“เชิญค่ะ จะไปพร้อมกันตอนนี้เลยไหมคะ สถานีตำรวจอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไร ขับรถไม่เกินสิบนาทีก็ถึง ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจอดรถไว้ที่ไหนคะ”
พลอยพัดชาพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสุภาพราบเรียบ สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ขณะที่ฝ่ายลูกค้านั้นแสดงท่าทางเกรี้ยวกราดเต็มที่ อีกทั้งยังชี้หน้าพลอยพัดชาพร้อมกับพูดว่า
“ฉันจะไปแจ้งตำรวจ คอยดูเถอะฉันจะทำให้ร้านของแกเสียชื่อเสียงจนไม่มีคนมาซื้อเลยเพราะขายของปลอมทั้งร้าน” อีกฝ่ายขู่เสียงดังลั่นร้าน แต่พลอยพัดชาก็ยังคงนิ่ง
“แต่ถ้าแกไม่อยากเสียชื่อก็คืนเงินฉันมา เรื่องทุกอย่างก็จบ ฉันจะไม่เอาเรื่องเอาราว ฉันเสียเงินหลายหมื่นก็อยากได้ของดี ๆ แต่พวกแกเอาของปลอมมาหลอกขายแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน คืนเงินฉันมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”
พลอยพัดชามองมือที่อีกฝ่ายแบมาตรงหน้าตนพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มอ่อนแล้วพูดว่า
“คงไม่ได้ค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วตอนต้นว่าร้านเราขายของแท้เท่านั้น ถ้าคุณต้องการจะขายคืนให้กับทางร้าน คุณก็ต้องเอาสินค้าของร้านเรามาคืนค่ะ แต่แหวนวงนี้ไม่ใช่ของที่ร้าน และมันคือของปลอม”
“นี่แกจะปัดความรับผิดชอบใช่ไหม” ผู้หญิงคนนั้นชี้หน้าพลอยพัดชาอีกครั้ง
“เรารับผิดชอบแน่ค่ะถ้าเป็นสินค้าของที่ร้าน แต่ถ้าไม่ใช่ก็คงต้องขออภัยด้วยนะคะ”
พลอยพัดชาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพเคลื่อนไหวของแหวนวงนั้นเอาไว้ แต่ลูกค้าคนนั้นทำท่าจะปรี่เข้ามาแย่งคืนไปจนพนักงานในร้านสองคนต้องช่วยกันมาบังผู้เป็นเจ้านายให้อยู่ด้านหลัง
“นี่พวกแกจะรุมฉันใช่ไหม!” ผู้หญิงคนนั้นเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นอีกราวกับต้องการข่มขวัญ ด้วยความรำคาญ พลอยพัดชาจึงหันไปบอกพนักงานขายอีกคนในร้านว่า
“หน่อยโทร. แจ้งตำรวจที” จากนั้นก็หันมาพูดกับอีกฝ่าย
“เรายังไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะคะ คุณคิดไปเองทั้งนั้น และที่ฉันต้องการถ่ายคลิปของแหวนเก็บเอาไว้ก็เพื่อใช้เป็นหลักฐานค่ะ ในเมื่อคุณยืนยันว่าแหวนวงนี้ซื้อไปจากร้านเรา ฉันก็ต้องเก็บรายละเอียดทั้งหมดเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ทั้งตัวแหวนและใบเซอร์ รวมถึงใบรับประกันจากทางร้านด้วย”
พลอยพัดชาพูดไปก็ถ่ายคลิปต่าง ๆ เก็บไว้หลายคลิป รวมถึงถ่ายภาพนิ่งของใบรับรองจากสถาบันอัญมณีศาสตร์คู่กับแหวนด้วย เพราะในใบรับรองนั้นจะมีภาพ และรายละเอียดของพลอยเม็ดดังกล่าวไว้อย่างละเอียด เสร็จเรียบร้อยก็ส่งคืนให้อีกฝ่ายไป
“ตำรวจกำลังมาค่ะ รบกวนช่วยรอสักครู่นะคะ ถ้าอยากแจ้งความก็เชิญได้เลย” พลอยพัดชายิ้มอ่อนขณะที่มองสีหน้าลนลานของอีกฝ่ายตอนที่รีบเก็บแหวนและเอกสารต่าง ๆ ลงกระเป๋า
“ฉันแจ้งแน่ละ และฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉันแอบถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย ฉันจะเอาร้านแกไปประจานให้คนเขารู้กันทั่วเลยว่าร้านนี้มันขี้โกง”
พลอยพัดชายักไหล่อย่างไม่ยี่หระ รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนหน้าพลางพูดว่า
“ไม่ต้องห่วงนะคะ ร้านเราก็มีกล้องวงจรปิดค่ะ ส่วนเรื่องถ่ายคลิปแล้วเอาไปประจานนี่ เชิญทำได้เต็มที่เลย แต่ขอเตือนเอาไว้อย่างนะคะว่าถ้าคิดจะทำก็เตรียมเงินไว้มากหน่อยละกัน เพราะนอกจากจะทำผิดพ.ร.บ. คอมแล้วนี่ เรายังจะฟ้องคุณอีกด้วยค่ะ โทษฐานที่ใส่ความและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง”
“แกคิดว่าฉันจะกลัวหรือไง ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ แกขายของปลอมก็คือของปลอม” อีกฝ่ายยังคงเถียงและใส่อารมณ์เกรี้ยวกราดอย่างไม่ลดละ
“ถูกต้องค่ะ ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ ร้านเราขายของแท้ก็คือของแท้แน่นอน ไม่มีการย้อมแมว”
พลอยพัดชายังคงมีท่าทีนิ่งสงบ ออกจะดูสบายใจไร้กังวลเสียด้วยซ้ำจนพนักงานในร้านทุกคนพากันผ่อนคลายตามไปด้วย เพราะต่างเชื่อมั่นกันว่าเจ้านายของตนจะจัดการปัญหานี้ได้ อีกทั้งยังมั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าที่ร้านไม่มีทางขายของปลอมให้ลูกค้าแน่นอน ดังนั้นความเป็นไปได้อย่างเดียวคือผู้หญิงคนนี้คือพวกสิบแปดมงกุฏ
ขณะที่กำลังรอให้ตำรวจมานั้น โทรศัพท์ของพลอยพัดชาก็มีสายเรียกเข้า หญิงสาวเดินเข้าไปด้านหลังร้านแล้วกดรับสายเมื่อเห็นว่าผู้ที่โทร. เข้ามาคือธาม
“ค่ะพี่ธาม”
“ยุ่งอยู่รึเปล่า”
“ตอนนี้ยังค่ะ เพราะรอตำรวจมาอยู่”
เมื่อได้อยู่ตามลำพัง เธอก็คร้านจะปั้นหน้านิ่งเฉยอย่างที่แสดงออกตอนอยู่หน้าร้าน หญิงสาวจึงถอนหายใจแผ่วแล้วนั่งบนโซฟาพลางหลับตาพัก
“เกิดอะไรขึ้น เราเป็นอะไรรึเปล่า” น้ำเสียงร้อนรนของชายหนุ่ม ทำให้พลอยพัดชาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่ตนเผลอพูดจากำกวมอีกแล้ว จึงอธิบายต่อ
“มีลูกค้าคนหนึ่งเขาเอาแหวนบุษล้อมเพชรมาคืนที่ร้านแล้วบอกว่าเป็นของปลอมค่ะ เขาโวยวายเสียงดังว่าร้านพัดชา เจมส์ขายของปลอม หลอกลวงต้มตุ๋นอะไรแบบนั้นน่ะ พลอยก็เลยให้หน่อยโทร. เรียกตำรวจมา”
“มาโวยวายเอาเงินคืนล่ะสิ”
“ใช่ค่ะ เขาบอกว่าถ้าคืนเงินให้เขา เขาจะไม่เอาเรื่องไปแจ้งตำรวจ และไม่เอาร้านของพลอยไปประจาน แต่พลอยไม่คืนให้ ก็เลยเรียกตำรวจมาเป็นพยานน่ะ”
“ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกละกัน แต่พี่ก็เชื่อว่าปัญหาแค่นี้พลอยจัดการเองได้อยู่แล้ว”
ได้ยินอย่างนั้น พลอยพัดชาก็แค่นยิ้ม “แน่สิ ก็พลอยเก่งนี่ ทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้ใช่ว่าจะหากันได้ง่าย ๆ หรอกนะ”
หญิงสาวได้ยินเสียงหัวเราะจากปลายสายจึงเบ้ปากใส่โทรศัพท์ก่อนจะตวัดเสียงถามอย่างขุ่นเคือง
“หัวเราะอะไร หรือไม่จริง”
“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่หัวเราะเท่านั้นเอง อย่าเพิ่งเหวี่ยงสิ” เขาพูดกลั้วหัวเราะ แล้วพูดต่ออีกว่า
“พี่คงกลับกรุงเทพฯ วันพฤหัสเลยนะ ตอนแรกว่าจะกลับวันนี้ แต่ดันติดธุระด่วนเสียได้”
พลอยพัดชาขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่เชื่อหู เพราะปกติแล้วธามไม่เคยบอกเธอว่าเขาจะไปไหนมาไหน หลายครั้งที่เธอขึ้นไปหาเขาบนห้องทำงานแล้วไม่เจอตัว พอถามเลขานุการของเขาถึงได้รู้ว่าชายหนุ่มไปต่างจังหวัดหลายวัน
“แล้วมาบอกพลอยทำไมล่ะ ชิ!” หญิงสาวแค่นเสียงใส่เบา ๆ
“ก็บอกไว้ก่อน เผื่อพลอยจะขึ้นไปหาพี่” ได้ยินอย่างนั้นพลอยพัดชาจึงได้แต่กลอกตามองบนก่อนพูดว่า
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ พลอยไม่ขึ้นไปแน่นอน วันนั้นพลอยพูดไปแล้วว่าจะไม่ขึ้นไปวุ่นวายกับพี่อีก พลอยก็จะทำตามคำพูดของตัวเอง ถ้าต้องไปให้คนเขารำคาญแล้วชักสีหน้าใส่ แถมยังไล่เหมือนเราเป็นตัวเชื้อโรค พลอยจะขึ้นไปทำไมให้เสียความรู้สึก...ตำรวจมาแล้ว แค่นี้ก่อนนะคะ พลอยยุ่งมาก”
พลอยพัดชาวางสายทันทีโดยไม่รอให้ธามได้พูดอะไรออกมาอีก หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้ตัวเองได้ตั้งหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่กำลังวุ่นวายอยู่หน้าร้าน หรือแม้กระทั่งเรื่องของคนที่เข้ามาเขย่ากำแพงหัวใจ
หญิงสาวลุกขึ้นยืนแล้วปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้ม จากนั้นก็เดินไปหน้าร้านด้วยท่าทางมาดมั่นราวกับนางพญา
“สวัสดีค่ะคุณตำรวจ” พลอยพัดชายกมือไหว้ตำรวจทั้งสองนายที่ยืนอยู่
“คุณตำรวจคะ ฉันต้องการแจ้งความค่ะ ร้านนี้มันขายของปลอมให้ฉัน ดูสิคะเนี่ย อย่างนี้มันหลอกลวงกันชัด ๆ เลย”
ผู้หญิงคู่กรณีชิงพูดกับตำรวจก่อนโดยไม่เปิดโอกาสให้เจ้าของร้านอย่างพลอยพัดชาได้พูด หญิงสาวจึงยืนกอดอกพลางยิ้มบาง ๆ ฟังอีกฝ่ายใส่สีตีไข่ร้านของตนเต็มที่
ครั้นพอผู้หญิงคนนั้นพูดจบแล้ว ตำรวจจึงหันมามองพลอยพัดชาที่ยืนยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
“พูดจบแล้วใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้น ตาฉันบ้างนะ”
พลอยพัดชาพูดไปยิ้มไป จากนั้นก็อธิบายเรื่องราวทุกอย่างให้ตำรวจทั้งสองฟังอย่างละเอียด โดยไม่ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามได้พูดแทรกเลยแม้แต่น้อย ครั้นพอลูกค้าคนนั้นทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง พลอยพัดชาก็จะยกมือห้ามเอาไว้แล้วบอกเสียงเข้มว่า
“ฟังก่อนค่ะ อย่าพูดแทรก!” พลอยพัดชาหันไปยิ้มหวานให้ตำรวจทั้งสองนายแล้วพูดต่อ
“ทางร้านยินดีรับผิดชอบแน่นอนค่ะถ้าเราขายของปลอมให้จริง ๆ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้แน่นอนอยู่แล้วที่ร้านเราจะมีพลอยปลอม คุณตำรวจเห็นใบเซอร์จากสถาบันอัญมณีนี่ไหมคะ” เธอกางใบรับรองอัญมณีเม็ดนั้น ซึ่งพลอยที่นำไปตรวจก็คือบุษราคัมที่ประดับอยู่บนแหวนตามรูป
“ใบเซอร์นี้น่ะ เราให้สถาบันอัญมณีศาสตร์ทำการตรวจสอบให้โดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งคุณตำรวจสามารถเอาเอกสารตัวนี้ไปเช็กตามที่อยู่ด้านหลังได้เลยว่าใบเซอร์นี้เป็นของแท้รึเปล่า และที่สำคัญก็คือรายละเอียดในใบเซอร์จะบอกน้ำหนัก และความกว้างยาวของพลอยเอาไว้ค่อนข้างละเอียด แต่พลอยเม็ดนี้” พูดถึงตรงนี้ พลอยพัดชาก็หยิบแหวนวงที่เป็นปัญหาขึ้นมาให้ตำรวจดู ก่อนจะพูดต่อ“สามารถเอาไปเช็กได้เลยค่ะว่าน้ำหนักและขนาดของมันตรงตามใบเซอร์รึเปล่า แหม...พูดแล้วก็คันปาก ขอเล่านิดนะคะคุณตำรวจ เมื่อก่อนที่ร้านก็เคยเจอปัญหาแบบนี้ค่ะ มีลูกค้าคนหนึ่งซื้อของจริงจากร้านไป พอสองสามวันถัดมาก็เอาของปลอมมาโวยวายบอกว่าจะเอาเงินคืน เพราะสร้อยนั้นเป็นพลอยปลอม แต่สุดท้ายทางร้านก็พิสูจน์ได้ว่าเจอพวกต้มตุ๋น ก็เลยโดนร้านเราฟ้องเรียกค่าเสียหายหลายล้านเชียวค่ะ”พลอยพัดชาจีบปากจีบคอพูด ขณะที่พูดก็สังเกตสีหน้าของคู่กรณีไปด้วย ซึ่งแววตาของอีกฝ่ายดูหลุกหลิกก่อนจะชี้หน้าต่อว่าเธอเสียงดังลั่น“แกหาว่าฉันเป็นพวกต้มตุ๋นหรือ ฉันจะแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท คุณตำรวจคะ...”“อุ๊ย! ฉ
พลอยพัดชาต้องไปรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อเอามาฟาดยายสิบแปดมงกุฎคนนั้น ร้านพัดชา เจมส์เปิดมาหลายปีแล้ว ฉะนั้นพลอยทุกเม็ด แหวนทุกวงย่อมตรวจสอบที่มาที่ไปได้ ตั้งแต่ช่างทำตัวเรือน ช่างเจียระไน ไปจนถึงแหล่งที่มาของพลอยเม็ดนั้น ๆ ว่ามาจากบ่อไหน ประเทศอะไร และที่สำคัญ ช่างจิวเวลรี่แต่ละคนก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวใส่ลงไปในเนื้องานอีกด้วยเมื่อกลับถึงร้านพัดชา เจมส์ หญิงสาวก็พบว่ากวินภพมานั่งรออยู่ในร้านก่อนแล้ว“อ้าวคุณก้าว มานานรึยังคะ จะมาไม่เห็นโทร. มาบอกพลอยก่อน พลอยก็เอ้อระเหยอยู่ที่สน. ตั้งนาน” ความจริงแล้วเธอต่อว่าเขาทางอ้อม เพราะการที่เขาจะมาหาเธอที่ร้านก็ควรโทรศัพท์มาบอกก่อนล่วงหน้า ไม่ใช่นึกอยากมาก็มาราวกับคนสนิทกันมาก เพราะขนาดเพื่อนสนิทอย่างนลินทรายังโทร. มาถามเธอก่อนทุกครั้งเลยว่าอยู่ร้านหรือเปล่า“ผมต้องขอโทษด้วยครับที่มาโดยไม่บอกกล่าว คือผมมาทำธุระแถวนี้น่ะก็เลยลองแวะมาหาคุณพลอยดู ถามน้อง ๆ เขาก็บอกว่าคุณพลอยไปแจ้งความที่สน. ผมเลยนั่งรอ แล้วนี่...คุณพลอยไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ”ชายหนุ่มมีสีหน้าเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด พลอยพัดชายิ้
พลันนั้น จู่ ๆ เขาก็เกิดความคิดห่าม ๆ ขึ้นมาว่าถ้าพลอยพัดชามาเต้นแบบนี้ให้เขาดูต่อหน้าบ้างจะเป็นอย่างไร คงต้องเซ็กซี่มากเป็นแน่ แต่ที่สำคัญคือเขาคงไม่สามารถทนดูจนจบได้ เพราะเขาคงจัดการกินเธอจนเรียบเสียก่อนหลังการแสดงจบลง ธามหยิบธนบัตรใบสีเทายื่นให้พนักงานเสิร์ฟเพื่อนำไปให้สาวนักเต้นบนเวที แต่พนักงานคนนั้นกลับถามว่า“ออฟไหมพี่”ธามส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ทิปเฉย ๆ เพราะเขาเต้นสวยดี”แต่หลังจากที่หญิงสาวคนนั้นได้เงินค่าทิปไปแล้ว เจ้าตัวกลับลงมานั่งคุยเป็นเพื่อนกับสองหนุ่มอยู่เป็นนาน ธามจึงเลี้ยงเบียร์เธอไปอีกสามขวด เพราะเขาเข้าใจดีว่าหญิงสาวจะได้เงินจากตรงนี้อีกด้วยธามกับศตายุปล่อยให้สาวนักเต้นคลอเคลียใกล้ชิดอย่างจงใจ เพราะศตายุสังเกตเห็นว่ามีผู้ชายสองคนคอยลอบมองมาทางโต๊ะของเขาอยู่หลายครั้ง เขาจึงแอบสะกิดเพื่อนและส่งสายตาให้อย่างรู้กันคืนนั้น หลังจากที่พลอยพัดชาอาบน้ำเสร็จและเตรียมตัวจะเข้านอน เสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีข้อความส่งเข้ามาทางไลน์ ตอนแรกหญิงสาวค
“พี่มาทำอะไรแถวนี้เนี่ย” ธามเห็นสายตาที่พลอยพัดชามองมาด้วยความสงสัย เขาไม่ทันได้นึกคำตอบดี ๆ ไว้เพราะไม่คิดเช่นกันว่าจะเจอเธอที่นี่ จึงยกมือไหว้ผู้ชายที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานก่อนเพราะอีกฝ่ายอาวุโสกว่า ก่อนจะตอบไปว่า“คือว่า...วันนี้พี่ว่างน่ะก็เลยขับรถเล่นมาเรื่อย ๆ จนมาถึงจันทบุรี นึกขึ้นได้ว่าแถวนี้มีตลาดพลอยอยู่ก็เลยลองแวะเข้ามาดู ไม่คิดว่าจะเจอเราที่นี่เหมือนกันนะเนี่ย”ธามได้แต่คิดในใจว่าช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้ เขายิ้มให้เธอบาง ๆ แต่เห็นแววตาของหญิงสาวที่เขม้นมองเหมือนไม่เชื่อที่เขาพูดออกไปเลยแม้แต่น้อย และต้องการคาดคั้นเอาคำตอบให้ได้ เขาจึงต้องรีบเบี่ยงเบนความสนใจของเธอทันที“ไหน ๆ ก็เจอกันแล้ว แถวนี้มีอะไรอร่อย ๆ แนะนำพี่บ้างไหม พี่ว่าเราไปหาอะไรกินกันเถอะ”“หนูพลอยกินอะไรมารึยังล่ะ ไปกินกับเพื่อนก่อนก็ได้ บะหมี่เกี๊ยวตรงหัวมุมฝั่งโน้นอร่อยนะ พาเพื่อนไปกินสิ” ประสิทธิ์แย้มยิ้มอย่างใจดี ราวกับมองออกว่าชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้สนใจพลอยพัดชา จึงคิดสนับสนุนเต็มที่พลอยพัดชาครุ่
“ถ้างั้นสนใจอยากไปเที่ยวภูเก็ตไหมล่ะ ที่พักกับอาหารฟรีทุกมื้อเพราะพักโรงแรมพี่เอง ชวนคุณนิ้งไปเที่ยวด้วยกันก็ได้ เพราะถ้าคุณนิ้งไป เจ้าซีเพื่อนพี่มันต้องตามไปด้วยแน่นอน”พลอยพัดชาช้อนตาขึ้นมองเขา เห็นเพียงสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอาการใด ๆ ราวกับว่าเมื่อครู่เขากำลังชวนออกไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้ออย่างไรอย่างนั้น เห็นแล้วก็รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขาคงคิดกระมังว่าถ้าเอ่ยปากชวนแล้วเธอจะต้องตอบรับทันทีด้วยความดีอกดีใจ...คนหลงตัวเอง!แม้ในใจจะลอบต่อว่าเขาอย่างนั้น แต่พอเห็นชามก๋วยเตี๋ยวของเขาที่มีกระเทียมเจียวเยอะจนผิดปกติ และรู้ดีว่าธามไม่ชอบกิน พลอยพัดชาจึงพูดขึ้นตามความเคยชิน“พี่ธามตักกระเทียมเจียวมาใส่จานพลอยก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องเขี่ยไปเขี่ยมา” เธอพูดจบ ธามก็ยิ้มทันที“นอกจากคนในครอบครัวของพี่แล้วก็มีพลอยนี่แหละที่รู้ใจพี่ที่สุด” เขาตักกระเทียมเจียวเหล่านั้นมาใส่ในจานของเธอโดยที่รอยยิ้มยังเกลื่อนใบหน้าแต่พลอยพัดชาหารู้ไม่ว่า เป็นธามเองที่เดินไปบอกคนทำก๋วยเตี๋ยวว่าให้ใส่กระเทียมเจียวมากหน่อย!พลอยพั
“ฉันไม่น่ายอมรับปากทำเรื่องนี้ให้คุณเลย” เธอไม่น่าเอาคอตัวเองไปพาดเขียงแบบนั้น ตอนแรกที่รับปากก็เพราะเห็นว่าค่าจ้างดี อีกทั้งยังได้แหวนพลอยล้อมเพชรของแท้เอามาขายต่อได้อีกด้วย ตอนที่เธอไปซื้อแหวนวงนั้นในร้าน เธอเห็นว่าเจ้าของร้านเป็นเพียงหญิงสาวอายุยี่สิบต้น ๆ ดูแล้วน่าจะหลอกต้มได้ง่าย สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าเธอเจอของแข็งเข้าให้แล้ว“หึ! แต่คุณก็รับปากและลงมือทำไปแล้ว แค่นี้นะ มีธุระ”ปลายสายวางหูไปแล้ว แต่เธอยังคงเดินวนเวียนอยู่ในห้องพักของตัวเองอย่างร้อนรน สัญชาตญาณกำลังบอกว่าอีกไม่นานเธอจะเจอปัญหาใหญ่แน่นอน“หนูกับธามเป็นยังไงบ้างลูก ไปถึงไหนกันแล้ว” เสียงทุ้มจากบิดา ทำให้กนกลดาเงยหน้าจากเอกสารบนโต๊ะ หญิงสาวเอนหลังพิงพนักเก้าอี้พลางถอนหายใจแผ่ว ก่อนพูดว่า“คงยากค่ะคุณพ่อ พี่ธามเขา...ยังไงดีล่ะ”เธอไม่รู้จะนิยามผู้ชายอย่างธามว่าอย่างไรดี เขาไม่ใช่คนโลเลหรือหวั่นไหวง่าย อีกทั้งเธอยังรู้สึกว่าเขาเว้นระยะห่างกับเธอไว้ประมาณหนึ่งเสมอ คือไม่สนิทสนมเกินไป แต่ก็ไม่ถึงกั
“ทีนี้เรามาดูกันค่ะว่าจุดไหนบ้างที่ทำให้พลอยมั่นใจว่าแหวนวงนั้นคือของที่ทำเลียนแบบจากของจริงที่ซื้อไปจากร้านพัดชา เจมส์”จากนั้นหญิงสาวก็เลี่ยงไปยืนอยู่ข้างจอแอลซีดีขนาดใหญ่ที่ตั้งไว้ด้านหลังของตน แล้วเปิดคลิปที่เธอถ่ายแหวนวงนั้นเอาไว้ให้ทุกคนที่ดูไลฟ์สดครั้งนี้ได้เห็นไปพร้อมกัน“จุดแรกเลยนะคะ ขอให้ทุกคนดูที่รอยปั๊มโลโก้ของชื่อร้านที่อยู่ด้านในแหวนค่ะ” ภาพบนจอแอลซีดีหยุดค้างเอาไว้ จากนั้นพลอยพัดชาก็นำแหวนหลายวงจากในร้านซูมให้ดูใกล้ ๆ ว่าแตกต่างกันตรงไหนบ้าง“สังเกตไหมคะว่าแหวนของร้านพัดชา เจมส์ทุกวงรอยปั๊มตรงนี้จะเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นความคมชัดของตัวหนังสือ หรือฟอนต์ตัวอักษร แล้วทีนี้มาดูของที่ลูกค้าท่านนั้นเอามากันค่ะ เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเลยใช่ไหมคะว่านอกจากความคมชัดจะไม่เท่ากันแล้วเนี่ย ฟอนต์หรือตัวอักษรยังแตกต่างกันด้วย”จากนั้นหญิงสาวก็ปล่อยให้คลิปเล่นต่อ แล้วก็หยุดลงตอนที่ภาพฉายด้านในของแหวนและซูมภาพนั้นขึ้นมา พลอยพัดชาปล่อยภาพค้างไว้แบบนั้นแล้วเดินมาหน้ากล้อง ชูแหวนอีกวงขึ้นมาแล้วหงายให้ดูด้านในพร้อมกับใช
หญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งเดินก้มหน้าก้มตาไปทางแผนกสูตินรีเวชของโรงพยาบาลเอกชนย่านชานเมือง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมาที่นี่ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้วเพราะต้องมาทุกเดือนตามที่แพทย์นัด วันนี้เธอตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะอายุครรภ์สิบเจ็ดสัปดาห์แล้วจึงสามารถดูเพศของลูกในท้องได้ แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย เธอก็รักทั้งนั้นเพราะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอกับเขาหลังจากไหว้ทักทายแพทย์ที่ตนฝากครรภ์และนั่งคุยเกี่ยวกับพัฒนาการของทารกไปพอสมควร เธอก็ต้องขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วเปิดเสื้อบริเวณท้องที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นพยาบาลก็นำเจลใสทาไปทั่วท้อง และแพทย์ก็นำเครื่องมือมากดเบา ๆ บริเวณนั้นพลางมองไปที่จอมอนิเตอร์ข้างตัวไปด้วย“อยู่นี่ไง เอาแขนไขว้กันด้วย” น้ำเสียงของแพทย์หญิงพูดอย่างอ่อนโยน ขณะที่คนนอนบนเตียงนั้น หยาดน้ำเริ่มเอ่อคลอเต็มสองตาจนภาพตรงหน้าพร่าเบลอ“ผู้หญิงหรือผู้ชายคะคุณหมอ” เธอถามแพทย์เสียงสั่น อีกฝ่ายจึงหันมาตอบทั้งรอยยิ้มว่า“เป็นสาวน้อยค่ะ นี่ไงคะ ตรงนี้คือปาท่องโก๋น้อย” แพทย์ชี
พลอยพัดชาอมยิ้มขณะที่อ่านข่าวเหล่านั้นจากโทรศัพท์มือถือของตน ตอนที่เธอกับจินตวาตีคาดเดาความสัมพันธ์ของกวินภพกับปวีณาเมื่อคราวนั้น เธอยังอดสงสารฝ่ายหญิงไม่ได้ที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ราวกับคนที่ทำผิดกฎหมาย แต่มาวันนี้ความสงสารไม่มีเหลืออยู่แล้ว หลังจากที่ได้เห็นภาพและคลิปต่าง ๆ ที่ธามนำมาให้ดู เธอจึงรู้ทันทีว่าสองคนนี้ร่วมมือกัน“จริงสิ พี่ธามให้ใครส่งรูปพวกนั้นให้พวกเพจข่าวหรือคะ ไหนจะพวกที่ไปตอบคอมเมนต์ว่าเป็นคนหมู่บ้านเดียวกับสองคนนั้นอีก เขาเป็นจริง ๆ รึเปล่า แล้วไม่กลัวโดนฟ้องหรือไง”ธามยิ้มอ่อนพลางตอบว่า “จะใครเล่า ก็ยายนาฏไง”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ยายนาฏหรือ อ้าว! แล้วแอคเคาน์พวกนี้ล่ะ”“เป็นแอคเคาน์สำรองของเพื่อน ๆ เขาที่อเมริกาน่ะ ถ้าคิดจะฟ้องก็เชิญตามสบาย” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะตักกุ้งทอดซอสมะขามใส่ในจานข้าวให้หญิงสาวแล้วพูดว่า“กินข้าวเถอะ อย่าไปสนใจข่าวพวกนั้นเลย รอดูฟีดแบ็กที่ตามมาดีกว่า”“พลอยอยากเห็นหน้านายก้าวจริง ๆ ว่าถ้าเห็นข่าวพวกนี้แล้ว
“พี่ธามพอแล้ว พลอยหายใจไม่ทัน” หญิงสาวหอบจนตัวโยนราวกับวิ่งมาหลายกิโลเมตร ธามเห็นแล้วสงสารจึงหยุดมือ แต่ก็อดหยิกแก้มของอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยวไม่ได้“คิดจะไปส่องแขกหล่อ ๆ งั้นหรือ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย”ธามคาดโทษหญิงสาวอย่างไม่จริงจังนักเพราะรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีว่าช่างยั่วยวนและยั่วอารมณ์ให้มีน้ำโหอยู่บ่อย ๆ“ก็แขกส่วนใหญ่หล่อจริง ๆ นี่นา แต่ก็สู้หล่อมาดเข้มแบบพี่ไม่ได้หรอกน่า จริงไหม” พลอยพัดชายิ้มประจบ“ก็เพราะปากหวานช่างยั่วอย่างนี้นี่ไง พี่ถึงไปไหนไม่รอด” ชายหนุ่มเชยคางของเธอขึ้นแล้วจุ๊บเบา ๆ“ให้มันจริงเถอะ พลอยกลัวว่าพอหมดช่วงโปร พี่ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมน่ะสิ คนนิสัยเสีย”“ไม่เป็นแล้ว สัญญา” เขาชี้สามนิ้วขึ้น เธอจึงยู่หน้าใส่เขา“เชอะ พี่น่ะชอบใจร้ายกับพลอย จะง้อก็ไม่มาง้อดี ๆ กลับส่งขนมมาล่อ แถมยังเป็นคุกกี้ถั่วอีกต่างหาก แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพี่เอาใจใส่พลอยมากแค่ไหน”ธามได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้างพลางทำหน้างุนงงสงสัย เพราะเขาจำไม่ได้ว่าส่
พลอยพัดชาพยักหน้าเพราะเห็นด้วยกับคำพูดของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“เฮ้อ ตั้งแต่เคยถูกผู้ชายกอดมานะ มีอีตาคนนี้นี่แหละที่พลอยรู้สึกรังเกียจที่สุด”ธามหูผึ่งขึ้นมาทันที จากนั้นก็ชี้หน้าเธออย่างเอาเรื่อง“ยั่วโมโหอีกแล้วนะ เดี๋ยวจะโดน”พลอยพัดชาหัวเราะคิกคัก แล้วถามว่า“ว่าแต่...พี่จะทำอะไรเขาหรือคะ”พลอยพัดชาอดอยากรู้ไม่ได้ แต่มั่นใจว่าคนอย่างธามจะไม่มีการส่งนักเลงไปดักซ้อมกวินภพแน่นอน เพราะเขาไม่ชอบทำอะไรที่เป็นการให้ผลแค่ระยะสั้น คนอย่างเขาถ้าคิดลงมือเล่นงานใคร จะต้องเกิดผลเสียกับอีกฝ่ายในระยะยาว“ก็มันอยากเป็นข่าวนักไม่ใช่หรือ พี่ก็จะจัดให้ไง” ธามหันมายิ้มให้ ก่อนจะจับแก้มของเธอไว้ทั้งสองข้างแล้วดึงเบา ๆ พลางพูดว่า“คราวนี้ก็ยิ้มได้แล้วนะ ลงไปหาเค้กกินแก้เครียดกันดีกว่าเนอะ”หญิงสาวยิ้มออกทันที รู้สึกสมองโล่งขึ้นมาในทันใด อีกทั้งยังรู้สึกว่าหัวใจอุ่นวาบอย่างบอกไม่ถูก เพราะตั้งแต่บิดามารดาจากไป ชีวิตของเธอก็มีแต่น้าจินนี่คอยกางปีกปกป้องเสมอมา แต่ในบางครั
พลอยพัดชาเดินเข้ามาในโรงแรมพลางโทรศัพท์หานลินทราไปด้วย แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย หญิงสาวจึงคิดว่าเพื่อนน่าจะวุ่นอยู่กับการซ้อมบทจึงไม่คิดโทร. ไปรบกวนอีกหญิงสาวกดลิฟต์ไปชั้นสิบเอ็ดแล้วเดินไปยังห้องที่ข้อความบอกเอาไว้ เมื่อมาถึงห้องหมายเลยหนึ่งหนึ่งศูนย์สี่ จึงเคาะเบา ๆ แล้วรอให้ทีมงานมาเปิดประตูเมื่อประตูเปิดแง้มออก พลอยพัดชาได้ยินเสียงนลินทราดังแว่วมาจึงลองชะโงกหน้าเข้าไปแล้วเรียกเพื่อนเบา ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีมือแข็งแรงจากด้านในฉุดข้อมือของเธอจนถลาไปตามแรงนั้น และในที่สุดก็ต้องมายืนอยู่ในห้องจนได้พลอยพัดชาหน้าเหวอทันทีเพราะเห็นแล้วว่าไม่มีคนอยู่ในห้องนี้เลย และเสียงของนลินทราที่ได้ยินก็เป็นเสียงจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขก เธอจึงรีบหันหลังกลับทันที แต่พอหันมาก็ต้องเจอกับใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่เธอไม่คิดอยากเจอที่สุดในโลกยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งหมายความว่าเมื่อครู่เขาแอบอยู่หลังประตู และเป็นคนฉุดเธอเข้ามาในห้องนี้อีกด้วย“ถอยไป!” เรื่องราวเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว พลอยพัดชาจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดดี ๆ กับอีกฝ่ายอีก&ldqu
พลอยพัดชาอมยิ้มเมื่อเห็นธามตัวเกร็งขึ้นมาทันทีแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ นั่นก็เพราะการกรีดแผ่นหลังของเขาแบบนี้เป็นการกระตุ้นอารมณ์ของชายหนุ่มให้ตื่นเพริด ยิ่งถ้าเธอทำตอนนัวเนียกันอยู่บนเตียง เขาจะแหงนหน้าขึ้นแล้วครางออกมาอย่างลืมตัวเสมอ“แขกของพี่ธามนี่เขาไม่ได้เรียนมารยาทมาหรือคะ เห็นมาทีไรก็มาตอนเที่ยงทุกที เขาไม่รู้หรือไงว่าตอนเที่ยงพนักงานทุกคนก็ต้องพักเที่ยงไปกินข้าวกินปลา”พลอยพัดชาเห็นกนกลดากำหมัดแน่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ยิ่งเห็นร่องรอยบนใบหน้าซึ่งเกิดจากฝีมือของตนครั้งนั้นก็ยิ่งรู้สึกสะใจไม่น้อย ครั้นพอเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างเธอจึงชิงพูดขึ้นก่อนเพราะไม่ต้องการปล่อยให้อีกฝ่ายได้พูด“อ๋อรู้แล้ว ที่มาตอนเที่ยงทุกครั้งก็หมายความว่าเป็นเพราะเขาอยากชวนพี่ไปกินกลางวันด้วยใช่ไหมคะ อุ๊ยตาย ช่างมีความพยายามสูงส่งซะจริ๊ง”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ! ฉันมาคุยเรื่องงานกับพี่ธาม”กนกลดาแทบเค้นเสียงพูด สีหน้าแววตามีแต่ความกรุ่นโกรธอัดแน่นเต็มที่ แต่พลอยพัดชากลับไม่สนใจ เธอเปิดฝากล่องข้าวหน้าเนื้อจนกลิ่นหอมของอาหารโชยเข้าจมู
“ใกล้ถึงวันเกิดของเขาน่ะ แต่พี่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้เขาดีก็เลยคิดว่าน่าจะซื้อแหวนให้สักวง”“แล้วพี่พัฒน์คิดว่าจะหมั้นกันเร็ว ๆ นี้รึเปล่าคะ หรือว่ายังไม่ได้กำหนด”พลอยพัดชาลองเลียบเคียงถาม เพราะจะได้เลือกสินค้าให้เขาได้ตรงตามความต้องการของอีกฝ่าย“ยังไม่ได้คิดเรื่องหมั้นเลย พี่เพิ่งคบกับเขาได้เดือนสองเดือนนี่เอง” สีหน้าของชายหนุ่มมีความขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด“ถ้าอย่างนั้นพลอยแนะนำว่าเป็นต่างหูหรือสร้อยคอสร้อยข้อมืออะไรพวกนี้ดีกว่าไหมคะ เพราะว่าถ้าให้แหวนกัน คนรับอาจจะคิดว่านี่คือการขอหมั้นทางอ้อม”เธอแนะนำอย่างเป็นกลาง เพราะอย่างไรเสียการให้แหวนกันนั้น อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าคนให้ต้องการหมั้นหมายก็เป็นได้จากที่ฟังเขาพูดมา ดูเหมือนรพีพัฒน์ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นนั้นเพราะเพิ่งคบหากันได้ไม่นาน ซึ่งหากฝ่ายหญิงยังไม่ได้คิดถึงเรื่องหมั้นเช่นกัน แต่จู่ ๆ ฝ่ายชายก็ให้แหวนแทนใจ อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเขาต้องการผูกมัดทางอ้อม และสิ่งที่จะตามมาก็คือความอึดอัดถ้าหากเจ้าตัวยังไม่พร้อมพูดถึงเรื่องนี้&ldqu
“ฉันไม่น่ารับปากยายปลาแล้วเอามันมาอยู่ในสังกัดเลย ชักศึกเข้าบ้านตัวเองแท้ ๆ”“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดน่าน้าจินนี่ อีกอย่างนะ เขาเองก็กำลังดังเป็นพลุแตก ใคร ๆ ก็อยากได้เขากันทั้งนั้น” พลอยพัดชาเอ่ยปลอบใจผู้เป็นน้า“เรื่องยายปลาน้าไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร เพราะพอจะเดาได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เรื่องนั้นน่ะสิ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไอ้ก้าวมันจะทำได้”“พลอยก็ว่างั้นแหละ เขาไม่กลัวคนจะจำได้เลยเนอะ เวลาออกสื่อน่ะ”จินตวาตีนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “น้าคิดว่าก็คงมีคนจำได้บ้างนั่นแหละ และก็รู้กันแค่วงในไม่กี่คน แต่เขาไม่เอามาพูดกัน เพราะสมัยนี้เอะอะอะไรก็ฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล คนมันต้องทำมาหากิน ไม่มีใครว่างพอจะมานั่งติดตามเรื่องพวกนี้หรอก”พลอยพัดชาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ก็จริงเนอะ คนกลุ่มเล็ก ๆ แค่ไม่กี่คนกับคนกลุ่มใหญ่ที่รู้จักฐานะของเขาว่าเป็นพระเอกคนดัง ยังไงกลุ่มหลังเสียงมันก็ดังกว่า”“นี่ถ้านังแอ๊ดดี้กับนังเบนซ์มันรู้เข้าคงได้หัวเราะเยาะฉันจนกรามค้างแน่ พวกนั้นมันยิ่งรอดูฉันล้ม
ธามยิ้มมุมปาก ตอนแรกเขาคิดจะใช้เรื่องคีย์การ์ดมาจัดการกับพิษณุด้วยการยื่นหนังสือให้ฝ่ายบริหารทุกคนทราบว่าอีกฝ่ายทำผิดกฎร้ายแรง และไล่ออกให้พ้นจากบริษัทไป แต่วันนี้หลังจากที่ตรวจไซต์งานเสร็จเรียบร้อย เขาก็เปลี่ยนใจ เพราะคิดว่าการไล่ออกให้พ้นจากตำแหน่งดูจะลงโทษน้อยไปหน่อย“พี่คิดว่าไหน ๆ ก็จะเอาเรื่องเขาแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด การไล่ออกโทษมันเบาไปหน่อย เพราะแผนที่พี่วางเอาไว้น่ะนอกจากจะไล่ออกแล้ว ยังส่งพวกมันเข้าคุกและฟ้องร้องเรียกเงินค่าเสียหายได้อีกด้วย โทษฐานทุจริต”พลันนั้นเขานึกถึงสายตาคับแค้นของกฤษณ์ตอนที่มองพลอยพัดชาจึงอดเตือนเธอไม่ได้“พลอยต้องระวังตัวหน่อยนะ เพราะพี่ไม่รู้ว่าดากับพ่อของเขาจะมาเล่นงานพลอยรึเปล่า พ่อลูกคู่นี้น่ะเล่นงานคนอื่นมาเยอะ พี่ไม่อยากให้พลอยเป็นอะไร เพราะฉะนั้นพี่ว่าพลอยย้ายมาอยู่กับพี่ที่เพนต์เฮาส์เถอะ”“โน!”“ไม่คิดจะกลับไปตัดสินใจก่อนหรือ พี่เป็นห่วงพลอยจริง ๆ นะ”“อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วพี่น่ะ ทำมาเป็นพูดดี ไม่ต้องเลย ต่างคนต่างอยู่ไปนั่น
ธามยักไหล่ “แน่นอนอยู่แล้ว เพอร์เฟกต์อย่างพี่น่ะหาไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะจะบอกให้ เพราะฉะนั้นพลอยต้องจับไว้ให้แน่น ๆ ห้ามปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาดเลยนะ”พลอยพัดชาเบ้ปากใส่ทันที “ขอโทษนะคะ ประโยคนั้นพลอยควรเป็นคนพูดมากกว่าค่ะ”“ครับผม ยอมแล้วครับ แต่ก่อนอื่น กรุณาอย่าหลับในรถนะครับคนสวย มันอันตรายนะคุณผู้หญิง ถ้าคิดจะงีบก็กรุณาเลื่อนกระจกลงมาสักนิดก็ยังดี”“ก็ตอนแรกไม่คิดว่าจะหลับสักหน่อย เล่นมือถืออยู่ดี ๆ เล่นไปเล่นมาหลับตอนไหนยังไม่รู้เลย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่มาเคาะกระจกเรียกนั่นแหละ ปกติพลอยไม่เคยหลับตอนกลางวันเลยนะ เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่ล้วน ๆ ที่ทำให้พลอยต้องนอนไม่อิ่ม” เธอค้อนให้เขาธามหัวเราะเบา ๆ พลางเอื้อมไปจับมือของเธอให้มาวางไว้บนตักของตัวเอง จากนั้นก็เอ่ยปากถามว่า“พลอยค้างกับพี่อีกคืนได้ไหม เดี๋ยวคืนนี้พี่พาไปเที่ยวที่เด็ด ๆ”“ที่ไหน บาร์อะโกโก้หรือ” หญิงสาวปรายตามองเขา“เฮ้ย รู้ได้ไง” เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ“ใช่แล้ว พี่จะพาพลอยไปเที่ยวบาร์อะโกโก้ แต่มันไม่ใช่บาร์อนาจารแบบที่พลอยเข้าใจนะ ที่นั่นจะมีผู้หญิงเต้น