เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือ ทำให้คนที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงหลังใหญ่ตื่นจากห้วงนิทรา
พลอยพัดชาลืมตาขึ้นพลางรีบเอื้อมมือไปกดปิดเสียงเอาไว้เพราะเกรงว่าจะรบกวนการนอนของเพื่อนสนิทที่หลับอยู่ด้านข้าง จากนั้นหญิงสาวก็ตวัดผ้าห่มออกแล้วก้าวลงจากเตียง เดินไปเทน้ำใส่แก้วดื่มเข้าไปอึกใหญ่ เมื่อคืนเธอใช้เสียงจากการร้องเพลงมากเกินไป ผลลัพธ์ที่ได้คือเสียงแหบราวกับคนเป็นไข้ไอเจ็บคอ
พลอยพัดชาใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวราวชั่วโมงกว่าก็สวยเพริศพริ้งออกมาจากห้องนอน ในขณะที่นลินทรายังคงหลับไม่ตื่นเพราะเมื่อคืนดื่มไปหลายแก้ว เห็นทีวันนี้เธอคงต้องนั่งแท็กซี่ไปทำงานที่ร้านด้วยตัวเองแล้วกระมัง เพราะคนที่บอกว่าจะขับรถไปส่งที่ทำงานนั้น ยังลุกไม่ขึ้นเลย
“นังเพื่อนบ้า ได้ปล่อยผีสองวันก็เล่นเต็มที่เลยนะ” พูดได้แค่นั้นพลอยพัดชาก็ต้องกระแอมออกมาหลายครั้งเพราะเจ็บคอ
“แย่จริง วันนี้มีไลฟ์หน้าจอซะด้วยสิ” แต่เสียงเป็นแบบนี้ เห็นทีคงไลฟ์สดไม่ได้เสียแล้ว
ร้านพัดชา เจมส์จะมีการไลฟ์สดทุกวัน วันละหนึ่งครั้งโดยมีพนักงานขายประจำร้านทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะในปัจจุบันการไลฟ์สดเพื่อขายของผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมนั้นกำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากช่วยเพิ่มยอดขายให้กับทางร้านได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ส่งผลให้รายได้ของร้านเพิ่มขึ้นจากสองปีที่ผ่านมาถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ และคิวไลฟ์สดของพลอยพัดชาก็คือทุกวันศุกร์ ซึ่งก็คือวันนี้นั่นเอง
หญิงสาวหันไปมองเพื่อนที่นอนอยู่ ก่อนจะตัดสินใจหยิบกุญแจสำรองอีกชุดหนึ่งมาวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง จากนั้นก็ปลุกนลินทราเพื่อแจ้งให้ทราบ
“นิ้ง ยายนิ้ง” เมื่อเห็นอีกฝ่ายลืมตาขึ้นมาแล้ว เธอจึงชูกุญแจห้องแล้วพูดว่า
“ฉันวางกุญแจห้องไว้ตรงนี้นะ ถ้าแกออกจากห้องฉันแล้วก็ล็อกให้ด้วยละกัน ส่วนกุญแจก็เอาไว้ที่แกก่อน ว่างเมื่อไรค่อยเอามาให้ฉันก็ได้”
“อืมมมม” นลินทราส่งเสียงมาแค่นั้นก็หลับต่อ
พลอยพัดชาเดินออกจากห้องนอน คว้ากระเป๋าสะพายคนละใบกับเมื่อวานแล้วเดินมาที่ประตูห้อง หยิบรองเท้าคู่ที่เข้ากันกับกระเป๋าที่ตนสะพายอยู่ ปิดล็อกประตูแล้วเดินไปหน้าลิฟต์พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอปพลิเคชันเพื่อเรียกรถแท็กซี่ให้มาจอดรอหน้าคอนโดมิเนียม
ทันทีที่ธามก้าวลงจากรถ สิ่งแรกที่สายตาของเขามองไปก็คือรถยนต์สีขาวของพลอยพัดชาที่จอดแช่ไว้ที่เดิมตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
ชายหนุ่มรู้แล้วว่าหญิงสาวกับเพื่อนไปไหนกันเพราะเขาเข้าไปดูในอินสตาแกรมของพลอยพัดชา เห็นเธอโพสต์รูปที่ไปร้องคาราโอเกะเมื่อคืนไว้หลายรูป นอกจากนั้นยังมีจินตวาตี ผู้เป็นน้าของเธอไปร่วมแจมด้วย
โพสต์แค่รูปยังไม่เท่าไร แต่เจ้าตัวดันโพสต์คลิปที่ตนเต้นเย้ว ๆ กับเพื่อนและน้าสาว ทำเอาเขาไม่รู้ว่าจะขำหรือจะรู้สึกอะไรดี แต่อย่างน้อยเขาก็ยังโล่งใจว่าเมื่อคืนเธอมีจินตวาตีไปด้วย และเขาเองก็รู้ดีว่าพลอยพัดชานั้นชอบการเข้าสังคม หรือการเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนก็จริง แต่เธอจะดื่มน้อยมาก เรื่องที่เธอจะเมาหัวราน้ำนั้นแทบเป็นไปไม่ได้
และถ้าเดาไม่ผิด เที่ยงนี้พลอยพัดชาก็ต้องโผล่หน้ามาชวนเขาไปกินข้าวกลางวันอีกเช่นเคย
ธามถอนหายใจแผ่ว เมื่อรู้สึกว่าตนทำตัวเหมือนพ่อคนที่สองของพลอยพัดชาเข้าไปทุกวัน อาจเพราะหญิงสาวรุ่นเดียวกับธีรนาฏ น้องสาวของเขากระมัง และทั้งสองคนยังสนิทสนมกันอีกด้วย ถ้าไม่ติดว่าธีรนาฏไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศละก็ เมื่อคืนคงมีเจ้าตัวไปร้องเพลงและเต้นกระจายอยู่ในกลุ่มด้วยแน่นอน
และก็ไม่ผิดไปจากที่ธามคาดไว้เท่าไรนัก เมื่อถึงเวลาเที่ยงเศษ ประตูห้องทำงานของเขาก็ถูกเคาะ เมื่อเปิดออกมาก็มีใบหน้าของพลอยพัดชาโผล่เข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มเจิดจ้าเช่นทุกวัน
“พี่ธามขา เที่ยงแล้วนะ ไปกินข้าวกัน”
พลอยพัดชายืนอยู่หน้าประตูไม่ได้เข้ามาในห้องทำงานของเขา เพราะชายหนุ่มเคยตำหนิเอาไว้ว่าหญิงสาวรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขามากเกินไป ถ้าเขายังไม่อนุญาต เธอก็ไม่สามารถเข้าไปในห้องอย่างเด็ดขาด
...เสียงแหบมาเชียว...
ธามเงยหน้าขึ้นจากแปลนก่อสร้างตรงหน้าพร้อมกับมองคนที่ยืนยิ้มอยู่หน้าประตูด้วยสายตาเรียบเฉย สีหน้าแววตาของหญิงสาวไม่มีร่องรอยของความอ่อนล้า หรืออาการเมาค้าง หากแต่เสียงแหบแห้งที่เปล่งออกมานั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมื่อคืนเจ้าตัวคงตะเบ็งเสียงสุดเหวี่ยงมากแค่ไหน
“ไปทำอะไรมาเสียงแหบ แล้วทำไมจอดรถไว้ที่นี่ทั้งคืน” เขาลองถามหยั่งเชิงดู เพราะอยากรู้ว่าพลอยพัดชาจะตอบตามความจริงหรือไม่
“เมื่อคืนไปร้องเกะกับเพื่อนมาก็เลยใช้เสียงมากไปหน่อย จะกลับมาเอารถที่โรงแรมก็ขี้เกียจ เลยจอดทิ้งไว้ที่นี่ค่ะ หวังว่าคงไม่คิดค่าจอดนะคะ” เธอเอนตัวพิงกรอบประตู ขณะที่ชายหนุ่มเองก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะลุกขึ้น
“สรุปว่าพี่ธามคงไม่ไปกินข้าวกับพลอยเหมือนเดิมใช่ไหมคะ”
ธามเลิกคิ้วขึ้น ดูเหมือนว่าวันนี้พลอยพัดชามีท่าทีแปลกไป กระนั้นเขาก็ยังพูดไปว่า
“เธอก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว”
หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางก้มหน้าลงมองพื้นครู่หนึ่ง เขาเองก็อยากรู้ว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไป เห็นเธอก้มหน้าอย่างนี้เขาก็อดสังเกตไม่ได้ว่าพลอยพัดชากำลังร้องไห้อยู่หรือเปล่า จนกระทั่งเธอเงยหน้าขึ้น
“โอเคค่ะ งั้นพลอยไปก่อนนะคะ” หญิงสาวยังคงยิ้มให้เช่นเคย แม้แต่ตอนที่เจ้าตัวดึงประตูปิดให้เขา
ธามขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ วันนี้พลอยพัดชาแปลกไปจากเดิมจริง ๆ เธอไม่เซ้าซี้ให้เขาไปกินข้าวด้วยเช่นทุกครั้ง เพราะปกติแล้วหากเขาบอกว่าไม่ไป หญิงสาวก็จะออดอ้อนและตื๊อให้เขาไปด้วยให้ได้ ซึ่งเธอจะยืนอยู่หน้าประตูตรงนั้นนานหลายนาที หากแต่วันนี้ดูเหมือนเธอชวนเขาพอเป็นพิธีเท่านั้น
“ช่างเถอะ คงอารมณ์ไม่ดีมั้ง”
ชายหนุ่มได้แต่ปล่อยให้เรื่องของพลอยพัดชาลอยหายไปจากหัว ก่อนจะก้มหน้าก้มตามองแบบแปลนตรงหน้าต่อ
พลอยพัดชาเดินใจลอยมาจนถึงลานจอดรถ แต่พอมายืนอยู่ข้างรถของตนเธอก็ไม่รู้จะขับไปไหนดี สุดท้ายก็เดินกลับเข้าไปในโรงแรมตามเดิมแล้วไปนั่งกินมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารของโรงแรมแทน
หญิงสาวสั่งอาหารมาสองอย่าง ระหว่างนั่งรอก็ได้แต่ปล่อยใจให้ล่องลอยไปเรื่อยเปื่อย ตามองถนนที่รถราขวักไขว่กับพนักงานออฟฟิศที่เดินสวนกันไปมาบนทางเท้าผ่านกระจกของทางร้านแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ แม้เธอจะโชคดีกว่าคนอื่นตรงที่บิดามารดามีธุรกิจส่วนตัวไว้ให้สานต่อ ไม่ต้องไปเตร็ดเตร่หางานทำ แต่สิ่งที่เธอต้องเรียนรู้และมีมากกว่าคนอื่นนั่นก็คือความรับผิดชอบที่ต้องแบกไว้เต็มสองบ่า
เธอต้องแบกรับธุรกิจอัญมณีและหาวิธีทำให้มันเติบโตต่อไปให้ได้ตั้งแต่ยังไม่เข้ามหาวิทยาลัย เพราะมีอีกหลายสิบชีวิตที่ต้องอาศัยพึ่งพาธุรกิจนี้ ถ้าเธอล้มพวกเขาก็จะล้มไปด้วย ถ้าเธอท้อพวกเขาก็จะรู้สึกไม่มั่นคง เพราะฉะนั้นเธอจะอ่อนแอไม่ได้เด็ดขาด
“ว่าไงหนูพลอย”
เสียงทุ้มที่ดังมาจากด้านข้าง ปลุกให้พลอยพัดชาตื่นจากภวังค์ หญิงสาวหันไปมองเจ้าของเสียงพร้อมกับลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
“สวัสดีค่ะคุณลุง มากินมื้อเที่ยงหรือคะ” เธอยกมือไหว้ชายวัยกลางคนตรงหน้าอย่างนอบน้อมเพราะเขาคือธเนศ บิดาของธาม“ใช่ ขอลุงนั่งด้วยคนได้ไหม”“ยินดีมาก ๆ เลยค่ะคุณลุง เชิญค่ะ”หญิงสาวรอจนอีกฝ่ายนั่งลงฝั่งตรงข้ามแล้วจึงนั่งบนเก้าอี้ของตัวเองบ้าง เป็นเวลาเดียวกับที่พนักงานนำเมนูอาหารมาวางไว้ให้ธเนศพอดีโดยที่ไม่ต้องขอ“หนูไม่สบายรึเปล่า ทำไมเสียงเป็นแบบนั้น”“เปล่าค่ะ หนูสบายดี เพียงแต่เมื่อวานหนูไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนและน้าจินนี่มาค่ะ เสียงก็เลยแหบ” พลอยพัดชาตอบอย่างอาย ๆ จนคนสูงวัยกว่าหัวเราะเบา ๆ“น่าสนุกจริง ๆ ดีแล้วละ ปลดปล่อยความเครียดซะบ้าง คนหนุ่มคนสาวก็ดีอย่างนี้แหละนะ ว่าแต่เจ้าธามมันไม่มากินข้าวกับหนูหรือ หนูถึงได้มากินคนเดียวเนี่ย”“พี่ธามงานยุ่งค่ะ พลอยไม่ได้ขึ้นไปชวนพี่เขาด้วยแหละเพราะไม่อยากรบกวนเขา” เธอปดไปเพราะตนเพิ่งขึ้นไปชวนเขาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี้เอง และคำตอบก็เป็นเช่นเคยคือเขาปฏิเสธ หากแต่ครั้งนี้เธอไม่อยากเซ้าซี้เขาอีกแล้ว เพราะตั้งใจ
“คุณดาครับ ผมดูรายงานล่าสุดที่คุณส่งมาแล้ว ผมคิดว่ามันผิดไปจากที่เราคุยกันไว้นี่ครับ”ธามขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่สบอารมณ์ แผนงานขั้นแรกที่คุยกันไว้ก่อนหน้านั้นเขาโอเคแล้ว เพราะสเปกโครงสร้างของสวนน้ำดูแล้วปลอดภัยกับผู้มาใช้บริการ แต่แผนงานล่าสุดที่บริษัทของกนกลดาปรับแก้มาให้ดูนั้นลดสเปกหลายอย่างลง ทำให้เขาไม่พอใจมาก“ผมเข้าใจครับว่าทางคุณต้องการลดค่าใช้จ่าย แต่แบบนี้มันมากเกินไป ที่เราจะสร้างคือสวนน้ำในโรงแรมนะครับ ถ้าความปลอดภัยมีไม่มากพอ หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นจะทำยังไง”ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปมาในห้องเพื่อฟังปลายสายพูดโต้ตอบกลับมา แต่คงไม่ใช่คำตอบที่เขาอยากฟังเท่าไรนัก สีหน้าจึงย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม“ต่อให้มีคนใช้บริการแค่คนเดียว เราก็ต้องทำให้มันได้มาตรฐานครับ ผมไม่ต้องการเอาชื่อเสียงของโรงแรมผมไปเสี่ยง” เขาหยุดยืนแล้วมองถนนหนทางด้านนอกโรงแรม มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาทุบหน้าผากตัวเองเบา ๆ ราวกับต้องการบอกให้ตนใจเย็นลง“เอาเป็นว่าผมไม่โอเคเลยครับ คุณจะให้ผมเข้าไปคุยที่บริษัทก็ได้นะ แต่ต้องเรียกบริษัทรั
“ทำไมล่ะ แล้วทองที่ขายในร้านทองทั่วไปล่ะ พี่เห็นเขาเขียนกันว่าเก้าสิบหกจุดห้าไม่ใช่หรือ” เขายังคงถามต่อ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างสงสัยใคร่รู้“เพราะทองมันมีความอ่อนตัวค่ะ ถ้าเป็นสร้อยทอง สร้อยข้อมือที่เป็นทองอย่างเดียวไม่มีเพชรหรือพลอยประดับก็สามารถใช้ทองเก้าสิบหกจุดห้าได้ หรือถ้าเทียบเป็น K ก็คือ 23K แต่ถ้ามีเพชรหรือพลอยด้วยจะต้องใช้ทอง 18K ทองเก้าสิบ หรือจะน้อยกว่านั้นก็ได้ค่ะ ไม่อย่างนั้นมันจะเกาะเพชรเกาะพลอยไม่อยู่ อาจหล่นหายได้”พลอยพัดชาอธิบายอย่างใจเย็น เพราะไม่ใช่แค่รพีพัฒน์คนเดียวที่เข้าใจว่าทองเคคือทองปลอม ยังมีลูกค้าอีกหลายคนที่ยังเข้าใจอย่างนั้นอยู่“เข้าใจละ ต้องขอโทษด้วยครับเพราะพี่เองก็ไม่ค่อยใส่เครื่องประดับน่ะก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่อง”“ไม่เป็นไรค่ะ พลอยยินดีอธิบาย” พลอยพัดชาหันถาดเครื่องประดับเซตนั้นให้เขาดูแล้วพูดว่า“เกิดวันอาทิตย์ก็แนะนำเป็นทับทิมสยามหรือโกเมนค่ะ แต่ถ้าถามพลอยนะ พลอยแนะนำเป็นทับทิมสยามมากกว่า เพราะทับทิมเป็นพลอยเนื้อแข็ง และอีกอย่างคือทับทิมสยามตอนนี้หาย
ธามเงยหน้ามองปฏิทินตั้งโต๊ะ ก่อนจะกดดูโทรศัพท์ของตนเพื่อดูว่าวันนี้เป็นวันที่เท่าไร ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาต้องไปประชุมที่พัทยาสามวัน แต่สัปดาห์นี้เขาอยู่ออฟฟิศตลอดไม่ได้ไปไหน และวันนี้ก็เป็นวันศุกร์แล้ว แต่ยังไร้วี่แววของคนที่เคยมาชวนเขาไปกินข้าวทุกวันเช่นเคยนับ ๆ ดูก็ร่วมสองสัปดาห์เข้าไปแล้วที่พลอยพัดชาหายหน้าไปเลยเขานึกถึงประโยคที่หญิงสาวพูดด้วยความโกรธวันนั้นขึ้นมาทันที‘ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปพลอยจะไม่มาให้พี่เห็นหน้าอีกเลย จะไม่มายุ่งวุ่นวายให้พี่ต้องรำคาญอีกแล้ว’“คราวนี้โกรธจริงหรือเนี่ย”เขาส่งข้อความไปหาหญิงสาวหลายครั้ง เธออ่านแต่ไม่ตอบ เคยลองโทรศัพท์ไปหาแต่เธอก็ไม่รับ นับว่าครั้งนี้เป็นการไม่เจอหน้ากันนานที่สุดตั้งแต่รู้จักกันมาก็ว่าได้คราแรกเขาคิดจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลยไป เพราะอย่างไรเสียก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่พลอยพัดชาจะได้เลิกหวังในตัวเขา ทว่าพอเอาเข้าจริงเขากลับรู้สึกเหมือนชีวิตประจำวันขาดอะไรไปบางอย่าง“ช่างเถอะ” ธามถอนหายใจแผ่วพลางป
“คุณซี นพฤทธิ์น่ะ เขาเป็นลูกเจ้าของเฟรชลูปที่ฉันไปถ่ายโฆษณาให้ ความจริงเขาก็นัดฉันไปกินข้าวหลายครั้งแล้วละแต่ฉันยังไม่กล้าไป มาคราวนี้ฉันเกรงใจเขาเพราะเขาชวนหลายครั้งแล้ว ฉันเห็นว่ามันเป็นร้านอาหารกึ่งผับ ก็เลยบอกเขาว่าจะขอชวนเพื่อนไปด้วยคนหนึ่ง เขาก็เลยบอกว่างั้นเขาก็จะชวนเพื่อนมาด้วยคนหนึ่งเหมือนกัน แกคงไม่มีปัญหาอะไรเนอะ”เฟรชลูป คือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับน้ำผลไม้รสชาติต่าง ๆ ในรูปแบบขวดภายใต้ชื่อแบรนด์ว่าเฟรชชี นลินทราได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับน้ำส้มผสมเลมอน โดยจะเริ่มออนแอร์เดือนหน้า“แล้วเพื่อนเขาเป็นใคร มาจากไหนล่ะ” โอเค เธอรู้แล้วว่าคู่ของนลินทราเป็นใคร แต่คู่ของเธอนั้นยังไม่รู้“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ไม่กล้าถาม แต่เพื่อนเขาก็ยังมาไม่ถึงนะแก ฉันเลยบอกไม่ได้ว่ารูปร่างหน้าตาและนิสัยใจคอเป็นยังไง เอาไว้มาถึงก็รู้เองนั่นแหละ ถ้าหน้าหม้อมากนักก็ถีบส่งเลย”“โอเคค่ะคุณเพื่อน รอคนสวยหน่อยนะ คนสวยกำลังไป หล่อนก็นั่งล้วงตาคนนั้นไปก่อนละกัน เอ่อ...ฉันหมายถึงล้วงข้อมูลน่ะ” พูดจบเธอก็หัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินเสียงน
ชายหนุ่มเล่าวีรกรรมแสบสันล่าสุดของพลอยพัดชา หากแต่สีหน้าและแววตาของเขากลับไม่มีร่องรอยของความไม่พอใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กลับฟังแล้วรู้สึกว่าคนพูดมีความเอื้อเอ็นดูอย่างหาได้ยากนพฤทธิ์ได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะร่วน “น้องแกนี่ก็ดีนะ ตัวไม่อยู่แต่ก็ยังอุตส่าห์ทิ้งตัวแทนเอาไว้ด้วย”“เฮอะ ปวดหัวตายห่า” ธามแค่นยิ้ม แต่นพฤทธิ์กลับมองด้วยสายตาราวกับรู้ทัน“จริงเร้อ...ไม่ใช่ว่าแกเดาได้แต่แรกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าเพื่อนคุณนิ้งเป็นใคร ไม่อย่างนั้นแกจะขอแลกที่นั่งกับฉันทำไม จริงไหมวะไอ้คุณธาม”ธามไม่พูดอะไรเพื่อเป็นการแก้ต่างให้ตัวเอง เขาได้แต่นั่งยิ้มบาง ๆ เพื่อรอให้สองสาวกลับมาที่โต๊ะตามเดิมขณะเดียวกัน พลอยพัดชาก็เดินไปเดินมาราวกับเสือติดจั่นอยู่ในห้องน้ำเพราะเมื่อครู่นลินทราถูกแฟนคลับขอถ่ายรูปด้วย เมื่อเห็นว่าเพื่อนเดินตามเข้ามาแล้ว จึงปรี่เข้าไปหาทันที“ทำไมพี่ธามมาอยู่ที่นี่ได้ ทำไมแกไม่บอกฉันว่าเป็นพี่ธาม”“ฉันขอโทษ ฉันสาบานได้เลยว่าฉันไม่รู้จริง ๆ เว้ยว่าเพื่อนคุณซีคือพี่ธาม
วันนั้นเป็นงานวันเกิดของบิดา และเป็นช่วงที่เขาเรียนจบปริญญาโทกลับมาจากเมืองนอกพอดี เขาเห็นพลอยพัดชาเดินไปเดินมาอยู่ในงานเพียงลำพัง นอกจากหยุดพูดคุยทักทายคนรู้จักเล็กน้อยแล้วเขาก็ไม่เห็นว่าหญิงสาวจะมากับครอบครัวหรือมากับแฟนจึงทำให้เขาสนใจเธอขึ้นมาทันทีตั้งแต่แรกเห็นเขาแอบมองเธอเงียบ ๆ จนแน่ใจแล้วว่าหญิงสาวมาคนเดียวแน่นอน จึงตั้งใจจะเข้าไปทำความรู้จัก ทว่าหันไปมองอีกที เขาก็เห็นเธอผลุนผลันออกไปจากห้องจัดเลี้ยงราวกับมีเรื่องด่วน เขาแอบตามไปจนเห็นว่าหญิงสาวไปนั่งทรุดอยู่กับพื้นตรงมุมลับตาคนในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก จึงรีบปรี่เข้าไปหาเธอทันทีด้วยความตกใจแต่หลังจากนั้น เขาก็ได้รู้ว่าพลอยพัดชาเป็นบุตรสาวของเพื่อนสนิทที่ล่วงลับของบิดาเขาเอง อีกทั้งยังซี้ปึ้กกับธีรนาฏ น้องสาวของเขาอีกด้วยเพราะเรียนมัธยมมาด้วยกันตลอดหกปีเต็ม แต่เพราะเขาไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่จบมัธยมต้น จึงไม่เคยเจอหน้าพลอยพัดชามาก่อน พอรู้ว่าเป็นคนกันเอง และบิดาของเขาก็เอ็นดูเธอไม่น้อย จึงทำให้เขาปฏิบัติกับเธอไม่ต่างจากน้องสาวคนหนึ่งตลอดหลายปีมานี้ พลอยพัดชาคอยวิ่งตามเขามาตลอด แต่พอเธอหายหน้าไปร่วมครึ่งเดื
พลอยพัดชานำมงกุฏเพชรประดับด้วยพลอยบุษราคัมลงกล่องกำมะหยี่สีม่วงเปลือกมังคุดพลางอมยิ้มเมื่อนึกถึงผู้ที่กำลังจะได้เป็นเจ้าของ หญิงสาวปิดฝากล่อง กดตัวล็อกแล้วก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นตัวอักษรสีทองที่อยู่บนฝาแด่คนงาม นาม...จินตวาตีวันนี้เป็นวันเกิดของน้าจินนี่ จินตวาตี ซึ่งจะมีงานปาร์ตีที่บ้านใหญ่ในช่วงหัวค่ำ งานนี้มีบรรดาดารานักแสดง รวมถึงคนในวงการบันเทิงที่สนิทชิดเชื้อไปร่วมงานกันมากมาย ซึ่งพลอยพัดชาก็ต้องไปร่วมงานให้ได้ เพราะผู้เป็นน้าลั่นวาจาเอาไว้ทุกปีว่าต่อให้เธอป่วยจนลุกจากเตียงไม่ไหว ก็ต้องถ่อสังขารไปทั้งเตียงและเสาน้ำเกลือธีมของงานคือเซ็กซี่ออนเดอะบีช จินตวาตีเนรมิตสวนและสระว่ายน้ำให้เป็นเกาะสวาทหาดสวรรค์ ฉะนั้นผู้ที่ไปร่วมงานก็ต้องแต่งตัวให้เข้ากับการไปเที่ยวทะเล ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ต้องมีบิกินีแน่นอน“พี่กลับก่อนนะคะ ต้องกลับไปเตรียมตัวสักหน่อย”พลอยพัดชาบอกกับพนักงานในร้านหลังจากที่นำมงกุฏห่อใส่กล่องของขวัญและผูกโบว์เรียบร้อยแล้วหญิงสาวเดินออกจากร้านเพื่อไปขึ้นรถที่จอดไว้ในโรงแรม เม
พลอยพัดชาอมยิ้มขณะที่อ่านข่าวเหล่านั้นจากโทรศัพท์มือถือของตน ตอนที่เธอกับจินตวาตีคาดเดาความสัมพันธ์ของกวินภพกับปวีณาเมื่อคราวนั้น เธอยังอดสงสารฝ่ายหญิงไม่ได้ที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ราวกับคนที่ทำผิดกฎหมาย แต่มาวันนี้ความสงสารไม่มีเหลืออยู่แล้ว หลังจากที่ได้เห็นภาพและคลิปต่าง ๆ ที่ธามนำมาให้ดู เธอจึงรู้ทันทีว่าสองคนนี้ร่วมมือกัน“จริงสิ พี่ธามให้ใครส่งรูปพวกนั้นให้พวกเพจข่าวหรือคะ ไหนจะพวกที่ไปตอบคอมเมนต์ว่าเป็นคนหมู่บ้านเดียวกับสองคนนั้นอีก เขาเป็นจริง ๆ รึเปล่า แล้วไม่กลัวโดนฟ้องหรือไง”ธามยิ้มอ่อนพลางตอบว่า “จะใครเล่า ก็ยายนาฏไง”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ยายนาฏหรือ อ้าว! แล้วแอคเคาน์พวกนี้ล่ะ”“เป็นแอคเคาน์สำรองของเพื่อน ๆ เขาที่อเมริกาน่ะ ถ้าคิดจะฟ้องก็เชิญตามสบาย” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะตักกุ้งทอดซอสมะขามใส่ในจานข้าวให้หญิงสาวแล้วพูดว่า“กินข้าวเถอะ อย่าไปสนใจข่าวพวกนั้นเลย รอดูฟีดแบ็กที่ตามมาดีกว่า”“พลอยอยากเห็นหน้านายก้าวจริง ๆ ว่าถ้าเห็นข่าวพวกนี้แล้ว
“พี่ธามพอแล้ว พลอยหายใจไม่ทัน” หญิงสาวหอบจนตัวโยนราวกับวิ่งมาหลายกิโลเมตร ธามเห็นแล้วสงสารจึงหยุดมือ แต่ก็อดหยิกแก้มของอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยวไม่ได้“คิดจะไปส่องแขกหล่อ ๆ งั้นหรือ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย”ธามคาดโทษหญิงสาวอย่างไม่จริงจังนักเพราะรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีว่าช่างยั่วยวนและยั่วอารมณ์ให้มีน้ำโหอยู่บ่อย ๆ“ก็แขกส่วนใหญ่หล่อจริง ๆ นี่นา แต่ก็สู้หล่อมาดเข้มแบบพี่ไม่ได้หรอกน่า จริงไหม” พลอยพัดชายิ้มประจบ“ก็เพราะปากหวานช่างยั่วอย่างนี้นี่ไง พี่ถึงไปไหนไม่รอด” ชายหนุ่มเชยคางของเธอขึ้นแล้วจุ๊บเบา ๆ“ให้มันจริงเถอะ พลอยกลัวว่าพอหมดช่วงโปร พี่ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมน่ะสิ คนนิสัยเสีย”“ไม่เป็นแล้ว สัญญา” เขาชี้สามนิ้วขึ้น เธอจึงยู่หน้าใส่เขา“เชอะ พี่น่ะชอบใจร้ายกับพลอย จะง้อก็ไม่มาง้อดี ๆ กลับส่งขนมมาล่อ แถมยังเป็นคุกกี้ถั่วอีกต่างหาก แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพี่เอาใจใส่พลอยมากแค่ไหน”ธามได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้างพลางทำหน้างุนงงสงสัย เพราะเขาจำไม่ได้ว่าส่
พลอยพัดชาพยักหน้าเพราะเห็นด้วยกับคำพูดของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“เฮ้อ ตั้งแต่เคยถูกผู้ชายกอดมานะ มีอีตาคนนี้นี่แหละที่พลอยรู้สึกรังเกียจที่สุด”ธามหูผึ่งขึ้นมาทันที จากนั้นก็ชี้หน้าเธออย่างเอาเรื่อง“ยั่วโมโหอีกแล้วนะ เดี๋ยวจะโดน”พลอยพัดชาหัวเราะคิกคัก แล้วถามว่า“ว่าแต่...พี่จะทำอะไรเขาหรือคะ”พลอยพัดชาอดอยากรู้ไม่ได้ แต่มั่นใจว่าคนอย่างธามจะไม่มีการส่งนักเลงไปดักซ้อมกวินภพแน่นอน เพราะเขาไม่ชอบทำอะไรที่เป็นการให้ผลแค่ระยะสั้น คนอย่างเขาถ้าคิดลงมือเล่นงานใคร จะต้องเกิดผลเสียกับอีกฝ่ายในระยะยาว“ก็มันอยากเป็นข่าวนักไม่ใช่หรือ พี่ก็จะจัดให้ไง” ธามหันมายิ้มให้ ก่อนจะจับแก้มของเธอไว้ทั้งสองข้างแล้วดึงเบา ๆ พลางพูดว่า“คราวนี้ก็ยิ้มได้แล้วนะ ลงไปหาเค้กกินแก้เครียดกันดีกว่าเนอะ”หญิงสาวยิ้มออกทันที รู้สึกสมองโล่งขึ้นมาในทันใด อีกทั้งยังรู้สึกว่าหัวใจอุ่นวาบอย่างบอกไม่ถูก เพราะตั้งแต่บิดามารดาจากไป ชีวิตของเธอก็มีแต่น้าจินนี่คอยกางปีกปกป้องเสมอมา แต่ในบางครั
พลอยพัดชาเดินเข้ามาในโรงแรมพลางโทรศัพท์หานลินทราไปด้วย แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย หญิงสาวจึงคิดว่าเพื่อนน่าจะวุ่นอยู่กับการซ้อมบทจึงไม่คิดโทร. ไปรบกวนอีกหญิงสาวกดลิฟต์ไปชั้นสิบเอ็ดแล้วเดินไปยังห้องที่ข้อความบอกเอาไว้ เมื่อมาถึงห้องหมายเลยหนึ่งหนึ่งศูนย์สี่ จึงเคาะเบา ๆ แล้วรอให้ทีมงานมาเปิดประตูเมื่อประตูเปิดแง้มออก พลอยพัดชาได้ยินเสียงนลินทราดังแว่วมาจึงลองชะโงกหน้าเข้าไปแล้วเรียกเพื่อนเบา ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีมือแข็งแรงจากด้านในฉุดข้อมือของเธอจนถลาไปตามแรงนั้น และในที่สุดก็ต้องมายืนอยู่ในห้องจนได้พลอยพัดชาหน้าเหวอทันทีเพราะเห็นแล้วว่าไม่มีคนอยู่ในห้องนี้เลย และเสียงของนลินทราที่ได้ยินก็เป็นเสียงจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขก เธอจึงรีบหันหลังกลับทันที แต่พอหันมาก็ต้องเจอกับใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่เธอไม่คิดอยากเจอที่สุดในโลกยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งหมายความว่าเมื่อครู่เขาแอบอยู่หลังประตู และเป็นคนฉุดเธอเข้ามาในห้องนี้อีกด้วย“ถอยไป!” เรื่องราวเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว พลอยพัดชาจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดดี ๆ กับอีกฝ่ายอีก&ldqu
พลอยพัดชาอมยิ้มเมื่อเห็นธามตัวเกร็งขึ้นมาทันทีแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ นั่นก็เพราะการกรีดแผ่นหลังของเขาแบบนี้เป็นการกระตุ้นอารมณ์ของชายหนุ่มให้ตื่นเพริด ยิ่งถ้าเธอทำตอนนัวเนียกันอยู่บนเตียง เขาจะแหงนหน้าขึ้นแล้วครางออกมาอย่างลืมตัวเสมอ“แขกของพี่ธามนี่เขาไม่ได้เรียนมารยาทมาหรือคะ เห็นมาทีไรก็มาตอนเที่ยงทุกที เขาไม่รู้หรือไงว่าตอนเที่ยงพนักงานทุกคนก็ต้องพักเที่ยงไปกินข้าวกินปลา”พลอยพัดชาเห็นกนกลดากำหมัดแน่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ยิ่งเห็นร่องรอยบนใบหน้าซึ่งเกิดจากฝีมือของตนครั้งนั้นก็ยิ่งรู้สึกสะใจไม่น้อย ครั้นพอเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างเธอจึงชิงพูดขึ้นก่อนเพราะไม่ต้องการปล่อยให้อีกฝ่ายได้พูด“อ๋อรู้แล้ว ที่มาตอนเที่ยงทุกครั้งก็หมายความว่าเป็นเพราะเขาอยากชวนพี่ไปกินกลางวันด้วยใช่ไหมคะ อุ๊ยตาย ช่างมีความพยายามสูงส่งซะจริ๊ง”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ! ฉันมาคุยเรื่องงานกับพี่ธาม”กนกลดาแทบเค้นเสียงพูด สีหน้าแววตามีแต่ความกรุ่นโกรธอัดแน่นเต็มที่ แต่พลอยพัดชากลับไม่สนใจ เธอเปิดฝากล่องข้าวหน้าเนื้อจนกลิ่นหอมของอาหารโชยเข้าจมู
“ใกล้ถึงวันเกิดของเขาน่ะ แต่พี่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้เขาดีก็เลยคิดว่าน่าจะซื้อแหวนให้สักวง”“แล้วพี่พัฒน์คิดว่าจะหมั้นกันเร็ว ๆ นี้รึเปล่าคะ หรือว่ายังไม่ได้กำหนด”พลอยพัดชาลองเลียบเคียงถาม เพราะจะได้เลือกสินค้าให้เขาได้ตรงตามความต้องการของอีกฝ่าย“ยังไม่ได้คิดเรื่องหมั้นเลย พี่เพิ่งคบกับเขาได้เดือนสองเดือนนี่เอง” สีหน้าของชายหนุ่มมีความขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด“ถ้าอย่างนั้นพลอยแนะนำว่าเป็นต่างหูหรือสร้อยคอสร้อยข้อมืออะไรพวกนี้ดีกว่าไหมคะ เพราะว่าถ้าให้แหวนกัน คนรับอาจจะคิดว่านี่คือการขอหมั้นทางอ้อม”เธอแนะนำอย่างเป็นกลาง เพราะอย่างไรเสียการให้แหวนกันนั้น อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าคนให้ต้องการหมั้นหมายก็เป็นได้จากที่ฟังเขาพูดมา ดูเหมือนรพีพัฒน์ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นนั้นเพราะเพิ่งคบหากันได้ไม่นาน ซึ่งหากฝ่ายหญิงยังไม่ได้คิดถึงเรื่องหมั้นเช่นกัน แต่จู่ ๆ ฝ่ายชายก็ให้แหวนแทนใจ อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเขาต้องการผูกมัดทางอ้อม และสิ่งที่จะตามมาก็คือความอึดอัดถ้าหากเจ้าตัวยังไม่พร้อมพูดถึงเรื่องนี้&ldqu
“ฉันไม่น่ารับปากยายปลาแล้วเอามันมาอยู่ในสังกัดเลย ชักศึกเข้าบ้านตัวเองแท้ ๆ”“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดน่าน้าจินนี่ อีกอย่างนะ เขาเองก็กำลังดังเป็นพลุแตก ใคร ๆ ก็อยากได้เขากันทั้งนั้น” พลอยพัดชาเอ่ยปลอบใจผู้เป็นน้า“เรื่องยายปลาน้าไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร เพราะพอจะเดาได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เรื่องนั้นน่ะสิ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไอ้ก้าวมันจะทำได้”“พลอยก็ว่างั้นแหละ เขาไม่กลัวคนจะจำได้เลยเนอะ เวลาออกสื่อน่ะ”จินตวาตีนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “น้าคิดว่าก็คงมีคนจำได้บ้างนั่นแหละ และก็รู้กันแค่วงในไม่กี่คน แต่เขาไม่เอามาพูดกัน เพราะสมัยนี้เอะอะอะไรก็ฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล คนมันต้องทำมาหากิน ไม่มีใครว่างพอจะมานั่งติดตามเรื่องพวกนี้หรอก”พลอยพัดชาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ก็จริงเนอะ คนกลุ่มเล็ก ๆ แค่ไม่กี่คนกับคนกลุ่มใหญ่ที่รู้จักฐานะของเขาว่าเป็นพระเอกคนดัง ยังไงกลุ่มหลังเสียงมันก็ดังกว่า”“นี่ถ้านังแอ๊ดดี้กับนังเบนซ์มันรู้เข้าคงได้หัวเราะเยาะฉันจนกรามค้างแน่ พวกนั้นมันยิ่งรอดูฉันล้ม
ธามยิ้มมุมปาก ตอนแรกเขาคิดจะใช้เรื่องคีย์การ์ดมาจัดการกับพิษณุด้วยการยื่นหนังสือให้ฝ่ายบริหารทุกคนทราบว่าอีกฝ่ายทำผิดกฎร้ายแรง และไล่ออกให้พ้นจากบริษัทไป แต่วันนี้หลังจากที่ตรวจไซต์งานเสร็จเรียบร้อย เขาก็เปลี่ยนใจ เพราะคิดว่าการไล่ออกให้พ้นจากตำแหน่งดูจะลงโทษน้อยไปหน่อย“พี่คิดว่าไหน ๆ ก็จะเอาเรื่องเขาแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด การไล่ออกโทษมันเบาไปหน่อย เพราะแผนที่พี่วางเอาไว้น่ะนอกจากจะไล่ออกแล้ว ยังส่งพวกมันเข้าคุกและฟ้องร้องเรียกเงินค่าเสียหายได้อีกด้วย โทษฐานทุจริต”พลันนั้นเขานึกถึงสายตาคับแค้นของกฤษณ์ตอนที่มองพลอยพัดชาจึงอดเตือนเธอไม่ได้“พลอยต้องระวังตัวหน่อยนะ เพราะพี่ไม่รู้ว่าดากับพ่อของเขาจะมาเล่นงานพลอยรึเปล่า พ่อลูกคู่นี้น่ะเล่นงานคนอื่นมาเยอะ พี่ไม่อยากให้พลอยเป็นอะไร เพราะฉะนั้นพี่ว่าพลอยย้ายมาอยู่กับพี่ที่เพนต์เฮาส์เถอะ”“โน!”“ไม่คิดจะกลับไปตัดสินใจก่อนหรือ พี่เป็นห่วงพลอยจริง ๆ นะ”“อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วพี่น่ะ ทำมาเป็นพูดดี ไม่ต้องเลย ต่างคนต่างอยู่ไปนั่น
ธามยักไหล่ “แน่นอนอยู่แล้ว เพอร์เฟกต์อย่างพี่น่ะหาไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะจะบอกให้ เพราะฉะนั้นพลอยต้องจับไว้ให้แน่น ๆ ห้ามปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาดเลยนะ”พลอยพัดชาเบ้ปากใส่ทันที “ขอโทษนะคะ ประโยคนั้นพลอยควรเป็นคนพูดมากกว่าค่ะ”“ครับผม ยอมแล้วครับ แต่ก่อนอื่น กรุณาอย่าหลับในรถนะครับคนสวย มันอันตรายนะคุณผู้หญิง ถ้าคิดจะงีบก็กรุณาเลื่อนกระจกลงมาสักนิดก็ยังดี”“ก็ตอนแรกไม่คิดว่าจะหลับสักหน่อย เล่นมือถืออยู่ดี ๆ เล่นไปเล่นมาหลับตอนไหนยังไม่รู้เลย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่มาเคาะกระจกเรียกนั่นแหละ ปกติพลอยไม่เคยหลับตอนกลางวันเลยนะ เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่ล้วน ๆ ที่ทำให้พลอยต้องนอนไม่อิ่ม” เธอค้อนให้เขาธามหัวเราะเบา ๆ พลางเอื้อมไปจับมือของเธอให้มาวางไว้บนตักของตัวเอง จากนั้นก็เอ่ยปากถามว่า“พลอยค้างกับพี่อีกคืนได้ไหม เดี๋ยวคืนนี้พี่พาไปเที่ยวที่เด็ด ๆ”“ที่ไหน บาร์อะโกโก้หรือ” หญิงสาวปรายตามองเขา“เฮ้ย รู้ได้ไง” เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ“ใช่แล้ว พี่จะพาพลอยไปเที่ยวบาร์อะโกโก้ แต่มันไม่ใช่บาร์อนาจารแบบที่พลอยเข้าใจนะ ที่นั่นจะมีผู้หญิงเต้น