำรวจอีกสองคนไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องทำงานเพื่อใช้คลิปเหล่านี้เป็นหลักฐานในการออกหมายจับกวินภพ“ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ เป็นดาราแล้วมาทำเรื่องแบบนี้ได้ น้องสาวผมชอบเขามากเลยนะ” ตำรวจนายหนึ่งดูคลิปนั้นแล้วได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเสียดายธามแค่นยิ้มเล็กน้อยพลางคิดในใจว่าตำรวจคนนี้ไม่ผิดที่คิดว่าดารานักแสดงทุกคนจะไม่มีคนไม่ดี เพราะภาพลักษณ์ของคนที่ทำอาชีพนี้เมื่อออกสื่อก็ต้องสร้างให้ตัวเองดูดีเพื่อเป็นแบบอย่างของสังคม ทั้งที่ความจริงแล้วบางคนนิสัยใจคออาจไปคนละทางกับภาพลักษณ์ที่แสดงออกมาเลยก็เป็นได้แต่สำหรับเขาแล้วไม่ว่าจะอยู่ในวงการไหนก็มีคนเลวปะปนอยู่ด้วยทั้งนั้น เพียงแต่คนหน้าตาดีมักได้โอกาสและได้ภาษีดีกว่าคนหน้าตาธรรมดา นี่เป็นสิ่งที่มีมาเนิ่นนาน แม้บางคนจะพร่ำพูดอยู่เสมอว่าไม่คบคนที่หน้าตา แต่พอถึงเวลาจริง ๆ สายตาก็มักจะมองไปที่คนหน้าตาดีกว่าก่อนเสมอ“คุณพอจะทราบเหตุจูงใจไหมครับ” ตำรวจนายหนึ่งหันมาถามเขา เขาจึงตีหน้าซื่อ ไม่รู้เรื่องใ
เขาโยนกระเป๋าเป้ที่ใส่เงินปึกใหญ่ไปไว้ด้านหลังซึ่งปวีณานั่งอยู่เพื่อให้เธอเก็บรวบรวมเงินสดเอาไว้ใช้สอยตอนที่ต้องหลบหนี เพราะคงไม่ดีแน่หากบัญชีของเขาต้องถูกอายัด ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาจึงโอนเงินทั้งหมดของตนไปใส่ไว้ในบัญชีของปวีณา จากนั้นก็ไล่ถอนเงินสดออกมาเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เจอตู้เอทีเอ็ม“แล้วเราจะไปไหนกันดีละก้าว”หลังจากที่นั่งรถมาด้วยกันร่วมชั่วโมง ในที่สุดปวีณาก็เอ่ยปากพูดอีกครั้งหลังจากที่รับรู้มาว่าก่อนหน้านี้กวินภพไปทำอะไรมา“ตอนนี้เรามีเงินติดตัวเท่าไรแล้ว” กวินภพไม่ตอบแต่กลับถามไปอีกเรื่อง“เกือบห้าแสน”“งั้นเราคงต้องหาห้องเช่าสักห้องอยู่ไปก่อน ไปแถว ๆ ภาคใต้น่าจะดี”“ปลาคิดว่าก้าวจะขับไปทางภาคอีสานซะอีก”“ก็แค่หลอกตำรวจน่ะ เพราะเราถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มกันมาตลอดทาง เขาต้องเช็กแน่ว่าเราคงขึ้นไปภาคอีสาน แต่ความจริงเราวกรถกลับลงใต้”ปวีณาลอบถอนหายใจแล้วเอนหลังพิงเบาะรถ กวินภพทำอย่างนั้นกับจินตวาตีย่อมไม่พ้นข้อหาพยายามฆ่า ตอนนี้เธอได้แต่ภาวนาให้จินตวาต