ชายหนุ่มเล่าวีรกรรมแสบสันล่าสุดของพลอยพัดชา หากแต่สีหน้าและแววตาของเขากลับไม่มีร่องรอยของความไม่พอใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กลับฟังแล้วรู้สึกว่าคนพูดมีความเอื้อเอ็นดูอย่างหาได้ยาก
นพฤทธิ์ได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะร่วน “น้องแกนี่ก็ดีนะ ตัวไม่อยู่แต่ก็ยังอุตส่าห์ทิ้งตัวแทนเอาไว้ด้วย”
“เฮอะ ปวดหัวตายห่า” ธามแค่นยิ้ม แต่นพฤทธิ์กลับมองด้วยสายตาราวกับรู้ทัน
“จริงเร้อ...ไม่ใช่ว่าแกเดาได้แต่แรกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าเพื่อนคุณนิ้งเป็นใคร ไม่อย่างนั้นแกจะขอแลกที่นั่งกับฉันทำไม จริงไหมวะไอ้คุณธาม”
ธามไม่พูดอะไรเพื่อเป็นการแก้ต่างให้ตัวเอง เขาได้แต่นั่งยิ้มบาง ๆ เพื่อรอให้สองสาวกลับมาที่โต๊ะตามเดิม
ขณะเดียวกัน พลอยพัดชาก็เดินไปเดินมาราวกับเสือติดจั่นอยู่ในห้องน้ำเพราะเมื่อครู่นลินทราถูกแฟนคลับขอถ่ายรูปด้วย เมื่อเห็นว่าเพื่อนเดินตามเข้ามาแล้ว จึงปรี่เข้าไปหาทันที
“ทำไมพี่ธามมาอยู่ที่นี่ได้ ทำไมแกไม่บอกฉันว่าเป็นพี่ธาม”
“ฉันขอโทษ ฉันสาบานได้เลยว่าฉันไม่รู้จริง ๆ เว้ยว่าเพื่อนคุณซีคือพี่ธาม และอีกอย่างพี่เขาก็มาถึงก่อนแกแค่แป๊บเดียวเอง ฉันจะโทร. บอกแกก็ไม่ทันแล้วเพราะแกเดินเข้ามาพอดี”
พลอยพัดชาแทบหมดแรง เธอพิงสะโพกไว้กับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ฉันอุตส่าห์หลบหน้า ไม่ไปเจอเขามาได้ตั้งหลายวันแล้ว” หญิงสาวพูดเสียงแผ่ว นลินทราจึงเอื้อมไปจับมือเพื่อนอย่างให้กำลังใจ
“พลอย อย่าลืมที่เราคุยกันไว้สิว่าแกต้องมูฟออนเว้ย คนสวยอย่างเราทำไมต้องแคร์ผู้ชายด้วยวะ เจอก็เจอไปดิ ก็แค่นั่งกินข้าวกันธรรมดา แกต้องเชิดหน้าสตรองเข้าไว้นะเพื่อน ต้องทำให้เขาเห็นว่าแกไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่หลงใหลได้ปลื้มเขาอีกแล้ว คิดเสียว่าแกกำลังรับบทเมียหลวงที่ต้องเชิดหน้าเป็นนางพญาเวลาผัวพาเมียน้อยเข้าบ้านสิวะ”
พลอยพัดชาอดหัวเราะออกมาไม่ได้ที่เพื่อนช่างเปรียบเปรยได้เข้ากับสถานการณ์ดีแท้ นั่นเพราะตอนนี้นลินทรากำลังเล่นละครเรื่องหนึ่ง โดยบทที่ได้รับคือเมียน้อยที่ต้องฟาดฟันกับเมียหลวง
พลอยพัดชาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อตั้งหลักโดยมีเพื่อนซี้คอยบีบมือให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ
“แกทำได้ ฉันเชื่อ เชิดเข้าไว้เพื่อน ฉันสวย ฉันรวย ฉันเสน่ห์แรง ท่องไว้”
พลอยพัดชาพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ใช่ และฉันก็สวยเลือกได้ ก็แค่นั่งกินข้าวจะมีอะไรนักหนา เขายังทำได้แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้”
ครั้นพอพูดถึงตรงนี้ เจ้าตัวก็ทำท่าห่อเหี่ยวราวกับลูกโป่งถูกปล่อยลมแล้วพึมพำเบา ๆ
“แต่ที่เขาทำได้ก็เพราะเขาไม่เคยรู้สึกอะไรกับฉันเลยไงละ”
“ก็เดี๋ยวอีกหน่อย คนที่ไม่รู้สึกอะไรเลยก็จะเปลี่ยนเป็นแกแทนไงเล่า ยายเพื่อนบ้า” นลินทราพูดจบก็เอามือกุมใบหน้าพลอยพัดชาไว้แล้วเอียงซ้ายขวาไปมาก่อนจะพูดว่า
“อุตส่าห์พอกหน้ามาซะผิวเด้ง เพราะฉะนั้นแกต้องยืดอกมั่นใจเข้าไว้ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วแรดให้เต็มที่ไปเลยก็ดีนะแก จริตต้องมา มารยาต้องมี เขาจะมองยังไงก็เรื่องของเขา แต่เราก็เป็นเราแบบนี้แหละ”
พลอยพัดชาพยักหน้าช้า ๆ “นั่นสิเนอะ ฉันนี่แม่งบ้าบอว่ะ...โอเค ฉันพร้อมแล้ว เราออกไปกันเถอะ”
สองสาวเดินออกจากห้องน้ำด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นกว่าตอนขาไป เมื่อไปถึงที่โต๊ะ ธามก็ลุกขึ้นเพื่อให้พลอยพัดชาเข้าไปนั่งด้านใน หญิงสาวปรายตามองเขาเล็กน้อยพร้อมกับเอ่ยขอบคุณเบา ๆ ก่อนเข้าไปนั่ง
พลอยพัดชาลอบมองจากหางตาของตนตอนที่ธามหย่อนตัวนั่งข้างกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโต๊ะเล็กเกินไปหรือเปล่า พอเธอนั่งคู่กับเขาแล้วจึงดูเหมือนระยะห่างระหว่างกันถึงแคบลงจนแขนของเขามาโดนแขนของเธอบ่อยมาก
“ได้สั่งอาหารกันไปบ้างรึยังคะ” พลอยพัดชาทำทีเป็นไม่สนใจและยิ้มบาง ๆ ธามจึงเลื่อนเมนูอาหารส่งให้พร้อมกับพูดว่า
“พี่กับพี่ซีสั่งไปสองอย่างแล้วตอนที่พลอยไปเข้าห้องน้ำกับเพื่อนน่ะ เหลือแต่พลอยกับคุณนิ้ง” จากนั้นเขาก็บอกรายการอาหารที่สั่งไปซึ่งคือพล่ากุ้งแม่น้ำกับปลาช่อนลุยสวน
พลอยพัดชาพยักหน้ารับรู้ แต่หัวใจกลับเต้นกระหน่ำจนมือที่จับเมนูอยู่นั้นแทบสั่นตามไปด้วย นั่นเพราะอาหารทั้งสองอย่างนั้นเป็นของโปรดของเธอ
หญิงสาวไล่ความคิดเข้าข้างตัวเองว่าธามสั่งอาหารมาเพื่อตนให้ออกไปจากหัว แล้วเงยหน้าคุยกับนลินทราว่าจะสั่งอะไรเพิ่มเติมอีก สุดท้ายทั้งคู่จึงสั่งอาหารที่ไม่หนักเกินไป เหมาะสำหรับกินไปคุยไปมาอีกสองอย่าง
ชายหนุ่มทั้งสองคนไม่กินข้าว แต่สั่งเบียร์มาดื่มแทน พลอยพัดชากับนลินทราก็เช่นกันที่เลือกสั่งค็อกเทลมาคนละแก้ว เพราะรู้ดีว่ามื้อนี้เน้นพูดคุยทำความรู้จักกันมากกว่าจะมานั่งกินข้าวกันแบบจริงจัง
หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว ระหว่างนั่งรอ นพฤทธิ์ก็เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นก่อน
“ได้ยินมาว่าคุณพลอยแพ้ถั่วหรือครับ ลำบากแย่เลยนะนั่น”
พลอยพัดชามองเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างกายคนถามพร้อมกับยิ้มให้ทั้งคู่ เพราะเดาว่านลินทราคงเล่าให้ชายหนุ่มตรงหน้าฟังอย่างแน่นอน
“ใช่ค่ะ จะว่าลำบากไหม ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก แค่ต้องระวังเรื่องอาหารการกินมากหน่อยเท่านั้นเองค่ะ จะลำบากของจริงก็ตอนที่อาการแพ้กำเริบนั่นแหละ”
“พลอยต้องพกยาติดตัวไว้ตลอดน่ะ” ธามเป็นฝ่ายบอกเพื่อนสนิท ก่อนจะหันไปหาพลอยพัดชาแล้วพูดว่า
“ถ้าพี่จำไม่ผิด รู้สึกว่าจะเป็นหลอด ๆ และมีเข็มตรงปลายด้วยใช่ไหม ตอนนั้นพี่จำได้ว่าเราฉีดเข้าที่ขาของตัวเอง” ทันทีที่เขาพูดจบ นพฤทธิ์ก็ทำตาโตพลางลูบแขนตัวเองป้อย ๆ
“ขอโทษที คือผมกลัวเข็มมาตั้งแต่เด็กแล้วน่ะ พอได้ยินแบบนี้แล้วอดขนลุกไม่ได้” นพฤทธิ์ยิ้มเจื่อน ขณะที่พลอยพัดชานั้นหันไปแค่นยิ้มให้คนข้างตัว
“ไม่คิดว่าพี่ธามจะจำเรื่องวันนั้นได้ด้วย พลอยจะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ย เอาเป็นว่าดีใจละกันเนอะ” หญิงสาวไม่คิดจะสนใจเขาอีก จึงชวนเพื่อนใหม่อย่างนพฤทธิ์คุย
“ว่าแต่คุณซีนึกยังไงถึงมาชวนยายนิ้งกินข้าวคะ พลอยน่ะไม่อยากจะเตือนหรอกนะ แต่ระวังล้มละลายนะคะเพราะเพื่อนพลอยน่ะเห็นผอมบางอย่างนี้แต่กินจุอย่างกับอะไรดี”
“ถ้าอย่างฉันเรียกกินจุ อย่างแกก็คงชูชกกลับชาติมาเกิดนั่นแหละย่ะ นางสามารถกินพิซซาได้คนเดียวทั้งถาดเลยนะคุณซี ไม่เชื่อถามพี่ธามดูก็ได้” นลินทราโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้
“ถามจริง!” นพฤทธิ์พูดกลั้วหัวเราะ พลอยพัดชาจึงไหวไหล่ด้วยท่าทางที่คิดว่าน่าหมั่นไส้ที่สุดเพราะจงใจยั่วประสาทคนนั่งข้างกาย
“เคล็ดลับความสวยน่ะค่ะ...จริงไหมคะพี่ธามขา”
ประโยคหลังพลอยพัดชาหันหน้าไปหาธามแล้วกะพริบตาปริบ ๆ อย่างออดอ้อน เห็นเขามองเธออยู่ก่อนแล้ว ซ้ำยังยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มบาง ๆ เธอจึงหลิ่วตาให้เขาข้างหนึ่งอย่างเจ้าชู้
ธามมองคนช่างยั่วอย่างมันเขี้ยวจนนึกอยากหยิกแก้มเธอแรง ๆ จะว่าไปแล้วก็แปลก เพราะก่อนหน้านี้เขาเองก็รู้อยู่ว่าพลอยพัดชานั้นรูปร่างหน้าตาดี แต่เขาก็มองข้ามจุดนั้นของเธอไปเพราะไม่คิดจะสนใจเธอในเชิงชู้สาว แม้ว่าตอนที่เจอพลอยพัดชาครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนเขาจะเคยสนใจเธอก็ตาม ครั้นพอนึกถึงเรื่องนี้ ก็ทำให้ชายหนุ่มอดนึกไปถึงวันที่เจอกันวันแรกไม่ได้
วันนั้นเป็นงานวันเกิดของบิดา และเป็นช่วงที่เขาเรียนจบปริญญาโทกลับมาจากเมืองนอกพอดี เขาเห็นพลอยพัดชาเดินไปเดินมาอยู่ในงานเพียงลำพัง นอกจากหยุดพูดคุยทักทายคนรู้จักเล็กน้อยแล้วเขาก็ไม่เห็นว่าหญิงสาวจะมากับครอบครัวหรือมากับแฟนจึงทำให้เขาสนใจเธอขึ้นมาทันทีตั้งแต่แรกเห็นเขาแอบมองเธอเงียบ ๆ จนแน่ใจแล้วว่าหญิงสาวมาคนเดียวแน่นอน จึงตั้งใจจะเข้าไปทำความรู้จัก ทว่าหันไปมองอีกที เขาก็เห็นเธอผลุนผลันออกไปจากห้องจัดเลี้ยงราวกับมีเรื่องด่วน เขาแอบตามไปจนเห็นว่าหญิงสาวไปนั่งทรุดอยู่กับพื้นตรงมุมลับตาคนในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก จึงรีบปรี่เข้าไปหาเธอทันทีด้วยความตกใจแต่หลังจากนั้น เขาก็ได้รู้ว่าพลอยพัดชาเป็นบุตรสาวของเพื่อนสนิทที่ล่วงลับของบิดาเขาเอง อีกทั้งยังซี้ปึ้กกับธีรนาฏ น้องสาวของเขาอีกด้วยเพราะเรียนมัธยมมาด้วยกันตลอดหกปีเต็ม แต่เพราะเขาไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่จบมัธยมต้น จึงไม่เคยเจอหน้าพลอยพัดชามาก่อน พอรู้ว่าเป็นคนกันเอง และบิดาของเขาก็เอ็นดูเธอไม่น้อย จึงทำให้เขาปฏิบัติกับเธอไม่ต่างจากน้องสาวคนหนึ่งตลอดหลายปีมานี้ พลอยพัดชาคอยวิ่งตามเขามาตลอด แต่พอเธอหายหน้าไปร่วมครึ่งเดื
พลอยพัดชานำมงกุฏเพชรประดับด้วยพลอยบุษราคัมลงกล่องกำมะหยี่สีม่วงเปลือกมังคุดพลางอมยิ้มเมื่อนึกถึงผู้ที่กำลังจะได้เป็นเจ้าของ หญิงสาวปิดฝากล่อง กดตัวล็อกแล้วก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นตัวอักษรสีทองที่อยู่บนฝาแด่คนงาม นาม...จินตวาตีวันนี้เป็นวันเกิดของน้าจินนี่ จินตวาตี ซึ่งจะมีงานปาร์ตีที่บ้านใหญ่ในช่วงหัวค่ำ งานนี้มีบรรดาดารานักแสดง รวมถึงคนในวงการบันเทิงที่สนิทชิดเชื้อไปร่วมงานกันมากมาย ซึ่งพลอยพัดชาก็ต้องไปร่วมงานให้ได้ เพราะผู้เป็นน้าลั่นวาจาเอาไว้ทุกปีว่าต่อให้เธอป่วยจนลุกจากเตียงไม่ไหว ก็ต้องถ่อสังขารไปทั้งเตียงและเสาน้ำเกลือธีมของงานคือเซ็กซี่ออนเดอะบีช จินตวาตีเนรมิตสวนและสระว่ายน้ำให้เป็นเกาะสวาทหาดสวรรค์ ฉะนั้นผู้ที่ไปร่วมงานก็ต้องแต่งตัวให้เข้ากับการไปเที่ยวทะเล ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ต้องมีบิกินีแน่นอน“พี่กลับก่อนนะคะ ต้องกลับไปเตรียมตัวสักหน่อย”พลอยพัดชาบอกกับพนักงานในร้านหลังจากที่นำมงกุฏห่อใส่กล่องของขวัญและผูกโบว์เรียบร้อยแล้วหญิงสาวเดินออกจากร้านเพื่อไปขึ้นรถที่จอดไว้ในโรงแรม เม
หญิงสาวมองธามจากกระจกมองหลัง เห็นเขายังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนจนกระทั่งรถของเธอเลี้ยวมาอีกด้าน ทำให้มองไม่เห็นเขาแล้วจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นก็กรี๊ดออกมาลั่นรถเพื่อระบายความอัดอั้น“อีตาบ้า อีคนหน้าตาย คิดจะอ่อยฉันเหรอ เชอะ! ไม่สำเร็จหรอกย่ะ รอให้ฉันตัดใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นเมื่อไร ต่อให้มากอดแข้งกอดขาฉันก็จะเชิดหน้าให้คอเคล็ดไปเลย ฮึ!”ทีตอนที่เธอวิ่งตามเขา เขากลับไม่เคยแยแส แต่พอเธอตั้งใจว่าจะเลิกแคร์ เขากลับตามตอแยเธอไม่เลิกเมื่อกลับถึงคอนโดมิเนียม พลอยพัดชารีบอาบน้ำแต่งตัวด้วยความรวดเร็ว โชคดีที่เตรียมชุดไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จึงไม่เสียเวลากับการเลือกชุดที่จะใส่ไปงานปาร์ตีคืนนี้หญิงสาวเลือกบิกินีลายดอกลิลลี่สีชมพูพื้นดำ เครื่องสำอางต้องเป็นแบบกันน้ำเพราะงานนี้มีการกระโดดลงสระกันแน่นอน จากนั้นก็หยิบกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งมาสวมใส่ เพราะคงเดินออกจากห้องไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้ ส่วนผ้าผูกเอวที่เอาไว้คลุมสะโพกค่อยเอาไว้ไปใส่ที่งาน รวมไปถึงดอกกล้วยไม้สำหรับทัดหูนั
“สวัสดีครับ ถ้าไม่รังเกียจ ผมขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” เขายิ้มให้อย่างสุภาพ นลินทราจึงพยักหน้าให้เขา“เชิญค่ะพี่ก้าว ยายพลอย แกรู้จักพี่ก้าว กวินภพอยู่แล้วเนอะ น้าจินนี่เล่าให้ฟังแล้วใช่รึเปล่า” ประโยคหลังนลินทราหันไปคุยกับพลอยพัดชา“เล่าให้ฟังแล้วละ รู้ว่าเคยแสดงอะไรมาบ้าง แต่ยังไม่เคยคุยกัน”พลอยพัดชาตอบไปตามตรง เพราะหญิงสาวเคยเห็นเขาแค่ในโทรทัศน์ และโฆษณาบางตัวเท่านั้น“คุณพลอยจำผมได้ด้วย ผมดีใจนะเนี่ย” กวินภพยิ้มกว้าง สีหน้ามีแววขัดเขินเล็กน้อยนลินทราลอบสังเกตท่าทางที่กวินภพมีต่อพลอยพัดชาอยู่เงียบ ๆ เท่าที่เธอรู้มา พระเอกหนุ่มคนนี้ไม่ค่อยมีข่าวเสื่อมเสียหรือข่าวซุบซิบให้ได้ยินสักเท่าไร เขาเป็นนักแสดงที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย แต่สิ่งที่เธอติดใจมีเพียงอย่างเดียวคือเธอไม่รู้สาเหตุที่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวที่เคยล่มหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่เข้าวงการใหม่ ๆ แล้วมาอยู่กับจินตวาตี เพราะตอนถามจินตวาตี อีกฝ่ายก็บอกเพียงว่าหมดสัญญากับคนเก่า และคนเก่าไม่ต้องการทำงานเป็นผู้จัดการให้แล้ว“ก็
“คุณพลอยมีแฟนรึยังคะ หนุ่ม ๆ ในงานสนใจกันหลายคนเลยนะเนี่ย”เจ้าตัวพูดจบ เสียงของหนุ่ม ๆ ที่ว่าก็พร้อมใจกันเฮขึ้นมาทันทีแล้วตะโกนพูดพร้อมกันว่า...ไม่มี...ไม่มีพลอยพัดชาคลี่ยิ้มกว้าง ก่อนจะพูดใส่ไมโครโฟนสองคำสั้น ๆ “โสดค่ะ”ทันทีที่พลอยพัดชาพูดจบ เสียงปรบมือและเสียงเฮลั่นด้วยความดีใจก็ดังขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะถูกดับฝันด้วยคำพูดของเจ้าของงานวันเกิดว่า“ไม่อนุญาตให้จีบนะคะ คนนี้คือแก้วตาดวงใจของเจ๊ค่ะ” เสียงโห่ด้วยความเสียดายดังขึ้นทันทีที่จินตวาตีพูดจบ“โธ่ น้าจินนี่ อยู่บนคานมันหนาวนะ ไม่เห็นใจหลานบ้างเลย พลอยยิ่งหาแฟนยากอยู่” พลอยพัดชาแกล้งทำหน้าง้ำ จินตวาตีจึงยักไหล่พลางเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดว่า“ช่วยไม่ได้ย่ะ ในเมื่อน้าอย่างฉันที่สวยแซ่บกว่าหล่อนขนาดนี้ยังหาผัวไม่ได้ หล่อนที่เป็นหลานก็อย่าหวังเลยว่าจะมีผัวได้ก่อนน้า”เสียงกรี๊ดกร๊าดและหัวเราะก็ดังขึ้นทันที่ที่เจ้าของงานวันเกิดพูดจบจากนั้นปาร์ตีก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ยิ่งมีปาร์ตีโฟมในสระว่ายน้ำ แต่ละคนจึงพากันลงไปเล่นน้ำ
วันต่อมา พลอยพัดชาเข้าร้านตามปกติ ทว่ายังไม่ทันจะวางกระเป๋า ร้านพัดชา เจมส์ก็ได้ต้อนรับพระเอกหนุ่มมาแรงอย่างกวินภพที่แวะมาเยี่ยมเยียนพลอยพัดชาถึงร้าน ทำเอาพนักงานตื่นเต้นกันมาก ต่างพากันขอถ่ายรูปคู่กับเขาคนละรูปสองรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันทุกคนหลังจากถ่ายรูปร่วมกันเสร็จเรียบร้อย กวินภพก็ค้อมศีรษะขอบคุณทุกคนพร้อมกับฝากฝังผลงานละครเรื่องใหม่อย่างเป็นมิตร ก่อนจะหันมายิ้มให้เจ้าของร้านสาวสวยที่ยืนกอดอกมองความวุ่นวายเมื่อครู่ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ“ไม่ทราบว่าคุณพลอยยุ่งอยู่รึเปล่าครับ ผมมารบกวนรึเปล่า”“เปล่าค่ะ พลอยเพิ่งมาถึงร้านเอง ว่าแต่คุณก้าวเถอะ มาทำธุระแถวนี้หรือคะ หรือว่ามาหาซื้อแหวนสักวงให้แฟน พลอยแนะนำให้ได้นะ”พลอยพัดชาใช่ว่าไม่รู้ว่าพระเอกหนุ่มคนนี้สนใจตน เพราะคืนวันนั้นสายตาของเขาเวลาที่มองเธอก็แสดงออกอย่างเปิดเผย แต่เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกวินภพเป็นดาราในสังกัดของจินตวาตีกระมัง เธอจึงมองเขาเป็นเพื่อน หรือเป็นพี่มากกว่าอีกทั้งพลอยพัดชามั่นใจว่า หากกวินภพได้รู้จักกับเธอนานวันเ
“ก็ไม่แน่ว่ะ ถึงขั้นตามไปหาที่ร้านนี่ก็ไม่ใช่เล่น ๆ แล้วมั้ง แกไม่ลองพิจารณาเขาบ้างหรือ” นลินทราพูดเสียงเบาราวกับกลัวคนอื่นได้ยิน จึงทำให้พลอยพัดชารู้ว่าบริเวณที่เพื่อนนั่งอยู่นั้นมีคนอื่นเดินผ่านพอดี“คงไม่ละ เป็นเพื่อนกันไปนั่นแหละดีแล้ว ฉันไม่ชอบมีแฟนเป็นดารา ขอผู้ชายธรรมดาดีกว่า”“ผู้ชายธรรมดาที่แกว่าน่ะ หมายถึงพี่ธามหรือพี่พัฒน์ล่ะยายบ้า สองคนนี้เรียกผู้ชายธรรมดาที่ไหนกัน คนหนึ่งเป็นเจ้าของโรงแรม อีกคนเป็นเจ้าของบริษัทน้ำอัดลม หูย...อีสวยเลือกได้ ฉันละอยากรู้จริงเชียวว่าถ้าพี่ธามเห็นภาพข่าวพวกนี้แล้วเขาจะเป็นยังไง”พลอยพัดชาเบ้ปาก “จะเป็นยังไงล่ะ ก็คงดีใจจนเนื้อเต้นละมั้งที่ฉันมีคนมาจีบสักที จะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายกับเขาอีก แต่แกเชื่อเถอะว่าเขาไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอก เพราะพี่ธามเขาสนใจข่าวซุบซิบดาราพวกนี้ที่ไหน วัน ๆ ดูแต่ข่าวเศรษฐกิจกับการเมือง ดีไม่ดี ดาราผู้หญิงคนเดียวที่เขารู้จักก็คงมีแต่แกนั่นแหละนังนิ้ง”หญิงสาวพูดจบก็ต้องเบิกตากว้าง เพราะตอนนี้หน้าร้านมีใครบางคนกำลังแหงนหน้ามองป้ายชื่อร้านราวกับดูให
เขารู้จักพลอยพัดชาดี เธอเป็นคนที่ไม่ยอมลงให้คนอื่น ยิ่งกับคู่อริด้วยแล้วยิ่งไม่มีทาง ดังนั้นถ้าเธอเห็นว่ากนกลดาไปกินข้าวด้วยกัน เขายังคิดว่าพลอยพัดชาจะต้องตามไปด้วยเพื่อต้องการขัดแข้งขัดขาอีกฝ่ายเป็นแน่ แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวังธามผงกศีรษะให้กนกลดาเป็นเชิงบอกว่าออกจากร้านกันได้แล้ว ครั้นพอเดินออกมาไม่เท่าไร เขายังอดหันกลับไปมองด้านหลังไม่ได้เพราะคิดว่าอีกเดี๋ยวพลอยพัดชาจะต้องตามมาแน่ แต่เธอก็ไม่มา สุดท้ายจึงได้แต่ถอดใจแล้วเดินตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ช้าไม่เร็วขณะเดียวกัน พลอยพัดชาก็นั่งเท้าคางพลางเหยียดยิ้มมุมปากเมื่อคิดถึงเรื่องสนุกที่ตนกำลังจะลงมือทำ ป่านนี้สองคนนั้นคงเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไร คิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านตามไปทันทีธามกับกนกลดาเดินนำอยู่ข้างหน้าประมาณสิบเมตรได้ เธอเห็นธามเดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างซึ่งนั่นเป็นอาการเวลาที่เขาไม่ต้องการใกล้ชิดกับอีกฝ่ายมากเกินไป ขณะที่กนกลดานั้นพยายามเดินเอาแขนของตนไปชนแขนของชายหนุ่มอยู่บ่อยครั้งพลอยพัดชาเร่งฝีเท้าก้าวให้ทันคนทั้งคู่ จากนั้นก็จงใจแทรกตรงกลางระหว่างคนทั้งสองโดยจงใจใช้ลำตั
“พลอย” เขาเรียกเธอเสียงพร่า หญิงสาวจึงแกล้งละเลงลิ้นลงบนกล้วยอีกครั้งพลางตอบรับเบา ๆ“ขา พี่อยากทำงานก็ทำไปสิคะ พลอยก็แค่...หิว”พูดจบเธอก็ส่งกล้วยเข้าปากไปอีกครั้ง และเช่นเคยที่เธอไม่ยอมกัดกินมัน แต่กลับเอาออกมาแล้วส่งเข้าไปใหม่อีกสองสามครั้ง จนในที่สุดธามก็พับหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงเพื่อปิดเครื่อง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง“อุ๊ย!” สายตาของพลอยพัดชาหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงเขาทันที เพราะตอนนี้มันเป็นรูปเป็นร่างจนเห็นเด่นชัด“ตื่นแล้วอะ ทำยังไงดีน้า” หญิงสาวใช้นิ้วชี้ลากเบา ๆ ไปตามรอยที่นูนขึ้นมาอย่างยั่วเย้า“ยั่วเก่งดีนักนะ แล้วอย่ามาบ่นละกันว่าปวดขาปวดเอว”เขาพูดจบก็คว้าสูทมาพาดไว้ที่แขนเพื่อเป็นการบังเป้ากางเกงไปด้วย มืออีกข้างก็โอบเอวภรรยาจอมยั่วพลางกระซิบว่า“กล้วยนี้มันไม่อร่อยหรอก ขึ้นไปกินกล้วยกับพี่บนห้องดีกว่า อร่อยกว่าเยอะแถมกินได้ไม่อั้น”พลอยพัดชายิ้มกริ่มพลางทิ้งกล้วยหอมนั้นลงถังขยะทันที จากนั้นก็เดินตามสามีออกจากห้องทำงานแล้วขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบนสุ
สองปีต่อมาพลอยพัดชามองเงาตัวเองในกระจกแล้วอดยิ้มไม่ได้ ตอนนี้พุงของเธอป่องมากราวกับลูกโป่งใบใหญ่ เธอตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว อีกไม่นานก็จะได้เจอหน้าสาวน้อยที่อยู่ในพุง หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นเสียจนแทบนับวันถอยหลังรอแต่คนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อ เพราะตั้งแต่รู้ว่าเด็กในครรภ์เป็นลูกสาว ธามก็ลงทุนจัดห้องไว้รอรับด้วยตัวเอง ตั้งแต่ทาสีผนังเป็นสีชมพูอ่อน ซื้อเตียงและเปลเจ้าหญิงเอาไว้รอ รวมถึงเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ล้วนเป็นสีชมพูและไม่ใช่แค่ธามเท่านั้นที่เตรียมห้องไว้รอบุตรสาวคนแรก จินตวาตีก็เช่นกันที่จัดเตรียมห้องไว้รอต้อนรับหลานสาวคนแรกที่จะได้เรียกตนว่าคุณยายหญิงสาวหยิบโลชั่นสำหรับกันรอยแตกลายมาทาเบา ๆ ที่หน้าท้อง เพราะแม้จะใกล้ได้เป็นคุณแม่แล้ว แต่ร่างกายส่วนอื่นของพลอยพัดชาก็ยังคงสภาพเดิม มีเพียงหน้าอกเท่านั้นที่ขยายใหญ่ขึ้นมาอีกเล็กน้อยเพื่อเป็นแหล่งอาหารของเจ้าตัวเล็กในครรภ์ทว่าตอนนี้คนที่ดูจะคลั่งไคล้กับหน้าอกที่ขยายใหญ่ขึ้นของเธอเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นสามีของเธออ้อมกอดอบอุ่นจากด้านหล
พลอยพัดชากับนลินทรายืนมองผืนน้ำสีเขียวมรกตด้วยแววตาระยิบระยับ นานมากแล้วที่ไม่ได้มาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ เพราะฉะนั้นมาทะเลครั้งนี้พวกเธอจะต้องเก็บเกี่ยวความสุขเอาไว้เติมพลังชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้“พี่ธามไปไหนน่ะ” นลินทราถามถึงแฟนหนุ่มของเพื่อน“ไม่รู้สิ เห็นมีโทรศัพท์มาเมื่อกี้แล้วก็เดินไปคุยที่อื่นน่ะ” พลอยพัดชาตอบก่อนจะหันไปโบกมือให้จินตวาตีที่กำลังนั่งทาครีมกันแดดอยู่ในที่ร่ม“น้าจินนี่เอาชุดว่ายน้ำกับพร็อพมาเพียบเลยแก ทั้งหมวกเอย ผ้าคลุมเอย คือนางไม่ได้จะมาเล่นน้ำหรอก แต่จะมาเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ เห็นบอกว่าจะเก็บไว้ดูตอนแก่” พลอยพัดชาได้ที จึงแอบเม้าท์ผู้เป็นน้า“ว่าแต่น้าจินนี่ ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะยะ มาเที่ยวแค่สี่วันแต่กระเป๋าเดินทางตั้งสองใบ อีบ้า ทำอย่างกับจะมาอยู่เป็นเดือน” นลินทราค้อนให้เพื่อน พลอยพัดชาจึงได้แต่หัวเราะคิกคักทั้งสองสาวเห็นว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกมาที่ชายหาดกันบ้างแล้วจึงหันไปมองหน้ากัน“ฉันว่าเราไป
“เจ้าค่า...คราวนี้ก็ออกกันยกแผงเลยสิคะ”“ใช่ ตอนนี้ให้ฝ่ายบุคคลของส่วนกลางประกาศรับพนักงานใหม่แล้ว ส่วนคนที่จะไปแทนตำแหน่งของพิษณุกับโชคชัยนั้น พี่ว่าจะลองคุยกับคุณพ่อดูว่าจะคัดเลือกคนเก่ง ๆ ของที่นี่ไปประจำอยู่สาขานั้นดีไหม ถือเป็นการเลื่อนตำแหน่งไปในตัว แล้วพลอยล่ะเป็นไงมั่ง”“ตอนนี้ที่ร้านได้พนักงานใหม่มาเพิ่มแล้วค่ะ หน่วยก้านดีใช้ได้ ไลฟ์สดเก่งด้วยเพราะเขาเคยไลฟ์ขายเสื้อผ้ามาก่อนก็เลยคล่องมากตอนอยู่หน้าจอ ส่วนน้าจินนี่อาการดีขึ้นมากแล้ว เริ่มให้พวกพี่เลี้ยงที่ดูแลศิลปินเข้าไปคุยเรื่องงานโดยตรงในห้องพักได้แล้วค่ะ เพราะจะได้ช่วยฟื้นความจำด้วย”“พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงไอ้ก้าว ตอนนี้ฝากขังไว้ที่เรือนจำแล้วละ รอศาลตัดสินโทษ แต่คิดว่าคงติดคุกไม่นานหรอก ไม่กี่ปี แต่เรื่องของเพื่อนพลอยนี่สิ กว่าคดีจะเสร็จสิ้นคงอีกนานเลย น่าจะเป็นปี”พลอยพัดชาได้ยินอย่างนั้นก็รู้ทันทีว่าเขาหมายถึงกนกลดา“ว้าย อย่ามาพูดอย่างนี้นะ นางไม่ใช่เพื่อนพลอยสักหน่อย แค่คนรู้จักยังไม่อยากจะเป็นเลย เท่ากับว่าตอนนี้นางกับพ่อก็ยัง
พลอยพัดชาตื่นขึ้นมาช่วงสายเพียงลำพังบนเตียงนอนหลังใหญ่ ไม่รู้ธามไปไหน แต่เดาว่าเขาคงลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสของโรงแรมตามเคยหญิงสาวพาร่างที่เมื่อยขบของตนไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ครึ่งชั่วโมงถัดมาเธอก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยความสดชื่น แต่แล้วสายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่กล่องกำมะหยี่สีแดงกล่องใหญ่บนเตียง ดูแล้วเหมือนกล่องใส่เครื่องประดับที่สามารถใส่ได้หลายชิ้นทั้งแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล และต่างหู“หรือว่าจะเป็นกล่องใส่นาฬิกาของพี่ธาม” เธอรู้ว่าธามเป็นคนที่ชอบสะสมนาฬิกา ก็เลยคิดว่าเขาคงหยิบมาเลือกใส่จึงไม่ได้สนใจมันอีก จากนั้นก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดของตนออกมาสวม“จะไม่เปิดดูหน่อยหรือ” เสียงทุ้มดังขึ้นจากหน้าประตูห้องนอน หญิงสาวจึงหันไปมองตามเสียง ธามยืนเปลือยท่อนบน ใส่เพียงกางเกงลำลองอยู่บ้านสบาย ๆ กำลังยืนกอดอกและส่งยิ้มมาให้“กล่องนาฬิกาของพี่ธามรึเปล่าล่ะคะ”“ไม่ใช่ กล่องนั้นของพลอยทั้งกล่องเลย”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ถามจริง”เธอแขวนชุดไว
“เม็ดสีเหลืองคือพลอยปลอม วิธีสังเกตอย่างง่ายเลยก็คือให้ดูประกายของมันเวลาส่องกับแสง ถ้ามีประกายรุ้งคือปลอมชัวร์ เป็นพลอยที่สังเคราะห์ขึ้นมา และอีกวิธีที่สังเกตด้วยตาเปล่าได้ก็คือให้ดูที่เส้นของพลอย พลอยบางเม็ดมันจะมีเส้นตรงเรียง ๆ กันเป็นแถบให้เห็นกันเลย แต่บางเม็ดเราก็อาจจะต้องใช้ลูปหรือกล้องส่องพระขยายดูข้างในว่ามันมีเส้น ๆ พวกนี้ไหม จำไว้ว่าต้องเป็นเส้นตรงเท่านั้น ถ้ามีเส้นโค้งให้เห็นนั่นคือปลอม และถ้าใช้ลูปส่องดูแล้วมีฟองอากาศหรือรูปร่างกลม ๆ เหมือนโดนัทกระจายอยู่ นั่นก็ปลอมเหมือนกัน” พลอยพัดชาลองให้วนิตาใช้ลูปส่องพลอยดูด้วยตัวเอง“เส้นหรือแถบสีในเนื้อพลอยมันก็เหมือนลายนิ้วมือของคนเรานั่นแหละ แต่ละเม็ดก็จะแตกต่างกันไป ไม่มีเม็ดไหนที่เหมือนกันหรอก”พลอยพัดชาอธิบายพลางเดินไปหยิบถ้วยสีขาวในตู้มารองน้ำแล้วกลับมานั่งที่เดิม“และอีกวิธีที่ง่ายในการดูด้วยตาเปล่าก็คือการจุ่มน้ำ” เธอหยิบพลอยเม็ดสีเขียวมาจุ่มลงไปในน้ำแล้วถามว่า“นิตาเห็นอะไรไหม”“เห็นค่ะ มันเป็นแถบสีเป็นเส้น ๆ” วนิตาตอบ&
“ถ้าไม่มีผมก็ขอปิดประชุมครับ อ้อจริงสิ ผมลืมไป ผู้ช่วยคุณพิษณุกับคุณโชคชัยอย่าลืมไประงับการก่อสร้างเอาไว้นะครับ ส่วนคนงานพวกนั้นก็ให้กลับบ้านไปได้เลยเพราะเป็นคนของเคบี บิลท์ และเพิ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยอีกสี่คนเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน”ธามพูดจบก็หันไปพยักหน้ากับบิดา จากนั้นก็พากันลุกเดินออกไปจากห้องประชุมทันที ซึ่งหลังจากคล้อยหลังคนทั้งสามแล้ว ในห้องประชุมก็มีแต่เสียงโอดครวญเพราะรู้อนาคตของตัวเองแล้วว่าจะเป็นอย่างไรกฤษณ์กลับถึงบ้านด้วยสีหน้าเครียดขึ้ง กนกลดาจึงรีบเดินมาหาบิดาทันที“เป็นไงบ้างคะคุณพ่อ”“มันมีหลักฐานครบทุกอย่างเลย งานนี้เราจบแน่”“แล้วเราจะทำยังไงดีคะ เราต้องติดคุกหรือคะคุณพ่อ” กนกลดาถามเสียงสั่น กฤษณ์ยืนใช้ความคิดครู่หนึ่งก็บอกบุตรสาวว่า“เราต้องหนีไปต่างประเทศแล้วละ แต่ก่อนอื่นเราต้องหาทางถ่ายโอนทรัพย์สินและเงินทั้งหมดไปไว้กับป้าของแกก่อน ไม่อย่างนั้นเราถูกยึดทรัพย์หมดตัวแน่”“แล้วพวกพนักงานที่บริษัทล่ะคะ”
“ว่าไงครับ ทำไมเงียบกันล่ะ” ธามยิ้มมุมปาก เพราะเข้าใจดีว่าพิษณุกับโชคชัยคงกำลังสงสัยและกังวลไม่น้อยว่าเขารู้อะไรมาบ้าง แต่ด้วยความที่วางตัวเป็นคนใหญ่คนโตมานานเกินไป จึงได้แต่เชิดหน้าอย่างหยิ่งผยอง“เธอมาไล่บี้กับพวกอาอย่างนี้ไม่ถูกนะ รู้ไหมว่าสมัยที่พ่อเธอ...” โชคชัยทำท่าขึงขัง แต่ธามไม่เปิดโอกาสให้พูดจบ“พ่อผมก็ส่วนพ่อผมครับไม่เกี่ยวกัน นั่นมันสมัยเมื่อกี่สิบปีมาแล้วล่ะ คนเรามันต้องเดินหน้าครับ ธุรกิจก็เช่นกัน ยิ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการโรงแรมหรือการท่องเที่ยวยิ่งย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ ทุกอย่างต้องเห็นแก่ประโยชน์ขององค์กรเป็นหลักครับไม่ใช่ตัวบุคคล ไอ้ระบบพวกมากลากไปหรือระบบผู้อาวุโสต้องถืออภิสิทธิ์เหนือคนอื่น คิดอยากจะมาทำงานวันไหนก็มาแต่เงินเดือนรับเต็มเดือน แล้วก็พวกใช้เส้นสายยัดญาติพี่น้องตัวเองเข้ามาทำงานแล้วแต่งตั้งตำแหน่งกันเอง ผมบอกตรงนี้เลยว่าผมไม่เอา”ชายหนุ่มลากเก้าอี้ออกแล้วหย่อนตัวลงนั่งพลางกวาดตามองหน้าผู้เข้าร่วมประชุมไปทีละคนอย่างช้า ๆ เพราะคนเหล่านี้ล้วนแต่ถืออภิสิทธิ์ชนทั้งสิ้น บางคนมาทำง
“คุณพ่อว่าไงนะ พี่ธามพาทีมวิศวกรมาตรวจเองโดยไม่บอกใครหรือคะ” กนกลดาถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าเมื่อครู่ตนไม่ได้หูฝาด“ก็ใช่น่ะสิ แสดงว่ามันคอยสบโอกาสเล่นงานเราอยู่แน่ ๆ”กฤษณ์หงุดหงิดจนไม่สามารถนั่งอยู่เฉย ๆ ได้ ต้องลุกเดินไปเดินมาเพื่อคลายความร้อนรุ่มในใจ“แต่ดาว่าก็แค่ตัวเลขบางจุดไม่ตรงกันกับคราวก่อน เขาไม่น่าจะเล่นงานเราได้นะคะ”“เฮอะ! นี่แกคิดว่าคนอย่างไอ้ธามมันจะจ้างทีมวิศวกรลงมาตรวจงานเล่น ๆ หรือ มันทำแบบนี้ก็หมายความว่ามันมีหลักฐานที่สามารถเอาผิดพวกเราได้อยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว”กนกลดานิ่งไปทันทีที่ได้ยินบิดาพูดจบ “แล้วนี่เราจะทำยังไงกันดีคะ หรือถ้าเราไม่ยอมรับเสียอย่าง เขาจะทำอะไรเราได้ คุณพ่อคิดว่าหลักฐานที่เขามีจะทำให้เราล้มได้เลยหรือ”กฤษณ์หันมามองหน้าบุตรสาวครู่หนึ่งแล้วพูดว่า“ถ้าพวกเราไม่ล้มแล้วมันจะทำอย่างนี้ไปทำไม”เขาพยักหน้าช้า ๆ เมื่อนึกถึงสีหน้าเย็นชากับสายตาที่เป็นอริของธามยามมองมาที่ตน“ไอ้ธามมันอดทนอดกลั้นได้ด